หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


โครงการจัดหาเรือดำน้ำ ! !

โดยคุณ : HIDEKO เมื่อวันที่ : 18/05/2013 14:23:12

หลังจากที่ทร.พลาด เรือดำน้ำมือสอง U206A ของเยอรมันจำนวน6ลำ ลองมาดูโครงการจัดหาเรือดำน้ำตามแผน 2552-2554 ดีกว่าครับ มีความเห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ

โครงการจัดหาเรือดำน้ำ รายละเอีดตามแผนของกลาโหมมีดังนี้

บันทึก 9 รายละเอียดความต้องการเรือดำน้ำของ ทร.
 9.1ประเภทย : เรือดำน้ำขับเคลื่อนพลังธรรมดา 

 9.2 โครงการ : 2 ลำ, ระยะเวลาโครงการ : 2555 - 2560
 9.3 ขีดความสามารถที่ต้องการ
 9.3.1 โจมตีเรือผิวน้ำ 
9.3.2 ปราบเรือดำน้ำ 
9.3.3 วางทุ่นระเบิด
9.3.4 ลำเลียงหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 
9.4 คุณลักษณะทั่วไปที่สำคัญ
 9.4.1 ระวางขับน้ำใต้น้ำ 1,000 - 2,500 ตัน
 9.4.2 รัศมีปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า 2,500 ไมล์
 9.4.3 ปฏิบัติการในทะเลได้ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15 วัน
 9.4.4 ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบดีเซลไฟฟ้า พร้อมระบบ AIP (Air Independance Propulsion) 
9.4.5 มีเครื่องมือเดินเรือทั้งผิวน้ำและใต้น้ำที่สมบูรณ์
 9.4.6 ระบบสื่อสารเป็นแบบรวมการ ประกอบด้วย ระบบสื่อสารภายในย สื่อสารภายนอก ทั้งเหนือน้ำและใต้น้ำและระบบ GMDSS
ย 9.4.7 อุปกรณ์ตรวจจับ ประกอบด้วย ระบบโซนาร์แบบ PASSIVE และ/หรือ ACTIVE SONAR , ระบบ ELECTRONIC WARFARE , กล้อง Periscope 2 กล้อง ได้แก่ Attack และ Searchย โดยมีอุปกรณ์กล้อง IR/TV/กล้องถ่ายภาพนิ่ง/เรดาร์ติดตั้งร่วมด้วย9.4.8 ระบบอาวุธ ประกอบด้วย ตอร์ปิโด จำนวน 6 - 8 ท่อ พร้อมคลังและขีดความสามารถบรรจุ ระบบ countermeasure และระบบลวงตอร์ปิโด/โซนาร์
9.4.9 มีสายการผลิตอะไหล่สนับสนุนการซ่อมบำรุงให้ใช้งานได้อย่างน้อย 30 ปี

คาดว่าน่าจะเป็นเรือดำน้ำจากค่ายใดกันครับ และ สเปกนี่ถือว่าดีไหมครับยและ คิดว่าน่าจะแล้วเสร็จในการจัดหาในช่วงปีใดครับ

(ปล.คือผมสนใจเรื่องเรือดำน้ำมากครับ ประเทศเพื่อนบ้านในแถบภูมิภาค เขามีเข้าประจำการกันเกือบหมดแร้วครับ แล้วพี่ไทยใยเมินเฉยครับ ผลประโยนช์ทางทะเลนั้นล้ำค่ามากนะครับ ควรเร่งจัดหาให้เร็วที่สุด)





ความคิดเห็นที่ 1


แผนนี้ออกมาหลายปีแล้วครับ ยังไม่มีวี่แวว

 

และขอบอกว่า ทร.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉยแต่อย่างใด พยายามมาแล้วก็หลายครั้ง มันก็ตันทุกครั้ง

 

หลังปี 2558 ค่อยมาว่ากันใหม่ครับ ตอนนี้เร่งเรื่อง ฟก. ก่อน

โดยคุณ krubannok เมื่อวันที่ 10/05/2013 21:44:32


ความคิดเห็นที่ 2


ถ้ามันจัดหารได้ง่ายเหมือนอย่างที่คุณว่า...ป่านนี้ ทร.ไทย มีประจำการตั้งนานแล้ว กระทู้เรือดำน้ำเก่าๆ ก็มีเยอะ โต้เถียงเผ็ดร้อนมันมากต่อมาก ไปหาอ่านดูครับ

หลายเหตุหลายปัจจัยและอุปสัคหลายๆอย่าง ที่ทำให้กองทัพเรือ ไม่ได้เรือดำน้ำ, กองทัพเรือนะ อยากได้เรือดำน้ำมากกว่าเรือฟริเกตด้วยซ้ำ...อำนาจการซื้อเรือดำน้ำ ไม่ได้อยู่ที่กองทัพเรือ...ถ้าอยู่ที่ทร.ป่านนี้ คงเห็นประจำการตั้งนานแล้ว

กระทู้ U206A ไปหาอ่านดูก็ได้...

หลังจากการจัดหารเรือฟริเกตแล้ว เห็นว่า ทร.ก็จะลุยเรื่องเรือดำน้ำ...ยังไง มันก็ต้องมีอยู่แล้ว เพราะสภาพรอบบ้าน มันจะเป็นตัวบีบได้อย่างดี แต่อาจจะช้ากว่าชาวบ้านเขาหน่อย

โดยคุณ gto25302530 เมื่อวันที่ 10/05/2013 21:54:35


ความคิดเห็นที่ 3


เห็นด้วยกับเรือดำน้ำครับ การจัดอันดับความเข็มแข็งทางทหารปี 2012 ไทยอยู่ในอันดับที่19ของโลก ซึ่ง เป็นที่2ในภูมิภาคนี้รองจาก อินโดครับ ส่วนในปีนี้พี่ไทยเราหล่นลงมาอันที่20ครับเนื่องจากทาง ที่ต่างประเทศเขาคาดการณ์ไว้ว่า ไทยจะจัดให้เรือดำน้ำแล้วเสร็จภายในปีนี้ครับซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่พลาด เรือดำน้ำจากเยอรมันไปครับ ส่วนอินโดเร่งพัฒนาด้านการทหารอย่างก้าวหน้าขึ้นไปอันดับที่ 15 แร้วครับ ก็อยากให้ทุกฝ่ายปฎิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มที่ครับ เชื่อว่าถ้าคนไทยตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดแน่นอนครับ  ขอให้อันดับอย่าหล่นลงไปอีกเถอะครับ อยากเห็นคนไทยบินได้^^

โดยคุณ Mr.Church เมื่อวันที่ 11/05/2013 00:53:29


ความคิดเห็นที่ 4


9.2 โครงการ : 2 ลำ, ระยะเวลาโครงการ : 2555 - 2560 <---แสดงว่าแผนเพิ่งออกมาต่อเนื่องจากแผนเดิม U-206a

ดูตามแผนปัจจุบันแล้วน่าจะเหมาะสม อยู่ที่จะสามารถผักดันตามแผนใด้หรือไม่ ...โดยกระทรวงกลาโหม

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 11/05/2013 10:09:14


ความคิดเห็นที่ 5


เตือนตอนไหนครับ ที่บอกว่าครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

 

 

http://www.thaifighterclub.org/webboard/17732/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%84-GT200-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2.html

เข้าใจนะครับ/Admin

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 12/05/2013 18:40:12


ความคิดเห็นที่ 6


ปี 2558 ก็จัดหนัก รุ่น KSS-II Type 214 1,860 ตันของเกาหลีมาเลย

จะได้ข่ม scorpene ลงได้ซะที


โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 11/05/2013 10:38:16


ความคิดเห็นที่ 7


ถ้าได้เจ้าตัว  KSS-II Type 214 1,860 มาก็คงจะดีครับจัดว่าทันสมัยเลยทีเดียว คงน่าเกรงขามขึ้นไปอีกเยอะเลยครับ แต่ส่วนตัวผมอยากให้มี amur 950 ของรัฐเซียครับ เหมาะกับอ่าวไทยที่สุดแล้วครับ มีสัก4ลำนี่โก้เลยครับ  จิ๋วแต่แจ๋ว พิษสงค์ร้ายกาจมากครับ แต่เสียดายไม่ตรงตามที่ทร.กำหนด

 

 นี่เจ้าamur950


โดยคุณ HIDEKO เมื่อวันที่ 11/05/2013 17:29:41


ความคิดเห็นที่ 8


ดูตามรูปการณ์แล้ว หากไม่มีการพลิกล๊อคหรือเกิดเรี่องใหญ่โตกับเกาหลี เรือดำน้ำของทร.ไทยก็น่าจะมาจากแดนกิมจินี่แหละ เพราะสายนี้แข็งโป๊กสมคำล่ำลือจริงๆ

พูดถึงเจ้า Amur 950 นี่โหดดีครับ ลำเล็กแต่หมัดหนัก บรรทุก Brahmos ไปด้วยตั้ง 10 ลูก แค่คิดก็หนาวแล้ว แต่หากจะเอาไว้ล่าเรือดำน้ำด้วยกันนี่คงไม่เหมาะ เพราะ มีท่อยิง Torpedo มีน้อยไปหน่อยนะครับ แค่ 4 ท่อ แต่ที่ในข้อมูลบอกว่าบรรทุกไปได้ 16 ลูก นี่ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ น่าจะเป็นของตัว Amur 1650 มากกว่า แต่โอกาสคงยากมากครับอาวุธจากค่ายรัสเซียสำหรับทร.ไทย ถ้าจะเอาลูกครึ่งอิตาเลี่ยน-รัสเชี่ยนอย่าง S1000 น่าสนใจมากกว่า แต่ก็ไม่มี VLS ต้องยิงจากท่อตอร์ 

S1000


โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 11/05/2013 19:19:17


ความคิดเห็นที่ 9


อืม เจ้า amur 950 นี่เป็นเรือดำน้ำขนาดเล็กที่เรียกได้ว่า เล็กพริกขี้หนู จริงๆครับ เป็นเรือดำน้ำที่เหมาะกับอ่าวไทยเพราะเป็นทะเลน้ำตื่น สามารถออกปฎิบัติการได้นาน45วัน มีท่อยิงมิซไซร์แนวตั้ง 10 ท่อยิง และมีท่อยิงตอร์ปิโต 4ท่อ และระบบปฎิบัติการ ที่ถือว่า ทันสมัยพอสมควร ราคาตกอยู่ 100million+ ซึ่งถือว่าไม่แพงมากสำหรับเรือดำน้ำ  ผมว่าเรามีสองทางเลือกนะครับคือ

1.เลือกเรือดำน้ำขนาดกลางระวางขับน้ำไม่เกิน2500ตันมีสมรรถนาสูงพอสมควรอย่าง Type-214 ของเกาหลี แต่แบบนี้เรามีประจำการไม่เกิน2ลำแน่นอนครับเนืองจากมีราคาสูง

2เลือกเรือดำน้ำขนาดเล็กแต่มีพิษสงค์รอบคัว อย่าง amur950ของรัฐเซีย หรือไม่ว่าจะเป็นเรือดำน้ำขนาดใกล้เคียงกันในส่วนของค่ายอื่นๆ ถ้าแบบนี้เรามีประจำการณ์เกิน2ลำแน่นอนครับ อาจจะเป็น4ลำหรือ6ลำ ซึ่งถือว่า ครอบคลุมทุกพื่นที่รอบประเทศเลยทีเดียว

ก็ต้องพิจรณากันต่อไปครับ และเมื่อไม่นานมานี้ ทบ.ก็ได้จัดเจ้านกยักษ์ mi-17จากรัฐเซียไป3ลำ ซึ่งคงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปแร้วสำหรับการจัดหาอาวุธจากพี่หมีเพียงแต่ระบบอาจจะไม่คุ้นเคยในช่วงแรกๆ

โดยคุณ Mr.Church เมื่อวันที่ 11/05/2013 20:08:59


ความคิดเห็นที่ 10


  

   หวยก็คงออกมาที่ type-209 1400/AIP   แต่จะของเยอรฒัน+ตุรกี  หรือ  จะของเกาหลีใต้เท่านั้นแหล่ะครับ   เพราะยังไงก็เป็นเรือเยอรมันเหมือนกัน   แต่ระบบ AIP ของเกาหลีใต้จะเป็นระบบของเกาลีพัฒนาขึ้นมาเอง   ดังนั้นราคาน่าจะหย่อนลงมากว่าทางเยอรมันพอควร 

  ถ้าสนใจเรือขนาดเล็กอย่าง  armur 950  เมื่อก่อนผมเชียร์ใจขาด   ตอนนี้มีตัวเลือกเพิ่ม   จากแดนเกาหลีเช่นเดิม  KSS-500A   อันนี้น่าจะขอขยายแบบเรือให้ใหญ่เป็น 600-800 ตันได้    สเปกดีมากเลยเรือลำนี้   แต่อาวุธไม่หนักเท่าเรือรัสเซีย   ราคาน่าจะไม่แพง  

  type-209 1400/AIP  ก็เหมาะจะตามกองเรืออกไปทะเลจีนใต้นะครับ   แต่คงไปไม่พ้นแถบอาเซี่ยน  และก็เหมาะกับฝั่งอันดามันมาก     

  แต่ถ้าดูแลบ้านในอ่าวไทย  KSS-500A  มันก็ไม่เลวเลยครับ  หรือเอามาทั้งสองแบบไปเลย  สำหรับพื้นที่แต่ละส่วน

 

ถ้าต้องการเรือที่สามารถไปได้ไกลกว่านั้น  ดำได้นานกว่านั้น  รอ KSS-III  ก็ได้ครับ   กว่า 3000 ตัน    ตอนนี้ผมเชียร์ type-209 1400/AIP  กับ  KSS-500A  ไปก่อน  


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 11/05/2013 21:08:35


ความคิดเห็นที่ 11


type-209 1400/AIP ซัก 2 ลำ

KSS-500A  ซัก 2-4 ลำ

หมายถึงแยกซื้อน่ะคับ อาจจะซื้ออะไรก่อนอะไรหลัง ก็ว่าไป ฮ่าๆๆๆๆๆ 

โดยคุณ Akilies เมื่อวันที่ 11/05/2013 21:57:51


ความคิดเห็นที่ 12


ผมว่าถ้าจะจัดเรือดำน้ำตะกูลนี้ จัดหนักเลย U209 มันเก่าไปไหมครับ ถ้าจะจัด จัด U212 หรือ u214 ผมว่าดีกว่านะครับ


โดยคุณ HIDEKO เมื่อวันที่ 11/05/2013 21:59:16


ความคิดเห็นที่ 13


เตือนหนสุดท้ายนะครับ เรื่องการใช้ถ้อยคำ ถ้ามีอีกผมไม่เตือนแล้วครับ/ Admin

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 12/05/2013 10:08:38


ความคิดเห็นที่ 14


ผมว่าเจ้าเรือ AMUR 950 มันเป็นเรือใช้ในภาระกิจป้องปราบเรือผิวน้ำมากกว่า ใช้ในการป้องปราบเรือดำน้ำ เชื่อว่าไม่น่าจะอยู่ในสเปกค์ของกองทัพเรืออย่างแน่นอน อีกทั้งระบบอาวุธที่ทางกองทัพเรือที่ไม่คุ้นเคยกับของประเทศรัสเซีย นอกจากนั้น ต้องคำนึงถึงระบบ data link ระหว่างเรือด้ำน้ำกับเรือฟรีเกตและเครื่องบิน Saab 340 AEW&C และเครื่องบินกริฟเพนของกองทัพอากาศอีกด้วย

(ระบบของรัสเซียกับระบบของนาโต้มันคนละเรื่องเลยนะครับ)

ในส่วนของ KSS-500A มันยังเป็นเรือต้นแบบครับเชื่อว่าเกาหลีคงยังไม่ปล่อยของออกมาในช่วง 5-8 ปีอันใกล้นี้แน่ๆ และในส่วนของ Type209/1400Tผมก็มองว่ามันขนาดเล็กและเป็นเจนนะเรชั่น ที่เก่าไปแล้ว ควรจะมองเจนนะเรชั่นใหม่ที่มันทัดเทียมหรือเหนือกว่า Scopene หรือ Kilo class จะดีกว่า 

ดังนั้นในชั่วโมงนี้ผมมองว่า KSS-II Type 214 ขนาด1,860T (ราคาไม่เกิน 400 M.USD)เหมาะที่สุดแล้วครับ ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไปที่จะใช้ในอ่าวไทย (เจราจาซื้อเรือจากเยอรมันโดยผ่านเกาหลีปลอดภัยจากปัญหาการเมืองมากที่สุดแล้วครับ)

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 13/05/2013 12:33:44


ความคิดเห็นที่ 15


ทร.ไม่ควรพิจารณาเรือที่เป็นเรือกระดาษโครงการ ยังไม่ได้ผลิตจริงของทุกค่ายๆครับ ไม่ว่าจะเป้นของทางอู่เยอรมนี เกาหลี หรือ รัสเซีย ควรพิจารณาจากเรือที่มีการผลิตแล้วจริง (chang bogo mod หรือ type214 kilo หรือแม้แต่ a-19 gotland ) หรือเอาเรือที่ผลิตแล้วจริงมาดัดแปลง (type 209 mod aip ) เท่านั้น ครับ

โดยคุณ Johnny_Thunders เมื่อวันที่ 13/05/2013 12:50:32


ความคิดเห็นที่ 16


เคยได้ยินนายทหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเรือดำน้ำนี้ จำไม่ได้ว่าท่านไหน ท่านบอกไว้ว่า Amur เนี่ยคงจะไม่ซื้อ เพราะยังไม่มีผู้ใช้ ไม่รู้ประสิทธิภาพจริง ง่ายๆ ไม่รู้ว่าดีจิงป่าวเลยไม่กล้าซื้อพวกเรือดำน้ำที่ยังไม่เคยผลิต 

โดยคุณ Akilies เมื่อวันที่ 13/05/2013 13:52:22


ความคิดเห็นที่ 17


type 212 กับ type 214 นี่ต่างกันอะไรยังไงมากน้อยแค่ไหนหลอคับ 

โดยคุณ Akilies เมื่อวันที่ 13/05/2013 13:55:27


ความคิดเห็นที่ 18


ใช้ครับการเป็นผู้ใช้รายแรกถือว่าเสี่ยง แต่จะมีข้อเสนอพิเศษเป็นอย่างมากแน่นอนครับ แต่ถ้าต้องการให้เรือดำน้ำปฎิบัตการ กับระบบ data link ของ เจ้า saab 340 AEW ก็ต้องนี่เลยครับ A-19 Gotland class เรือดำน้ำของสวีเดน ที่ถือว่ามีพิษสงค์ร้ายกาจมากครับ !! สหรัฐอเมรกาเคยเช่าไปฝึก ผลปรากฎว่า เจ้าเรือตัวนี้ จมเรืออเมริกาไปหลายลำเลยครับ น่าสนจัยมากยิ่งถ้าเราซื้อเรือจากสวีเดนนิขอได้ข้อเสนอพิเศษมากมายแน่นอนครับ และเห็นว่า สวีเดกับลำพัฒนาเรือดำน้ำรุ่นใหม่อยู่อีกนะครับ


โดยคุณ Mr.Church เมื่อวันที่ 13/05/2013 14:22:03


ความคิดเห็นที่ 19


เรือดำน้ำ Type 212 เป็นเรือดำน้ำที่เยอรมันผลิตเข้าประจำการสำหรับกองทัพเรือเยอรมัน ส่วน Type 214 จะเป็นเรือดำน้ำที่ผลิตขายต่างประเทศ สเป็คแต่ละประเทศแตกต่างกันตามความต้องการของลูกค้าครับ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 13/05/2013 14:49:37


ความคิดเห็นที่ 20


น่าสนใจมากครับ A-19 Gotland ว่าแต่นายหน้าของ Kockums ผู้สร้าง/เจ้าของแบบเรือดำน้ำสวีเดนนี่จะเป็นบริษัทเดียวกับ SAAB หรือเปล่าน้า

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 13/05/2013 15:06:03


ความคิดเห็นที่ 21


ขอเอารูปส่งเข้าประกวดเพิ่มสักหน่อยนะครับ (เพิ่มสีสรร)


Gotland Class Submarine



โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 13/05/2013 15:15:33


ความคิดเห็นที่ 22


ใคอยากเห็นเรือดำน้ำของไทยก็ไปดูที่พัทยาได้นะครับ ^^



โดยคุณ HIDEKO เมื่อวันที่ 13/05/2013 15:42:07


ความคิดเห็นที่ 23


เรือดำน้ำ จากสวีเดน ก็ไม่เบาเหมือนกันนะผมว่า...

น่าจะตรงกะความต้องการของทร.เป๊ะเหมือนกัน แถมเรา ก็ซื้อเครื่องบิน Gripen แล้วด้วย

 

 


โดยคุณ gto25302530 เมื่อวันที่ 13/05/2013 20:55:52


ความคิดเห็นที่ 24


สงสัยเรื่องการสื่อสารใต้น้ำ หรือระหว่างการดำน้ำ ครับ ระหว่าเรือดำน้ำ กับเรือผิวน้ำ  และอากาศยาน  สามารถทำได้หรือไม่อย่างไร  ครับ

โดยคุณ hs3mmq เมื่อวันที่ 14/05/2013 10:40:47


ความคิดเห็นที่ 25


ในความเห็นของผม ทร. น่าจะเจียดงบประมาณมาเช่าซื้อเรือดำน้ำมือสองของสวีเดนมาสัก 1 ลำก่อน เอาลำที่สหรัฐเคยเช่าไปทดสอบนั่นล่ะครับ  เหตุผลว่าทำไม ก็เพราะว่าการที่สวีเดนมียอมให้สหรัฐยืมไปทดสอบหลายๆเดือนก็แสดงว่าจำนวนเรือดำน้ำที่สวีเดนมีอาจจะเกินความต้องการอยู่ 1 ลำ  ซึ่งหากเราเจรจาดีๆอาจได้เรือดำน้ำมือสองมาในราคาที่พอรับได้ และในระยะเวลาที่เร็วกว่าที่จะรองบประมาณซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ซึ่งมีราคาแพงมากและก็ไม่รู้ว่าจะผ่านการอนุมัติหรือเปล่า

ผมกะเอาเองว่าราคามือสองรวมปรับปรุงไม่น่าเกิน 250 ล้านเหรียญ US เป็นเงอนไทยก็สัก7500 ล้านบาท  เอาว่าแบ่งจ่าย 3 ปี ก็ตกประมาณ 2500 ล้านบาทต่อปีเท่านั้นเอง  ซึ่งน่าจะพอเจียดงบประมาณประจำปีของ ทร. ได้ หรือของบประมาณเพิ่มได้ครับ 

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 14/05/2013 14:35:36


ความคิดเห็นที่ 26


น่าจะเป็น Södermanland Class submarines   แต่ผมดูใน Wiki. บอกว่ามี 3 แต่ใช้ 2 แล้วหายไปไหน 1 ลำ ครับ

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 14/05/2013 15:11:42


ความคิดเห็นที่ 27


Södermanland Class submarines เป็นรุ่นที่เก่ากว่า gotland class เป็นรุ่นที่ทร.สิงคโปร์มีประจำการอยู่ครับ

โดยคุณ HIDEKO เมื่อวันที่ 14/05/2013 19:05:02


ความคิดเห็นที่ 28


ถึงคุณ hs3mmq ครับ การสื่อสารระหว่างเรือดำน้ำกับเรือผิวน้ำหรืออากาศยานจะเป็นไปในลักษณะผ่านเสาสัญญาณวิทยุหรือ SATCOM ครับ ถ้าคุณสังเกตจากรูปเรือดำน้ำในตอบกระทู้คุณ TWG

- โดยเรือดำน้ำขณะดำอยู่ใต้น้ำจะไม่สามารถสื่อสารกับใครได้เลยจากบนผิวน้ำ(ถ้าเป็นสมัยสงครามโลก)

- แต่ในปัจจุบันเรือดำน้ำจะออกแบบท่อที่เป็นที่อยู่ของเสาวิทยุและเรด้าห์ผิวน้ำให้สามารถทนแรงดันหรือแรงต้านของน้ำได้ โดยเรือดำน้ำจะดำอยู่ใต้น้ำที่ระดับความลึก ระหว่าง 5-7 เมตรจากใต้ผิวน้ำทะเล ซึ่งจะเป็นระดับเดียวกับกล้องโพริสโคป และชักส่งท่อขึ้นไปเหนือผิวน้ำในระดับมาตรฐาน โดยใช้ความเร็วของเรือประมาณ 5-7 knots เพื่อทำการส่งวิทยุสื่อสาร และสามารถเปิดใช้เรด้าห์ผิวน้ำเพื่อใช้ตรวจหาตำแหน่งเรือผิวน้ำในบริเวณใกล้ๆ รัศมีตรวจจับตั้งแต่ 60 กม.(ของเรือชั้น kilo class)

*** นี้คือความร้ายกาจและความได้เปรียบของเรือดำน้ำในยุคปัจจุบัน คือเรือดำน้ำสามารถใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกันหรือเชื่องโยงเพื่อดูเป้าหมายจากภาพถ่ายดาวเทียมได้และยังใช้เรด้าห์ผิวน้ำขนาดเล็กตรวจหาตำแหน่งเรือรบผิวน้ำได้ในขณะที่เรือยังดำอยู่ใต้น้ำ ซึ่งในขณะที่เรือรบผิวน้ำยังตรวจหาตำแหน่งเรือดำน้ำไม่เจอ ตรวจเจอแค่ระยะห่างของเรือดำน้ำเท่านั้นจากโซน่าในระยะ passive (ระยะ40-50กม.) เรือรบผิวน้ำจะตรวจเจอตำแหน่งและพิกัดของเรือดำน้ำได้ก็ต่อเมื่อใช้โซน่าในระยะ active (ระยะ 12-17 กม.) ซึ่งจะเป็นระยะหวังผลที่จะสามารถใช้ตอปิโดโจมตีเรือดำน้ำได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของตอปิโดรุ่นนั้นๆด้วย) ดังนั้นเรือดำน้ำจะสามารถใช้จรวดร่อน SSN-27 หรือจำพวก harpoon หรืออื่นๆที่เทียบเท่า ชิงจังหวะโจมตีเรือรบผิวน้ำได้ก่อนที่ระยะไกลตั้งแต่ระยะ 20 กม.ขึ้นไป

นอกจากนี้เรือดำน้ำยังมี 1.ทุ่นใต้น้ำเป้าลวง (Depth buoy decoy ) ทั้งแบบ passive และ active เอาไว้ใช้ล่อลวงโซน่าและตอร์ปิโดของฝ่ายตรงข้าม

2.ตอปิโดล่อลวงทั้งแบบ passive และ active (Torpedo decoy) มักจะมีใช้ในเรือดำน้ำพลังไฟฟ้านิวเคลียร์

3.เรือดำน้ำรุ่นใหม่ๆจะติดตั้งแผ่นดูดกลื่นคลื่นโซน่ากับใต้ผิวของตัวเรือ (สามารถดูดกลืนคลื่นสัญญาณได้ประมาณ 30-40%ในเรือช้ัน kiloของรัสเซีย)

4.เรือด้ำน้ำชั้น kilo จะติดตั้งจรวดต่อสู้อากาศยานในระยะใกล้ 6-9 กม.หรือเครื่องยิงจรวดประทับบ่าเอาไว้ใช้สอย ฮ.ปราบเรือด้ำน้ำ คือเรือจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาในระยะไม่เกิน 4 เมตรจากส่วนหัวบนของเรือ (เป็นระยะที่ตัวเรือดำน้ำหลักยังสามารถทรงตัวอยู่ใต้น้ำได้) จากเหนือผิวน้ำทะเลด้วยความเร็ว 5-7 knot ก็สามารถใช้จรวดดังกล่าวได้แล้ว

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าการจะปราบเรือด้ำน้ำโดยใช้เรือรบผิวน้ำและ ฮ.ปราบเรือดำน้ำ นั้นไม่ใช้เรื่องง่ายๆเลย ถ้าเรือรบลำนั้นไม่มีระบบป้องกันจรวดและระบบโซน่าที่ดีพอ

***ข้อมูลนี้อ้างอิงขีดความสามารถในเรื่องของระบบสงครามของเรือมาจากเรือดำน้ำชั้น กิโลของรัสเซีย (kilo class)ที่รัสเซียขายให้เวียดนามครับ

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 14/05/2013 20:13:27


ความคิดเห็นที่ 29


ขอบคุณ  คุณ ObeOne  มากครับ ที่ให้ข้อมูล 

โดยคุณ hs3mmq เมื่อวันที่ 15/05/2013 08:42:28


ความคิดเห็นที่ 30


เอ่อเพิ่มเติมอีกหน่อยครับ 1.นอกจากนี้แล้วเรือดำน้ำชั้น kilo ของรัสเซียหรือเรือดำน้ำรุ่นอื่นๆในปัจจุบันที่เป็นเรือที่ใช้พลังงานไฟฟ้าระบบ Fuel Cell  ยังสามารถทำการชาร์จแบตเตอร์รี่และนำอากาศเข้าและออกไปในเรือดำน้ำโดยผ่านท่อสน็อกเกิ่ล และท่อดูดอากาศ ที่ระดับความลึกจากใต้ผิวน้ำทะเล 5-7 เมตร และข้อดีของเรือดำน้ำในระบบ Fuel Cell สามารถทำการชาร์จแบตฯในขณะที่เรือยังแล่นอยู่ได้ที่ระดับความเร็ว ไม่เกิน 3-7 knots (ถ้าใช้ความเร็วมากกว่า 3 knots เครื่องยนต์ดีเซลจะใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มนานมากและสิ้นเปลืองน้ำมัน ถ้าจะให้ดีก็ดับเครื่องมอเตอร์ไฟฟ้าไปเลย) โดยที่เรือไม่ต้องโผล่พ้นน้ำอีกแล้วด้วย คือ สามารถกบดานอยู่ใต้น้ำได้นานตลอดระยะปฎิบัติการของเรือ

2. เรือดำน้ำยังสามารถใช้ระบบการสื่อสารเชื่อมโยงที่เรียกว่า data link กับเรด้าห์จากบนเรือผิวน้ำหรือจากภาคพื้นดินหรืออากาศยานหรือดาวเทียม เพื่อใช้ในการล็อกเป้าและนำพาไปสู่เป้าหมายกับจรวดร่อนในระยะไกลกว่า 100 กม.ได้อีกด้วย (และนี้คือสาเหตุที่ว่าทำไมกองทัพสหรัฐถึงได้ออกแบบ ระบบเรด้าห์รุ่น SPY-3 (x-band radar of AMDR-System) ขึ้นมาเพื่อใช้เรด้าห์ดังกล่าวตรวจหากล้องพอริสโคปและท่อเสาสัญญาณวิทยุสื่อสารและเรด้าห์ผิวน้ำ ก็เพื่อลดความเสียเปรียบของเรือรบผิวน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องปราบเรือดำน้ำครับ

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 15/05/2013 11:14:14


ความคิดเห็นที่ 31


ขอเสริมจากท่าน ObeOne นิดนึงครับ เกี่ยวกับการใช้กล้่องและเรดาร์หรือเสารับสัญญาณของเรือดำน้ำ จุดนี้เป็นประเด็นหนึ่งในการพิจารณาเลือกเรดาร์สำหรับ การปรับปรุง รล.จักรีฯ และ รล.นเรศวร/ตากสิน ระบบเรดาร์ Sea Giraffe AMB มีความสามารถในการตรวจจับเป้าพื้นผิวน้ำที่มีขนาดเล็กและเคลื่อนที่ช้าได้ (ไกลสุดถึงระยะเส้นขอบฟ้า) จึงเหมาะที่จะใช้ตรวจจับเรือดำน้ำที่กำลังใช้อุปกรณ์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 15/05/2013 14:18:50


ความคิดเห็นที่ 32


ขอให้ปี2558ได้เริ่มจัดหาอย่างเป็นพิธีเถอะครับ ประเทศแถบภูมิภาคนี้เขามีกันหมดแล้วน๊า เฮ้อ..ออ


โดยคุณ HARLEM เมื่อวันที่ 18/05/2013 14:23:12