**ไม่นับ U-206Aนะครับเพราะอันนั้นเหมาะใช้ฝึกและสนับสนุน ในกรณีนี้ขอให้เสนอเฉพาะเรือดำน้ำใหม่เอี่ยมครับ ลองมาวิเคราะห์กันดูนะครับเผื่อเป็นประโยชน์และอาจเป็นแนวทางในการจัดหาจริงในอนาคตครับ
ในกระแสเกาหลีมาแรงแบบนี้ ผมเสนอเหมือนเดิมครับ
เรือรบหลัก DW-1400 T
เรือฝึก-รบ KSS-500A mod for RTN ครับ
เพราะราคาและประสิทธิภาพน่าจะตรงตามที่ ทร.ต้องการและเงินในกระเป๋ารองรับครับ
จากเท่าที่อ่านมา ในกระทู้ เรือ Bremen ของ ทร.เยอรมัน...
ความรู้สึกผมว่า...โครงการ เรือดำน้ำ น่าจะยังเป็น มือสอง อยู่...ในวงเงิน 5000 - 7000 ล้านบาท เหมือนเดิม...เพื่อ ฝึก และเตรียมความพร้อม...ระยะเวลาจัดหา ภายใน 3 ปี...
แต่ถ้า รัฐบาล ไม่อนุมัติให้จัดหา เรือดำน้ำ...ตัวเลือก OHP มือสอง ของ ทร.สหรีฐ น่าจะมาแทน...แล้วเรือดำน้ำ คงรอยาว ไปอีก 10 ปี หลังจาก เรือฟริเกตสมรรถนะสูง เสร็จสิ้นโครงการหมดแล้ว...ตัวเก็ง ก็คงเป็น เรือดำน้ำ เกาหลี DW1400T...น่าจะราคาถูกที่สุดแล้ว ในขณะนี้ และในอนาคต...
หากงบประมาณเท่าเดิม แต่เรือ U-206A มีเหลืออยู่แค่ 2 ลำ จะเป็นไปได้ไหมครับที่จะพ่วงมาพร้อมกับ F-122 Bremen Class Frigate อีกสัก 2 ลำ ถ้าได้ตามนี้ล่ะก็ แจ่มมมมม
ผมมองว่าตอนนี้ ทร. คงเบนเข็มไปที่เกาหลีแล้ว แน่นอนงบซื้อเรือดำน้ำมือหนึ่งคงไม่มีใน 5 ปีนี้ จะขอซื้อ U209 มือสอง เกาหลีคงไม่ขายเพราะสถานการณ์สงครามเกาหลีเหนือยังไม่แน่นอน แต่ถ้าเช่า/ซื้อ U209 จากเกาหลี 1 ลำเป็นเวลา 5 ปีในราคา 3-5 พันล้านบาทอาจมีหวังเพราะใน 5 ปีนี้หากมีสงครามเกาหลีก็เอาคืนไป อีกทั้งเกาหลีต้องการเปิดตลาดเรือดำน้ำ แล้วพอครบ 5 ปี เราก็ซื้อขาดเลยเพราะเกาหลีคงมี U214 เพิ่มอีกหลายลำแล้ว
ถ้าเป็นมือ 1 มีใครสน 210mod หรือ Andrasta มั้ยครับ หรือว่าเล็กไป (แต่ถ้าซื้อเรือดำน้ำมาแล้วไม่คิดจะใช้นอก EEZ แบบเดียวกับที่ซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินมาแล้วใช้อยู่แค่น่านน้ำหลังบ้านตัวเอง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เรือดำน้ำขนาดใหญ่)
U206 ตอนนี้มันเหลืออยู่แค่ 2ลำแล้วไม่ใช่เหรอไงครับ อีก4ลำโคลัมเบีย ซื้อไปแล้วไม่ใช่เหรอไงครับ อาจจะใช้งบประมาณเพียง4พันล้านด้วยซ้ำนะครับ ท่านจูดาส
206A ที่ยังเหลืออยู่ 2 ลำ (ถ้าเยอรมันยังไม่ตัดทิ้ง) ก็สามารถซื้อมาเป็นเรือฝึกระหว่างที่รอต่อเรือใหม่ แบบเดียวกับที่มาเลเซียซื้อเรือชั้น Agosta มาฝึก ระหว่างที่กำลังต่อชั้น Scorpene ก็เป็นแนวคิดที่ดีครับ (มาเลเซียซื้อเรือชั้น Agosta เพื่อฝึกเตรียมกำลังพลที่ฝรั่งเศสโดยไม่ขึ้นระวางประจำการ) แต่กรณีนั้นควรมีโครงการจัดหาเรือหลักให้ได้เสียก่อน และเรือฝึกควรมีพื้นฐานเดียวกับเรือหลัก เช่น ต่อ Scorpene แล้วฝึกกับ Agosta หรือต่อ 209/210/214 แล้วฝึกกับ 206A แต่ถ้ายังกำหนดแบบเรือหลักไม่ได้ การซื้อเรือ 206A เพื่อมาฝึกเพียงอย่างเดียวก็อาจเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควรครับ
type 206A 2 ลำที่เหลืออยู่เป็น 2 ลำที่ผ่านการ upgrade มาเรียบร้อยก่อนปลด หรือ เป็น 2 ลำที่ไม่ได้ทำการปรับปรุงแต่อย่างใดที่เราเคยคิดจะเอามันมาเป็นอะไหล่ล่ะครับ เพราะโคลัมเบียเหมาไป 4 แล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นลำที่ผ่านการ upgrade ทั้ง 4 ลำก่อนปลดหรือเปล่า ถ้าใช่ก็มีแนวโน้มแห้วต่อครับสำหรับ type 206A
มาถึงนาทีนี้ เรือมือหนึ่งไปเลยดีกว่าครับ KSS - 500A mod สำหรับ ทร. ไทย ราคาน่าจะเป็นมิตรและมีขนาดไม่หนีจาก type 206A มากเลย และถ้าเรือรบหลักจะเป็น DW-1400T ในวันข้างหน้า เรือฝึก-รบเกาหลีน่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะมาจากค่ายเกาหลีเหมือนๆกัน และใช้งานไปได้ยาวนานมาก ไม่โดนเล่นตามข้อหาเดิมด้วยครับ
type 210 mod ติดตั้งระบบ AIP ผมว่าลำละไม่น่าจะต่ำกว่า 15,000 ล้านบาทนะครับ เป็นการคาดการณ์ส่วนตัว
คิดถึงเขาอยู่เหรอตัวเอง อิอิ
โคลัมเบียซื้อ2ลำที่ใหม่สุดเข้าประจำการตามภาพ(U23,U24)และ2ลำเป็นอะไหล่ครับ U-15และU-17ที่ยังเหลืออายุพอๆกับอีก2ลำของเขา 3เดือนที่แล้วยังสบายดีอยู่แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไงบ้างนะ เรือทั้ง6ลำได้รับการอัพเกรดหมดแล้วครับจึงเรียกว่ารุ่น 206A
ถ้าในแง่การฝึกแบบเรือดำน้ำ ที่ต่อเนื่องกับ เรือดำน้ำหลักในอนาคต...
ก็อาจจะใช้ เรือดำน้ำแบบ อินโดนีเซีย ก็ได้ครับ...คือ Type-209 ..ก็สร้างของ อินโดฯ เสร็จ ก็ต่อ ออร์เดอร์ ไทย ไปเลย...5 5 5 5
แล้วไป ถอย 206A มา...เผื่อใน อนาคต ก็มี 2 ตัวเลือก คือ Type-210 mod กับ Type-209 ของเกาหลี...
ซึ่งผมคิดว่า เรือดำน้ำ จาก เกาหลีใต้...ไม่ว่า มือสอง หรือ มือหนึ่ง...ในตอนนี้ ดูจะมีคะแนน นำนิด ๆ...
ในแง่ที่ว่า ทร. จัดหา เรือฟริเกตสมรรถนะสูง...ถ้า กรณี ได้ ระบบปราบเรือดำน้ำ ถ้า ระบบคอนโทรลหลัก เป็นของ เกาหลีใต้...
การเป็น Net work น่าจะได้เปรียบกว่า...เพราะ คิดว่า ปัจจุบัน เกาหลีใต้ น่าจะมีระบบนี้ใช้งานอยู่...มันก็น่าจะ เป็น Net work ได้กับ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ลำใหม่...
แต่ถ้า ระบบปราบเรือดำน้ำ หรือ ระบบ Control หลัก เป็นของ ATLAS Elektronik จาก เยอรมัน...การเป็น Net work ของเรือดำน้ำ...เช่น ตามที่ท่าน FatBoy กับ ท่านกัปตันนีโม ได้ให้ความเห็นไว้ในเรื่อง มีความคิดจัดหา เรือมือสองชั้น Bremen จากเยอรมัน และ Type-206A จากเยอรมัน...
ผมเชื่อว่า มันต้องมีระบบเชื่อมโยงข้อมูล ระหว่างเรือรบผิวน้ำ กับ เรือดำน้ำ ทั้ง 2 แบบข้างต้น นั้นอยู่...
การจัดหาเรือดำน้ำ ทั้งมือสอง หรือ มือหนึ่ง จากเยอรมัน...ก็ดูจะมีคะแนนนำ กว่าเจ้าอื่น ๆ...เพียงแต่ จะผ่านด่าน Anti Germany Weapon System ไปได้อ่ะเปล่า...ฮึ ฮึ ฮึ
มานั่งคิดเล่นๆอีกที ถ้าตอนนั้นทร.ขอซื้อแค่2ลำใช้งบซัก3,000กว่าล้าน ให้เหตุผลว่าใช้สำหรับเป็นเรือฝึกเพื่อรองรับอนาคตและใช้ศึกษาเพื่อหวังสร้างเองในประเทศ โดยทำแผนการประชาสัมพันธ์ดีๆอาจจะมีลุ้นมากกว่านี้ก็ได้นะครับ แต่ทร.มั่นใจไปหน่อย+ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี+นักวิชาการอยากดังมีเยอะ+กองแช่งมีมาก+ด่านห้ามซื้อเรือดำน้ำจากเยอรมันอีกเพียบ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น แต่ก็อย่างว่านะใครจะไปรู้ว่าจะมีเรื่องแบบนี้
ถ้าซื้อเรือมือ2จริงๆจะเป็นลำไหนได้อีกหละครับ 209ของเกาหลีเขาจะยอมขายเราเหรอ เรือดำน้ำไทยวุ่นวายดีแท้นะแม่คุณ
ลองนึกว่าเราเป็นเกาหลีดูน่ะครับ มีเรือ u209 ต่อเองอยู่ 9 ลำ และกำลังต่อ U214 รุ่นใหม่อีกหลายลำ แต่ยังไม่พอใช้ แต่อยากจะต่อเรือดำน้ำขาย ลูกค้าเค้าก็ยังไม่เชื่อฝีมือ คราวนี้มีประเทศ ก.ไก่ อยากมีเรือดำน้ำมือหนึ่งแต่เงินไม่ค่อยมี เลยมาทาบทามขอซื้อ U209 มือสองและบอกว่าถ้าดีจะขอซื้อเพิ่มเรื่อยๆ ทั้งมือหนึ่งและมือสองอีก 5 ลำ เป็นผมน่ะถึงยังมีเรือดำน้ำไม่พอใช้ก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะขายให้ประเทศ ก.ไก่ ทำไมเหรอครับ ก็ของที่ผลิตเองรุ่นแรกฝีมืออาจจะยังไม่ดีแต่มีคนอยากได้ก็จัดเอาไป แถมยังทยอยขายได้เรื่อยๆ ได้โล๊ะของเก่า แถมยังได้ผลิตของรุ่นใหม่ที่ดีกว่าเข้าประจำการ สายการผลิตยืดไปได้อีกหลายปีเลย แต่ต้องยอมรับว่ากองทัพเกาหลีกว่าจะได้เรือดำน้ำครบตามที่ต้องการก็ใช้เวลานานขึ้น ส่วนสงครามผมไม่กลัวเกาหลีเหนือหรอก ขู่ไปวันๆเท่านั้น กลัวไม่มีลูกค้ามาซื้อเรือดำน้ำมากกว่า
option ของผมคือ ให้ประเทศ ก.ไก่ เช่าซื้อ ทีล่ะลำ คือเช่าครบ 3 ปีแล้วขายขาดไปเลย ทำอย่างนี้จนครบจำนวนที่ลูกค้าต้องการและไม่เสี่ยงด้วย เผื่อเกิดสงครามก็ยังทวงเรือลำที่ลุกค้าเช่าไปกลับมาใช้ได้
ผมขอเรือดำน้ำมือสองจากสวีเดน แถมยังออกแบบตัวเรือป้องกันเสียงสะท้อนจากโซน่าร์ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการถ่ายถอดเทคโนโลยีบางส่วน การซ่อมบำรุ่ง ค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการ
ตอนนี้มีข่าวล่ามาเร็วว่ารัสเซียกับอิตาลีจะปัดฝุ่นโครงการเรือดำน้ำ S-1000 ขึ้นมาใหม่ครับ โดยเน้นขายให้กับตลาดในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งโครงการ S-1000 เดิมเป็นเรือดำน้ำขนาด 1000 ตัน ที่เสนอขายให้กับอินเดียเมื่อปี 2005 แต่อินเดียตัดสินใจเลือกเรือ Scorpene ของฝรั่งเศส
รายละเอียดเพิ่มเติม - http://kapitaennem0.wordpress.com/2013/08/09/s1000sub/