ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ครับ นโบบายของเราคือซื้อเค้าเอาอย่างเดียวครับและต้องของต่างชาติด้วย (มันได้เก๋าเจี๊ยะ) พัฒนาเองมันสิ้นเปลือง เสียเวลา เสียสมอง ถ้ามอง ณ ปัจจุบัน มันดี แต่อนาคตแย่ วาดฝันว่าจะตั้งโรงงานผลิต หรือ ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิต แต่ก็เป็นอวกาศของผู้ใหญ่ ขายฝันให้คน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการในประเทศ ผมไม่ค่อยเชื่อมั่นครับ จนกว่าจะได้ลงมือทำ ให้เห็นจริง ๆ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ก่อนก็ได้ครับ เช่น ผลิตปืนเล็กยาว รถหุ้มเกราะ รถสายพาน ในอดีตเราทำเองได้หมด จนถึงเครื่องบิน แต่ปัจจุบันแทบจะไม่เหลือองค์ความรู้อยู่แล้ว สงสาร first win ของชัยเสรีเหมือนกัน น่าจะมีการระดมทุนของประชาชนซื้อให้ทหาร ในสามจังหวัดชายแดนใต้ เหมือนรถรับบริจาคเลือด สงสัยคงต้องให้คุณอาสรยุทธ์ฯ เป็นโต้โผครับ อิอิอิ    

ถ้าเเนวคิดยังไม่เปลี่ยนเเปลงนะครับ หวังว่าจะไม่เปลี่ยน

ชมเเก้ขัด

เท่าที่ทราบมาจากญาตินายทหารผู้ใหญ่คนเดิมของผม

    โครงการต่างๆเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น รถเกราะของชัยเสรีเฟิร์สวิน หรือ DTI-1 ทางกลาโหมลงทุนไปเยอะแล้วครับ(แว่วๆว่าเกินพันล้านไปแล้ว) โครงการยังคงอยู่ ไม่ล้มและพับอย่างแน่นอน เท่าที่ถามมาสาเหตุที่ยังไม่สามารถนำเข้าประจำการได้ หลักๆคือ ยังอยู่ในช่วงการทดสอบและแก้ไขข้อพบพร่องหลายๆอย่างต้องให้เวลา ทีมงานผู้ออกแบบเค้าด้วยครับ ในส่วนของ รถเกราะชัยเสรี tiger-1 นั้นยังเป็นโครงการกระดาษอยู่ครับ จึงยังไม่มีความคืบหน้าใดๆในเรื่องนี้

โครงการจัดซื้อจัดหารถเกราะ BTR-3 กับรถเกราะชัยเสรีเฟิร์สวิน ต้องแยกแยะให้ถูกประเด็นในเรื่องของการนำไปใช้งานครับ BTR-3 เน้นการใช้งานในเชิงรุกแบบเข้าประจันหน้าในแนวหน้าความหนาของเกราะที่ทนต่อแรงระเบิดและกระสุนมากกว่า  ส่วนของชัยเสรีเฟิร์สวินส์นั้น น่าจะเน้นไปในเรื่องของการลำเลียงพลในแนวหลังและสนับสนุนกับการลาดตระเวนในสงครามมากกว่าครับ

(ปล.ญาตินายทหารของผมบอกว่าถ้าทางกลาโหมล้มโครงการเหล่านี้มีหวังได้ถูก สตง.เช็คบิลแน่)

ผมไม่คิดว่าบีทีอาร์เกราะทนทานกว่าเฟิร์สวินนะ ไปดูข้อมูลแล้วเกราะไม่อึดถึกควายเท่าไหร่ เป็นรถรบติดอาวุธหนักๆ เคลื่อนที่เร็ว ขนทหารราบ แต่ตัวรถเองเกราะไม่หนา

เกราะกันระเบิดใต้ท้องรถ V น่าจะสามารถแยกส่วนโมดูลแล้วเสริมอุปกรณ์ซับแรงระเบิดอีกชั้น(เช่นโชคอัพ)แต่ต้องออกแบบมาเป็นพิเศษ 

เพราะถึงแม้จะมีเกราะ V กระจายแรงระเบิดไปด้านข้างก็ยังมีแรงระเบิดที่กระทำกับตัวรถทำให้กำลังพลภายในรถบาดเจ็บได้อยู่

น่าจะขายให้กับหน่วยงานตำรวจพิเศษแต่มีการลดสเป็คลง เช่นไม่มีเกราะ V กันระเบิดใต้ท้องรถ  แล้วออกแบบช่องเก็บใส่อุปกรณ์ต่างๆข้างตัวรถ 

จริงๆถ้าจะให้เห็นข้อบกพร่องชัดเจนแบบรวดเร็วละก็น่าจะสั่งมาสัก 10 คันเลยครับ จะได้เพิ่มโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองว่ามีความทนทานเหมาะสมหรือไม่ ก็หวังไว้ลึกๆนะครับว่า First win จะเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่ยานเกราะของไทยในอนาคตที่เราตั้งความหวังเอาไว้  ปล.ใครพอจะมีข้อมูลเรื่องรถ 6x6 หนุมานที่มีรถสติงเกอร์เป็นต้นแบบบ้างมั้ยครับ

หลายคนไม่เข้าใจภารกิจของมันเลยครับ first win เป็นรถเกราะใช้งานในเมือง

ส่วนBTR3 เป็นรถเกราะ Infantry Fighting Vehicle สำหรับทหารราบในการรบตามแบบครับ