เปิด9ข้อเรียกร้องBRN
จี้ถอนทหาร
ตั้งเขตปกครองพิเศษ3จว.ใต้
ยึดโมเดลอาเจ๊ะ-นิรโทษหมด
เมื่อวันที่ 26มีนาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงความพร้อมการเจรจากับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นในวันที่ 28มีนาคม ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ได้รายชื่อคณะที่จะเดินทางไป 15คนแล้ว ซึ่งไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะเป็นหลักการที่นายกรัฐมนตรี เคยเห็นชอบไว้แล้ว ขั้นตอนนี้เป็นส่วนของผู้ปฏิบัติ แต่จะรายงานให้นายกฯทราบเป็นระยะๆ โดยฝ่ายปฏิบัติจะหารือเตรียมความพร้อมกันอีกครั้งและจะออกเดินทางไปมาเลเซียในวันที่ 27มีนาคมนี้ กรณีมีการติดแผ่นป้ายรัฐปัตตานีที่ จ.ปัตตานี นั้น เป็นผู้ที่มีความเห็นต่าง แต่ยังไม่มีข้อกังวลใจ เรายังควบคุมสถานการณ์ได้ แน่นอนว่าการดำเนินการย่อมมีผู้เห็นต่าง ตอนนี้ก็มีผู้เห็นต่างที่เขาแสดงออกมา แต่ไม่เป็นปัญหา
เปิด9ข้อเรียกร้องบีอาร์เอ็น
มีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงของมาเลเซีย ถึงการเจรจาวันที่ 28มีนาคมนี้ ว่า ฝ่ายขบวนการกำหนดบุคคลที่เจรจาครั้งนี้ 5คน โดยมี นายฮาซัน ตอยิบ เป็นหัวหน้าคณะ มีบุคคลจากขบวนการบีอาร์เอ็น โคออดิเนท จำนวน 2คน จากขบวนการพูโล 1คนและจากการขบวนการBIPP จำนวน 1คน โดยข้อเรียกร้องที่ขบวนการบีอาร์เอ็นกำหนดไว้แบบไม่เป็นทางการเบื้องต้นมี 9ข้อ คือ 1.ผู้ที่จะมาเจรจาต้องเป็นตัวแทนจากรัฐบาลไทยเท่านั้น 2.รับรองในอัตตลักษณ์ ภาษา ชาติพันธุ์ มลายู 3.ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ชายแดนภาคใต้ พร้อมยกเลิกกฎหมายพิเศษ 4.ให้กองกำลังท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลแทน 5.จัดพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ 6.ให้ประเทศมาเลเซียเป็นตัวกลางและสำนักนายกรัฐมนตรีของ 2ประเทศในการเจรจา เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล (นายนายิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและนายอับดุลเลาะ บาดาวี อดีตนายกรัฐมนตรี เท่านั้น) 7.การเจรจาครั้งนี้ไม่ต้องผ่านโอไอซีและองค์กรจากยุโรป 8.ให้นิรโทษกรรมผู้กระทำผิดและ9.การปกครองจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยึดโมเดลของเขตปกครองพิเศษอาเจ๊ะ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งข้อเรียกร้องทั้งหมดจะต้องเสนอผ่านสันติบาลประเทศมาเลเซียก่อนส่งไปยังฝ่ายเจรจาของไทย
เครดิตรhttp://www.naewna.com/politic/46300
ความเห็นส่วนตัวนะครับ แค่ดูข้อเรียกร้องก็รู้ละประเทศไหนสนับสนุนการก่อการร้ายการแบ่งแยกดินแดน เห็นได้ชัดเจนมากๆ ทำกับดินแดนนั้นเป็นของประเทศตัวเอง ไทยรีบจัดหาเรือดำน้ำเร็วๆดีกว่ามีหวังได้ฉะกับมาเลเซียแน่ๆ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับบัญญัติไว้ในมาตรา 1. ว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้”
ลักษณะจะออกมาแนว ฮ่องกง +จีน หนึ่งประเทศสองระบบ ไม่ได้แตกออกเป้นประเทศไหม่ ถ้าแนวทางนี้สามารถทำไห้ตวามขัดแย้งยุติลงได้ ผมก็เห้นด้วยครับ จริงๆมันน่าจะเป้นแบบนี้มาตั้งนานแล้วครับ โดยส่วนตัวอยากไห้รับข้อเสนอนี้ มัวแต่อีโก้อยู่ 100ปีก็ไม่สงบ
แต่ผมคิดว่ามันจะไม่จบง่ายๆซิครับ อย่าลืมว่าไม่ได้มีเพียงกลุ่มนี้นะครับ ยังมีอีกหลายกลุ่ม ให้ถอนทหารออกอีก ขนาดมีทหารยังขนาดนี้ถ้าถอนออกเวรกรรมของชาวบ้านไทยพุธละทีนี้ เพราะแต่ก่อนยังไม่ส่งทหารลงไปมันก็มีเหตุการจนเอาไม่อยู่ ถึงต้องส่งทหารลงไป กลัวจะกลายไปเป็นจังหวัดหนึ่งของมาเลเซีย
ข้อเรียกร้องของ BRN เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สามารถยอมรับได้ครับ
ผมคิดว่านี่แค่เริ่มต้น เดี๋ยวมีได้คืบจะเอาศอก
รับไม่ได้กับข้อเสนอ ทั้งหมด แล้วนักล่าสยาม คือใครเหรอครับ นักล่าสยามทั้งหลายของเราเค้าสวรรคต ไปหมดแล้ว ตอนนี้มีแต่ประเทศไทย ผมเข้าใจอะไรผิดหรือปล่าวอ่ะครับ
อ้า บอกคำเดียว รับไม่ได้ ที่นี่ประเทศไทย ไม่ใช่รัฐมลายู ปาตานี ต่อให้ต้องระดมทหารทั้งประเทศลงไปก้อยอมแต่เสียดินแดนไปไม่ได้แม้แต่เซนต์เดียว
ง่ายๆ
ในอาเจะห์ อินโด เรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นตัวอย่างที่ดี มันไม่จบเเค่นี้หรอก มันจะขออีกๆ
อยากอยู่มาเลเชียก็ไม่บอกดี
ผมเคยได้ยินมาว่าทางภาคใต้บางคนถือสองสัญชาติ ไม่ทราบว่าในปัจจุบันคนที่ถือสองสัญชาติยังมีอยู่ไหมครับ และสงสัยว่าทำไมถึงไม่บังคับให้เลือกสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งไปเลยครับ
ผมว่าคนไทยต้องรักกันให้มากกว่านี้ครับ ถ้าคนเรารักในชีวิตเพื่อนมนุษย์มากกว่าเงินทองแล้ว ไม่มีทางที่ใครจะมาข่มเหงเราได้แน่นอน
ให้อีกหนึ่งเสียงครับ เรื่องนี้ยอมรับไม่ได้กับข้อเรียกร้องของทางฝ่ายนั้น ได้คืบจะยิ่งเอาศอก ท่าน Kamikaze ครับ มันไม่จบแค่ตรงนี้หรอก จะเงียบแค่ชั่วคราว คราวหน้าจะหนักยิ่งกว่านี้อีก และหลังจากนั้นอาจจะตามมาด้วยสงครามการปราบปรามที่รุนแรงมากแบบไม่ยั้ง และจะตามาด้วยสงครามใหญ่ของสองประเทศระหว่างเจ้าของพื้นที่และประเทศที่ให้การสนับสนุน จะมีคนตายมากมายกว่านี้อีกมากนัก
ถ้ารัฐบาลตกลงตามข้อเสนอนี้ ผมและครอบครัวจะเทคะแนนเสียงทั้งหมดให้พรรคฝ่ายตรงข้าม แถมจะไปรนณรงค์ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงให้ลงคะแนนพรรคฝ่ายตรงข้ามเพิ่มมากขึ้น
ผมคน 3จังหวัดภาคใต้น่ะคับ
ผมรับไม่ได้จริงๆกับคำขอ 9 ข้อนี้ รับไม่ได้จริงๆ
เป้าหมายคือแบ่งแยกอยู่แล้ว ถ้าทำตาม ถึงเวลาคงอ้างเราไปเผาคำภีร์ อยู่ร่วมกันไม่ได้ ขอแยกตัวทันที แล้วก็เกณฑ์คนมาตายมากๆ สร้างกลุ่มประท้วงชาวบ้านบังหน้าตัวจริงๆคือกลุ่มติดอาวุธ ทำแล้วก็ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่แยกในอนาคต แต่อย่างน้อยก็มีเป้าให้โจมตีชัดเจน ถึงแม้ตัวที่ออกมาจะไม่ใช่ตัวจริง แต่อย่างน้อยเราก็มีเป้าให้ต้องรับผิดชอบ ต่อไปชาวโลกจะได้รู้ว่า BRN คือ ฆาตกร ฆ่าครู ฆ่าพระ ฆ่าชาวบ้าน ดีกว่าปล่อยให้เรามืด หาเป้าไม่เจอ ถึงแม้จะปฏิเสธแต่เราก็สามารถพูดได้เต็มปากว่า คนกลุ่มนี้คือ ฆาตกร
ผลกรรมของการคิดแบ่งแยกดินแดนครับ จุดจบของมันคือตายสถานเดียว ซึ่งหลายๆครั้งแล้วที่ผมห็นโจรใต้ที่ก่อคดีฆ่าคนแล้วจะมีชีวิตรอดอยู่ได้นาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย จ.ยะลา ปะทะกลุ่มก่อความไม่สงบขณะปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ บ้านเจาะปันตัง หมู่ 9 ต.บันนังกูแว อ.บันนังสตา จ.ยะลา เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายไป 3 ศพ ส่วนเจ้าหนาที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ยังมีการยิงปะทะอยู่เป็นระยะ ซึ่งทาง พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา พร้อม พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว
โจรใต้ 3 ศพ เป็นทีมเดียวสังหารรองผู้ว่าฯยะลา
เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เข้าตรวจสอบบนเทือกเขาเขตรอยต่อระหว่าง ต.ปะแต อ.ยะหา กับ ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา บริเวณ ม.9 บ้านเจาะปันตัง ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 47 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ยะลา เข้าตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว หลังรับแจ้งจากสายข่าวว่า มีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจำนวน 7-8 คน เข้ามาหลบซ่อนตัวภายในขนำในป่าสวนยาง บนเทือกเขาตะรุแว และเกิดการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ ส่งผลคนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 3 คน และคาดว่าศพ เจ้าหน้าที่จะนำลงจากเทือกเขาในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่มืดค่ำ และมีฝนตกลงมา และต้องเดินเท้าเข้าไปกว่า 5 กิโลเมตร จากถนนใหญ่สาย 410 ยะลา - เบตง และเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายที่เสียชีวิตเป็นลูกน้องของ นายอับดุลเลาะ ดาเปาะโอ๊ะ แกนนำคนสำคัญในพื้นที่ อ.บันนังสตา ที่เป็นชุดก่อเหตุลอบวางระเบิดรถยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
คนที่จะให้ถมกองทัพลงไปฆ่ากันให้ถึงที่สุดผมว่าเอาญาติๆ คุณไปละกัน ตลกน่ะครับ แต่ไม่ใช่ว่าผมคิดว่าจะเกิดการแบ่งแยกหรอกครับ แต่วิธีของคุณมันไม่ได้ช่วยให้เรารักษาประเทศให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวหรอกครับ รังแต่จะทำให้เหตุการณ์บานปลายจนสุดท้ายประเทศอื่นๆ มาเจือกแน่ๆ แล้วอย่างนั้นจะเข้าทางพวกแบ่งแยกละครับ ดูติมอร์ละกัน ยิ่งกว่าอาเจ๊ะห์อีก อาเจะห์นี่ยังไงก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของอินโดนีเซีย 100% ส่วนติมอร์ที่กองทัพเข้าไปล้างกลายเป็นประเทศใหม่ไปเรียบร้อย
ของเรายังแตกต่างกว่าในต่างประเทศ เช่นของเราฝ่ายก่อการหลบๆ ซ่อนๆ เอาเป็นว่ายังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าของต่างประเทศ
ผมคิดว่าไอ้การเจรจาหรือน้ำหนัก อำนาจการต่อรองของ brn นี่ยังไม่น่าไปกลัวอะไรขนาดนั้น เพราะหนึ่งเลย เขาไม่ได้เป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่ในสามจว.ภาคใต้หรอกครับ คือกะอีพวกแบ่งแยกกันเองคุยกันรู้เรื่องหรือยังก็ไม่รู้เลย
ผมว่าบีอาร์เอ็นออกข้อเรียกร้องนี้มาเพื่อสร้างราคาให้ตัวเองมากกว่าครับ เพราะสถานการ์เขาไม่ได้เหนือกว่าทางรัฐบาลเราเลยครับ ถ้าเกิดเขากำลังถล่มฐานทัพของกองทัพบกและปิดล้อมที่ทำการจังหวัดอำเภอ อย่างนั้นถึงจะพอมีน้ำหนักให้ฝ่ายรัฐบาลเรานำมาใครครวญได้ ไอ้การมาตั้งข้อเรียกร้องโดยไม่มีเงื่อนไขตอนนี้จึงฟังน่าขันสิ้นดี เพราะไม่ได้มีใครเป็นรองใครเลย
เรื่องบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เขาเราเปลียนรัฐธรรมนูญเป็นว่าเล่นอยู่แล้วครับ
เรื่องคนสองสัญชาติ ความจริงประเทศไทยห้ามถือสองสัญชาติครับ ขณะที่หลายปะเทศ (สวนใหญ่พวกที่พัฒนาแล้ว) อนุญาติ แต่เราก็ไม่ได้ไปไล่บี้อะไรถ้าคุณอยู่เฉยๆ ไม่ได้ไปก่อความผิดที่ไหน เขาก็คงขี้เกียจมาเจือกล่ะครับ คนไทยที่ย้ายอยู่ตปท.ไปขอสัญชาติก็ไม่เห็นต้องมายเลิกของไทยแต่อย่างใด (ความจริงต้องแหละ) หรือพวกที่แต่งงานรกับต่างชาติอะไรประมาณนั้นแล้วได้สัญชาติของคู่สมรสอัตโนมัติ(จากประเทศของคู่สมรส)
@ tawpon บรรพบุรุษเอาเลือดแลกมา เข้าทาง propaganda ของฝ่ายแบ่งแยกล่ะครับ ของเขาคือโดนรัฐสยามปล้นดินแดนไป ผมก็สังเกตเหมือนกับคุณ juldas ว่าbrn ใช้คำว่ารัฐสยาม แต่คุณก็ถูกครับเรื่องความหลากหลายของคนในพื้นที่ คนที่อยู่ในเขตแดนนั้นมีหลากหลายเชือชาติวัฒนธรรม และจุดยืนทางการเมือง ไม่ได้แต่พวกแบ่งแยกดินแดนกันหมด
สรุปว่าวิธีเดียวที่จำทำให้ประเทศเป็นปึกแผ่นจริงๆ เราต้องกำจัดสาเหตุที่ทำให้คนเห็นใจหรือเข้าข้างฝ่ายแบ่งแยก ก็คือการพัฒนาทั้งการศึกษาเศรฐกิจ สาธารณสุข ยุติธรรม เรียกว่าไม่มีเหตุผลที่เขาจะอยากแบ่งแยกเพราะโดนปั่นหัว ซึ่งก็เป็นสิ่งที่่ใช้เวลานาน ขณะเดียวกันเราก็ต้องรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่บริสุทธ์ และกดดันทำลายกลุ่มติดอาวุธ
แต่พูดไปก็ง่ายกว่าทำเช่นเคย
การเจรจาตอนนี้ผมว่ากึ่งๆ ปาหี่ยังไงไม่รู้ เพราะที่ผ่านมาเราก็เจรจาลับๆ มาตลอดซึ่งก็ไม่ใช่แนวทางที่ผิดอะไร การเจรจาตอนนี้ผมไม่เห็นว่ามันจะมีความชัดเจนอะไรคือเหมือนกับแค่มาทำความรู้จักกันก่อน ซึ่งก็เหมือนกับที่รัฐบาลบอกว่าช่วงนี้เน้นทำความเข้าใจกันก่อน ยังไม่ได้อะไร ทำให้เหมือนกับว่าฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายแบ่งแยกมองการเจรจาอันนี้ต่างกัน
ผมขอมองในทางดีนะครับ
เอาหละ ฝ่ายโน้นเขาหงายไฟ่ออกมาแล้ว คือเปิดเผยมาแล้วว่า อยากได้อย่างนี้ แล้วของฝ่ายเราหละครับ มีการเปิดเผยหรือไม่ว่า อยากเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนกับเขา หรือตั้งข้อเรียกร้องกลับไปว่า ถ้าท่านอยากได้อย่างนี้ ท่านก็ควรจะช่วยทำเรื่องนี้ให้กับเราด้วยสิ อะไรทำนองนั้นหนะครับ
คือผมมองว่า มันมีช่องว่างให้พอเล่น (คือ พอเจรจากัน) ได้อยู่ เช่น ขอให้ยกเลิกหมายจับใช่ไหม เอ้า ได้สิ แต่เฉพาะหมายจับของคนที่เป็น BRN เท่านั้นนะ (ขบวนการอื่น อยากได้อย่างนี้ ก็มาขึ้นโต๊ะเจรจากับเขาสิ หมอบแบบนี้ ไม่ได้สิทธินะเอ้อ) และเฉพาะหมายจับคดีความมั่นคงเท่านั้นนะ คดีอื่นๆ แบบว่า BRN กินข้าวแล้วไม่จ่ายตัง อะไรอย่างนี้ ยกเลิกให้ไม่ได้นา อ่อ แล้วก็ ยกเลิกให้ทีเดียวเท่านั้นนะ แต่ขอทำประวัติไว้ และต่อไปนี้เรากับท่านต้องช่วยกันดู ว่า คนเหล่านี้ คงไม่กลับไปก่อเหตุร้ายแรงอีกแล้ว (ก็เราไม่ได้จับอาวุธรบกันแล้วนี่ เรากำลังเจรจากันแล้ว) เพราะฉะนั้น ถ้ามีเหตุจับได้คราวหน้าอีก ไม่ยกเลิกให้แล้วนะ แบบนี้ตกลงไหม อะไรทำนองนี้เป็นต้นหนะครับ
เรื่องข้อเสนอทั้ง 9 นี้...เขารู้อยู่แล้วล่ะครับ...ว่า ไทย คงไม่รับ...
ตอนนี้ เป็นแค่จุดเริ่มต้น สำหรับแนวทางการต่อสู้ แนวใหม่...
ในความเห็นผม ตอนนี้...
ประเด็นหลัก ตอนนี้ ผมคิดว่า เขากำลังจะเบี่ยงประเด็น เรื่อง รัฐสยาม และ ประเทศไทย น่ะครับ...
จะเห็นคำแปล ถ้อยแถลง เขาจะใช้ คำว่า "รัฐสยาม" ไม่ได้ใช้คำว่า "ไทย"
ซึ่งถ้า รัฐ ยอมเจรจาในประเด็นเรื่องความเข้าใจในความหมายตัวแทน คือ รัฐสยาม...
ก็อาจจะมีการ พยายาม ตีประเด็นว่า รัฐปัตตานี เป็นรัฐอิสระ ที่อยู่ภายในการสั่งการจากส่วนกลาง ที่สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 4...
ที่รวมรัฐชาติ เป็น ราชอาณาจักรสยาม...
ซึ่ง หมายถึง การยอมรับว่า รัฐปัตตานี ไม่ใช่ ส่วนหนึ่งของ ประเทศไทย...แต่เป็นส่วนหนึ่งของรัฐอิสระที่ขึ้นการปกครองกับ รัฐสยาม
แล้ว หลังจากนั้น ถึงจะเป็นการขยายไปสู่การแบ่งแยก การปกครอง ออกมา...
ในเหตุการณ์ช่วงใน สมัยนั้น...คงมีเรื่องการแบ่งการปกครอง ตามหัวเมืองเป็นพื้นฐานอยู่...
ถึงทำให้ จอมพล ป. เปลี่ยนชื่อจาก ราชอาณาจักรสยาม มาเป็น ประเทศไทย เพื่อรวมรัฐทั้งหมด เป็นหนึ่งประเทศ ให้เด็ดขาดไป...
ซึ่งในช่วงปี 2544 (ผมจำไม่ได้ช่วงปีไหนที่แน่นอน)
นายสนธิ ลิ้มทองกุล เคยลงความเห็นในหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ เรื่อง การอยากให้ ประเทศไทย หันกลับมาใช้ชื่อ สยาม อีกครั้งหนึ่ง...เพราะช่วงนั้น ผมติดตามเขาประจำ (เอาไว้เป็น ข้อมูลครับ)...
คำว่า รัฐสยาม คือ การประกอบด้วยรัฐที่มีการปกครองด้วยตนเอง แล้วรวมกันเป็น ชื่อ ราชอาณาจักรสยาม
ยกตัวอย่างเบื้องต้นจาก วิกีพีเดีย นะครับ...
ราชอาณาจักรสยาม
ถึงแม้ว่าจะมีกล่าวถึง "สยาม" (ซึ่งอาจหมายความถึงคนไทยหรือไม่ใช่ก็เป็นได้) โดยผู้คนจากต่างแดนอย่างกว้างขวางดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วก็ตาม แต่ทว่าในอดีตนั้น แนวคิดเรื่องรัฐชาติยังไม่ปรากฏชัดเจน ดังเช่นที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรปตั้งแต่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ การอ้างอิงถึงราชอาณาจักรของทางราชสำนักของไทยจึงยังคงอ้างอิงโดยใช้ชื่อเมืองหลวง ดังเช่นพระราชสาสน์ของสมเด็จพระเอกาทศรถที่มีไปถึงพระเจ้าดอน ฟิลลิปแห่งโปรตุเกส ผ่านผู้สำเร็จราชการแห่งเมืองกัว ก็ได้มีการอ้างพระองค์ว่าเป็นผู้ปกครองแว่นแคว้นของ กรุงศรีอยุธยา เป็นอาทิ[ต้องการอ้างอิง] ส่วนชาวต่างชาติได้เรียกอาณาจักรอยุธยาว่า สยาม มาตั้งแต่ราว พ.ศ. 2000 เป็นต้นมา[6] ในรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยใช้ชื่อประเทศว่า "สยาม"[14] ด้านโกวิท วงศ์สุรวัฒน์ได้ระบุว่า นามสยามได้เริ่มใช้ในฐานะของประเทศสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยแปลว่าผิวคล้ำ[15]
ในหนังสือสัญญาที่ไทยทำกับต่างประเทศสมัยรัชกาลที่ 3 ไม่พบการใช้คำว่า "สยาม" เลย[16] เมื่อประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับจักรวรรดินิยมสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงได้พยายามดัดแปลงให้ประเทศมีลักษณะสมัยใหม่ขึ้น เพื่อซึ่งประการหนึ่งในนั้นคือ การทำให้ประเทศไทยมีลักษณะเป็นรัฐชาติที่มีการควบคุมจากส่วนกลาง และเริ่มมีการใช้ชื่อ "ราชอาณาจักรสยาม" เป็นชื่อประเทศอย่างเป็นทางการ[1] โดยปรากฏใช้ชัดเจนครั้งแรกใน พ.ศ. 2399 แต่คนไทยส่วนมากไม่เห็นด้วยกับการใช้ชื่อดังกล่าว คงเรียกว่า "ไทย" ตามเดิม[16]
อย่างไรก็ดี เหรียญกษาปณ์แทนเงินในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พิมพ์ตัวหนังสือว่า "กรุงสยาม" และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พิมพ์ตัวหนังสือว่า "สยามรัฐ"
หยั่งใร ก้ลองคุยๆดูกันก่อนครับ ไนความมืดมิดแม้มีเพียงแสงสว่างอันน้อยนิด ก้ต้องลองดูซักตั่ง อันไหนใด้อันใหนใม่ได้ ก้ว่ากันไป จะไห้มาเข่นฆ่ากันอย่างเดิยวมันใม่จบไม่สิ้นนะครับ
ไปพักผ่อนเพื่อหัดพิมพ์ภาษาไทยสัก 3 วันนะครับ ที่ผ่านมาผมถือว่าผมปล่อยผ่านและตักเตือนมาหลายครั้งแล้ว จะหาว่าผมบ้าอำนาจหรืออะไรก็แล้วแต่ครับ / ADMIN
ผมว่าขอเรียกร้องของ BRN ทั้ง 9 ข้อ รัฐบาล ควรตั้งคิดให้ดี ๆๆๆๆ ครับ ถ้าเป็นผม ผมจะให้ 3 จังหวัดภาคใต้ เป็นเหมือนกรุงเทพมหานคร คือเป็นเขตปกครองที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง และส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ให้มีความเจริญ เป็นแหล่งท่องเที่ยว ในข้อเรียนร้องที่ให้ไม่ได้เลยคือ ให้ถอนทหารออก นี่ผมว่าถ้าถอนก็จบ ประเทศไทยจะมีชายแดน จบที่สงขลาแน่นครับ ผมเคยคุยกับตำรวจที่ลงไปในพื้นที่ เขาบอกว่าที่นั้นค่าครองชีพสูงมาก ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือป่าว
ยังไม่รู้เลยว่าคนหรือกลุ่มที่เรียกร้องตัวจริงหรือเปล่า ปกติ เวลาเจรจาน่าจะมีการยื่นข้อเสนอให้ลดความรุนแรง หรือการปฏิบัติการลง เหมือนเจรจารอบทีแล้วก็มีข้อเสนอนี้ไปจากฝ่ายเรา แล้วดูผลที่เกิดขึ้นสิครับ /ที่ผ่านมา เราบังคับใช้กฏหมายเพียงเท่านั้น อาจมีการออกพรบ.พิเศษขึ้นมา เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เรายังไม่ทำอะไรนอกเหนือหลักนิติรัฐ รัฐอื่นก็ยังมีมุมมองต่อปัญหานี้ว่าเป็นปัญหาภายในของเรา มาก้าวก่ายไม่ได้ อย่าพึ่งให้ราคาข้อเสนอ ที่ขาดซึ่งความจริงใจแบบนี้่เลยครับ ฝ่ายเราสูญเสีย ฝ่ายเขาก็สูญเสีย มีโจรในบ้านในเมืองก็ต้องปราบมองมันให้มีขนาดของปัญหาที่เหมาะสมดีกว่า ยิ่งพูดเยอะเรื่องเขาอยากแบ่งแยกเท่าไหร่ ยิ่งไปให้ราคาเขา เขามีศักยภาพขนาดหรือ ให้เจ้าหน้าที่มุ่งเน้น ทำงานมวลชนต่อไป เข้าใจ เข้าถึง พัฒนามากขึ้น อย่างไรก็ต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดแหละ เรียกร้องอย่างนู้นอย่างนี้ รัฐไทยทำอะไรผิด ถ้ามีทั้งในอดีตและปัจจุบันก็ควรจะเสนอแนวทางแก้ไขไม่ใช่เรียกร้องแบบมีนัยยะแอบแฝงแบบนี้ หาว่าเราปฏิบัติต่อเขาไม่ดี เขาปฏิบัติต่อเราดีตายแล้วล่ะ มันต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ให้อะไรไปมันง่ายครับ เวลาเสียไปแล้วจะเอาคืนมา ไม่หมูนะครับ
จากใจจริงถ้ารับเแปลว่าคนของเราตายเปล่า
ชาวพุทธไทยมันแหยๆไปหน่อยไหมครับ? ไม่ค่อยกวดขันไล่บี้ไล่จับกันหนักหน่วง
ผมว่าเราควรเพิ่มความหนักหน่วงให้ทุกๆหน่วย ไม่ต้องหนักแบบชาวพุทธพม่าที่รุนแรงขนาดนั้นแค่ยกระดับการไล่ล่าให้หนักขึ้นจะได้จัดการตัวบิ๊กๆไปให้หมดอย่างเด็ดขาด
เห็นข้อเรียกร้องทีแรกผมตบขาตัวเองดังเพี้ยะ ตูว่าละ ประเด็นสำคัญอาจจะไม่ใช่ที่ข้อเรียกร้องครับแต่มันมีนัยยะซ่อนเล้นอยู่แม้ว่าจะไม่ได้ตามข้อเรียกร้องแมแต่ข้อเดียวก็ตาม มันคือการได้รับการยอมรับฐานะของกลุ่มครับว่ามีตัวตนอยู่ทีนี้ยุ่งละครับเพราะเคลือข่ายองค์กรก่อการร้ายจะวิ่งเข้ามาหาทันทีกลุ่มจะทวีกำลังขึ้นมากด้วยเหตุนี้ละครับว่ามาเลย์เข้ามาทำไมเพราะเมื่อมีประเทศเป็นตัวกลางก็เท่าเป็นการให้การรับรองไปโดยปริยาย พวกกนี้ก็จะได้การคุ้มครองโดยกฎหมายระหว่างประเทศอีกทางหนึ่งทีนี้ละครับ ทั้งเงินทุนจากเครือข่ายต่างๆ การได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายระหว่างประเทศอีกทาง ขอใช้คำนี้นะครับ ฉิบหาย !!! อย่าคิดว่าผมคิดเอาเองนะครับมันเป็นไปได้มาก คิดผิดแต่แรกแล้วครับที่ไปเปิดโต๊ะเจรจาก่อน อย่าคิดว่าจะจบง่ายๆนะครับ แต่เดิมพวกนี้ไม่มองถึงการแบ่งแยกดินแดนด้วยซ้ำ แต่นี่เหมือนปลุกผีให้เค้าซะเลย ย์่นมีดให้โจรแท้ๆ
เอาทหารออกวันไหน ก็มีฆาตกรรมหมู่วันนั้นหละครับ ในพื้นที่เด็กวัยรุ่นมันรู้เรื่องอะไรบ้าง เฮไหนเฮนั่นตามประสาคนหนุ่ม วันๆแข่งกันแต่ 4x100 (ฟิตมากเลย) ถ้าไม่มีทหาร มันอาจเป็นจลาจลได้เลย และไอ้ที่เรียกนักล่าสยามอะไรนี่ ผมอยากรู้จริงๆตอนอังกฤษมายึด คนพวกนี้แน่แค่ไหน กับน่าล่าอณานิคมทำอะไรได้บ้าง ใช้ตรรกะง่ายๆยึดไปขึ้นกับมาเลเซียแน่ๆ เพราะมาเลเซียแบ่งเขตกันใหญ่ชัดเจน แบบนี้เจรจาเพื่อ??? หันมายอมรับกันก่อนงบลงไปกี่% จากที่อนุมัติจริง ทหาร-ตำรวจชั้นประทวน ต้องซุ่มรอเงินเสี่ยงภัยกันตาละห้อย ไม่รู้จะแว๊บหายไปตอนไหน ได้พรายกระซิบขนาดวงการแพทย์ยังโดนหักหัวคิวเบี้ยพิเศษ อันนี่ไมู่้รู้จริงหรือเปล่านะครับ น้าเขยผมไปตั้งแต่ประทวนตอนนี้จะได้ร้อยตรีแล้ว คงจะรอเอานายพันหรือก็ไม่รู้ รู้แต่ไอ้คนตั้งใจก็ค่อยๆลาจาก แต่พวกตั้งคิว อยู่กันสบายใจ
ผมเคยเห็นเด็กเล็กๆบางคนตามในห้าง เวลาอยากได้ของเล่นซักชิ้น
ก็จะนอนชักดิ้นชักงอลงไปกองกับพื้น เพื่อเรียกร้องให้ได้ของเล่นตามที่ตัวเองต้องการ
.. และ จะมีผู้ปกครอง 2 ประเภท
1 พวกที่ ยอมซื้อของเล่นให้ เพื่อไม่ให้เด็กร้อง
2 พวกที่ ไม่ยอมซื้อให้ เพราะคิดว่า หากซื้อให้ ทีนี้ก็จะกลายเป็นสันดาน ที่จะติดตัวไปจนโต
.. และ ผมคิดว่า มีเด็กในกลุ่มแรกหลายคน ที่โตมาเป็นผู้ใหญ่ และได้รับนิสัยถาวรอันนั้นติดตัวมา
ดังนั้น เราไม่ควรตามใจ ตามอีโก้ ข้อเรียกร้อง ของเด็กจนเกินไป
เห้นคอมเม้นต์หลังๆแล้วรุ้สึกสบายใจขึ้น ต้องช่วยๆกันสื่อสารไปกว้างๆนะครับ เจ้าหน้าที่ของรัฐส่วนใหญ่ทำงานกันหนักมากๆ แนวหลังอย่างเรา ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แบ่งเบาภาระ พวกเจ้าหน้าที่เขา
เห็นด้วยกับคุณ hinnoi เปี๊ยบๆ เลยครับ ว่าที่ข้อเรียกร้องนี่ไม่ได้กะว่าจะปฏิบัติตามจริงๆ หรอก แต่ต้องการ effect อย่างอื่นมากกว่า