หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


บึมรถทหารยะลา เสียชีวิต 8 เจ็บ 2 ชาวบ้านโดนลูกหลงอีก 2 ราย

โดยคุณ : kaypui42 เมื่อวันที่ : 04/07/2013 22:45:29

Pic_354196

 

โจรใต้ลอบวางระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ทหารยะลา ขณะเดินทางกลับบ้านในช่วงลาพัก บนถนนในหมู่บ้าน อ.กรงปินัง ส่งผลทหารเสียชีวิต 8 นาย บาดเจ็บ 2 นาย ชาวบ้านขี่่ จยย. โดนลูกหลงบาดเจ็บอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่คาดเป็นระเบิด 2 ลูก น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กก. ส่วนที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส คนร้ายประกบยิงชาวบ้านขี่ จยย. เจ็บอีก 2 รายเช่นกัน...

เมื่อเวลา 06.20 น. วันที่ 29 มิ.ย. 56 ศูนย์วิทยุ สภ.กรงปินัง จ.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.4021 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 13 ขณะเดินทางด้วยรถยนต์ออกจากฐานปฏิบัติการเพื่อกลับบ้านในช่วงของการลาพัก เหตุเกิดบนถนนภายในหมู่บ้าน ม.2 ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จ.ยะลา

 

 

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 3 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรงปินัง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมปิดกั้นเส้นทางไม่ให้ประชาชนสัญจรผ่านไปมา เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายซ้ำสองขึ้นได้ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

ล่าสุดเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวจังหวัดยะลา รายงานเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ทหารที่โดยสารมากับรถทั้งหมด 10 นาย เสียชีวิตทั้งหมด 8 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย เบื้องต้นพบศพแล้ว 6 ศพ ขณะที่ชาวบ้าน 2 ราย ที่ขี่่ จยย.ไปกรีดยางตามปกติ ได้ผ่านมาในช่วงเวลาดังกล่าวพอดี โดยลูกหลงได้รับสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บอีก 2 ราย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายลอบขุดหลุมวางระเบิดไว้ 2 ลูก น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กิโลกรัม

รายชื่อกำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดดังกล่าว ได้แก่ 1.ส.ท.อานนท์ บางศิริ 2.พลทหารศิริพัฒน์ ปันนาสาร 3.พลทหารธีรพงศ์ ดวงสุวรรณ 4.จ.ส.อ.วิโรจน์ คำเรือง 5.ส.ท.คมกริช เพตะการ 6.พลทหารศักดา วงษ์คำ 7.พลทหารพิษณุเดช หอยสังข์ และ 8.พลทหารสามารถ บ้วนหลี ส่วนผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรปินัง คือ 1.สท.ภานุมาศ พลวาสี มีอาการปวดคอและแขนข้างขวา 2.ส.อ.นวกร แก้วอรรถ มีอาการปวดต้นคอและหลัง

 

 

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 02.45 น. คืนที่ผ่านมา ร.ต.ท.วันชัย รักษ์บุญเมือง พนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดบนถนนสายท่าเรือ-โกตาบารู บ้านบลูกาฮูลู หมู่ 2 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มตะแคงอยู่ข้างทาง ใกล้กันมีกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษา รพ.รือเสาะ ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ นายอับดุลอาซิ สุเด็ง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 2 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีบาดแผลถูกกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าที่บริเวณไหล่ขวา 1 นัด และนายมะรอปียี เจ๊ะเลาะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 3 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนชนิดเดียวกันเข้าที่กลางหลัง มือขวา ขาขวา และไหล่ขวา รวม 4 นัด อาการสาหัส แพทย์ได้นำตัวส่งรักษา รพ.นราธิวาสราชนครินทร์

 

 

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอับดุลอาซิได้ขี่รถ จยย.ไปรับนายมะรอปียีที่่บ้านพัก เพื่อเดินทางไปทำธุระในหมู่บ้านจุดเกิดเหตุ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนใ ช้รถ จยย.เป็นพาหนะ ขับไล่ตามหลังมา พอสบโอกาสคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่ผู้บาดเจ็บจนรถเสียหลักล้มคว่ำลง แล้วคนร้ายได้อาศัยความมืดหลบหนีไป ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ร้ายรายวัน.

 

http://www.thairath.co.th/content/region/354196





ความคิดเห็นที่ 1


ขอแสดงความเคารพ และอาลัย ต่อผู้ที่สละชีพเพื่อชาติ

โดยคุณ kaypui42 เมื่อวันที่ 29/06/2013 10:30:53


ความคิดเห็นที่ 2


ผมว่าน่าจะจัดชุดลาดตระเวนเดินเท้าไปตามขอบเส้นทางถนนได้แล้วนะครับ เพื่อจะได้เช็คดูความผิดปรกติของถนนว่ามันได้มีการขุดรูเพื่อฝังระเบิดเอาไว้หรือไม่

ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จะมีทหารตายเพราะโดนระเบิดออกข่าวแบบนี้อยู่เรื่อยๆ อีแบบนี้มันทำลายขวัญและกำลังใจของทหารและประชาชนรวมทั้งผมด้วย

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 29/06/2013 11:40:29


ความคิดเห็นที่ 3


              R I P ทหารหาญทุกท่านครับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆที่คุ้มครองประเทศไทย โปรดดลบันดาลให้ด้ามขวานเราสงบโดยเร็วเถิด  ความสูญเสียมากเกินจะรับได้.....   ผมคนอิสานเอาใจช่วยครับ..


โดยคุณ nui-714 เมื่อวันที่ 29/06/2013 12:26:56


ความคิดเห็นที่ 4


วิธีแก้ปัญหาโจรใต้แบบได้ผลแต่กล้าจะแก้จริงๆหรือเปล่าแค่นั้นเอง

1.บล็อคชายแดน ตัดการส่งกำลังบำรุงและผู้บาดเจ็บ

-ทำกำแพงตลอดแนวชายแดน+ถนนคู่ขนานตามกำแพง

2.สแกนพื้นที่ต้องสงสัยแบบปูพรม

-เข้าทีละอำเภอโดยปิดล้อมจากรอบนอกเข้าข้างใน

3.เพิ่มความถี่ของจุดตรวจ

-เพิ่มจุดตรวจให้ถี่ยิ่งขึ้นครอบคลุมพื้นที่

4.บังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาดรุนแรง

-ใช้กฎหมายก่อการร้ายควบคุมตัวเหมือนตอนเสื้อแดง

ทำแค่นี้ไม่เกิน2เดือนจบ โจรไม่โดนจับตายก็หนีเข้ามาเลย์เอง

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 29/06/2013 12:56:37


ความคิดเห็นที่ 5


ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของทหารกล้าที่พลีชีพครับ  เห็นภาพซากรถแล้วหดหู่ใจจริงๆ ครับ

โดยคุณ freebird เมื่อวันที่ 29/06/2013 13:20:05


ความคิดเห็นที่ 6


เสียใจด้วยครับ

โดยคุณ uuhotu เมื่อวันที่ 29/06/2013 21:45:57


ความคิดเห็นที่ 7


ผมได้เคยอธิบายไว้แล้วใช่มั้ยว่าชาวบ้านในพื้นที่มองพวกเรายังไงทำไมถึงไม่เคยจำกันเห็นข่าวออกแล้วปวดใจมากพูดมาได้ยังไงว่าชาวบ้านในพื้นที่ไม่รู้ อย่าว่าแต่ทหารเลยแค่คนต่างหมู่บ้านเข้ามาในเขตหมู่บ้านคนพวกนี้ก็รู้กันแล้วแล้วนี่ถึงขั้นเข้ามาขุดดินลำเลียงระเบิดดักซุ่มจุดระเบิดใครจะไม่รู้บ้าง คุณรู้มั้ยมันใช้อะไรขุดดินมันใช้เครื่องตัดหญ้ามาแปลงแล้วใช้เจาะเข้าใต้ถนนเสียงเครื่องดังจะตายไม่รู้ได้ไง ขนาด50กิโลนี่ไม่เล็กนะถังแก๊ซยาว2ถังคิดดูไม่รู้ได้ไง นี่มันเป็นการวางแผนที่ผ่านมติความเห็นของคนในหมู่บ้านแล้วชัดๆว่าให้ก่อการได้ เพราะหลังเกิดเหตุคนพวกนี้มีการประสานกรรมการสิทธิมนุษย์ชนในพื้นที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านแล้วก่อนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหมู่บ้านซะอีก แล้วจะบอกไม่รู้ได้ยังไง ผู้ใหญ่บ้านเราทำไมชอบหลับหูหลับตากันแบบนี้ จะต้องปล่อยให้น้องๆเราตายกันอีกซักเท่าไหร่ถึงจะรู้ตัวซักทีว่าคนพวกนี้ไม่ต้องการคุยกับเราแล้วจำคำผมไว้นะถ้าเมื่อไหร่เรายอมถอนทหารออกจริงตามข้อเสนอมันจะฆ่าล้างโคตรเราจำไว้ คนขอมมันตายคุณไปดูได้ทุกศพมันทำป้ายบอกหมดว่าคนเหล่านี้เป็นวีรบุรษของมันไม่เชื่อไปดู อย่ามาโลกสวยบอกว่าต้องคุยเรื่องจะจบ จะให้คุยได้ไงในเมื่อคนก่อเหตุเค้าไม่คุยคนที่คุยนะใครก็ไม่รู้ คนที่ก่อเหตุมันจ้องแต่จะฆ่าล้างโครตมันไม่คุย และสิ่งที่พวกมันทำมันไม่คิดว่าผิดด้วยดังนั้นอย่าไปคิดว่ามันจะหยุด

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 30/06/2013 00:01:31


ความคิดเห็นที่ 8


พวกนี้มันใช้รู ของท่อระบายน้ำที่รอดใต้ถนน  หรือ ขุดด้วยห้วเจาะถนนที่ดัดแปลง ติดกับเครื่องตัดหญ้า(ใช้ท่อเก็บเสียงเหมือนพวกลอบตัดไม้)  พวกนี้แบ่งการทำงานเป็นชุดขุดพวกหนึง ชุดวางระเบิดชุดหนึ่ง ชุดประกอบระเบิดชุดหนึ่ง และชุดลงมืออีกชุดหนี่ง  ไอ้ชุดขุดมันขุดเตรียมพร้อมไว้แล้วหลายหลุม หลายสถานที่ มีกลุ่มที่วางแผนคอยให้งานและกำหนดจุดไว้  มันไม่ธรรมดาว่างแผนไปวันๆ ครับ ขอให้กำลังกับผู้สูญเสียทุกท่าน

โดยคุณ potae เมื่อวันที่ 30/06/2013 07:42:17


ความคิดเห็นที่ 9


จะไปแก้ได้ไงครับ ผู้ใหญ่ของเรา ยังไม่กล้า ทำอะไรสักอย่าง

โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 30/06/2013 08:11:45


ความคิดเห็นที่ 10


โดยส่วนตัวเห็นว่าเราดำเนินการเชิงรับ เชิงป้องกัน อย่างเดียวไม่ได้ ควรดำเนินการเชิงรุก กดดัน ให้มากขึ้น และโดยส่วนตัวขอให้ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกต ดังนี้

1. ควรให้รถราชการทุกประเภทในพื้นที่ หรือ ปฏิบัติงานในพื้นที่ ติด GPS ทุกคัน และแจ้งเส้นทางการเดินทาง ปฏิบัติการก่อนเดินทาง

2. ตั้งวอร์รูมกลาง พร้อมห้องคอมมานบัญชาการ ตรวจสอบ การเดินทาง เส้นทางการเดินทางของรถราชการทุกประเภทในพื้นที่ และเป็นหน่วยงานใช้ดาวเทียม หรือ UAV เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง

3. จัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือ รบพิเศษ เคลื่อนที่เร็ว เข้าถึงที่เกิดเหตุภายใน 15 นาที ประจำตลอด 24 ชั่วโมง ควรเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ หรือ รถหุ้มเกราะ ดัดแปลงพิเศษ อาจติดแผ่นเหล็กหน้ารถ คล้ายรถไถ เก็บกวาดสิ่งกีดขวาง

4. ตั้งหน่วยทหารในพื้นที่่หมู่บ้านสีแดง  และใกล้เขตพื้นที่ป่า กดดันโดยจัดให้มีหน่วยลาดตระเวนเท้า รอบหมู่บ้าน และในพื้นที่ป่า พื้นที่รับผิดชอบ ไม่กำหนดห้วงเวลาให้ชัดเจน (ลักษณะคล้ายสงครามเวียดนาม)

5. ใช้ยุทธวิธีเทครัวในอดีต ถ่ายเทครอบครัว ผู้ก่อความไม่สงบ ตัดแหล่งพักผิง โดยรัฐต้องจัดพื้นที่ทำกิน ในพื้นภาคเหนือ อิสาน และจัดให้มีกิจกรรมร่วมกับชุมชนอิสลามในภาคเหนือ อิสาน การเรียนรู้ถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ หรือ ใช้กำไลข้อมือ GPS (เหมือนที่กำลังจะใช้กะพวกต้องโทษกักขัง) ถอดเองไม่ได้ ติดตาม ตรวจสอบผู้ต้องสงสัย (ข้อนี้ละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่จะป้องกันผู้บริสุทธิได้มากที่สุด)

6. ให้รัฐจัดที่ดินของรัฐทำการเกษตร หรือถูกทิ้งร้างในพื้นที่ ให้กับเกษตรกรยากจนไร้ที่ดินทำกินในทุกภาค ของประเทศ เข้ามาทำการเกษตร และพลิกฟื้นที่ดินในพื้นที่  และจัดหน่วยทหารคุ้มครองดูแลความปลอดภัย

7. ให้สิทธิทางภาษี ส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมและมีการจ้างงานในพื้นที่ หรือ จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลในพื้นที่อย่างจริงจัง หรือ ส่งเสริมให้ประเทศสิงคโปร์ มาตั้งนิคม โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน เศรษฐกิจในพื้นที่

8. ไม่ทิ้งงานมวลชน เสริมสร้างความสัมพันธ์ ให้ความเป็นธรรม ระหว่าง จนท.รัฐ กับ ชาวบ้านในพื้นที่ และใช้หลัก เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ขององค์ท่าน เข้ามาบูรณาการ จัดการปัญหา

เท่าที่คิดได้มีเท่านี้ก่อนครับ     

โดยคุณ tommy เมื่อวันที่ 30/06/2013 11:27:32


ความคิดเห็นที่ 11


RIP แด่เพื่อนนักรับผู้กล้าทั้ง 8 นาย

 

ในหลายๆข้อที่สมาชิกออกความคิดเห็นมา ปัจจบันเราก็ทำกันอยู่ครับ ผมเข้าใจหน่วยที่สูญเสียดี

ในพื้นที่การรบย่อมมีเกณฑ์เสี่ยง  ทำงาน 365 วันต่อปี 24 ชั่วโมงต่อวัน ในทุกภารกิจ ทุกด้าน รวมๆหลายพันภารกิจต่อปี   ก็ลองนึกภาพตามครับว่าจะมีเกณฑ์เสี่ยงเช่นไร  

เพิ่มเติมอีกนิด  ฝ่ายตรงข้ามไม่มีสื่อฯในมือ แต่ทำไมฝ่ายตรงข้ามถึงสามารถนำเสนอ "ประสิทธิพล" ของเขาได้อย่างกว้างขวาง     

  เป็นเพราะ "สื่อฯ" ของรัฐฯเองหรือไม่ที่เป็นตัว "ขยาย" เป็นตัว "นำเสนอ" ผลการปฏิบัติของ ฝ่ายตรงข้าม  ทำหน้าที่ในฐานะ "แนวร่วมมุมกลับ"  โดยเฉพาะไอ้สื่อฯที่ชอบนำเสนอในลักษณะ "วิเคราะห์" ออกทีวีทุกเช้า นี่ตัวดีเลย  น่าตบให้เลือดกลบปาก  อยู่ห่างร่วมพันกิโลฯ แต่เสล่อรู้ดีจังเลย  ที่ผมพูดส่วนตัวก็ไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่า กรอบงานที่ทำอยู่ครับ  เข้าข่ายเสล่อเหมือนกัน 5555555

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 30/06/2013 18:04:56


ความคิดเห็นที่ 12


   ขอแสดงความเสียใจต่อญาติพี่น้องผู้สูญเสียครับ

 

กด LIKE ให้ท่าน batnight  ครับ

  

  พวกนี้ชอบทำตัวแบบ.....ที่ชอบลอบกัด   ไม่กล้าเผชิญหน้าตรงๆ     เจองูเจอแขกตีแจกก่อนครับ  

  

ก็อย่างที่เคยบอก   เราอาจจะโดนโลกมุสลิมคว่ำบาตรแล้วตัดขาดการส่งน้ำมัน    พวกผู้ใหญ่ถึงไม่กล้า      และสิ่งนี้ก็ยังคงเป็นเครื่องต่อรองต่อไปกับเรา    ตราบที่เราพึ่งพาตนเองไม่ได้ในเรื่องทรัพยากรเชื้อเพลิง      ผมถึงสนับสนุนให้ได้ข้อตกลงกับเขมรในเรื่องบ่อน้ำมัน(ก๊าซ)ให้เร็วที่สุดและมีการขุดเจาะนำมาใช้ให้เร็วและมากพอจนไม่ต้องนำเข้าให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ      เมื่อไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันจากโลกมุสลิม    อะไรก็ง่าย

   พอมีเงินจากการขายน้ำมันก็สามารถเสริมสร้างกองทัพและอุตสาหกรรมทหารได้    ใช้น้ำมันและก๊าซเป็นเครื่องต่อรองกับมหาอำนาจ

 

  เมื่อได้แบบที่ว่าแล้ว     แนวนโยบายที่เหลือก็ว่ากันตามเหมาะสมกับสถานะการณ์    จะบี้โหดๆแบบรัสเซีย   หรือจะขุดรากถอนโคนแบบอิสราเอล   หรือจะแค่ตบสั่งสอนแบบจีนก็แล้วแต่ครับ    

 

  ผมยังคงสนับสนุนแนวคิดตั้งนิคม  ชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม  เบียดแทรกเข้าไปในพื้นที่ครับ   เพื่อความสงบของพื้นที่ในระยะยาว  

 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 30/06/2013 21:18:22


ความคิดเห็นที่ 13


สิ่งที่คุณ batnight นำเสนออยู่นั้นมันก็ไม่ถูกต้องเสมอไปหรอกครับ ผมจะบอกให้ว่าชั่วโมงนี้ไม่มีชาวบ้านคนไหนอยากจะแจ้งความให้เจ้าหน้าที่หรอกครับ พวกชาวบ้านเค้าก็กลัวกันทั้งนั้นแหละขนาดทหารยังคุ้มครองความปลอดภัยให้ชีวิตตัวเองไม่ได้แล้วชาวบ้านจะเอาฝากชิวิตให้กับทหารได้หรือ เกิดชาวบ้านเค้าแจ้งความไปแล้วแล้วทหารไม่สามารถตามจับตัวคนวางระเบิดมาได้ แล้วพวกมือวางระเบิดกลับมาเล่นงานชาวบ้านทีหลังทำงัยใครกล้ารับประกันความปลอดภัยชีวิตให้พวกเค้า


แต่ผมมีความคิดเห็นแบบเดียวกันกับท่าน FW190 ผมว่ารัฐบาลให้สิทธิและเสรีภาพสื่อไทยในการนำเสนอข่าวแบบนี้มากจนเกินไปจริงๆรัฐควรจะกำกับดูแลควบคุมในเรื่องนี้เพราะมันเป็นเรื่องด้านความมั่นคงของชาติจริงๆแล้วไม่ควรนำเสนอข่าวใดๆเลยด้วยซ้ำเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้   ยิ่งนำเสนอข่าวยิ่งไปให้ความสำคัญกับมัน ยิ่งตอกย้ำผลงานและความสำเร็จของพวกโจรและทำให้พวกมันได้ใจ และจริงๆรัฐควรจะนำพรก.ฉุกเฉินนำกลับมาใช้ได้แล้ว ก็ในเมื่อเจรจาไม่สำเร็จไม่ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงอะไรกันอีกแล้ว จะเดินเครื่องการกวาดล้างแบบบนดินหรือใต้ดินจะในทางลับหรือทางแจ้งก็ทำเข้าเหอะ

 

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 30/06/2013 22:11:59


ความคิดเห็นที่ 14


ขอแสดงความเสียใจต่อท่านที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บด้วยครับ  จากเหตุความรุนแรงที่เกิด ผมอยากให้จัดการด้วยความเด็ดขาดแบบปิดลับ ไม่ต้องเปิดเผยต่อสื่อ

และจัดโซนนิ่ง ต่อผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัย ทุกคนอย่างละเอียดไม่ให้กระดิกตัวไปไหน โดยเราจะคุมเข้มจำกัดขอบเขต  แต่ถ้ารู้ว่าคนไหนเข้าข่ายจัดการเถิดครับแบบลับๆ

จริงแล้วอยากให้มีหน่วยที่ปฎิบัติการ ไล่ล่าซุ่มดูเวลากลางคืนหากตรวจพบจัดการขั้นเด็ดขาดได้เลยครับ (ขออภัยถ้าความคิดไม่ถูกใจคนบางคน)

โดยคุณ part88 เมื่อวันที่ 30/06/2013 22:36:38


ความคิดเห็นที่ 15


ตามข้อเสนอของท่าน tommy  ข้อที่ 7

7. ให้สิทธิทางภาษี ส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมและมีการจ้างงานในพื้นที่ หรือ จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลในพื้นที่อย่างจริงจัง หรือ ส่งเสริมให้ประเทศสิงคโปร์ มาตั้งโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน เศรษฐกิจในพื้นที่

---------------------

ใครจะมาตั้งโรงงานละครับ  .. คนที่เป็นนักธุรกิจด้านอุตสาหกรรม ก่อนที่เค้าคิดจะมาตั้งโรงงานอุตสาหกรรม เค้าจะสำรวจ และ ประเมิน ด้านต่างๆหลายๆด้าน  เช่น  1. เป็นพื้นที่ที่มีน้ำสำหรับโรงงานอย่างพอเพียงตลอดเวลาอย่างน้อย 50 ปี ( ทุกโรงงานต้องใช้น้ำในปริมาณมาก )  2. มีแรงงาน ชั้นฝีมือแรงงาน มีวิทยาลัย หรือ มหาวิทยาลัยเน้นด้านช่างวิชาชีพ ( ประเภทช่างกลต่างๆ หรือ วิศวะสาขาต่างๆ )

แล้วในพื้นที่ 3 ชายแดนใต้ เค้าไม่ค่อยนิยมเรียนสายช่าง ส่วนมากจะไปเรียนสายศาสนา ซึ่งจบออกมาปีละเป็นหมื่นคน แล้วจะมีซักกี่คนที่จะได้เป็นครูสอนศาสนาหรือที่เรียกกันว่า อุซต๊าซ .. แล้วพวกที่ไม่ได้เป็นครูสอนศาสนาตามที่หวังก็ไม่มีงานทำ พอจะไปสอบแข่งขันเข้าทำงาน ความรู้ก็สู้พวกเรียนตามวิทยาลัย หรือ มหาลัย ของรัฐไม่ได้ ฝีมือแรงงานในโรงงานก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้  ครั้นจะให้ไปทำงานคัดปลากระป๋องในโรงงานก็ไม่ทำเพราะถือว่าจบมาสูงเกินไป .. นี่แหละ คือ ปัญหาทางสังคม

ประเทศมาเลเซียกับสามชายแดนใต้ห่างกันนิดเดียว ถามว่าทำไม ความรู้ของประชาชนสองประเทศต่างกันสุดขั้ว .. อย่างของมาเลเซีย ลูกหลานของเค้า พ่อแม่เค้าให้ลูกหลานเน้นการศึกษาด้านสามัญ เน้นภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ส่วนเรื่องเรียนศาสนาเป็นอันดับสาม แล้วค่อยศึกษาภาษาอาหรับดังนั้นเราจะสังเกตุได้ว่า คนมาเลย์ส่วนมากจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก มีความรู้ด้านต่างๆดี

แตกต่างกับ คนในสามชายแดนใต้ .. กลับตรงข้ามกับมาเลย์ เน้นเรียนศาสนาเป็นอันดับแรก ภาษาอาหรับเป็นอันดับสอง .. เรียงลำดับความสำคัญผิดตั้งแต่เริ่ม ก็ผิดแล้ว อนาคตไม่รู้จะไปทางใหน

ผมเองก็อยู่สามชายแดนใต้ ผมบอกตามตรง .. หมอ หรือ พยาบาล ที่อยู่ตามโรงพยาบาลของรัฐ เมื่อสมัยก่อนเก่งๆกว่านี้เยอะ จนปัจจุบัน หมอ พยาบาลที่เก่งๆย้ายออกไปเกือบหมด  .. ผมเคยเห็นตั้งแต่เป็นเด็กเข็นรถพยาบาลชุดสีเขียว จนเดี๋ยวนี้กลายเป็นหมอเฉยเลยก็มี ( แต่พวกนี้ ปฐมพยาบาลขั้นต้นเก่งมากๆ ขอยอมรับเลย )

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 01/07/2013 10:53:16


ความคิดเห็นที่ 16


       ท่าน Soda77  กล่าวมา   เป็นข้อเท็จจริงข้อหนึ่งที่สำคัญใน 3 จังหวัดชายแดนครับ    เพื่อนผมที่อพยพหนีมาพูดตรงกันเผง   ใช่เลย   เด็กในพื้นที่ 3 จังหวัดที่เรียนสายสามัญนั้นมีโอกาสในชีวิตดีกว่าครับ   แล้วทำให้เป็นการยากแก่ฝ่ายโน้นที่จะสามารถปลูกฝังความคิดแบ่งแยกได้   ผิดกับโรงเรียนสอนศาสนาในพื้นที่   โดยเฉพาะปอเนาะเอกชนนี่ตัวแสบเลย   ปลุกฝังแนวคิดมาโดยตลอด    และง่ายดายด้วย   

   ดังนั้นเป้าหมายที่ทางฝ่ายโน้นก่อกวน   จึงจำเป็นต้องเผาโรงเรียน   ทำให้ระบบการศึกษาภาคปกติ  สายสามัญ  สายอาชีพ  ต้องหยุดการเรียนการสอนแล้วบังคับให้เด็กมาเลือกสายศาสนาเป็นหลัก    เพื่อปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ได้ง่าย

   แต่ยังไงแนวคิดแบ่งแยกก็สามารถกระจายไปสู่เด็กที่เรียนสายอื่นๆได้อยู่ดีครับ     เพราะเพื่อนของเด็กที่เรียนสายสามัญ  สายอาชีพ   ก็เป็นพวกที่เรียนสายศาสนา  บ้านติดกัน   เพื่อนบ้านกัน   แนวคิดแบ่งแยกก็ถูกถ่ายทอดไปถึงอยู่ดีครับ      แต่อาจจะยากขึ้น      ดังนั้นต้องจัดการพวกตัวต้นเรื่องในการสร้างอุดมการด้วยครับ     ต้องจัดการพวกที่สร้างระบบปลูกฝังเด็กให้เดินไปในทางที่ผิดเช่นกัน     และพวกนี้ได้รับการสนับสนุนจากภายนอกประเทศ   จากโลกมุสลิมในตะวันออกกลาง   และจากประเทศเพื่อนบ้านเราเอง     และอำนาจจากภายนอกนี่แหล่ะครับ(รวมถึงการทะเลาะกันเองชิงอำนาจกันเองของคนไทย)   ที่กดดันทำให้การแก้ปัญหา 3 จังหวัดทำได้ไม่เต็มที่   ไม่เต็มกำลัง   ไม่มีเอกภาพ   และไม่เด็ดขาด    เพราะอาจจะถูกตอบโต้จากโลกมุสลิมภายนอกได้  

 

  ยังไงแนวนโนบายในระดับระหว่างประเทศ   ระดับประเทศ  ระดับพื้นที่   ก็ต้องสอดคล้องกันครับ       ผมสนับสนุนแนวนโญบายระหว่างประเทศและระดับประเทศว่า   เราต้องพึ่งพาตนเองด้านพลังงานให้ได้เร็วที่สุดก่อน      เมื่อแรงกดดันภายนอกไม่มีผลต่อการตัดสินใจใดๆของเราแล้ว       เราจะสามารถจัดการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มหัวรุนแรงทั้งภายในและภายนอกประเทศ   รวมถึงการกดดันอย่างแรงที่มีต่อเพื่อนบ้านได้แบบแรงมากๆด้วย         เมื่อนั้น    เราถึงจะจัดการในแนวนโยบายระดับพื้นที่   เช่นระบบการศึกษาที่เป็นรากเง้าแห่งการปลูกฝังได้       ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้เวลายาวนานมากและต้องได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากฝ่ายตรงข้ามอย่างถึงที่สุดเช่นกัน    

   ดังนั้น   นิคมไทยพุทธ  ไทยมุสลิมที่เป็นตัวกันชนควรต้องได้รับการสถาปนาขึ้นในระหว่างที่ปัญหายังไม่สามารถยุติมาอยู่ในสภาวะสงบได้ครับ      ซึ่งระบบการศึกษาสำหรับคนในพื้นที่จะยังไม่สามารถสถาปนาได้มั่นคงในเวลานั้นครับ      ฝ่ายความมั่นคงต้องพึ่งพาประชาชนในนิคมไทยพุทธ-ไทยมุสลิมเป็นอย่างมากในเรื่องข่าวสาร   และความร่วมมือจากภาครัฐ    

  เป็นแนวนโยบายแบบที่จีนทำในอุยกุย   และทุกๆเขตปกครองพิเศษของจีนครับ

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 04/07/2013 22:45:29