ทำให้อ่านกันง่ายๆ
PDF Download V.1.3
http://www.4shared.com/office/Z3FT0PaM/v13.html?
ขอบคุณมากครับท่านไอซ์ ผมยังโหลดไม่เสร็จ(ติดโหลดหนังเจมส์บอนด์อยู่)แต่รับประกันว่าอ่านแน่นอน
ลงเฟสบุคTAFไปเลยครับจะได้เผยแพร่ข้อมูลไปยังคนทั่วไปด้วย ได้นิดหน่อยก็ยังดีครับ
รถถังเราไม่ได้ด้อยไปกว่าเพื่อนบ้านเลยจริงๆ
ขอความรู้เพิ่มเติมหน่อยครับ คำว่า hunter-killer มันคือการล่า สังหาร ความเข้าใจของผมคือรถถังมันน่าจะทำได้หมด แล้วทำไม บางรถมันถึงทำไม่ได้ครับ มันขึ้นอยู่ที่อุปกรณ์ที่ติดตั้งหรือเปล่า ขอความรู้ด้วยครับ
ในระแวกประเทศเพื่อนบ้านที่มีรั้วติดชายแดนประเทศไทยเรา เจ้า OPLOT –M ของเราเหนือกว่าพวกเค้าทั้งหมดครับ
ส่วนสิงคโปร์และอินโดนีเซียไม่ต้องไปกังวลครับ เพราะประเทศเค้าเป็นเกาะถ้ามีสงครามกันก็คงจะเป็นการรบทางทะเลมากกว่าทางบกแน่นอน
ในส่วนของเวียดนามที่ท่าน icy ไม่ได้กล่าวถึงนั้น ประเทศนี้ไม่กล้ามาหาเรื่องกับเราหรือประเทศอื่นๆแน่นนอนเพราะมีขาใหญ่อย่างจีนคอยโอกาสจะเข้าซ้ำเติมอยู่เป็นเนืองๆ
( ขอขอบคุณท่าน icy ด้วยอีกคนครับ ที่อุตสาทำตารางสรุปมาให้ทุกท่านในบอร์ดได้เข้ามาอ่านและรับข้อมูล )
............เขียนมาตั้งเยอะไฟดับ
อ๊ากกกกกกกกกกกกก
เอาว่า ขออธิบายอีกที
ยุทธวิธีHunter-Killer นั้น คือยุทธวิธีที่ให้ผบ.รถ สามารถค้นหาเป้าหมายและจัดการได้ด้วยตนเอง
สิ่งที่จำเป็นจะต้องมี
-กล้องรอบทิศ (Panoramic Sight)
-ระบบCommander Override หรือ ผบ.รถจะต้องสามารถคุมปืนได้
PT-91M Leo2SG (รวมถึงรถถังที่มีระบบคล้ายๆกันอย่าง T-90A/S T-84 C1ariete )
มีทั้ง2อย่าง
แต่มันมีข้อจำกัด คือ
1.ผบ.รถไม่มีกล้องตรวจจับความร้อนของตนเอง .......ยุทธวิธีรบกลางคืน จึงต้องใช้กล้องของพลยิงซึ่งมีมุมจำกัด -------หมดประโยชน์ตอนกลางคืน (แม้จะมีระบบNight Vision แต่ก็ไม่ไกลนัก)
2. ผบ.รถไม่มีLaser Rangefinderของตนเอง .......ต้องใช้Rangefinder ของพลยิงในการจัดการเป้าหมาย -------เสียเวลา
3.จากข้อ2 ถึงแม้ผบ.รถจะไม่จัดการเป้าหมายด้วยตนเอง การส่งเป้าหมายต่อให้พลยิง ก็เสียเวลาเหมือนกัน
ระบบHunter-Killer สมบูรณ์ ผบ.รถจะต้องจัดการเป้าหมายได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาระบบของพลยิง หรือ สามารถส่งต่อเป้าหมายที่มีข้อมูลสมบูรณ์แล้วให้พลยิงได้ทันที จึงต้องมี
-Laser Rangefinder ส่วนตัวของผบ.รถ
และเพื่อให้ไม่ต้องพึ่งพากล้องตรวจจับความร้อนของพลยิงซึ่งมีมุมจำกัด จะต้องมี
-Thermal Sight ส่วนตัวของผบ.รถ
ซึ่งทั้งLeo 2EVO และ Oplot มีทั้ง2อย่าง (รวมถึง M1A2 Chally2 K1A1 K2 Leclerc T-90MS Leo2A7+)
ซึ่งทำให้ได้เปรียบอย่างมาก กล่าวคือ
-ค้นหาเป้าหมายเวลากลางคืนได้ด้วยกล้องของผบ.เอง (See First)
-ผบ.รถจัดการเป้าหมายได้โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบของพลยิง (จัดการเป้าหมายเร็วกว่า Shoot First)
-หรือผบ.ไม่อยากยิง ส่งต้องเป้าหมายที่วัดระยะแล้วให้พลยิงต่อ (ลดเวลาขั้นตอนการจัดการเป้าหมายองพลยิง) แล้วตนเองก็หาเป้าหมายต่อ
และยังมีระบบครึ่งๆกลางๆ เช่น
ผบ.รถมีThermal Sight แต่ไม่มี Rangefinder เช่น Leo2A5-6
ผบ.รถมีRangefinder แต่ไม่มี Thermal Sight เช่น Al-Khalid K1(ตัว105มม.)
ส่วนระบบที่ผบ.รถใช้กล้องร่วมกับพลยิง และไม่มีกล้องรอบตัวเลย อย่างM1A1 M60A3 ......อันนี้ไม่ถือว่าเป็นHunter-Killer สักเท่าไหร่
ส่วนT-55 T-72S ใช้ระบบคล้ายWWII คือ มีกล้องให้ผบ. แต่ผบ.คุมปืนเองไม่ได้ ได้แต่บอกว่า ซ้าย2นาฬิกา Panther2 !!!
ประมาณนี้แหละ
Edit : ขอแก้ข้อมูลสักนิด กล้องผบ.รถของLeo2SG ยังเป็นแบบเดียวกับ Leo2A4 คือPERI R-17A1 ไม่ใช่A2 A2มีThermal Sight แต่A1 เป็นเปอริสโคป รักษาการทรงตัว(Gyro Stabilized Periscope)
ขอบคุณท่าน icy_CMU มากครับ ถึงบางอ้อเลยครับ กล้อง pnk-6 นี่ถือเป็นหมัดเด็ดของ ผบ รถเลยทีเดียว หวังลึกๆว่าในอนาคตมันจะมีขนาดเล็กลง เเล้ว ทบ.เราเอามาใช้ด้วย
โทษทีครับคุณ cardlock จำสับสนระหว่างรถถัง กับรถถังสายพาน M2A2ที่ติดตั้งจรวดต่อสู้รถถัง
hunter killer น่าจะเป็นศัพท์เฉพาะทางของพวกทหารม้าเค้าใช้กัน เพราะเท่าที่ search หาไม่มีอะไรแบบนี้
***มิน่าละทำไมท่าน icy ถึงรู้เรื่องเกี่ยวกับรถถังดีเหลือเกิน***
ขอแก้ข้อมูล แผ่นที่3
เรื่องความสามารถHunter-Killer ของ T-72S
และกล้องของLeo2SG
V1.3 Update http://www.4shared.com/office/Z3FT0PaM/v13.html?
จัดทำตารางเปรียบเทียบมาให้อย่างนี้ ต้องกราบขอบพระคุณหลวงพี่งามๆ... โดยรวมเราไม่เป็นสองรองใครเลยนะ หากดวลกันตัวต่อตัว (สมัยนี้คงยากแล้วล่ะ) ต่อไปก็เป็นเรื่องการฝึกใช้ให้คล่องละครับ...
ป.ล. ระยะตรวจจับของกล้อง Oplot M = 11 กม. เชียวหรือนั่น...
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเชิงเปรียบเทียบและดูง่าย ขอบคุณท่าน จขกท
ส่วนตัวผมอ่านติดตามมานานแล้วครับ เอาใจช่วยมาตลอดได้อ่านแล้วหลายคนคงจะเข้าและดีใจแทนทัพบก อยากให้มาให้มาเร็วๆครับ
ส่วนตัวผมสนใจจรวดที่ยิงจากปืนหลักและต่อสู้รถถังที่ติดตั้งบนรถครับน่าจะดีกว่าข้างบ้านเรานะครับ ขอผู้รู้ช่วยอธิบายด้วยก็ยิ่งดี
อนาคต ข้างบ้านจะจัดคุณสมบัติเบาๆแบบนี้มาด้วยหรือปล่าว
Kazan Ansa-2RC เหมาะๆวิ่งเล่นแถวแนวชายแดน
Ansat-001
Ansat-003
ดูจากข้อมุลแล้ว เจ้าออปล๊อตของเรา เป็นรอง ก็ แต่ ลีโลจริงๆ แถมคนครอบครองลีโอก็ มิตรประเทศเราทั้งนั้นแบบนี้สบายใจได้...อิอิ
ดูง่ายดีครับตาราง แต่ขอแนะได้ไหมครับเรื่อง อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้า ถ้าเอาม้าต่อน้ำนักนี้จะดูเข้าใจง่ายกว่านะผมว่า...ยกตัวอย่างลีโอ ถ้าคิดแบบผมว่าจะเป็น 1 ม้า แบกน้ำหนัก 40 กิโลกรัม(คิดเทียบเมื่อหนัก 60ตัน) เจ้าออปล๊อตของเรา ก็จะเป็น 1 ม้าแบกไป 42.5 กิโลกรัม ต่างกันแค่ 2.5 กิโลกรับ แบบนี้ผมว่า เข้าใจเรื่องแรงได้ง่าย อิอิ ควรมิควรแล้วแต่จะกรุณานะครับ ด้วยความเคารพครับผม
ปล.ถ้าเทียบกับราคาด้วยแล้วคุ้มสุดๆครับ(หลายคนชอบลีโอ ...แต่ผมบ้าถังมะกัน) แต่เจ้านี้คือทางเลือกที่ดีครับ เออแต่ทำไม่ผมชอบปืน 120 ไม่รู้นะ 555 จะได้เข้าขากับเพื่อน สิงคโปร์ อินโด
ขอถามหน่อยนะครับ
PT-91กับT-72ยิงATGMไม่ได้เหรอครับ ผมนึกว่ารถถังตระกูลT-72(+ใช้ปืนหลักแบบเดียวกัน)จะยิงATGMได้หมดซะอีก
ปล. เข้าไปโหลดไฟล์แล้วมันขึ้นว่า"โดนลบ"ไปแล้ว???
แก้ลิงค์แล้ว
PT-91 และ T-72S มาจากT-72รุ่นส่งออกเหมือนกัน
PT-91 มาจากT-72M1 ยิงจรวดไม่ได้แน่ๆ
T-72S มาจาก T-72B เป็นรุ่นส่งออก แม้T-72B จะยิงจรวดได้ แต่T-72S ขออนุมานไว้ก่อนกว่ายิงจรวดไม่ได้
ส่วนเรื่องแรงม้า:น้ำหนัก
เป็นหน่วยมาตรฐานในการวัดความแรงของรถถัง หรือ รถต่างๆ รวมถึงหากเปลี่่ยนแรงม้าเป็นแรงขับ ก็จะได้อัตราส่วนแรงขับต่อน้ำหนัก ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในอากาศยานทุกแบบ
ส่วนน้ำหนัก:แรงม้า จะเป็นการวัดLoading ของเครื่องยนต์นั้นๆ
ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ
แรงม้าต่อน้ำหนัก = เปรียบเทียบประสิทธิภาพของรถถังแต่ละคัน ใช้เทียบกันแบบง่ายๆว่ารถถังคันไหนแรงกว่ากัน(อัตราเร็วสูงสุด)
น้ำหนักต่อแรงม้า = เปรียบโหลดหรือน้ำหนักที่เครื่องยนต์นั้นๆจะต้องรับ ....... ใช้เทียบว่า เครื่องยนต์ของรถถังนั้นๆจะต้องรับภาระเท่าไร (อัตราเร่ง)
แอบดู Version 2.0