ขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นที่ท่านถาม

แผนที่แสดงแปลงสัมประทานปิโตรเลียมในประเทศไทย ถ่ายจากที่ทำงานมาครับ โดยใช้มือถือ 

อันที่จริงเข้าเว็บกระทรวงพลังงานก็ได้ครับ แต่เข้าใจว่ายังไม่อัพเดทเท่าครับ

ภาพไม่ขึ้น!

ลองอีกทีครับ

ลองอีกที rezise แล้ว

ง่ายๆเลยนะครับ

แผนที่มันเป็นคนละเวอร์ชั่นกัน แนวเขตแดนก็ต่างกัน คือเวอร์ชั่น1:200000 ของเขมรนั้นเขตแดนมันทับซ้อนกับของไทยที่เป็น 1:50000 พื้นที่ที่ทับซ้อนกันก็คือตรงที่กำลังมีปัญหาแถวเขาพระวิหารเป็นหลัก ถ้าเกิดใช้แผนที่ไทยพื้นที่ตรงนั้นก็จะอยู่ในไทย แต่ในแผนที่เขมร พื้นที่แถบนั้นก็อยู่ในประเทศเขมร

ประเด็นที่สำคัญอีกอัน (อาจจะสำคัญกว่าด้วยซ้ำ) คือพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เพราะต่างคนต่างลากเส้นอาณาเขตของตัวเองเข้าไปครอบคลุมตรงที่มีทรัพยกรธรรมชาติเช่นน้ำมันกับก๊าซธรรมชาติมหาศาล

หากศาลโลกยอมรับแผนที่เวอร์ชั่นไหนก็เท่ากับยอมรับการอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ทับซ้อนของประเทศนั้นๆ ทำให้ประเทศนั้นๆได้สิทธิ์ขุดเจาะน้ำมัน

ผมว่าจริงๆไม่มีใครแคร์เรื่องปราสาทเท่าไหร่หรอกครับ เอาน้ำมันนี่ล่ะ 

เคลียร์ไหมครับ

1:200 000 อธิบายง่ายๆ ว่าทุกหนึ่งเซ็นติเมตรบนแผนที่เท่ากับ 200 000 เซ็นติเมตรหรือ 2 กิโลเมตรบนพื้นโลกจริงๆ 

ขณะที่ของเราใช้แผนที่ขนาดย่อ 1: 50 000 ดังนั้นถือได้ว่าของเรามีความละเอียดกว่า

ปัญหาที่เรามีกับเขมรเรื่องแผนที่ก็อย่างที่คุณ toeytei ว่าครับ

ขนาดมันไม่เท่ากัน รายละเอียดเลยไม่ไหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ บนบกไม่มีความเกี่ยวข้องกับในทะเล บกใช้ ร่องนํ้าและทางนํ้าไหล

ในทะเลใช้ไหล่ทวีป และร่องนํ้าถ้ามีต่อมาจากบนบก ดังนั้นที่ออกมาพูดๆกันนะโกหกทั้งนั้น เอากรณี เกาะโลซินมาศึกษาดูก็ได้

ที่ว่าโกหกนี่คือยังไงครับ

วิธีในการกำหนดแผนที่บนบกกับทะเลไม่เกี่ยวกันแน่นอน แต่!!! นั่นมันคือการพูดเรื่องจริงครึ่งเดียว ทุกวันนี้มันไม่ได้แค่เรื่อง พระวิหาร ถูกถ้ามีคนว่า ทางทะเลก็อีกเรื่อง ในทะเลเกี่ยวกับไหล่ทวีป ไอ้ผมมันก็แค่ประชาชน งั้นผมถาม ถ้าแผ่นดินเขตแดนหายไป ให้เพื่อนบ้าน เส้นเขตแดนทางทะเลที่กำหนดจากไหล่ทวีปจะเปลี่ยนไหมครับ มันจึงไม่ใช่เรื่องโกหก ถ้าเรารู้จัก MOU43 (ข้อตกลงปี43) ข้อตกลงเขตแดนทางบก และ MOU44 ข้อตกลงเขตแดนทางทะเล MOU43 เราจะพลาดหรือจงใจไม่วิจารณ์ละกันแต่ที่แน่ๆเรายอมให้แผนที่สำหรับอ้างอิงการแบ่งดินแดนเป็นแบบ 1:200000 ของเขมร และแน่นอนไม่มี 1:50000 ที่ทหารไทยใช้อยู่เลย ความหมายก็คือสองฉบับมีระวางไม่เหมือนกัน (ไทยจึงยอมงัด 1:50000 มาแถลงในศาลโลก ซึ่งมันขัดแย้งตัวเราเองที่ใน MOU43 เราดันทำไม่รู้จัก 1:50000)  

โดยแผนที่ทั้งสองฉบับนั้นที่ว่าแตกต่าง ก็มีตัวอย่างนึงคือ เขาพระวิหาร ซึ่งจริงๆแล้วตรงเขาลูกนี้เราเคยเจรจากับฝรั่งเศสแล้วก่อนคดีปี 2505 ว่าไม่จำเป็นต้องมีระวางกำหนดหมุดกัน เพราะเป็นสันปันน้ำชัดเจน ที่ต้องปักปันระวางใหม่มันคือจุดอื่น แต่พอ 2505 เราล้อมลวดหนามซะ เขมรก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ศาลโลกให้ปราสาทแล้ว อยากขึ้นมาก็ปีนเขาละกัน แต่พอเราทำข้อตกลง MOU43 และดันไปใช้ 1:200000 ก็งานเข้า เพราะแน่นอน 1:200000 ทางฝรั่งเศสสร้างไว้เพื่อให้เขมรรุกล้ำเขตไทยอยู่แล้ว การที่เรารับแผนที่ก็เท่ากับวางยาตัวเอง คราวนี้เลยเกิดปัญหาเที่ยวพระวิหารกันลำบาก ทหาร ตำรวจต้องออกจากพื้นที่ตามข้อตกลงใน MOU43 และทั้งสองประเทศห้ามเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ แต่!!!! เราทำ ส่วนเขมรสร้างหมู่บ้านยันถนนวันนี้เสร็จแล้ว ถ้าถามว่า MOU43 มันเกี่ยวอะไรกับพระวิหาร บอกได้เลยว่าเกี่ยวซะมากกว่านั้น เพราะมันคือข้อตกลงปักปันเขตแดนตลอดแนวชายแดนไทยกับเขมรใหม่หลายจุดจนลงมาถึงอ่าวไทยไงครับ ตรงนี้แหละครับ คนที่เค้าบอกว่ามันจะลามไปอ่าวไทย เห็นหรือยังมันเริ่มเป็นเรื่องเดียวกันแล้ว

และเมื่อแผนที่ 1:200000 นี้มันกินเขตแดนเราหลายจุด (พูดง่ายๆ บางจุดเราก็ได้ แต่เราเสียมากกว่าโขเลยครับ) แล้วตรงอ่าวไทยถ้าเรายึดตามนี้หมายความว่า เราจะต้องเสียหมู่บ้านไป ไปดูgoogle เอา แถวเกาะกูดมีหมู่บ้านอะไรบ้าง เมื่อเสียไป มันเข้าหลักเกณครับ คือถ้า MOU43 ที่ยึดแผนที่เขมรสามารถปักปันเสร็จได้ละก็ ให้เริ่มพิจารณาปักปันเขตแดนทางทะเลได้เลยซึ่งคือ MOU44 ขอสอบมันเฉลยตรงนี้ครับ ถ้าเราโดนกินแผ่นดินตาม MOU43 ไหล่ทวีปเราจะเสียไปด้วย จึงหมายความว่าเส้นเขตแดนทางทะเลเราจะน้อยกว่าเดิม วันนี้เขมรลากเส้นทางทะเลของเค้าผ่านเกาะกูดเราอยู่นะครับ (ทหารเรือรู้ดี แต่มีหรือทหารเรือเราจะให้เขมร แล่นเรือได้ตามเส้นบ้าๆนั่น) มันจึงเป็นเส้นที่เค้าลากเพื่อไปจองที่ทับซ้อนยังไงหละครับ ไอ้ที่ทับซ้อนแปลงต่างๆนี้ ทั้งเราและเขมรต่างประกาศเป็นพื้นที่ปิโตรเลียมแถมเขมรให้สัมปทานแล้วด้วยแต่ขุดไม่ได้เพราะเถียงกันอยู่ ดังนั้นมีคนลองคำนวณดู ถ้าเราเสียดินแดนทางบกตาม 1:200000 ไหล่ทวีปจะเปลี่ยนและเส้นเขตแดนทางทะเลจะลดลง ทำให้บ่อปิโตรเลียม อยู่ฝั่งเขมรทันที คราวนี้เกี่ยวกันหรือยัง ใครโกหก ใครพูดไม่จริง  มันต้องดูที่ MOU แล้วจะอ๋อ กันจน เอ๋อครับ แต่ถ้าพลาด MOU ไม่สำเร็จตามแผน แผนสำรองคือ แบ่งกันซะ เมื่อทับซ้อนก็แบ่งกัน มันเลยมีคนพยายามเล่นปีะเด็นแบ่งกันเถิดทะเลาะกันน้ำมันไม่ได้ขุด ซึ่งถ้าเอากฎหมายทางทะเลมาคุยกันจนทะลุเหมือนบ่อไทยมาเล ใครจะขวางละครับ แต่นี้มันกระบวนการแบ่งให้เขมรแบบหน้าด้านๆ จึงมีคนค้านไม่ให้แบ่งกัน

สำหรับบ่อปิโตรเลียม ว่ากันว่าคร่าวๆนะครับจะแบ่งชัดๆเป็น สามหลุมใหญ่ๆ ถ้าตามที่ทหารเรือเราดูอยู่ เราจะได้บ่อใหญ่สุดๆๆๆๆ  กับรองบ่อใหญ่ แต่ถ้าจะเอาตามเขมร เราจะเหลือบ่อรองครึ่งเดียว แต่ถ้าแบ่งกันตามที่ทับซ้อนประมาณว่าจะตกลงหารทุกบ่อตามสัดส่วน คือบ่อกลางแน่นอน 50-50 บ่อรองลงมาฝั่งไทย ผมจำไม่ได้ว่า ไทย 60 หรือ 70 เขมรก็ประมาณ 30 บ่อเล็กฝั่งเขมรก็เขมร  60-70 ไทยก็ 30 จะเห็นว่าถ้าเรายอมเรามีแต่เสีย บ่อใหญ่หารคนครึ่งซะ ส่วนบ่อรองฝั่งเราเค้าได้ตั้ง 30% ซึ่ง 30%นี้ มันมากกว่า 100% ฝั่งเค้าเสียอีก นั่นก็หมายถึงการที่เขมรทำเป็นแฟร์ๆกัน คือเค้าเสีย 30% ของเค้าให้กับเรานั้นมันเป็นเพียงน้ำจิ้มเท่านั้นเอง เขมรและนายทุนมีแต่ได้กับได้ ดังนั้นจึงควรเลิก MOU43 ก่อนเพื่อจะได้สอดคล้องกับการสู้ในศาลโลก ยูเนสโก้อะไรนั่นก็ต้องหยุดก่อน และเราต้องยึดตาม 1:50000 ที่ทหารเราถืออยู่เท่านั้น ส่วนทะเลเอากฎหมายทางทะเล ซึ่งเห็นว่ามีสองฉบับมาสู้กันก่อน ถ้าเอาตามกฎหมายทางทะเลแล้วยังทับซ้อนตรงไหน ก็ค่อยมาดูกันว่า จะแบ่งขาดแบบเรากับเวียดนาม หรือจะไม่มีใครครองเลยแบบบางที่ระหว่างเขมรกับเวียดนาม หรือจะลงทุนร่วมกันแบบไทยกับมาเล มันมีตัวอย่างข้อสรุปอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ใช้กฎหมายทางทะเลมันคุยกันก่อนจนรู้เรื่องแล้วค่อยทำ MOU ไม่ใช่ทำ MOU ก่อนแล้วเอาเอกสารผิดๆมาใช้มันก็ลงทะเลจริงๆ แถมไอ้การลากผ่านเกาะกูดนี่มันน่าเกลียด จะบอกว่าเกาะกงก็ควรจะคืนมาด้วยนะฝรั่งเศส(คนนี้เลยตัวดี)

ดูเหมือนว่ามีน้ำมันและก๊าซมากมายมหาศาล 

แต่จะมีประโยชน์อะไร ถ้ามันแพงจนดูเหมือนว่ามันคลาดแคลน

นอกจากที่เราจะหาและอ้างความเป็นเจ้าของแล้ว

เราเคยพัฒนาด้านเทคโนโลยีการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสิ่งแวดล้อมกันหรือเปล่า

ณ วันนี้ เราflare ก๊าซ ธรรมชาติ ที่ปะปนขึ้นมากับน้ำมันดิบวันละกี่พันกี่หมื่นลูกบาศก์เมตรต่อหลุม

เราไม่เคยสนใจจะนำมันมาใช้งาน ยกเว้นสัมประทานที่มีจุดประสงค์ในการหาก๊าซธรรมชาติจริงๆ

ปรับปรุงตรงจุดนี้ก่อนดีกว่ามั้ย คงง่ายกว่ารอคอยปักปันเขตแดนทางทะเลกับกัมพูชา

หวังว่าข้อความนี้จะกระตุกต่อมคำนวณความได้คุ้มเสียของผู้บริหาร ปตทสผ เชฟรอน นิวโคสทรอล พลังโสภณ ...อื่นๆอีกมากมายในอ่าวไทย

>>>....<<<

ทุกวันนี้ทุกท่านสามารถมองเห็นแท่นขุดเจาะน้ำมันของ บริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่กลางทะเลได้ เมื่ออยู่บนฝั่งของ จ สงขลา ครับ

เรื่องเขตแดนบนบก กับ ไหล่ทวีป มันคนละเรื่องกัน ครับ...

ก็ตามที่ท่าน viggen ให้ความเห็น...

ไปหาหนังสือ กฎหมายทะเล เขตทางทะเล ของประเทศไทย โดย พลเรือเอก ถนอม เจริญลาภ (หาซื้อได้ตามร้านหนังสือใหญ่ ทั่วไป เป็นหนังสือวิชาการ สำหรับไว้สอบของ เกี่ยวกับกฎหมายพาณิชย์นาวี)

อ่านหน้าที่ 209 - 226

ไหล่ทวีป ก็ต้องมีการประกาศ ซึ่่ง กัมพูชา มีการประกาศไหล่ทวีปไปแล้ว เมื่อปี 2515 กฤษฎีกาที่ 439/72/PRK

และ ฝรั่งเศส คืน เกาะกูดให้ไทย ตั้งแต่ปี 2436...ตอนนี้ที่ เกิดเขตทับซ้อน กับ กัมพูชา เพราะการประกาศ เขตไหล่ทวีปของกัมพูชา แล้วมันมากินบนเกาะกูด...

ไม่ได้ไปเกี่ยวกับ เขาพระวิหาร เลย...เพราะมันลากเส้นจาก เขตพื้นที่ จังหวัดติดชายทะเล...

ถ้าไทย จะเสีย เกาะกูด ก็หมายถึง ไทย สูญเสียเขตแดน จ.ตราด...ไม่ได้เกี่ยวกับ เขตแดน ศรีสะเกษ หรือ บุรีรัมย์ หรือ สุรินทร์

ข้อมูลใน อินเตอร์เนต หรือ ความเห็นที่ออกมาจาก การเมือง อย่าไปเชื่อมันมากนัก...

ลอง ศึกษา ด้วยตนเอง...แล้ว ความรู้จะเกิด...

งั้นผมฝากท่าน juldas ช่วยดูแผนที่ 1:200000 ของกัมพูชาให้หน่อย ว่าทางพื้นดินเค้ากินพื้นที่ของจังหวัดอะไรบ้างที่ติดอ่าวไทย เพราะผมไม่สามารถเอาข้อมูลนี้มาได้ เพราะประเด็นที่ผมพูด ได้อธิบายไปแล้วว่า พระวิหารปี 2505 ได้ตัดสินไปแล้ว มันเลยไม่เกี่ยวกัน แต่วันนี้ที่มีการรื้อฟื้นให้ศาลโลกตีความใหม่เพราะมีการทำ MOU43 ไงครับ ซึ่ง MOU43 มันเป็นชนวนให้ปักปันเขตแดนใหม่และถ้าระบุไปตรงพระวิหาร แผนที่ 1:200000 ที่เขมรต้องการให้ศาลโลกชี้เพื่อให้ได้พื้นที่รอบปราสาทด้วยก็คือแผนที่ชุดเดียวกันกับที่แนบใน MOU43 เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงการตัดสินเรื่องพระวิหาร 2505 มันไม่เกี่ยวแน่นอน แต่ถ้าครั้งนี้ของการขอตีความการตัดสินใหม่ผมยืนยันว่ามันต้องเกี่ยว เพราะไอ้ 4.6 มันไม่ใช่แค่ยืนต่อศาลโลก การที่เราเคยยอมให้เขมรขึ้นมรดกโลกฝ่ายเดียว ก็เป็นพื้นที่ 4.6 ตร กม. เหมือนกัน ผมกำลังชี้ให้เห็นถึงการเชื่อมโยงครับ และถ้า MOU43 สามารถทำได้จบจริงๆ ก็ต้องหมายความว่าสุดท้ายเราก็ต้องเสีย 4.6 ตรงพระวิหาร และอีกหลายส่วนให้เขมรอยู่ดี(ไม่ต้องรอศาลโลกก็ได้) จากนั้นมันจะเข้าเงื่อนไข MOU44 ทางทะเลครับ ที่ท่านว่าเขมรเค้าประกาศทางทะเลแล้วแน่นอนถูกต้องไม่ว่าปีใดไม่ต้องสนเค้าประกาศแล้วแน่นอน ไทยก็ประกาศ แต่.... ในอ่าวไทย พื้นที่ระหว่างไทยเขมรยังทับซ้อนแบบต่างคนต่างประกาศ ไม่ได้แบ่งจริงจังมากมายอะไร ต่างกันกับกรณี ไทย-มาเลก็ร่วมหุ้น เขมร-เวียดนามห้ามยุ่งทั้งคู่ บางส่วนไทย-เวียดนาม หารครึ่งไปเลย ซึ่งที่กล่าวมา มี MOU รับรองไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นตรงอ่าวไทย ไทย-เขมรจึงมี MOU44 เป็นเจ้าภาพครับ มันจึงหมายถึงถ้าเราแพ้ด้านเอกสารตั้งแต่ MOU43 ภาคพื้นดิน เราก็มีโอกาสแพ้ในอ่าวไทยด้วย ไอ้ที่เคยประกาศกันไว้เค้าจะมาเคลียร์กันใหม่นี่แหละครับ ผมไม่ได้จะมาตอแหลพูดไร้สาระตามข่าวการเมือง แต่หกปีมานี้ มีบทความ การตีแผ่การตัดสินศาลโลกมากมาย คลิปที่คณะกรรมการทั้งวุฒิ และสภาให้ทหารพาตรวจสอบพื้นที่ มันมีปัญหาเพราะ MOU43 ผมหาคลิปพวกนี้มาลงไม่ได้ ใจริงผมอยากให้ทุกท่านเห็นและฟังทหารในคลิป และช่วยกันไปดู รายละเอียด MOU ทั้งสองฉบับ ผมเชื่อว่าคนในนี้อยู่วงการทางทหารกันมาก ว่างๆคงสามารถช่วยกันศึกษา MOU ตัวปัญหาให้ได้กระจ่างกว่าผมเป็นแน่ ผมที่จริงแล้วไม่กล้าแสดงความคิดเห็นหรอกครับ เพราะผมไม่มีความรู้เรื่องทหารเลย แต่เรื่องนี้ผมติดตามมา หกปี แม้อาจลืมไปบ้าง แต่ด้วยสัตย์จริง ข้อมูลที่ผมรับรู้มันทยอยออกมาตามนั้นจริงๆ เค้าทายกันไว้นานแล้วครับ ว่าถ้าเรายังเอา MOU43 นี้ไว้ไม่ยอมยกเลิกหรือแก้ไขแผนที่ เขมรจะลากมรดกโลกและศาลโลกมาเกี่ยวแน่นอน ข้อร้องเถอะครับ ช่วยกันศึกษาตรงนี้กันก่อน จะว่าจะด่าผม ผมขอรับไว้แบบไม่เกี่ยงงอนใดๆ พระวิหารกับอ่าวไทยในความคิดใครจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกันยังไงพี่ๆน้องๆทหาร และผู้มีกำลังภายในช่วยเคลียร์ MOU43 MOU44 ให้ทีครับ มีแต่พวกท่านเท่านั้นจะพลิกสถาณการณ์นี้ได้

เรื่องนี้...แค่ศึกษาเรื่องเดียว ครับ...

ว่าเขาวัด 200 ไมล์ ลากเส้นยังไง ตรับ...

ลองศึกษาดูครับ...เขาลากจาก ขอบฝั่งทะเล...หรือจากใต้ผิวดินของท่องทะเล...หรือ จากอะไร...

ไม่ต้องใช้ มาตราส่วนแผนที่ ครับ...เขาจะใช้ ละติจูด เหนือ และ ลองติจูด ตะวันออก..หรือ จากอะไร...

กำหนดแล้ว ลากเส้น...

อันนี้ ผมไม่ได้ว่า นะครับ...ที่ผมแนะนำ ก็เพื่อว่าถ้า ท่านได้ศึกษาจากหนังสือ แล้วทำความเข้าใจ...ซึ่ง มีหนังสืออยู่ 2-3 เล่ม ซึ่งสามารถซื้ออ่านได้ครับ...

แล้ว ก็นำความคิดเห็น ที่ปรากฎตามเว๊ปต่าง ๆ นำมาพิจารณา...ซึ่งสามารถใช้ได้กับ ทุก ๆ เรื่องที่เราสนใจครับ...

อย่าให้น้ำหนัก ความคิดเห็น ในอินเตอร์เนต มากนักครับ...ใช้เป็น ข้อมูลได้...แต่อย่าเพิ่งเชื่อ...

ผมมีหลักอยู่อย่างหนึ่งว่า อย่าหา ความจริงในเรื่องความมั่นคง ในอินเตอร์เนต ครับ...ไม่มีครับ...

ถึงจะมี ก็ไม่มีใครรับ หรือ ยืนยัน ครับ...เพราะมันจะเรียกว่า ความหละหลวม และความด้อยประสิทธิภาพของประเทศนั้น ๆ ครับ...

ซึ่งถ้าได้แบบ วิชาการ มันจะทำให้เรามีข้ออ้างอิงความเห็นเรา หรือ เราอาจจะเข้าใจผิดในบทความในหนังสือ หรือ ในบางความเห็น เวลาท่านอ่าน ท่านก็จะเข้าใจในความเห็นนั้น ๆ ว่า เป็นการ เล่าเรื่องพักลักจำ มาก็ได้ครับ...