หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


วราดิเมียร์ ปูติน:กลยุทธ์พลิกฟื้น รัสเซียจากกลียุค

โดยคุณ : thunderbolt เมื่อวันที่ : 03/09/2013 23:15:20

เห็นช่วงนี้ทางตะวันออกกลางกำลังฮึ่มๆๆ กันใหญ่ ทั้งรัสเซีย  อเมริกา  ซีเรีย เลยเอาเรื่องราวของประธานาธิบดี รัสเซียมาให้อ่านกันเล่นๆๆครับ   (No การเมืองนะครับ)  ^^

วราดิเมียร์ ปูติน:กลยุทธ์พลิกฟื้น รัสเซียจากกลียุค

 

 

(รูป ปูตินถูกยกย่องจาก TIME ว่าเ็ป็น ซาร์แห่งรัสเซีย)

 เหตุผลที่ผมต้องหยิบเรื่องนี้มาพูดเพราะ ประเทศไทยของเราเข้าสู่กลียุค แต่ลองหันหลังกลับไปดูรัสเซีย ปธน.วราดิเมียร์ ปูติน คือ ผู้นำซึ่งนำประเทศรัสเซีย ผ่านกลียุคที่ยิ่งกว่าไทย  และ ปูตินทำอย่างไรในการนำประเทศผ่ายุคทมิฬเช่นนี้....

 

(รูป สารคดี putin system ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลหลักในการเขียนครั้งนี้)

 บทความนี้ถอดจาก สารคดี และบทความต่างประเทศ..อาจผิดพลาดบ้างเพราะอังกฤษสำเนียงรัสเซียค่อนข้างยาก ชื่อหลายอย่างขอทัพศัพท์เป็นภาษาอังกฤษในกรณีที่เป็นชื่อไม่คุ้นของคนไทย ยุคสมัยที่เป็นกลียุคของรัสเซีย หลังโซเวียตล่มสลายคือ กลุ่มคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตยขัดแย้งจนถึงขั้นมีรัฐประหารฆ่าฟันกัน เศรษฐกิจฝืดเคือง หนี้สินของประเทศที่ต้องแบกจนหลังแอ่น รัฐบาลไม่มีเงินเดือนจ่ายข้าราชการนานกว่า 6 เดือน ภาวะกบฏมุสลิมแบ่งแยกดินแดนในสงครามเชชเนียที่ไม่จบสิ้น และการแทรกแซงอย่างต่อเนื่องของชาติตะวันตกทั้งทางตรงและทางอ้อม

 

(รูป บรรยากาศการรบในเชชเนีย ทั้งเมืองกลายเป็นเศษอิฐ)

แต่ ปูติน ก็แก้ปัญหาทุกอย่างได้เกือบลุล่วงตาม สไตล์ของ KGB เก่า.."ศัตรูของรัฐมี 2 พวก คือ1.ศัตรูภายใน 2.ศัตรูภายนอก ไม่ว่าพวกไหนคงอยู่ประเทศชาติก็หายนะได้ทั้งนั้น" ต่างประเทศโจมตีว่า "ระบอบปูติน" (ข้อกล่าวหานี้คุ้นๆไหม)คือ เผด็จการ ที่ครอบงำสื่อ และฆาตกรโหดกรณีสงครามเชชเนีย


แต่ ไม่ว่ายังไง ปูติน มีความฝัน..ที่อยากเห็นประเทศที่เขารักกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!! เขาคิดตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นใหญ่ว่า เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องปกป้องแผ่นดินรัสเซียไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ ตาม!!
 เขาเข้ามาบริหารประเทศที่ล้มละลาย และวุ่นวายที่สุดในโลก วันนี้เขาทำสำเร็จ รัสเซียกลับมาเป็นมหาอำนาจได้อีกครั้ง!!


  
ปูติน เกิด 1952 โตมาจาก อพาร์ทเมนต์ ของระบอบคอมมิวนิสต์เดิมที่ เลนินกราด ปู่เขาเป็นคนครัวของ stalin พ่อเป็นทหารประจำเรือดำน้ำ ครอบครัว ของเขารอดตายจากการปิดล้อม เลนินกราดของพวก เยอรมัน
 ฮีโร่ของเขาตอนเด็กคือ ยูริ กาการิน(เป็นเด็กโซเวียตทั่วๆไปตอนนั้น)

(รูป ปูตินในวัยเด็ก)

จน กระทั่ง อายุ 16 ปีเขาดูหนังเกี่ยวกับสายลับสงครามโลกครั้งที่ 2 แถวบ้าน เขาประทับใจมากจนไปคุยกับสำนักงาน KGB ประจำ เลนินกราด ว่า "ผมอยากเป็นสายลับ" เจ้าหน้าที่KGBก็ได้แต่หัวเราะแล้วก็บอก "ไอ้หนู.. เราไม่ได้เป็นฝ่ายถูกเลือก แต่จะเป็นใครและเมื่อไร!เราจะเป็นคนเลือก!!"
แล้วปูตินก็เรียนต่อ นิติศาสตร์และ ภาษา ที่มหาวิทยาลัยเลนินกราด จบด้วยคะแนนที่ยอดเยี่ยม.... KGB เข้ามาติดต่อ เขา..

(รูป ปูติน ขณะเรียนมหาลัยเพื่อนๆตั้งฉายาให้เขาว่า "กล่องดำ")
อาจารย์ ที่มหาลัยบอกว่า ปูตินเป็นคนที่แปลก พูดน้อย ทั้งโต๊ะและที่ ที่เก็บของทุกชิ้นของเขาจะถูก ล๊อค อย่างแน่นหนา เสมอ เขาแทบไม่เปิดเผยอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย..
ปูตินเข้าเป็นสมาชิกของ Communist Party of the Soviet Union และเข้าฝึก การเป็นสายลับต่ออีกหลายระดับ ตั้งแต่ 1976 ถึง 1985 ปูตินเคยทำงานแผนก ต่อต้านการจารกรรมที่ เลนินกราด ก่อนเริ่มทำงานเป็น KGB เต็มตัวที่เยอรมันตะวันออก

 

(รูป ปูตินในชุด KGB ซึ่งมีไม่กี่รูป)

ในฐานะตัวประสานข้อมูล (ทำให้รู้จักคนมากมายซึ่งต่อมาจะเป็นประโยชน์กับเขา) ปูตินรู้ดีถึงวันที่ กำแพงเบอร์ลินจะล่มสลาย เขาเป็นส่งข่าวขอกำลังทหารสนับสนุน แต่มอสโควเงียบเฉย..จนกระทั่งกำแพงเบอร์ลินล่มสลาย..เขารู้สึกว่าประเทศของ เขาถูกทรยศ!!

 

(รูป ปูตินตอนกลับมาทำงานช่วย Anatoly Sobchak ปูตินเผยทีหลังว่าเขาเกือบได้ออกไปขับแทกซี่)

ปูตินกลับมาเป็น อาจารย์ที่ มหาวิทยาลัยเลนินกราด ซึ่งเป็นที่ๆเขาจบมา อย่างไม่มีทางเลือก เขารู้สึกอนาคตรัสเซียช่างมืดมน... ต่อมาปูตินได้สนิทกับ Anatoly Sobchak ซึ่งต่อมาได้เป็น นายกเทศมนตรี ของ เลนินกราด เพราะ ปูติน ใช้ความรู้เกี่ยวกับสายลับ ทั้งหมดช่วยในการหาเสียง..
ระว่างนี้ ปูติน ก็ยังทำตัวเฉียบคมเหมือนสมัยเป็น KGB เขา ตื่นตัว สอดส่อง เก็บข้อมูล ไม่เปิดเผยตำแหน่ง และจุดมุ่งหมาย รวมทั้ง เก็บงำความทะเยอทะยาน ..Anatoly Sobchak ได้เป็น นายกเทศมนตรี เลนินกราด สมใจ..

(รูป การรัฐประหารโดยพวกคอมมิวนิสต์ปี 1991 ประชาชนออกมาต่อต้านสุดฤทธิ์)

 1991 สหภาพโซเวียตใกล้ถึงจุดจบ เกิดการรัฐประหารโค่นรัฐบาล มิคาอิล กอร์บาชอพ โดยคอมมิวนิสต์สายเก่า  Anatoly Sobchak ประกาศเข้าข้างฝ่าย กอร์บาชอพ และตอนนี้ ปูติน ลาออกจาก KGB อย่างเป็นทางการ
โชคเข้าข้าง.. ประชาชน ไม่สนับสนุนรัฐประหาร เยลซิน นำประเทศรัสเซียลาออกจากการเป็นสหภาพโซเวียต.. สหภาพโซเวียตล่มสลาย...

(รูป เยลซินได้รับการสนับสนุนประชาชนอย่างท่วมท้น)

เริ่ม ต้นยุคใหม่ที่ขมขื่น รัสเซียดูขาดแคลนทุกอย่างที่ควรจะมี ตอนนี้ปูติน ใช้เครือข่ายสายลับที่อยู่ในภาคธุรกิจของยุโรปตะวันออก ในการนำเข้าสิ่งเหล่านี้ ให้กับเมือง เซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก ..   
ว่ากัน ว่า ปูติน ได้เงินจากตลาดมืดนี้เป็นปริมาณมหาศาล จนเขาโดนสอบสวน(ใน wikipedia บอกว่าเขาอมค่า คอมมิสชั่น)แต่บรรดา KGB ที่หันมาเป็นมาเฟีย ก็โตวันโตคืน จากผลประโยชน์ตลาดมืด เช่นกัน

(รูป ปูตินขณะบริหารเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก)

  แต่ระบบราชการที่เน่าเฟะ ของรัสเซียตอนนั้น ไม่ได้มีแค่ ปูติน ที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย มาเฟีย ปูตินถูกสอบ และ ถูกไล่ออกจาก Committee for External Relations ของ เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก (ไม่ไล่ทันทีแต่รอให้หมดรอบในปี 1996)

(รูป จุดจบนักธุรกิจที่ขัดแย้งกับมาเฟียรัสเซีย)
ปูตินได้ ตำแหน่งต่อมาเป็นประธานกรรมการบริหารเมืองเซนปีเตอร์เบิร์ก(เรียก เทคนิคทางการเมืองนี้ว่า จับใส่ตระกร้าแล้วล้างใหม่) ตอนนี้ ปูติน เริ่มตะหนักกับ ภัยมาเฟีย โดยให้โอวาทกับตำรวจ วันแรกที่รับตำแหน่งว่า "ถ้ามันฆ่าเจ้าหน้าที่เรา 1 คน พวกมันต้องตาย 10 คน!..ถ้าเราถูกโจมตี เราต้องโต้ตอบ รวดเร็ว และหยาบช้า.."

(รูป Anatoly Chubai ผู้แปรรูปรัสเซียเป็นเค้กราคาถูก อันนี้เขาเรียกว่าขายชาติของแท้..)
Anatoly Chubai ร่างแผนเศรษฐกิจ รัสเซีย โดย ให้เอกชนเข้าจัดการทุกอย่างเองให้มากที่สุด(ขายมันหมดทุกอย่าง) เพราะเขาเชื่อว่า ของทุกอย่างควรมีคนเป็นเจ้าของ ตรงข้ามกับ คอมมิวนิสต์ ที่รัฐบาล เป็นเจ้าของทุกอย่าง

(รูป รวมหัวโจกของ "the family")

แล้วประเทศรัสเซียก็เข้าสู่ความฉิบหาย  ประเทศรัสเซียทั้งหมด ตกอยู่ใน กลุ่มมหาเศรษฐี ไม่กี่คน คือ
V.Gusinsky + B.Berezovsky คุมโทรทัศน์ N-TV ที่เป็น TV รัฐบาลและ มีสถานีโทรทัศน์ส่วนตัวอีกหลายช่อง
R.Abramovich คุมน้ำมันผ่าน บ.Yukos และทรัพยากรต่างๆ
 กลุ่มต่างๆของ 3 คนนี้นั้นแหละ ..ถูกเรียกสั้นๆว่า "the family" และรัสเซีย ตกอยู่ใต้อิทธิพล ของคนพวกนี้

(รูป การรัฐประหารในปี 1993 เยลซิลสั่งรถถังยิงถล่มทำเนียบ)
1993 ฝูงชนพากันลุกฮือ เนื่องจาก การปฏิรูปที่ว่า มีคนรวยไม่กี่คนที่ได้ผลประโยชน์ ขณะที่คนรัสเซียจริงๆไม่ได้อะไรเลย และพวกคอมมิวนิสต์เก่าฉวยโอกาสเกาะกระแสก่อรัฐประหารเข้ายึดรัฐสภา ขณะที่ รัฐสภาถูกยึด เยลล์ซิน ส่งรถถังออกมาถล่ม คนตายไป 163 คน แต่ความวุ่นวายในรัสเซียดูจะไม่จบลงง่ายๆ

(รูป ความหายนะของกองทัพรัสเซีย ในสงครามเชชเนียครั้งที่ 1)
1994 คราวนี้ เยลซินส่งกองทัพไปบุก เชชเนีย เพื่อ ปราบกบฏและคุ้มครอง ท่อส่งน้ำมันสำคัญที่ผ่าน กร๊อซนีย์ซึ่งเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือ ทำให้ประชาชนเลิกสนใจความวุ่นวายของการเมืองในประเทศไปได้พักนึง กลายเป็นว่ากองทัพรัสเซียต้องพบกับความหายนะ เนื่องจากขาดแคลนกำลังพลที่มีคุณภาพเพราะทหารอาชีพไม่ได้รับเงินเดือนจนลาออกเกือบหมด การคอรัปชั่นอย่างรุนแรงในกองทัพ และที่สำคัญสุดคือรัสเซียถังแตก ไม่มีเงินพอที่จะสนับสนุนกองทัพอีกต่อไป

(รูป ตัวแทนรัสเซียเซ็นสัญญายอมรับเอกราช เชชเนีย กับพวกเชเชน)

 1996 รัสเซียถอนทัพกลับ และเซ็นสัญญา รับรองความเป็น เอกราช ของเชชเนีย นั้นคือ รัสเซียยอมรับความพ่ายแพ้.. สำหรับปูติน ไม่ว่ายังไง เชชเนียคือส่วนหนึ่งของรัสเซีย ถ้าพวกเชเชนไม่ยอมรับ มันก็ควรต้องถูกบังคับให้ยอมรับ!!

 

1996 Anatoly Sobchak แพ้การเลือกตั้ง นายก เทศมนตรีของ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพราะขาดเงินสนับสนุน จาก เยลซิน หลังเลือกตั้งเสร็จ ปูติน ถูกเรียกไปมอสโคว เพื่อรับตำแหน่ง ในกระทรวงอสังหาริมทรัพย์ ปูตินไป อย่างไม่รอช้าเพราะ เขารู้ดีว่า อนาคตของรัสเซีย อยู่ มอสโคว!!

(รูป ปูติน และเยลซิน)
 1996 มีการเลือกตั้ง ปธน. รัสเซีย พวก the family หนุนหลัง เยลซินเต็มที่ TV แทบทุกช่องเต็มไปด้วย โฆษณา หาเสียงของเยลซิน.... เยลซิน ชนะพวกคอมมิวนิสต์ ได้จากปัจจัยนี้
หลังได้รับเลือกตั้ง ไม่นาน เยลซินก็ป่วย เข้าๆออกๆ รพ. ตลอด ตอนนี้ เยลซิน เริ่มคิดที่จะหาคนที่จะมาบริหารงานแทนตัวเอง ใครสักคนที่สานผลประโยชน์ทุกฝ่าย ภักดี และ ที่สำคัญ...สามารถควบคุมได้

(รูป ปูตินสมัยอยู่แผนกต่อต้านการจารกรรม ...ชาติเสือไม่ทิ้งลาย)
ดูเหมือน หวยจะออกที่ ปูติน คนหนุ่มที่ทุมเทในการทำงานหนัก โดยไม่เคยปริปาก The family เห็นต้องกัน เลยยกตำแหน่ง FSB(อดีตหน่วยสืบราชการลับ KGB) ให้ปูตินรับผิดชอบ..
แม้จะเป็น พลเรือนคนแรกใน ประวัติศาสตร์ ที่ได้รับตำแหน่งนี้ สิ่งที่ the family ไม่รู้คือ ปูตินเอง ไม่เคยละทิ้งจิตวิญญาณของ KGB!! เขายังยึดหลักการทุกอย่างของการเป็น สายลับอย่างแนบแน่น และเฝ้ารออำนาจในเงามืด..

(รูป การเดินขบวนของกลุ่มนิยมคอมมิวนิสต์ ที่มีแทบทุกวันในช่วงนั้น)
1998 เศรษฐกิจล่มสลาย ประชาชนออกมาเดินขบวนในถนน เยลซิน โทษ การคอรัปชั่นทั้งหลายที่กัดกินประเทศให้กับ นายพล Yevgeny Primakovอดีต หัวหน้า KGB และคอมมิวนิสต์สายเก่า การใครๆในรัฐบาลเยลซิล มันก็โกงกันทั้งนั้นมีเหรอที่ Primakov จะยอมนอนคุก (อันนี้คือ เทคนิคการเมืองที่คลาสสิกคือ หาเป้าหมายแห่งความเกลียดชังให้ประชาชนโจมตี ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่ยุค 3 ก๊ก)

(รูป นายพล Primakov)
Primakov จึงไปขอความช่วยเหลือกับ นายพลทหารธรรมนูญ Yury Skuratov เยลซินก็เกรง Skuratov เหมือนกันเลยเรียก ปูติน ไปถามว่า "แกพอจะช่วยจัดการเรื่องได้ไหม?" ปูตินพูดสั้นๆแค่ว่า "ไม่มีปัญหาครับ ผมจัดการให้.."

(รูป Skuratov ขณะกำลังเล่นแซนวิชกับโสเภณี)
17/3/1999 Skuratov ถูกถ่ายวีดีโอ ขณะร่วมประเวณีกับ โสเภณี 2 คน และถูกบีบให้ลาออก!! ปูตินผ่านการทดสอบ.. เยลซิน รู้แล้วว่า ปูติน จะเป็นคนที่ช่วยเขาไว้ถ้าเขาต้องตกต่ำ คำพูดของไอ้หนุ่มคนนี้ พูดจริงทำจริง!!ปูตินได้รับเลือกแล้ว!!


ปีเดียว กันเนื่องด้วยปัญหา สุขภาพรุมเร้า เยลซิน ออกจากตำแหน่ง ชั่วคราวและให้ ปูติน เป็นผู้สำเร็จราชการแทน.. ทั่วแผ่นดินเต็มไปด้วยคำถาม "ปูติน คือใคร!!"

 

3สัปดาห์หลัง ปูตินรับตำแหน่งมีการระเบิด อาพาร์ทเมนต์ใน มอสโควหลายที่ คนตายไป 300 คน จับผู้ต้องสงสัยเป็น พวก เชเชน ได้ 2 คน ทาง N-TB โทรทัศน์ของ B.Berezovsky แพร่ภาพว่า 2 คนที่ถูกจับเป็น อดีต FSB!! ขณะที่ประชาชนกำลังโกรธแค้น ปูตินประกาศสงครามกับเชชเนีย!!

นี่คือการพูด ออก TV ครั้งแรกของปูติน .."ไอ้คนที่ทำแบบนี้ไม่ควรถูกเรียกว่าคน มันเป็นแค่พวกสัตว์ป่าบ้าเลือด เราจะตามล่าพวกมัน ไม่ว่ามันจะอยู่ ตลาด สนามบิน หรือบ้านเน่าๆของมัน!! " ซึ่งลักษณะของเขา ไม่เหมือนนักการเมือง ปูตินเปิดเผยพูดจาตรงไปตรงมา เขาเหมือนคนธรรมดาอย่างพวกเรา

 

ปีใหม่ 2000 เยลซิล ลาออกจากตำแหน่ง ปธน. แล้วให้ ปูติน รับช่วงต่ออย่างเป็นทางการ (มีข่าวลือว่า ปูตินมีอำนาจพอจะจับ เยลซินยัดคุกได้จาก ข้อหาอาชญากรรมต่อแผ่นดินแม่ 2 ข้อ 1.ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลาย 2.แพ้สงครามเชชเนีย เยลซินเลยต้องรีบซื้อใจปูตินไว้ก่อนโดยให้ตำแหน่ง ปธน.กับ ปูติน แลกกับการที่ ปูติน ต้องไม่ยุ่งกับครอบครัวของ เยลซิน)

 

(รูป ทหารรัสเซียกินข้าวอย่างสบายอารมณ์หลังยึด กร็อซนี่ เมืองหลวงเชชเนีย ได้อย่างเด็ดขาด)

ปี 2000 หลังการถล่มด้วย ปืนใหญ่อย่างหนัก กร็อซนีย์ เมืองหลวงเชชเนีย ราบเป็นหน้ากลอง รัสเซียยึด กร๊อซนีย์ได้!! ปูตินได้เป็น วีรบุรุษสงคราม!! พวกกบฏเชชเนียต้องสงวนกำลังหนีไปหลบซ่อนและทำสงครามกองโจรยืดเยื้อต่อไป

 

 

 ใน 2000 ปูตินอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานก็ต้อง เลือกตั้งใหม่ โดยคู่แข่งเป็นพวกคอมมิวนิสต์เหมือนเดิม แม้ปูตินจะได้คะแนนเสียงจากพวก family หนุนหลังและ การถล่ม เชชเนียจนราบ แต่รัสเซียตอนนั้น ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองเข้าสู่ กลียุค คนรัสเซียต้องการ ความภาคภูมิใจในอดีตกลับมา พวกเขาโหยหาคอมมิวนิสต์  ปูตินชนะเลือกตั้งด้วยคะแนน 52% เขาได้เวลาพิสูจน์ด้วยเองแล้ว..

 (รูป B.Berezovsky หนึ่งในหัวโจก "the family")

  ตอนแรกพวก family มอง ปูติน เป็นแค่ เด็กในcontrol ต่อมาพวกเขาต้องคิดใหม่...
เมื่อ เริ่มงาน ปูติน เรียก อดีตสายลับ KGB ที่สนิทกันหลายคนเข้ามาร่วมงาน ภารกิจแรกคือ ยึด Gazprom ที่เป็น บ.น้ำมัน คืน!! B.Berezovsky เจ้าพ่อสื่อ ออกมาโวยวายเพราะได้เงินอุดหนุนจาก gazprom เลยโดน ข้อหา ติดสินบนเจ้าหน้าที่และยัดคุก 14 ปี แต่หนีไปต่างประเทศ


 ไม่นานนัก เกิดวิกฤติเรือดำน้ำ kursk จม!! V.Gusinsky เจ้าพ่อสื่อ คนที่เหลือ ออกมาโจมตีปูตินอย่างหนักเรื่อง ไม่ยอมให้ต่างชาติ ช่วยลูกเรือ ทำให้คนรัสเซีย เป็นเดือดเป็นแค้นหนัก แล้ว V.Gusinsky ก็โดนข้อหา ติดสินบนเจ้าหน้าที่แล้วก็เผ่นออกนอกประเทศไปอีกคน..ซึ่งเทคโนโลยีเรือดำน้ำของรัสเซียถือว่าเป็นความลับสุดยอด แถมประเทศที่เสนอหน้ามาช่วย คือ อเมริกา อังกฤษ สวีเดน ปูตินจำเป็นต้องเลือก!! ..รักษาความลับของเรือดำน้ำไว้และปฏิเสธความช่วยเหลือของชาติเหล่านี้ ทำให้ลูกเรือ kursk ต้องเสียชีวิตทั้งหมดจากความล่าช้าของทีมกู้ชีพรัสเซีย...(เหตุการณ์นี้เรียกว่า สื่อเสี้ยม คือขยายมุมมองเล็กๆให้ใหญ่โต เพื่อเบี่ยงเบนให้คนส่วนใหญ่ที่ไม่ทราบเรื่องทั้งหมดเข้าใจผิด )

(รูป Edward pope สายลับ CIA ที่ถูกจับแล้วโชว์สื่อมวลชน)
 ปูติน รู้ดีว่า บ้านเมืองมีศัตรู 2 พวก คือ ศัตรูภายใน และ ศัตรูภายนอก ถ้ากำจัดศัตรูพวกนี้ไม่ได้ บ้านเมืองก็หายนะ!! ปี 2000 Edward Pope สายลับอเมริกันถูก FSB จับตัวขึ้นศาลและถูกใส่กรงโชว์สื่อมวลชน (การไล่ล่าจารชน ของศัตรูเป็นงานหลักหนึ่งของอดีต KGB อยู่แล้ว)...คราวนี้ปูตินประกาศว่า "FSB กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งนึงแล้ว!!" เป็นการส่งสารที่ทิ่มแทงใจ อเมริกันเหลือเกิน..


ปูตินรู้ว่าคนหนุ่มสาว ที่เกิดมาสมัย ยุคเข็ญ ไม่เคยรู้ซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของ รัสเซีย การเดินขบวนแสดงพลังเยาวชนรัสเซียจึงเริ่มขึ้น ปี 2000 มีคนมาร่วม 2 หมื่นกว่าคน ผ่านไป 4 ปีมีคนมาร่วม 2 แสนคน หลักการคือ "ถึงจะเป็นแค่คนธรรมดา ก็มีสิทธิภาคภูมิใจในรัสเซียที่ยิ่งใหญ่ได้" ปูตินเป็น ฮีโร่ ที่ชี้นำเยาวชนให้ รัก และภูมิใจ ในประเทศของตัวเอง!! ความนิยมในตัวปูตินสูงถึงขั้นมี fanclub อยู่ทั่วประเทศ

 

เมื่อ เกิดเหตุ โศกนาฏกรรม world trade center ปธน.จอร์จ บุช บินมารัสเซีย โดยฉากหน้าว่า มาหาพันธมิตร ต่อต้านการก่อการร้าย แต่ลึกๆ แอบเซ็น สัญญา ซื้อขาย น้ำมัน และ ก๊าซ ธรรมชาติ... ปูตินรู้ดีว่า "น้ำมันคือกุญแจของอำนาจทางการเมือง ไม่ใช่ ปริมาณหัวรบนิวเคลียร์!!"


 R.Abramovich ไม่สนใจเรื่องการเมือง เขา ต่อท่อน้ำมันผ่าน ตุรกีร์ ลงทะเลเมริเตอร์เรเนียน การมีท่อน้ำมัน 2 ทางจะทำให้การผูกขาดพลังของรัสเซียต่อยุโรป จบสิ้น!! R.Abramovich จึงถูกลักพาตัวและจำคุก 4 ปี ข้อหาเลี่ยงภาษี.. the family เกือบสูญพันธุ์!! ปูตินจัดการกับ Gazprom ด้วยการวางคนสนิทเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด (ถ้าเป็นในเมืองไทยคงถูกด่ายับ..ถึงจุดนี้ ปูติน กุมอำนาจเบ็ดเสร็จได้ในรัสเซียแล้ว....)

 

2004 ปูติน ชนะเลือกตั้ง ปธน ด้วยคะแนนเสียง 71.2% เมื่อการเมืองรัสเซียนิ่งแล้วเป้าหมายต่อไปของปูตินคือ ทำให้ประเทศในอดีต สหภาพโซเวียตทั้งหมด ยอม ศิโรราบ!! .. ปล. จอร์จ บุช กล่าวถึงปูตินว่า "เมื่อผมจ้องไปในดวงตาของเขา ผมรู้สึกเหมือนโดนอ่านทะลุถึงไปจิตวิญญาณ.."

  

(รูป แผนที่ยูเครนแบ่งตามที่อยู่ คนพูดภาษายูเครน กับพูดภาษารัสเซีย)

2004 ปีเดียวกัน ที่ยูเครนมีการเลือกตั้ง ที่แข่งกันดุเดือดระหว่าง Viktor Yanukovych โปรรัสเซีย และ Viktor Yushchenko.โปรตะวันตก.. ยูเครนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในเดินท่อน้ำมันสู่ ยุโรป การเลือกตั้งนี้แพ้ไม่ได้!! หน่วย FSB และที่ปรึกษาหลายคนถูกส่งไปยูเครนเพื่อ ให้ Viktor Yanukovych โปรรัสเซีย ชนะการเลือกตั้ง!!

(รูป ปูตินและ Viktor Yanukovych)

แต่ การการลงคะแนนเสียงไม่กี่วัน Viktor Yushchenko โปรตะวันตก อ้างว่าถูกวางยาพิษจนหน้าเสียโฉม!! คะแนนความเห็นใจของคนยูเครนเทให้ Viktor Yushchenko จนชนะเลือกตั้ง!! ปูติน โกรธมาก จึงปิดท่อส่งก๊าซ และน้ำมัน ที่ส่งผ่านยุโรปทั้งหมด!! รวมทั้งบอยคอตสินค้ายูเครนทุกชนิด!! ยูเครนทั้งเมืองถึงกับต้องจุดเทียนเพราะไม่มีไฟฟ้าใช้

 

(รูป Viktor Yushchenko ซึ่งหน้าเสียโฉมจนเรียกคะแนนเห็นใจจนแหกโค้งสุดท้ยชนะเลือกตั้งยูเครน)

Viktor Yushchenko ถึงกับต้องบินไปมอสโคว ปูตินพูดถึงทางออกที่ง่ายและสั้น "ผู้นำยูเครนต้องเป็น Viktor Yanukovych(โปรรัสเซีย)เท่านั้น!!" ... Viktor Yushchenko ลาออกจากตำแหน่ง จากบทเรียนนี้ สอนให้รู้ว่า ปูติน จะใช้ทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะดูน่าเกลียดแค่ไหนก็ได้เพื่อให้ ประเทศรัสเซียได้ประโยชน์!! ซึ่งจนถึงขณะนี้ รัสเซียยังใช้ 2 อย่างเพื่อควบคุมยูเครนคือ 1. ท่อส่งน้ำมัน 2. ประชากรที่พูดภาษารัสเซียในยูเครนซึ่งมีประมาณครึ่งหนึ่งของยูเครน

(รูป เกรฮาร์ด ชโรเดอร์ ผู้นำเยอรมันขณะนั้น)

หลังจากนั้น ปูติน บินไปจับมือ กับ ปธน.เยอรมัน เพื่อเซ็นสนธิสัญญา วางท่อก๊าซในปี 2004 มีสื่อมวลชน สัมภาษณ์ปูตินแบบกวนตีนว่า "คุณจะสู้กับกบฏ เชเชน หรือจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พวกเชเชน" ปูตินถึงกับเดือดขึ้นแล้วตอบว่า "ถ้าคุณต้องการคำตอบนั้น คุณก็เชิญไอ้พวกมุสลิมหัวรุนแรงระยำที่ขลิบกระจู๋มาสัมนาที่มอสโควสิ เผื่อคุณจะได้คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าผมยังอยู่ตรงนี้ไอ้พวกระยำนั้นมันไม่ได้ผุดได้เกิดแน่!!" ... ณ.ห้องสัมภาษณ์ ทุกคนตะลึงไปชั่วขณะ...

 

(รูป ผังท่อก๊าซของรัสเซีย ที่ขยายจนทั่วยุโรป)

ปูติน เดินหน้าเซ็น สัญญา วางท่อก๊าซต่อที่ ประเทศ อังกฤษ และ ฝรั่งเศส และตุรกีร์ เพื่อวางท่อผ่านไปยังยุโรปตอนใต้ ตอนนี้ยุโรปเกือบทั้งหมดพึ่งน้ำมันจากรัสเซีย!! และจะไม่มีประเทศในยุโรปไหนกล้าวิจารณ์รัสเซียในเรื่องสงครามเชชเนียอีกต่อไป!! นอกจากนี้ บ.Gazprom ยังขยายธุรกิจไปการการลงทุนอีกหลายส่วน นอกจากน้ำมันไปทั่วโลกอีกด้วย  (บทเรียนนี้สอนว่า ขบวนการบ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐใดๆมักมีฐานจากต่างประเทศเสมอ หากตัดการสนับสนุนจากต่างประเทศได้ เราถึงสามารถเอาชนะได้!!)

(รูป รองปธณ.Dick Cheney ของสหรัฐ)

สหรัฐเห็นรัสเซียกำลัง ครอบงำยุโรปก็ร้อนใจ ส่ง รอง.ปธน.Dick Cheney มาสร้าง โครงการป้องกันขีปนาวุธ ให้ยุโรป และ เริ่มโครงการ star war ขึ้นมาใหม่ ซึ่งรัสเซียถือเป็นการลูบคมอย่างแรง หากเปรียบเทียบ อเมริกา มีงบประมาณทหารมากกว่ารัสเซีย 25 เท่า แต่ รัสเซียมีขีปนาวุธนิวเคลียร์มากกว่าสหรัฐ 8000 ลูก

 

ปูตินจึงแก้เผ็ดด้วย การฉีกสนธิสัญญาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ทิ้ง รวมทั้งขายอาวุธให้ประเทศ อริของอเมริกัน และช่วยพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์กับจีน เกาหลี และอิหร่าน(จริงๆแล้ว รัสเซียก็ไม่อยากให้อิหร่านสร้างอาวุธนิวเคลียร์สำเร็จเท่าไร เพราะพวกมุสลิมไว้ใจได้ยาก แต่บทเรียนนี้สอนว่า ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร!! และการสนับสนุนอิหร่านทำให้รัสเซียได้เสียงสนับสนุนจากโลกอิสลามด้วย)

 

13/9/2005 กบฏเชเชน บุกเข้าโรงเรียนหมายเลข 1 ของ Beslan ถึงรัสเซียจะใช้หน่วยรบพิเศษจัดการ แต่ก็มีตัวประกันตายไปถึง 400 คน

 

(รูป ผู้นำระดับสูงของกบฏเชเชน นั่งหน้าคือซ้ายไปขวาคือ  Shamil Basayev และ Aslan Maskhadov)

ปูตินเริ่มตั้งค่าหัวพวก ผู้นำกบฏ เชเชน Aslan Maskhadov ถูกหน่วยรบพิเศษตามลอบสังหาร ตามด้วย Shamil Basayev ถูกหน่วยสืบราชการลับวางระเบิดลอบสังหาร Amir Katab มุสลิมหัวรุนแรงสัญชาติซาอุดิอาระเบียหนึ่งในแกนนำระดับสูงของกบฏเชชเนีย ถูกยิงถล่มด้วยเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธหนักขณะละหมาดเสร็จ(ไม่อยากเรียกว่าลอบสังหารเท่าไรเพราะโจ๋งครึ้มมาก)

รวมทั้งพวกกบฏเชเชนที่ชอบถ่ายภาพวีดีโอตัดหัวเชลยและทรมานทหารรัสเซียก็ถูกตามล้างตามเช็ดอย่างโหดเหี้ยม (หลักการนี้สอนว่า บางครั้งการที่มือหนึ่งจับดาบเราไม่สามารถเอามือข้างหนึ่งไปถือคัมภีร์ไบเบิ้ลพร้อมๆกันได้ หากจะทำอะไรต้องทำให้สุดโต่ง การไม่เด็ดขาดหรือรีรอ รังแต่จะทำให้เกิดความสับสนและไม่เป็นเอกภาพ)

(รูป Ramzan Kadyrov ในโปสเตอร์ ผู้นำเชชเนียปัจจุบันที่ไม่มีความคิดแบงแยกดินแดน)

2006 รัสเซียเปลี่ยนสงครามเชชเนียให้เปลี่ยนไปในรูปแบบสงครามกลางเมือง โดยสนับสนุน Ramzan Kadyrov.คนเชเชนที่เป็น โปรรัสเซีย ให้ดำรงตำแหน่ง ปธน.เชชเนีย Ramzan จะดำเนินการต่อสู้กบฏเชเชนต่อไป ตอนนี้การปะทะกันก็เริ่มลดลงตามลำดับ ปี 2008 กบฏ หนุ่มสาว เชเชนวางอาวุธไปแล้วกว่า 2000 คนและการต่อสู้ก็ลดลงมาก

 

แม้กระทั่ง เว็บไซค์ที่เป็นกระบอกเสียงหลักของพวก กบฏเชเชน คือ http://www.kavkazcenter.com ก็แทบไม่มีกิจกรรมใดๆเพิ่มเติมนอกจากหาเรื่องด่ารัสเซียไปวันๆ (เพราะ ปูตินตัดกบฏเชเชนจากแรงสนับสนุนภายนอกได้สำเร็จคือ โลกตะวันตก และโลกอิสลาม)

 

(รูป วีดีโอFSB ที่แสดงให้เห็น กลุ่ม NGO ของรัสเซียรับเงินจากอังกฤษ ปี 2006)

 ปูตินออกกฎหมายควบคุมกิจกรรมของ NGO ซึ่งมีกว่า 20,000 องค์กรในรัสเซีย โดยอาศัยกรณี อังกฤษส่งเงินสนับสนุน NGO กลุ่มหนึ่งจำนวนมาก แม้อังกฤษจะออกมาเถียงว่าเงินนั้นส่งให้แบบถูกกฎหมาย แต่หน่วยงานความมั่นคงเห็นพ้องต้องกันว่า “NGO คือ รูปแบบการแทรกแซงอย่างหนึ่งจากต่างชาติ !!” (ประเทศไทยเรามีบทเรียนที่เจ็บปวดจาก NGO มามาก ควรต้องศึกษา ขอแทรกเล็กน้อยว่า NGO=non government organization มีกิจกรรมหลักคือ แทรกแซง จับผิด ทุกกิจกรรมๆของเจ้าหน้าที่รัฐ และรัฐบาล!! จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม NGO ไทยชอบเรียกค่าสินไหมให้โจรใต้ แต่ไม่เรียกร้องให้ตำรวจ ทหาร ที่ตายเพื่อชาติ..”เพราะทหารไทยตายจากกิจกรรมของโจร ไม่ใช่ของรัฐบาลน่ะสิ”)

 

2008 ปูตินประสบความสำเร็จในการ สร้างดุลอำนาจแนวดิ่งได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้การเมืองรัสเซียนิ่ง เศรษฐกิจรัสเซียแข็งแกร่งขึ้นโดยมีน้ำมันหนุนหลัง ปลดหนี้สินให้ประเทศจนหมด ทำให้รัสเซียเป็นไม่กี่ประเทศในโลกที่ หนี้สาธารณะเป็นศูนย์ สร้างที่ยืนให้รัสเซียในเวทีโลก

(รูป Dmitry Medvedev เด็กปั้นของ ปูติน)

ปูตินกลายเป็น ฮีโร่ของประเทศ ขวัญใจของคนหนุ่มสาว แม้เขาจะลงจากตำแหน่งเมื่อครบวาระ 2 สมัยไปแล้ว ปูตินบอกว่าเขาสนับสนุน Dmitry Medvedev คนรัสเซียก็เทคะแนนให้ถึง 70.28% กระนั้นยังมีคนเทียบเชิญ ปูตินให้กลับมา ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แถมจะสร้างดำแหน่ง "บิดาของประเทศ" ให้อีกด้วย จนถึงตอนนี้ Dmitry Medvedev จะทำอะไรต้องถามปูตินก่อน แถมหลายครั้งนักข่าวก็ข้ามไปถามปูตินเองด้วยซ้ำเพราะใครๆก็รู้ว่า “ผู้นำรัสเซียจริงๆเป็นปูติน!!”

 

  

(รูป การซ้อมรบร่วม จอร์เจีย-อเมริกา 6/2008 ก่อนสงคราม 3 เดือน )

หลังโซเวียตล่มสลายอเมริกาพยายามสลายอิทธิพลของรัสเซียโดย ขยายประเทศสมาชิก NATO ไปทางกลุ่มอดีตประเทศ Warsaw pack ลามปามมาถึงประเทศที่เป็นอดีตสหภาพโซเวียตด้วย แม้รัสเซียจะไม่พอใจในเรื่องนี้มาตลอดแต่ยังทำอะไรไม่ไ้ด้จน อเมริกาตั้งเป้าจะขยายสมาชิกมายังแถบคอเคซัส ซึ่งรัสเซียยอมไม่ได้!! หลังจากจอร์เจียซ้อมรบกับอเมริกันหลายครั้ง จอร์จ บุช มาหยอดคำหวานเรื่อง NATO ให้หลายหน..

 

(รูป เทียบกำลังของทหารในสงครามรัสเซีย-จอร์เจีย ุ6-23/9/2008 )

ปธน.ซาคาสวิลิเริ่มมั่นใจว่ายังไงลูกพี่ใหม่ก็คุ้มกะลาหัว เขาจึงสั่งทัพบุกแคว้นเซาส์โอเซเทียเพื่อกวาดล้างชนกลุ่มน้อยเชื้อสายรัสเซีย.... ที่ไหนได้ ปูติน สั่งเปิดสงครามใหญ่ ทหารราบ 90,000 นาย รถถัง 800 คัน เครื่องบิน 360 ลำ ตรงดิ่งเข้าสู่สนามรบ!! แม้จะตกตะลึงแต่ ปธน.ซาคาสวิลิ ก็สั่งกองทัพจอร์เจียให้ต่อสู้ตรึงกำลัง แต่อเมริกาก็ไม่มาช่วย กองทัพจอร์เจียต้องถูกถล่มราว มดที่ถูกช้างเหยียบ และเริ่มถอยร่นมาตั้งรับที่เมืองหลวง

(รูป ทหารประเทศอัฟคาเซีย ที่เพิ่งเกิดใหม่กำลังซ้อมรบ โดยอาวุธที่รัสเซียแจกให้)

รัสเซียถอนทัพกลับพร้อมประกาศความสำเร็จสั้นๆว่า "ผู้รุกรานถูกลงโทษแล้ว.." แต่ความจริงคือ จอร์เจียถูกเชือดโชว์ รัฐในอดีตสหภาพโซเวียตทั้งหมดที่คิดจะไปเข้ากับอเมริกา และกลายเป็นว่า ความคิดที่ NATO จะขยายพันธมิตรมาตรงแถบคอเคซัสต้องชะงักไป รัสเซียยังทิ้งทวนด้วยรับรองเอกราชให้ แคว้นอัฟคาเซีย และ เซาส์โอเซเทียให้เป็นประเทศเอกราช แถมติดอาวุธและขยายฐานทัพเพิ่มในประเทศเอกราชใหม่นี้ด้วย

 

(รูป สงคราม อัฟคาเซีย-จอร์เจีย 1992-1993 )

(ขอแทรกเล็กน้อยว่า หลังจอร์เจียแยกตัวออกจากโซเวียตใหม่ๆ คนเชื้อสายจอร์เจียต้องการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยเชื้อสายรัสเซียซึ่งอยู่ใน แคว้น อัฟคาเซียและ เซาส์ออสเซเทีย แต่ไม่สามารถทำได้เต็มที่เนื่องจากรัสเซียเข้าแทรกแซง จึงจำต้องปล่อย 2 แคว้นนี้เป็น แคว้นปกครองตัวเองเบ็ดเสร็จติด ติดแค่ยังไม่ประกาศเอกราชเด็ดขาดเท่านั้นเอง )

 

(รูป มาเฟียรัสเซีย)

 จากที่ผมเขียนอย่าง คร่าวมากๆมานี้ จะเห็นได้ว่ากว่า ปูตินจะก้าวขึ้นครองอำนาจเบ็ดเสร็จได้ยากเย็นขนาดไหน ในช่วงกลียุคของรัสเซียนั้นบทบาทของรัสเซียหายไปจากเวทีโลกกลายเป็นชาติที่อ่อนแอทั้งสังคมเศรษฐกิจ หากคุณเดินบนถนนของ รัสเซียตอนนั้น ซึ่งที่เห็นจะมีแต่ โสเภณี และ แก็งมาเฟีย

 

(รูป "จงกอดเพื่อนของท่านให้แน่นๆ เพื่อจะได้แทงมีดได้ลึกขึ้น")

 อีกทั้งชาติตะวันตกก็พยายามใ้ช้ กลยุทธทั้งใต้ดิน บนดินเพื่อทำลายล้างรัสเซียให้หมดสภาพ หนึ่งในเรื่องที่แสบที่สุดคือ หลอกเยลซิน ว่าถ้าล้มโซเวียตได้จะให้เงินช่วยเหลือ ช่วยได้ไม่กี่ปีก็บอกว่า "ช่วยรัสเซียเหมือนถมหินลงน้ำที่ไม่มีวันเต็ม.." อ้าว เวร!! รวมทั้งฉีกสัญญาควบคุมอาวุธต่างๆที่เคยทำกับรัสเซียหน้าตาเฉย (พวกฝรั่งชอบหลอกให้ชาติต่างๆลงนามในสัญญาต่างๆ แต่สบโอกาสก็พวกมันนี่แหละฉีกสัญญาประจำ!!)  ใครที่ตามๆก้นอเมริกาอยู่...ตื่นได้แล้ว!!!

(รูป Anna Stepanovna Politkovskaya นักข่าวเจ้าปัญหาประจำเชชเนีย)

ส่วน กบฏเชชเนียซึ่งได้รับแรงหนุนจากโลกอิสลาม ปูตินได้โต้ตอบ อย่างรุนแรงและโหดเหี้ยม ในกรณีที่ทหารรัสเซียถูกฆ่าหน้าบ้านใคร เจ้าของบ้านจะไม่รู้ไม่ได้!! ลงเอยด้วยมีการตั้งศาลเตี้ยฆ่าชาวบ้านตายเสียมาก ซึ่งพวกกบฏเชเชนก็ทำแบบเดียวกัน แต่เรื่องกลับมาแดงขึ้นเพราะ นักข่าวชื่อ Anna Stepanovna Politkovskaya หล่อนเป็นนักสิทธิมนุษยชนด้วย(ไอ้พวกนักสิทธิมนุษยชนนี่ มันชอบแก้ต่างให้โจรจริงๆ เหมือนกันทั่วโลก) นักข่าวคนนี้จึงถูก FSB โยนลงจากตึกแล้วบอกว่า ฆ่าตัวตาย.. ข่าวด้านลบจากรัสเซียจึงไม่ค่อยมีใครรายงานอีกเลย..(ควรปกครองด้วยความกลัว มากกว่าความรัก หากประชาชนไม่กลัวรัฐบาล จะถึงคราวที่รัฐบาลต้องกลัวประชาชน...จาก the prince)

ใครทนอ่านมาถึงตรงนี้ท้ายสุดก็อยากบอกว่า รัสเซียมีน้ำมัน ไทยมีแผ่นดินที่ปลูกอะไรก็ขึ้น ทั้ง ฝรั่ง จีน แขก เห็นประเทศเรามีแต่อิจฉา ทำไมเราจะยิ่งใหญ่ไม่ได้...แต่ให้ตายสิ...ตอนนี้ ขาดอะไรอยู? ว่าไหม?

 

Credit :http://orthodox.exteen.com/20100312/entry





ความคิดเห็นที่ 1


ผมไม่เห็นด้วยกับการปกครองด้วยความกลัว 

ยังงั้นเอาฮิตเลอร์เป็นไง ยิ่งใหญ่กว่าเยอะ หรือเอาพอลพตไปเลย เงียบกริบกันทั้งบาง กลัวกันเยี่ยวเหนียว

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 01/09/2013 16:07:36


ความคิดเห็นที่ 2


ปูติน : คือ ไอดอล สำหรับผม ใคร จะคิดยังไงก็ตาม

โดยคุณ gto25302530 เมื่อวันที่ 01/09/2013 17:37:43


ความคิดเห็นที่ 3


เป๊ะ.. u  r hero for me.

โดยคุณ nidoil เมื่อวันที่ 01/09/2013 17:57:03


ความคิดเห็นที่ 4


Don't mess with Putin :DDDD

อย่าแหย่ปูตินน่ะจีะ[คนแหย่นี่ศพไม่สวยซักคน]

โดยคุณ FiTaLipz เมื่อวันที่ 01/09/2013 18:02:53


ความคิดเห็นที่ 5


ผมเห็นต่างกับคุณ toeytei  นะครับ

เท่าที่อ่านดูไม่เห็นว่าเป็นการปกครองคนในประเทศด้วยความกลัวเลยซักนิดนะครับ

เป็นการปกครองให้คนในประเทศ "ความภูมิใจในประเทศด้วยซ้ำ" ครับ

ไอ้ที่กลัวคือ คนทึ่คิดไม่ซื้อกับรัฐเซียสิครับ

 

ชอบใจประโยค "ทหารรัสเซียถูกฆ่าหน้าบ้านใคร เจ้าของบ้านจะไม่รู้ไม่ได้!!" จัง

ในบ้านเราถ้ามีคนกล้าพูดแบบนี้บ้างก็ดีนะครับ ขุดหลุมระเบิด ซุ่มตีหัว ไม่ได้ทำได้ใน 5 นาที 10 นาที แต่เป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน ถ้าเจ้าของบ้านไม่รู้ไม่เห็นจะสามารถกระทำการได้อย่างไร เช่นเดียวกับการปราบกบฎพยักทมินอีแรม....คนเป็นผู้นำต้องเก่งและเด็จขาดจริงๆ ครับ

โดยคุณ leo_attack เมื่อวันที่ 01/09/2013 18:05:23


ความคิดเห็นที่ 6


ผมชอบปูตินนะ สาเหตุที่โหดเพราะไม่มีทางเลือก

เพราะถ้าจะปล่อยให้พวกกลุ่มนายทุนมาควบคุมการเมืองก็พัง

จะไปเชื่อใจพวกตะวันตกเช่นอเมริกาก็ไม่ได้ เพราะชอบแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น

ปล.บางครั้งคนเราต้องมองมุมกว้าง บางครั้งสละตัวเองให้คนเกลียด บางครั้งต้องฝืนใจทำเรื่องที่ผิดเพื่องทรงไว้ซึ่งสิ่งที่ถูก

โดยคุณ kakachi เมื่อวันที่ 01/09/2013 18:06:09


ความคิดเห็นที่ 7


เป็นบทความที่ดีมากครับ ไม่ยาวเวิ่นเว้อ บรรยายสั้นๆใช้ภาษาเข้าใจง่าย สอดแทรกแนวคิดของผู้เขียนไปในตัว

ผมชอบ ปูติน ตรงที่ว่า  "  เขาเป็นนักการเมือง ที่ไม่มีนิสัยนักการเมือง  "

 

วิธีปราบกบฏของปูติน คือ หากเจ้าหน้าที่ตายหน้าบ้านใคร เจ้าบ้านต้องรู้ .. แล้วสามชายแดนใต้เราล่ะ ?

NGO .  กรีนพีช พวกนี้ประชาชนเกินครึ่งประเทศรู้ว่าเป็นหน่วยงานแทรกแซงเจ้าหน้าที่รัฐ  แต่ แปลก

ที่เจ้าที่ของเราไม่รู้

NGO กับ กรีนพีช  คล้ายๆกับ  เย็นเตร็กซ์ กับ โทนาฟ ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกัน คุณสมบัติใช้รักษากลาก ทั้ง 4 ชนิด

 

ผมละอิจฉา ศรีลังกา กับ พม่า จริงๆ ที่สามารถปราบกลุ่มกบฏได้อย่างราบคาบ .. ทษฏีที่ว่า แก้ไขความรุนแรง

ด้วยการเจรจา  พม่า กับ ศรีลังกา เคยใช้มาแล้ว แต่ไม่ได้ผล เลยใช้ทษฏีใหม่ ความรุนแรง ต้องแก้ด้วยความรุนแรงมากกว่า

ซึ่ง ปูติน ก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน  และ มันก็ได้ผลดีเกินคาด ..

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 01/09/2013 18:48:13


ความคิดเห็นที่ 8


โดยส่วนตัวผมชอบปูตินครับ  ส่วนเรื่องความไม่สงบ ถ้าเป็นนอกประเทศแบบปูตินก็ใช้ได้ถ้ามั่นใจว่ากองทัพเราแข็งจริง  ส่วนในประเทศก็ต้องเด็ดขาดแบบมีทั้งใช้น้ำร้อนและน้ำเย็นควบคู่กันไป ซึ่งสมัยก่อนไทยก็ใช้กับภาคใต้ก็สงบในระดับนึง มีช่วงหลังปี 2535 มานี่แหล่ะครับที่รุนแรงมากขึ้นเพราะนโยบายหาเสียงทางการเมืองทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป   ปัจจจุบันคนเค้าไม่กลัวรัฐ แต่กลัวโจรทำร้ายครับจึงเงียบกันหมด (เขียนในฐานะคนใต้ที่อยู่ภายใต้นโยบายภาครัฐตั้งแต่สมัยเด็ดขาดจนมาถึงสมัยปัจจุบันน่ะครับ)

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 01/09/2013 19:28:01


ความคิดเห็นที่ 9


   ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้มากนะครับ     เป็นบทความที่อ่านเข้าในง่าย  สั้นกระชับ   ตรงประเด็นแบบไม่อ้อมค้อม   ชำแหละพฤติกรรมและวิธีคิด  วิธีการทำงานของปูตินได้ตรงดี

   ผมว่า  ไทยเราควรจะได้นายกแบบนี้นะครับ    เด็ดขาดดี    การสยบปัญหาให้ได้ตามเป้าหมายเพื่อให้ประเทศเดินเข้าสู้หนทางแห่งความยิ่งใหญ่   โดยไม่เลือกวิธี   เอ่อ........มาคนละแนวกับท่านประธานเติ้ง    แต่แมวจะสีอะไรขอให้จับหนูได้เป็นพอเหมือนกัน  

  แต่ละประเทศในแต่ละสถานะการณ์    ย่อมต้องมีวิธีการที่แตกต่างกันไป   เพื่อให้ได้แมว(วิธีการหรือรูปแบบ)    ที่สามารถจับหนู(เดินเข้าสู่เป้าหมายการเป็นชาติมหาอำนาจตามต้องการ)ได้เป็นพอ

 

ปล.1    จริงประเทศเราก็มีแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซแบบรัสเซียนะครับ    แต่ต้องให้การเมืองภายในสงบก่อน  และช่วงนี้ทางเขมรเองฮุนเซ็นนั้นก็เริ่มสั่นคลอน    ถ้าเราจบศึกภายในกันเด็ดขาด   ฮุนเซ็นเองก็คงต้องรีบยอมรับข้อตกลงต่างๆเพื่อลงนามการขุดเจาะน้ำมันร่วมกันกับเราได้    ไม่งั้นอาจจะแห้ว....แล้วกลายเป็นผู้อื่นร่วมลงนามกับเราแทนไปได้  

     ปริมาณมหาศาลลลลล......ไม่ด้อยกว่าใครในโลก

 

ปล.2    อ่าน  The  prince  เหมือนกันเหรอครับ    ผมชอบ    แต่ถ้าเราใช้วิธีนี้กับผู้ใต้ปกครอง(ซึ่งผมนำมาใช้จริงๆ)    ก็มักจะถูกมองว่า   ไอ้เผด็จการ    แต่มันได้ผลเด็ดขาดมาก   

 

ปล. 3   อีกเล่ม  The  discourses  ของมาคีอาเวลลี่   นี่จะมีเล่มแปลเป็นภาษาไทยให้อ่านบ้างไหมครับ   เพราะเป็นการกล่าวถึงการปกครองประเทศที่มีมหาชนเป็นใหญ่   จ้าวผู้ปกครองควรทำเช่นไร  

 

ในความคิดผมเห็นว่า   ดีกว่า  หลี่ ซือ ชุน ชิว มาก

 

ปล.4   ผมขออนุญาติท่าน จขกท.  ทำการก๊อปปี้บทความเพื่อเก็บไว้ให้ลูกชายและลูกสาวอ่านประกอบกับหนังสืออื่นๆที่มีอยู่ด้วยนะครับ   ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง    และผมจะไม่นำไปเผยแพร่หรือตีพิมพ์เพื่อผลประโยชน์ทางการเงินใดๆครับ

 

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 01/09/2013 22:45:21


ความคิดเห็นที่ 10


เป็นสายลับชั้นเซียนจริงๆ



โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 01/09/2013 23:56:06


ความคิดเห็นที่ 11


บทความนี้ผมไม่ได้เขียนขึ้นเองหรอกครับ พอดีเจอโดยบังเอิญ  เห็นว่าน้อยคนที่จะรู้เรื่องแบบนี้ เลยเอามาให้อ่านกัน เคดิตตามลิ้งค์เลยครับ ^^

โดยคุณ thunderbolt เมื่อวันที่ 02/09/2013 00:08:00


ความคิดเห็นที่ 12


ถ้าใช้วิธีการแบบปูติน สถานการณ์การเมืองและภาคได้เราจะสงบไวขึ้นมาก แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะ.....

1.เราปกครองแบบประชาธิปไตย

2.เราไม่ใช่เผด็จการทหาร

3.เราไม่ใช่รัฐบาลคอมมิวนิส

ถ้าเราทำแบบปูตินทั่วโลกโดยเฉพาะตะวันตกจะประณามเรา แล้วก็จะมีกลุ่มคนองค์กรต่างๆมาประท้วงไม่จบไม่สิ้น ฉะนั้นรัฐบาลไทยจึงเน้นเจรจามากกว่า

ปล.ถ้าเรามีนโนบายต่างประเทศที่เข้มแข็งก็ดี จะได้ส่งคนไปลอบสังหารหัวหน้ามันที่อยู่แถบตะวันตก จะได้ตัดท่อน้ำเลี้ยงมันได้แบบที่อิสราเอลทำ

โดยคุณ kakachi เมื่อวันที่ 01/09/2013 23:58:30


ความคิดเห็นที่ 13


ผมชอบตรงที่ท่านปูตินรักประเทศของเขาเป็นอย่างมากไม่ยินยอมให้ใครมาลุกราน หยามเกียรติประเทศของตนอยากให้ประเทศของตนยิ่งใหญ่ ไม่ยอมให้องกรณ์ต่างๆ นอกประเทศมาบ่อนทำลายประเทศของตนได้ ดุดันเฉียบขาดกับผู้ที่ประสงค์ร้ายต่อประเทศ ลงการเมืองก็เพื่อประเทศของจริง

   ส่วนของไทยก็อย่างว่าแหละครับจะทำอะไรก็เกรงไปซะหมด กลัวคนนู้นคนนี้ว่าเอา ปล่อยให้พวกชาติอื่นที่ไม่ใช่คนไทยมีอิทธิพลอยู่เหนือกว่าตน เราโดนแบ่งแยกหรือจราจลในประเทศก็ไม่ส่งผลอะไรกับคนนอกเหล่านั้นเขาไม่ได้ทุกร้อนอะไรกับเราด้วย ก็น่าแปลกที่เราจะกำจัดเชื้อโรคร้ายที่กัดกินขาของเราเองแท้ๆ ยังต้องเกรงใจคนอื่นว่าผมจะฆ่าเชื้อร้ายนี้ทิ้งได้ไหมครับ เหอะๆ

โดยคุณ Gaara เมื่อวันที่ 02/09/2013 08:12:02


ความคิดเห็นที่ 14


สงบแป๊ะอะไรล่ะครับ นี่คุณคิดว่าเชชเนียสงบจริงๆ เหรอครับ อย่างงั้นภาคใต้เราไม่เรียกว่า แดนสวรรค์เหรอครับ

เรื่อง ngo คือคุณไม่เข้าใจครับ ngo ซึ่งเป็น non govermental ไม่ได้แปลว่าจะคอยต่อต้านรัฐบาล แต่หมายความว่าจะไม่มีการชักใยจากรัฐบาล เป็นอิสระ ที่ ngo ไม่ได้เรียกร้องให้ชดเชยแก่รัฐบาลและบุคคลากรของรัฐในกรณีต่างๆ เพราะว่ารัฐชดเชยอยู่แล้วนี่ครับ

Ngo ไม่ได้มีแต่ด้านลบ ถ้าไทยไม่มี ngo ชาวบ้านหลายๆ ที่ลำบากครับ ถ้าครอบครัวคุณต้องเจ็บป่วยตายเพราะสารพิษจากอุตสาหกรรมใกล้ๆ บ้านคุณ อย่างไม่เป็นธรรม คุณคงแฮปปี้ดีใช่มั๊ยครับ หรือป่าอาจจะหมดประเทศไปแล้ว 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 02/09/2013 08:12:28


ความคิดเห็นที่ 15


คุณ tongwarit ครับ

เคยทำงานกับ NGO มั้ยครับ ถ้าเคยทำคงไม่น่าจะมีคำพูดแบบนี้หรอกครับ

จริงอยู่ครับว่า NGO ไม่มีทุนจากรัฐ แต่นั่นก็แปลว่าเค้าต้องหาทุนเองจากปัญหาต่างๆ ครับ

แล้วรู้มั้ยครับว่าจะเอาปัญหา ที่เป็นเหตุให้จัดหาแหล่งเงินทุนได้จากไหน ก็ปลุกระดม เต้าข่าว ขยายความไงครับ

แล้วอีกข้อที่ทำให้ NGO เป็นปัญหากับหลายๆ การทำงานคืออะไรพอจะทราบมั้ยครับนั่นก็คือ

 

"NGO ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำหรือผลของการกระทำ(ในทางปฏิบัติ)ครับ"

 

ถ้ามีปัญหาก็หายตัวไป ไม่รู็ไม่เห็นชาวบ้านทำกันเอง ถ้าทำได้ก็ได้เงินไป เช่น...การสร้างเขื่อน ตอนจะสร้างก็เรียกร้องกันมากมาย ป่าสักผืนสุดท้ายบ้าง บลาๆๆ คนไม่รู็ก็ฟังกันไปแต่ลองไปถามกรมป่าไม้ดูสิครับ แทบขำท้องแข็งตาย....ต้นสักหรอ อยู่ในแล็ปผมไง เพาะเนื้อเยื่ออยู่ แล้วเวลาตอนน้ำท่วมเคยเห็น NGO ที่ค้านการป้องกันน้ำท่วมโผล่หัวมาซักกลุ่มมั้ยครับ.... ก็กลายเป็นกลุ่มใหม่ที่ให้เอาของมาแจก พอทับซ้อนผลงานก็ตีกันอีก

 

รู้มั้ยครับว่าวิธีปัจจุบันเค้าใช้วิธีไหนรับมือ NGO ก็ให้เซ็นเอกสารยื่นเรื่อง รับประกันผลงาน หรือรับประกันผลที่ตามมา ซึ่งความจริงมันเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว.....รู้มั้ยครับ ว่าเป็นไง แทบจะกระโดนเด้งออกจากเก้าอีกทุกราย

 

ที่บอกว่าไม่มี NGO ไม่งั้นป่าหมดไปนานแล้ว....ลองไปดูทางอีสานสิครับ NGO นี่แหละครับตัวดี ป่าจะหมดเพราะ NGO เนี่ยแหละครับ ชาวบ้านรุกที่ไป แล้วก็มี NGO มาเรียกร้องให้ "ต้องช่วยเหลือคนจน" จนแปะอะไรครับคืนอื่นทำงานกันงกๆๆ เก็บเงินซื้อที่แต่นี่เล่นมารุกป่าสาธารณะ รุกได้เสร็จแล้วก็ขายพอบริหารเงินผิดพลาดก็รุกต่อ....สบายโคตร ใครว่าในเมืองฉลาดครับ...คนเมืองอย่างเราๆ นี่แหละเหยื่อชั้นดี

โดยคุณ leo_attack เมื่อวันที่ 02/09/2013 09:16:11


ความคิดเห็นที่ 16


คุณ tongwarit  ถึงกับขึ้นคำว่า "แป๊ะเลยนะครับ"

มันก็จริงที่ว่า เชชเนียร์ยังไม่สงบเท่าไหร่ แต่จากที่รัสเซียเคยเสียเชชเนียร์ไปแล้วๆดึงกลับคืนมาได้ใหม่ แค่นั้นก็บุญเลยครับ

NGO มันก็มีทั้งที่ดีและไม่ดี บางองค์กรก็ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างชาติ หรือเอกชนที่เสียผลประโยชน์ ไม่งั้นเขาจะเอาเงิน จะระดมทุนมาจากไหนละครับ แล้วจะมีใครให้คุณฟรีๆโดยไม่หวังผลประโยชน์

ปล.ทุกวันนี้ไทยเราไปไม่ถึงไหนเพราะคนพวกนี้แหละครับ จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินก็ประท้วง จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็ห้ามเพราะกลัวรังสีรั่วไหล ไม่เคยคิดเลยว่าเราจะมีเทคโนโลยีต่อยอดความรู้ขึ้นไปอีกจนอาจสร้างอาวุธป้องกันตัวเองได้

โดยคุณ kakachi เมื่อวันที่ 02/09/2013 10:07:04


ความคิดเห็นที่ 17


ขอบคุณครับสำหรับบทความ อ่านแล้วชอบมากครับ ส่วนตัวผมชอบปูตินนะ เค้าพลิกฟื้นประเทศรัสเซียจากการล่มสลาย กลับมาเป็นประเทศรัสเซียที่ยิ่งใหญ่มีที่ยืนบนเวทีโลก และเป็นมหาอำนาจอย่างสง่างาม ผลประโยชน์ของชาติ(รัสเซีย) ต้องมาก่อน ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม ซึ่งก็เป็นหลักคิดของชาติมหาอำนาจทั่วไป ต้องทำให้คนในชาติภูมิใจ มีเกียรติในความเป็นชาติ น่าชื่นชมและภูมิใจแทนรัสเซียครับ มองมายังประเทศของเรา ผลประโยชน์ของตัวเอง พวกพ้อง ต้องมาก่อน (ชาติไว้ทีหลัง) น่าเหนื่อยใจแทน ทุกวันนี้บางครั้งเราก็ปล่อยให้มีประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ต่างชาติครอบงำมากจนเกินไป จนไม่มีใครฟังใคร เพื่อนบ้านก็นั่งหัวเราะ ที่เราเป็นอย่างนี้  เห้นแล้วก็หนักใจ ^^

โดยคุณ tommy เมื่อวันที่ 02/09/2013 11:13:14


ความคิดเห็นที่ 18


 ( คำพูดเหมาะกับโจรใต้ดีแท้ )

"ถ้ามันฆ่าเจ้าหน้าที่เรา 1 คน พวกมันต้องตาย 10 คน!..ถ้าเราถูกโจมตี เราต้องโต้ตอบ รวดเร็ว และหยาบช้า.."  

 

โดยคุณ Nazgul เมื่อวันที่ 02/09/2013 12:38:25


ความคิดเห็นที่ 19


        ก่อนอื่นขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ นับเป็นกระทู้ทรงคุณค่าทีเดียว ประวัติของ ปูติน

ไม่ว่าอ่านที่ไหน หรือ กี่ครั้งก็มักจะสร้างความรู้สึกรักชาติได้ดีเสมอ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าททำไม

ผมจึงให้รัสเซียเป็นมหาอำนาจเบอร์2 ของโลกอยู่ไม่ใช่ จีน เพราะมี ปูติน เป็น ปธน. นี่แหละครับ

รู้ทัน ทำจริง

โดยคุณ severodvink เมื่อวันที่ 02/09/2013 17:47:49


ความคิดเห็นที่ 20


ปูติน เกิด 1952 โตมาจาก อพาร์ทเมนต์ ของระบอบคอมมิวนิสต์เดิมที่ เลนินกราด ปู่เขาเป็นคนครัวของ stalin พ่อเป็นทหารประจำเรือดำน้ำ ครอบครัว ของเขารอดตายจากการปิดล้อม เลนินกราดของพวก เยอรมัน
ฮีโร่ของเขาตอนเด็กคือ ยูริ กาการิน(เป็นเด็กโซเวียตทั่วๆไปตอนนั้น)

ยูริ กาการิน = มนุษย์อวกาศคนแรกของโลก ไม่ใช่หรอครับ ??

 

โดยคุณ tanaykwam เมื่อวันที่ 02/09/2013 20:21:36


ความคิดเห็นที่ 21


^

คงหมายถึงเป็นฮีโร่ของเด็กโซเวียตสมัยนั้นน่ะครับ

โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 02/09/2013 21:34:38


ความคิดเห็นที่ 22


ถ้าจะให้ไทยทำแบบรัสเซีย หรือปูติน คงต้องเปลี่ยนระบอบการปกครอง และก็เป็นเรื่องที่คนไทยไม่ยอมแน่นอน 
 

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 03/09/2013 22:41:23


ความคิดเห็นที่ 23


ข้อได้เปรียบของปูติน คือ

         1.  เค้าไม่ใช่นักการเมืองมืออาชีพ คือไม่จำเป็นต้องทำ แอ็ป ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียภาพลักษณ์

          2.  เพราะเป็นคนที่เติบโตจากครอบครัวธรรมดา ไม่ใช่ลูก ไฮโซ จึงเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสูง รู้จักถ่อมตนและทะเยอทะยาน

          3.  เหตุเพราะเป็นสายลับ KGB ได้รับการเรียนรู้ในเรื่องจิตวิทยาและหลักการปกครองมาก่อน และมีความรู้ทางด้านกฎหมายหรือนิติศาสตร์ จึงรู้ยุทธวิธีการดำเนินชีวิตควบคู่ไปกับการดำเนินกิจกรรมตามอุดมการณ์ของตนเอง

ความน่ากลัวของปูติน

  1. เป็นคนที่อ่าน เกมส์ และประเมินสถานการณ์ขาดว่าสิ่งที่กระทำลงไปจะส่งผลดีหรือผลร้ายมากกว่ากัน เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วว่าผลดีมากกว่ากัน ถึงแม้จะเกินครึ่งมาเล็กน้อยก็ตามที
  2. รู้ว่าพลเมืองชาวรัสเซียต้องการอะไร ก็จัดให้ไป รู้ว่าใครควรเป็นมิตร และใครควรเป็นศัตรู เมื่อรู้ว่าใครเป็นศัตรูก็จะรีบกำจัดเสียก่อนซะตั้งแต่เนิ่นๆ
  3. มีคุณลักษณะคล้ายคลึงกับ ขงเบ่งในสามก๊ก และพระเจ้าบุเรงนองของพม่าเป็นอย่างมาก คือ เป็นคนฉลาดเก็บตัว แต่เมื่อมีโอกาสเป็นของตนเมื่อใดก็จะคว้าไว้ทันทีไม่รอรอช้า เป็นคนที่ค่อนข้างจะหลงตัวเองอยู่พอสมควร  และมีจิตใจที่แฝงความความอำมหิตอยู่ลึกๆ แต่ไม่ถึงกับบ้าหรือหลงอำนาจจนเป็นภัยแก่ตัวเอง เหมือนๆกับอดีตผู้นำเผด็จการในหลายๆประเทศ
  4.  รู้จักช่วงจังหวะเข้าจังหวะออก รู้ว่าช่วงไหนควรรุกไล่ ช่วงไหนควรสงบนิ่ง และรู้ว่าช่วงไหนควรจะถอย
  5. รู้จักการสร้างกระแสหรือการทำการตลาด คือ สร้างกระแสความนิยมให้กับกับตนเองสร้างกระแสความเป็นชาตินิยมโดยปลุกฝั่งให้กับเด็กๆจนไปถึงวัยรุ่น (พูดง่ายๆ คือใช้หลักของพวกคอมมิวนิสต์บวกกับหลักทุนนิยม ทำให้ประชาชนชาวรัสเซียมีอาชีพมีรายได้เลี้ยงปากท้องตนเองได้ไม่เดือดร้อน แต่แฝงระบบการปกครองด้วยกฎหมายสังคมนิยมโดยมีระบอบประชาธิปไตยบังหน้า)

แต่เชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้วเมื่อถึงห้วงระยะเวลาหนึ่ง ปูตินก็ต้องยอมลงจากอำนาจไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะอย่างไรเสียปูตินได้เคยสร้างศัตรูไว้มากมายพอสมควร และสร้างความเกลียดชังไว้ให้กับคนหลายกลุ่ม ดังนั้นก็ต้องฝากอำนาจไว้ให้กับคนที่ไว้ใจได้มากที่สุด เพื่อเป็นทายาทในการสืบทอดอำนาจกับผู้นำรุ่นต่อไป เพื่อให้ตนเองไม่ต้องถูกตามคิดบัญชีในภายหลัง

 

ส่วนการที่ใครๆหลายท่านที่ว่าไทยควรเอาอย่างรัสเซียนั้น บอกกันตรงๆเลยว่า โดยพื้นฐานของคนไทยและรวมไปถึงนิสัย การกินอยู่อย่างไทยและบวกกับการเมืองแบบไทยๆ แล้วก็บอกไว้ได้เลยว่ายากมากๆ สำหรับไทยเรานั้นมันได้เลยจุดนั้นมาเยอะแล้ว ยากแก่การนำเอารัสเซียมาเป็นแบบอย่างได้

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 03/09/2013 23:15:20