_____________________________________________________________________________
เมื่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตกเป็นจำเลยสังคม ด้วยพฤติกรรม "ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้"...ทั้งไถเงินประชาชน ทั้งซูฮกฝ่ายการเมือง ทั้งเลือกปฏิบัติ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่...ถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่สังคมไทย จะมาช่วยกันคิดว่าเราควรทำอย่างไรให้สถาบันสีกากีกลับมาเป็นที่น่าเชื่อถือ และเป็นองค์กรที่ส่งเสริมให้ตำรวจดีๆ ที่มีอยู่มากมาย ได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาความเป็นนิติรัฐของแผ่นดินไว้ชั่วกาล
อ่านต่อ: http://www.comprehensivethai.com/2013/07/blog-post.html
เป็นการร่วมแสดงความเห็นนะครับ ผมเห็นว่า ไม่สมควรใช้การเลือกตั้งมาเป็นแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับองค์กรตำรวจครับ เหตุผลก็เพราะ งานตำรวจ เป็นงานวิชาชีพเฉพาะ ที่ต้องใช้ความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษเฉพาะด้าน บวกกับตำรวจต้องสามารถรักษาประโยชน์ทั้ง 2 ด้านได้อย่างสมดุล สองด้านคือ ประโยชน์ของประชาชน กับ ประโยชน์ของชาติ (หรือที่เรียกว่า ประโยชน์สาธารณะ ไงครับ)
เนื่องจากงานตำรวจเป็นงานวิชาชีพเฉพาะ จึงเป็นการยาก ที่ประชาชนทั่วไป จะเข้าใจการปฏิบัติงานของตำรวจ เมื่อไม่เข้าใจ ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะพยายามมองหาตำรวจที่ "ใจดี" คือ มีแนวคิดในการทำงานแบบ "ประชานิยม" เข้าไว้ก่อน ตำรวจที่ทำหน้าที่เข้มงวดกวดขัน ย่อมไม่เป็นที่พอใจของคนหมู่มาก (ท่านลองนึกภาพว่า ตำรวจเมืองพัทยา ที่พยายามกวดขันให้สถานบันเทิงปิดตามเวลา กับตำรวจอีกท่านที่หาเสียงว่า ถ้าเขาได้รับเลือกตั้ง เขาจะผ่อนปรนเวลาปิดสถานบริการให้อีก 2 ชั่วโมง ท่านคิดว่า 2 ท่านนี้ ท่านใดจะได้รับเลือกตั้ง)
อีกประการ คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักตำรวจระดับสูงๆ หรอกครับ อยู่ดีๆ จะให้เขาไปเลือกระหว่าง พลตำรวจเอก A กับ พลตำรวจเอก B 2 คนนี้ ใครควรเป็น ผบ.ตร. มากกว่ากัน ประชาชนทั่วไปไม่สามารถตัดสินจากผลงานได้ ประชาชนจะหันไปตัดสินใจเลือกจากความคุ้นเคยแทน คือ ใครมีชื่อออกสื่อ มากกว่ากัน คุ้นชื่อใครมากกว่ากัน ก็จะเลือกคนๆนั้น
ฝ่ายตำรวจที่จะต้องลงสมัครรับเลือกตั้งก้เช่นกัน ตำรวจเป็นข้าราชการ ย่อมไม่ชำนาญการหาเสียง หากจะหาทางทำให้ตนมีโอกาสชนะมากกว่าคู่แข่ง ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องวิ่งเข้าหา "ฐานเสียงสำเร็จรูปที่มีอยู่แล้ว" นั่นคือ ฐานเสียงของพรรคการเมือง ด้วยเหตุนี้ ตำรวจที่คาดหวังว่าจะได้ตำแหน่งสูง จึงมีแนวโน้มที่จะทำงานรับใช้ฝ่ายการเมืองมากยิ่งขึ้น (อาจจะไม่ได้รับใช้แบบช่วยทุจริต แต่ก็จะทำงานแบบสนองนโยบายฝ่ายการเมืองโดยเคร่งครัด เพื่อให้พรรคการเมืองนั้นๆ หนุนตนยามต้องลงเลือกตั้ง)
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเห็นว่า ยิ่งใช้การเลือกตั้ง ยิ่งจะทำให้ตำรวจตกเป็นเบี้ยล่างฝ่ายการเมืองมากยิ่งขึ้นครับ