.สนใจตัวนี้มากกว่า

Spanish AV-8S Matador flies alongside a Thai AV-8S during the transfer between countries

http://www.aerospaceweb.org/aircraft/attack/harrier/pics05.shtml

Philippines Interested in the Principe de Asturias

In the bid for the Spanish carriers have also entered several Arab. The sale agreement includes that reform or adjustments shall be Spanish shipyards  

Indonesia has ruled out the purchase of the ship after the visit that turned several representatives of his government to the arsenal of Ferrol.

The aircraft carrier Principe de Asturias has several suitors since the Spanish Armada gave low fleet in February. At the moment it is docked in the arsenal of Ferrol, which is handling the liquidation proceedings and at the same time, it continues with the tasks of withdrawal of their useful material. The plans that were originally planned for that has been the jewel in the crown of the Spanish Armada was being scrapped, but the Ministry of Defence has opened out to the possibility of its sale. This option has become stronger in recent weeks, as LA VOZ announced last April, to the interest shown by the purchase of the vessel by Asian and Arab countries. The Spanish Navy has confirmed that there are potential buyers, but so far has not materialized any sales transaction.

A delegation from the Indonesian Navy moved to late March to Ferrol to visit the ship and learn about their capabilities. However, the government has ruled out the purchase. The auction is now in the hands of Philippines. If definitely take the step to purchase, enter into the select club of countries with these characteristics boats among its fleet. Only nine governments have aircraft carriers. So, the closest to Indonesia is China and Thailand. The latter state has a nearly identical aircraft carrier Principe de Asturias. Ferrol was built between 1994 and 1996 and gave the Thai government in 1997.

The Spanish Navy has indicated that no further visits planned similar to that made by Indonesians, although the door is open. For sale carried out one of these nations, in the marketing agreement could include a necessary modernization that could run in the shipyards of Navantia, which would provide a significant workload for the company. Just the cost of the reform and the high maintenance costs of the aircraft carrier was prompting Defense to declare their withdrawal. In February, the ship docked in Ferrol, after leaving their base in Rota, to remove from within all elements that can be reused. If no country finally acquires the carrier, will be auctioning an end, following a public call, to be scrapped as junk.

The Defence Ministry would take economic return with the sales transaction and, at the same time would be a dignified exit for this vessel, which has been the flagship of the Navy for over two decades. Defense announced on November 22 the ship retirement after 25 years of service, but clearly did not disclose what his final destination, although in some forums they talked about scrapping. This possibility, of course, does not convince the pointing control and less traumatic options.

The carrier left the Feb. 7 based in Rota to go to Arsenal of Ferrol, which holds its termination process Fleet units. The parting of the Prince of Asturias took the honors during a naval parade that was attended by Don Felipe and Defence Minister Peter Morenés. In its cover held a ceremony and a display of military aircraft have integrated their tactical equipment, helicopters and planes Harrie .

The floor of the carrier process will take between six and nine months. The Navy LA VOZ recently confirmed that the process of demilitarization of the ship began earlier this year at the base of Rota and is now in the Arsenal of Ferrol. The same sources stressed already dismantled a series of elements, mainly historical value goods, also the equipment for aircraft operations and transmission equipment as well as ammunition and combat systems. By prior, the Navy made an inventory of the material of the ship and, at present, we study the incorporation of some of its parts to other units of the Spanish fleet. This withdrawal process is similar to that carried out in 2009 with two Baleares class frigates (F-71), which were replaced by the new F-100. The Navy has scrapped a boat in the last decade and vessels have left the service are moored.

Ship Reconstruction

The Navy insists that, once the process is completed low, the aircraft carrier will be ready for disposal, ie for sale. Clear, however, that if during the process of disarmament is a country interested in your purchase, automatically stops the removal, so that the carrier does not lose all its military capabilities. At this point, it is the pursued, will sign an agreement with the country concerned compromising the work of adaptation and remodeling industry with some Spanish.

That is, the option includes the reconstruction of the boat to the new needs of the buyer country is made in Spain. So, Navantia, the builder of the ship, has very competitive studies for the possible adaptation of the boat to the needs of third countries.

ซอส http://defense-studies.blogspot.com/2013/05/philippines-interested-in-prince-of.html

โดยแปลมาจาก http://www.lavozdigital.es/cadiz/v/20130520/cadiz/filipinas-interesa-principe-asturias-20130520.html

เอาไปทำไรวะ

ใส่ฮ.?

ฟิลิปปินส์กำลังจะซื้อเรือฟริเหตุใหม่2ลำในวงเงิน 439 ล้านดอล

มีคนเสนอตัวมาแล้ว6ราย ตัวเต็งที่พอเห็นชัดๆมี2รายคือเรือSigmaแบบอินโดราคา 220 ล้านดอล และ FFX-I จากเกาหลีใต้ราคา232ล้านดอล์

จะเอาลำใหญ่ไปทำไมกันหัดดูลำเล็กบ้านเราบ้่างสิไม่มีอะไรให้บรรทุกแล้วนะตัวเอง

พี่แกฝันไปไกล  หรือปล่าวนิครับ   ฮ.พี่แกก็รุ่นพระเจ้าเหา ของดีๆๆของใหม่ๆๆก็มีน้อย   เจริญละคราวนี้  สงสัยจะเอามาจอดโชว์

เรือของ สเปน โดยคุณสมบัติ คือ Sea Control Ship เป็นเรือที่ควบคุมการ เดินทะเล หรือ ดูแลความปลอดภัยให้กับ กองเรือพาณิชย์ ในทะเล

ถ้าดูถึงความเหมาะสมแล้ว ก็ เหมาะกับ ภาระกิจของ ฟิลิปปินส์ ที่เป็นประเทศ ปากทาง เชื่อมระหว่าง แปซิฟิก กับ ช่องแคบมะละกา เพื่อไป มหาสมุทรอินเดีย

และมี กองเรือพาณิชย์ เป็นทางผ่าน

สมมติ ถ้า ฟิลิปปินส์ จัดหามา ก็คงเหมือน ร.ล.จักรีฯ คือ ประจำการด้วย S-70B เน้นการปราบเรือดำน้ำ ขณะเดียวกัน ก็เป็น ฐานอากาศยานปีกหมุน ให้กับ ฮ. ของ กองทัพฟิลิปปินส์ ที่ ประเทศ เป็น หมู่เกาะ ผมว่า เป็นเรือที่ เหมาะกับ ฟิลิปปินส์...ซึ่งแต่เดิม ฟิลิปปินส์ มีความต้องการจัดหา เรือ LPD จาก อินโดนีเซีย จำนวน 2 ลำ...แต่ข่าวก็เงียบไป...

เพียงแต่ งบประมาณ ฟิลิปปินส์ จะมีความสามารถจัดหามาได้หรือเปล่า...เท่านั้น...

สมมติ ถ้า ฟิลิปปินส์ พยายามจัดหามาจนได้...ฮ. ประจำเรือ ผมว่า SH-2 Super Sea Sprite จำนวน 1 ฝูงบิน จะอยู่ในความสามารถงบประมาณของ ฟิลิปปินส์...เว้นแต่ สหรัฐ จะให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า เป็น SH-60B มือสอง จำนวนหนึ่ง...

ซึ่ง ตามข่าว นอกจาก ฟิลิปปินส์ แล้ว ก็มีประเทศอาหรับ ที่สนใจอยู่เช่นกัน...โดยตามข่าว ก็บอกว่า ประเทศที่สนใจซื้อ เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการซื้อ...ผม เดา ว่า น่าจะเป็น สหรัฐอาหรับอามิเรต...

ไม่มีอะไร เข้ามาฮาเจ้าของกระทู้
อิอิ  

สงสัยว่างบป้องกันประเทศของฟิลิปปินส์ คิดเป็นกี่ % ของบประมาณประจำปีของประเทศ เพราะดูจะมีแผนซื้ออาวุธเยอะมากในช่วงหลังมานี่

อีกประเด็นผมสงสัยว่าเครื่องบิน AV8B ของสเปน หลังปลดประจำการเรือบรรทุกเครื่องบินลำเก่าแล้วเค้าปลดประจำการด้วยหรือเปล่าเพราะเหลือเรือบรรทุกเครื่องบินใหม่ลำเดียว  ทำให้ AV8B จากเรือลำเก่าไม่มีเรือบรรทุก ครับ (น่าสนใจครับ สัก 8 เครื่อง) 

ถ้าจำไม่ผิด AV-8B+ สเปน นำไปใช้กับ เรือลำใหม่ ครับ...แบบ อิตาลี่ ครับ...รอ F-35B...

เจ้านี่ไหญ่เอาเรื่อง เอามาติดสลิงซะ แล้วเอา JAS-39 มาประจำการน่าจะได้

เค้าเรียกว่า จนแต่ใจ ใหญ่ญ่ญ่ญ่ญ่.....มากกกก......

แต่เชื่อว่าเป็นเพียงแค่โต๊ะเจรจาเท่านั้น (เพราะ ปินส์ไม่น่าจะมีปัญญาสู้ราคาเรือลำดังกล่าวได้แน่ๆ)และอีกอย่างงานนี้ต้องมีผู้เข้าร่วมประมูลแข่งด้วยแน่นอนครับ

มีความเป็นไปได้แค่ใหนถ้าจะใช้งานร่วมกับsea gripenถ้าได้ก็น่าสนใจมากครับ

อย่าดูถูกเขาเลยครับ เศรษฐกิจบ้านเราตอนนี้ ก็ไม่ต่างจากเขาเท่าไร ถึงยังไง เรือรบก็ยังมีคุณค่าทางยุทธ ตราบไดที่มันยังใช้งานได้

ในทางกลับกับ คนประเทศเขา ก็อาจจะดูถูกกเราที่ว่า เคยจะซื้อเศษเหล็ก U 206 จากเยอรมัน เหมือนกันครับ

ฟิลิปปินส์จะเอาอยู่เหรอ....ผมว่ามันไม่ได้จบแค่ซื้อเรือนะ

เพราะเรือลำนี้ต่อมานานพอสมควร...คงจะต้องปรับปรุงใหม่เพื่อที่จะนำกลับเข้าประจำการ

ไหนจะค่าบำรุงรักษาเรือในระหว่างใช้งานอีก...

ไหนจะค่าจัดหา ฮ.มาประจำเรือ...ค่้าบำรุงรักษาอากาศยานประจำเรือ(เลิกคิดเรื่อง จัดหาAV-8 เพราะ

คงจะไม่ผลิตแล้ว..ส่วนF-35 และ Sea gripen ผมว่าฟิลิปปินส์คงจะไม่มีปัญญาซื้อในเร็วๆนี้แน่ๆ)

และโดยส่วนตัวผมคิดว่า...เรือบรรทุกฮ.ของสเปน (และ 911ของเราด้วย)ยังมีขีดความสามารถในการรบ

และการป้องกันตัวเองไม่เข้มแข็งพอ...ยังคงจำเป็นต้องมีเรือลำอื่นๆ(อย่างน้อยๆก็เรือฟริเกตซัก 2-3 ลำ)

คอยคุ้มกัน หรือ เป็นพี่เลี้ยงให้อีกที...ซึ่งกองเรือของฟิลิปปินส์ตอนนี้ผมว่ายังไม่เข้มแข็งพอที่จะจัด

ให้มีกองเรอลักษณะนี้ได้

ทางที่ดีฟิลิปปินส์ควรจะเอางบประมาณไปจัดหาเครื่องบินรบเพื่อปรับปรุงให้กองทัพอากาศของตัวเอง

มีความเข้มแข็งกว่าทีี่ี่เป็นอยู่...และจัดหาเรือฟริเกตใหม่ๆมาเสริมความเข้มแข็งให้กองทัพเรือของตน

เพื่อเตรียมรับมือกับมหกรรมการแย่งชิงหมู่เกาะในภูมิภาคนี้...น่าจะเป็นทางออกที่คุ้มค่ากว่า