นี้หรือเปล่าครับที่ญี่ปุ่นเรียกว่าเครื่องบินรบ ยุคที่ 5 ของตัวเอง งามสไส้ ครับ (ผิดพลาด ขออภัยคับ)
ถ้าอเมริกา อนุญาติให้ญี่ปุ่นผลิตขายเครื่องบินรบ ยุคที่ 5 ได้ ผมคิดว่าจากกำหนดเดิมที่จะผลิตสำเร็จ
ในปี 2027 ผมว่ามันจะเร็วกว่านั้น .. ญี่ปุ่นได้เปรียบทุกประเทศ คือ มีฐานการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรม
มากที่สุดในโลก แค่ประธานบริษัทสั่ง เพิ่มสายพานการผลิตไปเป็น ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินรบ ไม่นานก็สำเร็จ
.. แต่ อเมริกาไม่มีทางให้ญี่ปุ่นผลิตขายแน่นอน เพราะอเมริกาต้องพึ่งรายได้เข้าประเทศจากการขาย
อาวุธยุทโธปรกรณ์ทางทหาร รวมทั้งค่าอะไหล่ ค่าซ่อมบำรุงรายปี ที่ลูกค้าต้องจ่ายอีกมหาศาล
.. อเมริกาไม่กังวลเกี่ยวกับเครื่องบินรบจีนซักเท่าไหร่หรอก เพราะ การขายสไตล์พ่อค้าจีน ต้องมีการลดสเปควัสดุ
เพื่อกำไร ซึ่งข้อนี้เป็นนิสัยถาวรของคนจีนที่แก้ไม่หาย ดังนั้นเรื่องการแย่งลูกค้าอเมริกาน่าจะตัดจีนทิ้ง
เพราะลูกค้าหลักๆของจีน มี เขมร กับ ลาว
แต่ ถ้าเป็นมาตรฐานญี่ปุ่น หรือ เยอรมัน อันนี้สิ น่ากลัวที่สุด
ทุกอย่างอยู่ที่ ญี่ปุ่นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือเปล่าถ้ามีการแก้ไข ก็ส่งออกอาวุธได้ครับ
รูปตัดต่อหรือเปล่าครับ ลำน้ำเงิน ท่อนหลังเหมือน f-18 ลำเทาหางเหมือน f-22
น่าจะเป็นคอนเซปท์เท่านั้นครับยังไม่มีผลิตจริง ญี่ปุ่นประเทศเล็กแค่นั้นถ้าผลิตอะไรออกมาก็เห็นกันหมดแหละครับยิ่งเครื่องบินไม่ต้องพูดถึงเลย รถถังตอนประกอบเสร็จใหม่ ๆ ยังวิ่งผ่านถนนธรรมดามาแล้ว
ญี่ปุ่นจะผลิตอาวุธอะไรต้องรอให้อเมริกาอนุญาตด้วยเหรอครับ
เพราะเท่าที่ผมทราบมาที่ญี่ปุ่นจำกัดระดัีบการผลิตอาวุธน่าจะมาจากกฎหมายของญี่ปุ่นเอง
ที่ผ่านมาผมเห็นญี่ปุ่นสร้างอาวุธใช้เองตั้งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรถถังหลักรุ่นใหม่อย่าง TYPE90
และก่อนหน้านี้ก็มีเครื่องบิน Mitzubishi F-1 ซึ่งเป็นบ.ขับไล่/โจมตี, รวมถึง ปืนเล็กยาวหลายๆรุ่นที่ญี่ปุ่น
ออกแบบและ ผลิตใช้เอง ....เพียงแต่อาจจะจำกัดระดับของการสร้างอาวุธ เช่น ไม่สร้างเรือบรรทุกเครื่องบิน
(แต่ตอนนี้เหมือนจะสร้างแล้ว)และไม่สร้างอาวุธเพื่อการส่งออก
เว้นแต่อาวุธบางอย่างที่ญี่ปุ่นซื้อสิทธิบัตรจากอเมริกามาผลิตเอง อย่างเช่น ฮ.แบล็คฮอร์ค ,
เรือระบบเอจิส หรือ ปืนกลM-2 ที่ผลิตในญี่ปุ่น อันนี้คงต้องขออนุญาตเจ้าของเดิมเพื่อนำมาผลิตใช้เองในประเทศ
มันเป็นแค่ เอนิเมชั้น ครับโครงการสร้างเครื่องบินรบ ยุคที่5 ของประเทศ ญี่ปุ่น เขานะครับ
ญี่ปุ่นไม่ต้องรอเมกาหรอกครับ อยากสร้างอะไรก็สร้างไปครับ
เพียงแต่ห้ามส่งออก ห้ามมีนิวเคลียร หรืออะไรที่มองว่าเป็นอาวุธเชิงรุก เทือกนั้น
เรื่องเรือบรรทุกอากาศยาน ญี่ปุ่นก็เลี่ยงบาลีจัดให้เป็นเรือ destroyer ได้ (ที่กลายไปเป็น helicopter destroyer)
ส่วนเครื่องบินสองลำในรูป สภาพคงนับว่าเป็นเครื่องบินยุคที่ห้าไม่ได้หรอกครับ ไร้ความสเต็ลธ์อย่างแรง
ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Mitsubishi_ATD-X
At the beginning of the twenty-first century, Japan, seeking to replace its aging fleet of fighter aircraft, began making overtures to the United States on the topic of purchasing several Lockheed Martin F-22 Raptor fighters for their own forces.[2] However the U.S. Congress had banned the exporting of the aircraft in order to safeguard secrets of the aircraft's technology such as its extensive use of stealth; this rejection necessitated Japan to develop its own modern fighter, to be equipped with stealth features and other advanced systems.
A mock-up of the ATD-X was constructed and used to study the radar cross section in France in 2005.[3][4] A radio-controlled 1/5 scale model made its first flight in 2006 to gain data on performance at high angles of attack and to test new sensory equipment and self-repairing flight control systems.[4]
Following these preliminary steps, the decision was taken in 2007 to push ahead with the multi billion-yen project. At the time of this decision, production was forecast to start roughly 10 years later, around 2017. In 2007, the ATD-X was expected to conduct its maiden flight in 2014.[5] In 2011, the maiden flight is to take place in 2014 or 2015.[6]
The ATD-X program will then lead to a F-3 fighter to be produced in 2027.[7]
ATD-X Shinshin |
|
---|---|
Mitsubishi ATD-X as of 2007 | |
Role | Stealth experimental aircraft |
National origin | Japan |
Manufacturer | Mitsubishi Heavy Industries |
First flight | 2014 (projected)[1] |
Status | Under development |
Primary user |
|
Mitsubishi ATD-X
Data from Miyakawa et al, 2008[4]
General characteristics
Performance
ที่มา http://www.defenceaviation.com/2008/01/mitsubishi-atd-x-shinshin-a-japanese-stealth-fighter.html