ขุดเลยจะได้ไม่ต้องอ้อมไปไกลๆอีก ได้เงินค่าผ่านทางจากเรือสินค้าด้วยด้วยร้อยปีมันก็ยังไม่พังลงทุนครั้งเดียวคุ้มแสนคุ้ม ทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคง ไทยจะเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

จะต้องให้อังกฤษยินยอมให้ขุดก่อนหรือเปล่าครับ ?

เคยเห็นในรัฐบาลนายกใต้มีการให้ทำการศึกษาเพื่อเตรียมดำเนินการศึกษาหาข้อดีข้อเสียในโครงการคลองกระ หลังจากนั้นไม่นานก็เหตุการณ์ปฏิวัตินายยกใต้ลงทำให้โครงการนี้พักยาว เหมือนใครก็ตามพยายามขุดจะมีอันเป็นไป

เคยอ่านในเวบนึงมีการกล่าวอ้างถึงความคุ้มค่าในการขุด มลพิษ ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมที่จะสูญเสีย  ความลึกตื้นของอ่าวไทย

แต่สำหรับผม ผมเคยอยากให้รัฐบาลนายกใต้กลับมาอีกครั้งและรื้อฟื้นโครงการ เพราะโครงการที่ยากๆมันก็เกิดให้เห็นได้ในสมัยนายกใต้เช่นสนามบินหนองชาวนา...(ถึงจะมีการกล่าวหาถึงเรื่องการทุจริตที่ตามมาไม่น้อย)ฯลฯ

แต่ตอนนี้ผมว่าผลประโยชน์ระหว่างประเทศที่จะเกิดขึ้นคงยากที่จะมีการขุด ผู้เสียประโยชน์ ทั้งหลายคงนำปัจจัย 4 ปิดปากผู้กุมอำนาจเพื่อยับยั้งการขุดอีกเป็นแน่

ความเป็นไปได้ ๑ ความสามัคคีในประเทศ  ๒ ความพร้อมทางด้านเศรษฐกิจ  ๓ ความร่วมมือจากชาวต่างชาติถ้าต้อง  ๔ การเป็นหนึ้เพิ่มขึ้นอาจจะเป็นหนี้ อีก ๒.๒ล้านอีกก้อน

สิ่งที่จะได้ มามันมหาศาล ทั้งประเทศเราและต่างประเทศ  แต่อาจด้วยปัญหาที่ตามมามากมาย

นักอนุรักษ์ ชาวบ้านในท้องถิ่น

สาธุเช่นไรผมก็อยากให้เกิดผลประโยชน์จากประเทศชาติให้มากที่สุด ผมอยากให้ทุกผ่ายร่วมมือและเดินหน้าโครงการขุดคลองกระเพื่อประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจ และทางทหารกับประเทศ อยากเห็นมันในช่วงชีวิตผม

http://www.thai-canal.com/PDF%20file/Hist%2001T.pdf ประวัติการขุดคลองกระ

   การขึ้นโครงการทวายเป็นการบอกกลายๆแล้วครับว่า  โครงการนี้ยุติไปเป็นเวลาอีกนาน  จนกว่าเรื่องทางใต้กับเพื่อนบ้านจะจบ

ต้องดึงประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ+ทางทหาร (มาเป็นแบ็กหนุนหลัง) มามีหุ้นส่วนกับการลงทุนโครงการนี้ด้วยครับไม่งั้นยากเพราะมันกระทบกับปากท้องบางประเทศในอาเซียนแบบเต็มๆ(ทุบหม้อข้าวกันเลยทีเดียว) และจะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางโครงการนี้

   *** แต่ก็อย่างว่าละถ้าต้องแชร์ผลประโยชน์ของชาติให้กับประเทศมหาอำนาจเราก็แทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนักกับโครงการนี้ (เพราะเชื่อว่าประเทศที่จะมาเป็นแบ็คให้กับเราไม่ได้มีแค่ประเทศเดียวแน่ที่จะมาขอร่วมวงแชร์ด้วย ถ้ามี1ไม่มี2หรือมี2ไม่มี3 หรือมี3ไม่มี4 แค่คิดก็ปวดหัวแล้วซึ่งก็อาจจะกระทบถึงตลาดการค้ากับประเทศมหาอำนาจนั้นๆได้) ดังนั้นมันจึงหาจุดคุ้มทุนอะไรแทบไม่ได้เลย และถ้าให้ประเทศมหาอำนาจเข้ามาร่วมลงทุนแล้วจะขอหุ้นคืนในภายหลังก็คงจะยากมากๆทีเดียว  สรุปต้องรอให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งทางทหาร และด้านความมั่นคงที่ดีพอถึงขนาดขั้น (ข้าไม่กลัวใครทั้งนั้นในอาเซียนใครอยากลองดีมาเจอกันได้)เสียก่อน นั้นแหละจึงจะสร้างได้ครับ

ผมว่าเรื่องทางทหารในอาเซียนเราไม่กลัวใครอยู่แล้วและประเทศที่ได้ผลประโยชน์ไปกับเราก็มีเยอะอยู่ ก็ที่ถัดไปทางตะวันออกนั่นแหละครับหลายประเทศเลย แต่ก็อย่างว่าเงินมันไมเข้าใครออกใครนิครับ

ยังครับยังเข้มแข็งไม่พอ ต้องมีกองกำลังระดับเกาหลีใต้ หรือระดับใต้หวั่น ก็ฝันๆว่าได้ประมาณ

ทอ. เครื่องบินรบอเนกประสงค์ซัก 240เครื่อง

ทร. เรือพิฆาต 3 ลำ+เรือฟรีเกต hi-end ซัก 12 ลำ+เรือดำน้ำ 9 ลำ เรือบรรทุกเครื่องบินจุเครื่องบิน F-35 ซัก24เครื่อง

ทบ. MBT Oplot-m ซัก 2000 คัน ARMOR ซัก 4,000 คัน ฮ.โจมตีรถถัง ซัก 48 เครื่อง และขีปนาวุธระยะไกล ซัก 500 กม.

ความสามัคคีในชาติ ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในระบบของรัฐ  ประชาชน กองทัพที่ต้องการผลักดันให้เกิดนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด

ไม่ใช่กำลังภายในที่มาล้มล้างระบบภายในกันเองนี่ต่างหากที่ทำให้ไม่สามารถก้าวต่อไปได้

ผมไม่มองปัจจัยทางด้านวัตถุ ถ้าระบบทั้งหมดพร้อมต่อให้กองทัพไทยมีอาวุธเพียงเท่านี้ก็เข้มแข็งเกินกว่าที่ชาติใดจะกล้ามาข่มขู่

รอง นะครับทุกซื่อประโคมข่าวผลประโยชน์ที่จะเกิดกับประเทศ กับโลก แก้ไขในปัญหามลพิษได้จนทำให้โครงการเป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกหมู่เหล่า รัฐกำหนดการก่อสร้างใน ๑๐ ปี ฝ่ายค้านยอมรับด้วย เหลืองแดงเห็นชอบ สนับสนุน เป็นวาระของชาติ นักอนุรักษ์ยอมรับพร้อมแก้ไขปัญหามลพิษได้ คราวนี้ถ้ามีกลุ่มใดยื่นมือคัดค้าน เท่ากับเป็นศัตรูกับคนทั้งประเทศทันทีการคัดค้านภายในจะยุติ เม็ดเงินลงทุนจะกลุ่มลงทุนภายในหรือจะรัฐจะสร้างเองกู้เองจากภายนอกคงไม่มี ใครไม่ยอมให้กู้หรอก ขนาดกู้สร้างรถไฟยังได้ ประเทศข้างล่างต่อให้กระทบถึงอย่างไรก็ไม่มีปัญญาจะยกทัพเอากองเรือมาโจมตี เราได้หรอกครับมีแต่เขาจะมาเป็นกลุ่มทุนเข้ามาร่วมทุน ถ้าให้ดียิ่งประโคมข่าวการอนุมัติจัดสร้างให้สังคมโลกได้รับรู้ถึงสิ่งที่ เราจะทำเลยใครจะว่าอะไรทำอะไรก็ลำบาก

การยกทัพมาบุกมันไม่มี ประเด็นจะบอกว่าขัดแย้งทางทะเลเลยมาโจมตีคงไม่ใช่  การสะสมอาวุธเพื่อสร้างคานอำนาจเปรียบเสมือนกับการทำให้ผู้อื่นดูเราเป็น เด็กเกเร เราควรสะสมอาวุธตามความเหมาะสมของเราในแบบเรา โดยพยามเน้นความสามารถสร้าง หรือซ่อมบำรุง จัดหาในสิ่งขาดและควรมีให้เหมาะสมกับเงินในกระเป๋า

ได้เดือนละ 15000 จะเลือกซื้อรถค่ายไหนมาใช้ ให้เหมาะกับการใช้ที่คุ้มค่าที่สุดทุกคนต้องเลือกเอา

โครงการทวายต้องดูกันยาวๆ ครับ จะเกิดได้ตามแผนงานหรือไม่ และไทยจะได้ประโยชน์จริงๆ แค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบกับการขุดคลองในประเทศเรา

โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากเมื่อนานมาแล้ว........แต่การชักช้าของเราทำให้เสียโอกาสไปแล้ว การจะมาขุดตอนนี้คงช้าและไม่คุ้มค่าไปแล้วละครับ อีกอย่างตอนนี้เราก็มีทางเลือกที่น่าจะดีกว่าคือท่าเรือทวายไปท่าเรือที่เวียดนามผ่านทางรถไฟตัดผ่านประเทศไทยออกลาวและเวียดนาม

การมีกองทัพขนาดนั้น ต้องดูหลายๆ ส่วน กำลังการบำรุงรักษา ความสมดุลกับด้านเศรษฐกิจสังคมด้วย ไม่งั้นจะกลายเป็นผลเสียแทน 

หากมีกองทัพแบบที่คน obeone ผมกลัวประเทศเราจะล้มละลาย กินจอมปลวกแบบเกาหลีเหนือมากกว่าว่ะครับ (แซวเล่นนะครับ)

ดูเจ้าของคลองสุเอซก่อน ประเทศไทยเจริญกว่าเยอะครับ

โครงการคลองกระ ว่ากันตามตรง ผมคิดว่าให้ประเทศสิงคโปร์มาร่วมลงทุนก็นะครับ ไม่เห็นต้องโวยวายกันอะไรมากมาย (สิงคโปร์จะได้เงียบๆ ด้วย) เพราะหนึ่งเลย เขาทุนเยอะ ช่วยลดความเสี่ยงของเราได้ อีกอย่างบริษัทมือถือสองยักษ์ของเราก็แทบจะเป็นของต่างชาติกันหมดแล้ว มูลค่าจะเยอะกว่าคลองหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ก็ยังเห็นเราหน้าระรื่นกันอยู่ได้เลยครับ ชีวิตก็สุขสบายดี

อธิปไตยยังไงก็ยังเป็นของเรา แถมอาจจะมีสิงคโปร์มาช่วยเข้าข้างเราเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติเรา (ความจริงสิงคโปร์ แต่ได้ผลพลอยได้) เพราะยังไงยามสงครามรัฐบาลยึดทุกอย่างได้อยู่แล้ว ของตปท.เรายังยึดได้

แต่ใจจริงผมคิดอย่างที่บางท่านข้างบนว่าละครับว่า เราทวายไปแล้วเป็นการบอกกลายๆ ว่าไม่มีคลองกระแล้ว

ขอแสดงความเห็นส่วนตัวดังนี้นะครับ
๑. หากดูจากประวัติศาสตร์การขุดคลอง ๒ คอลงที่ผ่านมา คือ คลองสุเอส และคลองปานามา สร้างความมั่งคั่ง สะดวกสบาย และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แก่ ทั้ง ๒ ทวีปได้เป็นอย่างดี
แต่...การสร้างคลองทั้ง ๒ คลองดังกล่าวได้ลดระยะทางในการเดินทางอ้อมทวีป(เน้นว่าทวีปนะครับ)ได้เป็นอันมาก หากเทียบระยะทางทั้ง ๒ ทวีปกับ แหลมมลายูแล้ว..ต่างกันริบลับ..ความคุ้มค่าในการลงทุนย่อมต่างกัน..ส่วนจะได้ไม่คุ้มเสียหรือไม่ลองไปหาข้อมูลกันดูนะครับ..ผมคิดแค่สเกลต่อสเกลก็ต่างกันมากแล้วครับ
๒. จากประวัติศาสตร์เช่นกัน คลองทั้ง ๒ คลองไม่ได้เกิดจากแนวคิดของคนบนแผ่นดินแม่ หรือเกิดจากความคิดของผู้นำประเทศที่คลองตั้งอยู่ หากเกิดจากเจ้าอาณานิคมที่เข้าไปยึดประเทศบ้านเมืองอื่นแล้วถือความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของขุดคลองเพื่อสร้างความมั่งคั่งในการเดินเรือให้แก่ตน แม้คลองสุเอสจะขุดโดยอียิปต์เองก็ตาม..แต่เบื้องหลังก็เป็นชาวยุโรปนั่นแหลที่ยุยง(หรือให้คำปรึกษา)เพื่อต้องการลดระยะทางการเดินเรือของตนลงทั้งสิ้น..
๓. สรุปความเห็นของผม
..แหลมมลายูสั้นเกินไป ไม่คุ้มค่าในการทำคลองลัด..หากจำเป็นควรสริมกำลังทางเรือให้เข้มแข็งกว่าปัจจุบัน ทั้งการส่งกำลังบำรุงที่สามารถทำได้โดยสะดวกบนแผ่นดิน และการเสริมกำลังทางเรือโดยการวางกำลังจัดกำลังเรือที่มีสมรรถนะและประสิทธิภาพ เหมาะสมกับภัยคุกคามทางฝั่งอันดามัน
..ตามประวัติศาสตร์ไม่มีใครริเริ่มคิดที่จะขุดคลองผ่าบ้านของตัวเองครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Suez_Canal
http://en.wikipedia.org/wiki/Panama_Canal
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2007/10/X5930456/X5930456.html

  สมัยทักกี้มีอำนาจก็ทำการดึงมหาอำนาจและเพื่อนบ้านที่เสียผลประโยชน์เข้ามาร่วมครับ   โดยจะให้มีส่วนในพื้นที่ปากคลองทั้งสองฝาก    ญี่ปุ่น  จีน อเมริกา  สิงคโปร์   โครงการเลยมีแววรอดครับ   แต่คงลืมประเทศที่มีผลประโยชน์เป็นอันดับสองและสาม    ก็เลยสะดุดแบบคาดไม่ถึง    ช่วยไม่ได้  ไม่รอบคอบเอง

  ถ้ามีการขุดคลองกระเมื่อไหร่   ทวาย....ตายสนิทครับ    และผู้ลงทุนไทย คือ ITD  จะจอดไม่แจว 

แต่อย่างว่า  ถ้า 3 จังหวัดร้อนระอุขนาดนั้น   ยากส์ครับที่จะสามารถขุดคลองได้   และถ้าทะเลาะกันกับเพื่อนบ้าน  แค่กูกปิดกั้นเส้นทางเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกา   แค่เอาเรือดำน้ำมาจมเรือสินค้า   จะไปไล่ล่าเรือดำน้ำก็ต้องเข้าไปน่านน้ำทางทะเลของเขา    แค่นี้เราก็ย่ำแย่แล้วครับ   

ทะวาย......ตัดปัญหานี้ได้    ปิดช่องแคบมะละกา   เราก็ไม่เดือดร้อน    เพราะใช้ท่าเรือ ทวาย+มาบตาพุท ทดแทนได้

พร้อมเมื่อไหร่เคลียร์เรื่องทางใต้และผลประโยชน์กับเพื่อนบ้านเจ้านี้ได้    ขุึดอีกทีก็ได้     แต่พม่าคงดิ้นค้านสุดๆ  เพราะทวายตายสนิท  

ผมมีความสงสัยติดค้างในใจมานานแล้วครับว่า เราไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมในพม่า ?

มันน่าจะเป็นแค่เอกชนไทยไปลงทุนทำโครงการในต่างประเทศ ก็น่าจะจบแค่นั้น ใช่ไหม ?

รัฐบาลไทยควรสนับสนุนเอกชนให้ไปลงทุนในต่างประเทศ ด้วยทุนของเอกชนนั้นๆ เอง โดยรัฐอาจเข้าไปช่วยเจรจาต่อรองหรือกำหนดรูปแบบการค้าต่างตอบแทนหรือโปรแกรมออฟเซ็ทอะไรกันก็ว่าไป ใช่ไหม ?

ที่เหลือเป็นเรื่องความเสี่ยงด้านการลงทุนและผลตอบแทนที่เอกชนควรรับไปเอง

ถามจริงๆ เถอะครับ กรณีท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ทุกวันนี้มีใครยืนยันได้บ้างว่า อุตสาหกรรมต้นน้ำ อุตสาหกรรมหลักไหนตกลงเข้าไปสร้างโรงงานแล้วบ้างครับ ? ความคืบหน้าโดยรวมเป็นอย่างไร อยู่ขั้นตอนไหน ?

โรงไฟฟ้าซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลัก จะดำเนินการเมื่อใด ใครเป็นผู้ลงทุน ใครเป็นผู้ขายกระแสไฟ ระบบน้ำประปาล่ะ โทรศัพท์พื้นฐาน โทรมือถือ ถนนหนทางที่จะเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ใครเป็นคนลงทุน แล้วทำไปถึงไหนแล้ว 

แรงงานฝีมือจะมาเอาจากไหน ใครจะลงทุนเปิดโรงเรียนสอนกรณีแรงงานท้องถิ่น

แล้วจะมีสายเรืออะไรเข้ามาใช้บริการบ้าง PSA จะเป็นผู้บริหารท่าเรือ จริงหรือไม่ ?

สุดท้าย เราจะสร้างท่าเรือน้ำลึกระนองไว้ทำไมครับ จะมีโครงการขยายเฟส 2 ไปทำไม ไหนจะโครงการปากบาราอีก น่าที่รัฐบาลจะหันมาทุ่มเทพัฒนาท่าเรือน้ำลึกฝั่งตะวันตกของเราเอง มากกว่าจะออกหน้าออกตากับโครงการในประเทศเพื่อนบ้านนะครับ

คือถ้าเราไม่มีทางเลือก ไม่มีศักยภาพในเรื่องทำเลที่ตั้งก็ว่าไปอย่าง นี่เรามีพร้อมมูลแต่ก็เงียบๆ กันไปซะงั้น

อีกอย่าง ลองพิจารณาต้นทุนการขนส่งสินค้าไปลงเรือที่ทวายให้ดีๆ นะครับ ทั้งทางรถและทางราง ไม่น่าจะเอาสินค้าจากทางด้านภาคกลาง อีสาน และตะวันออกไปลงนะครับ แหลมฉบัง คลองเตย และอีกสารพัดทางเรือรอบกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก รองรับได้ดีอยู่แล้ว ต้นทุนค่าขนส่งควบคุมได้อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องลากไปลงเรือที่ทวาย ค่าใช้จ่ายสูงกว่าแน่นอนไม่ว่าจะระบบรถหรือระบบราง ระยะเวลา ความเสี่ยงในการขนส่ง แลกกับอะไรละครับ ค่าเฟรตเรือที่ถูกกว่า หรือระยะเวลาเดินเรือที่ลดลง มันคุ้มกันไหม ?

ลองคิดและแชร์ความเห็นกันดูครับ

ท่าเรือน้ำลึกฝั่งตะวันตก ก็เหมาะที่จะให้บริการสินค้าจากภาคใต้และภาคตะวันตกของเราทั้งหมดที่จะส่งออกไปอินเดีย ตะวันออกกลาง เมดิเตอร์เรเนียน อัฟริกา และยุโรป

อันนี้ถ้าเร่งพัฒนาท่าเรือน้ำลึกระนองและโครงการใหม่ปากบารามารองรับ ก็จะสอดรับกันทันที แทนที่จะไปตามแห่ท่าเรือทวาย

ถ้าจะส่งออกไปเวียดนาม จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา และอเมริกา ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือฝั่งตะวันออกทั้งหมดจะสะดวกและประหยัดกว่า

รัฐจะลงทุนสร้างถนนแบบแลนด์บริดจ์ในประเทศไปจ่อที่ชายแดนเพื่อต่อไปท่าเรือทวายทำไมครับ ในเมื่อเราสามารถใช้เงินน้อยกว่ากับท่าเรือที่มีอยู่แล้วในประเทศ ศักยภาพทำเลที่ตั้งก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน

การขุดคลอง ไม่ได้เป็นการแบ่งแผ่นดินไทยออกเป็นสองส่วนแต่ใด มันเป็นเพียงแค่คลองน้ำสายหนึ่งที่พาดขวางประเทศ ไม่งั้นแม่น้ำหลายสายก็คงแบ่งประเทศไทยออกเป็นเสี่ยงๆ มันเป็นเพียงอุบายของนักการเมืองที่ไม่เห็นด้วยออกมาสร้างภาพ

สิ่งสำคัญคือ การถูกกดดันทางการเมืองทั้งจากต่างประเทศและในประเทศต่างหาก

ไม่ว่าเรื่องความมั่นคงและเศรษฐกิจ

เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ค่าเดินทางตกวันละหลายแสนบางทีเป็นล้าน(ทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าแรง) ถ้าผ่านคลองกระเซฟเวลาได้เป็นวันๆ ไม่ต้องเจอโจรสลัดใน ช่องแคบมะละกา

เสียค่าผ่านในราคาที่ถูกกว่า เซฟเวลา เพิ่มความปลอดภัย ถามว่าใครมันจะไม่ผ่านบ้าง แถมเซพระยะทางในการเอาของขึ้นแล้วต้องวิ่งต่อด้วยแลนด์บริดจ์

ในแง่ความมั่นคง ถ้าไทยประกาศให้เรือรบผ่านได้เฉพาะมิตรประเทศ หรือเกิดจะขุดคลองให้มันแคบกว่า ปานามา ให้เรือรบขนาดใหญ๋ผ่านไม่ได้ แต่กองทัพเรือไทยเคลื่อนไหวอย่างสะดวกทั้งสองฝั่งทะเล คงพอมองเห็นภาพนะครับ ที่สำคัญเศษรฐกิจภาคใต้มันจะดีของมันเอง ราคาที่ดินคงติดจรวดสุด กรุงเทพจะเงียบลงไปเยอะ

ดังนั้น เพื่อนบ้านเห็นอย่างนี้แล้ว ใครมันจะยอมให้ขุด ถ้าไม่ได้ผลประโยชน์ด้วย

ผมว่าโอกาสเกิดของท่าเรือน้ำลึกทวายแลดูจะมีโอกาสมากกว่า คลองกระบุรี ครับ มันเป็นความคิดส่วนตัวครับ ไม่ขอลงรายละเอียดแล้วกัน 

ผมบอกได้เลยว่าโครงการคลองกระนี้ ไม่ว่าจะชาตินี้ หรือชาติไหนก็ไม่มีทางได้ขุด

ทำไมนะหรือ ก็เพราะว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนไงครับ ระยะทางที่ลดได้มันสั้นเกินไป

ธุรกิจเดินเรือมันมีอะไรมากกว่ามีคลองให้เรือวิ่งครับ ต้องสร้างท่าเรือ ที่พักสินค้า

การขนส่งเชื่อมต่อทางบก อาคารสำนักงาน ธนาคาร ซึ่งสิงคโปร์เขามีหมดแล้ว

ถึงเรือจะอยากวิ่งมาที่ไทยเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่ถ้าจะให้ย้ายออฟฟิตกันมาหมดเลยคงคิดหนัก

เพราะสิ่งอำนวยความสดวก ความเจริญต่างๆมันเทียบกันไม่ได้ คงไม่มีใครย้ายมาแน่

ก็เหมือนกับที่ทำไมบริษัทอุตสาหกรมต่างชาติมากมายที่มาตั้งในเมืองไทยไม่ย้ายไปไหนซักที

ทั้งๆที่ประเทศเพื่อนบ้านเราค่าแรงก็ถูกกว่านั้นแหละ

ปล.ผมอยากบอกว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่ดีมากๆโครงการนึง

แต่มันควรทำเมื่อ50ปีที่แล้วไม่ใช่ตอนนี้...

โครงการคลองกระคงเป็นเรื่องที่ห่างไกลออกไปจนเกินเอิ้อมแล้วละครับ ด้วยเหตุผลหลายประการ

หากแต่อยากให้ลองเปรียบเทียบเฉพาะโครงการทวายกับท่าเรือน้ำลึกระนองของเรานะครับ

โครงการทวายแบ่งเป็นสองส่วน คือโครงการนิคมอุตสาหกรรม กับโครงการท่าเรือน้ำลึก

ผมพูดเฉพาะโครงการท่าเรือน้ำลึกนะครับ ลองชั่งน้ำหนักดูครับว่า เราควรพัฒนาท่าเรือระนองหรือ

ท่าเรือทวายมากกว่ากัน อย่างไหนประเทศชาติได้ประโยชน์มากกว่าทั้งระยะสั้นและระยะยาว

เรื่อง คลองกระ นี่มันพูดยากนะครับ จริงๆ แล้ว ไทยมีแนวคิดจะขุดเมื่อ 200 กว่าปี มาแล้ว สมัย ร.1 กรมพระราชวังบวร ทรงริเริ่มอยากจะขุดเพื่อนำกองเรือไปตีพม่า ส่งกำลังบำรุงไปเมืองทวาย แหม๋ถ้าขุด ลูกหลานจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่มีเรื่องเล่าว่าเมื่อไหร่ รัฐมีแนวคิดจะขุด จะมีประเทศทางใต้ของเราวิ่งขึ้นมาเจรจา ให้เงินสนับสนุนเรื่องอื่น แล้วเรื่องก็จะหายเข้ากลีบเมฆไป ผมเคยคิดว่าทำไมสมัยนี้เทคโนโลยีทันสมัย ไม่เอาแบคโฮขุดเข้าไปหว๋า ทำมันง่ายๆ ขุดมันไปเรื่อยๆ มาทราบตอนหลัง ระดับน้ำทะเลระหว่างอ่าวไทย กับ อันดามัน มันต่างกัน 1 เมตร น้ำขึ้นน้ำลงก็ไม่เหมือนกัน ถ้าขุดไปอาจเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ได้ อาจต้องทำเป็นเขื่อนกันระดับน้ำแบบคลองสุเอช ส่วนตัวผมเชียร์ให้ขุดนะ ถึงไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ แต่จะช่วยเรื่องความมั่นคงได้ คือ กองเรือ ไม่ว่า จะเรือรบ เรือประมงของเราไม่ต้องอ้อมทางใต้ ต้องทำเรื่องขออนุญาตมาเลฯ สิงคโปร์ เพราะจะมีกฎหยุ๋มหยิ๋มมาก เช่น อุปกรณ์ประมง อวนลากต้องนำอวนขึ้นพ้นน้ำ ห้ามเปียก ไม่งั้นจะโดนจับหาว่าลักลอบจับปลาในน่านน้ำของเค้าเป็นเรื่องอีก 
ส่วนเรื่องท่าน้ำลึกทวาย หรือ ท่าน้ำลึกระนองนั้น หวยคงออก ท่าน้ำลึกทวาย เพราะจะมีถนนรองรับผ่านภาคกลาง อีสาน ของไทย ไปแหลมฉบับ ไปเวียดนามเลย ถ้าเป็นระนอง มาออกชุมพร หรือ แหลมฉบัง ต้องอ้อม ไม่คุ้มค่าการลงทุนอยู่ดี ท่าน้ำลึกระนองของเราจึงต้องพับไป      

เรื่อง คลองกระ นี่มันพูดยากนะครับ จริงๆ แล้ว ไทยมีแนวคิดจะขุดเมื่อ 200 กว่าปี มาแล้ว สมัย ร.1 กรมพระราชวังบวร ทรงริเริ่มอยากจะขุดเพื่อนำกองเรือไปตีพม่า ส่งกำลังบำรุงไปเมืองทวาย แหม๋ถ้าขุด ลูกหลานจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่มีเรื่องเล่าว่าเมื่อไหร่ รัฐมีแนวคิดจะขุด จะมีประเทศทางใต้ของเราวิ่งขึ้นมาเจรจา ให้เงินสนับสนุนเรื่องอื่น แล้วเรื่องก็จะหายเข้ากลีบเมฆไป ผมเคยคิดว่าทำไมสมัยนี้เทคโนโลยีทันสมัย ไม่เอาแบคโฮขุดเข้าไปหว๋า ทำมันง่ายๆ ขุดมันไปเรื่อยๆ มาทราบตอนหลัง ระดับน้ำทะเลระหว่างอ่าวไทย กับ อันดามัน มันต่างกัน 1 เมตร น้ำขึ้นน้ำลงก็ไม่เหมือนกัน ถ้าขุดไปอาจเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ได้ อาจต้องทำเป็นเขื่อนกันระดับน้ำแบบคลองสุเอช ส่วนตัวผมเชียร์ให้ขุดนะ ถึงไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ แต่จะช่วยเรื่องความมั่นคงได้ คือ กองเรือ ไม่ว่า จะเรือรบ เรือประมงของเราไม่ต้องอ้อมทางใต้ ต้องทำเรื่องขออนุญาตมาเลฯ สิงคโปร์ เพราะจะมีกฎหยุ๋มหยิ๋มมาก เช่น อุปกรณ์ประมง อวนลากต้องนำอวนขึ้นพ้นน้ำ ห้ามเปียก ไม่งั้นจะโดนจับหาว่าลักลอบจับปลาในน่านน้ำของเค้าเป็นเรื่องอีก 
ส่วนเรื่องท่าน้ำลึกทวาย หรือ ท่าน้ำลึกระนองนั้น หวยคงออก ท่าน้ำลึกทวาย เพราะจะมีถนนรองรับผ่านภาคตะวันตก ภาคกลาง อีสาน ของไทย ไปแหลมฉบัง ไปเวียดนามออกอ่าวตั๋งเกี่ย ทะเลจีนใต้เลย ถ้าเป็นระนอง มาออกชุมพร หรือ แหลมฉบัง ต้องอ้อม ไม่คุ้มค่าการลงทุนอยู่ดี ท่าน้ำลึกระนองของเราจึงต้องพับไป      

คลองกระ ทำดีๆ ขุดตอนนี้ยังคุ้มอยู่ครับ การลดระยะทางลดได้หลายวันอยู่นะครับ แล้วคิดดูว่าเรือเดินสมุทรกินน้ำมันเท่าไหรต่อชั่วโมง/วัน 

ยกตัวอย่างเช่นเรือจากยุโรปเข้าศรีราชาเป็นต้น เทียบว่าโรงงานรถญี่ปุ่นในบ้านเราที่ต้องพึ่งพาการส่งออกทางเรือก็ไม่น้อยเลยครับ

นอกจากนี้อย่างที่ท่านข้างบนว่า (แหะๆ พอดีเดี๋ยวนี้มันไม่สามารุอ่านกระทู้ในหน้าเดียวกับที่ตอบได้เลยจำชื่อบ่ได้) มันไม่ใช่แค่คลองแต่เป็นท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมที่ติดกับท่าเรือด้วย ยิ่งแจ่ม ลดต้นทุน logistic กระจุยกระจาย

เห็นด้วยกับท่านเสือใหญ่ เรื่องรัฐบาลไทยไปลงทุนทวาย ผมว่ามาลงทุนประเทศด้วยเองได้ผลตอบแทนดีกว่า เพราะยังไงทวายก็ไม่ได้ชัดเจนว่าจะมีสิ่งต่างๆ ที่สร้างในประเทศเรายาก