ก็จริงของเขาในบางส่วนหนะครับ เช่นเรื่องที่ว่า เราต้องสอนให้เยาวชนภูมิใจในประวิติศาสตร์ชาติของเขาเองนั้น เรื่องนี้ ผมก็เห็นว่าจำเป็นอยู่ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป คนเรามีการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น เรื่องที่พูดกันในประเทศ ก็อาจลอยตามลม (ผ่าน Social Media ช่องทางต่างๆ) ไปยังอีกประเทศหนึ่งก็ได้ ทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกันขึ้น เพราะฉะนั้น แม้จะอยากสอนคนในประเทศ แต่รูปแบบการสอนอาจจะต้องปรับเปลี่ยนไปบ้าง ให้เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบันครับ

ส่วนเรื่องโอกินาว่า ตรงนั้นก้เคยเป็นอาณาจักรริวกิว เป็นเอกราชมาก่อนจริงๆ นั่นแหละครับ แต่ ชาวริวกิวโบราณ กับชาวญี่ปุ่นคันโตโบราณ นั้น เป็น ชาติพันธุ์ เดียวกันหรือเปล่า คือ ผมพยายามเทียบ ตอนที่ สุโขทัยกับอยุธยา หรือตอน สยามกับล้านนา ควบรวมกัน นั้น ถึงแม้จะเป็นสองรัฐเอกราชก็จริง แต่เป็นชาติพันธุ์เดียวกัน เลยไม่มีปัญหา

ผมกำลังพยายามเดาว่า รมต. ญี่ปุ่นท่านนั้น คงพยายามแย้งว่า ถึงริวกิว จะเป็นรัฐเอกราช แต่โดยชาติพันธุ์ ก็เป็นญี่ปุ่นเหมือนกัน แกถึงได้ใช้คำว่า "เป็นญี่ปุ่นมานานแล้ว" อะไรทำนองนั้นกระมังครับ   

แล้วรู้ไหมทำไมไทยไม่ค่อยถูกกับเพื่อนบ้านซักเท่าไหร่ เหตุผลก็คล้ายๆญี่ปุ่นนั่นแหละ การยกประวัติศาสตรมาสร้างความเป็นชาตินิยมเนี่ยไม่ใช่มีแค่ญี่ปุ่นที่ทำ

ส่วนใหญ่การสร้างความเป็นชาตินิยมก็ใช้เล่นการเมืองภายในนั่นแหละ

ถ้าเป็นกรณีศาลเจ้ายาสุกุนินั้นจริงๆแล้วศาลเจ้านี้เป็นศาลเจ้าที่รวบรวมเอาเถ้ากระดูกของผู้เสียสละในสงครามซึ่งจะไม่เลือกว่าเป็นคนดีหรือไม่เพราะยังไงทุกคนก็เป็นผู้ที่เสียสละเพื่อชาติแม้ว่าในช่วงสงครามอาจมีการกระทำที่ดูไร้ซึ่งมนุษยธรรมแต่นั้่นก็เป็นเพราะสงครามและการปลูกกระแสความเกลียดชังในสงครามลองศึกษาดูลึกลงไปยาวจะรู้ว่าสาเหตูที่ทหารญี่ปุ่นกระทำการอันโหดร้ายกับชาวกับจีนและเกาหลีเพราะทั้งสองประเทศนี้เป็นอริกันมานานแล้วเหมือนกันกับเราและพม่าที่เราเกลียดพม่าเพราะพม่ามาเผากรุงศรีฯและปล้นฆ่าข่มขืนชาวอยุธยาแต่เราก็ไม่เคยนึกกลับไปว่าตอนที่เราไปยึดเมืองอื่นเรากระทำกับเมื่องและประชากรของเมืองที่เรายึดอย่างไรเพราะไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้ลูกหลานมองบรรพบุรุษตัวเองในแง่ร้ายทั้นนั้นแหละครับ สงครามมีแต่ความสูญเสีย

สวนกรณีไทยและญี่ปุ่นสาเหตุที่ญี่ปุ่นมองไทยเป็นมิตรเพราะ ญี่ปุ่นและคนต่างชาติมองไทยว่าเราเป็นฝ่ายอักษะที่ร่วมรบร่วมหัวจมท้ายแพ้สงครามมาด้วยกันนะครับส่วนกรณีเสรีไทยนั้นเป็นเรื่องที่เราเขียนประวัติขึ้นมาใหม่เพื่อยกตัวเองออกจากการแพ้สงครามและการเป็นคนเลวในสายตาของชนรุ่นหลัง ซึ่งญี่ปุ่นเข้าใจในการกระทำของเราเขาถึงมองเราอย่างเป็นมิตรและให้เกรียติมาจนถึงทุกวันนี้ไงครับ สิ่งที่ยืนยันได้ว่าเราร่วมหัวจมท้ายกับญี่ปุ่นไม่ใช่ถือหางเสรีไทยคือวรรณกรรมและสิ่งพิมพ์ในสมัยนั้นตีพิมพ์แต่เรื่องราวและทัศนคติดีๆระหว่างไทยและญี่ปุ่นไงครับส่วนกรณีเสรีไทยนั้นเป็นการหาทองออกของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองสมั้ยนั้นเพื่อให้ประเทศรอดพ้นจากการเป็นผู้แพ้สงคราม ส่วนชนรุ่นหลังที่เข้าใจว่าเราไม่เต็มใจร่วมรบกับญี่ปุ่นแต่เป็นเพราะถูกบังคับก็มาจากการปลูฝังในช่วงหลังที่ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ไงครับ (ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตรื) 

ญึ่ปุ่นเป็นชาตินักรบอยู่แล้วครับ   ผมเชื่อเลยว่า อีกไม่นาน !! กองทัพญี่ปุ่นจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เนื่องจากการผ่อนปรนของสหัรัฐที่ให้ญี่ปุ่นมีสิทธิด้านการทหารมากขึ้นเผื่อลดความตึงเครียดกับจีน และบวกกับชนชาติญี่ปุ่นเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ฉลาดไม่แพ้ชาติตะวันตกหรือชาติอื่นๆ ตอนนี้ก็เริ่มเห็นแล้วว่าภายในประเทศญี่ปุ่นมีการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆมากมาย ไม่นานครับซามูไรจะชักดาบอีกครั้ง

ญี่ปุ่น ไม่ควรเอาเถ้ากระดูกของอาชญากรสงครามเปื้อนเลือดชีวิตนับสิบๆล้านคนไปไว้ที่ศาลเจ้ายาสุกุนิ เป็นการดูถูก และ ทำร้ายจิตใจประเทศที่เคยถูกมันกระทำถ้าเยอรมันทำแบบเดียวกันโดยอ้างเหตุผลแบบเดียวกับที่ญี่ปุ่นอ้าง ผลจะเป็นเช่นไร

ชาวโอกินาว่า มิได้เป็นชาติพันธุ์เดียวกันกับญี่ปุ่นแม้แต่นิดเดียว ชนส่วนใหญ่บนเกาะโอกินาว่า อพยพมาจากประเทศจีน เห็นได้จากช่วงก่อนที่จะถูกญี่ปุ่นยึดครอง ประเทศริวกิว ใช้อักษรภาษาจีน (เช่นเดียวกับ เกาหลี และ เวียตนาม สมัยก่อนใช้ภาษาจีนกันทั้งนั้น)

จริงๆแล้ว คนญี่ปุ่น มองคนโอกินาว่า แค่พลเมืองชั้นสอง เป็นเมืองด่านหน้าที่เอาไว้ยันกับศัตรู(ปัจจุบันยังเป็นเช่นนั้น)..ช่องสงครามโลก 2..ค.ศ 1945 ช่วงที่สหรัฐบุกเกาะโอกินาว่า..ทหารญี่ปุ่นบนเกาะได้สังหารชาวโอกินาว่าไป 2.5 แสนคน เพื่อป้องกันมิให้คนเหล่านี้เข้าร่วมกับฝ่ายพันธมิตรบุกยึดแผ่าดินญ๊่ปุ่นต่อไป เพราะทหารญี่ปุ่นรู้ดีว่า คนริวกิว ชิงชังญี่ปุ่นขนาดไหน

--------------------

เห็นด้วยกับ คห ข้างบน

เชื่อว่า ญี่ปุ่น จะกลับมาผงาดด้านทหารอีกครั้ง (เป็นสิ่งที่เตรียมไว้แต่เนิ่นแล้ว เช่น การให้การศึกษาชนรุ่นหลังด้วยการยกย่องสิ่งที่เคยทำกับประเทศเพื่อนบ้าน)

ตอนนี้กำลังจะแก้ไข รธน เพื่อรองรับสิ่งที่เกิดขึ้น ทีละนิด ๆ

รัสเซียขุดเจอศพทหารนาซีเขายังส่งโครงกระดูกกลับไปยังประเทศบ้านเกิดทั้งๆที่นาซีทำกับชาวรัสเซียไว้ไม่น้อย 

ก็เป็นธรรมดาครับสำหรับประเทศที่เคยเป็นเสือที่เกรียงไกรที่สุดในเอเชียมาก่อน (ปัจจุบันเป็นเสือโดนถอดเขี้ยว เหลือแต่เล็บเอาไว้ข่วนเพื่อใช้ป้องกันตัวเอง 555)

 ถ้าถามว่ามีโอกาสใหมที่ญี่ปุ่นจะกลับมาเกรียงไกรเหมือนเมื่อก่อน

 ตอบ  ยากครับ เพราะว่าต่อให้อเมริกาจะผ่อนปรนสนธิสัญญาอย่างไรก็คงไม่ให้มีกองกำลังมากจนเกินกว่ากองทัพอเมริกาจะควบคุมได้ ( เพราะอเมริกาค่อนข้างจะระแวงและกลัวคนญี่ปุ่นอยู่เป็นทุนเดิมอยู่พอสมควร **ที่เคยแสดงความเป็น กามิกาเซ่ จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทหารอเมริกันมาแล้ว**) และต้องไม่ให้ดุลอำนาจทางทหารในเอเชียตะวันออกต้องเสียไปด้วย บวกกับต้องรักษาสัมพันธภาพกับเกาหลีใต้และใต้หวัน (เกาหลีใต้+เหนือ+ใต้หวัน ก็เคยเป็นประเทศที่ถูกญี่ปุ่นกระทำย่ำยีมาก่อนเหมือนกัน) และยังต้องเกรงใจจีนอยู่หน่อยๆอีกต่างหาก

*** ประมาณว่าให้พวกเอเชียตะวันออกมันฟัดกันเองได้แบบสูสีกันถ้าหากเกิดสงครามรอบใหม่ขึ้นจริงๆ โดยที่ตนเองคอยช่วยเหลือสนับสนุนการรบและส่งกองกำลังไปช่วยรบ แบบไม่ต้องออกแรงมาก

ทางที่ดีควรมองไปข้างหน้าเถอะครับ เลิกมองอดีตได้แล้วคนที่ก่อกรรมและคนที่รับกรรมในอดีตก็ตายเกือบหมดแล้วจะจำความรู้สึกนั้นไว้ทำไมอีกครับถ้าจ้องแต่จะเอาคืนมันก็จะย่ำอยู่กับที่นั่นแหละครับเอาเวลาไปพัฒนาประเทศพัฒนาคุณภาพความเป็นอยู่ของคนที่ยังมีชีวิตอยู่น่าจะดีกว่า

คุณ ObeOne พูดถูกครับ กองทัพญี่ปุ่นมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากองทัพอเมริกานั้นคงจะยาก เพราะเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม แต่หลังจากญี่ปุ่นถูกทิ้งระเบิดปรมณู อเมริกาก็มิได้ปล่อยให้ญี่ปุ่นถูกทองทิ้ง แต่กลับเข้ามาพัฒนาญี่ปุ่นจนทุกวันนี้และครับ และก็มีฐานทัพอยู่ในญี่ปุ่นอีกด้วย มาว่ากันต่อเลยครับ ผู้แพ้สงครามย่อมมีข้อจำกัดด้านการทหารตามธรรมดาครับ กองทัพญี่ปุ่่นเลยต้องใช้ใช้ชื่อว่า กองกำลังป้องกันตนเอง แต่ถึงอย่างนั้นญี่ปุ่นก็ยังมีศักยภาพด้านการทหารที่ถือว่าแข็งแกร่มากพอสมควร แต่ไม่ถึงกับมหาอำนาจรอง อย่างอังกฤษและฝรั่งเศษ แต่ปัจจุบันด้วยความตึงเครียดในแทบภูมิภาคระหว่างสองชาติมหาอำนาจจีนกับอเมริกา ที่ผ่อนปรนด้านการทหารให้ญี่ปุ่น (แต่ยังมีบางอย่างทีมิให้ญี่ปุ่นกระทำ) และกรณีพิพาทเรื่องเกาะ เตียวหยู ของญี่ปุ่นกับจีน ที่ประกาศว่าหากจีนพยายามจะขึ้นฝั่ง ญี่ปุ่นจะใช้กำลังขับไล่ทันที และล่าสุดการณ์คาบสมุทรเกาหลีอีก ทำให้ญี่ปุ่นตอนนี้เร่งขยายกองทัพของตนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้ขอบเขตที่สหัฐอเมริกาได้กำหนดไว้ เห็นได้ชัดในการเพิ่มงบประมาณกลาโหมอย่างมาก ถ้าอเมริกาลดย่อนผ่อนปรนด้านสิทธิด้านการทหารให้ญี่ปุ่นมากกว่านี้ญี่ปุ่นขึ้นแท่นความแข๋็งแกร่งทางทหารแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นต่อเรือ เครื่องบิน รถถัง จรวด อาวุธอื่นๆญี่ปุ่น ทำได้อยู่แล้วครับทำได้ดีด้วยไม่มีปัญหา เพราะเขาเคยทำมาหมดแล้วครับ จับตาดูได้เลยครับช่วงนี้เห็นข่าวการทหารของญี่ปุ่นออกบ่อยเหลือเกิน เสือยังไงก็เป็นเสือครับ...

พูดถูกครับ เสือยังไงก็เป็นเสือ !!

นั่นแหละครับ ปลุกกระแสชาตินิยม

เรื่องชาตินิยมชอบดูถูกประเทศเพื่อนบ้านไม่ต้องมองไกลเลยครับ ประเทศไทยนี่แหละ
ชอบคิดว่าประเทศเราเก่งกว่าคนอื่น ดีกว่าคนอื่น ฉลาดกว่าคนอื่น ไม่มีใครสู้เราได้ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเราแค่ระดับ"กลางๆ"เท่านั้นไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
ดีหน่อยที่เดี๋ยวนี้มีอินเตอร์เน็ตเข้ามาเปิดหูเปิดตาคนมากขึ้น ให้รู้ว่าเรานั้น"ด้อย"แค่ไหน จะได้ยอมรับความเป็นจริงและช่วยกันพัฒนาประเทศให้ดีขึ้นมาบ้าง(ไม่จมอยู่กับภาพลวงตาและความเชื่อที่บอกว่า"ประเทศไทยดีที่สุด")

Batnight

ทางที่ดีควรมองไปข้างหน้าเถอะครับ เลิกมองอดีตได้แล้วคนที่ก่อกรรมและคนที่รับกรรมในอดีตก็ตายเกือบหมดแล้วจะจำความรู้สึกนั้นไว้ทำไมอีกครับถ้าจ้องแต่จะเอาคืนมันก็จะย่ำอยู่กับที่นั่นแหละครับเอาเวลาไปพัฒนาประเทศพัฒนาคุณภาพความเป็นอยู่ของคนที่ยังมีชีวิตอยู่น่าจะดีกว่า

--------------------------------------

ไม่ใช่คนอื่นเขาไม่อยากมองไปข้างหน้า

ไม่ใช่คนอื่นเขาอยากเอาคืน

แต่ผมคิดว่า คนอื่นเขากำลังกังวลญี่ปุ่นจะเดินซ้ำรอยเดิม เพราะการกระทำของญี่ปุ่นทำให้คนอื่นอดกังวลไม่ได้
เช่น  ไม่สำนึกผิด บิดเบือนความจริง สร้างสมอาวุธ  ปลุกฝังเยวชนเห็นดีเห็นงามและภาคภูมิใจต่อการกระทำของบรรพบุรุษที่รุกรานเข่นฆ่าเพื่อนบ้าน ฯลฯ

อย่างที่หลายๆ ท่านว่าครับว่าไอ้พวกนี้มันออกมาพูดเพื่อหวังผลการเมืองภายในทั้งนั้น แต่พอดีสมัยนี้พูดอะไรมันดังไปทั่วโลก พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกพยายามเปลี่ยแปลงประวัติศาสตร์ด้วย แบบด้านๆ เลย 

ที่ว่าเยอรมันฝังนาซีอันนั้นเขาไม่ได้เอาไปไหว้เป็นเจ้าครับ มันก็เลยยังไม่อะไรมาก อีกอย่างเป็นทหารกับเป็นอาชญากรสงครามมันต่างกันครับ ที่ต่างชาติด่าๆ ยาสุกุนิก็เพราะประเด็นอาชญกรสงครามเนี่ยแหละครับ

ที่ญี่ปุ่นทำโหดร้ายกับจีนและเกาหลีเพราะเป็นอริมันไม่ใช่หรอกครับ อย่างประเทศในยุโรปเป็นอริกันมาเป็นร้อยๆ ปีก็ยังไม่เห็นทำชิบหายขนาดนั้นเลย หรือจีนหรือเกาหลีเองก็ไม่เคยทำญี่ปุ่นขนาดนั้น หรือฟิลิปปินส์อินโดฯ นี่แทบไม่เคยยุ่งกันเลยด้วยซ็ำ แต่มันเป็นเพราะโฆษณาชวนเชื่อล้างสมองของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ทำให้เหมือนกับการกระทำเหล่านั้นยอมรับได้ อย่างการล้างเผ่าพันธุ์ของนาซีเยอรมันก็ไม่ได้เป็นเพราะเป็นอริอะไรกัน แต่เป็นเพราะโฆษณาขวนเชื่อบ้าๆ บอๆ ของฮิตเลอร์ ไม่เช่นนั้นจบสงครามจีนคงล้างแค้นทหารญี่ปุ่นที่ติดอยู่ในจีนหมดแล้วมั้ง

ไอ้ความคิดที่ว่าไม่สามารถยอมรับผิด เพื่อให้สามารถภูมิใจในชนชาติ ผมว่าไอ้ที่ทำเลวๆ ไว้ไม่ต้องภูมิใจมั่งก็ได้ เยอรมันมันยังอยู่ได้ แถมไม่ได้เป็นที่รังเกียจแต่อย่างใด 

เยาวชนญี่ปุ่นน้อยคนนักที่จะรับรู้ความฉิบหายที่ประเทศตัวเองเคยก่อไว้กับคนชาติอื่นๆ แต่เสือกรู้มากมายเกี่ยวกับความโหดร้ายของระเบิดปรมณู เพราะความชาตินิยมเนี่ยแหละ 

คนจีนต้องการให้พระจักรพรรดิญี่ปุ่นขอโทษต่อการกระทำของญี่ปุ่นที่ทำไว้ ซึ่งดูโหงวเฮ้งแล้วคงไม่เกิด ต้องให้คนญี่ปุ่นตายไปจนผลัดรุ่นก่อนถึงจะเกิดได้

ส่วนเรื่องความเกรียงไกรทางทหาร ญี่ปุ่น ถ้าประเทศแกทำได้ ผมว่าก็คงมาอีก แต่ก็อย่างที่หลายๆ ท่านว่าครับ อเมริกาไม่ปล่อยให้โตได้ขนาดนั้นหรอกครับ เผลอๆ ญี่ปุ่นจะโดนจีนล่อก่อนซะอีก 

บรรพบุรุษนักรบ ของญี่ปุ่น ในอดีตจะดีจะเลวยังไง เมื่อตายไปแล้ว มันเป็นสิทธิของคนญี่ปุ่น

ที่เขาจะกราบใหว้บูชา .. จะไปบังคับไม่ให้เขากราบไหว้ มันเป็นไปไม่ได้

อดีตประเทศจีน ก็เคยบุกมองโกเลีย เคยกระทำย่ำยีชาวมองโกเลีย ไม่ต่างจากที่ญี่ปุ่นทำกับจีน

รวมทั้งที่กวาดต้อนชเลยศึกมาสร้างกำแพงเมืองจีน ตายไปเป็นล้านคน .. แล้วทำไมคนจีน

ยังนับถือกราบไหว้ จิ๋นซี  .. เพราะ มันเป็นสิทธิ์ของคนจีน เช่นเดียวกัน

.. ผมเปรียบให้เห็นภาพนะครับ  หวังว่าคงเข้าใจ กันทุกคน

อืม ประเด็นนี้ผมเห็นด้วยกับคุณ Soda 77 นะครับ

คือชาติใดจะเคารพบูชาหรือยกย่องใคร ก็ควรเป็นสิทธิของชนชาตินั้นๆ ครับ และเมื่อเหตุการณ์เป็นประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว ก็ไม่ควรที่จะยกขึ้นมาให้เป็นประเด็นที่ขุ่นข้องหมองใจกันอีก เรียกว่า ต่างคนก็ต่างบูชาตามความเชื่อ ความเห็นของตนไป อย่าล้ำเส้น เกินพอดี จนเป็นเหตุให้เกิดข้อพิพาทกันขึ้นมาใหม่ก็พอ

นอกจากนี้ ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ ผมยังมองว่า บรรดาทหารหาญที่ได้รับการบูชาชื่ออยู่ในศาลเจ้านั้น ผมไม่อาจบอกได้ว่าแต่ละท่านไปทำอะไรมาบ้าง แต่เมื่อท่านเป็นทหารของประเทศนั้น เมื่อเขาเสียชีวิตลง ประเทศนั้นเขาก็ไม่ยอมตัดขาด ไม่ทอดทิ้ง ไม่ยอมเกลียดชังแล้วโยนความผิดไปให้ท่านเหล่านั้นเพื่อเอาใจประเทศอื่น เมื่อเวลาและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ตรงกันข้ามเขายังคงยกย่องและให้เกียรติ คนที่ยอมรับใช้ประเทศและไปตายเพื่อประเทศของเขาตลอดมา

ผมแอบคิดไม่ได้ว่า ดูๆไป ก็น่านับถือเหมือนกัน

ท่าน soda77 ครับ

ไม่ทราบว่าท่านรู้หรืออ่านมาจากไหนว่า ในอดีตประเทศจีนเคยรุกรานมองโกลเลีย ในประวัติศาสตร์มีแต่มองโกลเลียรุกรานประเทศจีน....ราชวงศ์หยวนก็คือคนมองโกเลีย ที่รุกรานจีนและโค่นราชวงศ์หมิง(ชาวจีน) แล้วผนวกพื้นที่มองโกเลียกับพื้นที่หมิงรวมเป็นประเทศเดียวกัน (ยุคปัจจุบันมองโกเลียส่วนหนึ่งได้แยกตัวออกไปโดยการสนับสนุนของสหภาพโซเวียตในขณะนั้น)..........อีกอย่างถ้าคนเยอรมันคิดว่าระลึกกราบไหว้ฮิตเล่อร์ ทำไมพวกชาติยุโรปถึงไม่ยอมครับ

น่าจะเข้าใจผิดนะสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้อาณาจักรมองโกลยังไม่เกิดแต่แตกออกเป็นหลายๆเผ่า กำแพงเมืองจีนที่สร้างไว้ในสมัยนั้นเอาไว้ป้องกันชนเผ่าซุงหนู มองโกล ตงหูรุกรานและปล้นสะดม 

Go To Big

จริงๆแล้วไม่มีไรมากผมแค่อยากจะบอกว่าสงครามมีแต่ความสูญเสีย

ธรรมดาคนที่ชนะมักจะแสดงสันดานดิบที่อยู่ในตัวเองต่อเชลยศึกทั้งนั้นไม่ว่าชาติไหนๆขึ้นอยู่กับว่าคนของประเทศนั้นๆจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดหรือเป็นแค่เรื่องธรรมาดาที่ควรหลับตามองข้ามไป ประเทศจีนสมัยที่ยังเป็นอณาจักรจีนที่ยิ่งใหญ่ก็โจมตีเขาไปทั่วปล้นฆ่าข่มขืนกันไปเท่าไหร่ยึดเกาหลีเป็นขี้ข้าเป็นทาสตั้งกี่ร้อยปีทำชั่วไปเท่าไหร่ทำไมไม่พูด คนเรามักจะมองแต่สิ่งไม่ดีที่คนอื่นทำกับเราแต่ไม่เคยมองสิ่งไม่ดีที่เราทำกับคนอื่นเลยยกตัวอย่างกรณีสมรภูมิล่องแจ้งของนักรบนิรนาม333ของกระทู้ข้างบนคนไทยเรามองวีรกรรมนี้ว่าเป็นความเสียสละของวีรชนแต่คนลาวและคนเวียดนามมองว่าเป็นการแทรกแซงและรุกรานของอเมริกันโดยผ่านหุ่นเชิด(รัฐไทย)โดยเข้าไปยึดและฆ่าคนของเขาในประเทศของเขา .......แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนเรามองต่างกันครับ

ผมก็ไม่รู้หรอกว่าใครรุกรานใคร .. ผมคิดเอาเองว่าในยุคนั้น จิ๋นซี กำลังรุ่งเรืองมีกำลังพลมหาศาล

สามารถไปตียึดเมืองใหนก็ได้ คล้ายๆกับยุคพระนเรศวร ที่ทุกประเทศทุกเมืองรอบๆต้องย่ำเกรง

.. ผมเคยดูหนังจีนมาตั้งแต่เด็กๆ ฝ่ายพระเอกก็จะเป็นชาวจีน ฝ่ายผู้ร้ายก็จะเป็นชาวมองโกล

เราถูกฝังหัวมาตั้งแต่เด็กๆว่าชาวมองโกลเป็นฝ่ายผู้ร้าย รุกรานประเทศจีน .. พอย้อนกลับไปมองถึง

ความรุ่งเรืองของ จิ๋นซี ตามตรรกะแล้วเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะไปกล้าต่อกรกับ จิ๋นซี

.. กลับมาเข้าเรื่อง การห้ามญี่ปุ่นบูชานับถือสักการะอดีตนักรบที่นานกิง รวมทั้งให้ญี่ปุ่นออกมาขอโทษ

ผมเปรียบเปรยให้เห็นตั้งแต่กระทู้บนแล้ว ว่ามันเป็นไปไม่ได้ .. ถ้าทำได้จริง ก็คงขอโทษกันวุ่นวายกันทั่วโลก

เยอรมันต้องไปขุดฮิตเล่อมาขอโทษยิว  รัสเซียต้องไปขอโทษญี่ปุ่นที่ต้อนชาวญี่ปุ่นตอนเหนือไปเป็นชเลย

แถบไซบีเรียจนตายไปหลายหมื่นคน  อเมริกาต้องไปขอโทษเวียดนาม  ต้องขุด พอลพต มาขอโทษชาวเขมร

ประมาณว่า .. ทุกประเทศ ไปขุดประวัติศาสตร์กันมา แล้วยกอาข้อเสียหายมาอ้าง แล้วให้อีกฝ่ายขอโทษ

ผมคิดว่า คงพิลึกดีเหมือนกัน

ความคิดส่วนตัว ผมว่าที่คุณ soda77 พูดว่า การขอโทษอีกฝ่ายดูพิลึกดี แต่ผมมองกลับกัน ว่ามันเป็นเรื่องดีมากเลยนะครับ มองอีกมุมหนึ่งผมมองว่า การขอโทษ คือการประกาศชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าเราจะ ผิดหรือ ไม่ก็ตาม เพราะผม มองตามหลักพูทธศาสนา แล้ว การขอโทษ และ การให้อภัย การอโหสิกรรม ซิ่งกันและกันเป็นหนทางแห่งการตัดบวงกรรม ของทั้งสองชนชาติ ที่มั่นคงแล้ว ถาวรที่สุด เป็นสัญญาที่ดีว่า สงครามล้างแค้นครั้งใหม่ จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน มั่นใจได้ว่าลูกหลานที่สองฝ่ายจะอยู่สงบสุขร่มเย็นไปอีกนานแสนนาน เพราะแค่ คำว่า (ขอโทษครับ..กับ..ให้อภัยครับ).....