หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


กระทู้เกี่ยวกับเรือฟริเกตใหม่ของ ทร.(รวมไว้ที่นี่ที่เดียว)

โดยคุณ : nok เมื่อวันที่ : 18/06/2013 15:33:39

จากกระทู้

Bangkok to talk frigate purchase with Beijing

อะไรคือเหตุผลใหญ่ที่เรือจากเกาหลีใต้ได้รับคัดเลือกจากกองทัพไทยครับ

แว่วๆมาแล้วครับว่าครม.ต้องการเรือจีน3ลำต่อในไทยทั้งหมด+ออฟชั้นต่อเพิ่มเองในภายหลัง

 

ผมตั้งกระทู้ให้ใหม่นะครับ เกี่ยวกับเรื่องฟริเกตใหม่ของกองทัพเรือ จะได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันได้ง่ายขึ้นครับ

ขนาดแอดมินยังมึนครับ อ่านจนตาลาย เข้ามาแสดงความเห็นกันต่อได้ที่กระทู้นี้ครับ จะเชียร์ใครก็ตามสบาย(แต่ขอให้อยู่ในกฏกติกามารยาทครับ)





ความคิดเห็นที่ 1


  สำหรับ  OHP 2 ลำที่เสนอยกให้เราฟรีๆเสียค่าซ่อมคืนสภาพเอาเองนั้น   ต้องรอเราให้คำตอบใน 3 ปี จึงจะไปขายให้ใครหรือยกให้ใครไม่ใช่หรือครับ    แต่ข่าวออกมาแบบว่ามีคนขอซื้อไปแล้วและเป็นชาติเอเชียด้วยกัน    หรือว่าเราทำการปฎิเสธชัดเจนไปแล้ว   พูดง่ายๆ  ให้คำตอบแก่เขาชัดเจนไปแล้วว่าเราไม่เอา

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 28/05/2013 15:17:56


ความคิดเห็นที่ 2


มาพูดถึง FFX กันต่อดีกว่า มิติเรือ ยาว 114 เมตร ความกว้าง 14 เมตร ระวางขับน้ำเมื่อบรรทุกเต็มที่ ประมาณ 3,000 ตันได้ พอๆ กับ DW3000H เลย

โดยเป้าหมายของ FFX น่าจะเป็นโจมตีชายฝั่งและโจมตีลึกเข้าไปในแผ่นดินมากกว่า  เพราะติดปืนใหญ่ขนาด 127 mm

แถมในอนาคตจะเพิ่มแท่นยิงจรวด 16 ท่อยิง อาจจะเป็น land-attack cruise missile ที่กำลังพัฒนา 8 ท่อ กับ Anti-Ship missile อีก 8 ท่อ หรือปรับตามภารกิจ

 

ดังนั้นแล้วถ้าสมมุติว่ากองทัพเลือกแบบ  DW3000H เฉพาะค่าต่อตัวเรือเปล่าๆ ไม่ควรจะทิ้งห่าง FFX มาก   ตัวเรือเปล่าไม่ควรเกิน 140 ล้าน US (นี่ + ค่าความสวยให้เต็มที่เลยนะ)

และ I-Mast 400 ก็ไม่ได้ราคา over อะไรมากเมื่อดูจากราคาของ Holland-class

เรื่องเครื่องยนต์ FFX ใช้แบบ CODOG ที่เพิ่ม Rolls-Royce MT30 gas turbine เข้าไป มันต้องแพงกว่า DW3000H ที่ใช้แค่เครื่องดีเซลอย่างเดียวแน่นอน

เอาจริงๆ ถ้าเลือก DW3000H ควรจะได้ 3 ลำด้วยซ้ำ เมื่อเทียบราคากับ FFX ถ้ามาแค่ 2 ลำ พวก sensor suit หรืออาวุธมันต้องโหดแน่ๆ

FFX



โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 28/05/2013 15:26:19


ความคิดเห็นที่ 3


เจิม ......

ท่าทางกระทู้นี้จะเงียบเหงา เดี๋ยวขอเวลารวบรวมข้อมูลนิด พอสเป็คจริงๆออกอาจจะออกบทความให้ชม  

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 22/04/2013 18:53:07


ความคิดเห็นที่ 4


รออ่านอยู่นะครับอ่านมา3กระทู้ขนาดทัพเรือยังไม่ประกาศผู้ชนะยังโดนกองเชียร์เล่นซะเนียนเลย ผมไว้ใจทัพเรือนะขอให้ใช้งบที่ได้มาให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็แล้วกัน555

โดยคุณ yuy999 เมื่อวันที่ 22/04/2013 19:25:43


ความคิดเห็นที่ 5


ถ้าอย่างนั้นมารู้จักกับอู่ต่อเรือที่คาดว่าจะได้รับคัดเลือกจากกองทัพเรือไทยนะครับ

 

Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering (DSME) เป็น1ใน3อู่ต่อเรือขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 มีพนักงานประมาณ25,000คน

 

http://www.dsme.co.kr

 

มาดูงานด้านเรือรบกันดีกว่านะครับ เรือธงของDMSE คือลำนี้ครับ DW10000D ภาพนี้เอามาจากเวบไซค์เขานะครับ


โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 22/04/2013 19:42:19


ความคิดเห็นที่ 6


DMSE รุกเข้าใกล้ประเทศไทยมากเหลือเกิน เริ่มจากได้รับการว่าจ้างให้ต่อเรือดำน้ำจำนวน3ลำให้กับอินโดนีเซียมูลค่ารวม 1.1พันล้านดอลล่าห์ จะรวมอะไรบ้างผมไม่รู้นะ

 

ต่อมาได้รับการว่าจ้างให้ต่อเรือฝึกของกองทัพเรือมาเลย์เซียขนาด1,270ตัน จำนวน3ลำ รู้สึกจะจอยกับNGVTechนะครับ

 

ต่อมาอีก มาเลย์เซียไปเห็นเรือชั้น Dokco ของเกาหลีใต้แล้วอยากจะได้แต่ขอลดจาก2หมื่นตันมาเหลือ8พันตัน DMSE จัดให้ ผมไม่แน่ใจว่าไปถึงไหนแล้วนะแต่เรือคงจะหน้าตาประมาณนี้แหละครับ

 

พอโยงไปเจอกับเรือดำน้ำแล้วDMSEไม่ใช่นิวรุกกี้ของประเทศไทยเลยแฮะ เราเคยมีข่าวอยู่แวบๆเหมือนกัน


โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 22/04/2013 19:48:14


ความคิดเห็นที่ 7


ผมพยายามเข้าไปหาข้อมูลเรือฟริเกติในเวปของDMSEแต่ยังหาไม่เจอ ไม่แน่ใจว่าตัวเองตาถั่วหรือเปล่าแต่เน็ตต่างจังหวัดของผมมันสู้ไม่ไหว เข้าใจแล้วว่าเรือที่ขายให้เราข้อมูลทั้งหมดอยู่ในกระดาษจริงๆ

 

แต่เอาคร่าวๆก็คือ DMSE มีแบบเรืออยู้หลายขนาด ใหญ่สุดคือเรือพิฆาตป้องกันภัยทางอากาศ DW10000D ตามภาพแรก

 

ต่อมาคือเรือพิฆาต DW5000D ซึ่งน่าจะเป็นตามภาพนี้นะครับ ขนาดก็ตามหมายเลขเลยคือ5พันตัน

 

ต่อมาคือ DW3000H ที่กำลังร้อนมากๆอยู่ในบ้านเราตอนนี้ขนาด3พันตัน  ที่เหลือเล็กเกินจะไปสนใจช่างมันเถอะ

 

ฉะนั้นจากข่าวที่ว่า คณะกรรมการจัดซื้อของกองทัพเรือได้เลือกแบบเรือจากอู่บริษัท Daewoo Shipbuilding and Marine Engineering หรือ DSME ให้เป็นผู้ชนะในโครงการจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูงของกองทัพเรือไทย มันก็เขาแก๊ปอยู่แค่ DW3000Hที่น่าจะเล้กไปนิดกับDW5000D ที่น่าจะใหญ่ไปหน่อยเท่านั้นเอง


โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 22/04/2013 20:00:43


ความคิดเห็นที่ 8


ชมภาพกันอีกครั้งเดียวอย่าเพิ่งเบื่อนะครับ DW3000H ที่รูปร่างทันสมัยพร้อมระบบเรดาห์I-MAST  ที่ทรงประสิทธิภาพน้องๆเอจิส ตัวเต็งที่ยังรอบทสรุป

 

สเป้กคร่าวๆก็คงตามภาพนั่นแหละครับ สงเกตุเฮลิคอปเตอร์นะครับว่าทำสีเหมือนกองทัพเรือเราเลย มี VLS 8ท่อด้านหน้า อาจจะเพิ่มสเป็กโดยการขยายเป็น16ท่อด้านหน้า(ผมคิดว่ายากมาก)  หรือติดตรงกลางลำแบบประกบข้างหละ4ท่อ(mk48)อะไรแบบนั้น

 

และเมื่อต้องการใช้ปราบเรือดำน้ำอาจจะติดตั้งระบบโซนาร์ที่ทันสมัยให้ด้วย รวมไปถึงอาจจะมีจรวดปราบเรือดำน้ำ K-ASROC ติดมา แต่อย่ามาลดสเป้กเรดาห์ของผมนะครับท่านผู้ชม ถึงESSMเราจะยิงได้แค่50กิโลเมตรแต่ตรวจได้ไกลๆก่อนก็ยังดี จะได้มีเวลาเตรียมตัวทำอย่างอื่นได้ทัน


โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 22/04/2013 20:14:56


ความคิดเห็นที่ 9


เป็นอันว่าอู่ต่อเรือDMSEทันสมัยและน่าเชื่อถือได้อย่างแน่นอน เรื่องเหล็กบางเหล็กบางยิ่งกว่าคงไม่มี ข้อมูลปี2010มีเงินรายได้11.4พันล้านดอลล่าห์ กำไรสุทธิ 529.3ล้านดอลล่าห์

 

ส่วนสเป้กเรือรอกองทัพเรือไทยออกมาเปิดเผยข้อมูลพร้อมออฟเฟอร์เอาทีหลังแล้วกันนะครับ จบแล้ว

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 22/04/2013 20:21:29


ความคิดเห็นที่ 10


ผมตามอ่านของหลวงพี่กะป๋าจู ทั้งที่นี่กะเว็บเพื่อนบ้าน
รอกันต่อไปครับ :) 

โดยคุณ InFerNo เมื่อวันที่ 22/04/2013 22:08:04


ความคิดเห็นที่ 11


สำหรับ I-MAST 400 จะน้อง ๆ เอจีส หรือไม่...คงต้องให้ ผู้รู้ มาอธิบายอีกทีครับ...

แต่เท่าที่มีประเทศที่ทำการจัดหาไป คือ ทร. เนเธอร์แลนด์...

Sea Master 400 ดูจะทำหน้าที่เป็น เรดาห์ตรวจการณ์ สำหรับ เรือ Patrol Vessel หรือ OPV (Ocean Patrol Vessel สำหรับ เรือชั้น Holland กับ เรือ LPD ลำใหม่ ของ เนเธอร์แลนด์...)

ยังไม่เห็น แนวโน้มมีประเทศ ติดตั้งสำหรับ Fighting Frigate...ซึ่ง ประเทศไทย อาจจะเป็น ประเทศแรก...

ซึ่ง เมื่อดูการติดตั้งสำหรับเรือ Ocean Patrol Vessel ของ เนเธอร์แลนด์ แล้ว...ดูแล้ว Sea Master 400 นี้ จะเป็น เรดาห์ตรวจการณ์ ที่มีความสามารถจับเป้าหมาย ขนาดเล็ก ได้ (หรือเรียกว่า จับเป้าหมายได้ทุกชนิด) แต่ ความสามารถที่จะจับเป้า ทำลาย ให้กับ SAM จะสูงกว่า ระบบของ เรือชั้น นเรศวร หรือเปล่า ? รอ ผู้รู้ มาอธิบายเพิ่มเติม ครับ...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 07:06:17


ความคิดเห็นที่ 12


เรือ Holland Class เป็น เรือ OPV (Ocean Patrol Vessel ไม่ใช่ Offshore Patrol Vessel) ระวางขับน้ำสูงสุด 3,750 ตัน

ใช้เรดาห์ Sea Master 400 จัดหา จำนวน 4 ลำ มุลค่าโครงการ ประมาณ 680 ล้านเหรียญ (มี Sea Master 400 จำนวน 4 หน่วย) (ถัวเฉลี่ย 170 ล้านเหรียญ/ลำ หรือประมาณ 5,100 ล้านบาท)

ส่วน โครงการของ ทร. คือ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง จำนวน 2 ลำ มูลค่าโครงการ ประมาณ 867 ล้านเหรียญ (มี Sea Master 400 จำนวน 2 หน่วย ถัวเฉลี่ย 433 ล้านเหรียญ/ลำ หรือประมาณ 13,000 ล้านบาท)

ดูแล้ว Sea Master 400 (สมมติ ถ้ามีการติดตั้งในแบบเรือของ แดวู) คงจะไม่ใช่ เหตุผลสำคัญ ที่จะส่งผลทำให้ราคาสูง จนเป็นสาระสำคัญ ถ้า สมมติ ประกาศแบบออกมา แล้ว สเปค ไม่ได้แตกต่างไปจาก DW3000H มากมาย...เพราะ ราคาต่อลำ เมื่อเปรียบเทียบกับ เรือที่ใช้ Sea Master 400 เหมือนกัน ของ โครงการ เรือฟริเกตไทย จะสูงกว่า 1 เท่ากว่า...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 07:20:20


ความคิดเห็นที่ 13


คงมีอีกแนวหนึ่ง สำหรับการ ลุ้นแบบเรือจาก แดวู...

คือ แดวู รับจ้าง ต่อแต่ ตัวเรือ (The Royal Thai Navy has chosen a South Korean naval ship manufacturer to build a new frigate)...

ส่วน ระบบ อาวุธ และ ระบบขับเคลื่อน และ ระบบอื่น ๆ...เป็นในส่วนของ กองทัพเรือ ที่จะกำหนด สเปค หรือจัดหามา..โดย แดวู มีหน้าที่ในการ ปรับปรุง ให้เข้ากับตัวเรือได้...

ซึ่งเป็น จุดเด่น สำคัญของ แดวู...ที่ สร้างเรือรองรับอาวุธจาก สหรัฐอเมริกา...ย่อมรู้จักระบบการติดตั้ง และ การจัดวางพื้นที่ตัวเรือ เพื่อการซ่อมบำรุง และความอยู่รอดของ เรือเป็นอย่างดี

จุดเด่น ของ แดวู อีกข้อหนึ่ง...คือรู้จัก กับระบบควบคุม และ ตรวจการณ์ ของทั้ง Thale และ ของ สหรัฐอเมริกา เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน...

ซึ่ง จะใกล้เคียงกับ ความเห็น ท่าน FatBoy ในอดีต...ที่เคยให้ ความเห็นว่า...อาจจะเป็นการ จ้างต่อแต่ตัวเรือ แล้ว กองทัพเรือ กำหนดอาวุธ...

จึงอาจจะออกมาในแนว เรือชั้น นเรศวร...แต่เปลี่ยนจาก อู่เรือ จีน เป็น อู่เรือ เกาหลี โดยใช้แบบเรือ เกาหลี...แต่จะมา ติดตั้งระบบอาวุธ ในไทยเอง (บางส่วนหรือทั้งหมด) ก็เป็นได้ครับ...

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 07:36:49


ความคิดเห็นที่ 14


โอ้ว้าว น้องๆเอจีสเลยเหรอเจ้าตัวเนียะ แล้วเรือชั้น DW3000H สามารติดตั้ง I-mast 500 ได้ใช้หรือไม่แล้วจะดีกว่า I-mast 400 ใช้หรือเปล่า (ได้ลองเข้าไปในโพสต์ก่อนหน้านี้มีโอกาสเข้าไปอ่านข้อมูลของ I-mast400 แล้ว)แล้วขีดความสามารถของ I-mast 500 เป็นอย่างไรใครพอจะทราบบ้าง ใครจะแชร์ข้อมูลได้บ้างครับ อยากรู้ๆ ถ้าตัวI-mast 500 ดีกว่าตัว 400 ก็น่าติดตั้งตัว 500 นะครับ

โดยคุณ Woot1980 เมื่อวันที่ 23/04/2013 08:09:52


ความคิดเห็นที่ 15


แสดงตัวหน่อย (ตามอ่านมาตลอด ขอบคุณ ข้อมูลจากทุกท่าน ที่บรรจงแสวงหามาให้อ่านครับ)

โดยคุณ jeab2511 เมื่อวันที่ 23/04/2013 08:46:45


ความคิดเห็นที่ 16


ถ้าดูจาก แผ่นโฆษณาของ Thale

I-MAST 100 สำหรับ FPB หรือ เรือเร็วตรวจการณ์

I-MAST 400 สำหรับ Corvette

I-MAST 500 สำหรับ Frigate

ถ้าจะมี Sea Master บนเรือ...ตาม โฆษณาของ Thale ก็น่าจะเป็น สเปค I-MAST 500

 

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 09:20:23


ความคิดเห็นที่ 17


ข่าวตัดจากหนังสือพิมพ์  จาก เว๊ปไซด์ กองทัพเรือ

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:05:00


ความคิดเห็นที่ 18


ลืม หน้า 2

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:10:20


ความคิดเห็นที่ 19


คุณ Juldas ครับ เรือในข่าวมติชน เป็นเรือรุ่นไหนครับ ไม่ใช่ DW-3000H ตามที่มีการกล่าวถึงกันใน TFC และ TAF นิครับ  รบกวนด้วยครับ

โดยคุณ Mr. Bean เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:33:25


ความคิดเห็นที่ 20


ตกลงข่าวออกมาว่าต่อที่อู่แดวู เรามาติดตามกันครับว่าเสป็คเรือและข้อเสนอนั้นเป็นแบบใด 

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:34:17


ความคิดเห็นที่ 21


ตอนนี้ ADMIN อีกคนเตรียมกล้องและเลนส์ที่คนชัดสุด เพื่อไปถ่าย girl group แล้วครับป๋า judas
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:45:28


ความคิดเห็นที่ 22


เป็นเพียงภาพประกอบรึเปล่าคร้บ หน้าตาเรือเหมือนHorizon class ของฝรั่งเศษมากว่าDW3000H

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:46:27


ความคิดเห็นที่ 23


ระหว่างนี้ก็ต้องรอลุ้นการประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งน่าจะมีรายละเอียดให้ได้วิเคราะห์วิพากย์วิจารณ์กันต่ออีกแน่ๆ แต่ที่สงสัยมาตลอดเรื่องหนึ่งก็คือ ช่วงก่อนหน้านี้ท่านผบ.ทร.ได้เคยบอกไว้ว่าการพิจารณาจะแยกเป็นสองส่วน คือ บริษัทที่เป็นอู่ต่อเรือเสนอแบบเรือ และอีกบริษัทเป็นผู้เสนอระบบต่างๆบนเรือ แต่การคัดเลือกที่มีข่าวออกมากลับกลายเป็นว่าแบบเรือที่ได้รับการคัดเลือก เสนอราคารวมทั้งหมดมาในวงเงินราว 13,xxx.- ล้านบาทต่อลำ แปลว่าเป็นราคาที่รวมระบบต่างๆ บนเรือแล้วทั้งหมด ??? ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าระบบบนเรือก็น่าจะเป็นแบบเดียวกับที่เราเห็นในแบบจำลอง DW3000H อีกประเด็นก็คือแบบเรือที่ได้รับเลือกนั้น เป็นเพราะมีความเหมาะสมกับยุทธการปราบเรือดำน้ำมากกว่า ??? อันนี้ก็น่าคิดน่าติดตามมากๆ ว่าผลออกมาจะได้ระบบ ASW ระดับไหน

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:48:59


ความคิดเห็นที่ 24


เอ๊ะ ดูอีกทีเหมือน FREMM เวอร์ชั่นของอิตาลี มากกว่าครับ

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:50:56


ความคิดเห็นที่ 25


รูปตามภาพ ประกอบ น่าจะพิจารณาได้ 2 กรณี

1. เป็นภาพประกอบ เฉย ๆ ไม่ใช่แบบของ แดวู (ดูคล้ายแบบเรือของ ฝรั่งเศส มาก ผมมองเหมือน ราฟาแยต)

2. เป็นภาพนำเสนอของ แดวู ซึ่งถ้าจะมองดู ก็มีส่วนคล้าย ๆ กับแบบ DW3000H อยู่เหมือนกัน เช่น หน้าเรือ กับ ข้างเรือ ซึ่งอาจจะเป็นแบบเรือ แบบหนึ่ง ของ แดวู ที่ไม่ได้นำเสนอในงานแสดงอาวุธต่าง ๆ

เป็นที่ สังเกตุว่า...

ทั้ง อู่ต่อเรือจาก สเปน และ เกาหลีใต้...ล้วนเป็น อู่เรือ ที่ได้รับเทคโนโลยี่ถ่ายทอดจาก สหรัฐ ทั้ง 2 ประเทศ...และมีประสบการณ์ใน ระบบอาวุธ จาก สหรัฐ อย่างแน่นอน..

MK-41 คงเป็น ระบบอาวุธ มาตรฐาน...คราวนี้ ก็อยู่ที่ ระบบปราบเรือดำน้ำ ว่าจะเป็น ของ Thale หรือ ของซีก บริษัทฯ จาก สหรัฐ อเมริกา...

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:56:38


ความคิดเห็นที่ 26


เป็นเรือจากเกาหลีใต้ และเน้น ASW งานนี้ K-VLS กับ K-ASROC น่าจะพอมีโอกาสเกิดเหมือนกันนะครับ

โดยคุณ Ben_BEnz เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:57:45


ความคิดเห็นที่ 27


ที่คุณJudasว่า ทร.อาจจะจ้างแดวูต่อแค่ตัวเรือ หมายความว่า ทร.อาจจะไม่ได้ใช้แบบDW3000Hทั้งหมดโดยอาจจะปรับแบบเองรึเปล่าครับ  แล้วระบบก็อาจจะไม่ใช่Thalesทั้งหมด???  แล้วถ้าต่อแค่ตัวเรือระบบSensor ,อาวุธ และเครื่องยนต์จะติดตั้งที่ไหนครับที่อู่DSMEหรือว่าจะกลับมาคิดที่อู่ทร.

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 23/04/2013 10:58:15


ความคิดเห็นที่ 28


กรณี ถ้าว่าจ้าง เฉพาะตัวเรือ แบบเรือชั้น นเรศวร..ตามโครงการ เดิม...ตัวเรือ กับ เครื่องยนต์ ก็คงมาจากที่ อู่เรือ...

ส่วนระบบอาวุธ จะมาติดตั้งที่ ไทย...ตามแผนโครงการ เรือชั้น นเรศวร เดิมตั้งต้น นะครับ...ที่ติดตั้ง CIWS Dardo 30 m.m. และ โซนาร์ DSQS-21 และ MK-41 Sea Sparrow Missile...

แต่ กรณีนี้...ทุกอย่าง คงทำที่ อู่เรือ เกาหลี...คราวนี้ ก็คงอยู่ที่ กองทัพเรือ จะสามารถจัดหาระบบอาวุธได้รวดเร็ว ทันการณ์เพียงใด ที่ กรณี สมมติ ไม่ได้ใช้ สเปค ของ แดวู...กรณี ระบบบางอย่าง อาจจะมาดำเนินการที่ ไทย...เช่น ระบบอำนวยการต่าง ๆ หรือ ระบบอาวุธบางอย่าง ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการจัดหา...เพราะ แดวู คงไม่ให้ ทิ้งเรือไว้ในอู่รอนาน...

ทั้งหมด ผมออกความเห็น ในกรณี...จ้างต่อแต่ตัวเรือ และการปรับใช้ แต่ระบบอาวุธ กองทัพเรือเลือกเอง นะครับ...ไม่ได้ หมายถึง ใน ดีล เรือนี้ นะครับ...

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 11:12:56


ความคิดเห็นที่ 29


เรื่อง K-VLS กับ K-ASROC...ผมว่า น่าจะมีลุ้นมาก เลยครับ...

ตามข่าว ก็บอกอยู่ว่า มันก้ำกึ่งกันมากระหว่าง แบบเรือ สเปน กับ เกาหลี...

แต่ กก.คัดเลือก ตัดสินใจเลือก ยุทธการปราบเรือดำน้ำ เป็นน้ำหนักใหญ่...แบบเรือ เกาหลี จึงชนะไป...

และ เกาหลี เอง กำลังเสนอขาย เรือ FFX กับ ฟิลิปปินส์ อยู่ด้วยเช่นกัน...

การขาย K-VLS ให้ ไทย กับ ฟิลิปปินส์ ก็อาจจะช่วยให้ เกาหลีใต้ แบ่งเบาเงินทุนโครงการ และ อาจจะมีการได้ พัฒนา ขึ้นอีกในอนาคต...

ซึ่ง แดวู...อาจจะเสนอ ระบบ K-VLS มาให้ด้วยก็ได้ครับ...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 11:24:05


ความคิดเห็นที่ 30


ผมนั่งหาข้อมูลอย่างเมามัน ฮา 

เดี๋ยวจะลองเปรียบเทียบระหว่าง อีจีส-Imast 400- กับเซ็ท 9lv ของเรือหลวงชั้นนเรศวรนะครับ

ถ้าจะเอา I-mast 400 ไปเปรียบกับอีจีสนั้นเทียบไม่ได้ครับ ผมจะเปรียบเทียบเฉพาะอุปกรณ์ต่างๆโดยเน้นไปที่เรดาร์นะครับ เพราะระบบอำนวยการรบไม่รู้ว่าจะเปรียบเทียบยังไงเหมือนกัน

 

อย่างแรกมาดูระบบต่างๆที่อัดอยู่ใน imast 400 (ความจริงไอมาสแต่ละรุ่นก็มีพื้นฐานเดียวกันหมด ต่างกันที่น้ำหนัก ขนาด ระยะทำการ)

http://www.thalesgroup.com/Countries/Netherlands/Documents/Datasheet_I-Mast_400/ เสพจากลิงค์ได้ครับ

 

หลักๆคือ 1. SEA MASTER 400 เป็นเรดาร์หลักมัลติฟังชั่น aesa 3D ย่านความถี่ s band มุมเงย 70 องศา ระยะ 300 เมตรถึง 250 กิโลเมตร

                  http://www.thalesgroup.com/Portfolio/Documents/Air_Systems_Datasheet_-_Sea_Master_400/

              2. SEA WATCHER 100 เป็นเรดาร์ตรวจการณ์พื้นผิวน้ำ aesa เหมือนกัน ย่านความถี่ x band ละเอียดกว่า แต่ก็ระยะใกล้ 80 เมตร ถึง 40                         กิโลเมตร ใช้ตรวจจับเป้าหมายขนาดเล็ก เช่นเรือเร็ว(เรือยาง คอมมานโด) ท่อสนอร์คเกิ้ลเรือดำน้ำ หรือแม้แต่หัวคนที่โผล่มาเหนือน้ำ

                  http://www.thalesgroup.com/Countries/Netherlands/Documents/Datasheet_SEA_WATCHER_100/

นอกนั้นก็มีระบบ icas หรือ Integrated Communications Antenna System ซึ่งก็คือระบบสื่อสารต่างประดามีดาต้าลิงค์มาตราฐานนาโต้รองรับหมด (ก็คนผลิตมันนี่แหละ นาโต้) ระบบสื่อสารดาวเทียม satcom ระบบพิสูจน์ฝ่าย NR IFF หรือ non rotating IFF  ระบบ gatekeeper หรือระบบตรวจการณ์ด้วยภาพทีวีกับอินฟราเรด Electro-Optical security system ซึ่งก็คือระบบหลักๆที่เรือรบพึงมีนั่นแหละ

ที่ไม่โดดเด่นคือทุกระบบใน i-mast จะมีมุมกวาด 360 องศาหมด เพราะอุปกรณ์แต่ละตัวจะติดอย่างละสี่ด้านทำให้ไม่มีมุมบอด


โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 23/04/2013 11:40:00


ความคิดเห็นที่ 31


มาดูที่ของนเรศวรที่จะอัพเกรด อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเราเอาระบบอะไรมาบ้างนะครับ ถ้าผมมั่วก็ท้วงด้วยละกัน

ระบบอำนวยการรบ 9LV mk4http://www.saabgroup.com/Global/Documents%20and%20Images/Naval/Decision%20Superiority/9LV/9LV_CMS_Web.pdf

อุปกรณ์ที่จะติดตั้งได้แก่

            1. เรดาร์หลักคือ SEA GIRAFFE AMB 3D เป็นเรดาร์มัลติฟังชั่นเหมือนกัน แต่ยังหมุนติ้วๆอยู่ (เสียเปรียบ aesa) ย่านความถี่ c band ระยะ 40-180              กิโลเมตร มุมเงย 70 องศาเท่ากัน นอกจากนี้เรดาร์ตัวนี้ยังมีการอินติเกรทระบบพิสูจน์ฝ่าย (IFF) เข้าไปด้วย 

                http://www.saabgroup.com/en/Naval/Situational-Awareness/Multi-role-Surveillance-Radar/Sea_Giraffe_AMB/Technical-specifications/

            2. ceros 200 เป็นระบบควบคุมการยิง/ตรวจการณ์ ประกอบไปด้วยเรดาร์คลื่นความถี่สูง ku band มีความกว้างของของคลื่นความถี่มาก ใช้ได้ทั้งการ              ควบคุมการยิง essm จนถึงการควบคุมระบบอาวุธ ciws กล้องทีวี กล้องอินฟราเรด  แล้วก็เลเซอร์วัดระยะ 

                http://www.saabgroup.com/en/Naval/Precision-Engagement/Weapon_Control_Systems/Ceros_200/Technical-specifications/

            3. EOS 500 เป็นชุดตรวจการณ์ ประกอบไปด้วยเลเซอร์ กล้องทีวี กล้อง IR แทบเหมือนกับ ceros 200 ใช้ตรวจการณ์หรือควบคุมการยิงปืนของเรือได้

                http://www.saabgroup.com/en/Naval/Precision-Engagement/Weapon_Control_Systems/EOS_500/Technical-specifications/

หากเทียบกันตัวๆระหว่างชุด 9LV กับ I-mast ผมว่ามีดีต่างกัน imast มีเรดาร์ระยะตรวจจับไกลกว่าเยอะ แถมยังมีข้อได้เปรียบของระบบแบบ aesa แต่ระบบ 9lv ยืดหยุ่นกว่า มี configuration ให้เลือกเยอะกว่าแถมยังสามารถเอาไปอินติเกรทกับระบบที่มีๆอยู่แล้วด้วย เนื่องจากออกแบบเป็น open architechture ซึ่งผมว่าทำให้ทร.เลือกใช้เพราะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับการออกแบบดัดแปลงระบบอำนวยการรบรวมถึงเชื่อมต่อกับดาต้าลิงค์ของเราเองด้วย

 

หากจะเอาไปเทียบกับ aegis ผมว่ายังห่างไกลในเรื่องระยะ อีจีสเก่ากึักก็จริงแต่รุ่นใหม่ๆก็อัพเกรดมา ถึงแม้ว่าตัว spy-1 ระยะจะแค่ร้อยกว่ากิโลแถมยังเป็น pesa แต่เรืออีจีสก็มีเรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศแยกต่างหาก เช่น  sps-49 ซึ่งมีระยะตรวจจับร่วมๆสี่ร้อยกิโล แล้วแต่เวอร์ชั่น นอกจากนี้ยังมีมุมเงยถึงเก้าสิบองศา เนื่องจากถูกออกแบบมาสำหรับสกัดกั้น Ballistic Missile 

แต่ sea master 400 ก็ได้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่าทั้งยังพัฒนามาจากตระกูล smart-L, APAR (ซึ่งเป็นเรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศแบบเทพ ใช้สำหรับพวกระยะไกลโคตร sm-2/3)ดังนั้นเรื่องคุณภาพไม่ต้องห่วง

ในความเห็นส่วนตัวผมว่าแค่ระบบ imast-400 นี่ก็หล่อพอแล้วล่ะสำหรับทร.เรา เกินระยะยิงของ essm ไปไกลแล้ว

 




โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 23/04/2013 11:43:23


ความคิดเห็นที่ 32


สรุปข่าวอย่างนี้เราคงได้เรือแบบคัสตอมแน่ๆ

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 23/04/2013 11:46:12


ความคิดเห็นที่ 33


รูปคล้าย เรือ Virginio Fasan ของ อิตาลี่ ครับ...

เป็นเรือชั้น FREMM รุ่น ASW (Anti Submarine Warfare)

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 11:53:57


ความคิดเห็นที่ 34


แต่ถ้ารูป เป็นของ แดวู จริง...

งานนี้ อาจจะมี EMPAR หรือเปล่าหนอ ?

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 11:57:22


ความคิดเห็นที่ 35


โห ถ้าได้EMPAR ไม่แถมgirl generationก็เอานะ
โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 23/04/2013 12:07:42


ความคิดเห็นที่ 36


พิสูจน์ได้แล้วครับว่า....

รูป คือ เรือชั้น FREMM...จบ...ไม่ต้อง เดา...กัน แร่ะ... 5 5 5 5

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 12:19:16


ความคิดเห็นที่ 37


เรื่อง Sea Master 400...เท่าที่ผมพอจะอ่าน และพอจะเข้าใจได้ คือ มันมีความโดดเด่น ในเรื่อง การตรวจจับได้ทุกชนิด และ ระยะไกล กว่า...

ซึ่งจะทำให้ เรือสามารถ เตรียมตัว รับมือ หรือ ต่อต้าน ได้รวดเร็วขึ้น และมีเวลาวิเคราะห์ มีเวลาแก้ไขสถานการณ์ได้มากขึ้น...

แต่ในแง่ประสิทธิภาพ การจับเป้า เพื่อทำลาย...ผมไม่แน่ใจว่า มันจะแตกต่าง กับ Sea Giraft + CEROS 200 แล้ว จับเป้า ให้ ESSM ได้ดีกว่า หรือ มากกว่า เพียงใด ครับ...แต่ที่ แน่ ๆ คือ มันจับเป้า ได้ทั้ง 4 ด้าน ในเวลาพร้อม ๆ กัน ไม่ต้องรอหมุน...แต่ไม่รู้ มันสามารถ ล็อคเป้า ให้ได้ด้วย หรือเปล่า ? หรือ เพียงแต่ จับเป้าหมาย ได้ แต่ก็ต้งส่ง เป้าหมาย ให้ Fire Control Radar ล็อคเป้าอีกทีหนึ่ง...

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 12:40:42


ความคิดเห็นที่ 38


   ผมเห็นหอบังคับการเรือ กับ Radar Dome สูงๆแบบ นี้ มองแว๊บแรก ตั้งแต่ที่ลงใน Thaiarmedforce  ก็ว่ามัน FREMM Italian Version นี่หว่า  เพราะ i-Mast 400  Radar Dome มันจะเตี้ยป้อมกว่า 

 

   EMPAR Radar (โดยบริษัท SELEX)  ขีดความสามารถ ก็น่าจะพอๆกับ APAR Radar ของฝั่ง Thales Netherland  ที่มีหลายชาติเลือกใช้ครับ 

 

   ข้อมูลจาก Wikipedia นี่ว่า  EMPAR นี่ สามารถตรวจจับ 3D Air-Search ได้ 300Miles เลยทีเดียว ( 482 กิโลเมตร ) 

     แต่ระบบ เรดาร์ EMPAR  ที่ใช้อยู่บนเรือชั้น Horizon Class Frigate  จะใช้ร่วมกับ เรดาร์ S1850M ( Thales Smart-L รุ่นพัฒนา สำหรับ TYPE-45 ของอังกฤษ และ Horizon ของ ฝรั่งเศส และ อิตาลี )

 

      ก็คล้ายๆ เรดาร์ APAR ของ Thales Netherland  ที่ใช้ร่วมกับ Thales Smart-L ในเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศ

 

     แต่พอมาพัฒนาเรือ FREMM Frigate  ฝรั่งเศส เลือกที่จะพัฒนาเรือ ฟริเกตต่อต้านเรือดำน้ำ เป็นหลัก  ก็เลยเลือกที่จะใช้ เรดาร์ Herakles ( แต่ก็สามารถ ตรวจจับเป้าหมายในอากาศได้ถึง 250 กิโลเมตร ) 

     FREMM-ER (FREDA) Fremm รุ่นป้องกันภัยทางอากาศของฝรั่งเศส ในอนาคต จะใช้ระบบเรดาร์ แบบ เรือ AEGIS  แต่เป็นเรดาร์ ที่พัฒนาเองคือ SEA FIRE 500 ครับ

 

     ส่วน Fremm เวอร์ชั่น อิตาลี  ก็เลือกที่จะใช้  EMPAR  โดดๆ อย่างเดียวก็คงจะเพียงพอ ให้เป็นเรือรบ อเนกประสงค์  General Purpose (GP) และ Anti-Submarine Warfare (ASW) แล้วครับ   EMPAR ก็สามารถ ใช้ร่วมกับจรวด ASTER-15 / ASTER-30 ได้ครับ  

 

     แหะๆ  เห็นป๋า Juldas พูดถึง EMPAR  ก็เลยว่าตอมาซะยาว  มันก็ หรู เริ่ด เหมือนกันนะครับ   

    FREMM เวอร์ชั่น อิตาลี มันก็จัดเป็นเรือ ฟริเกตอเนกประสงค์ ประสิทธิภาพสูง เหมือนกัน เรดาร์ EMPAR  ก็คงไม่ธรรมดาเหมือนกันครับ

 

      ถ้าได้ก็ดี  

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 23/04/2013 12:44:42


ความคิดเห็นที่ 39


ตอบทั่น juldas

sea master นี่ใช้ล็อคเป้าด้วยครับ

เท่าที่มอ่านๆดูระบบพวกนี้จะใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์และเรดาร์ทุกตัวประมวลผลกันครับ ส่วนตัวก็รู้สึกว่าชุดของสวีเดนประสิทธิภาพก็จี๊ดเลย แต่ข้อดีของ aesa คือเวลาโดนระดมยิงหลายนัดด้วยกันเรดาร์แบบหมุนจะเอาไม่อยู่เพราะต้องคอยหมุนหันหน้าหันหลังขณะที่อีซาสามาถรจับได้หลายๆทางพร้อมกันหรือเน้นสัญญาณไปที่ทิศที่มีภัยคุกคาม

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 23/04/2013 12:48:18


ความคิดเห็นที่ 40


สรุปแล้วไอ้มาด500ของผม เป็นน้องคนที่8ของอีจิ๊ดอีกที แต่ทำงานทุกอย่างได้โดยลำพังไม่ต้องมีพระรองมาช่วย(เพราะมันรวมอยู่ในแท่งหรรษานั่นหมดแล้ว) เท่านี้ก็เอาหละนะเป็นเรือป้องกันอากาศยานน้อยๆของผมได้เหมือนกัน

 

 

เอาภาพสถานที่ทำงานของบริษัท DSME มาให้ดูครับ เรือเยอะดีใหญ่ๆทั้งนั้น


โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 23/04/2013 13:22:20


ความคิดเห็นที่ 41


ตามความเข้าใจของผม...

Sea Master 400...ตรวจจับเป้าหมายได้ทุกชนิด...

แต่ การทำลาย ยังต้องใช้ FCS เหมือนเดิม...หรือเปล่า ?

 




โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 13:28:09


ความคิดเห็นที่ 42


ขออนุญาตินอกประเด็นนะครับ เห็นภาพเรือHolland class ติด imast400 แล้วนึกถึงเรือหลวงกระบี่ ถ้าอนาคตทร.มีความพร้อมต่อเรือฟรีเกตเอง เอาแบบเรือหลวงกระบี่มาขยายอีกหน่อยเป็น 3000ตัน แล้วติดimastโดยดูจากเรือฟรีเกตของDSMEได้ก็จะดี
โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 23/04/2013 13:29:46


ความคิดเห็นที่ 43


ซึ่งความโดดเด่น คือ

จับ เป้าหมาย ได้ทุกชนิด ตั้งแต่ คนเล่นกระดานโต้คลื่น ถึง เครื่องบิน รบ ซึ่ง เรดาห์แบบ 3 D ทำไม่ได้...

ทำให้ สามารถ ดำเนินการรบ โดยใช้ระบบอาวุธ ได้อย่างเหมาะสม...

มีระบบ พิสูจน์ฝ่าย ทำให้ แยกแยะเป้าหมาย มิตร หรือ ศัพรู ได้ชัดเจน..

ประสิทธิภาพข้างต้น ใช้ได้กับ ทุกเป้าหมาย ในลักษณะ 360 องศา...

สามารถ เคลื่อนย้าย ทั้งระบบ (ยกทั้งเสา) ไปใช้ ในเรือลำอื่นได้...(ดูจาก วิดีโอ)

ผมเลยดูว่า Sea Master 400 มันจะเป็นเรดาห์ ตรวจการณ์ ตรวจจับ ที่ครอบคลุมกว่าระบบเรดาห์แบบ 3 D...แต่จะเทียบชั้น เท่ากับ Multifuntion Radar เพียงใด เช่น APAR หรือ HERAKLES ของ ค่าย Thale เช่นเดียวกัน...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 13:40:28


ความคิดเห็นที่ 44


  ดูจากข้อมูลทางเทคนิค จาก Website ของ Thales Group

 

  I-MAST 400 น่าจะเป็น ของ Thales Nederland (Netherland)  ส่วน Thales Herakles น่าจะเป็นของ ฝรั่งเศส พัฒนาขึ้นมาครับ  จะเห็นว่ามีใช้ในเรือ FREMM ของฝรั่งเศส และ เรือที่ฝรั่งเศส ขายให้ สิงคโปร์ 

 

    จากข้อมูลทางเทคนิคจาก Website Thales  ประสิทธิภาพในการตรวจจับใกล้เคียงกันครับ  แต่ Herakles จะด้อยกว่าที่เป็น เรดาร์แบบหมุน  และรองรับเฉพาะ จรวด Anti-Air ตระกูล ASTER 

   แต่ถึงจะเป็นแบบหมุน ก็ไม่ได้ช้ามากนะครับ Herakles หมุนตรวจจับ 60 รอบ/นาที เมื่อเทียบกับ Thales Smart-S MK2  ที่จะหมุน  27 รอบ/นาที กับเป้าหมายที่ระยะ 150 กิโลเมตร  และ 13.5 รอบ/นาที กับเป้าหมายที่ระยะ 250 กิโลเมตร ครับ

  i-Mast 400 Radar http://www.thalesgroup.com/Countries/Netherlands/Documents/Datasheet_I-Mast_400/

 

  Herakles Radar http://www.thalesgroup.com/Countries/Netherlands/Documents/Datasheet_HERAKLES/

 

   SMART-S MK2 http://www.thalesgroup.com/Countries/Netherlands/Documents/Datasheet_SMART-S_Mk2/

   

 

   

 

      

 

    

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 23/04/2013 14:13:34


ความคิดเห็นที่ 45


แล้วเจ้า I-MAST 400 หรือ 500 มันล็อกเป้าในเวลาเดียวกันเพื่อทำลายได้กี่เป้าหมายครับ

(เผื่อไว้เวลาถูก ระดมยิงจาก exocet MM40 ทีเดียว4ลูกพร้อมๆกันบวกกับ excocet MM39 จาก scopion 2 ลูก

ผู้รู้ช่วยตอบที่ว่าจะใกล้เคียงกับ APAR หรือ SPY ซักแค่ไหน ผมจะได้รู้ซักทีว่าเป็นน้องๆรุ่นไหนของ Aegis ครับ แล้วมันสามารถ upgade ใช้ร่วมกับ SM-2 และ asrock ได้หรือไม่

โดยคุณ Woot1980 เมื่อวันที่ 23/04/2013 14:19:26


ความคิดเห็นที่ 46


ครับ...ที่ผมสงสัย ก็คือ HERAKLES นี่...ตรวจจับ ล็อคเป้า และนำส่ง จรวดสู่เป้าหมาย ใช่หรือเปล่า ครับ ?

แต่ Sea Master 400 ผมดูตัวอย่างใน วิดีโอ...ไม่มีการแสดงถึง การล็อคเป้า และนำส่ง จรวดสู่เป้าหมาย...

เห็นแต่ ข้อมูลการ ตรวจการณ์ ตรวจจับ เท่านั้น..

ทำให้ สงสัย ไปถึงว่า แล้ว เนเธอร์แลนด์ ติดตั้งระบบ Sea Master 400 นี้ บน เรือ OPV กับ เรือ LPD ซึ่งไม่มีระบบ จรวด SAM...?

แต่ผมพอจะเข้าใจ ความหมาย ในความดีที่สุด ของการ ตรวจการณ์ ตรวจจับเป้าหมาย...ซึ่ง มันเหมาะสมกับ เรือ Patrol และ LPD...

เลยสงสัยว่า เมื่อนำมาติดตั้งบน เรือรบ...เรือรบ ก็ยังต้อง อาศัย FCS ในการ นำส่ง จรวด สู่เป้าหมาย ด้วยใช่หรือเปล่า น่ะครับ...โดยระบบ ไม่สามารถนำส่ง จรวด สู่เป้าหมาย ได้เหมือน HERAKLES

ตัวอย่างเช่น Formidable ที่ ไม่มี FCS...แต่แบบเรือ DW3000H ต้อง มี FCS ติดตั้ง...

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 14:22:16


ความคิดเห็นที่ 47


เท่าที่อ่านจากเอกสารpdf ของ i-mast 400 ที่แปะไว้มันเขียนว่า Optional: active tracking & missile uplink (มุมซ้ายล่างหน้าสุดท้าย)

แสดงว่าสามารถเลือกให้เรดาร์ (อาจจะต้องเลือกประเภทเรดาร์ที่จะติด? เดาเอา) ทำการติดตามเป้าหมายและชี้เป้าให้ เพราะ missle uplink คือการส่งข้อมูลไปที่มิสไซล์เพื่อนำวิถีให้วิ่งเข้าหาเป้า

ซึ่งโดยปกติมัลติฟังชั่นเรดาร์ทุกชนิดก็สามารถนำวิถีอาวุธได้อยู่แล้วเพียงแต่จะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน  ซึ่งคงไม่ดีเท่ามี fcr โดยเฉพาะมังครับ

ส่วนการควบคุมการยิงปืนเรือตัว sea master ทำได้สำหรับเป้าหมายในระดับพื้นน้ำ

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 23/04/2013 15:20:46


ความคิดเห็นที่ 48


อย่างน้อย น่าจะส่งข้อมูลให้ระบบปืนได้นะครับถ้าดูจากรายละเอียด

 

มี active tracking กับ missile uplink เป็น option เสริม แต่ไม่ได้ระบุไว้ว่าใช้กับอะไรได้บ้าง

 

http://www.thalesgroup.com/Countries/Netherlands/Documents/Datasheet_I-Mast_400/

 

 

 

 

 

โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 23/04/2013 15:29:56


ความคิดเห็นที่ 49


ถ้าสืบค้นต้นตระกูลดูแล้ว ไอ้มาด500 ก็เป็นหลานของอาภา(APAR)กับสามารถ(Smart)แห่งตระกูลทะเล้น (thales) ว่าแต่เป็นหลานใกล้ชิดหรือห่างแค่ไหนกัน
โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 23/04/2013 15:37:05


ความคิดเห็นที่ 50


ก็คือ ตัว Option ในแผ่น โฆษณา จะใช่ตัว Fire Control Radar แบบที่ติดบน DW3000H หรือเปล่า ?

คือ เพิ่มระบบเชื่อมกับ ตัว FCS หรือ ระบบอื่น ๆ ที่ใช้ นำส่ง Missile โดยตัวมันเอง แล้ว อาจจะไม่สามารถนำส่ง Missile ได้...ต้อง ผ่านตัวเชื่อม อีกระบบหนึ่ง...

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 15:38:39


ความคิดเห็นที่ 51


คือ ในความสงสัย นี้ มันจะ ส่งผลต่อว่า...ถ้าตัว Sea Master 400 สามารถ ล็อคเป้า และนำส่ง Missile สู่เป้าหมายได้...

จำนวน เป้าโจมตี ขั้นต่ำ ก็คือ การ จับเป้าหมายได้ 4 เป้าหมาย คือ ด้านละ 1 เป้าหมาย หรือ จะมากกว่านั้นได้....ตามที่ แต่ละด้านของ เรดาห์ จะจับเป้าได้ กี่จุด ก็สามารถ นำส่ง Missile ไปทำลายเป้าหมายได้...

แต่ถ้า ระบบ ไม่สามารถ นำส่งเป้าหมายให้กับ Missile ได้...แต่ต้องผ่าน FCS แล้ว..ความสามารถการทำลายเป้าหมาย ก็จะเหลือเพียง 1 เป้าหมาย เป็นขั้นต่ำ...เพราะต้องใช้ FCS ล็อคเป้าหมาย จนกว่า Missile จะเข้าทำลาย...หรือ กรณี Missile มีความสามารถล็อคเป้าเองได้ในระดับหนึ่ง...FCS ก็จะสามารถล็อค เป้าหมายได้เพิ่มอีกต่อไป...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 15:49:11


ความคิดเห็นที่ 52


มันส์ครับ กระทู้นี้

อ่านเพลิน อ่านไปอ่านมาดูจะเหนือกว่าformiddable ด้วย เล่นเอาเคลิ้มเลย อิอิ

โดยคุณ delete เมื่อวันที่ 23/04/2013 15:49:51


ความคิดเห็นที่ 53


แต่ความเห็นผมว่า กลัวมันจะด้อยกว่า Formidable ซิครับ...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/04/2013 15:52:38


ความคิดเห็นที่ 54


ต้องรอดูว่า I-Mast  500  จะใช้ Seamaster 400 หรือเรดาห์ตัวอื่นที่มีฟังก์ชันมากกว่าเดิม เพราะมันไม่ได้ระบุตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องใช้ sensor ตัวนั้นตัวนี้

 

อาจจะปรับได้ตามความเหมาะสม



โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 23/04/2013 15:55:01


ความคิดเห็นที่ 55


ท่าน RAF

   "ถ้าสืบค้นต้นตระกูลดูแล้ว ไอ้มาด500 ก็เป็นหลานของอาภา(APAR)กับสามารถ(Smart)แห่งตระกูลทะเล้น (thales) ว่าแต่เป็นหลานใกล้ชิดหรือห่างแค่ไหนกัน"

 

    ไอ้มาด 500  เป็นหลาน อาป้า กับ สามารถ ว่าแต่เป็น สามารถ S หรือ สามารถ L

 

    ถ้าเป็น สามารถ L นี่ละที่เรียกว่า น้องๆระบบ AEGIS + เรดาร์ AN/SPY-1 เลย

 

   ถ้าเป็น SMART-L BMD EW  รุ่นที่ติดกับเรือ De Zeven Class ละก็มีความสามารถในการ ต่อต้าน Ballistic Missile แบบเรือ AEGIS ของอเมริกาเลย 

 

    แต่  อาป้า (APAR)  กับ สามารถ-แอล (SMART-L)   เขาต้องลงเรือลำเดียวกัน เพื่อทำงานร่วมกันด้วยอ่ะสิ 

 

    แล้ว ไอ้มาด 500   มันสามารถทำงานแบบ 2 in 1    APAR + SMART-L   ได้เลยหรือเปล่าครับ 

    

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 23/04/2013 16:03:53


ความคิดเห็นที่ 56


นั่นสิครับ ท่านลับสุดยอด ไอ้ผมก็สงสัยเหมือนกับว่าไอ้มาด500มันจะเป็นหลานใกล้ชิดเลยหรือ ยิ่งบ้านนี้ลูหลานเยอะ
โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 23/04/2013 16:19:38


ความคิดเห็นที่ 57


      มาดู เรดาร์ ของเรือที่เราวางไว้เป็น Benchmarking ในภูมิภาคอาเซียน  ก็คือ เรดาร์ Herakles ของเรือชั้น Formidable Class ของ สิงคโปร์  รวมไปถึง เรือ Frigate ใหม่ล่าสุดของฝรั่งเศส อย่าง FREMM French Ver.

 

    ดูเหมือนจะออกแบบ มาเพื่อจะยิงเจ้า ASTER-15 / ASTER-30  โดยเฉพาะเลยนะครับ  ไม่รู้ว่าจะอัพเกรดเพื่อยิง ESSM หรือ SM-2 ในอนาคต ได้หรือเปล่า  

    

     ระบบฝรั่งเศส ยุ่งยาก ตั้งแต่เครื่องบิน ยันเรือรบ ใช้อาวุธ ร่วมกับชาติอื่นๆไม่ค่อยจะได้  แต่เรือ สิงคโปร์  Surface-to-Surface Missile  ใช้ Harpoon นะครับ  ไม่รู้ว่าเพิ่มระบบควบคุมการยิง Harpoon โดยเฉพาะเองหรือเปล่า   หรือว่าปรับปรุง Herakles ให้ควบคุมการยิง Harpoon ได้ 

   

 

     

   

 

      




โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 23/04/2013 16:24:59


ความคิดเห็นที่ 58


ก็ประเด็นนี้แหละที่ทำให้ผมเชียร์ CEAFAR / CEAMOUNT สุดใจเลย เพราะข้อจำกัดในการใช้งานร่วมกับ ESSM ที่เป็นระบบ Semi-Active ทำให้ต้องมีระบบเรดาร์ที่มีความสามารถในการ Up Link ได้กับจรวดหลายลูกในเวลาอันสั้น จึงจะสามารถใช้งาน ESSM ได้เต็มประสิทธิภาพ (ซึ่ง SM2 ก็เป็นลักษณะเดียวกัน) เท่าที่ดูแบบของเรือ DW3000H มีการติดตั้ง FCS อยู่เหนือสะพานเดินเรือ 1 ชุด (จากรูปร่างก็คง STIR) แต่หากต้องใช้เพื่อส่งให้จรวด ESSM เข้าสู่เป้าหมายก็จะเกิดข้อจำกัดทั้งทิศทางที่ไม่ครอบคลุม 360 องศา และจำนวนเป้าหมายที่ระบบจะสามารถจัดการได้ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ถ้ามีออปชั่น active tracking & missile  uplink อย่างที่ว่าใส่มาด้วย ก็จะกลายเป็นระบบที่เลิศหรูอลังการขึ้นมาทันที เพราะจะเท่ากับว่ามี FCS ถึง 4 ชุดครอบคลุม 360 องศารอบตัวเลย

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 23/04/2013 16:28:48


ความคิดเห็นที่ 59


ผมว่าถ้า sea master มาโดดๆก็คงสู้ herakle ของ formidable ไม่ได้นะครับเรื่องการนำวิถีให้อวป.

เพราะที่ป๋าจูลตั้งประเด็นก็ถูก ไม่เคยเห็นเรดาร์ตัวนี้กับเรือที่ติดแซมโดยไม่ต้องมี fcs เพิ่มเติม

แต่เรดาร์ตัวนี้ก็ยังใหม่มาก เลยไม่มีตัวอย่างให้ดูนอกจากเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งติดปืนของเนเธอแลน(ที่ใหญ่กว่าฟริเกตของเราบานตะไท) แต่ระบบนี้ก็ออกแบบให้เลือกอุปกรณ์ที่จะมาใส่ได้เพราะฉนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ระบบนี้จะสามารถติดตั้งเรดาร์ที่สู้กับของพี่ซิงได้

ขออธิบายเพิ่มเติมนะครับสองเรื่อง คือด้วยระบบเฟสอะเรย์  จานเรดาร์(attenna)นึงไม่ใช่ว่าจะล็อคเป้าได้อันเดียว แต่ล็อคได้ทีหลายอัน ขึ้นอยู่กับว่ามีตัวโมดูล(ที่เป็นตุ่มๆบนจาน)ส่งสัญญาณมากน้อยแค่ไหน เพราะสามารถสั่งให้แต่ละโมดูลทำงานแยกอิสระกัน หรือเลือกโฟกัสคลื่นวิทยุไปยังแต่ละจุดมากน้อยต่างกันได้ นึกภาพเครื่องบินเรดารสามารถล็อคเป้าได้ทีเดียวหลายเป้านั่นแหละ ทั้งยังตรวจจับได้เป็นสิบๆหรือร้อยๆเป้า

เพราะงั้นพวก fcs ตัวนึงก็สามารถล็อคเป้าได้ทีละหลายตัว(กรณีมาในทิศเดียวกัน ไม่ใช่ว่าตัวนึงมาหน้าอีกตัวมาหลัง หันหาไม่เจอพอดี)

อีกประเด็นคือเรื่อง missile uplink กรณีนี้คือเรือทำการจับล็อคเป้าหมาย จากนั้นก็ทำการติดตาม(track)ไอ้จรวดของเราไปด้วย แล้วเรือจะทำการคำนวนว่ามิสไซล์ของเราต้องเดินทางไปทางทิศไหน ปรับครีบยังไงให้ไปถึงที่หมายแล้วส่งข้อมูลไปบังคับมิสไซล์  ซึ่งต่างกับ semi-active radar เซมิแอ็คทีฟเรดาร์คือเรือทำการชี้เป้า (illuminate) ด้วยการส่งคลื่นเรดาร์ออกไปปะทะเป้าหมายแล้วสะท้อนกลับมา มิสไซล์ของเราก็ทำการรับสัญสาณแล้วก็คำนวนทิศทางเองว่าจะไปให้ถึงเป้ายังไง

แต่ถ้าระยะยิงไกลๆ พวกมิสไซล์แบบ semi active radar ก็อาจต้องให้เรือทำาร uplink ไปก่อนในช่วงแรกแล้วค่อยไปต่อเองด้วยระบบเซมีแอคทีฟโฮมมิ่ง

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 23/04/2013 17:51:18


ความคิดเห็นที่ 60


...ลูกจรวดASTER เป็นActive Homing ....Herakles จึงมีหน้าทีMid-Course Uplink ให้ลูกจรวดอย่างเดียว พอใกล้ถึงเป้าหมายจึงเปิดเรดาร์ที่หัวจรวดได้ 

Herakles จึงไม่ได้วิเศษไปกว่า SMART-S เพียงแต่อัพเดทเป้าหมายได้เร็วกว่าเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นระบบAll-in-one คือ เป็นเรดาร์ภาคพื้นน้ำได้ด้วย 

ส่วนESSM มีโหมดMid-Course เหมือนAster แต่พอจะเข้าใกล้เป้าหมายจะใช้ระบบSemi-active หรือต้องใช้เรดาร์จากเรือคอยนำวิถีให้ .......

ปริมาณเป้าที่จะจัดการได้ในกรณีเกิดการยิงอย่างที่สมมติกันขึ้นมา ว่า6ลูก........ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละลูกยิงห่างกันเท่าไหร่ แบริ่งของจรวดแต่ละลูกเป็นอย่างไร .....6ลูกยิงห่างกันลูกละ 2-3วินาที น่าจะจัดการได้อยู่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า i-Mast มีความสามารถในการจับilluminationเป้าหมายได้กี่วินาที  และระบบอำนวยการรบจัดคิวอย่างไร 

สิ่งที่น่าทึ่งของระบบAEGIS นอกจากเรดาร์SPY-1 (ที่เรียกกันผิดๆว่าเรดาร์AEGISนั่นแหละ) ยังเป็นระบบอำนวยการรบที่จัดคิวลูกจรวดได้สุดยอดอีกด้วย 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 23/04/2013 18:46:19


ความคิดเห็นที่ 61


FCS บนDW3000H คือ THALES Sting EO Mk2........ไม่มีความสามารถCWI ใช้สำหรับคุมปืน 76มม.

ส่วนบนFormidable ในเมื่อ ASTER เป็นระบบ Active Homing จึงไม่จำเป็นจะต้องมีFCS เพื่อIlluminateเป้า ........

สิ่งที่เจ๋งที่สุดบนFormidable คือจรวดASTER30 ซึ่งคลาสเดียวกับSM-2 ......ซึ่งASTERต้องการระบบสนับสนุนน้อยกว่าSM-2 จึงซื้อเรือได้ในราคาถูกกว่าแต่ลูกจรวดจะต้องราคามหาโหด .......การเอาเรดาร์ไปไว้ในลูกจรวด เท่ากับว่า ยิงเรดาร์ทิ้งทุกครั้งที่ยิง  

หากจะเทียบDW3000Hกับ Formidable ในสเป็คคร่าวๆ ......มันพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่ASTER30 ยังคงเป็นอวป.พื้น-อากาศ สำหรับเรือที่ดีที่สุดในASEAN ตอนนี้ .......ส่วนระบบตรวจจับทางอากาศi-Mast ไม่แพ้Heraklesแน่นอน  

และหากนับจำนวนลูกจรวดจริงๆ ASTER 15 ASTER 30 ไม่มีQuad Pack มี32ท่อยิง จริง แต่ก็มีจรวด 32ลูก ซึ่งเท่ากับ บนรล.นเรศวร(8ท่อยิง แต่ละท่อยิงใส่ท่อยิงESSM แบบMk25 Quad Pack รวม 32ลูก)  ระบบSylver A50 นั้น จะมีQuad Pack Missile แบบเดียวคือ VT-1 หรือ Crotale ปรับปรุง .....

เพราะฉะนั้น หากโหลดASTER15 เรือชั้นFormidable ก็จะมีลูกจรวดที่มีความสามารถพอๆกับESSM ในจำนวนที่เท่ากันกับรล.นเรศวร (แต่หากโหลด ASTER30 ก็ ...นะ ) เพียงแต่อาจจะจัดการเป้าหมายได้ต่างจำนวนกันในเวลาเดียว ...... 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 23/04/2013 19:18:24


ความคิดเห็นที่ 62


มาเล เลือก SMART-S surveillance radar 

กับ Captas variable depth sonar

http://defense-studies.blogspot.com/2013/04/bhic-sub-subsidiary-gets-2-contracts.html

 

รอดูของไทย หวยจะออกอะไร 

โดยคุณ randolph69 เมื่อวันที่ 23/04/2013 19:48:53


ความคิดเห็นที่ 63


ในฐานะที่ผมเชียร์เรือเกาหลี บอกได้เลยว่าการล็อกเป้าหมายแบบส่งผ่านข้อมูลจาก  sea mast ต่อมายัง FCS ไม่ได้แปรความมี Fcs 1 อันว่าจะล็อกเป้าได้แค่ 1 เป้านะครับ (คุณ JULDASคุณดีๆครับเรือ DW3000h มีระบบFCS STIR STING เพียงแค่ด้านหน้าอันเดียวครับไม่ได้มีสองอัน)  ดูอย่างเรือที่ใช้ระบบเอจีสของไอ้กันนะครับ มี SPG-62 อยู่แค่ 3 อัน แต่สามารถล็อกเป้าหมายได้ถึง 12 เป้าหมายพร้อมๆกัน นั้นหมายความว่า ระบบ FCS ไม่ได้เป็นตัวระบุจำนวนการจับเป้าหมาย แค่เป็นตัวส่งผ่านจากเรดาห์ไปยังเป้าหมายเท่านั้นครับ

1.SPG-62 ควบคุม = 1 ชุดของแท่นยิงจรวดMK41.ฉะนั้น SPG-62 2ตัวแรกควบคุม แท่นยิง MK41 ด้านหน้าและด้านหลังของเรือ ส่วนอันที่ 3 ใช้ควบคุมระบบอาวุธอื่นๆครับปล  (อ้างอิงจากเรือชั้น TICONDELOGA แต่เรือที่ใช้ SPG-62 รุ่นอัฟเกรดอย่าง burke-class ผมไม่มีข้อมูล)

ในส่วนของFCS บนเรือ DW3000h นั้นน่าจะเป็นระบบ  STIR 1.2 EO Mk2 ครับ ลองอ่านรายละเอียดดูครับ น่าจะเป็นระบบ FCS type STING เพียงอันเดียวครับ



โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 23/04/2013 20:12:49


ความคิดเห็นที่ 64


ลองพิจารณาบอร์ดอันนี้แล้วลองเปรียบ SPG-62 ที่ควบคุมระบบการยิงบนเรือชั้น AEGIS ทั่วๆไปครับ

https://en.wikipedia.org/wiki/File:Aegis_Combat_System_e.png


โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 23/04/2013 20:30:41


ความคิดเห็นที่ 65


ไม่ใช่STIR 1.2 แต่เป็นSTING EO 

http://www.defensemedianetwork.com/stories/south-korea%E2%80%99s-dsme-unveils-new-frigate-proposal-for-thai-navy/ 

 

the DW 3000H features an integrated mast – Thales’ I-Mast 500 most likely fitted with ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile) uplink/control capability. Fire-control equipment includes a forward-facing gunfire-control director – a Thales Sting – atop the bridgehouse and a rear-facing Thales MIRADOR electro-optical director atop the helicopter hangar. 

 


โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 23/04/2013 20:33:16


ความคิดเห็นที่ 66


เพราะ i-Mast นำวิถีให้ESSM ได้เลยไม่ต้องใช้FCSสำหรับมันโดยเฉพาะ 

STING ไม่มีโหมดCWI ใช้สำหรับปืน76มม.โดยเฉพาะ จึงไม่ต้องการอะไรที่มันสิ้นเปลืองเกินไป ...(อย่างแต่ก่อนรล.นเรศวรใช้STIR 1.8กับปืน5นิ้ว มันเกินไปนิด )

 



โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 23/04/2013 20:42:08


ความคิดเห็นที่ 67


อ้าวเป็นรุ่นต่ำกว่า STIR 1.2 เหรอเนียะ หลงเข้าใจคิดว่าเป็น STIR มาโดยตลอด

ขอประทานโทษด้วยครับ

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 23/04/2013 20:40:27


ความคิดเห็นที่ 68


จนป่านนี้ก็ยังไม่มีผู้รู้อย่างแท้จริง ว่าเจ้า sea-master มันสามารถจับล็อกเป้าในคราวเดียวกันได้จำนวนเท่าไรกันแน่

 (ผมก็เลยยังนับญาติกับน้องๆเอจีสไม่ได้ซักกะที ฮา)

แต่ก็อย่าไปซีเรียสเลยครับเอาเป็นว่าน่าจะเหนือกว่า Gowind ของมาเลย์ละน่า(เพราะเรือชั้นนี้ติดตั้งASTER30ไม่ได้ ใช้ได้แค่ ASTER15)

และอีกอย่างผมไม่เชื่อว่าอเมริกาจะยอมขาย ESSM ให้กับมาเลเซียอย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีข่าวจากในเวป ทร.มาเลย์ว่าจะขอ modify ระบบเรือ Gowind เป็น mk2 เพื่อใช้งานร่วมกับESSMได้ก็เถอะ เพราะก่อนหน้านี้ตั้งหลายปีกับข่าวการ อัฟเกรดเรือชั้น Meko kedah class 2 ลำที่ว่าจะติดตั้ง VLS MK41+ESSM จนป่านนียังไม่เห็นซักลูก ไทยเรายืนขอซื้อ ESSMไปทีหลังแท้ๆ สภาคองเกรสกลับอนุมัติให้ไทยเราได้ซื้อมาใช้กับเรือชั้นนเรศวรตั้ง 9ลูก (ไม่รู้ว่าเป็นข้ออ้างในเรื่องของดุลอำนาจทางทะเลหรือเปล่านะเพราะอเมริกาชอบอ้างอยู่บ่อยๆอันเนื่องมาจากมาเลย์มีเรือดำน้ำอยู่แล้ว 2 ลำ ประมาณว่าเห็นใจทร.ไทยเรางบน้อยถึงขนาดกับยกเรือ OHP ให้กับเราฟรีๆถึงสองลำ)

แต่กับ Formidable ก็ปล่อยๆเขาไปเถอะ ยังงัยซะสิงคโปร์ก็เคยให้เครื่องบิน F-16 แก่เรา 7 ลำเพื่อแลกกับเข้ามาใช้พื้นที่ซ้อมรบกับเรา ยังงัยก็ยังเป็นมิตรทางทหารที่ดีต่อกัน อีกทั้งสิงคโปร์ก็มีพันธะสัญญาเป็นพันธมิตรทางทหารแบบผูกขาดกับอเมริกาอยู่ด้วย โอกาสที่จะเป็นศัตรูกันคงจะยากอยู่พอสมควรละ (เพราะอเมริกาคงจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นแน่)

 

โดยคุณ Woot1980 เมื่อวันที่ 23/04/2013 21:46:57


ความคิดเห็นที่ 69


   ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลนะครับน้อง TOP  เป็นอันว่าเข้าใจแจ่มแจ้งสักทีว่าทำไม่ SMART-L  จึงสามารถใช้งานได้กับทั้ง  ESSM  SM-2  และ ASTER   ก็เพราะทำ Option ให้เลือกใช้งานกับจรวดค่ายไหนก็ได้    ต้องยอมรับว่าเรือ่งเรือจากยุโรปและระบบเรด้าร์จากยุโรป   น้อง TOP นี่เข้าขั้นเทพแล้ว 

 

  ใน TAF  ยืนยันกันแล้วว่าเป็น STING EO ครับ     ใช้แค่ควบคุมปืน 76 mm.  เท่านั้น   และไม่มี FCS อื่นอีก  ดังนั้นจึงเป็นอันว่ามันสามารถทำการ uplink พร้อมกับ illuminate เป้าหมายได้   จึงไม่ต้องมี FCS อีก   เพื่อนท่านอื่นเอาข้อมูลมายืนยันเรื่อง option ในส่วนนี้ด้วย 

   แต่ถ้าจะให้เหนือกว่า Herakle  ผมว่าก็ควรทำการติดตั้ง  FCS เพิ่มเติมหน้าหลัง   เพื่อให้ลดภาระของ i-mast ลงไปให้ FCS ตัวอื่นทำหน้าที่ควบคุมลูกอาวุธนำวิถีชุดแรกๆที่ทำการติด  แล้ว i-mast จะได้ทำหน้าที่ติดตาม ล๊อคออนและควบคุมลูกอาวุธนำวิถีเป้าหมายอันถัดๆไปได้   จะทำให้เพิ่มความสามารถในการยิงซัลโวลูก ESSM เข้าสู่เป้าหมายพร้อมกันได้มากขึ้น


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 23/04/2013 23:48:22


ความคิดเห็นที่ 70


   ดูๆแล้วการจัดหาคราวนี้  ยังกะเน้นหนักว่าเป็นเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศซะมากกว่าแล้ว    เพราะว่ายังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อตีเป้าหมายทางกาศได้อีก

 

  ผมรอดูข้อมูลการพัฒนา cherlomae -2 อยู่ครับว่าจะทำได้จริงดังที่กล่าวไหม  สำหรับระยะยิง 150  Km  และเป็นแบบ active homing  เหมือน ASTER    และจะใช้งานได้กับเรด้าร์ของ Thales  ด้วยจริงหรือเปล่า   เพราะยังไงเกาหลีใต้ก็ยังเป็นพันธมิตรกับทาง Thales อยู่ด้วยครับ   ถ้าทำได้   และถ้าเรือชุดนี้ติดตั้ง  K-VLS มาด้วย   ก็เป็นอันว่ามีทางเลือกอื่นนอกจาก  SM-2 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 23/04/2013 23:55:35


ความคิดเห็นที่ 71


  

   ถ้ามีการเตรียมพื้นที่สำหรับ  VLS 32 cell   และพื้นที่สำหรับติดตั้งเรด้าร์รอง  รวมทั้ง  FCS เพิ่มในภายหลังได้   คิดๆดูแล้วตกลงมันจะเป็น AAW frigate มากกว่า ASW frigate แล้วจริงๆ 



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 24/04/2013 00:02:56


ความคิดเห็นที่ 72


นั่งอ่านเว็บนี้กับเว็บ TAF แล้วฮาดี 

เรียกว่ากระทู้เรือเกาหลีไปกันแบบคู่ขนานเลย คอมเมนท์แบบก๊อปมาแปะทั้งสองเว็บตรึม เนื่องจากคุยเรื่องเดียวกัน

ผมว่าถ้าทร.ต้องการไว้ต่อตีเรือดำน้ำก็คงต้องมีการเพิ่มสเป็คเป็น vls 16 เซลล์เป็นอย่างน้อยแล้วใส่ asroc เข้าไป essm เท่าเดิมก็ได้พอไปวัดไปวาได้อยู่ ลำพังตอปิโดหกลูกแล้วจะบอกว่าเป็นเรือเน้นการต่อต้านเรือดำน้ำคงตลก เพราะตอร์ปิโดระยะยิงน้อยกว่า asroc ถึงครึ่งนึงเลยทีเดียว แถมจำนวนหกลูกมันก็มาตราฐานเรือฟริเกตทั่วๆไปโซน่าร์ลากท้ายยังไงก็ต้องมี ไม่งั้นก็ต้องจัดหาฮ.ปราบด.มาเพิ่ม (ไม่เอาแบบมาแล้วอุปกรณ์ตามมาอีกสองสามปีนะ ไม่งั้นก็ไม่ต่างกับฮ.ที่มีอยู่แล้ว)

 

หรือถ้าเอาแบบถูกใจแฟนๆก็อัด sam เข้าไปอีกแล้วถอยเรือดำน้ำแม่มเลย ฮา

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 24/04/2013 02:45:40


ความคิดเห็นที่ 73


ส่วนตัวเคยตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ตอนนี้ทร.ต้องการเรือฟริเกตที่เน้นด้าน ASW เพราะยังมีจุดบอดเนื่องจากยังไม่เรือดำน้ำ เลยต้องเสริมในส่วนนี้ก่อน แต่หลังจากนี้หากทร.สามารถจัดหาเรือดำน้ำมาประจำการได้ เรือล๊อตนี้น่าจะถูกอัพเกรดเป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศแบบสมบูรณ์ (สามารถป้องกันแบบพื้นที่ได้ เพราะตอนนี้ตามที่ทร.วางขอบเขตไว้นั้นยังเป็นแบบป้องกันแบบจุด อย่าง ESSM)

ด้วยเหตุนี้เรือล๊อตนี้น่าจะมีการออกแบบเผื่อเอาไว้รองรับการอัพเกรดในอนาคต

โดยคุณ Ben_BEnz เมื่อวันที่ 24/04/2013 07:15:27


ความคิดเห็นที่ 74


ตามข้อมูลที่อ้างถึง คือ STING ใช่หรือเปล่าครับ...

ไม่ได้ระบุว่าเป็น STING EO...

แล้ว STIR 1.2 (STING) นี้ ใช่อันเดียวกัน หรือเปล่า ครับ..?

  • STIR 1.2 (STING)

  • STIR 1.2 (STING) is a multi-purpose, multi-sensor naval fire control tracking system for missiles and guns.

    STIR 1.2 supports missile and gun fire control, performs kill assessment and makes a valuable contribution to classification and identification of threats. For air target engagement the STIR 1.2 is applied for assignment of missiles like RAM, VL MICA and ESSM and as gun fire solution for OTOMelara 76mm and the AK176.

    STIR 1.2 can also track surface targets; obtained track data can be used for the SSM, as well as for surface target engagements with the available guns. STIR 1.2s EO package enables for observation and tracking under all conditions.

    In addition, the system can be used as a surveillance sensor, even under radar silence conditions.

    STIR 1.2 overcomes the tracking problems often associated with low-flying missiles. By applying dual radar bands (I- and K-band), and complemented by EO sensors, STIR 1.2 realizes extremely high track continuity, even in littoral, high-clutter and jamming scenarios.

    The EO sensor suite supports long range search, identification and classification of asymmetric threats as piracy and insurgency

  • โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 07:16:35


    ความคิดเห็นที่ 75


    เรื่อง Fire Control ด้านหลังเรือนั้น...จะเป็น EOS ของ ปืน 30 ม.ม. ทั้ง 2 แท่น ครับ...ไม่ใช่ เป็น STING น่ะครับ...แต่ผมจะใช้คำพูดใน ความหมายกว้าง ไว้ว่า FCS (Fire Control System) เพราะ ยังไม่เห็น สเปค น่ะครับ..

    ที่ผมสงสัย ก็เพราะว่า Sea Master 400 มีความสามารถ ล็อคเป้าให้ ปืน ได้อยู่แล้ว...แล้วจะติดตั้ง FCS ให้ ปื่น ทำไม น่ะครับ..แบบเรือ Holland Class ก็ไม่มี FCS...

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 07:18:12


    ความคิดเห็นที่ 76


    ส่วนเรื่อง Sea Master 400 กับ ภาระกิจ Anti Submarine นั้น...

    ผมมองอย่างนี้ว่า...ด้วย จุดเด่นของ ระบบตรวจการณ์ ที่สามารถ แยกแยะเป้าหมาย ได้ตั้งแต่ คนเล่นกระดานโต้คลื่น...ทำให้ การคัดแยก เป้าหมายในพื้นทะเล...สามารถที่จะแยกแยะ เป้าหมายและรู้ได้ว่าเป็นอะไร...ซึ่ง จะส่งผล ถึงว่า...ถ้า ตรวจพบวัตถุเคลื่อนที่ขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถแยกแยะ เป้าหมายได้ (ว่าเป็น คนเล่นโต้คลื่น หรือ เรือยางติดเครื่องยนต์) ก็จะตีความหมายได้ว่า...น่าจะเป็น กล้องตาเรือดำน้ำ...ซึ่งจะเป็น ส่วนสนับสนุนในการ ตรวจการณ์เพื่อปราบเรือดำน้ำ...โดย เรดาห์ตรวจการณ์อื่น ๆ ยังไม่มีจุดเด่นนี้...หรือยังไม่มีความสามารถทำได้เท่า น่ะครับ...

     

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 07:28:10


    ความคิดเห็นที่ 77


    ท่าน ObeONe ความหมายตามความเห็นผม คือ การทำลาย เป้าหมาย ได้เพียง 1 เป้าหมายครับ...ตามที่ ท่าน icy_CMU ได้ให้ ความเห็นไว้ว่า ESSM ต้องมี FCS นำทาง Missile ให้เข้าทำลายเป้าหมาย...ดังนั้น FCS ก็จะต้องส่งจนกว่า ESSM จะทำลาย...แม้ว่า เรดาห์ จะจับเป้าหมายได้ เท่าไหร่ก็ตาม...ถ้ายังต้องอาศัย FCS นำ Missile กระทบเป้าแล้วล่ะก้อ...มันก็ต้องขึ้นอยู่กับ FCS ครับ...ว่าจะมี กี่จุด และมีความเร็วในการนำส่งเป้าหมาย เพียงไร...

    คือ ผมอยากรู้ว่า Sea Master 400 สามารถนำ ESSM ไปจนทำลายเป้าหมายได้หรือเปล่า...น่ะครับ...

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 07:35:02


    ความคิดเห็นที่ 78


    http://www.defensemedianetwork.com/stories/south-korea%E2%80%99s-dsme-unveils-new-frigate-proposal-for-thai-navy/ 

     

    the DW 3000H features an integrated mast – Thales’ I-Mast 500 most likely fitted with ESSM (Evolved Sea Sparrow Missile) uplink/control capability. Fire-control equipment includes a forward-facing gunfire-control director – a Thales Sting – atop the bridgehouse and a rear-facing Thales MIRADOR electro-optical director atop the helicopter hangar. 

    ตรงนี้มันบอกชัดเจนอยู่แล้วว่า คุมปืน76มม. จึงน่าจะเป็นSting EO หรือแม้จะเป็นSTIR 1.2 ก็น่าจะไม่ได้ติดชุดCWIมาด้วย 

    ส่วนบรรทัดแรกแม้จะใช้คำว่าMost Likely ......น่าจะ /อาจจะ  แต่เพราะมันยังเป็นโมเดลอยู่ จึงยังไม่สามารถตัดสินได้ว่ามีหรือไม่มี 

    ด้านหลังก็เป็น MIRADOR .........

    ถึงแม้Sea Master จะมีความสามารถควบคุมปืนได้ แต่ในกรณีที่เกิด Saturated Attack จากมิสไซล์หลายๆลูก อาจจะทำให้การควบคุมปืนทำได้ไม่ดัพอ จึงติดตั้งFCSแยกให้ปืน 76 และ 30 มม. จะดีกว่า อีกทั้งมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำได้จริง แต่ความแม่นยำยังสู้พวกX-Band แท้ๆไม่ได้  

    (จริงๆแล้ว I-mast ติดตั้ง Gatekeeper อยู่แล้ว ซึ่งเป็นระบบEO คุมปืนได้อีกชั้นหนึ่ง แต่GateKeeper น่าจะใช้ในฐานะกล้องตรวจการณ์มากกว่า ) 

     

     

     

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 24/04/2013 07:41:06


    ความคิดเห็นที่ 79


    และเมื่อดู คุณสมบัติของ STING คือ ความสามารถ STIR 1.2 can also track surface targets; obtained track data can be used for the SSM

    หมายถึง ก็ยังต้องนำส่ง Harpoon ด้วยหรือเปล่า ครับ...หรือเป็น ความสามารถพิเศษ เท่านั้น...

    โดย Sea Master 400 สามารถ Link Data ให้กับ Harpoon ได้อยู่แล้ว

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 07:42:04


    ความคิดเห็นที่ 80


    อ่านดูใน Link แล้ว...ตอนนี้ ถ้า สเปค ก็ต้องเป็น I-MAST 500...ก็คงต้องดูว่า ความสามารถของ I-MAST 500 เป็นอย่างไรบ้าง...เพราะยังไม่มี ข้อมูล ให้ศึกษา...

    แต่เท่าที่ผมอ่านดู...เหมือนกับเป็น ข้อมูล ในเนื้อข่าว ว่า ตัวเรือประกอบได้ด้วยอะไรบ้าง คุณสมบัติ เป็นอย่างไรบ้าง เท่านั้น...แต่ยังไม่ได้ ชี้ชัดว่าเป็น สเปค จริง ๆ คือ อะไร...

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 07:55:25


    ความคิดเห็นที่ 81


    Track Data ส่งให้ฮาร์พูน ยังไงก็ต้องผ่าน AN/SWG-1 ตัวควบคุมฮาร์พูน input จากที่ไหนก็เข้ามาได้ แต่หากDATA ที่ได้มามันแม่นยำและละเอียด(อย่างX-band ของSTIR/STING  หรือ Sea Watcher )ก็จะทำให้มันแม่นยำขึ้น 

    อีกทั้งยังมีSSM อีกหลายแบบที่ใช้Mid course Up-link อย่างOtomat Mk2 Block IV หรือ RBS-15 Mk IV เพื่อการยิงเป้าหมายที่อยู่หลังเส้นขอบฟ้าได้ดีขึ้น การใช้ระบบคคย.X-band ก็จะทำให้แทร็คเป้าหมายได้ละเอียดกว่า เรดาร์Sea Master  และ ใช้คู่กับ Sea Watcher เพื่อความละเอียดมากขึ้น  

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 24/04/2013 08:00:22


    ความคิดเห็นที่ 82


    ถ้า เปรียบเทียบจากรูป จะเห็นความแตกต่างระหว่าง MAST 400 กับ MAST 500

    ดูแล้ว MAST 500 จะไม่มี Sea Watcher 100

    ซึ่งจะมี อีก 2 ระบบ ใหม่ (ไม่รู้ว่าอะไร) เพิ่มเติม และ ทดแทน

     

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 09:06:55


    ความคิดเห็นที่ 83


    หรือเป็น CEAMOUNT

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 09:34:53


    ความคิดเห็นที่ 84


    เดา I-Mast 500

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 10:08:47


    ความคิดเห็นที่ 85


    เจ้าอันที่ท่านJuldas โพสมา น่าคิดว่า อาจจะเป็นX-band เรดาร์ตัวใดตตัวหนึ่งสำหรับนำวิถีให้ESSM โดยเฉพาะ .....อาจจะไม่ใช่CEAMOUNT แต่อาจจะเป็นในแบบคล้ายๆกัน 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 24/04/2013 10:10:57


    ความคิดเห็นที่ 86


    แค่ I-MAST 500 ก็น่าสนใจและ

    โดยคุณ Ben_BEnz เมื่อวันที่ 24/04/2013 11:21:22


    ความคิดเห็นที่ 87


    เพิ่มเติมต่อจากคุณ จูดาส ครับคิดว่า ESM น่าจะเป็นรุ่น Thales VIGILE 100 รุ่นต่ำสุดของ seriesนี้ หรืออาจจะ 4 อัน แบบ VIGILE 300 เพราะจากรูป I-MAST 500 ตัวเรด้าห์ ESM น่าจะมีประมาณ 4-6 อัน อันนี้ไม่แน่ใจนะครับเดาเอา



    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 24/04/2013 11:46:45


    ความคิดเห็นที่ 88


    เพิ่มเติมอีกที


    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 24/04/2013 12:32:17


    ความคิดเห็นที่ 89


    ผมลองสรุป ดูคุณสมบัติ ตามที่ผมเข้าใจอยู่ตอนนี้ สำหรับ I-MAST 500 นะครับ

     




    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/04/2013 12:58:18


    ความคิดเห็นที่ 90


    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับย่านความถี่ของเรด้าห์แต่ละระบบครับ

    From http://en.wikipedia.org/wiki/X-band_radar#Radar

    Other microwave bands

    The microwave spectrum is usually defined as electromagnetic energy ranging from approximately 1 GHz to 100 GHz in frequency, but older usage includes lower frequencies. Most common applications are within the 1 to 40 GHz range. Microwave frequency bands, as defined by the Radio Society of Great Britain (RSGB), are shown in the table below:

    L band 1 to 2 GHz
    S band 2 to 4 GHz

    C band

    I band

    4 to 8 GHz

    8 to 10 GHz

    X band

    J band

    8 to 12 GHz

    10 to 20 GHz

    Ku band 12 to 18 GHz
    K band 18 to 26.5 GHz
    Ka band 26.5 to 40 GHz
    Q band 30 to 50 GHz
    U band 40 to 60 GHz
    V band 50 to 75 GHz
    E band 60 to 90 GHz
    W band

    75 to 110 GHz

    F band 90 to 140 GHz
    D band 110 to 170 GHz

    Footnote: P band is sometimes incorrectly used for Ku Band. "P" for "previous" was a radar band used in the UK ranging from 250 to 500 MHz and now obsolete per IEEE Std 521.[5][6] For other definitions see Letter Designations of Microwave Bands

     

    ถ้าเป็นไปตามนี้ละก็แสดงว่าระบบย่านความถี่ ของ E/F band range 250 km ที่ใช้กับ ตัว Sea-Master มีความละเอียดในการประมวลผลเป้าหมายที่สูงมากทีเดียว เผลอๆ SPY-1 อาจจะเรียกพี่เลยนะ ไม่ใช้แค่น้องๆแล้วละ

    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 24/04/2013 15:43:08


    ความคิดเห็นที่ 91


    ย่านความถี่ที่ว่า ....เป็นมาตรฐานIEEE http://en.wikipedia.org/wiki/Radio_spectrum#IEEE_US

    มาตรฐานNATO จะเป็นอีกอันหนึ่ง เริ่มจาก A Band ซึ่งเทียบได้กับ VHF ของIEEE  

    E/F Band ในที่นี้ หมายถึง S Band ของIEEE   

    เรดาร์อเมริกา ..........ใช้มาตรฐาน IEEE เรียก 

    เรดาร์ยุโรป (NATO) ......ใช้มาตรฐาน NATO เรียก บางครั้งเรียกมาตรฐาน IEEE ว่าOld Frequency /Old designation ....

    ส่วนสวีเดน ใช้มาตรฐานIEEE 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 24/04/2013 16:48:06


    ความคิดเห็นที่ 92


    อ้อ....เข้าใจแล้วละครับ เดิมทีผมก็นึกว่าย่านความถี่ของคลื่นเรด้าห์หรือคลื่นวิทยุจะเป็นในรูปแบบมาตรฐานเดียวกันหมดทั่วโลก

    ที่แท้มันก็มีแบ่งการจัดการมาตรฐานระบบคลื่นความถี่ของเรด้าห์ของใครของมันอีกต่างหาก (คล้ายๆการจัดตั้งมาตรฐานอุตสาหกรรม ISO,DIN,ANSI,JIS อะไรประมาณนี้)

    ***ขอบคุณมากครับคุณ iyc_CMU ที่ทำให้ผมกระจ่างชัดขึ้น***


    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 25/04/2013 07:21:31


    ความคิดเห็นที่ 93


    เยี่ยมครับ

    โดยคุณ jeab2511 เมื่อวันที่ 25/04/2013 09:38:35


    ความคิดเห็นที่ 94


    อยากอ่านความคิดเห็นทุกๆท่านครับ ขอสัก 200  ความคิดเห็นอย่างต่ำนะครับ ผมจะนั่งอ่านให้ตาลายเลย ผมเปิดอ่านทุกวันครับแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร เพราะไม่ได้มีความรู้ด้านนี้ แต่ชอบความรู้ด้านทหารดดยเฉพาะครับ  

    ถ้าผมกลับบ้านต่างจังหวัดจะหยิบเอาหนังสือสมรภูมิเก่าๆที่ครูสมัยเรียนมัธยมท่านให้มาจากห้องสมุดโรงเรียน เพราะห้องสมุดจะทิ้ง

    ครูเห็นว่าผมชอบอ่าน ชอบอะไรที่เป็นทหารเลยให้ผมมา4-5 เล่ม แต่เป็นเล่มใหญ่ๆที่เขาแม๊กรวมหลายๆเล่มเข้าด้วยกัน เล่มนึงก็หนาประมาน 1 นิ้วได้ครับ

    เดี๋ยวผมจะสแกน มาให้ชมกันครับ ภาพเก่าๆหาดูยากเพียบเลยครับ

    โดยคุณ rylnet เมื่อวันที่ 25/04/2013 17:11:32


    ความคิดเห็นที่ 95


    คุยกันแต่เรื่องi-mast 400/500 กันจน แบบสุดยอดทั้งนั้น   ไหนไม่พูดถึงเรื่องปืนหลักของเรืออ่ะครับ ทำไมถึงเป็นแค่76มม. ทำไมไม่เป็นปืน127มม. เพราะเห็นเรือฟริเกต ทุกลำของกองทัพเรือก็ใช้ปืน 100มม.ขึ้นไปนะครับ และอีกอย่างเอาไว้สนับสนุน การยกพลขึ้นบกด้วยนิครับ

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 25/04/2013 20:13:38


    ความคิดเห็นที่ 96


         วันนี้กระทู้ดูเงียบเหงานะครับ งั้นหาอะไรมาวิเคราะห์กันเล่นๆ  

     

        โจทย์คือ F/A-18C/D + AGM-84 Harpoon (เอาเป็น AGM-84E ระยะยิง 94 กิโลเมตร แล้วกัน)

     

        I-MAST 400  ตรวจจับเป้าหมายในอากาศได้ไกลสุดที่ 250 กิโลเมตร  (น่าจะเป็นเครื่องบินตรวจการทางอากาศลำใหญ่ๆ อย่าง P-8 หรือ Breguet Atlantique)   

        แล้วเป้าหมาย ขนาดเครื่องบินรบ ที่มี RCS ต่ำๆ อย่าง F/A-18C/D ละ จะตรวจจับได้ที่ระยะกี่กิโลเมตร 

     

        แล้วเรดาร์ อย่าง F/A-18C/D  จะตรวจจับเป้าหมายที่ผิวน้ำได้ไกลเท่าไหร่ แถมยังเป็นเรือรบ ที่มีคุณลักษณะ Stealth ด้วย  

     

          เอา เรดาร์ SMART-S MK2 มาเปรียบเทียบ  ลงไว้ในเว๊บ Thales ว่า ตรวจจับพวก Stealth Missile (น่าจะพวก Harpoon / EXOCET )  ได้ที่ 55 กิโลเมตร 

     

          ESSM ที่เราติดตั้ง มีระยะยิงไกลสุด 50 กิโลเมตร 

     

          คิดว่า I-MAST 400  น่าจะมีระยะตรวจจับ พอๆกับ SMART-S MK2 หมดครับ  

     

          ถ้าตรวจจับ Stealth Missile ได้ที่ 55 กิโลเมตร  F/A-18C/D คงจะตรวจจับได้ที่ 100-120 กิโลเมตร  

     

         แต่ถึงจะตรวจจับได้ ก็หา Anti-Air Missile ที่มีระยะยิง 100-120 กิโลเมตร  มาสอย F/A-18C/D  ก่อนที่จะยิง AGM-84E Harpoon มาใส่เรือเราไม่ได้ 

     

          เราก็คงต้องป้องกันตัวโดยใช้ ESSM ยิงสกัดกั้น Harpoon อย่างเดียว......แล้วถ้า เครื่องบินรบข้าศึก บินมา 4 ลำ  ห้อย Harpoon   มาลำละ 1 ลูก   ยิงมาจาก 4 ทิศทาง  ซ้าย ขวา หน้า หลัง  

     I-MAST 400 + Fire Control Radar  จะเอาอยู่หรือเปล่า 

     

     

          แต่ถ้าเป็น Formidable Class  ที่มี เรดาร์ Herakles Multi Function ที่มีระยะ ตรวจจับไกล 250 กิโเลมตร เท่ากับ Smart-S MK2 และ I-MAST 400 

     

          เอาเป็นว่า มันสามารถตรวจจับเป้าหมายที่เป็นเครื่องบินรบ และ Stealth Missile ได้ที่ระยะทางใกล้เคียงกัน 

     

          Formidable Class สามารถที่จะยิงทำลาย F/A-18C/D   ก่อนที่จะหย่อน Harpoon  ยิงมาสู่เรือ  

     

        หรือว่า เรือฟริเกตใหม่ของ ทร.   จะเป็นแค่เรือฟริเกตอเนกประสงค์ ต่อต้านเรือดำน้ำ จริงๆครับ  แล้วเจ้าระบบ I-MAST 400 จะอัพเกรดให้ใช้ร่วมกับ SM-2 ได้หรือไม่  ถ้ายิง SM-2 ได้นี่สิ ถึงจะเข้าข่ายเรือป้องกันภัยทางอากาศ  

       

     

         สมาชิกท่านอื่นๆ ลองวิเคราะห์เพิ่มเติมดูครับ   

     

        

    โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 25/04/2013 20:49:43


    ความคิดเห็นที่ 97


      เห็นในเว๊ปต่างประเทศคุยกันบอกว่า  I-mast-500  รองรับ  SM-2 ได้ครับ    แต่ I-Mast-400  นี่ไม่ทราบจริงๆ    และการที่ I-Mast-500  ไม่มี sea watcher 100  และแผ่นสายอากาศของมันก็ใหญ่กว่า  I-mast-500  ก็เลยเดาว่าน่าจะสามารถทำงานหน้าที่เดียวกับ sea master 400  + sea watcher 100   และน่าจะมีระยะการตรวจจับไกลกว่า  i-mast-400  ครับ   ส่วนย่านความถี่ที่ทำงานยังไม่ทราบ

     

      สำหรับปืนหลัก  ผมสนับสนุน  STRALES  76 mm  ครับ  ตัวใหม่กว่า super rapid   สามารถใช้โหมด CIWs ได้ด้วย  โดยมีกระสุน DART สำหรับภาระกิจนี้   และมี FCS ประจำตัวเลยในภาระกิจ CIWs   นอกนั้นจะใกล้เคียง super rapid   ในวิกิพีเดียวมีอธิบายชัดเจนครับ  มีระยะหวังผลในการต่อต้านอาวุธนำวิถีอยู่ที่  6 กม

       จะได้มี CIWs  จำนวน 2 ระบบหน้าหลัง   และถ้า  RAM block2   อเมริกันยอมขายให้เราเมื่อไหร่   ก็สามารถจัดหามาเป็น ciws ระบบที่ 3 ได้ในภายหลัง 


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/04/2013 21:30:00


    ความคิดเห็นที่ 98


       พิมพ์ผิด  ต้องบอกว่า I-mast-500  มีขนาดแผ่นสายอากาศใหญ่กว่า I-mast-400 ครับ   ขออภัย

     


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 25/04/2013 21:32:23


    ความคิดเห็นที่ 99


    ตอบท่าน TOP SECRET 

    i-mast 400 +FCS 

    งานนี้ต้องดูว่า i-mast 400 ติดระบบup-link ให้ESSM มาด้วยหรือเปล่า รวมถึงความสามารถของCMSจะขนาดไหน 

    สมมติว่ามีระบบUP-linkให้ESSM และ CMS จัดคิวให้ได้ดีพอสมควร 4ลูกคนละแบริ่ง น่าจะพอไหว 

    ESSM ยิงไป4ลูก ให้เรดาร์Sea Master 400 up-link ข้อมูลระหว่างทาง ให้CMS จัดคิวว่าลูกไหนจะได้รับสัญญาณเรดาร์ให้จัดการเป้าหมายก่อนได้ 

    เพราะจรวดแต่ละลูกน่าจะมีช่วงเวลาการยิงต่างกันไม่กี่มากน้อย ในทางทฤษฎี ทำได้แน่ๆ 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 25/04/2013 21:39:56


    ความคิดเห็นที่ 100


    แปะรูปเรือเต็งหนึ่งก่อน เห็นยังไม่มีคนแปะรูปมุมนี้

    ว่าแต่ ทร. จัดหาเรือมาเพื่อเน้นภารกิจ anti-submarine warfare พวกท่านวิเคราะห์ซะเป็น Anti-aircraft warfare frigate ไปเลย



    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 25/04/2013 21:47:10


    ความคิดเห็นที่ 101


      ถ้าตามที่หลวงพี่ ICY  ว่าไว้ ก็คงจะสามารถปกป้องกองเรือจากอาวุธปล่อยได้  ปกป้องเรือธง อย่างเรือจักรี ได้ แต่จะไม่สามารถจัดการกับเครื่องบินรบข้าศึกได้ 

     

       แหมๆ ท่าน aonestudio  ก็ไหนๆ ซื้อทั้งทีก็อยากให้คุ้มๆไปเลย อยากให้มันเป็นเรืออเนกประสงค์ ที่อเนกประสงค์จริงๆ  สอยนกเหล็กข้าศึกได้  

     

        แต่อย่างน้อยๆ ถ้าได้ DW 3000H สเป๊คนี้มาเป็นเรือต่อต้านเรือดำน้ำ  สเป๊คก็ไม่ได้น้อยหน้า FREMM ASW เวอร์ชั่น ฝรั่งเศส เลย  เพราะ FREMM ASW เวอร์ชั่น ฝรั่งเศส ติดเรดาร์ HERAKLES  พิสัยตรวจจับ 250 กิโลเมตร เหมือน Formidable ก็จริง แต่ทว่า  ติดตั้งจรวด Anti-Air / Anti-Missile Missile  เพียงแค่ ASTER-15  ที่มีพิสัยยิงเพียง 30 กิโเลมตร ซึ่งระยะสั้นกว่า ESSM เสียอีก 

     

        แต่ระบบ SONAR และระบบต่อต้านเรือดำน้ำอื่นๆ ไม่รู้พอจะเทียบกับ FREMM ASW เวอร์ชั่น ฝรั่งเศส ได้หรือไม่  เพราะผมเปรียบเทียบ แค่ระบบ เรดาร์ กับ จรวดป้องกันตัวเอง เฉยๆ 

     

        แฮ่ๆ แต่ก็แอบหวังนะครับ ก็อยากให้ระบบ ที่ติดตั้งมากับ DW 3000H มันจะสามารถใช้ยิง SM-2 ได้ แล้วอนาคต ค่อยจัดซื้อ SM-2  มาใช้งาน  

     

         แต่ก็ยังไม่ต้องรีบก็ได้ครับ  เพราะในภูมิภาคอาเซียน  ก็ยังไม่มี SAM พิสัยไกล อย่าง Formidable Class  ครับ 

     

         แว่วๆมาว่า Gowind Multi Mission Combattant  ของ มาเลเซีย จะติดตั้งเรดาร์ Thales SMART-S MK2 ที่มีระยะตรวจจับเป้าหมายในอากาศ 250 กิโลเมตร เช่นกัน และ SAM ก็จะเป็น ESSM เช่นเดียวกันครับ   ก็ไม่ได้เหนือกว่า DW 3000H ของเรา ในแง่การป้องกันภัยทางอากาศเท่าไหร่ 

     

         เดี๋ยวอีกหน่อย เรือมาเลเซีย เข้าประจำการ คงจะมีการเปรียบมวยกันอีกแน่ๆ 

     

         งั้นถามดักไว้ก่อนเลยครับว่า..............Thales I-MAST 400  กับ Thales SMART-S MK2  แบบไหนมันดีกว่ากัน อย่างไรบ้างครับ 

          รู้แต่ว่าระยะตรวจจับเป้าหมายในอากาศไกลสุด 250 กิโลเมตรเท่ากัน 

          SMART-S MK2 เป็น เรดาร์ แบบหมุน (ดูข้อมูลในเว๊บ Thales รู้สึกว่าจะหมุนเร็วสุดแค่ 27 รอบ/นาที  ช้ากว่า Herakles ที่หมุน 60 รอบ/นาที) 

           I-MAST 400 เป็นเรดาร์ แบบ FIX 

           

         

         รู้สึกว่า เรดาร์ 2 ตัวนี้ Thales Nederland (Netherland) จะเป็นผู้พัฒนาทั้งคู่ครับ 

    โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 25/04/2013 22:26:01


    ความคิดเห็นที่ 102


      ใน ภูมิภาค ASEAN  Thales กวาดลูกค้าขายเรดาร์ ไปได้หลายชาติเลย  ปกติพูดถึงเรือของ สิงคโปร์ กับ มาเลเซีย  ไปหาข้อมูลของ SMART-S MK2  มา เจอลิ้งค์ไปเรือ SIGMA Class Corvette 

     

        SIGMA Class Corvette เวอร์ชั่น อินโดนีเซีย รุ่น Sigma 10514   นี่ก็ไม่ธรรมดานะครับ 

     

       ไม่รู้จะเลือกติด VL MICA (ระยะยิง 20 กิโลเมตร)  หรือ ASTER-15 (ระยะยิง 30 กิโลเมตร) 

     

        แต่ก็ยังเป็นรอง ESSM ของเราอยู่ครับ 

     

        รูป SIGMA Class Corvette  สวยดีนะครับ ภูมิภาคนี้เต็มไปด้วยเรือ Stealth กันหมดเลย แต่รูปนี้เป็น Sigma เวอร์ชั่น ที่ไม่มีโรงเก็บ เฮลิคอปเตอร์ ครับ  แต่ SIGMA 10514 มีโรงเก็บ เฮลิคอปเตอร์ 

     

        

     

       




    โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 25/04/2013 22:47:26


    ความคิดเห็นที่ 103


      รูปแบบ เรือ Gowind ของ มาเลเซีย น่าจะออกมาในรูปแบบนี้  

     

      แต่สงสัยว่า บริษัทที่ ตกรอบไป เพราะจากข่าวเห็นว่ายื่นประเมินหลายบริษัท คิดว่าคงต้องมีบริษัท เยอรมัน และ DCNs จาก ฝรั่งเศส ด้วยแน่ๆ  อยากรู้ว่า บริษัทเหล่านั้น เสนอเรืออะไรให้เรา  ติดเรดาร์อะไร อาวุธ อะไรบ้าง รูปทรงเป็นเช่นไร  เห็นแต่แบบเรือของ Navantia ของ สเปน ที่ท่าน AAG_TH แปะลิ้งค์ไว้ใน TAF

     

         Gowind แบบนี้ก็สวยไม่เบาครับ  

     

       


    โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 25/04/2013 23:17:11


    ความคิดเห็นที่ 104


    ณ ขณะนี้ไม่ว่าจะพยายาม search ข้อมูลของI-MASTทั้ง 400และ500 เพียงไรข้อมูลเชิงลึกทั้งใน google และ เวปในThales มีให้ศึกษาน้อยเหลือเกิน

     งั้นขอตอบโจทย์แบบไม่ตรงประเด็นให้ท่าน top secret กันก่อนละกัน กรณี("โจทย์คือ F/A-18C/D + AGM-84 Harpoon (เอาเป็น AGM-84E ระยะยิง 94 กิโลเมตร แล้วกัน"))ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอกครับการที่เครื่องบิน F-18c/d จะเข้ามาโจมตีเรือ DW3000h(สมมุติว่าได้เรือเกาหลีแบบ 100%แล้วนะ)จริงๆถึง 4 ลำทุกทิศทุกทางคงเป็นไปได้ยากเพราะเครื่องเหล่านี้คงถูกตรวจพบโดยเรดาห์ของกองทัพอากาศเป็นที่เรียบร้อยก่อนหน้านี้แล้ว และคงแจ้งเตือนภัยไปยังกองบินต่างๆให้ส่งเครื่องบิน Grippen หรือ F-16 ขึ้นสกัดกั้นอย่างแน่นอน แล้วเรือรบของกองทัพเรือก็คงจะทำได้เพียงแค่ใช้ ESSM คอยสกัดกั้นจรวดร่อนเพื่อประวิงเวลารอให้เครื่องบินจากกองทัพอากาศมาช่วยเหลือ ครับ อะไรประมาณนี้

    และในส่วนของตัวเรดาห์ SEA-master คิดว่าก็คงจะทำการล็อกเป้าได้ขั้นต่ำ 4 เป้า (1เป้าต่อ1 แบริ่งของเรด้าห์ โดยรอบทิศ 360องศาของเรือ ตามที่ข้อมูลของคุณ icy_CMU นั้นแหละครับ)

    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 26/04/2013 00:52:33


    ความคิดเห็นที่ 105


     ต่อจากท่าน ObeOne  ครับ ในส่วนของการ โจมตีทางอากาศ ซึ่งเป็นปัญหาที่ค่อนข้างหนัก เเละรับมือยากกองทัพเรือ เพราะเเน่นอนว่า หากโจมตีจริงๆ ไม่มาลำเดียวเเน่ครับ อย่างน้อย 2 เป็นอย่างต่ำ อีกทั้งเวลายิง อาวุธ เเน่นอนว่า ไม่ยิงเเค่ลูก เดียวเเน่ เพราะเพื่อหวังผลมากที่สุด อีกทั้งป้องกันการตอบโต้กลับจากเรือรบ เพราะฉะนั้น หนังฉายม้วนเดียวจบ โจมตีชุดเดียวจบ...(คิดเห็นส่วนตัว) อย่างที่ท่านObeOne  บอกว่า กองทัพอกาศ คงรู้ ก่อนเป็นเเน่ เเละดีที่สุดคือคงส่ง บข.ขึ้นสกัดกั้นก่อน 

    โดยคุณ konthai2 เมื่อวันที่ 26/04/2013 08:54:31


    ความคิดเห็นที่ 106


    I-Mast 400 และ I-Mast 500

    ในความหมาย ของ ตัวเลข 400 กับ 500 อาจจะหมายถึง GHz หรือเปล่า ?

    ด้วยความที่ I-Mast 500 เพื่อเพิ่มเติม Phased Array illuminator Radar สำหรับ Air to Air Missile....

    จึงต้องขยายเป็น 5 Ghz เพื่อให้เชื่อมกับ X-Band ของ iiluminator Radar ได้...

    เดา...นะครับ...

    ภาพ ประกอบ ครับ

     

     

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 26/04/2013 14:04:42


    ความคิดเห็นที่ 107


    ถึง kunthai2 ครับ นอกเหนือจาก ESSM เราก็ยังมี Phalanx และ เป้าลวงอยู่ด้วยนะครับ อย่าลืม

    (ปล.ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยล่อลวงจรวดได้แค่ไหนนะ ฮึฮึ..)

    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 26/04/2013 14:31:26


    ความคิดเห็นที่ 108


    เรื่องเครื่องบินไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ตราบใดที่ ทอ. ยังมีเครื่องบินที่สมน้ำสมเนื้อ

    ด้านการป้องกันภัยทางอากาศยังให้ก็ขอให้เรือทำ Datalink กับ jas 39 gripen ก็เหลือๆ

    ที่ควรห่วงก็คือเรื่องเรือดำน้ำมากกว่า และประเทศเพื่อบ้านก็รู้จุดอ่อนข้อนี้ของประเทศเราดีที่สุด

     

    แก้ไขรูปที่หลังไม่ได้รึเนี่ย...


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 26/04/2013 15:44:56


    ความคิดเห็นที่ 109


    ในรูปภาพข้างบนนั้น   พี่แกไม่คิดเลยเหรอครับว่า  พี่ไทยเราก็มีเรือคุ้มกันเหมือนกันนะครับ  เล่นซะกันแบบ1:1มันก็หวาดเสียวสิครับ  รอS-70B ติดเพนกวินก่อน แล้วจะหนาว

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 26/04/2013 17:54:10


    ความคิดเห็นที่ 110


    เห็นภาพข้างบน แล้วมันหงุดหงิด หัวใจ อย่างไงไม่รู้ครับ

    โดยคุณ PIZZi เมื่อวันที่ 26/04/2013 18:08:27


    ความคิดเห็นที่ 111


     

     

       ปล.   เอาล่ะ  ผมรอแบบเรือและระบบอาวุธอย่างเป็นทางการแล้วกันว่าจะเป็นแบบไหนระบบอาวูะและระบบตรวจจับอะไร   

    แต่ดูแล้วไหนๆก็ไหนๆ   ถ้าตัดสินใจเลือกเรือฟรีเกตเผื่อปรับปรุงเป็นเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ   ก็ควรจะต้องเป็น  I-MAST-500  ดีที่สุดครับ    เพราะยังไงก็เป็นเจ้าแรกในเอเชียและของโลกด้วยมั๊ง    เพราะยังไงในเว๊บต่างประเทศก็เห็นคุยกันว่ารองรับ  SM-2 ด้วย    น่าจะดีกว่า CEA-FAR    CEA-MOUNT  จะได้เหนือกว่า formidable  แน่นอนในด้านการป้องกันภัยทางอากาศ  และเหนือกว่าในด้าน ASW ด้วย        ASW ก็น่าจะไม่ด้อยกว่า  Gowind  ล่ะนะ

     

     

    เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศและอาจจะเป็นเหมือนหลายๆกระทู้ที่ผ่านมาที่กลายเป็นกระทู้ทะเลาะกัน เพราะไปเกี่ยวโยงกับประเทศเพื่อนบ้านเ (ผมคงไม่ต้องยกตัวอย่างนะครับ) ผมขอลบข้อความบางส่วนออกไปนะครับ/Admin


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 26/04/2013 19:29:41


    ความคิดเห็นที่ 112


    มุมท้าย DW3000H

     

    ปกติ 2d surveillance radar เค้าติดตั้งด้านหลังด้วยเหรอ?


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 26/04/2013 19:55:59


    ความคิดเห็นที่ 113


    FREMM ก็มีเหมือนกัน 

    http://sitelife.aviationweek.com/ver1.0/Content/images/store/2/2/224264cb-5cd7-4bad-a2d3-b7b8685217ec.Full.jpg 

    น่าจะเป็น 1.Navigation Radar  2.เรดาร์ช่วยนำจอดของฮ.  3. เรดาร์สำหรับช่วยนำทางของฮ. 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 26/04/2013 20:37:59


    ความคิดเห็นที่ 114


    ใจเย็นๆครับเรือบรรทุกเครื่องบินของเราระวางขับน้ำ 10000 กว่าตันการการจมของเรือ911เราได้ ต้องโดน SM-39 ไม่ต่ำกว่า 4-6 ลูก(ขึ้นอยู่กับบริเวณของตัวเรือที่โดน ถึงจะมีผลขั้นอัปปาง) เอาเป็นว่าไม่จมง่ายๆแน่ อีกทั้งเรือ911 ยังมี mistral 12 ลูก  ก็ปล่อยๆให้พวกทำกันไปเถอะกันไปเถอะ(ก็ได้แค่นั้นละ) เพราะทุกวันนี้มันอิจฉาเราจะตายอยู่แล้ว อะไรๆก็เก่งสู้เท่าไทยเราไม่ได้

    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 26/04/2013 21:09:30


    ความคิดเห็นที่ 115


    บนรล.จักรีฯ มี Sadral รวม 3 ชุดเท่ากับมีจรวด Mistral พร้อมยิง 18 ลูกครับ (ไม่ใช่ 12 ลูก) แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่ามันยังน้อยไปหน่อยนะครับ

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 27/04/2013 11:14:32


    ความคิดเห็นที่ 116


    เรือจักรียังมีพื้นที่ ให้ติด MK.41 VLS อีก 8 cell ครับ 

    เท่าที่ทราบ STIR จากเรือชุดนเรศวร ถอดมาใส่เรือจักรีแล้ว ถ้ามีเงิน ก็ใส่ VLS จะได้ ESSM มาอีก 32 ลูก

    รอปลดเรือพุทธเมื่อไหร่ ก็ถอด phalanx เอามาโม เป็น block 1B ก็จะได้ CIWS แบบปืน มาอีกสองระบบ

    แค่นี้เรือจักรีก็หรูมากแล้วครับ

    โดยคุณ ccguy เมื่อวันที่ 27/04/2013 12:26:52


    ความคิดเห็นที่ 117


    จำได้ว่า Stir ที่ถอดออกมาจากรล.นเรศวรนั้นไม่มีฟังก์ชั่น CWI ที่จะใช้งานร่วมกับ ESSM นี่ครับ ด้วยเหตุนี้จึงต้องเปลี่ยนไปใช้ Ceros 200 แทน แต่อันที่จริงหากจะปรับปรุงอัพเกรดเพิ่มเติมได้ก็น่าจะทำครับ แต่จะคุ้มหรือไม่และทร.จะจัดสรรงบประมาณส่วนนี้ไว้หรือเปล่า ???

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 27/04/2013 14:28:02


    ความคิดเห็นที่ 118


    อยากจำลองภัยคุกคามต่อเรือแบบไหน เพื่อนบ้านเราจัดให้ได้หมด


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 27/04/2013 19:14:44


    ความคิดเห็นที่ 119


    ถามหน่อยนะครับ คือผมเห็นหัวของ I-MAST 500 ที่มันเป็นกลมๆอ่ะครับ ทำไมเค้าไม่ทำให้มันเหลี่ยมหละครับ เท่าที่ผมทราบมารูปทรงเหลี่ยมมันจะช่วยลดการตรวจจับของเรดาร๋ให้น้อยลงได้ไม่ใช่เหรอครับ
    โดยคุณ berkut เมื่อวันที่ 27/04/2013 20:06:13


    ความคิดเห็นที่ 120


    ด้านบนเป็นสายอากาศSATCOM 

    หากจำไม่ผิดเรื่องStealth นั้น ........คือการลดการสะท้อนสัญญษณเรดาร์กลับไปสู่เป้าหมายให้มากที่สุด 

    หากจะลดการสะท้อน ต้องใช้ 

    1. วัสดุดูดซับคลื่น 

    2.รูปทรง .....F-117 คือรูปทรงที่ทำให้เรดาร์กระจัดกระจาย แต่ในเครื่องบินล่องหนยุคหลังๆ คือ การลดเหลี่ยมมุมต่างๆให้มากที่สุด F-22แทบไม่มีส่วนที่เป็นมุมแหลมคมเลย การที่F-22 หรือ F-35 กลมกลึงก็เพื่อการนี้ .........เพราะฉะนั้น การที่บอกว่าเหลี่ยมๆคือการตรวจจับ คงไม่ถูกต้องนัก

    อ่านเพิ่มเติมที่http://www.f-22raptor.com/st_fa22tricks.php 

    และอีกอย่างหนึ่งก็คือ สายอากาศSATCOM มีหน้าที่รับสัญญาณวิทยุ/คลื่นไมโครเวฟ จากดาวเทียม .....หากมันสะท้อนกระจุยกระจายหมด จะเอาสัญญาณที่ไหนมารับ ?  

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 27/04/2013 20:48:50


    ความคิดเห็นที่ 121


    โมเดลเรือฟริเกตุลำนี้ฉบับปรับปรุงล่าสุดครับ ชัดๆกันไปเลยจะได้ไม่ต้องสงสัย(ว่าคนทำบ้าหรือเปล่า)

     

    เรือมันรูปทรงสเตลธ์นี่นาจะเปิดช่องเรือเล็กโชว์ทำไมกัน ปิดไปเลยแบบนี้สวยขึ้นจม


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 28/04/2013 11:09:46


    ความคิดเห็นที่ 122


    อันบนลืมปิดช่องยิงตอร์ปิโดครับ  ขออีกรอบที่นี้เสตลท์สุดๆแล้ว


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 28/04/2013 11:25:35


    ความคิดเห็นที่ 123


    เปรียบเทียบกับภาพต้นฉบับที่DSMEนำมาโชว์ปีที่แล้ว ผมขอoptionเพิ่มเท่านี้แหละครับกองทัพเรือ ถ้าได้เฮลิคอปเตอร์แถมมาอีกลำจะเป็นพระคุณมหาศาล

     

    ปล.ถ้าเห็นว่าเปลืองพื้นที่ แอดมินลบภาพแรกไปก็ได้ครับ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 28/04/2013 11:57:01


    ความคิดเห็นที่ 124


    รูปฉบับปรับปรุงใหม่ของคุณ superboy ที่ีเอามาโพสต์ให้ดู งามมากๆ ครับ

    ถ้าได้แบบในรูปที่เอาโพสต์ไว้ ยกมือ 2 ข้างสนับสนุนเต็มที่เลยครับ

    โดยคุณ Ricebeanoil เมื่อวันที่ 28/04/2013 13:29:09


    ความคิดเห็นที่ 125


      

       ท่าน ccguy  ครับ        911  ของเรายังมีอายุการใช้งานคุ้มค่าแก่การปรับปรุง  STIR 180  ให้สามารถควบคุมการยิง  ESSM  ได้ครับ   ผมสนับสนุนอย่างยิ่งครับที่จะให้มีการปรับปรุงเรด้าร์ 2 ตัวนี้    แล้วติดตั้ง  VLS mk-41  8  cell  ตามแผน   แม้ว่าจะทำให้พื้นที่จอดอากาศยานบริเวณดาดฟ้าด้านหลังลดลง    เพราะยังไงตอนนี้คงยากที่จะเอาเครื่องบินมาเต็มดาดฟ้าเรือได้  ถ้ามันมีขีดความสามารถระดับเรือฟรีเกตที่ดีลำหนึ่ง  ผม OK.  มากครับ  เรือคุ้มกันจะได้เบาแรงลง


     ฟาลังก์  จากเรือชั้นพุทธถ้าสามารถอับเกรดได้   ก็น่าย้ายมาติดตั้งนะครับ   แต่คงต้องแจ้งแก่อเมริกาก่อน     ถ้ามีการปรับปรุงเหล่านี้เสร็จ  911  ก็พร้อมครับ   ขาดแต่เครื่องบินประจำเรือ.....เฮ้อ  พูดเรื่องนี้กลุ้ม 

     


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 28/04/2013 21:55:51


    ความคิดเห็นที่ 126


      สวยงามมากครับ่ทาน  Superboy 

    ใช่ครับท่าน  aonestudio   ผมว่าการจัดหาระบบเรด้าร์ระดับ I-mast-400/500  เป็นตัวบ่งบอกว่า  เรือลำนี้ต้องสามารถ upgrade ให้เป็นเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศทันทีที่ได้เรือดำน้ำมา    ตอนแรกที่ผมได้ข่าว  ผมก็เชียร์ให้ทำแบบนี้ครับ  คือ  จัดหาเรือทีสามารถต่อต้านเรือดำน้ำได้  พร้อมกับเตรียมพื้นที่และระบบเรด้าร์เผื่อเอาไว้ให้พร้อม   เมื่อได้เรือดำน้ำมาปั๊บ   ก็สามารถ upgrade ให้เป็นเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศได้  ซึ่งจะตรงตามแผนการจัดหาระบบอาวุธเดิมของทร.ครับ

       แต่เห็นความเห็นในเว๊บนี้หลายท่านไม่ให้ตั้งความหวังมากนัก   2 ลำ อาจจะได้แค่เรือที่มันมีประสิทธิภาพพอๆกับเรือนเรศวรที่มีขีดความสามารถต่อต้านเรือดำน้ำมากกว่า   ผมดูจำนวนเงิน ดูประเทศที่เราจะไปจัดหาก็จากเอเชีย   ดังนั้นผมก็เลยคิดว่าถ้าได้สเปกแค่นั้น   เอาเรือจีน 3 ลำำ ไปดีกว่า   แถมต่อรองขอขยายอู่ อรม.  ด้วยเลยจะคุ้มกว่าไหม

      แต่ถ้าการจัดหาคราวนี้  ได้ระบบเรด้าร์ขนาด I-mast 400 ขึ้นไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง i-mast-500  และ ระบบโซน่าร์ลากท้าน  CAPTAS และ CIWs  ผมจะ OK  มากครับ    เพราะประสิทธิภาพจะสูงกว่า  Formidable


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 28/04/2013 22:41:26


    ความคิดเห็นที่ 127


       เว๊บหลายเว๊บที่เข้าไปอ่าน  ผมเห็นแต่พูดถึง I-MAST-400 กับ ESSM เท่านั้น    ดังนั้นผมคิดว่ามันน่าจะรองรับ ESSM  เพราะมันมีอ๊อปชั่นตามที่เพื่อนลงเอาไว้นั่นล่ะครับ    แต่ไม่เห็นจะพูดว่า I-MAST-400 จะรองรับ  SM-2  โดยไม่ต้องมี FCS แบบ STIR 1.8/2.4 HP  มาเสริม     และผมเองก็ไม่เคยเห็นเรือที่ใช้ระบบตรวจจับ SMART-s mk-2 ใช้ SM-2   ทั้งๆที่  เห็นมันใช้กับ  ESSM  ได้    และระยะตรวจจับของมันก็ไกลถึง 250 กิโล    SPY-1K ที่มีระยะตรวจจับเท่าๆกันยังสามารถรองรับการยิง  SM-2 ได้เลย

      การ Uplink ข้อมูลให้ลูกจรวด semi-active  ก็เพราะจรวด  semi-active รุ่นใหม่ๆมีระยะยิงไกลกว่าเดิมมากครับ    การใช้เรด้าร์ประจำเรือยิงสัญญาณเรด้าร์ชี้เป้าต่อเนื่อง (โหมด CWI)   การสะท้อนเรด้าร์จากเป้ามายังหัวค้นหา Passive ในช่วงต้นของลูกอาวุธนำใิถีมันน้อยมาก    จนอาจจะทำให้จรวดติดตามเป้าด้วยระบบ passive ไม่ได้       การ uplink ในช่วง mid-crouse  จะช่วยแก้ปัญหาได้มาก   จนกว่าถึงระยะที่ระบบ passive  seeker  สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ  จากนั้นเมื่อเข้าระยะเดินเรด้าร์แบบ active    จรวดก็สามารถติดตามเป้าได้ด้วยตัวเอง  โดยไม่ต้องพึ่งเรด้าร์จากเรือแม่อีกครับ


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 28/04/2013 22:56:02


    ความคิดเห็นที่ 128


         ถ้าเข้าใจไม่ผิด  ESSM และ  SM-2  ก็เป็น semi - active รุ่นใหม่ๆเหมือนกัน   แต่ประสิทธิภาพของหัวค้นหาของ SM-2 สูงกว่าและมีหัวค้นหาแบบอินฟราเรดเสริมด้วย   เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ (แม่นขึ้น)  

         แต่ในเมื่อมันเป็นมีพื้นฐานเป็น semi-active เหมือนกัน  ทำไมจึงใช้งาน SM-2 กับ  เรด้าร์ smart-s mk-2 ไม่ได้ (ก็เลยทำให้คาดการณ์ว่า  I-MAST-400 ใช้กับ SM-2 ไม่ได้ด้วยเช่นกัน)

         หรือว่ามีปัญหาในเรื่องระบบ  uplink  แตกต่างกัน   หรือ ว่าระบบค้นหาของ  Block-3  รุ่นใหม่ๆมันต่างกันไปมากกว่า Block-2  ผมคงต้องกลับไปหาอ่านเพิ่มเติมแล้วครับ   เพราะรู้แต่รุ่นเก่าๆของเก่าๆ

     

        ถ้าจัดหา  I-mast-400  ถ้าจะต้องให้สามารถใช้งาน  SM-2 ได้   คงต้องมีการจัดหา FCS แบบ STIR 1.8/2.4 HP  มาเสริมเพิ่มครับ      แต่ถ้าเป็น  I-MAST-500  น่าจะสามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องพึ่ง FCS  อีกแต่ประการใด   แต่ถ้าต้องการให้เรือสามารถควบคุมลูกอาวุธนำวิถีได้มากลูกขึ้น   ยิงเป็าหมายได้มากเป้าในการซัลโวเพียง 1 ครั้ง   อันนี้คงต้องติดตั้ง FCS เพิ่มอีกอยู่ดี     แต่ว่าระบบอำนวยการรบจะมีประสิทธิภาพ พอหรือไม่ในการจัดคิวการให้สัญญาณเรด้าร์   จำนวนมากๆลูกพร้อมกัน    ไม่รู้ว่าของ  Thales จะทำได้แค่ไหน

     

      แต่ทั้ง I-mast-400/500  นา่จะสามารถใช้ ESSM ได้โดยไม่ต้องพึ่ง  FCS แต่อย่างใดอีก   ดูเรือก็รู้ครับ   มีแค่ มิราดอร์ กับ เรด้าร์ชี้เป้าให้ปืน 76 mm เท่านั้น

     

      ราคาของ I-mast-400  น่าจะถึง 3000 ล้านบาททีเดียวนะครับ  เพราะรวมทุกอย่าง  และ I-mast-500  น่าจะแพงกว่านั้นประมาณ 500 ขึ้นไป    เฉพาะระบบตรวจจับชุดนี้  CAPTAS  โซน่าร์หัวเรือ  อาจจะมีโซน่าร์ตรวจจับทุ่นระเิบิด  ระบบ  decoy   ราคาก็น่าจะถึง  4000-5000 ล้านบาทได้แล้วนะครับ

     

        

      

    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 28/04/2013 23:15:55


    ความคิดเห็นที่ 129


          ถ้าระบบตรวจจับทั้งหมดมีราคาสูง 4000-5000 ล้านบาทขนาดนี้  และหรูหราขนาดนี้   ก็ควรที่จะต้องเตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้ง  VLS  อย่างน้อยสุดก็ 32 cell  ล่ะครับ(สำหรับดาดฟ้าเรือด้านหน้า)  

          เพราะ 8 cell  น่าจะถูกจองโดย K-ASROc หรือ ASROC ซึ่งผมให้น้ำหนักแก่  K-ASROC  มากกว่าแล้วในตอนนี้  ส่วนอีก 8 cell  คงต้องยกพื้นที่ให้แก่ ESSM   RAM block-2   และอาจจะมี PAM  ด้วย

          ก็จะเหลือสำหรับ SM-2  แค่ 16 cell เท่านั้น    แต่ถ้าเตรียมเผื่อไว้ 48 cell  (เอาพื้นที่บริเวณด้านข้างของ Hanga มาทำ  แล้วให้ hanga ชิดด้านใดด้านหนึ่งไป  ก็น่าจะพอติดตั้ง VLS  ได้อีกอย่างน้อย 16 cell)   ก็น่าจะพอสำหรับ  SM-2  32 ลูก

       ดูการจัดหาคราวนี้   ผมเราว่ามีลุ้นจรวด  SM-2  ว่าอเมริกันอาจจะยอมขายให้เรา   หรือว่าเกาหลีพัฒนา  cherlomae-2  ไปได้ไกลกว่าที่คาดแล้ว   และทร.รู้  เพราะว่าที่ลูกค้านี่ครับ  มีอะไรก็บอกก่อนจะได้เพิ่มน้ำหนักในการชั่งใจแก่อาวุธของเกาหลีมากขึ้น     คงต้องติดตามเรื่อง  cherlomae-2 ด้วย     แต่มันยังเป็นเรื่องอนาคตสำหรับระบบนี้      SM-2  ชัวร์กว่าครับ 

     

    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 28/04/2013 23:38:01


    ความคิดเห็นที่ 130


       บั้นท้ายสาวจีน  type 052C  จะเห็น VLS แบบรีวอลเวอร์อยู่ด้านหนึ่ง (อยู่ตรงกลางมากหน่อย)   โรงเก็บฮ.อีกด้านหนึ่ง

     

      บั้นท้าย  สาวฝรั่งเศส   โรงเก็บฮ.ชิดไปอีกด้านหนึ่ง    อีกด้านหนึ่งว่าง   เหมือนพื้นที่ดาดฟ้ายกด้านหน้าที่ว่างสำหรับ VLS 32 cell

      ถ้าติดตั้งแค่ I-MAST-400   จะมี VLS มา 32 cell   ก็ OK.         แต่ถ้าได้  I-MAST-500  มาเลย  รุ่น TOP  แบบนี้  ควรจะเป็น 48 cell  มากกว่า    เพราะถ้า upgrade อีกครั้ง (ก็ต้องใช้งเงินอีก 3000-4000 ล้านล่ะนะ)    มันก็จะมีประสิทธิภาพระดับน้องๆเรือพิฆาตครับ    เออแบบนี้  OK  สำหรับเรือเกาหลี   เงินขนาดนี้ (+ อีก 3000-4000 ล้าน จาก 13,000 ล้าน)   ระบบเรด้าร์ดีกว่า KDX-2  แต่อำนาจยิงไม่น้อยกว่าละว้า





    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 29/04/2013 00:14:18


    ความคิดเห็นที่ 131


     

        แต่มีขีดความสามารถในด้านการต่อต้านเรือดำน้ำมากกว่า KDX-2  ด้วย.......   

    แบบว่า  upgrade อีกครั้งเมื่อไหร่....เทพ



    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 29/04/2013 00:20:11


    ความคิดเห็นที่ 132


     TOR ได้จากบริษัทไหนมา ของที่มีอ่านอยู่ทำไมมันไม่ตรงกับท่านครับ  ข่าวปล่อยออกมาแบบนี้ หวังอะไรครับ สร้างความขัดแย้ง เกลียดชัง คิดจะล้มกันเลยหรือ

    โดยคุณ FatBoy เมื่อวันที่ 29/04/2013 15:44:45


    ความคิดเห็นที่ 133


    TOR เรือฟรีเกตสมรรถนะสูง. ข้อมูลจากTAF โดยคุณAutometic99 http://www.thaiarmedforce.com/forum.html ช่างเป็นเรือที่สมรรถนะสูงจริงจริง
    โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 29/04/2013 12:59:17


    ความคิดเห็นที่ 134


    ถ้าออกมาแบบนี้จริง เงิบเลยนะครับ อยู่ดีๆ น้ำตาผมก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว สู้เอาเรือจีน 3 ลำดีกว่า

     

    แต่ยังไงก็รอ ทร. แถลงนะครับ

     

    สเปคกับอาวุธแค่นี้ต่อเป็น corvette ก็พอครับ

     

    ที่มาของรูป

    http://www.thaiarmedforce.com/distribution/viewtopic.php?f=6&t=1025&start=1110#p67841


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 29/04/2013 13:14:35


    ความคิดเห็นที่ 135


    TOR ยี่ห้อต่างๆที่ระบุแค่ใช้อ้างอิงคุณสมบัติและประสิทธิภาพมากกว่าครับ

    ผู้เสนอราคาอาจเสนอเจ้าอื่นที่ประสิทธิภาพเท่ากันหรือดีกว่าได้ครับ

     

     

    โดยคุณ Tumx เมื่อวันที่ 29/04/2013 13:38:23


    ความคิดเห็นที่ 136


    น่าจะเป็น สเปค ขั้นต่ำ ครับ...

    ใน TOR คงกำหนดคุณสมบัติ ไม่ต่ำกว่า หรือ เทียบเท่า...และระบุคุณสมบัติไว้ เพื่อเป็น มาตรฐานเทียบเคียง ครับ...

    เพราะถ้า ทร. กำหนด ยี่ห้อ ขนาดนั้น...ก็คงเป็นเพียงการ ว่าจ้างต่อตัวเรือ เท่านั้นครับ...

     

     

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 29/04/2013 15:26:43


    ความคิดเห็นที่ 137


    ท่าน FatBoy...มาช่วยแล้ว...อิ อิ อิ...(ใจหาย แว๊บ เหมือนกัน)

    กองทัพเรือ จัดหาอาวุธสักที...มันหนื่อยจริง ๆ...ทั้ง กองเชียร์ ทั้ง คณะกรรมการจัดหา...

     

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 29/04/2013 15:52:30


    ความคิดเห็นที่ 138


    ของที่ท่านอ่านอยู่เป็นยังไงครับ เปิดเผยได้หรือไม่ ถ้าได้เปิดเผยได้้แค่ไหน ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรครับ ตราบใดที่ ทร. ไม่แถลงวิตกไปก็เท่านั้น มองเป็นความเห็นส่วนบุคคล

     

    แต่เห็น TOR แบบนี้มันไม่ค่อยสบายใจครับ เพราะแนวทางการจัดซื้อของหน่วยงานรัฐส่วนใหญ่มักจะเป็นมีคุณสมบัติเทียบเท่าหรือดีกว่าที่กำหนด ในราคาที่ต่ำที่สุด

    และมักไม่กำหนดรุ่น ยี่ห้อ แต่อาจจะกำหนดคุณสมบัติพิเศษเข้าไปเพื่อให้ได้ของที่ต้องการ เช่น link กับ กริฟเพน หรือ มีความเข้ากันกับระบบที่กองทัพเรือใช้อยู่

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 29/04/2013 16:00:35


    ความคิดเห็นที่ 139


    คุณFatboyครับ TORที่ลงมาไม่ตรงกับยังไงเหรอครับ ไม่ต้องบอกทั้งหมดก็ได้เอาที่พอจะบอกได้เช่น ไมาได้ระบุยี่ห้อว่าจะต้องเป็น... เท่านั้น หรือระบุว่าต้องเทียบเท่าหรือสูงกว่ายี่ห้อ.... ซึ่งใช้อยู่แล้ว ครับ. ขอข้อมูลเท่าที่พอจะบอกได้ครับ
    โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 29/04/2013 16:04:42


    ความคิดเห็นที่ 140


    ขอนิมนต์ท่านFatboy ไปกิจนิมนต์ที่TAFด้วย ..........งานนี้มีมาม่าเลี้ยงเพียบ ......

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 29/04/2013 17:16:53


    ความคิดเห็นที่ 141


    เอามาม่ามาจากเว็บเพื่อนบ้านมาส่งครับ เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 29/04/2013 18:55:02


    ความคิดเห็นที่ 142


    ใจเย็นกันก่อนอย่าพึ่งเครียดอย่าพึ่งด่วนสรุป ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาต่อรองกันอยู่ จะรีบไปไหน555

    โดยคุณ yuy999 เมื่อวันที่ 29/04/2013 23:50:57


    ความคิดเห็นที่ 143


    เวรแล้วงัยใครมันป่วนกองทัพเรือวะ จะเป็นไปได้เหรอก็ในเมื่อกองทัพเรือประกาศเรียกประกวดราคาสเปคเรือไว้ที่ไม่เกิน 30000 ล้านบาท แล้วเรือ DW3000h จะเกินงบที่ตั้งไว้ได้ยังไง ถ้าเกาหลีไม่เซ่อร์ซะเองก็โครตโง่ละครับงานนี้ที่ไม่เช็คราคา I-MAST จากทาง Thales ซะก่อน ที่จะเอาแบบเรือราคาสูงเกินสเปกส่งเข้ามาแข่งประกวดราคา (ผมไม่เชื่อหรอกครับแหล่งข้อมูลเนียะ ผมว่าพวกอีแอบเชียร์เรือจีนหรือเรืออื่นๆแอบปล่อยข่าวแง่ลบซะมากกว่าเพราะข่าววงในของที่น่าเชื่อถือได้ คนระดับสูงในกองทัพเรือต้องการเรือจากเกาหลีเท่านั้น เพื่อเป็นใบเบิกทางไปสู่เรือดำน้ำตระกูลเยอรมันเชื้อเกาหลีในอนาคต)

    แต่ถ้าสมมุติว่าเป็นเรื่องจริงผมว่ายุบเรือ จากสองลำให้เหลือแค่ลำเดียวไปเลยดีกว่า แล้วใส่อ็อฟชั่นสูงๆให้เรือไปเลยมันจะได้เป็นเรือสมรรถนะสูงอย่างแท้จริง ประมาณว่า 1 ลำราคา 1 billionUSD  จัดหนักไปเลยครับ

       (ปล.งานนี้มีการป่วน TOR กันแน่ๆเพราะต้องมีพวกนายหน้าค้าอาวุธผิดหวังกันเยอะ ฟังหูไว้หูดีที่สุดครับ)

    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 29/04/2013 23:54:57


    ความคิดเห็นที่ 144


    TOR เค้าระบุยี่ห้อได้ด้วยเหรอครับ

    โดยคุณ BlackMonster เมื่อวันที่ 30/04/2013 06:55:38


    ความคิดเห็นที่ 145


    ผมคิดว่า เป็นเรื่องที่คุย ระหว่างกันมากกว่า ครับ...

    อันนี้ ไม่ได้ จับผิด ในความเห็นน่ะครับ...แต่ตามที่ยกความเห็นมานั้น...

    ผมก็ให้ความเห็นว่า...เรื่องงบ ESSM กว่า 6 พันล้านบาท นั้น...ไม่ได้เกี่ยวกับ งบประมาณจัดหาตัวเรือ ครับ...

    เพราะ ทร. ได้แยก งบประมาณจัดหาต่างหากอีก 3,000 ล้านบาท...ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ งบประมาณจัดหาเรือ 30,000 ล้านบาท...

    และ I-Mast คงไม่ได้มีราคาแพงมาก ขนาดนั้น ครับ...ตามที่ผมยกตัวอย่างไว้ข้างบน นะครับ...ถึงราคาต่อลำของเรือชั้น Holland ที่รวมราคาระบบ I-Mast 400 ด้วยแล้ว มีราคาต่อลำ ประมาณ 180 ล้านเหรียญ ต่อลำเท่านั้น (รวมตัวเรือระวาง 3750 ตัน รวมปืน 76 ม.ม. และปืนรอง และอื่น ๆ)...

    ซึ่งที่ผมหา ข้อมูล ล่าสุด I-Mast 400 ของ Holland นั้น...มีมูลค่าจัดหา ของ เนเธอร์แลนด์ ประมาณ 167 ล้านเหรียญ...จำนวน 4 ระบบ สำหรับเรือ Holland Class หรือ ประมาณระบบละ 42 ล้านเหรียญ ซึ่ง แพงกว่า ระบบ Sea Giraft ไปเพียง 7-8 ล้านเหรียญ เพราะที่ ทร. จัดหามา 2 ระบบ ราคาประมาณ 73-75 ล้านเหรียญ หรือ ระบบละประมาณ 35 - 37 ล้านเหรียญ...ถ้าผมจำไม่ผิด นะครับ...

    ดังนั้น สมมติ ต่อให้เป็น I-Mast 500 ราคาจะพุ่งไปถึง 60 ล้านเหรียญ (ราคาสมมติ) ค่อ ระบบ...ก็ยังคงมีมูลค่า ตัวเรืออีก พร้อมระบบอื่น ๆ อีกกว่า 380 ล้านเหรียญ ซึ่ง ไม่ใช่ราคาน้อย ๆ ครับ (ราคา 2 เท่าของ Holland Class)...สำหรับเรือขนาด 4000 ตัน...ที่ไม่รวมระบบตรวจจับ...ที่ผมอ้างถึง ข้างต้น...(ถ้าเทียบตามข่าวว่า มูลค่าเรือจะมีประมาณ 13,000 ล้านบาท ผมเทียบที่อัตราแลกเปลี่ยน 30 บาท ราคาต่อลำจะประมาณ 433 ล้านเหรียญ)

    ซึ่ง ระบบ Sea Master 400 ที่เป็นเรดาห์ประกอบอยู่ใน I-MAST 400 นั้น...เป็นระบบเรดาห์ ที่พัฒนามาจาก Ground Master 400 หรือ GM-400 ที่ใช้งานทางบก ลักษณะก็เหมือน Giraft 3D เรดาห์ ของ สวีเดน น่ะครับ...คือ การปรับใช้จาก เรดาห์บนบก มาใช้ บนเรือ นั่นเอง...ซึ่ง ระบบ Master 400 นี้ ก็มีใช้อยู๋ใน กองทัพบก หลายประเทศ...ดังนั้น ราคา Sea Master 400 จึงไม่น่าจะมีราคาแพงมากไปเท่าไหร่ครับ...

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 30/04/2013 08:02:20


    ความคิดเห็นที่ 146


    ส่วนเรื่องระบบ การ Link E/G กับ ทอ. นั้น...

    น่าจะเป็นเรื่อง อู่เรือ ที่เขาคงต้องร่วมกับ Saab หรือ จัดหามาจาก Saab...ซึ่งตาม โบขัวส์ ของ Saab...ระบบ Data Link นี้...ถ้มผมจำไม่ผิดว่า มันมีระบบที่แยกต่างหาก จาก 9LV ได้...

    และอย่าลืมว่า...ตามข่าว ก็ออกมาว่า...มีแบบเรือที่ ก้ำกึ่ง อยู่ 2 อู่เรือ คือ จาก สเปน และ เกาหลีใต้...

    แต่ คณะกรรมการ คัดเลือกจาก ยุทธการปราบเรือดำน้ำ เป็นน้ำหนักใหญ่...

    เรือฟริเกต ชุดนี้ จึงคงต้องเน้น ระบบการปราบเรือดำน้ำ มากกว่า การมีระบบ ESSM มูลค่า 6 พันล้านบาท (น่าจะเป็น มูลค่าประเมินโครงการจัดหาตัวลูกจรวดรวมทั้งหมด หมายถึง รวมอัตราบรรจุในเรือชั้น นเรศวร ด้วย)...

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 30/04/2013 08:25:46


    ความคิดเห็นที่ 147


    ทร.เลือกอู่ได้แล้ว แต่ทำไมยังมีมาม่ากันอีกล่ะเนี่ย (แอบอ่านมานานแล้ว แต่ความรู้เท่าหางอึ่ง)

    ในส่วน TOR นั้นผมเลือกที่จะเชื่อบางอย่างนะครับ เช่นระบบเฉพาะทางที่ link กับ SAAB

    (แต่ที่ไม่เข้าใจว่า เจ้าอื่นมันอินทิเกรดไม่ได้หรืออย่างไร และนี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ ทร. ต้องตัด SM-2ออกไป ???)

    เพราะอู่ที่ผ่านการคัดเลือก DSME เกาหลีใต้ แบบเรือก็รู้ๆกันอยู่ แต่ไหง หวยมาออกที่ 9LV

    โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 30/04/2013 10:38:39


    ความคิดเห็นที่ 148


    ผมว่า ESSM 6000 ล้านนี่ไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย พวกเครื่องกระสุนน่าจะตั้งงบจัดซื้อแยกไปที่หลังนะ เหมือนกระสุนของ ยานเกราะ BTR-3E1 และ รถถัง OPLOT

    ที่ทำโครงการจัดซื้อที่หลัง ไม่ได้เอาไปรวมกับตัวรถตั้งแต่แรก แถมอาวุธของ USA มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้นะ เค้าต้องขายให้ด้วย

     

    เอามาม่ามาเสิร์ิฟเพิ่มครับ ถ้าเป็นแบบนี้จริงที่พวกเราถกระบบของค่ายนู้น ค่ายนี้ นี่สูญเปล่าน่าดูเลย เล่นตั้งธงมาแบบนี้

    สมมุติว่าได้มาแนวนี้จริงๆ อนาคตเราจะทำนายระบบอาวุธหรือเซนเซอร์ ที่ ทร. ทำการจัดหาหรือปรับปรุงได้ง่ายขึ้นเยอะ


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 30/04/2013 11:02:17


    ความคิดเห็นที่ 149


    ในระบบ I-MAST 500 ถ้ามีการ ติดตั้ง CEAMOUNT เข้าไป..ก็จะไม่มีปัญหากับ SM-2...

    ซึ่ง CEAMOUNT เป็น illuminator ให้กับ ESSM กับ SM-2...

    ใน กรณี นี้...ประเด็น จะอยู่ที่ว่า...ถ้า สมมติ ว่า ในราคาเรือลำละ 433 ล้านเหรียญ (13,000 ล้านบาท) แล้วได้ สเปค เท่ากับ เรือชั้น นเรศวร เพียงแต่ได้เพิ่ม โซนาร์ลากท้าย มาเท่านั้น...

    ม้นคงหนีไม่พ้น กับ คำว่า...แพงเว่อร์...

    ซึ่ง ผมค่อนข้างเชื่อว่า...เรือชุดนี้ มันคงต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น...ในเรื่อง ระบบตรวจจับ และ ระบบปราบเรือดำน้ำ...และ ระบบขับเคลื่อน...

    ซึ่งในแง่ การป้องกันภัยทางอากาศ ในระดับ ESSM ผมว่า ก็เพียงพออยู่แล้ว...ไม่คิดว่า จะได้มากกว่า นั้น...

    ผมก็ยังมองว่า...เป็นข้อมูล ลักษณะความเห็น และพูดคุยในข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับมา...มากกว่า

    ส่วนเรื่องระบบอำนวยการรบ 9LV ผมว่า ก็ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ...เพราะ เรือชั้น ANZAC ของ ออสเตรเลีย แม้จะเปลี่ยนระบบเป็น CEAFAR/CEAMOUNT แต่ระบบอำนวยการรบก็ยังเป็น 9LV อยู่...

     

     

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 30/04/2013 12:11:23


    ความคิดเห็นที่ 150


    ผมว่า9VLมันก้ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะครับ ทร.อาจจะอยากให้เรือใหญ่ทั้ง5ลำมีระบบที่เหมือนกันหมดเพื่อใช้งานจริงสะดวกก็ได้ เพราะยังไงเสียเรือ5ลำนี้ต้องอยู่เป็นกระดูกสันหลังไปอีกนาน จักรี ตากสิน นเรศวร กับอีก2ลำใหม่ เพียงแต่ว่าระบบเรดาห์ควรจะดีกว่าของที่ติดอยู่ในเรือหลวงนเรศวร และระบบอาวุธปราบเรือดำน้ำควรจะมีลูกยาวเพิ่มเข้ามาด้วยเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นจะเอาไปปราบเรือดำน้ำยังไงกันหละ

     

    ส่วน ESSM ผมว่าเราเข้าใจตรงกันแล้วว่าทร.ต้องการแค่นี้ยังไม่ไปถึง SM2 แน่นอน อนาคตของอนาคตเราอย่าเพิ่งคาดเดาไปเลย เอาแค่อนาคตใลก้ๆนี่ก่อนเถอะ

     

    แต่จะว่าไปผมพอมีเรือลำนี้ในใจโผล่ออกมาแล้วนะครับ สืบหาข้อมูลตามมีตามเกิดไปเรื่อยจนพอได้ เดี๋ยวว่างๆจะเอามาลงอีกที ตามภาษาคนช่างฝัน แต่ยิ่งหาก็ยิ่งไม่เข้าใจว่ากองทัพเรือจะซื้อ2ลำนี้ทำไมกัน 209แบบอินโดไปเลยก็จบแล้ว ของเขา3ลำงบประมาณทั้งหมดรวมค่าบริการ2ปีแรก 1.4พันล้านดอล์ของเรา2ลำยังไงก็ไม่เกินงบ หรือจะเอาเรือฟริเกตุปราบเรือดำน่้ำFFXแบบฟิลิปปินส์ก็ได้ถุกว่าครึ่งต่อครึ่ง

     

    ปัญหาของกองทัพเรือคือชื่อโครงการเรือฟริเกตุสมรรถนะสุงแต่สเป้กมันต่ำจังวุ้ย

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 30/04/2013 13:03:51


    ความคิดเห็นที่ 151


    งั้นขอถามแบบคนไม่ค่อยรู้เรื่องนะครับ SMART-L ที่เรือเราติดตั้งไม่ได้เพราะเรือเล็กเกินไป

    (ถ้าเทียบกับ i-mast500 ที่เราเลือก แบบไหนดีกว่ากัน)

    CEAFAR/CEAMOUNT ไอ้เจ้านี่ มันมีรวมอยู่ใน i-mast500 แล้วใช่มั้ยครับ

    และไม่ว่าจะเป็น i-mast500 หรือ SMART-L สามารถควบคุมโดย 9VL ถูกต้องมั้ยครับ

    โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 30/04/2013 13:23:30


    ความคิดเห็นที่ 152


    ตอนนี้ผมละอยากรุ้จังเลยว่า User automatic99 เค้าคือใครแล้วทำไมถึงมั่นใจตัวเองมากนัก   แต่ยังไงก็SAAB ไม่น่าจะมาทำแบบนี้นะครับ ในเมื่อแบบDW3000H นั้นก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นระบบของ Thales  ซึ่งยังไงผมว่าก็เป็นเพียงแค่ การปั่นหัวไปเท่านั้นแหละครับ อีกอย่างมีอะไรตั้งหลายอย่างที่SAAB มาหากินกับทร.และทอ.ได้เยอะแยะขออย่างเดียว ด้วยความยุติธรรมก็พอแล้วครับ  อย่างมากีกกันมากเกินไป เดี๋ยวจะไม่เจริญกันพอดี   และถ้าสเป๊กเป็นแบบที่เค้าบอกกันนั้น ผมบอกได้คำเดียวละครับ ไม่แตกต่างไรไปจากเรือชั้นนเรศวร เพียงแค่มีระบบโซน่าลากท้ายมาแค่เนี้ยๆ สู้กลับไปเอาเรือจีนจะดีกว่ามั้ยละครับ แบบนี้มันไม่คุ้มเลยนะครับกับราคา 13000 ล้านบาทเนี้ย

    ส่วนESSM 6พันล้านนี้ งบมันต้องแยกจากการจัดหาเรืออยู่แล้วนะครับ ซึ่งกองทัพเรือก็ทำแบบนี้มาตลอด    

    ส่วนทร. อยากได้SM-2 นั้นผมก็ดีใจด้วยนะครับ ถือว่าเป็นเรือ3มิติ ที่ดีเลยทีเดียว แต่ถ้าI-Mast 500มาและก็SM-2 ก็อาจจะมาด้วย  แต่ถ้าระบบSaabมาละก็   โดนโจมตีกันหนักแน่อ่ะครับคราวนี้

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 30/04/2013 14:21:17


    ความคิดเห็นที่ 153


    I-Mast 500 เป็นสเปคสำหรับ Frigate...ส่วน I-Mast 400 เป็นสเปค สำหรับ Corvette (Light Frigate)..

    ซึ่งตามภาพ จะปรากฎ การติดตั้ง illuminator Radar สำหรับชี้เป้า ให้กับ ESSM แต่ ไม่ทราบว่าเป็น illuminator Radar แบบไหน ครับ...

    จึงมีความ คาดเดาว่า น่าจะเป็น CEAMOUNT ในขณะนี้ ซึ่ง ทร. ออสเตรเลีย ก็ใช้งานอยู่ครับ...

    และ ทร.ออสเตรเลีย ก็ใช้ 9LV เช่นเดียวกับ ทร.ไทย แต่เป็นรุ่นเก่ากว่า...ซึ่งก็เสียค่า อัพเกรด เพื่อให้ใช้ได้กับ CEAFAR/CEAMOUNT ด้วยเช่นกัน..

    ผมก็มองว่า แม้จะใช้ I-Mast ก็น่าจะสามารถใช้ระบบอำนวยการรบ 9LV ได้...

    เรื่องคุณสมบัติ แม้จะได้ เท่าเทียบเคียง เรือชั้น นเรศวร...ผมก็ไม่ติดใจนะ...แต่จะติดใจเรื่อง มูลค่าเรือ ว่าม้นจะ แพง เกิน...ถ้าเราต้องจ่ายขนาดนี้ น่ะครับ...อันนี้ ในความเห็น กรณี สมมติ เป็นไปตามข้อมูลข้างต้น..

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 30/04/2013 14:49:46


    ความคิดเห็นที่ 154


    หลังไมค์คุยกับชาวTAFแล้ว คิดว่า น่าจะเป็นนายหน้าของเรือลำใดลำหนึ่งจริงๆ ......

    และโดยส่วนตัวคิดว่ามีแนวโน้มที่THALES จะแห้วในบางแง่มุม (เช่นไม่ได้เป็นSystem integrator ) .....เลยมาเหวี่ยง

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 30/04/2013 15:06:25


    ความคิดเห็นที่ 155


    ผมอยู่ในเหตุการณ์พอดี หน้าปกเอกสารที่เขาเอามาลง ดูดีๆแล้วมันไม่ใช่ TOR ครับ มันเป็น Request for proposal ครับ เป็นแค่ปกหน้าแรก ไม่มีรายละเอียดเจาะจงอะไร ไม่มีอะไรยืนยันว่าสิ่งที่เขากล่าวนั้นจริง ตัวเขาเองก็ออกตัวว่าเป็นนิทานครับ และมีเรื่องโต้แย้งได้หลายจุดที่เพื่อนสมาชิกได้กล่าวๆไปบ้างแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่น่าเชื่อถือเลยครับ น่าจะเป็นอย่างที่ท่านไอซี่กล่าวไว้มากกว่า

    โดยคุณ legolus2000 เมื่อวันที่ 30/04/2013 15:32:59


    ความคิดเห็นที่ 156


    น่าสนใจนะครับ ว่าเขาเป็นนายหน้าของเรืออะไร หรือระบบค่ายไหน


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 30/04/2013 15:47:32


    ความคิดเห็นที่ 157


    ใช่ครับ ท่าน aonestudio หน้าปกแค่นี้แหล่ะ แล้วก็เล่นเอาพวกเราหลายคนวิตกจริตฉี่เหลืองกันไปเลย 555 (รวมทั้งผมด้วย)

    โดยคุณ legolus2000 เมื่อวันที่ 30/04/2013 15:53:03


    ความคิดเห็นที่ 158


    เล่นแบบนี้ไมเกรนขึ้นเลย
    โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 30/04/2013 16:09:40


    ความคิดเห็นที่ 159


    หน้าปกก็ชัดเจนว่าเป็น RFP (Request For Proposal) ไม่ใช่ TOR อย่างที่กล่าวอ้าง ดังนั้นข้อมูลที่กำหนดไว้น่าจะเป็นเพียงบรรทัดฐานที่เอาไว้อ้างอิงเปรียบเทียบสมรรถนะ ตามที่ทร.ได้กำหนดไว้ว่าระบบต่างๆ "ต้องมีสมรรถนะขั้นต่ำเทียบเท่าระบบที่ติดตั้งบนรล.นเรศวรที่ปรับปรุงใหม่" จึงไม่แปลกที่จะมีรายการที่ว่้านี้ระบุไว้ในเอกสารนี้

     

    ปล. ระบบ CMS ของ SAAB คือ 9LV Mk.4 CMS นะครับ เห็นหลายท่านคุยไปคุยมากลายเป็น 9VL ไปซะแล้ว ผมเองก็สับสนอยู่เหมือนกันครับ

     

    ปล.2 ทางเวปโน้นมีคนออกมาจับผิดมือโพสแล้วครับ คงจะเป็นหนึ่งในตัวแทนผู้เข้าประมูลที่หลุดโผไป เห็นว่าเมื่อครั้งก่อนที่พลาดโครงการปรับปรุงรล.นเรศวรก็ออกมาแนวนี้ทีนึงแล้ว แต่คราวนี้ออกตัวแรงมากๆ

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 30/04/2013 16:38:28


    ความคิดเห็นที่ 160


    แก้ไข 9VL เป็น 9LV แล้วนะครับ...

    เอารูป DW1400T (DaeWoo 1400 Tons (หรือ Thailand ดีหน๊อ (แซวเล่นครับ...ไม่ได้ความหมายว่า เชียร์ เน้อ))  ไปดูเล่น ๆ ก่อน แก้หงุดหงิดครับ...เผื่ออาจจะเป็น คนสวย คนต่อไป...ที่มีเรื่องจะต้องพูดถึงในอีก 5 ปี ข้างหน้าก็ได้ ครับ...อิ อิ อิ...

     

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 01/05/2013 08:09:09


    ความคิดเห็นที่ 161


    กรณี สมมติ นะครับ...คิดเล่น ๆ สนุก ๆ นะครับ...

    ถ้า DW2000T ของ ทร.บังคลาเทศ มาจาก การย่อส่วนของ KDX-1

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 01/05/2013 08:58:23


    ความคิดเห็นที่ 162


    แล้ว Daewoo ย่อส่วน จาก DW5000D (Destroyer) มาเป็น DW4000F (Frigate)

    แบบที่ 1 ติดตั้ง I-Mast 400 (ต้องเสียพื้นที่ติดตั้ง STIR สำหรับ ESSM จึงไม่ขยายท้ายเรือ)

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 01/05/2013 09:00:58


    ความคิดเห็นที่ 163


    แบบที่ 2 ติดตั้ง I-Mast 500  (ไม่ต้องติดตั้ง STIR เนื่องจากมีการติดตั้ง Phased Array illuminator สำหรับ ESSM และรองรับ SM-2 ได้ในอนาคต)

    เนื่องจาก ไม่ต้องเสียเนื้อที่ สำหรับติดตั้ง STIR จึง ขยายท้ายเรือ รองรับปฏิบัติการ ด้วย ฮ. ASW จำนวน 2 ลำ

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 01/05/2013 09:03:49


    ความคิดเห็นที่ 164


    DW5000 น่าสนใจกว่ามาก แต่กลัวว่าถ้าลดขนาดลงมาแล้วจะมีปัญหาแบบ DW2000ที่ลดขนาดจากKDX I นะครับ

    โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 01/05/2013 09:59:39


    ความคิดเห็นที่ 165


    ใครก็ได้ช่วยเคลียร์ความสงสัยให้ผมหน่อยครับ คือว่าข่าวที่ออกมาจากกองทัพเรือ กำหนดต่อที่อู่ต่อเรือของแดวูเกาหลีแน่ๆใช้ไหมครับ แล้วตัวเรือฟรีเกตละครับ เป็นของเกาหลีด้วยหรือเปล่าแล้วถ้าเป็นเรือของเกาหลีจริง เรือจะเป็นรุ่นอะไรครับ แล้วสเปกเรือแบบไหนครับ (เห็น KDX ที เดี๋ยว DW3000ที) เพราะตอนนี้ผมบริโภคข้อมูลซะจนมึนตึบแล้วครับ ทั้งของ TAF และที่เวปนี้ สรุปมันยังไงกันมีอะไรบ้างที่ชัวร์ๆแล้วแน่บ้างครับ ช่วยชี้แจงแถลงไขให้ด้วยครับ ขอบคุณ

    โดยคุณ Woot1980 เมื่อวันที่ 01/05/2013 10:01:54


    ความคิดเห็นที่ 166


    DW2000 ที่มีปัญหาจากแบบ KDX-1 อาจจะเป็นเพราะมันลดแบบกว่า 50% น่าจะเรียกว่า ลดเกือบทุกมิติ ก็ได้ครับ...จากระวาง 4000 ตัน มาเป็น 2000 ตัน...

    สำหรับ KDX-2 ถ้าลดแบบจาก 5000 ตัน เป็น 4000 ตัน อาจจะลดแบบเพียง ลดความยาวเรือ และการลดการติตตั้งระบบอาวุธ ที่น้อยลง...เพราะลดแบบไปประมาณ 20%

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 01/05/2013 10:25:23


    ความคิดเห็นที่ 167


    ถ้าได้ก็ดีนะครับ สามารถวางระบบอาวุธได้มากกว่า ระบบเรดาร์ขนาดใหญ่สามารถวางได้ ฮ.ลำใหญ่ลงได้
    โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 01/05/2013 10:38:12


    ความคิดเห็นที่ 168


    รบกวนถามคุณJudasหน่อยครับ เรื่องหลักนิยมASW ระหว่างการใช้อาวุธปล่อยเช่น ASROC จากเรือ ซึ่งต้องเสี่ยงเอาเรือเข้าใกล้เรือดำน้ำกับใชิฮ. แบบไหนน่าจะดีกว่ากันครับ
    โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 01/05/2013 10:44:13


    ความคิดเห็นที่ 169


    ตกลงว่านี่จะเป็นเรือฟริเกตสมรรถนะสูงหรือเรือฟริเกตสมรรถนต่ำแต่ราคาสูงถ้าจ่ายแพงแล้วสเป็คได้แค่นี้ทำนายได้เลยว่าของบคราวหน้าไม่ต้องอ่านก็อยู่ในถังขยะแน่นอนสำหรับทัพเรือ.....จบ

    โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 01/05/2013 12:07:42


    ความคิดเห็นที่ 170


    เรื่องนี้ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ...เพียงแต่ ถ้ามี ASROC มันก็ต่อระยะได้ไกลขึ้น และ เร็วขึ้น...ซึ่ง ระยะของ เฉพาะ ตอร์ปิโด เอง มันก็วิ่งเข้าเป้าหมาย ในระยะ 11 ก.ม. ซึ่งน่าจะเป็นความหมายที่ว่า ไม่ได้หมายถึง ระยะเส้นตรง 11 ก.ม. แต่น่าจะหมายถึง ระยะทางรวม ที่ ตอร์ปิโด วิ่ง ค้น หา เป้าหมาย ทั้งหมด...

    ส่วน เฮลิคอปเตอร์ มันก็มีประโยชน์สูง แต่ก็มีข้อจำกัด ในเรื่อง เชื้อเพลิง...และสภาพอากาศ...ซึ่ง ถ้า เรือดำน้ำ เปิดเผยตัวก่อน โดยการ โจมตี เรือผิวน้ำ ก่อน...แล้ว เรือผิวน้ำ ป้องกันตัวเอง ได้...ผมว่า ตัวเรือผิวน้ำ ก็คงต้อง ไล่ล่า ก่อน...แล้ว เฮลิคอปเตอร์ ถึงจะขึ้น สนับสนุน...

    การมี ASROC น่าจะเป็น การตอบโต้ อย่างแรก...แล้ว ฮ. ก็อาจจะเป็น ลำดับต่อไป ทั้ง สำรวจผลสำเร็จของ ASROC หรือ การไล่หาตรวจจับ จากโซนาร์ชักหย่อน หรือ ไล่ต้อน ให้กับ ฮ.อีกลำ ที่ ติด ตอร์ปิโด และเรือแม่...ถ้า กรณี ASROC ยังไม่ประสบผลสำเร็จในการตอบโต้ ครั้งแรก...

    ซึ่ง ถ้า เรือผิวน้ำ ถูกโจมตี ในสภาพอากาศปิด โดย ฮ. ไม่สามารถขึ้นบินได้ หรือ ขึ้นบิน แล้วประสบอุบัติเหตุ...การมี ASROC ก็กลับจะมีประโยชน์สูงสุด...

    ผมว่า ถ้าจะเป็น Anti Submarine Warfare...ก็น่าจะมี ทั้ง ASROC และ ฮ. ประจำเรือ 2 ลำ และ แท่นยิงตอร์ปิโดประจำเรือ..คือ ระยะไกล (ฮ.) ระยะปานกลาง (ASROC) ระยะใกล้ (แท่นปล่อยตอร์ปิโดประจำเรือ)..

    และมี ระบบป้องกันตนเองจาก ตอร์ปิโด เรือดำน้ำ คือ เป้าลวงตอร์ปิโด (SAGAM Decoy)

    และมี ระบบป้องกันตนเองจาก อาวุธนำวิถีปล่อย จากเรือดำน้ำ คือ ESSM หรือ ฟาลังซ์ หรือ เป้าลวงแสง (SAGAM Decoy)

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 01/05/2013 12:23:00


    ความคิดเห็นที่ 171


    ขอบคุณครับ มีทั้ง2ระบบเลยดีกว่า
    โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 01/05/2013 12:50:36


    ความคิดเห็นที่ 172


    คุณจูดาสคิดเหมือนผมเลย  DW4000D แต่ของผมชื่อ KDX-2T ครับ ฮ่า ๆๆๆๆ

    ผมเตรียมข้อมูลไว้หมดแล้วเดี๋ยวจะเขียนอีกกระทู้เป็นเรื่องเรือตระกูล KDX-2 แล้วกัน ตามไปติชมได้นะครับ แต่ได้เรดาห์ SMART-S เท่านั้นเองนะครับตามข้อมูลที่พอหาได้ ว่าแล้วเขียนเลยแล้วกัน

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 01/05/2013 12:58:50


    ความคิดเห็นที่ 173


    แบบเรือ DSME DW2000H (Ulsan Mod.) มีพื้นฐานมาจากเรือฟริเกตชั้น Ulsan ซึ่งเป็นเรือฟริเกตชั้นแรกที่เกาหลีใต้ต่อเองในประเทศในช่วงปี 1980s โดยมีการปรับปรุงจากแบบเรือชั้น Ulsan อย่างมาก

    http://www.globalsecurity.org/military/world/bangladesh/bns-bangabandhu.htm

    โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 01/05/2013 16:19:35


    ความคิดเห็นที่ 174


    เคยมีภาพ KDX-II Downgrade ออกมาตั้งแต่4ปีก่อนแล้วครับ กองทัพเรืออาจจะสนใจตามสเป็กนี้ก็ได้ เรือลำบนนะครับ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 02/05/2013 10:41:14


    ความคิดเห็นที่ 175


    แต่ถ้ากองทัพเรือต้องการ Down Size ลดขนาดเรือด้วยก็อาจจะต้องมีการปรับแก้บ้าง   ผมจึงทำแบบจำลองมาให้ชมเพิ่มอีก2แบบ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 02/05/2013 10:47:30


    ความคิดเห็นที่ 176


    สเป็กและราคา ผมคาดเดาเองนะครับความเห็นส่วนตัวสุดๆ

    คิดว่าถ้าแก้แบบจริงๆคงลดโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์เหลือแค่1มากกว่า2ครับ เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำเรามีน้อยและเป็นการผลัดเปลี่ยนไปใช้ตามภาระกิจมากกว่า นอกจากมีเรื่องจริงจึงจะส่งฝุงบินที่ว่าไป


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 02/05/2013 10:52:20


    ความคิดเห็นที่ 177


    ดูไปดูมาผมว่าตัว KDX II (T) น่าจะใกล้เคียงข่าวที่ออกมานะ เพียงแต่ระบบที่ติดตั้งบนเรือเกรงว่าจะออกมาเป็น Sea Giraffe AMB + 2*Ceros 200 + Eos 500 ซึ่งก็จะเหมือน รล.นเรศวร อันนำมาซึ่งประเด็นที่เรากำลังถกเถียงกันอยู่ในเวลานี้ แต่หากทร.ต้องการลดกระแสก็อาจเป็นที่มาของการวิ่งเปลี่ยนสเปกเรดาร์ที่ว่า เป็น 3D ที่มีระยะ detect >350 nm. อย่างน้อยก็จะทำให้โอกาสที่จะเพิ่ม SM2 ในอนาคตยังพอมีอยู่บ้าง และทำให้ภาพรวมของเรือลำใหม่ดูดีขึ้นอีกนิด เท่าที่ตามอ่านมาดูเหมือนว่ามีคนเตะตัดขา THALES ไปเรียบร้อย(หรืออาจสะดุดขาตัวเอง) ประมาณว่ายังไงก็คงไม่ได้เกิด 

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 02/05/2013 11:22:03


    ความคิดเห็นที่ 178


    KDX-IIT Down Size  ผมว่าสามารถใส่ SMART-L ได้สบายเลยนะครับ ผมว่าอย่างงั้นนะครับเพราะSMART-S มันจะลูกเล็กไปทันทีเมื่อไปอยู่ในเรือขนาด3600ตันอีกอย่างเมื่อเทียบสเป็กกันแล้วถ้าเกิดใช้ SMART-S นั้น เรือลำนี้มันก็จะเท่ากับเรือชุดนเรศวรซึ่งในความคิดของผม ก็อาจจะบอกได้ว่ามันดีมานิดเดียวที่มีK-VLSกับโซน่าลากท้าย

    http://www.thalesgroup.com/Countries/Netherlands/Documents/Datasheet_SMART-L/?LangType=2057 ข้อมูลSMART-L

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 02/05/2013 12:04:50


    ความคิดเห็นที่ 179


    บ่องตงเอ้ย บอกตรงๆ 

    งานนี้Thales อาจจะหมดอนาคตไปเลยก็ได้สำหรับทร. 

    เล่นไม่ได้งานแล้ว นายหน้าดันเกรียนซะงั้น 

    โดยส่วนตัว สเป็คเรือที่คาดไว้ อาจจะเป็นแบบที่ว่า 

    คือ SAABเป็นSystem Integrator 

    CMS เป็น9LV Core 

    อาจจะมีASW Console ของต่างเจ้ามาเพิ่ม แล้วFuse เข้ากับCMS ของSAAB 

    เรดาร์3Dเป็น Giraffe AMB อาจจะมีเรดาร์2Dระยะไกล อย่าง RAN-40L หรือ LW-08 หรือ SPS -49A V1/100K??? 

    FCS เป็น Ceros 200 CWI หรือ อาจจะมี Thales STIR1.8/2.4HP โผล่มา หากทร.จะใช้SM-2 

    โซน่าร์หัว เป็นDSQS-24C ลากท้าย อาจจะเป็นACTASจริงๆ 

    ESM ITT ตัวเดียวกับรล.นเรศวร 

    ECM ไม่เชี่ยวชาญ แต่อาจจะเป็นของSamsung THALES

    Integrated Bridge System /Integrated Platform Management System - L3 /Raytheon Anschutz  /Servowatch 

    ICS -SAAB Tacticall  / L3 /Focon IP 

    VLS 16ท่อ (จะ16MK41 หรือ 8+8 ก็แล้วแต่) 

    เครื่องCODAG /CODOG/CODAD 

    เป้าลวงTERMA น่าจะได้ไปกิน หรืออาจจะเป็นNGDS 

    ปืนหลัก 76มม. SR 

    ปืนรอง 30มม. เจ้าเก่า 

    CIWS Phalanx Mk1B  

    MK32 triple 

     

    เดาล้วนๆ 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 02/05/2013 12:48:33


    ความคิดเห็นที่ 180


    สรุปว่าเค้าเป็นนายหน้าของ  Thales  เหรอ? แบบนี้ผมเสียดาย I-Mast แย่เลย เหอๆ

     

    ถ้าเป็นนายหน้าจริงแทนที่จะ Discredit ระบบของ SAAB เอาเวลามาอวยความเทพระบบ Thales ดีกว่า

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 02/05/2013 13:01:50


    ความคิดเห็นที่ 181


    ก่อนหน้านี้ ในTAF เค้าจำแลงกายอีกไอดีหนึ่ง อวยThales ยำSAAB ไม่มีชิ้นดีตอนที่SAABได้งานรล.นเรศวร ......

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 02/05/2013 13:06:15


    ความคิดเห็นที่ 182


    จริงๆงานนี้จะเงิบกว่านี้ หากทร.เลือกCMS ของSamsung THALES หรือ BAE หรือ SELEX  ม้ายิ่งกว่ามืด 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 02/05/2013 13:20:37


    ความคิดเห็นที่ 183


    จากรูป KDX-2 Down Grade กับ FFX

    เป็นผม ให้น้ำหนัก FFX

    คือ มี MK-41 8 cell

    มี K-VL หลังปล่องควัน

    มี SMART-S

    แต่ปืนหน้าเรือ คงจะเป็น 76 ม.ม.

     

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 02/05/2013 14:13:13


    ความคิดเห็นที่ 184


    เรือของ บังคลาเทศ ที่ว่า Mod มาจาก Ulsan Class....นั้น

    ผมคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องระบบอาวุธ ที่เป็นสเปคเดียวกัน มากกว่าครับ...

    เพราะดูรูปแบบเรือแล้ว...มองยังไง ก็เหมือน KDX-1 มากกว่า ครับ...

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 02/05/2013 14:27:12


    ความคิดเห็นที่ 185


    VLSที่สามารถเพิ่มได้มีแค่16ท่อเองเหรอครับ? ผมว่ามันน้อยไปหน่อยไหม แถมSM-2ยังดูท่าจะไม่ได้ แล้วทร.จะเอาไงกับเรื่องAir Defenseล่ะครับ เท่าที่อ่านมาคือESSMมันมีระยะไม่พอยิงเป้าระยะไกลแม้เรดาห์จะตรวจพบก่อนใช่ไหมครับ?
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 02/05/2013 20:20:18


    ความคิดเห็นที่ 186


    VLS MK-41 16 cell  ไม่ใช่ แค่16ท่อ ครับ  เพราะ ESSM 1 cell  ได้ 4 ลูกครับ

    VLS MK-41 16 cell = 64 ลูก  ESSM ครับ แต่แบ่งครึ่ง VLS MK-41 8 cell = 32 ลูก  ESSM  และ VLS MK-41 8 cell = 8 ลูก ASROC ครับ

    แต่จริงๆ แล้วอยากจะได้มากกว่า 48 - 64 cell แต่คงอยากครับ ถ้าเผื่อไว้เพิ่มทีหลังได้คงดี

    โดยคุณ ThaiPc53 เมื่อวันที่ 02/05/2013 21:54:24


    ความคิดเห็นที่ 187


    ก็ใช่ว่าเราจะมีเงินซื้อจรวดมาติดตั้งจนเต็มความจุ ส่วนระยะที่เกิน ESSM จะจัดการได้ ยกให้เป็นหน้าที่ ของ ทอ. ไป

     

    SM2 นี่ไม่ต้องหวังเลย USA ไม่ขายให้เราง่ายๆ แน่ หาที่ประสิทธิภาพเทียบเท่าน่าจะมีโอกาสมากกว่า

     

    แต่ที่ลือว่า ทร. อยากได้ Radar 3D ที่มีระยะ detect >350 nm. (650 กิโลเมตร) นี่โหดไปไหม จะเอาไปตรวจจับ SRBMs เหรอ เหอๆ

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 02/05/2013 22:36:36


    ความคิดเห็นที่ 188


    เรื่อง SM-2 ผมว่าถ้าเราเสนอซื้อไปจริงๆ ก็มีโอกาศได้มาสูงนะครับ (เพียงแต่จะมีเงินไปซื้อหรือเปล่า)

    เพราะ SM-2 เป็นอาวุธเชิงรับ ใช้ในการป้องกันตัวระยะไกล (ถ้าเป็นอาวุธเชิงรุกเช่นโทมาฮอก อาจจะไม่ขาย) แล้วในระแวกนี้ ก็มีสิงค์โปร์ที่มีอาวุธแนวนี้อยู่แล้ว Aster 15/30 ถ้า US จะขายSM-2 ให้เราก็ไม่เแปลก ขนาด ESSM ที่หลายคนคิดว่าเราจะไม่ได้มา เพราะได้ข่าวแว่วๆว่ามาเลเซียขอซื้อยังไม่ได้ แต่เราก็ยังได้มาแล้ว

    โดยคุณ kitty70 เมื่อวันที่ 02/05/2013 22:59:59


    ความคิดเห็นที่ 189


    SMART-L มันต้องมาพร้อม APAR แล้วราคามันแพงจนน่าจะซื้อเรือได้แค่ลำเดียวเองนะ เรือของฮอลแลนด์ De Zeven Provinciën class ประจำการปี2002 ขนาดใหญ่กว่า KDX-II แค่500ตัน ติด 40 VLS ยังราคาลำหละ 816 ล้านดอลเลยนะครับ ขณะที่ F220ของเยอรมันที่เล็กกว่านิดหน่อยดันแพงกว่าประมาณ15เปอร์เซนต์อีก

     

    เรื่องเซลล์ที่เข้ามาป่วนผมว่าเขาคงทำเพียงคนเดียวมากกว่า   ผมยังมองในแง่ดีกว่ากองทัพเรือจะไม่ตัดหางTHALESนะอย่าทำเลย และถ้าผมเป็น Samsung THALES จะพยายามขายของกับเรือลำนี้ให้จงได้ เพราะแนวโน้มที่เรือดำน้ำจะต่อในเกาหลีมันก็ค่อนข้างเยอะพอสมควร ยังทำมาหากินได้อีกนาน

     

    FFX-1 ของคุณจูดาสในภาพเป็น FFX-1 BATCH 2 ที่จะต่อในอู่ DSME หนะครับ ขยายความยาวด้านหน้าเรือเพิ่มระบบป้องกันภัยทางอากาศมากขึ้นและมีระวางขับน้ำเพิ่มจาก 2300ตันเป็น 3000ตัน เข้าแก๊ปเราทุกอย่าง ยกเว้นแต่เพียงว่า มันยังเป็นโปรเจคสุดรักสุดหวงของเกาหลีใต้หนะสิครับ เพราะเรือลำนี้จะต่อเพิ่มอีก12ลำเป็นอย่างต่ำและเป็นเรือใช้งานเขาเลย ถ้ายังต่อไม่ครบคงยังไม่ขายต่างประเทศแน่

     

    แต่ถ้า FFX-1 BATCH 1 ที่ต่อจากอู่ฮุนไดซึ่งเน้นปราบเรือดำน้ำผมว่าเขาวางกระดูกเรือให้เลยนะ เพราะตอนนี้เอามาเร่ขายฟิลิบปินส์อยู่ ผมยังอยากได้เลยนะถูกดี

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 02/05/2013 23:11:08


    ความคิดเห็นที่ 190


    ถ้าเขาเป็นเซลล์Thalesจริง ปานนี้น่าจะเจอตบปากไปแล้วมั้งครับ แต่ถ้าให้ซับซ้อน ว่าเขามีเจตนาชวนให้รู้สึกทำนองนี้ ก็น่าสนใจดี

    โดยคุณ l2emus เมื่อวันที่ 03/05/2013 02:16:32


    ความคิดเห็นที่ 191


    เรื่อง ESSM ผมยังไม่เคยได้ยินว่า สหรัฐ ไม่ขายให้ ไทย นะครับ...

    เท่าที่ทราบ คือ ที่ผ่านมามันติดปัญหาเรื่อง ปริมาณ ที่ ESSM เอง ก็ผลิตมา ยังไม่ได้มากเพียงพอกับความต้องการ รวมถึง สหรัฐ ด้วย...

    และ วัตถุประสงค์หลัก ของ ESSM นั้น...คือ การต่อต้าน อาวุธนำวิถีโจมตีเรือ...ไม่ใช่ เครื่องบิน ครับ...ซึ่ง อาวุธนำวิถีโจมตีเรือ นั้น...มันจะมาจาก 3 ทาง คือ

    1. เรือรบผิวน้ำ

    2. อากาศยาน

    3. เรือดำน้ำ

    การต่อต้าน อากาศยาน น่าจะเป็น วัตถุประสงค์รอง ที่เพิ่มเติมขึ้นมา หรือ ผลประโยชน์ที่มากขึ้นของ ESSM...

    หรือถ้า เรือรบผิวน้ำ เป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศ สามารถปฏิบัติการนอกเขตน่านน้ำ หรือ เขตอำนาจของ กองทัพอากาศ...ก็จะมี SM-1 หรือ 2 ที่จะเน้นการทำลายในระยะไกล เพื่อความอยู่รอดของกองเรือให้มีมากขึ้น หรือ เป้าหมาย คือ อาวุธนำวิถีโจมตีเรือ ที่มาจาก 4 ทาง...

    1. เรือรบผิวน้ำ

    2. อากาศยาน

    3. เรือดำน้ำ

    4. ระบบอาวุธยิงจากฝั่ง

    แต่ในขณะเดียวกัน การมีระบบตรวจจับระยะไกลของเรือรบเอง และความสามารถเดินทางระยะไกลของ misslie ก็ได้วัตถุประสงค์เพิ่ม คือ การทำลายอากาศยานได้ ก่อนการถูกล็อคเป้าด้วยอาวุธนำวิถีโจมตีจาก อากาศยาน โดยการทำลาย อากาศยาน ก่อน...

    ดังนั้น ในแง่การป้องกันภัยทางอากาศ จาก อากาศยานฝ่ายตรงข้าม ภายใต้ พื้นที่น่านฟ้าประเทศไทย...ก็ควรต้องให้ น้ำหนัก หรือ ประสิทธิภาพของ ทอ. เป็นหลัก...

    ทร. เป็นเพียงหน้าที่ เสริม...ถ้าสามารถทำได้ มากกว่าครับ...

    การมี ESSM ให้เพียงพอก่อน...น่าจะมีประโยชน์สูงสุดกว่า การจัดหา SM-2 ในขณะนี้ครับ...

    สำหรับ สิงคโปร์ ด้วยสภาพประเทศ เขาเป็น เกาะขนาดเล็ก...ในแง่ยุทธศาสตร์ การป้องกันประเทศ ก็ต้องดำเนินการในระยะไกล...การถูกโจมตี ด้วยอาวุธนำวิถีเพียงไม่กี่ลูก บนเกาะ ก็สามารถสร้างความเสียหายได้อยางมหาศาล...ระบบอาวุธป้องกันประเทศ จึงต้องเป็นระบบแบบ เชิงรุก...ทำลายฝ่ายตรงข้าม ให้ได้ก่อน...

    สิงคโปร์ จึงควรต้องมี ASTER-30...ซึ่ง ผมมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า...สหรัฐ เอง ก็คงไม่ขาย SM-2 ให้ สิงคโปร์ ด้วยเช่นกัน...เพราะมันจะแสดงความไม่เป็นมิตรกับ มาเลเซีย หรือ อินโดนีเซีย มากกว่า...สิงคโปร์ ถึงต้องไปจัดหา เรือรบจากฝรั่งเศส เพื่อให้ได้ใช้ ASTER-30 ซึ่งมีสมรรถนะใกล้เคียง หรือ เทียบเคียง กันได้..

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 03/05/2013 02:31:13


    ความคิดเห็นที่ 192


    ถ้า สิงคโปร์ มี ASTER-30 แล้วก็ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะจัดหา SM-2 จากสหรัฐอเมริกาไม่ได้ เพราะว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่เริ่มขายอาวุธไม่มีในภูมิภาคนั้นแต่ฝ่ายเดียว แต่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  สิงคโปร์ มี ASTER-30 แล้ว  สหรัฐอเมริกาก็น่าจะขาย  SM-2 ให้เราได้  แต่เราจะมีตังซื้อหรือไม่ ตอนนี้ถ้ายังไม่เอาก็น่าจะเตรียมอุปกรณ์รองรับไว้ก่อนครับ

    โดยคุณ ThaiPc53 เมื่อวันที่ 03/05/2013 10:08:38


    ความคิดเห็นที่ 193


    Standard Missile 2  ผมว่าราคาไม่ได้แตกต่างจาก ESSM ที่ ทร.ไทย จัดหา เท่าไหร่ครับ...

     

    ไทย จัดหา ESSM ในมูลค่าโครงการ 18 ล้านเหรียญ ได้ ESSM จำนวน 8 ลูก (ลูกละ 2 ล้านเหรียญ) +  ลูกฝึก 1 ลูก

     

    ญี่ปุ่น จัดหา SM-2 Block 3A กับ B รวม 64 ลูก มูลค่าโครงการ 104 ล้านเหรียญ (ลูกละ 1.63 ล้านเหรียญ)

    ไตหวัน จัดหา SM-2 Block 3A รวม 144 ลูก มูลค่าโครงการ 272 ล้านเหรียญ (ลูกละ 1.89 ล้านเหรียญ)

    เกาหลี จัดหา SM-2 Block 3A กับ B รวม 84 ลูก มูลค่าโครงการ 170 ล้านเหรียญ (ลูกละ 2 ล้านเหรียญ)

    ออสเตรเลีย จัดห SM-2 Block 3B อย่างเดียว รวม 17 ลูก มูลค่าโครงการ 46 ล้านเหรียญ (ลูกละ 2.7 ล้านเหรียญ)

     

    ราคา SM-2 Block 3A ราคาน่าจะใกล้เคียง หรือไม่เกิน ESSM...ซึ่ง ถ้า ทร.จะจัดหา ก็คงเป็นรุ่นนี้...คงไม่ใช่ Block 3B ที่เน้น ขีปนาวุธ ข้ามทวีป...

    ซึ่ง สหรัฐ เขามี กฎหมายการขายอาวุธ ที่มีแนวโน้ม จะสร้างการสะสมอาวุธให้แก่ ภูมิภาค น่ะครับ...

    ผมว่า น่าจะเป็นเหตุผล นี้ ที่ สิงคโปร์ ไม่น่าจะจัดหามาได้...เพราะถ้า สิงคโปร์ จัดหา SM-2 มาได้...ทั้ง ไทย ทั้ง มาเลเซีย คงเข้าคิว ตามแถว ขอจัดหา กันมาแน่ ๆ ครับ...

    และ สหรัฐ จะจัดภัยคุกคามของ พม่า ที่มีผลกับ ไทย...การจำหน่ายอาวุธให้ น่าจะเทียบเคียงกับ พม่า เป็นหลัก ครับ...สิงคโปร์ กับ มาเลเซีย ไม่น่าจะเป็น ประเทศเทียบเคียง ที สหรัฐ จะจำหน่ายอาวุธให้ไทย...

    การจัดหา Formidable ที่เป็นเรือ น้อง ๆ กับ เอจีส จึงเป็นทางออก ที่ดีที่สุดของ สิงคโปร์...

    ซึ่ง ที มาเลเซีย ในช่วงแรก ยังไม่สามารถจัดหา AIM-120 มาจาก สหรัฐ ได้...น่าจะเป็นเรื่องที่ มาเลเซีย จะมาเทียบเคียงกับ ประเทศไทย ไม่ได้...แต่ใน ปัจจุบัน ที่ สหรัฐ ปล่อยอาวุธให้กับ มาเลเซีย มากขึ้น...น่าจะเป็นผลมาจาก การพิจารณาจากความขัดแย้งในทะเลจีนใต้...และจากการที่ จีน ขยายอำนาจทางทะเล...การขายอาวุธของ สหรัฐ ให้กับ มาเลเซีย น่าจะเป็นการขายในลักษณะเทียบเคียง ภัยคุกคาม ของ มาเลเซีย กับ จีน มากกว่า ครับ...

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 03/05/2013 10:52:37


    ความคิดเห็นที่ 194


     

             เข้าไปอ่านใน TAF  อย่างมันเลย  

        ถ้าสเปกเป็นแบบที่นายหน้าคนนั้นพูด       ผมว่า ทร.คงโดนสับเละแน่ๆจากทั้งสื่อและการเมืองฝ่ายตรงข้าม   และนายหน้าของจีนคงอาศัยจังหวะนั้นล่ะมาขย่มกันอย่างเมามัน        เพราะสเปกแบบนั้น  เรือเกาหลี   ถือว่าแพงมาก       สเปกก็แบบที่ผมเสนอว่าเรือจีนเอาสเปกแค่เรือนเรศวรแต่เพิ่มขีดความสามารถในการต่อต้านเรือดำน้ำ  ส่วนจรวดต่อต้านเรือดำน้ำไว้จัดหาเพิ่มทีหลัง     ถ้าจะได้เรือเกาหลีสเปกนี้   ซื้อเืรือจีนสเปกนี้ 3 ลำไปดีกว่ามั๊งครับ    แถมต่อเองในประเทศด้วย     อ๊อฟเซ็ตทางอุตสาหกรรมก็ใจถึงกว่าเยอะเลย

     

        แต่ถ้าจะไม่ให้ถูกยำเละ   เรือเกาหลี 2 ลำ   ถ้าเลือก CMS จาก Thales   เสา I-Mast-400/500  ควรจะต้องมา  และควรมีอ๊อปชชั่น s-band uplink มาให้ด้วย     

       แต่  CMS จาก SAAB  มา   ก็น่าสู้ราคาเสา  CEA-FAR/CEA-MOUNT  มาด้วย  80 ล้านเหรียญ  2400 ล้านบาท   I-Mast-500  เองถ้าได้อ๊อปชั่น S-band uplink  มาด้วย  ราคาก็น่าจะไม่น้อยกว่า 70 ล้านเหรียญ  หรือกว่า 2000 ล้านบาท    เพราะยังไงจำนวนการผลิตของเรด้าร์ sea master  ก็น่าจะมากกว่ามาก   ราคาต่อหน่วยน่าจะถูกกว่าอยู่บ้าง 


       เดี๋ยวจะไปลองการาคา   smart-s mk-2 และ  FCS  พวก  STIR 180/240  พร้อม ECM  ทั้งหลายที่ขายๆกันเพื่อประเมินราคาเสา I-MAST -400  ดูว่าราคาควรจะประมาณเท่าไรเมื่อต้องเอาทุกอุปกรณ์มายัดรวมในเสาเดียวกัน   

     

        ถ้าเป็นเรือ  KDX-2  down size  ลงมาแถวๆ 4000 ตันแบบที่ท่าน superboy  เอารูปมาลง    ผมสนับสนุนเต็มที่ครับ   แต่ควรมีเสาไอ้มาดมาด้วย


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 03/05/2013 11:19:35


    ความคิดเห็นที่ 195


    เรียนท่านนีโอ ถ้าสเป็คออกแบบนั้นจริง อย่าว่าแต่สื่อภายนอกเลยครับ มองว่ากองเชียร์หลายๆคน จะกลายเป็นกองแช่งแน่ๆครับ

    โดยคุณ Johnny_Thunders เมื่อวันที่ 03/05/2013 11:57:59


    ความคิดเห็นที่ 196


    ตามนั้นครับ ถ้าสเปกออกมาแบบนั้น ไม่ต้องคนนอกหรอก

    คนในบอร์ดที่เชียร์ๆกันอยู่นี่แหล่ะ จะเริ่มแช่งก่อนชาวบ้านเค้าอีก

    ผมก็คนหนึ่งล่ะ ที่รับไม่ได้ ถ้าสเปกออกมาแบบนั้น ในราคาเต็ม

    โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 03/05/2013 12:05:03


    ความคิดเห็นที่ 197


    อาทิตย์นี้ไม่มีงานเลยมีเวลาว่างเยอะหน่อย จากที่ไม่เคยสนใจเกาหลีเลยแต่พอเข้าไปหาข้อมูลน่าประทับใจในความพยายามพึ่งตนเองของเขามากๆนะครับ ซื้อและรับเทคโนโลยีจากอเมริกา ยุโรป และรัสเซียมาประยุกต์ใช้หมด นี่ถ้า F/T-50 ของคุณนีโอขายกองทัพอากาศเราได้คงมันพิลึกดี แต่ยากจังดีลนี้

     

    สงสัยเรื่องราคา ESSM กับ SM2 เลยพอหาข้อมูลได้มาบ้าง ราคาตามภาพต้องอ้างอิงตาม"ปี"ที่ผลิตในภาพด้วยนะครับและราคาเฉพาะจรวดอย่างเดียว ซึ่งมันก็คงงแปรผันกับจำนวนที่สั่งด้วยแหละ

     

    ประเทศไทยซื้อมา9ลูก18ล้านดอล์ คงเพราะรวม MK25 3กล่องและ MK7834กล่อง แต่เราสั่งปี2012

     

    WASHINGTON, August 8, 2012 – The Defense Security Cooperation Agency notified Congress August 7 of a possible Foreign Military Sale to the Government of Thailand for nine Evolved SEASPARROW Missiles (ESSM) and associated equipment, parts, training and logistical support for an estimated cost of $18 million.

    The Government of Thailand has requested a possible sale of nine Evolved SEASPARROW Missiles (ESSM); three MK25 Quad Pack canisters; and four MK783 shipping containers; spare and repair parts; support and test equipment; publications and technical documentation; personnel training and training equipment; U.S. Government and contractor engineering; technical and logistics support services; and technical assistance and other related elements of logistical and program support. The estimated cost is $18 million.

     

    เพราะปี2009นาโต้กับอเมริกาสั่งลูกละไม่ถึง1ล้านเอง

     

    TUCSON, Ariz., Sept. 8, 2009 /PRNewswire/ -- Raytheon Company (NYSE: RTN) was awarded a $151 million contract by the U.S. Navys NATO SeaSparrow program office to produce 186 Evolved SeaSparrow Missiles, with an option for $210.3 million to produce an additional 255 missiles. The agreement will also provide NSPO consortium member navies with spare parts and missile containers.

     

    ส่วน SM-2 Block IIIA หาข่าวยากจังหลังๆเขาซื้อแต่ IIIB หรือ IV กันแล้ว ราคาปี2007 แต่รวมอุปกรณ์อื่นๆด้วยสิ

     

    WASHINGTON, September 12, 2007 - The Defense Security Cooperation Agency notified Congress of
    a possible Foreign Military Sale to the Taipei Economic and Cultural Representative Office in the United
    States of SM-2 Block IIIA STANDARD missiles as well as associated equipment and services. The total
    value, if all options are exercised, could be as high as $272 million.

    The Taipei Economic and Cultural Representative Office in the United States has requested a possible
    sale of 144 SM-2 Block IIIA STANDARD missiles, 16 Telemetry missiles, canisters, containers, spare
    and repair parts, supply support, personnel training and training equipment, publications and technical
    data, U.S. Government and contractor technical assistance and other related elements of logistics support.

     

    สรุปว่าจรวดแพงกว่ากันไม่มากครับ แต่อุปกรณ์ที่จะช่วยส่งเสริมให้ยิงมันยิงขึ้นไปจนถูกเป้าหมายตามสมรรถนะที่แท้จริงแพงกว่าพอสมควร กองทัพเรือยังไม่สนใจจัดหาใน10ปีนี้แน่นอน แต่อนาคตไม่แน่ใจ

     

    ESSM ขายดีไหม ปลายปีที่แล้วผลิตไปครบ2,000ลูกแล้วครับ ถ้าไทยซื้อ SM-2 ไม่ได้อย่าตกใจไป ปี2020 ESSM BLOCK2 กำลังจะมารอตัวนี้ก็ได้น่า

     



    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 03/05/2013 12:11:37


    ความคิดเห็นที่ 198


    เวลาพูดถึง sm-2 นี่พูดถึงรุ่นไหนกันฮะ รุ่นแรกๆมันประมาณ aster 30 แหละครับ แต่รุ่นหลังๆมันไปนุ่นแล้วครับ เป็นอาวุธป้องกัน ballistic missile (ไปสอยเอาในอวกาศ) ระยะยิงเหยียบสามร้อยกว่ากิโลเมตร สอยดาวเทียมได้ ผมก็เชื่อว่าอเมริกาไม่ขายบล็อคหลังๆให้เรา แล้วเราไปเรียบกับสิงค์โปร์ผมก็ว่าไม่ได้อีก สิงค์โปร์เขาใกล้ชิดกอเมริกากว่าเพราะเป็นมหาอำนาจเดียวที่คบอยู่(ขาดอเมริกาเหมือนขาดใจ) ขณะที่ไทยเรารับหน้าทั้งจีนทั้งอเมริกา อาวุธปนกันไปหมด (ฮา)  

    อาวุธระดับนี้มันเป็นเชิงยุทธศาสตร์ครับ มันไม่ใช่แค่เชิงรับแล้วครับ เพราะลองคิดดูว่าถ้าเกิดสงคราม ทำการยิงดาวเทียมของอีกฝ่ายก็แทบจบเห่ครับ เพราะอาวุธนำวิถีข้ามทวีป(icbm) net centric warfare ซึ่งเป็นแนวทางอนาคตของกองทัพต่างๆทั่วโลก (เริ่มใช้กันแล้ว) ขึ้นอยู่กับดาวเทียม จะพิการทันที

    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 03/05/2013 12:13:10


    ความคิดเห็นที่ 199


    ถ้า ทร. จะจัดหา คงเป็น block IIIA ครับ...ซึ่งใช้ STIR 1.8/2.4 ได้ครับ...เป็น Medium Range (75 ก.ม. ขึ้นไป) (ESSM = 50 ก.ม.)

    ซึ่งมีใช้งานอยู่ในเรือ KDX-2 ของ เกาหลีใต้ ครับ...ไม่ต้องถึงระบบ เอจิส...



    SM-2 Medium Range Block III/IIIA/IIIB, RIM-66K/L/M



    The RIM-66M is
    the version of the Standard missile two medium range (SM-2MR) currently in
    service with the USN aboard Ticonderoga class cruisers, and Arleigh Burke class
    destroyers. The missile is specifically designed for the Aegis Combat System
    and the Mk41 Vertical launch system. The Block III
    missiles differ from earlier blocks by the addition of the MK 45 MOD 9 target
    detecting device, for improved performance against low altitude targets. The
    Block IIIB missile additionally has a dual semi-active/infrared seeker for
    terminal homing. The dual seeker is intended for use in high-ECM
    environments, against targets over the horizon or with a small radar cross
    section.[8] The seeker was originally developed for
    the canceled AIM-7R Sparrow air-to-air missile. All USN Block
    III and IIIA missiles are to be upgraded to Block IIIB. Block IIIA missiles are
    operated by the Japanese
    Maritime Self-Defense Force on its Kongo class
    and Atago class
    Aegis destroyers. Aegis equipped vessels in the Spanish and South Korean navies use it as well. The Dutch and German Navies have added it to the Anti-Air
    Warfare system, which uses the Thales Nederland Active Phased Array
    Radar and Smart-L radar. South Korean KDX-II destroyers use the block IIIA with a New Threat Upgrade
    compatible guided missile fire control system. Block III variants for Aegis and
    arm launchers are designated RIM-66L. Block III missiles for New Threat Upgrade
    systems is designated RIM-66K. Block IIIB missiles were not produced for the New Threat Upgrade.
    Blocks IIIA and IIIB are the current production versions. The Thales Nederland STIR 1.8 and 2.4 fire control
    systems are also supported

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 03/05/2013 13:15:14


    ความคิดเห็นที่ 200


    SM-2 มันยังแค่ป้องกันถัยทางอากาศระยะกลางเองครับ

    ถ้าจะเอาไปป้องกันพวกจรวด ballistic missile มันต้อง SM-3 SM-6 ครับ



    โดยคุณ kitty70 เมื่อวันที่ 03/05/2013 14:10:39


    ความคิดเห็นที่ 201


    ระยะยิงของ SM-2


    โดยคุณ kitty70 เมื่อวันที่ 03/05/2013 14:11:32


    ความคิดเห็นที่ 202


    ระยะยิงของ SM-2

    ( ขออีกทีรูปไม่ขึ้น)


    โดยคุณ kitty70 เมื่อวันที่ 03/05/2013 14:14:04


    ความคิดเห็นที่ 203


    sm-2 block 4 ระยะพอกับ sm-3 บางตัว เลยครับ 200 nm หรือ 380 กิโลเมตร

    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 03/05/2013 14:15:04


    ความคิดเห็นที่ 204


    ข้อมูล SM-2 ดูเวปลิ้ง ดังต่อไปนี้ ข้อมูลครบถ้วนทุกรุ่น

    http://www.deagel.com/Surface-to-Air-Missiles/Standard-SM-2-Block-IIIB_a001148006.aspx

    http://www.alternatewars.com/BBOW/Weapons/US_Standard_Missiles.htm

     

    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 03/05/2013 15:11:40


    ความคิดเห็นที่ 205


    ถ้าสามารถซื้อ SM-2 (อเมริกายอมขายให้) ก็น่าจะซื้อเจ้านี้ด้วย

    RUM-139 VLASROC 

     

     


    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 03/05/2013 15:27:23


    ความคิดเห็นที่ 206


    ถ้าตามข่าว(ปล่อย)ที่ว่ามีการวิ่งเปลี่ยนสเปกเรดาร์เป็น 3D ระยะ detect >350 nm. แล้วล่ะก็ อนาคตหากจะใช้ SAM พิสัยไกล ก็ควรมีระยะยิงหวังผล 150-180 กม. เป็นอย่างน้อยครับ (ประมาณว่าต้องสอยบ.ข้าศึกได้ก่อนที่จะเข้ามาในระยะปล่อยจรวด) แต่ก็ต้องดูว่าเรดาร์ชี้เป้า FCS + CWI ที่เลือกใช้จะมีขีดความสามารถถึงขนาดนั้นหรือไม่
    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 03/05/2013 15:37:14


    ความคิดเห็นที่ 207


    ................ผมมองว่า ในการจัดหาเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงของทร.ไทยนั้น...เราจะมองไปที่สมรรถนะความสามารถของเรือเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ได้ ควรมองดูว่า ....เรือในแบบนั้นรูปลักษณ์มีความทันสมัยดูแล้วน่าเกรงขาม สามารถใช้ป้องปรามประเทศที่คิดจะเป็นศัตรูของไทยเราได้หรือไม่.....ในความคิดเห็นของผม...เรือในแบบ KDX-II เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ เรือรบของ สิงค์โปร ที่ต่อขึ้นมาแล้ว และแบบเรือที่กำลังจะต่อของ มาเลเซีย ซึ่งรูปลักษณ์เรือในแบบ KDX-II มองดูแล้วล้าสมัยกว่า อีกทั้งในส่วนกลางลำตัวเรือ ยังมีสภาพโปร่งเปิดโล่ง ทำให้มีสภาพการ ล่องหนน้อย(แบบเรือตรวจจับได้ยาก) อีกทั้งมีรูปลักษณ์ภายนอกมองดูไม่ต่างแตกจาก เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ชั้น ปัตตานี และนราธิวาส ซักเท่าไหร่.....

    ................ในส่วนที่มีผู้มองว่า เรือในแบบ KDX-II มีขนาดใหญ่กว้างขวางมีที่ว่างเหลือให้ อนาคตสามารถปรับปรุงอัปเกรดได้อีกนั้น  ....แต่ความจริงแล้ว ถ้าหากทร.ต้องการแบบเรือเป็นเรือในแบบ KDX-II ก็ตาม .....ก็คงต้องมีการแก้ไขแบบเพื่อลดขนาดเรือลงมา เป็นเรือขนาดไม่เกิน 4000ตัน อยู่ดี..... ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีพื้นที่เหลือมากมายเผือไว้ปรับปรุงอัปเรดในอนาคตดังกล่าวได้(นอกเสียจากรื้อถอนเอาระบบที่มีอยู่เก่าออกไปก่อน)....ส่วนที่มีผู้มองว่า เรือในแบบ KDX-II เป็นเรือที่เกาหลีเคยต่อเรือขึ้นใช้เองแล้วที่ผ่านมาเกาหลีคงผ่านการแก้ไขอุปสรรคในการต่อเรือมาก่อนแล้วนั้น...ผมมองว่า ถ้าหากทร.ต้องการแบบเรือเป็นเรือฟรีเกต KDX-II ขนาดไม่เกิน 4000ตัน ล้วนเป็นการต่อเรือขึ้นมาใหม่ เป็นลำแรก ไม่ต่างไปจาก เรือในแบบ DW 3000H หรือ ในแบบ FFX ซึ่งต้องมีการขยายแบบเพิ่มขนาดเท่ากับขนาดเรือที่ ทร.ไทยเราต้องการอยู่ดี  ...ฉะนั้นในการใช้เหตุผลนี้มาเพื่อหลีกเลี่ยงการแก้ไขอุปสรรคในการต่อเรือในขณะทำการต่อเรือ นำมาใช้เป็นสาเหตุในการเลือกเรือเป็นเรือในแบบ KDX-II นั้น   ไม่น่าฟังขึ้น......

    .................ในส่วนความคิดเห็นของผม ผมขอยกตัวอย่าง เปรียบทียบว่า ......กรณีเหมือนชายหนุ่มรูปหล่อพาหญิงสาวตนเลือกเป็นแฟนไปร่วมงานเลี้ยง...แต่หญิงสาวนางนี้กลับมีหน้าตารูปร่าง ที่ขี้เหร่ แต่งตัวดูไม่ได้ไม่ทันสมัย ซึ่งเทียบเคียงไม่ได้กับผู้หญิงอื่นๆทั้งหมดที่ไปร่วมงานเลี้ยงนี้เลย....แม้ความจริงแล้วหญิงสาวนางนี้จะเก่งการบ้านการเรือนเป็นกุลสตรีก็ตาม....แต่ความดีความเก่งของหญิงสาวนางนี้ดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่บุคคลคนทั่วไป มองเห็นได้ยาก....เพราะผู้หญิงที่ขาดความสวย คงไม่ต่างจากน้ำตาลที่ขาดความหวาน....ในสังคมในงานเลี้ยงนี้ จึงคงไม่นิยมชมชอบยกย่องหญิงสาวนางนี้............

    ..................ดังนั้น ในความคิดของผม ผมเห็นว่า ในความทันสมัยและรูปแบบของความล่องหน(ตรวจจับได้ยาก) ของแบบเรือ KDX-II   คงยังไม่สามารถเทียบเคียงได้กับ เรือในแบบ DW 3000H หรือ ในแบบ FFX ได้แต่อย่างใด....ครับ/สกายนาย

     

    โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 03/05/2013 15:52:50


    ความคิดเห็นที่ 208


    จะเลือกแบบเรือใดมาใช้ก็ตาม เชื่อว่าต้องมีการปรับปรุงแก้ไขแบบรูปทรงของตัวเรือตามสมัยนิยมครับ มูลค่าสินค้าสูงขนาดนี้เพียงแค่การปรับแต่งรูปทรงภายนอกก็ไม่ได้ยากและเสียค่าใช้จ่ายมากมายนัก ผมยังเชื่อในบุคคลากรของกองทัพเรือ ว่าจะสามารถปรับแต่งให้หน้าตาของเรือทั้งสองลำนี้ออกมาดูดีไม่น้อยหน้าเพื่อนบ้าน เหมือนที่เคยทำกับรล.นเรศวร และ รล.ปัตตานี ผมจึงอยากให้ความสำคัญในการเลือกที่คุณลักษณะพื้นฐานและสมรรถนะของแบบตัวเรือก่อนครับ ส่วนรูปทรงของเรืออย่าง DW3000H หรือ FFX เองแม้จะดูทันสมัยก็ยังสู้รูปทรงเรือของสิงคโปร์หรือฝรั่งเศสไม่ได้อยู่ดีครับ 

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 03/05/2013 17:56:10


    ความคิดเห็นที่ 209


    ..........ขออภัยอย่างสูง..ที่ขนาดตัวหนังสือที่ผมโพสไว้ข้างบนนั้นใหญ่ไป....ผมขอความกรุณาเว็บมาสเตอร์ช่วยลดขนาดตัวหนังสือของผมลงด้วย.....ครับ/สกายนาย

     

     

    แก้ไขให้แล้วนะครับคุณสกายนาย แต่ปัจจุบันสมาชิกสามารถเข้าไปแก้ไขข้อความที่พิมพ์ได้เองแล้วครับผม/ ADMIN

    โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 03/05/2013 15:59:18


    ความคิดเห็นที่ 210


    ท่านประธานครับผมขอประท้วงครับ

     

    FFX-I หรือเรือชั้นอิลชอน ไม่มีคุณสมบัติล่องหนครับ และเขาลอกเลียนแบบเรือหลวงปัตตานีเราไปครับ

     

    ผมมีหลักฐานเด็ดจะแจ้งให้ทราบ เหมือนกันยังกับแกะเลยดูสิ ขนาดหมายเลขเรือยังลอกกันหน้าด้านๆ

     

    511ของเรา 811ของเขา ดูจากภาพแล้วเรือเรามีคุณสมบัติล่องหนได้ดีกว่าครับ เพราะมองไม่เห็นปืนเรือกันเลยใช่ไหม 5555 ขำๆรับวันหยุดยาวกันนะครับ

     

    ส่วนเรือล่องหนของแท้ขวามือด้านล่างนั่นครับนั่นคือมายไอดอลของเราเลย ขอแค่เทียบเท่าเขาก็พอ  ไอ้ก้อนเหลี่ยมๆขาวๆนั่นแหละที่เราอยากได้กันมาก


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 03/05/2013 19:33:39


    ความคิดเห็นที่ 211


    ทีนี้ขอขายของเก่ากินอีกรอบหนึ่งนะครับ  FFX-I batch2 และ WD3000H สามารถติดระบบVLSด้านหน้าได้8cellจริงครับอาจจะขยายได้ถึง16ด้วยเอ้า แต่เรือค่อนข้างเล็กและโดยเฉพาะลำหลังเตี้ยมากเชียวเพราะเน้นเรื่องดีไซน์ล่องหน จรึงน่าจะสามารถติดVLSได้แค่รุ่นSelf defence ลึก 5.3เมตรเหมือนเรือหลวงนเรศวรของเรา นั่นหมายถึงจะใส่ได้แค่ ESSM ระบบเดียวเท่านั้น ผมแถม ASTER15 กับ RAM Block2 ให้ด้วย

     

    ขณะที่เรือลำใหญ่หน้าตาโบราณเหมือนเรือหลวงนราธิวาสของเรา รองรับVLS ด้านหน้าเรืออย่างน้อยๆก็32cell หละถึงจะโดนตัดต่อยังไงก็ตาม และด้วยความสุงใหญ่กว้างของเรือทำให้มันใส่XLSรุ่นStrike ลึก 7.7เมตรได้เลย แปลว่าถ้าเรามีเงินและอเมริกายอมขายโทมาฮอคให้ก็ใส่ได้เลย บิงโก

     

    ผมจึงเห็นต่างว่าเอาใหญ่ๆมาก่อนเถอะ เวลาไปจอเทียบเรือสิงค์โปรแล้วยังไงเราก็ข่มเรื่องขนาดหละนะ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 03/05/2013 20:02:50


    ความคิดเห็นที่ 212


    สำหรับรล.นเรศวรได้ยินว่าเป็นรุ่นTactical ไม่ใช่Self defense 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 03/05/2013 20:22:30


    ความคิดเห็นที่ 213


    ใช่ครับท่าน icy_CMU   ผมก็ได้ยินว่า รล.นเรศวรของเรา  ไม่ใช่ระดับSelf defense   แต่ดันแค่มันใส่ไปด้านหน้าได้แค่8Cell  เท่านั้นเอง ถ้าได้เป็น16Cellละสนุกเลยนะครับ

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 03/05/2013 20:42:14


    ความคิดเห็นที่ 214


    เรื่องFFX ลอกเรือปัตตานีไม่ทราบว่า มุข หรือ เอาจริง ? 

    ก้อนเหลี่ยมๆขาวๆ หรือ Herakles ......ไม่ได้อยากได้เลย เพราะจริงๆแล้ว มันก็ไม่ได้ต่างจากSmart-S เลย แค่มีUplink Channel ให้Asterเท่านั้น

    แต่ที่อยากได้คือ อวป.พื้นสู่อากาศที่สูสีกับASTER30 ต่างหาก  

     ส่วนเรื่องระวางขับน้ำนั้น ......ใหญ่ ใช่ว่าดี 

    เอาง่ายๆ 

    La Fayette เหมือนกัน 

    Al Riyadh Class มีฟูลโหลด 4500ตัน .......Formidable 3500ตัน 

    อัลริยาดห์มีแค่Aster 15 16ท่อ Formidable มีAster 30 32ท่อ 

    อัลริยาดห์ใช้Arabel ส่วนFormidable มีHerakles 

    และต่อในยุคใกล้ๆกันห่างไม่ถึง5ปี ...... 

    ใหญ่ใช่ว่าดี 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 03/05/2013 20:42:41


    ความคิดเห็นที่ 215


    ถ้าพูดถึงแค่รูปร่างภายนอกผมว่า DW3000H ยัง low profile มากกว่า formidable class ของ สิงคโปร์ เสียอีก ไม่มีเสาพะรุงพะรัง มีการปิดช่องว่างต่างๆ ตลอดแนว

    แถมระบบสื่อสารกับเรดาห์กว่าร้อยละ 90 ได้ถูกรวมมาอยู่ในโมดูล I-Mast แล้ว ส่งผลไปถึงการดูแลรักษาที่สะดวก  และทำให้ส่วนอื่นอย่างโรงเก็บ ฮ. มีที่ว่างมากขึ้น

    เป็นแบบเรือที่จัดการพื็นที่ใช้สอยได้ดีแบบหนึ่ง พื้นที่มิติหน้าเรือติดระบบอาวุธได้แค่ไหน ผมยังไม่กล้าวิจารณ์เพราะยังไม่มีข้อมูลเลยว่ามันมีความลึกเท่าไรกันแน่

    และทีเด็ดของ formidable class สิงคโปร์ ไม่ได้อยู่ที่รูปร่างหน้าตาหรือเรดาห์ Herakles อย่างเดียว ยังมีระบบอำนวยการรบ และเซ็นเซอร์เจ๋งๆ ด้วย

     

     

    อยากลด rcs มากกว่านี้คงต้องทำแบบ USA แล้ว เอาอุปกรณ์ต่างๆ ยัดในตัวเรือหมดปูด้วยวัสดุดูดซับเรดาห์

     



    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 03/05/2013 21:04:12


    ความคิดเห็นที่ 216


    ขอบคุณคุณไอซ์มากนะครับที่มาแก้ไขข้อมูลเรื่องVLSของเรือหลวงนเรศวรให้ ผมจำผิดมาตลอดเลยสิเนี่ย

     

    แต่เรือAl Riyadh Class นี่ผมว่ามันเสียของจริงๆเลยนะเรือลำตั้งใหญ่ได้มาแค่นี้เอง เทียบกับเรือสิงค์โปร์แล้วลำนี้ขี้เหร่ไปเลย


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 03/05/2013 21:35:26


    ความคิดเห็นที่ 217


    แหม่...ท่านก็ ระยะเวลาห่างกันอย่าว่าแต่ 5 ปีเลยครับ บางทีแค่ปีหรือสองปีอะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงไปได้เยอะแยะ โดยเฉพาะเทคโนโลยีและการออกแบบ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ "เงิน" เป็นสำคัญ อย่างตอนที่สิงคโปร์เริ่มโครงการนั้น ทาง DCNS ฝรั่งเศสเองก็กำลังต่อ FREMM ซึ่งมีระบบที่ล้ำสมัยและหน้าตาสวยงาม ก็ไม่แปลกที่สิงคโปร์จะเอามาใช้เป็นต้นแบบในการต่อเรือของตนเอง เพียงแต่พื้นฐานแบบแปลนโครงสร้างมาจาก La Fayette ที่มีขนาด 3,000 ตัน แต่รูปร่างหน้าตาภายนอกละม้ายคล้าย FREMM ที่มีขนาด 6,000 ตัน อย่างกับแกะย่อส่วน 55555+

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 04/05/2013 11:02:16


    ความคิดเห็นที่ 218


    ลองดูความเหมือนของหน้าตา กับขนาดที่แตกต่าง กันนะครับ ^  ^

     

    ปล. ขออภัยด้วยนะครับ ผมลืมย่อรูปครับ แล้วมันก็แก้ไม่ได้ด้วยสิ -.-"

    FREMM


    Formidable Class



    Formidable Class


    Formidable Class


    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 04/05/2013 11:15:55


    ความคิดเห็นที่ 219


    ท่าน superboy กรณีการจัดซื้ออาวุธของกลุ่มประเทสตะวันออกกลาง บางรายการที่มีสมรรถนะหรือติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่ สุดๆ อย่างที่ควรจะเป้น ส่วนนึงก็เพราะพลังแรงลอ๊บบี้ของอิสราเอลด้วยครับ เรียกได้ว่าไปรังควานเกือบทุกรายการจริงๆ...

    โดยคุณ Johnny_Thunders เมื่อวันที่ 04/05/2013 11:16:35


    ความคิดเห็นที่ 220


    รูปนี้อัพไม่ขึ้นแหะ ลองใหม่ๆ

    FREMM


    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 04/05/2013 11:23:11


    ความคิดเห็นที่ 221


    วันหยุดยาวรู้สึกจะเพื่อนๆจะไปเที่ยวกันหมดนะครับ เรามาคุยเรื่องเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือกันดีกว่า ตอนนี้เรามีเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ปราบเรือดำน้ำได้คือ S-70B 6ลำและ super lynx300 2ลำ แต่ก็มีโครงการจะซื้อเพิ่่มด้วยคิดว่าคงเอามาใช้กับเรือใหม่เรานี่แหละ แต่จะเป็นแบบไหนหละ

     

    super lynx300 เห็นว่าเน้นงานหลักไปทางด้านต่อต้านเรือผิวน้ำและน่าจะประจำการกับเรือชั้นปัตตานีมากกว่าลำไหน ส่วนเรือใหม่เราถ้าต้องไปปราบเรือดำน้ำจริงๆคงต้องแบ่ง S-70B ลำที่มีอุปกรณ์ครบมาใช้ไปก่อนจนกว่าจะได้ของใหม่

     

    แต่เราก็ยังมีเรือชั้นนเรศวรอีก2ลำ กระบุรี สายบุรี อีก2ลำ รวมทั้งเรือพุทธฯอีก2ลำ ที่ต้องการใช้งาน เอ่อ.. มันน้อยไปจริงๆด้วยนะ

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 05/05/2013 20:04:16


    ความคิดเห็นที่ 222


    เห็นเค้าบอกว่าจะจัดหาSuper Lynx 300  เพิ่มอีก2ลำมา นิครับ แต่ตอนหลังก็ถูกยกเลิกไป เพื่อจะเอางบไปจัดหาMH-60S เพิ่มอีก เห็นบอกว่าเร่งด้วย อีกอย่างSuper Lynx 300 ผมว่ามันไม่เหมาะกับเรือฟริเกตชุดใหม่นะครับ   ที่จะเอาไปปราบเรือดำน้ำ อาจจะมีการนำS-70Bมา อยู่เป็นเพื่อนสักพัก พอที่เราจะจัดหา ฮ.ปราบเรือดำน้ำใหม่   แต่ฮ.แบบใหม่ผมขอ MH-60R แทนละกันนะครับ   Super Lynx 300มันเล็กและดูดีก็จริง แต่เห็นบอกว่าอะไหร่แพงหน้าดู แต่ถ้าเราจัดหาMH-60R  อะไหร่บางตัวมันก็ยังจะสามารถสลับสับเปลี่ยนกับMH-60S ได้แบบสบาย ไม่ต้องคิดไรมากแต่จะทำให้กองทัพเรือมีฮ. มากไปแบบหรือปล่าว

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 05/05/2013 22:17:02


    ความคิดเห็นที่ 223


    แต่ราคา MH-60R มันจะแรงไปหน่อยหนะสิครับ เดนมาร์คสั่ง12ลำในปี2010 ในราคา2พันล้านดอล์ เทียบกับเรือเรา2ลำ1พันล้านดอล์แปลว่าเฮลิคอปเตอร์3ลำเท่ากับเรือ1ลำพอดี เข้าใจว่ารวมอะไหล่อุปกรณ์การอบรมและอื่นๆด้วยแต่ก็ยังแพงอยู่ดี เท่ากับลำหละ166ล้านดอล

     

    Denmark – MH-60R Multi-Mission Helicopters
    WASHINGTON, November 30, 2010 – The Defense Security Cooperation Agency notified Congress November 29 of a possible Foreign Military Sale to Denmark of 12 MH-60R SEAHAWK Multi-Mission Helicopters and associated parts, equipment and logistical support for an estimated cost of $2.0 billion.
    The Government of Denmark has requested a possible sale of 12 MH-60R SEAHAWK Multi-Mission Helicopters, 27 T-700 GE 401C Engines (24 installed and 3 spares), communication equipment, support equipment, spare and repair parts, tools and test equipment, technical data and publications, personnel training and training equipment, U.S. government and contractor engineering, technical, and logistics support services, and other related elements of logistics support. The estimated cost is $2.0 billion.

     

    ส่วนออสเตรเลียสั่งซื้อมนปี2011 เช่นกันในราคาเฉลี่ยลำหละ 132.5ล้านดอล 

     

    Australia inks A$3bn deal for 24 MH-60R naval helicopters

      Greg Waldron Singapore
    04:38 16 Jun 2011 

    The MH-60R was offered for Australia’s Air 9000 requirement by a team that also includes CAE, General Electric and Raytheon. The aircraft will replace the Royal Australian Navy’s 16 Sikorsky S-70B Seahawks, which have served for 20 years.

    Australia has signed a letter of agreement with the USA, with its first two MH-60Rs to arrive in mid-2014 for testing, and operations to commence in 2015. With 24 aircraft, the navy will be able to provide at least eight warships with a helicopter at the same time.

    “The 2009 defence White Paper committed the government to equipping naval warships with a new combat helicopter capable of conducting a range of maritime missions with advanced anti-submarine warfare capabilities, and the ability to fire air-to-surface missiles,” said Jason Clare, minister for defence materiel.

     

    ส่วนข้อมูลในวิกิบอกไว้ว่าลำหละUS$42.9m สงสัยจะไม่รวมอุปกรณ์เสริมทั้งหลายแน่ๆเลย

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 06/05/2013 15:53:28


    ความคิดเห็นที่ 224


     ผมคิดว่ายังไม่คุ้มค่าเท่าไรในการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือเพิ่มเติม เอาเข้าจริงเฮลิคอปเตอร์มีเวลาจำกัดในการค้นหาและเสียค่าใช้จ่ายสูง

    เมื่อดูภัยคุกคามในปัจจุบันแล้วการจัดหาโซน่าร์ลากท้ายดีๆ เช่น CAPTAS-2 หลายๆ ระบบมาติดตั้งให้พวกเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งน่าจะดีกว่า


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 06/05/2013 16:35:26


    ความคิดเห็นที่ 225


       ขอบคุณป๋าจูลดาสมากนะครับสำหรับรูป DW-1400T   ทราบว่าทางเกาหลีพยายามพัฒนาระบบ AIP และ ระบบโซน่าร์ข้างลำตัวเรือด้วยเทคโนโลยีที่ตัวเองรับมาและพัฒนาร่วม   คาดว่าอีก 2-3 ปี น่าจะแล้วเสร็จ    นึกไม่ถึงจริงๆว่ามันจะเสร็จได้รวดเร็วปานนี้ครับ    ก็เท่ากับว่ามีตัวเลือกมากขึ้นสำหรับเรือดำน้ำว่าจะเป็น  Type 209 1400/AIP  ของเยอรมันกับเกาหลี

       ที่เร็วขนาดนี้ก็น่าจะเป็นเพราะเกาหลีใต้กำลังพัฒนาเรือดำน้ำขนาด 3000 ตันเป็นของตนเองด้วย   และต้องการระบบ AIP ใช้กับมัน    งั้นถ้าเราจัดหามันเป็นรายการถัดไป   ก็เป็นเจ้าแรกที่ลองของระบบ AIP จากเกาหลีเลยนะนี่

      ดังนั้นสำหรับผม   ถ้าเกาหลีใต้มีการพัฒนารวดเร็วเช่นนี้    ผมว่า Chelomae-2  น่าจะมีการพัฒนาการได้เร็วเกินกว่าที่ผมคิดล่ะว่า 5-6 ปีข้างหน้า  เกาหลีน่าจะพัฒนาแล้วเสร็จ   เป็น Active radar missile  แบบ  ASTER-30   ไม่ใช่  semi-active

     

       ยืนยันด้วยคนครับว่าเป็นรุ่น Tactical     แต่จะเชื่อมต่อกับ  9LV mk-4 เพื่อยิง  VL-ASROC  ได้นั้น  ไม่รู้ว่าทร.ให้ทาง SAAB  ทำการเชื่อมระบบเข้ากับ VLS-mk-41 ด้วยหรือเปล่า   ผมเชื่อว่ามันสามารถเชื่อมต่อกันได้    แต่คงต้องเพิ่มเงินล่ะ

     

      

    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 06/05/2013 22:12:48


    ความคิดเห็นที่ 226


        ราคา  RAM block-2  ในเว๊บที่ผมไปหาข้อมูล   เริ่มทำการผลิตส่งมอบให้ทั้งเยอรมันและทร.อเมริกาในกำลังการผลิตต่ำอยู่    ราคาตกเฉลี่ยลูกละประมาณ 740,000  เหรียญ   ตกลูกละ  22 ล้านบาท

       จากราคา  RAM  block-2   คาดว่า(เดาเอง)  ราคา  ESSM  ที่ไม่รวมรายการอื่นๆ   น่าจะเกิน 30 ล้านบาทต่อลูกแล้ว   น่าจะอยู่ในช่วง  1 - 1.2 ล้านเหรียญ     

       ESSM  block-2  คงมีการเพิ่มระยะยิงขึ้นไปกว่า 50+ km.  นะครับ   เพราะ  RAM  block-2  ก็มีระยะยิงประมาณ  18 km.  (ทางเว๊บผู้ผลิตบอกว่าเพิ่มระยะยิง 2 เท่า)    ดังนั้นน่าจะ 60-70 กิโลเมตรขึ้นไป      และจากการคาดเดาของผม  น่าจะมีการเพิ่มขนาดความกว้างของตัวจรวดให้เท่ากับบูสเตอร์ได้   และอาจจะมีการเพิ่มความยาวของจรวดขึ้นอีกเล็กน้อย    ถ้าแบบนี้     เราจะไปจัดหา  SM-2 block 3  แบบเก่าที่มีระยะยิง 75 km.    ผมว่ารอ ESSM  block-2  ดีกว่าครับ    ถ้าจะเล่น  SM-2  ควรจะเล่นรุ่นที่มีระยะยิง  160+ km.    มากกว่า  

     

       ส่วน ฮ.  ปราบเรือดำน้ำ   ผมว่า ทร. คงจะต้องเอา ฮ.  S-70B  ที่เครื่องมือพร้อมสุดไปติดตั้งบนเรือใหม่ก่อนครับ    แล้วรองบใหม่สำหรับการจัดหาเพิ่ม    เพราะเนื่องจากมีคิวการจัดหาเรือดำน้ำมาก่อนและเร่งด่วนที่สุด    คิดว่าเมื่อมีการจัดหาเรือดำน้ำแล้ว   ฮ. ปราบเรือดำน้ำน่าจะมีการพิจารณาจัดหาถัดไป

      ส่วน  Lynx 300  ชุดที่ 2  อีกจำนวน 2 ลำ  จัดหาไปแล้วไม่ใช่หรือ   จากกระทู้เก่าที่คุยทิ้งกันเอาไว้    เอามาเพื่อเรือชั้นนเรศวรโดยเฉพาะ    หรือว่าจัดหามาแต่  MH-60  ทั้งหมด


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 06/05/2013 22:27:35


    ความคิดเห็นที่ 227


    ทดสอบๆ แปลกๆครับ ว่าทำไม อ่านกระทู้นี้ได้ถึง แค่คุณสกายนาย คนต่อมาดูไม่ได้เลย

    โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 06/05/2013 23:26:56


    ความคิดเห็นที่ 228


    มีความเห็นตรงกับท่าน neosiamese2 ครับ เรื่อง SM2 อย่างน้อยหากจะจัดหามาก็ควรเป็นรุ่น SM2 block IIIA (RIM-66) ระยะยิง ~90 nm. หรือ รุ่น SM2 ER (Extended Range ; RIM-67) ที่มีระยะยิง ~100 nm. แต่ตัวหลังดันใช้บู๊สเตอร์ยาว ความยาวรวมตั้ง 7.9 ม. ซึ่งรุ่นใหม่กว่าอย่าง SM2 block IV ER (RIM-156) กลับสั้นกว่ายาวแค่ 6.55 ม. เพราะบู๊สเตอร์อ้วนกว่าแต่สั้นกว่า ระยะยิง ~130 nm. ท้ายที่สุดก็อยู่ที่งบประมาณและความกรุณาของท่านมหาอำนาจอยู่ดี

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 07/05/2013 12:10:39


    ความคิดเห็นที่ 229


    อยากได้ SM2 block IIIA (RIM-66) ระยะยิง ~90 nm. หรือ รุ่น SM2 ER (Extended Range ; RIM-67) เหมื่อนกันครับ

    แต่เบื่องต้นก็ต้องดูก่อนว่าจะได้ระบบเรดาห์และควบคุมการยิงจากเจ้าไหน

    ถ้าเป็น Thales ก็มีลุ้นยิงได้เลยหรือ Upgrape ได้ง่ายเพื่อให้ยิงได้ในอนาคต

    ถ้าเป็น SAAB อย่างข่าวปล่อย ก็upgrade กันลำบากหน่อย ต้องใช้เงินอีกเยอะถึงจะยิงได้

    โดยคุณ kitty70 เมื่อวันที่ 07/05/2013 16:45:53


    ความคิดเห็นที่ 230


    China commissions new stealth frigate (type 056)
     

    เครดิตรhttp://www.terminalx.org/2013/03/china-commissions-new-stealth-frigate.html


    โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 07/05/2013 18:19:34


    ความคิดเห็นที่ 231


    .....



    โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 07/05/2013 18:47:13


    ความคิดเห็นที่ 232


    China commissions new stealth frigate (type 056) ดูเหมือนSIGMAของเนเธอร์แลนด์ที่อินโดฯสั่งซื้อมากเลย หรือว่าจะมาแบบiPhone 2ซิม
    โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 07/05/2013 21:09:33


    ความคิดเห็นที่ 233


    หวยออก KDX II 

     

    The Royal Thai Navy will ask the cabinet to approve a budget of 13 billion baht for a new frigate to be built by a South Korean shipyard.

    Navy chief Adm Surasak Rounroengrom said the Royal Thai Armed Forces Headquarters is scrutinising the budget proposal and later will forward it to the Ministry of Defence. Once approved, it will be submitted to the cabinet for consideration, he said. 

    A navy source said the navy had set up several sub-committees to coordinate with the Korea-based shipbuilding and offshore contractor. 

    A navy selection committee last month chose Daewoo Shipbuilding and Marine Engineering to build the new frigate, a navy source said.

    The company was one of two South Korean firms in the final round of bidding, organised by the navy panel.

    Three other three foreign firms were eliminated in the previous rounds - from Spain, Italy and China.

    The source said the high-capability frigate to be built by Daewoo would be based on the company’s type DX II frigate, which has a displacement of 5,000 tonnes, with modifications to meet the Thai navy’s special requirements.

    The new navy ship will have a displacement of between 3,000 and 4,000 tonnes.   

    Navy chief of staff Chakchai Phucharoenyot, who chaired the selection committee, earlier told the media the navy also asked the company to install a Combat Management System (CMS) which can be allied to the systems already installed in the frigates HTMS Naresuan and HTMS Taksin.

    The new frigate, which would be the first South Korean-built naval vessel in the Thai fleet, is expected to be ready for commissioning in two years, Adm Chakchai said.

     

    http://www.bangkokpost.com/news/local/350375/navy-to-seek-b13-billion-for-new-frigate

    โดยคุณ randolph69 เมื่อวันที่ 17/05/2013 08:47:33


    ความคิดเห็นที่ 234


    50/50 ก่อนนะครับ อย่างเพิ่งสรุป  โดยเฉพาะถ้าเป็นข่าวจากเจ๊คนนี้  รอ ทร.แถลงอย่างเป็นทางการก่อนจะดีที่สุดครับ

    โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 17/05/2013 09:49:18


    ความคิดเห็นที่ 235


    กลัวจะเป็นเหมือนข่าวเรือจีน  ถ้าเป็นข่าวจริงนะ เรือที่เลือกมาแนวม้ามืดแบบกองทัพบกเลย

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 17/05/2013 09:57:38


    ความคิดเห็นที่ 236


    ข่าวเลือก บ.เกาหลี ก็มาจากเจ๊แกคนแรก

     

    เลยคิดว่า แหล่งข่าวของเจ๊แก รอบนี้น่าจะน่าจะมีมูล

    โดยคุณ randolph69 เมื่อวันที่ 17/05/2013 09:59:57


    ความคิดเห็นที่ 237


    ผมก็ว่าเจ๊แกไม่มั่วนะครับงานนี้

    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 17/05/2013 10:15:30


    ความคิดเห็นที่ 238


    ถ้าข่าวนี้จริง ต้องขอปรบมือให้ท่าน superboy กันหน่อยแล้ว แปะ แปะ แปะ ตอนนี้ก็มาลุ้นกันว่าจะออกมารูปร่างหน้าตาแบบไหน มีทั้ง Down size และ Down grade และระบบต่างๆ ที่จะถูกติดตั้งบนเรือลำนี้จะโดนใจ หรือโดนด่า เดือนหน้ารู้กัน

     

    ปล.จากรูปของท่าน superboy ผมดูแล้วรู้สึกว่าหน้าตาจะละม้ายคล้ายรล.นเรศวร/ตากสิน มากไปไหมเนี่ยะ -.-"

     

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 17/05/2013 10:45:49


    ความคิดเห็นที่ 239


    ถ้าได้แบบKDX-II  แบบ Down size และ Down grade   งานนี้ท่าน superboy  สงสัยจะถูกหวยอย่างแรง  แต่แบบเรือKDX-IIก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะจะได้ลดปัญหาเรื่องแบบเรือที่อาจจะมีปัญหาในเวลาเมื่อต่อเสร็จแล้ว   อีกอย่างโรงเก็บฮ.ก็ลองรับได้ถึง2ลำ  สบายเลยแหละครับอีกอย่างผมว่าเป็นแบบเรือที่ยืดหยุ่นๆ มากมีเนื้อที่สามารถติดตั้งอะไรเพิ่มได้ในอนาคตอย่างสบาย แต่ที่หน้าห่วงในเวลานี้ผมว่าน่าจะอยู่ที่ระบบอำนวยการรบและพวกเรดาร์ที่เคยมีข่าวลือกันมาก่อน แต่ถ้าthalesชนะแบบใสๆ ละก็ มันจะออกมาเป็นi-mast 500 หรือsmart-s  หว่าเนี้ย

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 17/05/2013 12:36:54


    ความคิดเห็นที่ 240


    .........ส่วนตัวผมมองว่า แบบเรือ KDX-II ยังล้าสมัย และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับแบบเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ชั้นเรือหลวงกระบี่ ที่ไทยเราต่อเรือขึ้นเองภายในประเทศนั้น ....เรือหลวงกระบี่ยังมีแบบเรือที่มีความทันสมัยอยู่มากกว่ามาก....ประกอบกับแบบเรือ KDX มีตอนกลางลำเรือเปิดโล่ง ทำให้มีคุณสมบัติตรวจจัดได้ยาก(ล่องหน)ต่ำกว่าเรือแบบอื่นๆ.....ที่นี้คงต้องมีดูว่า...ระบบอำนวยการรบ, ระบบอาวุธ และเรดาร์ ที่ ทร.เลือกนั้น .....จะต่ำตามรูปแบบตัวเรือ ไปด้วย หรือไม่......แต่ตอนนี้ผมอดสงสัย ถึงความโปร่งใสของการจัดหาเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงในครั้งนี้ว่า...จะสูงเฉพาะแต่เพียงราคา..หรือจะสูงด้วยสมรรถนะ เรือกันแน่........ครับ/สกายนาย

    โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 17/05/2013 14:01:44


    ความคิดเห็นที่ 241


    ผมว่าเรื่องความสเตลธ์ของเรือไม่สำคัญเท่าเครื่องบินหรอกครับ เครื่องบินเสตลธ์ดีๆเปิดโหมดพาสซีฟ หรือรับสัญญาณจากเอแว็คก็แทบล่องหน เรือลำเท่าช้างอีกฝ่ายก็ตรวจจับได้อยู่ดี ถึงจะได้ไซส์หน้าตัดเรดาร์เท่าเรือที่เล็กกว่า(เช่นทำให้ข้าศึกสับสนว่าเป็นเรือประมงลำจิ๋วๆ) เพราะจะให้เรือมาเปิดสัญญารต่างๆภาครับคงเหมือนเป็นง่อย นอกจากนี้เรือรบเขาสามารถตรวจจับเรดาร์ชนิดต่างๆที่เรือฝ่ายตรงข้ามแพร่คลื่นมาใส่ได้ว่าเป็นทางทหารหรือไม่ แยกประเภทกันได้เลยทีเดียว

    ระบบตรวจจับและอาวุธต่างหากที่สำคัญกว่า

    ผมก็ดีใจนะที่จะสร้างจากแบบ KDXII ไม่ใช่ DW3000H ซึ่งลำและเสป็คค่อนข้างต๊อกต๋อยกว่ามาก

    ลองคิดดูเรืออเมริกาปัจจุบันแต่ละลำแทบจะไร้ความเสตลธ์ เก่างัก ระโยงระยางเต็มไปหมด แต่เรดาร์ไกลปื๊ดป๊าด อาวุธอีกกระบุงโกย ระบบอีจีสอันเป็นตำนาน(ฮา) ถือว่าเป็นหนึ่งในทางทะเลเลย 

    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 17/05/2013 17:44:48


    ความคิดเห็นที่ 242


    เอาเรือของอเมริกามาเทียบมันยังไงอยู่นะครับท่าน เรือพี่แกลำล่ะตั้งเท่าไร งบบานพี่แกไม่กลัวขอให้ได้ของดีที่สุด เรือ Gen ต่อไปของอเมริกาก็เน้น stealth กันหมดแล้ว

     

    ของเราเกินงบไม่ได้ มีแต่ตัดงบ และผมเชื่อว่าค่าต่อ  KDXII ยังไงก็แพงกว่า DW3000H ตั้งแต่ขนาดเครื่องยนต์ จนถึงปริมาณวัสดุที่ใช้ต่อเรือ

     

    ในงบเท่ากันคิดว่ายังไง DW3000H ก็มีเงินเหลือจัดระบบเรดาห์กับอาวุธได้เหนือกว่า KDXII แน่นอน

     

    ผมมองว่าสเปก DW3000H ที่เราเห็นยังไม่ถึงที่สุดเช่นกัน KDXII ยัง mod ได้ DW3000H ก็ทำได้เช่นกันครับ

     

    อย่าง VLS ถ้าดูจากพื้นที่หน้าเรืออาจจะเพิ่มได้ถึง 24 cell

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 17/05/2013 18:56:23


    ความคิดเห็นที่ 243


    จากเสป็ค ตัว DW3000H ลำเล็กกว่ามาก ระวางขับน้ำ KDXIIมากกว่าถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์

    ระบบอาวุธก็จำนวนคนละชั้นเลย สองสามเท่าได้

     

    ที่น่าสังเกตคือข่าวบอกว่าต่อแค่ลำเดียว 13000ล้าน แปลว่าอาจจะต่อทีละลำหรือเปล่า

    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 17/05/2013 20:44:26


    ความคิดเห็นที่ 244


    ของแถมครับ KDX-IIT Down Side Stealth

     

    ด้านข้างปิดกราบเรือเรียบเจาะช่องยิงตอร์ปิโดเปิดปิดได้เอา ส่วนเรือเล็กใช้ยกข้ามกราบเรือเอาแบบเรือ FFX

     

    เรือเราต่อทีหละลำตามงบประมาณครับ เหมือนกริเพนที่ซื้อทีหละ6ลำ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 17/05/2013 21:06:47


    ความคิดเห็นที่ 245


    พอstealthแล้วก็ได้ประมาณนี้ ภาพนี้ตัดต่อนะครับ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 17/05/2013 21:10:08


    ความคิดเห็นที่ 246


    .........ผมว่า ไหนๆ ท่าน superboy ก็ได้ตบแต่งภาพช่วงตอนกลางลำเรือKDX ให้ดู stealth แล้ว....ผมจึงขอความกรุณาท่าน superboy ช่วยตบแต่งภาพส่วนตอนหัวเรือKDX ของท่านนั้น ให้ปิดส่วนเปิดโล่งด้านบนของหัวเรือ ให้เหมือนหัวเรือ แบบเรือ DH3000H นี้ด้วย ซึ่งจะทำให้ส่วนตอนหัวเรือดูสวยงามทันสมัย และstealth มากยิ่งขึ้นด้วย...เผื่อที่ว่า ทางทร.จะสนใจนำไปปรับปรุงแบบเรือ KDX ของทร.ต่อไป.......ครับ/สกายนาย

    โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 17/05/2013 22:58:23


    ความคิดเห็นที่ 247


    ชอบแบบที่เพิ่ม ตัวเรือลดกาาตรวจจับ ด้วยเรดาร์ ที่ท่าน superboy จัดทำมา....เดี๋ยวขอร่วมสนุก โดยเอารูปท่าน มาใส่ I-Mast 400 กับ I-Mast 500 เข้าไป...

    ระบบอำนวยการรบ 9LV รองรับ ระบบตรวจจับ ตระกูล SMART ได้อยู่แล้ว และตระกูล CEA...ซึ่ง ยังสงสัยว่า ในส่วน Sea Master 400 คงต้องให้ Saab บูรณาการให้...

    ส่วน MK-41 ผมว่า น่าจะมีเพียง ลำละ 1 ระบบ ถ้า เกาหลี ขาย K-VL ให้ ก็จะมี K-VL อีก 1 ระบบ...แต่ถ้า เขาไม่ขาย K-VL ให้...ถึงจะมีแนวโน้มว่า จะมี MK-41 ลำละ 2 ระบบ...

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 18/05/2013 06:22:59


    ความคิดเห็นที่ 248


    แบบ I-Mast 400 ที่ต้องมี illuminator ให้ ESSM คือ STIR 240 เผื่อไว้ อนาคต สำหรับ SM-2 Block IIIA ถ้าได้จัดหามาใช้ได้


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 18/05/2013 08:48:59


    ความคิดเห็นที่ 249


    แบบติดตั้ง I-Mast 500 ที่จะมี illuminator Array Redar สำหรับ ESSM รวมอยู่ด้วย ซึ่งใน กรณี สมมติ คือ CEAMOUNT ที่สามารถใช้ได้กับ SM-2 Block IIIA ในอนาคต ถ้าสามารถจัดหามาใช้ได้


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 18/05/2013 08:51:54


    ความคิดเห็นที่ 250


    เทียบกับ ต้นฉบับ


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 18/05/2013 09:01:56


    ความคิดเห็นที่ 251


    เอามั่ง   ลดขนาดเรือให้เล็กลงมาหน่อย ยาว127เมตร ระวางขับน้ำปรกติ3,650ตัน

     

    stealth สุดๆแล้วนะครับคุณสกายนาย ผมไม่รู้จะไปปีกหน้าที่ไหนมาใส่ให้

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 18/05/2013 12:07:08


    ความคิดเห็นที่ 252


    รอตั้งนานนึกว่าจะไม่มาซะแล้วท่าน Juldas กับรูปสวยๆ ค่อนข้างเห็นด้วยครับ (แม้ใจจริงจะชอบ CEAFAR/CEAMOUNT มากกว่า) แต่เท่าที่ประเมินจากกระแสข่าวหลายๆ แหล่ง โอกาสของ iMast ดูเลือนรางมากเลยนะครับ นอกจากว่าจะได้ Samsung Thales ของเกาหลีเข้ามาจอยกับ DSME ด้วยอีกแรง เพราะข่าวจากภายในทร.ดูเหมือนต้องการ 9LV CMS มากที่สุด แต่ถ้าไม่เป็นจริงตามข่าวแล้วได้ iMast นี่คงต้องร้องไชโยดังๆ

    ขอเสริมอีกนิดนะครับ ตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ปืนเรือหลักน่าจะเป็น OTO 76/62 ที่สำคัญต้องมี CIWS อย่างน้อย 1 ระบบ และปืนรองขนาด 30 มม. *2 ระบบ ด้วยนะครับ (ตามที่กำหนดใน RFP)

    และอีกประเด็นคือ CEAMOUNT นี่ไม่ข้อมูลยืนยันนะครับว่าสามารถใช้ร่วมกับ SM2 ได้หรือไม่ เท่าที่หาเจอเหมือนว่าน่าจะได้แต่ "ไม่เต็มประสิทธิภาพ" อาจมีการสับสนกับกรณีของเรือ Aderiade ที่ได้รับการปรับปรุงแท่นยิง Mk.13 ให้ยิง SM2 ได้มากกว่าครับ (ใน TAF ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน)

    สรุป...ตามแบบที่ท่าน Juldas ทำให้ดู น่าจะต้องเอามารวมกันประมาณ iMast + Stir + Phalanx + DS-30 + Sagem (อันนี้ลุ้นว่าจะโดน Terma เขี่ยกระเด็นอีกรอบได้หรือไม่) อีกตัวที่มองไม่เห็นตามข่าวคือ ACTAS ครับ โดย iMast อาจจะเป็น 400 แทนเพราะใช้ Stir เป็น FCS แยกออกมาต่างหาก

    ปล.จากรูปทั้งหมด ดูหล่อขึ้นเป็นกอง แต่โดยส่วนตัวอยากให้ปิดช่วงกลาง(ตรงปล่องควัน)สูงขึ้นอีกนิดครับ และกราบเรือช่วงหัวเรือ/ท้ายเรือน่าจะเป็นเรียบๆ และขอบหักมุมแบบ FREMM / Formidable ยิ่งถ้าได้เป็น iMast 500 แล้วตัด Stir ออกไป จะยิ่งดูแจ่มมาก (แต่...คงอดได้ SM2 เฮ้อ...รักพี่ เสียดายน้อง 555) 

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 18/05/2013 13:09:43


    ความคิดเห็นที่ 253


    KDX II พอแต่งหน้าตาให้stealth และติด iMart แล้วดูคล้ายกับเรือฝั่งยุโรป FREMM , F100 มาก แต่กลัวว่าเราอาจไม่ได้เลือกiMart (เกินงบ) แล้วใช้เป็นเรดาร์3D & 2D + FCS นะสิครับ
    โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 18/05/2013 09:44:21


    ความคิดเห็นที่ 254


    อีกสักแบบ ครับ...

    ตามข้อมุลของเรือ Holland Class ผมว่า I-Mast ไม่ได้แพง ครับ...โดยเฉพาะ เรดาห์ AESA  Sea Master 400 ก็พัฒนามาจาก เรดาร์บนบก น่ะครับ...ซึ่งมีใช้กันในหลายประเทศครับ...ซึ่งลอง หาร ปริมาณที่ เนเธอร์แลนด์ จัดหา I-Mast 400 ราคาใกล้เคียงกับ ระบบ Sea Giraft ที่ ทร.จัดหา ครับ...ประเด็น ที่ผมตอนนี้ ก็คือ 9LV จะรองรับ เรดาร์ Sea Master ได้หรือเปล่า น่่ะครับ...

    ผมจึงมองว่า ราคาเรือ 430 ล้านเหรียญต่อลำ...ไม่ได้ถูก ครับ...น่าจะเป็นราคามาตรฐานตามท้องตลาด ทั่วไป ครับ...ถ้าจะเทียบกับ Gowind ของ มาเลเซีย...ที่จะทำการสร้างเอง ราคาของ Gowind ที่สูง เพราะต้องมี ค่ากำไร ให้กับ เจ้าของแบบ ครับ...อาจจะเกิน 100 ล้านเหรียญ ขึ้นไป...ดังนั้น ราคา Gowind ของ มาเลเซีย จะมีราคาสูงกว่า ท้องตลาดทั่วไป ไม่น่าจะต่ำกว่า 10 - 15 %...หรือ เมื่อรวม ค่าใช้จ่ายทังหมด ราคา Gowind ของ มาเลเซีย ราคาอาจจะสูงกว่า ราคาตลาด 20 - 30 % ก็ได้...เพราะมันเป็นการ ซื้อ Know How จาก ผู้ผลิต ทั้งหมด...

    และ แบบเรือ KDX-II ของ เกาหลี พัฒนามาจากแบบ License ของ เยอรมัน ครับ...


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 18/05/2013 10:47:57


    ความคิดเห็นที่ 255


    ถ้าi-mast 400 มันสามารถควบคุม ESSMได้ ผมว่าSTIR 240 ก็ตัดออกไปได้เลยนะครับ เพราะในแบบเรือDW3000Hนั้น  มีSTIR เพียงแค่1ระบบเอาไว้ควบคุมปืนหลัก  ซึ่งถ้าเราได้ i-mast 500 ละก็ผมว่ามันอาจจะควบคุมได้ทั้งESSMและก็SM-2MR ด้วยก็ได้นะครับส่วนSTIR 240เอาไว้เป็นตัวช่วย ซึ่งในแบบของท่าน จูดาส นั้นผมว่าก็ใช้ได้เลยนะครับ   แต่งานนี้ขออย่าให้SAAB กินหมากมากไปเลยนะครับ  ขอร้องแหละครับ เพื่ออนาคตอันสดใส

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 18/05/2013 13:58:20


    ความคิดเห็นที่ 256


    ขออนุญาติท่าน Juldas และท่าน Superboy เอารูปมาตัดต่อบ้างนะครับ ติดตามอ่านมากๆเข้าเลยเกิดคันไม้คันมือขึ้นมาน่ะครับ ^  ^"

     

    ปล.ดูไปดูมา เฮ้ย...นี่มัน DW4000H ชัดๆ เลยนี่หว่า 555555+

    My Hi-Performance Frigate for RoyalThaiNavy


    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 18/05/2013 15:01:01


    ความคิดเห็นที่ 257


    ชัดเจนว่า ชาวTFCบางท่าน อาจจะถูกหวยบ่อย อิอิ 

    แบบของท่านจูลดาส โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นไปได้มากที่เดียว 

    แต่ขออีกแบบนึงในใจ ใครมีฝีมือช่วยทำด้วย 

    -ไม่มีi-Mast 

    -มีSmart-S mark2 /Sea Giraffe แทน 

    -มี2D เรดาร์อีกสักตัว LW-08แทนไปก่อนก็ได้ 

    -FCS หน้า-หลังเป็น Ceros 200 /STIR 1.8/2.4HP 

     

    .........คหสต. คิดว่า น่าจะเป็นแบบนี้ที่สุด

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 18/05/2013 15:17:15


    ความคิดเห็นที่ 258


    ^

    ^

    ^

    ภาพบนมีVLS 16 cells เท่าKDX-IITรูปเก่าใช่ไหมครับ

    เพิ่มเป็น32 cells แบบFormidableเป็นไปได้ไหมครับ

    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 18/05/2013 15:23:45


    ความคิดเห็นที่ 259


    ไม่นะ ไม่นะ ไม่เอานะ ท่าน icy_cmu อย่ามาทำให้ผมขวัญเสียสิ กำลังฝันหวานทำรูปเพลินๆ อยู่เลยน้า

    My Dream Frigate


    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 18/05/2013 16:25:37


    ความคิดเห็นที่ 260


    เรียนคุณ TWG ที่เครพ

     

    ภาพของคุณมันเป็นเรือ OHP ชัด 2ลำที่เรากำลังจะได้ในปีหน้ายังไงหละครับ (ยังฝันถึงอยู่ทุกคืน) เท่านี้ใช้เงินกี่บาทเนี่ย


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 18/05/2013 16:59:44


    ความคิดเห็นที่ 261


    ถ้าได้แบบนี้ล่ะก็ผม "เอานะ" ท่าน superboy 5555555+

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 18/05/2013 17:05:40


    ความคิดเห็นที่ 262


    .............ผมขออนุญาต ขอออกความคิดเห็นของตนเองเพิ่มเติมอีกว่า............เนื่องจากงบประมาณการจัดหาเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงของทร.ครั้งนี้มีจำนวนจำกัด  การจัดหาเรือดังกล่าวในครั้งนี้มองถึงวัตถุประสงค์ตั้งแต่ต้นในครั้งนี้ว่า เราต้องการเรือเพื่อไปใช้ในภารกิจอะไร...เมื่อเราไม่สามารถจัดหาเรือดำน้ำมาประจำการได้ แต่ประเทศรอบข้างเรามีทั้งประเทศที่มีเรือดำน้ำประจำการอยู่แล้วและมีทั้งประเทศที่กำลังจะมีเรือดำน้ำเข้าประจำการ  เราจึงจำเป็นต้องมีเรือฟรีเกตสมรรถนะสูง ที่มีภารกิจหลักในการปราบเรือดำน้ำมาประจำการ....... 

    ............สวนเงินที่มีอยู่ในการต่อเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงในครั้งนี้ จะต้องแบ่งเงินออกเป็นสองส่วน....ส่วนแรกเงินใช้ในการต่อลำตัวเรือ....และส่วนที่สองเงินที่ใช้ในการจัดหาระบบอำนวยการรบ, ระบบเรดาร์, ระบบโซน่าทั้งที่ลำตัวเรือและโซน่าลากท้ายลำเรือ, ระบบอาวุธ(อาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น และพื้นสู่อากาศ) และระบบเป้าลวงต่างๆมาให้ครบ............. 

    ...........แต่ถ้าหากเราทุ่มเงินไปใช้ต่อลำตัวเรือที่มีขนาดใหญ่ โดยที่หวังว่าอนาคตจะสามารถมีพื้นที่ว่างมากๆให้ทำการอัปเกรดให้เป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศได้โดยง่ายนั้น ......นอกจากจะทำให้เหลือเงินไปใช้ในการจัดหาระบบอำนวยการรบ, ระบบเรดาร์, ระบบโซน่าทั้งที่ลำตัวเรือและโซน่าลากท้ายลำเรือ, ระบบอาวุธ(อาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น และพื้นสู่อากาศ) และระบบเป้าลวงต่างๆมาให้ครบนั้น เหลือจำนวนเงินน้อยลงไปแล้ว....... ยังจะทำให้เวลานำเรืออกปฏิบัติภารกิจก็จะสิ้นเปลืองเงินไปเป็นค่าเชื้อเพลิงมากขึ้นแล้ว  และด้วยสาเหตุที่ขนาดตัวลำเรือที่มีขนาดใหญ่ ก็ยังจะเป็นเป้าหมายขนาดใหญ่ที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถตรวจพบและทำลายได้โดยง่ายด้วย..... 

    ............และเนื่องจากที่ผ่านมาทร.ไทยเราล้วนมักใช้ประการเรือฟรีเกตแต่ละลำซึ่งมีระยะเวลาประจำการยาวนานกว่า30ปีขึ้นไปทั้งสิ้น  และมักมีการปรับปรุงอัปเกรดเรือให้มีระบบอาวุธต่างๆของเรือให้ดียิ่งขึ้นในภายหลังต่อไป.....ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ระบบอาวุธของเรือนั้นในอนาคตยังสามารถปรับเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงได้......แต่ตัวลำเรือเองต่างหาก ซึ่งยากที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไขตัวลำเรือได้ในอนาคต.....ดังนั้น ถ้าหากทันทีที่ต่อเรือรบใหม่ขึ้นใหม่ จึงน่าที่จะจัดหาเรือรบที่มีลำตัวเรือที่ทันสมัยเป็นแบบเรือที่ตรวจจับได้ยาก(ล่องหน)ไว้เผื่อไว้ด้วย....ไม่เช่นนั้นแล้วในทันที่ที่ต่อเรือขึ้นมา เรือรบนั้นก็เป็นแบบเรือที่ล้าสมัยทันที....พอถึงอนาคตที่ต้องการจะทำการปรับปรุงอัปเกรดเรือขึ้นมา ตัวเรือก็จะมีสภาพล้าหลังไม่เหมาะสมที่จะนำเอาระบบอาวุธของเรือใหม่ๆที่ทันสมัยในอนาคตนั้น นำมาอัปเกรดใส่เขาไปในเรือรบนี้.......

    ............อีกประการหนึ่ง....ถ้าหากได้การเลือกต่อเรือรบที่มีขนาดใหญ่ๆขึ้นมาโดยที่ไม่มีการคำนึงถึง ความเป็นแบบเรือที่ตรวจจับได้ยาก(ล่องหน) ทั้งที่กองทัพเรือต่างประเทศทั่วไป ล้วนดำเนินการต่อเรือรบของตนไปในลักษณะนี้นั้น   กลับยิ่งทำให้เรือรบนั้น เมื่อถูกตรวจพบจากฝ่ายตรงกันข้าม และฝ่ายตรงกันข้ามยิงอาวุธปล่อยนำวิถี มาทำลายโดยง่าย.......และด้วยสาเหตุที่ไม่ได้คำนึงถึงการต่อเรือเป็นแบบเป็นเรือตรวจจับได้ยากมาตั้งแต่ต้น โดยสภาพของตัวลำเรือดังกล่าว จึงง่ายต่อการถูกตรวจจับจากอาวุธปล่อยนำวิถี(ล็อคออน) และถูกทำลายจากอาวุธปล่อยนำวิถีของฝ่ายตรงข้ามในที่สุด...... 

    ............ถ้าหากมีความรอบครอบ...เลือกใช้เงินงบประมาณทั้งในส่วนที่ใช้ในการต่อลำตัวเรือ....และส่วนเงินที่ใช้ในการจัดหาระบบอาวุธให้ถูกต้อง......โดยเลือกต่อลำตัวเรือในลักษณะเหมาะสมกับภารกิจในปัจจุบัน โดยไม่มีขนาดใหญ่เกินไปนัก มีการออกแบบเรือให้เป็นแบบเรือที่ตรวจจับได้ยาก(ล่องหน) ในราคาที่ไม่แพง....แล้วนำเงินส่วนใหญ่ไปจัดหา ระบบอำนวยการรบ, ระบบเรดาร์, ระบบโซน่าทั้งที่ลำตัวเรือและโซน่าลากท้ายลำเรือ, ระบบอาวุธ(อาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น และพื้นสู่อากาศ) และระบบเป้าลวงต่างๆ ที่ดีมาให้ครบ ให้สมกับคำว่าเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงในปัจจุบัน.....ดีกว่าจะจัดหาเรือขนาดใหญ่ที่เป็นแบบเรือที่ล้าสมัย และมีพื้นที่ว่างมากสำหรับอัปเกรดในอนาคต..แต่ปัจจุบันกลับมีไม่เงินจัดหา ระบบอำนวยการรบ, ระบบเรดาร์, ระบบโซน่าทั้งที่ลำตัวเรือและโซน่าลากท้ายลำเรือ, ระบบอาวุธ(อาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น และพื้นสู่อากาศ) และระบบเป้าลวงต่างๆมาได้ไม่ครบ(เหมือนกับเรือรบพิการ)...........แล้วมาบอกว่า “นี่คือ เรือฟรีเกตสมรรถนะสูง”.......ครับ/สกายนาย

     

    โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 18/05/2013 18:40:50


    ความคิดเห็นที่ 263


    .............ขอแสดงความคิดเห็นอีกนิด......ถ้าหาก ทร.ไม่คำนึงถึงว่า แบบเรือที่จะต่อขึ้นใหม่นี้ ลำตัวเรือต้องเป็นแบบเรือที่ทันสมัย เป็นแบบเรือที่ตรวจจับได้ยาก(ล่องหน)แล้ว.....ผมว่า...แทนที่จะจะนำเงินงบประมาณ3 หมื่นล้านบาท ไปจ้างเกาหลีต่อเรือในแบบเรือ KDX-II นี้แล้ว.....ผมว่า...ทำตามแบบที่ ท่านTWG ที่ท่านได้ตัดต่อทำภาพเรือขึ้นมานั้น(สวยดี)....โดยทำเหมือนเรือ OHP ตามท่าน superboy ว่าไว้.....คือ.จัดหานำเรือรบ ชั้นโอริเวอร์ ฮาดซาดเพอร์รี(ถ้าชื่อนี้ผิดก็ขออภัยจำชื่อเรือไม่ค่อยได้) ของUSA มา MOD เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนและอัปเกรดติดตั้ง ระบบอำนวยการรบ, ระบบเรดาร์, ระบบโซน่าทั้งที่ลำตัวเรือและโซน่าลากท้ายลำเรือ, ระบบอาวุธ(ทั้งอาวุธนำวิถี พื้นสู่พื้น และพื้นสู่อากาศ) และระบบเป้าลวงต่างๆ ใหม่เอาให้เป็นแบบเทพๆ ไปเลยดีกว่า...งบประมาณ 3 หมื่นล้านบาท น่าจะได้เรือฟรีเกต ภารกิจปราบเรือดำน้ำที่มีสมรรถนะแบบเทพๆ แถมยังมีระบบอาวุธป้องกันภัยทางอากาศติดตั้งอยู่ด้วย มาจำนวน 3-4 ลำ(เพราะเขาให้ฟรีๆอยู่ 2ลำแล้ว และขอซื้อเพิ่มเองอีกซัก 2ลำ)........แถมยังเจ๋งกว่า และยังถูกกว่า และได้ปริมาณมากกว่า การที่จะไปต่อเรือKDX-II ขึ้นมาใหม่จากเกาหลีเสียอีก.....ครับ/สกายนาย 

     

    ปล.ขอบคุณมาก สำหรับภาพเรือสวยๆ ที่ ท่านsuperboy และท่าน TWG ทำตัดแต่งขึ้นมาให้ดู

    โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 18/05/2013 19:30:08


    ความคิดเห็นที่ 264


    ผมคิดว่าการเอาOHPมาmod ไมใช่ทางเลือกที่ดีครับ -ต้องมีการปรับปรุงยกเซ็ต พอๆกับต่อเรือใหม่มาเลย แต่ได้ตัวเรือที่เก่ามาแทน แต่อาจใช้งบประมาณต่อลำใกล้เคียงกัน -การmodเรือที่เก่าขนาดนั้น ต่อเรือใหม่ไปจะคุ้มค่าการใช้งานมากกว่าครับ เพราะอายุการใช้งานของตัวเรือจะดีกว่าOHPราว30ปี.... -แบบเรือเก่ามากแล้ว การเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างตัวเรือไม่รองรับ เช่น แผนการเอาAEGISมาติดในOHPของไต้หวันก็ทำไม่ได้ เพราะแบบเรือไม่รองรับ ผมคิดว่า ทร.ไม่ควรจัดหาเรือมือสองมามากนักครับ เพราะปัญหาด้านการดัดแปลงและซ่อมบำรุง เทียบกับคุณภาพของเรือ อาจจะคุ้มค่าน้อยกว่าเรือใหม่... ที่บอกว่าความต้องการเรือปราบเรือดำน้ำมากกว่า ผมไม่เห็นด้วยครับ เนื่องจากทร.มีจุดอ่อนด้านการป้องกันภัยทางอากาศพอๆกับผิวน้ำ แม้มีทอ.มาช่วย....ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะทัน เหมือนกับที่เคยมีคนเอารล.นเรศวร vs SU-30 ซึ่งผมเห็นว่าเป็นภัยมากกว่าใต้น้ำซะอีก เพราะการเอาเรือฟริเกตไปปราบเรือดำน้ำเทียบกับป้องกันภัยทางอากาศแล้ว...ผมคิดว่าอย่างหลังน่าจะทำได้ดีกว่า เทียบ 4+2(หรือ4) 2 OHP mod (ฟริเกตสมรรถนะสูง) + 2 OHP mod (ฟรี) 2-4 เรือดำน้ำU-209หรือ214 และจัดหาเรือAAWในอนาคต (ซึ่งอาจไม่ได้) ผมอยากได้ดีลนี้มากกว่าครับ 2 เรือป้องกันภัยทางอากาศ (ฟริเกตสมรรถนะสูง) 2 OHP mod (ตัวเรือฟรี ปรับปรุงใช้งานใต้น้ำเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องความสามารถสูงระดับโครงการฟริเกตสมรรถนะสูงแบบดีลบน) 2(หรือ4) เรือดำน้ำU-209หรือ214 เทียบกันแล้ว เราจะรบได้ครบทั้งบนฟ้า ผิวน้ำ ใต้น้ำ โดยใช้เวลาโครงการเท่ากัน แต่เรืออาจมีอายุการใช้งานนานกว่า และไม่จำเป็นต้องจัดหาเรือAAWในอนาคต ถ้าเป็นแบบนี้ อย่างน้อยทร.ยังไงต้องมีโอกาสได้เรือดำน้ำมาแน่ๆ แต่ถ้าAAWรอไปก่อน อาจไม่มีโอกาสได้เลยก็ได้ครับ
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 18/05/2013 20:11:49


    ความคิดเห็นที่ 265


    อ้าว ทำไมไม่เว้นบรรทัดให้หว่า ผมขึ้นบรรทัดใหม่ไปแล้วนะ
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 18/05/2013 20:13:22


    ความคิดเห็นที่ 266


    ใช้กูเกิ้ล โฉม ใช้ copy กับ paste ไม่ได้ครับ

    เลยต้องใช้แบบ แผ่นภาพ แทนครับ





    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 18/05/2013 21:41:00


    ความคิดเห็นที่ 267


    ดังนั้น ถ้า เรือดำน้ำ ในภูมิภาคนี้ มีความสามารถยิง อาวุธปล่อยนำวิถีจากใต้น้ำ ได้ทั้งหมด...

    ระบบการยิง ESSM และ เป้าลวง รวมถึง CIWS ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญเหมือนกัน ที่ใช้สำหรับป้องกันภัยจากเรือดำน้ำ เช่นกัน...

    ภัยจาก อากาศยาน เข่น SU-30 หรือ F/A-18 หรือ Fokker F-50 ตัวอากาศยาน ไม่ใช่ ภัยสำคัญของเรือผิวน้ำ...ภัยสำคัญจาก อากาศยาน คือ อาวุธนำวิถี อากาศ สู่ พื้น...การมี ESSM ก็เพื่อ ป้องกันภัยจาก อาวุธนำวิถี อากาศ สู่ พื้น เป็นสำคัญ...ส่วนตัว อากาศยาน ก็เป็นลำดับต่อไป...

    การที่ เรือผิวน้ำ จะถูกตรวจพบทางอากาศ น่าจะเป็นจาก เครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล มากกว่า...โอกาส ที่ SU-30 หรือ F/A-18 จะบินลาดตระเวณ แล้ว ตรวจพบ เรือผิวน้ำ และติดตั้ง อาวุธนำวิถีอากาศ สู่ พื้น มาด้วย ผมว่าโอกาสเกิดน้อยมาก...และ ทร.ไทย ก็ปฏิบัติอยู่ภายในน่านน้ำทะเลหลวง ซึ่งคงอยู่ในความรับผิดชอบของ กองทัพอากาศ สำหรับภัยคุกคามไม่ปรากฎสัญชาติเหนือน่านฟ้า ระดับหนึ่งอยู่แล้วครับ...

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 18/05/2013 22:09:42


    ความคิดเห็นที่ 268


    ขอบคุณท่าน จูดาสมากเลยนะครับ   ก็ถือว่าเป็นที่แน่แท้แล้วอ่ะครับว่า  9LV  รองรับระบบของThales  ซึ่งผมว่าอาจจะมีSea Giraffe+SMART-SหรือL ก็เป็นได้นะครับหรือไม่งั้นก็จะเป็นi-Mast 400หรือ500 อะไรประมาณนี้หรือปล่าว หว่า??? สุ่มๆๆไปก่อน

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 18/05/2013 22:12:02


    ความคิดเห็นที่ 269


    แบบ ติด Smart-S


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 18/05/2013 23:08:21


    ความคิดเห็นที่ 270


    ในปัจจุบัน ผมว่า ระบบปืนรอง ค่อนข้างจะมีความสำคัญ เพราะภัยผิวน้ำ ระยะใกล้ มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จน สหรัฐ ต้องพัฒนา ระบบ Phalanx ให้ทำลายเรือผิวน้ำขนาดเล็กได้ด้วย

    แต่เมื่อทำรูปแบบ Stealth แล้ว หาตำแหน่ง ติดตั้ง ปืนรอง ลำบาก พอดู มีอยู่ตำแหน่งเดียว คือ เหนือโรงเก็บ ฮ. ที่ปัจจุบัน ของ เกาหลี เป็นที่ติดตั้ง เป้าลวงตอร์ปิโด 

    เลยลองจัดทำแบบติดปืนรอง DS-30 แต่ใช้ SAGAM Decoy แทน Phalanx มาในลักษณะแบบขั้นต้น อัพเกรดเรือชั้น นเรศวร


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 18/05/2013 23:14:38


    ความคิดเห็นที่ 271


        ในโครงการปรับปรุงเรือฟรีเกตของแคนาดา   ใช้ระบบ 9LV  และ  เดิมต้องการ sea girafe  แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนไปใช้เรด้าร์  Smart-s  แทน   แสดงว่า 9LV  รองรับเรด้าร์ของ Thales ได้อยู่     แต่ไม่แน่ใจว่าเรด้าร์ใหม่ล่าสุดอย่าง  I-MAST 400/500  นี่จะสามารถใช้งานร่วมกันกับ  9LV mk-4  ได้หรือไม่    แต่ที่แน่ๆ  รองรับ  CEA-MOUNT/FAR  ครับ

     

      ขอบคุณมากนะครับท่าน  TWG  ทำให้นึกชื่อ  ASW suit ของเยอรมันได้สักที   ACTAS  อันนี้หรูครับ   ผมให้น้ำหนักว่าดีกว่า CAPTAS    แต่ว่า  CAPTAS  นี่ก็เจ๋งใช้ได้ดีทีเดียวอยู่แล้ว   จะอันไหนผมก็ OK.  ครับ

    ข้อมูลของ  ACTAS  จากวิกิพีเดีย


    http://www.naval-technology.com/contractors/sonar/atlas_elektronik

    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 18/05/2013 23:39:07


    ความคิดเห็นที่ 272


       อันนี้เว๊บลิ้งค์  ข้อมูลการ upgrade เรือฟรีเกตชั้น Halifax ของคานาดาครับ   ใช้ 9LV mk-4 เหมือนเรา   และมีการใช้เรด้าร์ SMART-S mk-2 ด้วย   แต่ยังคงใช้ CEROS-200  เป็นเรด้าร์ชี้เป้า


    http://en.wikipedia.org/wiki/Halifax-class_frigate

    http://www.thalesgroup.com/Press_Releases/Countries/Canada/2009/SMART-S_Thales_Halifax_%28July_2009%29_Land_Joint/

                (Ottawa, July 2, 2009) - Thales announced today an agreement with Lockheed Martin for the delivery of 13 Smart-S Mk2 surveillance radars. These radars will be installed on the Canadian Patrol Frigates of the Department of National Defence as part of the Halifax Class Modernization Program. Delivery will begin in Summer 2010 and be complete in 2015. All radars are scheduled to be at sea and fully operational in 2017 when the Halifax Modernization Program will be completed.

     

       ส่วนราคา  I-MAST-400 ในเรือชั้น Holland class  ราคาอาจจะไม่รวม S-band uplink  ก็เลยราคาถูกลง   แต่เนื่องจาก  sea master 400 หรือ SMART-S  นั่นเอง และ sea watcher 100   มีการผลิตจำนวนไม่น้อยแล้ว   ราคาโดยรวมก็ยังน่าจะพอรับได้    เมื่อเทียบกับซื้อ SMART-S mk-2  และ  STIR 240 / STIR 2.4 HP   รวมถึงระบบ E/O   ESM  และระบบสื่อสารดาวเทียม  ระบบ IFF  คิดว่าราคาไม่น่าจะต่างกันมากนัก     แต่มันติดที่ไม่รู้ว่า  9LV  จะสามารถเชื่อมต่อกับ  I-MAST-400  ได้หรือไม่ครับ

        ในความเห็นส่วนตัวผมเชื่อว่า  sea watcher 100  ที่เป็น X-band  น่าจะสามารถชี้เป้าให้  ESSM  ได้ หรือทำหน้าที่ CWI  ให้ได้   ถ้ามี S-band uplink  ที่เป็น option เสริมมาติดตั้ง  น่าจะรองรับการซัลโว  ESSM  จำนวนหลายๆลูกได้ได้    

       ดังนั้นเมื่อใช้  I-MAST-400  ตอนนี้อาจจะยังไม่จำเป็นจัดหา STIR 240/2.4 HP  มาในตอนนี้ก็ได้ครับ

    มันติดที่  9LV  นี่แหล่ะ  ว่าเชื่อมต่อได้ไหมกับ I-MAST-400     ถ้าได้ก็น่าลองเสี่ยงดู    แต่ผมว่า  SAAB  คงจะเก็บเงินเพิ่มไม่น้อยสำหรับการเชื่อมต่อ  9LV กับ I-MAST-400


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 19/05/2013 01:17:16


    ความคิดเห็นที่ 273


     

       สว่น  I-MAST-500  นั้น   ผมมั่นใจว่าราคาแพงทีเดียว   อาจจะหย่อนจาก  CEA-MOUNT/FAR ไม่มาก หรือใกล้เคียงกัน   เพราะดูจากขนาดแผ่นสายอากาศ และ รหัสเลข 500  น่าจะบอกได้ว่า T/R module น่าจะมากกว่า  sea master 400   ดังนั้นจึงน่าจะเป็นเรด้าร์ตัวใหม่เลยทีเดียว  

       ส่วนเรด้าร์  X-band  ที่น่าจะใกล้เคียง CEA-MOUNT  ก็น่าจะเป็นเรด้าร์ของ Thales เองมากกว่า   ดังนั้นก็จะเป็นเรด้าร์ใหม่เช่นกัน   ราคาน่าจะแพงเข้าขั้น  และเมื่อต้องรวม S-band uplink  กับระบบอื่นๆอย่าง  E/O  ESM  UHF/VHF  IFF  และระบบสื่อสารดาวเทียมที่ต้องอัดลงในเสาเดียวกัน    เผลอๆราคาอาจจะเกิน 80 ล้านเหรียญ  ไม่ได้ถูกกว่า   CEA-MOUNT/FAR  แน่ๆครับ

     

      แต่สำหรับผม  ถ้ามีโอกาสสำหรับการเชื่อมต่อ  I-MAST-400  กับ 9LV  แล้ว   ก็น่าลองนะครับ   เพราะมันก็พัฒนามาจากเรด้าร์ SMART-S mk-2 ที่สามารถเชื่อมต่อกับ 9LV ได้เหมือนกัน

       ถ้าได้ I-MAST-400  มา  พร้อม S-band uplink  จะได้ซัลโว ESSM ได้จำนวนหลายๆลูก   แบบนี้ผมพอใจกว่าการจัดหาแยกระบบแบบ       SMART-S mk-2  +  STIR 240/2.4HP   E/O   ESM   IFF  และระบบสื่อสารดาวเทียม    

    เพราะข้อได้เปรียบในเรื่องการรวมระบบทั้งหมดไว้ในเสาเดียวกัน    ก็น่าจะดีกว่า Herakle  หน่อยหนึ่งล่ะนะ

     

      แต่ผมว่า  SAAB  คงจะชาร์ท ทร. ไม่น้อยสำหรับการเชื่อมต่อระบบ 

     

      I-MAST-500  ไว้รอเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศชุดหลังก็ได้ครับ


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 19/05/2013 01:33:48


    ความคิดเห็นที่ 274


    Sea Watcher 100 เป็น เรดาร์จับเป้าพื้นน้ำ ครับ  ไม่ใช่ เป้าอากาศ

    Sea Watcher 100 – Surface surveillance radar

    SEA WATCHER 100 is Thales’ active phased array radar for naval surface surveillance. The system automatically detects and tracks surface targets ranging from very small asymmetric threats such as mines, swimmers and periscopes to ships in all weather conditions. In addition SEA WATCHER 100 can act as a backup for helicopter guidance.

     

    SEA WATCHER 100 is specifically designed for operation in littoral environments.   SEA WATCHER 100 is designed to be the main surface surveillance radar for naval platforms operating in open seas and littoral waters. The system provides an early warning that leaves sufficient time for effective actions. It seamlessly integrates with the combat management system to provide the crew with a detailed surface picture day and night and under all weather conditions.

     

    The all-in-one radar approach facilitates the ease of use of SEA WATCHER 100; no special mode settings are required. SEA WATCHER 100 operates fully automatical

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/05/2013 07:01:28


    ความคิดเห็นที่ 275


    I-MAST 400 เป็นเพียง ระบบ Survillance Radar รูปแบบคุณสมบัติ เช่นเดียวกับ SMART series หรือ Sea Giraffe เพียงแต่มีความโดดเด่น เรื่อง ระยะไกล และ ส่วนประกอบของเรดาร์ทุกระบบ จะสามารถ แยกแยะประเภทเป้าหมายว่าเป็นอะไร ได้ดีกว่า เท่านั้นครับ...

    ไม่ใช่ เรดาร์ที่มีคุณสมบัติ Fire control ให้อาวุธปล่อยนำวิถี แบบ STIR หรือ Ceros 200 ครับ...คนละอย่างกันครับ...

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/05/2013 07:08:25


    ความคิดเห็นที่ 276


    ราคา I-MAST 400 ที่ เนเธอร์แลนด์จัดหา มุลค่าประมาณ 167 ล้านเหรียญ จำนวน 4 ระบบ หรือ ตกระบบละประมาณ 41 ล้านเหรียญ...ซึ่ง ระบบ Sea Giraffe ของ ทร.ไทย จัดหามามูลค่าประมาณ 37 ล้านเหรียญ (ถ้าผมจำไม่ผิด) ...ส่วน I-MAST 500 ผมคิดว่า ระบบทุกอย่างน่าจะเหมือนกับ I-MAST 400 เพียงแต่มีระบบเรดาร์ Fire Control ให้กับ ESSM เพิ่มขึ้น คือ การเชื่อมข้อมุลระหว่าง S-Band กับ X-Band จาก 4 Ghz เป็น 5 Ghz...หรือ Sea Master 400 + illuminator array radar = Integrated Master 500 (I-MAST 500)

    Sea Master 400 เป็น เรดาร์ประเภทเดียวกับ Ground Master 400...ซึ่งผมเข้าใจว่า Sea Master ก็คือ Ground Master ที่นำมาปรับปรุงให้ใช้กับเรือได้...


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/05/2013 07:17:21


    ความคิดเห็นที่ 277


    ขอเสริมนิดนึงครับ CEAMOUNT อาจจะใช้นำส่ง SM2 เข้าหาเป้าหมายได้ตามสเปกเท่านั้นครับ เพราะเท่าที่ค้นหาข้อมูลมาดูเหมือนประสิทธิภาพจะยังไม่พอ ที่จะใช้ SM2 ได้เต็มประสิทธิภาพ (ตรงนี้น่าจะหมายถึงระยะยิงของ SM2 รุ่นใหม่ๆ) ในขณะนี้ออสเตรเลียจึงได้กำลังพัฒนา AusPAR ขึ้นมา อีกประเด็นคือ ความสมารถในการนำส่งอาวุธปล่อย Semi Active Homing สู่เป้าหมายของ FCS อย่าง Ceros 200 ตามสเปก หากเป้าหมายอยู่ในแบริ่งใกล้เคียงกัน ก็จะสามารถควบคุม/นำส่ง ได้ถึง 4 ลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่ง Stir เองก็น่าจะทำได้ในลักษณะเดียวกันครับ ปล. ทั้งสองประเด็นนี้เป็นข้อมูลเท่าที่ผมหาอ่านได้นะครับ คงต้องค้นหาเพิ่มเติมอีกเยอะ เพื่อยืนยันข้อมูลต่อไป
    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 19/05/2013 07:50:53


    ความคิดเห็นที่ 278


    อีกประเด็นคือเรื่องรูปทรงและความเป็นสเตลธ์ แมัเรือลำนี้จะเน้นภารกิจในการปราบเรือดำน้ำ แต่ในสภาพความเป็นจริงเรือทั้งสองลำนี้จะเป็นเรือหลักที่มีความสำคัญสูงมากต่อกองเรือ และย่อมจะเป็นหมายลำดับแรกๆ ที่ข้าศึกมุ่งทำลายทุกวิถีทาง การป้องกันที่ดีที่สุดเบื้องต้นก็คือ ลดโอกาสที่จะถูกตรวจพบให้ได้มากที่สุด ทั้งจากทางอากาศ ผิวน้ำ และ ใต้น้ำ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าเรือที่มาล่าทำลายเรือดำน้ำ ถูกโจมตีโดยเรือผิวน้ำ/อากาศยาน ก่อนที่จะได้ล่าเรือดำน้ำ อีกทั้งการทำตัวเรือให้มีรูปทรงสเตลธ์ตั้งแต่การแก้แบบก่อนลงมือต่อเรือ ไม่น่าจะทำให้ราคาสูงขึ้นมากมายครับ (นอกจากจะทำกันถึงขนาดใช้วัสดุดูดกลืนสัญญาณเรดาร์ด้วย) อย่าลืมว่าเรามีจำนวนเรือแค่ 2 ลำ ซึ่งมันน้อยกว่าที่ควรจะมีมากนะครับ
    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 19/05/2013 08:11:26


    ความคิดเห็นที่ 279


    CEAMOUNT เป็น illuminator array radar  ซึ่งผมว่ามันน่าจะเทียบเคียงกับ STIR ที่เป็น iiluminator เช่นกัน โดยถ้า STIR ใช้กับ SM-2 block IIIA ของ เรือชั้น KDX-II ได้...ผมว่า CEAMOUNT คงทำได้เช่นกัน...แต่อาจจะติดปัญหาเรื่อง การ Up Link กับ SM-2 ที่คงต้องใช้การขอจาก สหรัฐ ก่อน...แต่สำหรับการ ESSM จะไม่น่ามีปัญหา ซึ่งข้อได้เปรียบของ CEAMOUNT กับ STIR คงเป็น ขั้นต่ำ การส่ง ESSM ได้พร้อม ๆ กัน ในลักษณะ 360 องศา คือ มี  4 ตำแหน่ง ขั้นต่ำ 4 เป้าหมาย รอบทิศทาง...

    ส่วน AusPAR คงจะเป็น Phased Array Radar ที่ ออสเตรเลีย คงพัฒนาเพื่อให้ เทียบเคียงกับ APAR (Active Phased Array Radar) ซึ่งจะทำให้เกิดข้อได้เปรียบในเรื่อง การไม่จำกัดจำนวนเป้าหมาย สำหรับ Missile ที่เป็น Active Homing เช่น ESSM รุ่นใหม่....

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/05/2013 09:05:39


    ความคิดเห็นที่ 280


    ในลักษณะภัยคุกคาม...จากประเทศเพื่อนบ้าน ในภูมิภาค สำหรับ ประเทศไทย...

    ผมคิดว่า การเรียงลำดับ ภัยคุกคาม น่าจะเรียงจาก 

    1. เรือดำน้ำ (หาข่าว หรือ ชี้เป้า หรือ ทำลาย)

    2. เรือผิวน้ำ (ลาดตระเวณ หรือ โจมตี)

    3. อากาศยาน ที่มีความสามารถโจมตีเรือ (มาจาก สนามบินบนฝั่ง โดยข้อมูล ชี้เป้า จาก เครื่องบินตรวจการณ์ หรือ เรือรบผิวน้ำ หรือ เรือดำน้ำ)

     

    เว้นแต่ ภัยคุกคามของประเทศไทย เกิดจาก ประเทศอื่น ที่ใช้ กองเรือบรรทุกเครื่องบิน

    การเรียงลำดับ ภัยคุกคาม น่าจะเรียงจาก

    1. เรือดำน้ำ (หาข่าว หรือ ชี้เป้า หรือ ทำลาย)

    2. อากาศยาน ที่มีความสามารถโจมตีเรือ (มาจาก เรือบรรทุกเครื่องบิน โดย ชี้เป้าจาก เครื่องบินตรวจการณ์ หรือ เรือผิวนำ หรือ เรือดำน้ำ)

    3. เรือผิวน้ำ (มากับ กองเรือบรรทุกเครื่องบิน)

     

    ผมมองว่า ยังไง...ภัยจาก เรือดำน้ำ จะเป็นภัยด่านแรก ที่ กองเรือรบผิวน้ำ จะต้อง เจอก่อน...

     

    สำหรับ ดีล เรือชุดนี้ มันเป็นผลสะท้อนกลับจาก การจัดหาเรือดำน้ำ ที่ถูกยับยั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด ที่จะจัดหาได้ในครั้งต่อไป...จึงต้อง เน้น ความสามารถปราบเรือดำน้ำ เป็นอันดับหนึ่ง เพื่อทดแทน...ผมก็มองว่า เรือชุดนี้ ในแบบตัวเรือ คงต้องเน้น ความสามารถปราบเรือดำน้ำก่อน และความเงียบของระบบขับเคลื่อน...โดยรูปแบบเรือ Stealth ยังสามารถพิจารณาเป็นลำดับรองได้ ในลักษณะเท่าที่จะทำได้ เท่าไหร่ ก็เท่านั้น...

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/05/2013 09:25:54


    ความคิดเห็นที่ 281


    ครับท่าน Juldas หากมองว่าภัยคุกคามทางอากศเท่าที่น่าจะมีอยู่นั้น คงเป็นภาระหน้าที่ของทอ. ดังนั้นส่วนของทร.คงมุ่งไปที่เรือผิวน้ำกับเรือดำน้ำ โดยมีการป้องกันทางอากาศในระยะใกล้-กลางที่เน้นไปที่การป้องกันอาวุธปล่อยนำวิถีมากกว่าอากาศยาน แต่...อย่างที่ได้บอกไว้ครับ แม้จะเป็นเรื่องรองแต่ดำเนินการไม่ยากใช้งบประมาณเพิ่มไม่มาก(น่าจะต้องรวมอยู่ในข้อเสนอที่บอกว่า "ดัดแปลงตามความต้องการของทร.ไทย" ด้วยครับ) แต่ผลที่ได้มันมองเห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนมากๆ ลองนึกว่าหากเรือทั้งสองลำนี้หน้าตาโบราณเชยๆตกรุ่นแบบ KDX II เดิมๆ แล้วล่ะก็ งานนี้ทร.โดนถล่มเละแน่นอนครับ เจ้าภาพรอถล่มยิ่งเยอะอยู่ด้วย ต้องถูกเอาไปเปรียบเทียบกับ รล.นเรศวร และเรือของเพื่อนบ้าน ทั้ง Formidable , Gowind , Sigma แค่คิดก็เละแล้ว ได้งบไปสามหมื่นล้าน แล้วเอาไปจ้างเกาหลีต่อเรือรุ่นเก่าของเกาหลี ในขณะที่เพื่อนบ้านได้ต่อเองด้วยแบบเรือรุ่นใหม่ของตต. ถึงเวลานั้นจะแถลงข่าวแก้ตัวว่าระบบต่างๆทันสมัยสุดยอดล้ำเลิศแค่ไหนก็คงไม่รอดแน่คงโดนถล่มจม(ธรณี)ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกรบเลย ยุคนี้สมัยนี้เรื่องรูปร่างหน้าตาเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ
    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 19/05/2013 11:10:38


    ความคิดเห็นที่ 282


    งป. ไม่ถึง 30,000 ล้าน บาท สำหรับเรือฟริเกต 2 ลำ ไม่ได้มากเลยนะครับ โดยเฉพาะแทบไม่มีส่วนประกอบเรือที่ผลิตในประเทศเลย จริงๆอยากแนะนำว่า ควรทำใจกลางๆ อย่าคาดหวังมากเกินไปครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรือจะแย่มากนะครับ ส่วนตัวที่ทราบ เรือชุดใหม่นี้ ดีกว่าเรือชุด ร.ล.นเรศวร มาก และดีกว่าเรือฟริเกตของ ทร. มาเลเซีย แต่เราจะเสียเปรียบเขาที่จำนวน โครงการจัดหายุทโธปกรณ์หลักที่น่าติดตามจะเปิดเผยเร็วนี้ครับ น่าสนใจกว่าโครงการเรือฟริเกตนี้มากกว่า
    โดยคุณ FatBoy เมื่อวันที่ 19/05/2013 11:44:37


    ความคิดเห็นที่ 283


    ภาพสุดท้ายจริงๆแล้วครับ KDX-IIT STEALTH

     

    เรดาร์3D SMART-S MK2 เรดาร์2D SPS-100K(ผิดชัวร์)รวมอยู่บนเสาเดียวเลยแล้วกัน ลดความยาวด้านหัวกับกลางเรือให้ด้วย ยืนยันสเป็กเดิมไม่เปลี่ยน        


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 19/05/2013 11:45:44


    ความคิดเห็นที่ 284


    ตามข่าว แบบที่ เข้ารอบ ตัดสิน รอบสุดท้าย คือ เรือจาก เกาหลีใต้ กับ สเปน น่ะครับ...

    งานนี้ ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับ สาวเกาหลี...คนที่จะมา แทน ก็ควรเป็น สาวสเปน แห่งเมืองกระทิดุ ครับ...

    ส่วน สาวหมวย หรือ สาวอื่น ๆ...ก็ต้อง ต่อคิว สาวสเปน ก่อนครับ...

    การเป็น Stealth ของเรือ...ผมมองว่า มันเป็นการ ลดขนาดเรือมากกว่าความเป็นจริงบนจอเรดาร์ เท่านั้น...ม้นไม่ได้ หมายถึง เรือตรวจจับไม่ได้ หรือ ล่องหน...

    ยังไง เรือมันก็ถูกตรวจจับได้ อยู่แล้ว...เพียงแต่ มันจะสร้างการประเมินความผิดพลาด ของ ฝ่ายตรงข้าม เท่านั้น...ซึ่งเป็นการ สร้างโชค แบบหนึ่ง...ซึ่งแบบเรืออื่น ๆ เช่น เรือฟริเกตจากประเทศจีน...แบบเรือผมวา ก็ไม่ได้แตกต่างจากเรือ KDX-II เท่าไหร่น่ะครับ...

     

     



    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/05/2013 11:49:32


    ความคิดเห็นที่ 285


    แปลกใจว่าทำไมประเด็นมาอยู่ที่รูปทรงไปเสียแล้ว ตอนที่เป็นเรือDW3000Hก็เป็นประเด็นว่าเรือเล็กว่าเรือหลวงนเรศวรโหลดอาวุธได้น้อยไม่สมรรถนะสุงตามชื่อเลย  แต่พอย้ายมาเป็น KDX-II กลับกลายเป็นเรื่องหน้าตาไปเสียนี่ เรือฟริเกตุสมรรถนะสุงแต่ไม่หล่อโดนยิงจมง่ายอีก ผู้ชายเรามีแฟนสวยอยู่แล้วยังแอบเหล่เมียชาวบ้านทุกคนเลยเนอะ ผมก็เป็น

     

    ส่วนตัวผมคิดว่ากองทัพเรือเน้นตัวเรืออุปกรณ์และอาวุธมากกว่า ผมอยากได้เครื่องยนต์ที่ทันสมัยกว่า CODOD CODOG มากกว่ารูปทรงสวยๆนะครับ แต่ก็นะรู้ว่าหมดหวัง

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 19/05/2013 11:57:44


    ความคิดเห็นที่ 286


    รูปท่าน superboy เนียน ดี ครับ...ดูใช้ได้เลย

    ข่าวของท่าน FatBoy...ขอลุ้นให้เป็น เรือดำน้ำ ทีเถ๊อะ พ่อคุณ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/05/2013 11:58:07


    ความคิดเห็นที่ 287


    อะแฮ่มๆ Chang Bogo หรือจะเป็น มือสองจากอิตาลี ......Sauro Class ......

    เรื่องเครื่องยนต์ขอเป็นDiesel Electric หรือ COELOD (COmbined ELectric Or Diesel ) .......จะได้เงียบสมกับเป็นเรือปราบด.สักหน่อย 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 19/05/2013 12:44:27


    ความคิดเห็นที่ 288


    ฝากคุณจูดาสครับ เคยพูดคุย กับนายทหารของกองเรือดำน้ำ เลยลองสอบถามแบบที่ เขาสนใจกัน ก็ได้รับคำตอบว่า ทางอ่าวไทย น่าจะประมาณ U209, Ula class หรือ 210 mod, และ การซื้อแบบ 206a มาต่อในประเทศ ก็อาจจะเป็นไปได้ ส่วน U214 และ kilo อาจจะใหญ่ไปนิดสำหรับอ่าวไทย ทำ manuever ค่อนข้างลำบากกว่าลำเล็ก
    โดยคุณ ccguy เมื่อวันที่ 19/05/2013 13:32:45


    ความคิดเห็นที่ 289


    ถ้า ทร. เน้น เรือดำน้ำ สำหรับ อ่าวไทย...

    ผมว่า U-206A ดูจะเหมาะสมที่สุด...

    แต่ถ้าได้ U-209 ก็ดูจะมาตรฐานดี มีคนใช้งานเยอะ...การร่วมฝึก หรือ ข้อมูล ด้านดี ด้านด้อย ของเรือชั้นนี้ ก็น่าจะมีเยอะ ก็น่าจะช่วยในแง่ ประสบการณ์ ได้มากกว่า...

    และใช้งานได้ทั้ง 2 ฟากฝั่ง...

     

    แต่ไม่แน่ อาจจะเป็น การจัดหา UAV ก็ได้น่ะครับ...เพราะรู้สึก ช่วงนี้ ทร. จะเน้นการเป็น Data Link ครบวงจร...หรือพยายามจะ Real Time ให้ได้มากที่สุด...

     

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/05/2013 13:44:43


    ความคิดเห็นที่ 290


    อัพเดท รายการจัดหาอาวุธ ของ ทร. ว่าคืบหน้าไปเพียงใด ครับ...แล้ว รายการอะไร จะเป็น รายการต่อไป สำหรับแผนจัดหาอาวุธ ระยะเวลา 10 ปี ในอดีต


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 19/05/2013 14:36:17


    ความคิดเห็นที่ 291


    ผมเป็นพวกโลภมากครับ อยากได้ทั้งสวยทั้งใหญ่และสมรรถนะสูง ทั้งๆที่เงินน้อยนี่แหละ DW3000H นี่ไม่ชอบทั้งขนาดและหน้าตา ชอบแค่เสาปิรามิดที่ติดตั้งอยู่ ส่วน KDX II ใหญ่ โหด ดีครับ แต่ผมคิดว่าเรือแบบเดิมที่ต่อภายหลัง มักจะมีการปรับแต่งรูปร่างหน้าตาใหม่ให้ไฉไลกว่าเสมอ ก็เลยคาดหวังว่าของทร.เราก็น่าจะได้แบบนั้นแบบนี้บ้างก็แค่นั้นครับ อย่าลืมว่าโครงการต่างๆ โดยเฉพาะของทร.นั้นเป็นเป้าให้ใครต่อใครใช้โจมตีตลอดเวลา อย่ามองข้ามจุดเล็กและคิดว่าไม่สำคัญนะครับ ชาวบ้านและคนทั่วไปเขาไม่รู้ลึกคิดลึกแบบพวกเราๆ ท่านๆ หรอกนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็นว่าไปซื้อเราเก่าจากเกาหลีอีก (เหมือนกรณี บ.Gripen ของทอ.ทั้งที่เป็นรุ่นใหม่แท้ๆ) ส่วนรูปของท่าน superboy นี่เนียนมากครับ "สุดยอด" แต่ไม่ตรงกับที่ท่าน icy_cmu ขอไว้คือ Sea Giraffe + Ceros 200 น่ะครับ อ้อ..เกือบลืม DS-30 ด้วยนะท่าน ส่วนผมขอบายดีกว่าครับ รอลุ้นข่าวของท่าน Fatboy ดีกว่า ไม่ทราบว่า ฮ.นี่ถือเป็นยุโธปกรณ์หลักไหมครับ หรือจะเป็น ด. หรือ บ. ....??? ปล.คิดไปคิดมาคงไม่พ้นชุดเดิมที่ท่าน icy_cmu ทำนายไว้ ได้ขี่ยีราฟเหมือนเดิม แต่ยกเอาระบบ ASW Suite ขั้นเทพมาเป็นยันต์กันแห้ว Hull Sonar + ACTAS + K-ASROC
    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 19/05/2013 15:06:04


    ความคิดเห็นที่ 292


    งานนี้เรือของ ทร. ถึงแม้จะเสนอแบบมาแล้วไม่ว่าจะเป็น KDX2 หรือ DW3000H ก็ต้องฝ่าอีกหลายด่าน โดนเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านแบบเลี่ยงไม่ได้

     

    SIGMA 10514 ที่อินโดจะต่อ งามแท้ๆ

     

    IMDEX Asia 2013: Two-ship programme firms up for Indonesian PKR frigate

    http://www.janes.com/products/janes/defence-security-report.aspx?ID=1065979190&channel=defence

     

    เพิ่มเติม : Oerlikon Millennium 35 mm น่าเอามาติดเรือใหม่มาก เสียแต่ว่าทำให้มีแบบกระสุนเพิ่ม และราคากระสุนไม่น่าจะถูก

    SIGMA 10514


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 19/05/2013 15:30:44


    ความคิดเห็นที่ 293


    ว่าจะไม่แล้วนะอดไม่ได้จริงๆ ขออีกเวอร์ชั้นแล้วกันเอาภาพจากท่านจูดาสนั่นแหละง่ายดี

     

    เรดาร์3D SMART-S MK2 เรดาร์2D JUPITER/LW 08 หรือ SPS-49A(V)1 แบบที่ท่านไอซ์บอกในอีกกระทู้หน้าตาคล้ายกันดีไม่ต้องเปลี่ยนภาพ

     

    ถ้ากองทัพเรืออยากได้เรดาร์จับเป้าได้ไกลๆก็ควรจะแยกกันแบบนี้นะ มี2ตัวทำงานร่วมกันคงพอกล้อมแก้มหละน่า

     

    ส่วนเซอร์ไพรส์ของท่านfatboy ขอเป็น OHP ได้ไหม ผมงก

     

    เข้ามาเพิ่มความเห็น  ข่าวของท่า fatboy น่าจะเป็นการเข้าประจำการของเรือหลวงกระบี่และการต่อเรือลำที่2 รวมไปถึงโครงการขยายอู่ต่อเรือโดยมีเกาหลีใต้เข้ามาเอี่ยวด้วยอย่างเต็มที่


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 19/05/2013 15:59:07


    ความคิดเห็นที่ 294


    ลืมUAVไปเลย เห็นแว้บๆในบางเว็บของทร. (ลืมแต่รู้สึกจะเป็นPPTของสยป.ทร.) จะมีโครงการUAVด้วย 

    ส่วนภาพท่านSuperboy แจ๋วเลย นี่แหละที่น่าจะเป็นที่สุด 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 19/05/2013 18:39:40


    ความคิดเห็นที่ 295


       

         ผมชอบรูปรองสุดท้ายของท่าน  superboy  มากนะครับ   ดูเนียนและดูน่าจะใกล้เคียงความจริงที่สุดแล้ว

    ขอบคุณครับท่าน Fatboy  งานนี้คงอดเสา I-MAST400/500 หรือ  CEA-MOUNT/CEA-FAR   ค่อนข้างแน่แท้แล้ว     น่าจะเป็น 9LV mk-4  +  SMART-S mk-2  และ  FCS แบบ  STIR240/2.4HP  หรือ  CEROS-200  ค่อนข้างแน่   แต่ถ้าเป็น STIR  อยากได้ 2.4 HP  มากกว่าครับ

       และถ้าประสิทธิภาพสูงกว่า Gowind  ก็คงได้  VLS mk-41  มา 16 cell รองรับ  ASROC ด้วย   หรือ  VLS mk-41 8 cell +  K-VLS  8  cell  สำหรับ  K-ASROC   

      โซน่าร์คง  ACTAS ทั้งชุดแหง๋ๆแล้ว   แต่ชุดนี้เทพครับสำหรับภาระกิจปราบเรือดำน้ำ    แต่ก็ควรได้เครื่องยนต์หลักของเรือที่เหมาะสมด้วย   ถ้าได้ตามนี้ก็ถือว่าเรือดีกว่า  Gowind ของมาเลย์ครับ

     

     รอข่าวดีชุดต่อไปจากทร.นะครับ     แต่...... 210 mod  ที่ผมชื่นชอบติดโผกะเขาด้วย.....55555.....มีลุ้น    แต่ฝ่าด่านเรือเกาหลียากหน่อยแล้วสำหรับยุคนี้    แต่จะ type 209-1400/AIP  หรือ  type 210 mod/AIP   ผมก็ OK ครับ


     

     

    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 19/05/2013 23:28:17


    ความคิดเห็นที่ 296


    ท่านfatboy  มาไบ้อะไรให้อีกแล้วละเนี้ย  แต่ไงผมก็ขอเป็นโครงการเรือดำน้ำ  ละกันนะครับ

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 20/05/2013 11:19:00


    ความคิดเห็นที่ 297


    หากเป็นไปตามที่ท่าน icy_cmu คาดไว้ ก็คงเป็นลูกผสม เกาหลี / สวีเดน / อเมริกัน / เยอรมัน ประมาณนี้ครับ   KDX-II(T) + 9LV + Sea Giraffe + Ceros 200 + ESSM + ACTAS + K ASROC + Phalanx   ขนาดเรือน่าจะเฉียดๆ 4,000 ตันเลย เพราะการแก้แบบมากๆ น่าจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมากกว่า การต่อในขนาดใหญ่กว่าแต่ใกล้เคียงแบบดั้งเดิมมากกว่านะครับ (โดยส่วนตัวเชื่อว่ามีการเปิดช่องไว้ให้ตั้งแต่การออก RFP แล้ว) หากเป็นจริงดังนี้ ลูกช้างก็ขอให้ข่าวการวิ่งแก้สเปกเรดาร์เป็นจริง และประสบความสำเร็จ ขอให้ได้ Long 3D Radar แจ่มๆ มาไว้บนยอดเสาด้วยเทอญ เจ้าพระคู้นนนนน

    เอาแบบในรูปนี้ก็สวยดีนะครับ KDX-II (Down Grade)


    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 20/05/2013 11:46:18


    ความคิดเห็นที่ 298


    ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ  จากที่ท่านfatboy  บอกว่าจะมีอีกโครงการ  มันคือเรือดำน้ำหรือป่าวหว่า   แต่จะไปออกที่พี่กิมจิ เห็นกองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ รับสมัครกำลังพลและก็ทดสอบร่างกาย ก่อนที่จะไปฝึกหลักสูตร International Submarine ที่ประเทศเกาหลีใต้ เดือน ก.ค. นี้ รู้สึกหวยจะออกu209 มือหนึ่งหรือสอง หว่า

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 21/05/2013 12:01:25


    ความคิดเห็นที่ 299


    หมดเขตส่งผลงานยังหว่า ฮา

    แจมด้วย

    เสป็คหลวงพี่ icy 

    ส่วนหน้าตาโมตามความใจชอบ


    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 22/05/2013 07:53:23


    ความคิดเห็นที่ 300


    ทำไมรูปไม่ขึ้นละเนี่ย

    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 22/05/2013 07:55:02


    ความคิดเห็นที่ 301


    ลองอีก

    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 22/05/2013 09:12:45


    ความคิดเห็นที่ 302


    รอบสุดท้ายละ ยอม


    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 22/05/2013 09:18:23


    ความคิดเห็นที่ 303


    โอ้ววว...สวยจริง ๆ ครับ...เนียนอีกคนแหล่ะ...

    ถ้า เปลี่ยนจาก RAM เป็น Sagam หรือ Terma Decoy แล้ว ท้ายเรือ เติม DS-30 กับ Sagam หรือ Terma Decoy..

    จะได้ดุ สเปค ใกล้เคียง ดีครับ

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 22/05/2013 09:32:55


    ความคิดเห็นที่ 304


    .........สวยสุดยอด  ขอบคุณมากๆครับ.....ท่าน toeytei ท่านทำแบบเรือ KDX II(T) ได้เจ๋งมาก......OH !!!....I love it................ครับ/สกายนาย

    โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 22/05/2013 09:34:14


    ความคิดเห็นที่ 305


    เจอท่านtoeyteiเข้าให้ผม"ยอมแพ้"เลยเนียนไม่เท่าออกแนวโบราณมากกว่า  ทำเอาไว้ตั้งแต่2วันแล้วแต่ไม่ว่างลงเสียทีขอเป็นตัวประกอบหน่อยนะ  ต้องยอมมอบตัวไม่มีข้อแม้เลยครับ จะได้ให้คนกองทัพมาชอปปิ้งตามใจชอบ

     

    KDX-IIT Super Stealth

    ทำการลดขนาดเรือลงตามสเป๊กด้วยการหั่นเหลือความยาว130เมตร(จาก150เมตร) ระวางขับน้ำปรกติอยู่ที่3,750ตัน(จาก4,500ตัน)
    ปิดช่องกราบเรือด้านหน้าล้อมจนเต็มพื้นที่ ปิดช่องกราบเรือด้านข้างสุงเท่าโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ บริเวณกลางเรือดัดแปลงนิดหน่อยยกฐานเรือเล็กและกว้านยกเรือให้สุงขึ้น เวลานำเรือลงให้ยกสุงข้ามกราบเรือแบบเรือFFX ส่วนท่อยิงตอร์ปิโดใช้ช่องเปิดปิดข้างลำเรือเอาแบบเรือF125 เสาเรดาร์เตี้ยลง

     

    เรือหมายเลข9 โมเดลของผมเอง เรดาร์3D SMART-S MK2 เรดาร์2D SPS-100Kรวมอยู่บนเสาเดียว FCSเป็นSTIR 2.4 รองรับSM-2ในอนาคตแบบใส่แล้วยิงได้ทันที(หรือเปล่า)

    SMART-S มีระยะทำการที่250กม.ส่วน SPS-100Kที่ใช้เป็นตัวช่วยมีระยะทำการแค่100กม.เอาไว้ส่องปลาโลมาเล่นเป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก ผมยืนยันสเป๊กนี้โดยตลอดด้วยเหตุผลส่วนตัวแม้จะคิดว่าไม่ใช่


    เรือหมายเลข7 โมเดลท่านไอซ์ เรดาร์3D SMART-S MK2 เรดาร์2D LW-08 FCSเป็นSTIR 2.4 รองรับSM-2ในอนาคตแบบใส่แล้วยิงได้ทันที(หรือเปล่า)
    SMART-S มีระยะทำการที่250กม.ส่วน LW-08ที่ใช้เป็นตัวช่วยมีระยะทำการ400กม.ในการจับC130 แต่ถ้าเป็นจรวดเอ็กโซเซต์จะลดลงมาเหลือ270กม.ใกล้เคียงกับSMART-Sนั่นแหละ ผมคิดว่ากองทัพเรือเลือกแบบนี้นะแต่ใจไม่รักเลยไม่เชียร์


    เรือหมายเลข5 โมเดลในฝันของท่าTWGและอีกหลายคน เรดาร์3D Sea Giraffe เรดาร์2D LW-08 FCSเป็นCeros 200 รองรับSM-2ในอนาคตแบบใส่แล้วsaabรวยขึ้นมาทุกคนทันตาเห็น(หรือเปล่า)
    Sea Giraffe มีระยะทำการที่180กม.ส่วน LW-08ที่ใช้เป็นตัวช่วยมีระยะทำการ400กม.ในการจับC130 แต่ถ้าเป็นจรวดเอ็กโซเซต์จะลดลงมาเหลือ270กม ผมคิดว่ากองทัพเรือเลือกแบบนี้เราย้ายไปอยู่สวีเดนกันหมดประเทศดีกว่า


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 22/05/2013 10:43:43


    ความคิดเห็นที่ 306


    KDX-IIT Fully Stealth

    ทำการลดขนาดเรือลงตามสเป๊กเหลือความยาว130เมตร(จาก150เมตร) ระวางขับน้ำปรกติอยู่ที่3,800ตัน(จาก4,500ตัน)
    ปิดช่องกราบเรือด้านหน้าล้อมจนเต็มพื้นที่ ปิดช่องกราบเรือด้านข้างสุงสะพานเดินเรือหอบังคับการโดยนำแบบเรือFREAMMเป็นแนวคิด บริเวณกลางเรือดัดแปลงเยอะหน่อยเจาะช่องเอนกประสงค์เปิดปิดได้ขนาดใหญ่

     เรือเล็กอยู่ที่เดิมแต่กว้านยกเรือเตี้ยลงได้เพราะไม่มีราวระเบียงกันคนตกกั้นแล้ว เวลานำเรือลงให้ยกออกช่องดังกล่าวไปเลย ส่วนท่อยิงตอร์ปิโดจัดให้อยู่ชิดกับเรือเล็กมากขึ้นใช้ยิงจากช่องดังกล่าวเช่นกัน จรวดฮาร์พูนต่อฐานให้สุงขึ้นเพื่อสามารถยิงพ้นกราบเรือที่สุงขึ้นได้ ใช้งบประมาณและการดัดแปลงมากกว่าแบบแรกพอสมควร แต่สวยกว่าและไม่ได้แก้ไขโครงสร้างหลักของเรือแต่ประการใด ติดปืนกลds-30 บนสะพานเดินเรือกลางลำให้ด้วย เล็กจนแทบมองไม่เห็นเลยนะนั่น

    จะว่าไปผมว่าเรือลำนี้มันตกแต่งง่ายจากโครงสร้างเรือที่สวยอยู่แล้ว สุดท้ายถ้าได้แบบเดอมๆเลยผมก็โออยู่นะ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 22/05/2013 10:48:09


    ความคิดเห็นที่ 307


     

       โหท่าน toeytei   ผมนึกว่า formidable  เวอร์ชั่นเกาหลีเลยนะนั่น    สุดยอดมากครับ      ถ้าเรือ 2 ลำนี้หน้าตาและประสิทธิภาพแบบที่คาดๆกันมา  วาดรูปกันมา   ผมว่ามันดังไปทั่วโลกเลยนะนั่น   ถ้าได้แบบนี้จริงๆ  ขอ ASW แบบนี้อีก 2 ลำให้ครบ 4  และ ขอ AAW อีก 2-4 ลำ  และขยายแบบ 5000 ตันขึ้นไปเลย

     

      ให้เต็ม 10 เลย


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 22/05/2013 11:03:13


    ความคิดเห็นที่ 308


    ผมว่าถ้าเรือลำนี้มาประจำการเมื่อไหร่ พวกเรานัดเลี้ยงรุ่นกันที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์เรือกันทุกคนเลยดีกว่าไหมครับ

     

    ผมเห็นภาพท่านtoeytei แล้วตกใจหัวเราะอยู่คนเดียว จนต้องรีบอู้งานมาโพสภาพตัวเองโดยด่วน อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ ดราม่าสุดๆ

     

    นี่ผมเอาจริงนะ มีเรื่องต้องคุยกันยาวแน่ ใครจะเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงนี้เสนอตัวมาเลยนะครับ 

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 22/05/2013 11:12:57


    ความคิดเห็นที่ 309


    ว้าวๆๆๆ สุดยอดไปเลยครับท่าน toeytei โดนใจมากมายเลยครับ (แต่ใจผมอยากได้เรดาร์ Long Range 3D มากกว่า LW-08 น่ะครับ) น่าจะมีใครเอาไปให้คณะทำงานของทร.ได้ดูสัหน่อยนะครับ เผื่อจะเอาไปให้ทาง DSME ใช้เป็นตัวอย่างในการปรับแก้แบบเรือให้ออกมาดูสวยงามอย่างที่พวกเราอยากได้กัน

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 22/05/2013 12:01:28


    ความคิดเห็นที่ 310


    ไอเดียอาจจะคล้ายกัน แต่ฝีมือต่างกันฟ้ากับเหวเลย T__T ของผมมันแค่ระดับอนุบาลครับ

    ต้นฉบับ(ภาพบน) เป็นของท่าน superboy นะครับ


    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 22/05/2013 12:07:00


    ความคิดเห็นที่ 311


    ผมถามนิดนึงครับ เรือ DW10000D กับ DW5000D ที่ท่าน superboy กล่าวถึงในโพสท์แรกๆ มันคือ KDX-III กับ KDX-II ใช่ไหมครับ

    โดยคุณ Navy เมื่อวันที่ 22/05/2013 13:19:38


    ความคิดเห็นที่ 312


    รูปผมความจริงจะทำตั้งแต่หลวงพี่ออกเสป็คส่วนตัวมาแล้วแหละ พอดีทำนานจัด

    ผมว่าพวกเราๆชักจะฝันเฟื่องกันใหญ่แล้วแหละ เรื่องหน้าตาเรือจริงคงไม่น่าจะต่างจากแบบต้นฉบับเท่าไหร่ ผมก็โมไปเรื่อยเจื้อยให้ดูเฟี้ยวร่วมสมัย 

    เรือฟก.สมรรถณะสูงได้สองลำก็ดีใจละ ขอให้ได้สเป็คสูงๆหน่อย ระบบอำนวยการรบพร้อม เรดาร์พร้อม ระบบอาวุธต่อต้านเรือดำน้ำพร้อม ไฟพร้อม กล้องพร้อม เอ้ย ไม่ใช่ละ

    โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 23/05/2013 09:35:55


    ความคิดเห็นที่ 313


    สเป็คอ.Rinsc Seaver แห่งTAF

    ขอเดามั่วๆ กับ DW4000H

    combat suite
    CMS = 9LV Mk.4
    ASW CMS = NS ICMS + MSI-2005F
    ICMS = TactiCall + Link-E/G/11/RTN

    effectors
    1x Mk.45/62 caliber
    2x DS-30MR/Mk.44
    1x Phalanx 1B
    8x Mk.41 (ESSM) + 8x K-VLS (K-ASROC)
    8x Mk.141 (Harpoon)
    2x Mk.32 (Mk.46/54)
    2x DL-12T + 4x Mk.137
    1x ECM ??
    1x S-70B

    sensors
    1x LW-08
    1x Kronos NV 3D
    2x CEROS 200
    1x EOS 500
    1x DSQS-23
    1x CAPTAS
    1x ES-3601
    1x C-ESM ??

     

    เสป็คมั่วๆแบบicy 

    สเป็ค1 ตามข่าวลือ 

    CMS/ICMS/ECM 
    -9LV Mk4 CMS (Core System) 
    -Atlas ANCS Consoles -ASW System 
    -ICS - Tacticall -Link-G/E/11/RTN 
    -ECM -SLQ-200K SONATA 


    Sensors 
    -Giraffe AMB 
    -LW-08 /AN/SPS-49A(V)1 
    -2x CEROS 200 CWI
    -1x EOS 500 
    -DSQS-24B
    -ACTAS VDS 
    -COMM ESM -???
    -RADAR ESM -??? 

    Weapons 
    -OTO 76mm. SR
    -2x DS-30M 
    -1x Phalanx 1B
    -8x Harpoon Block2 
    -2x Triple Mk.32 (Mk.46/MU90/Blue Shark) 
    -1x S-70B 
    -8xMk41 (32x ESSM ) + 8x K-VLS (8x K-ASROC) 

    Decoys 
    -Terma SKWS (2x DL-12T /4x Mk.137) 



    สเป็ค2 ตามใจตัวเอง 

    CMS/ICMS/ECM 
    -Tacticos CMS 
    -Kongsberg -MSI 2005f 
    -ICS - Link-G/E/11/RTN terminal / Thales FICS 
    -ECM -SLQ-200K SONATA 


    Sensors 
    -SMART-S Mk2 
    -LW-08 /AN/SPS-49A(V)1 
    -2x STIR 2.4HP (NTU Ready) 
    -1x Mirador 
    -Thales Kingkilp
    -CAPTAS 2 VDS 
    -THALES Gatekeeper 
    -COMM ESM -???
    -RADAR ESM -??? 

    Weapons 
    -OTO 76mm. SR
    -2x DS-30M 
    -1x SeaRAM
    -8x Harpoon Block2 
    -2x Triple Mk.32 (Mk.46/MU90/Blue Shark) 
    -1x S-70B 
    -8xMk41 (32x ESSM ) + 8x K-VLS (8x K-ASROC) (FFBNW - 16xMk41 -16xSM-2MR------TOTAL 24xMk41 + 8xK-VLS) 

    Decoys 
    -SAGEM NGDS
    -Tow Decoy

    สเป็ค3 ตามใจแฟนๆ 
    CMS/ICMS/ECM 
    -TACTICOS CMS 
    -Kongsberg MSI-2005F -ASW System 
    -ICS - Thales FICS -Link-G/E/11/RTN-terminal 
    -ECM -SLQ-200K SONATA 


    Sensors 
    -i-MAST 500 -Sea master 400 AESA , x-band AESA illumination radar ,Sea watcher 100 ,Gatekeeper ,ESM ,SATCOM 
    -1x Mirador
    -Thales Kingkilp 
    -CPATAS 2 VDS 


    Weapons 
    -OTO 76mm. SR
    -2x DS-30M 
    -1x SeaRAM
    -8x Harpoon Block2 
    -2x Triple Mk.32 (Mk.46/MU90/Blue Shark) 
    -1x S-70B 
    -8xMk41 (32x ESSM ) + 8x K-VLS (8x K-ASROC) 

    Decoys 
    -2x SAGEM NGDS 

    สเป็ค4 Formidable /FREMM with Kimchi 
    CMS/ICMS/ECM 
    -SETIS CMS 
    -Kongsberg MSI-2005F -ASW System ???? น่าจะไม่จำเป็น
    -ICS - Thales FICS -Link-G/E/11/RTN-terminal 
    -ECM -SLQ-200K SONATA 


    Sensors 
    -Herakles Radar
    -2 x SAGEM VIGGY +SAGEM EOMS 
    -Thales Kingkilp 
    -CAPTAS 2 VDS 
    -ESM 

    Weapons 
    -OTO 76mm. SR
    -2x DS-30M 
    -1x SeaRAM
    -8x Harpoon Block2 
    -2x Triple Mk.32 (Mk.46/MU90/Blue Shark) 
    -1x S-70B 
    -32x Sylver A50 (ASTER15/30 ) + 8x K-VLS 

    Decoys 
    -2x SAGEM NGDS 




    อันตามใจตัวเองนี่ กับ ไฮบริดนี่เป็นไปได้ยากสุดๆ

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 23/05/2013 10:14:57


    ความคิดเห็นที่ 314


    ความเห็นเรื่อง Phalanx ครับ



    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 23/05/2013 14:04:20


    ความคิดเห็นที่ 315


     

    แต่เกาหลีใต้เพิ่งซื้อไป5ระบบเพื่อติดกับเรือ5ระบบในราคา65ล้านดอลนี่ครับ

     

     

     

    South Korea orders Raytheons Phalanx

    (0) |
     
    Published: Sept. 13, 2011 at 6:15 AM

    LONDON, Sept. 13 (UPI) -- Raytheon has signed a $65.5 million contract with South Korea for five Phalanx Block 1B Close-In Weapon Systems for the new Ulsan-1 class FFX ship program.

    The direct commercial sale calls for the systems to be installed on the 2,300-ton frigate-class ships starting in April 2013.

    "Phalanx is uniquely suited for the littoral environment in which the Korean fleet operates," said Rick Nelson, vice president of Raytheon Missile Systems Naval Weapon Systems product line.

    "Thanks to its multi-spectral sensor suite, Phalanx can terminally engage all threats in a multi-path, land clutter and glint environment. With Phalanx on board, the South Korean fleet will have the best possible ship self-defense available."

    Phalanx is a rapid-fire, computer-controlled radar and 20mm gun system that automatically acquires, tracks and destroys enemy threats that have penetrated other ship defense systems. More than 890 systems have been built and deployed in the navies of 25 nations.

    South Koreas FFX ship class will replace the Ulsan and other smaller frigates. Ulsan-1 is designed for anti-ship, anti-submarine and anti-aircraft warfare.

    Raytheon issued the announcement in Britain, where it is showcasing products at the Defense and Security Equipment International trade show.

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 23/05/2013 19:24:45


    ความคิดเห็นที่ 316


    15ล้านเหรียญ -450ล้านบาท 

    ราคาพอๆกับลูกESSM 9ลูก 

    อาจจะมีโอกาสได้เกิดในทร.ไทยสูงอยู่ 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 23/05/2013 19:57:26


    ความคิดเห็นที่ 317


    ของเกาหลีใต้ อาจจะเป็นชุดคิท Block 1B แบบเดียวกับที่ สหรัฐ จัดหาพร้อมกับ โปรตุเกส หรือเปล่าครับ.....ในจำนวน 3 ระบบ มุลค่า 45 ล้านเหรียญ เฉลี่ยระบบละ 15 ล้านเหรียญ ใกล้เคียงกันครับ...ซึ่ง เกาหลีใต้ อาจจะต้องจัดหา Phalanx Block 0 มาในลักษณะเดียวกับ ปากีสถาน เท่าที่ดู Phalanx Block 1B...ในตอนนี้ ที่มีการขาย คือ Phalanx Block 0 + Block 1B Kit

    ซึ่ง Block 1B kit ภาระกิจ ก็เหมือน DS-30 + EOS 500 คือ ทำลาย UAV เรือเร็วผิวน้ำ หรือ ภัยผิวน้ำ ระยะใกล้ตัวเรือ และ เฮลิคอปเตอร์...

    ถ้า เรือฟริเกต มี DS-30 อยู่แล้ว...Phalanx คงใช้เพียง CIWS เท่านั้น...

    เรือที่ติดตั้ง Block 1B ส่วนใหญ่ ก็จะไม่มีปืนรอง...เช่น OHP ปัจจุบัน มีปืนรองหน้าเรือ คือ 25 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก ส่วนท้ายเรือ ก็ให้เป็นหน้าที่ของ Phalanx Block 1B...หรือ เรือเช่น FFX ไม่มีระบบปืนรอง จึงใช้ระบบ Phalanx Block 1B แทน

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/05/2013 05:35:36


    ความคิดเห็นที่ 318


    ซึ่งระยะของ Phalanx ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป สำหรับ Block 1B เพิ่มมุมองศา อีก 5 องศา เพื่อใช้กับเป้าพื้นน้ำได้ และเป้าหมาย UAV โดยติดตั้งระบบตรวจจับด้วยกล้องอินฟาเรด...

    Block 1B น่าจะเหมาะสำหรับ เรือฟริเกต ที่ไม่ต้องการ ระบบปืนรอง เพิ่มเติม สำหรับเรือเก่า เพราะมันจะต้องมี คอนโซลปืน ของระบบปืนรอง เพิ่มเติม จึงใช้การใช้งานร่วมกับ Phalanx ที่มีการติดตั้งอยู่แล้ว และไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษาเพิ่ม โดยใช้ชุด อัพเกรด ติดเพิ่มเติมเข้าไป...หรือ เรือใหม่ ที่ ไม่มี ระบบปืนรอง...ก็ใช้ block 1B

    ซึ่ง ความเห็นผมว่า ถ้าเทียบประสิทธิภาพ ระบบปืนรอง น่าจะมีประสิทธิภาพ ดีกว่า Block 1B ทั้งระยะ และความยืดหยุ่น...ซึ่งระยะของ Phalanx ก็มีไม่เกิน 4 ก.ม. แล้ว UAV กับ เฮลิคอปเตอร์ อะไร จะบินเข้าในระยะยิง ? โดยหลัก Block 1B ผมคิดว่ายังคงเน้นการป้องกันตนเอง มากกว่า การใช้งานด้านรักษากฎหมายทางทะเล แบบระบบปืนรอง DS-30...ผมเลยมองว่า ถ้ามี DS-30 + EOS อยู่แล้ว...ถ้าจะติดตั้ง Phalanx ก็ใช้เพียง Phalanx ที่เน้นการ Anti Missile ก็เพียงพอแล้วครับ...


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/05/2013 06:48:09


    ความคิดเห็นที่ 319


    เกาหลีใต้ไม่มีข่าวว่าupgrade หรือ mod เลยนะผมหาไม่เจอจริงๆ  มีแต่ข่าวซื้อมาติดให้เรือชั้นFFX จะเป็นไปได้ไหมว่าบริษัทเอาของเก่ามาปรับปรุงแล้วขายให้

     

    แต่ตอนนี้ดันสนใจเรือฟริเกตุฟิลิปปินส์ขึ้นมาแทนเสียอย่างนั้น เขามีงบ300ล้านดอลสำหรับเรือ2ลำ ตอนแรกจะเอาเรือเก่าอิตาลีแต่ยกเลิกไปแล้ว และเกาหลีเสนอเรือลำนี้ให้ครับ ถ้าได้มาแบบนี้จริงๆนี่เอ่อ....

     

    เอาเป็นว่าผมเชียร์ลำนี้แล้วกัน เชียร์ให้บ้านเราซื้อด้วยในอนาคต ไหนๆก็มาทางเคปีอปแล้วนี่นา ราคาถูกดีระบบป้องกันตัวเองเยอะลูกไกลก็มี

     

    ปล.  เพิ่มข้อมูลครับ งบประมาณใหม่ล่าสุดสำหรับเรือฟริเกตุ2ลำคือ 439 ล้านดอล์ มีลุ้นนะ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 24/05/2013 19:36:33


    ความคิดเห็นที่ 320


    โดยปรกติเราจะเห็นเรือรบเกาหลีใต้ติดจรวดแรมด้านหน้าเรือและปืนโกลด์คีปเปอร์ด้านท้ายเหมือนเรือ F125จากเยอรมัน(หรือเรือเยอรมันมาคล้ายก้ไม่รู้) แต่น่าแปลกสำหรับเรือFFXที่เลือกใช้ฟาลังซ์แทน

     

    ผมเลยตีลูกมั่วเอาเองว่า ด้วยจำนวนเรือที่มากถึง18-24ลำทำให้เรเธี่ยนเสนอฟาลังซ์มือสองอัพเกรดล่าสุดในราคาพิเศษตามที่ว่ามาคือ15ล้าน เกาหลีใต้นี่ลูกค้าชั้นเยี่ยมของบริษัทนี้เลยนะดีลนี้ทำไมจะไม่เอาหละ

     

     

    โชว์เรดาร์SPS-100Kของผมหน่อยนอนฝันถึงทุกวันเลยไม่รู้ทำไม มาเลย์ก็ซื้อไปติดเรือฝึกเขานะ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 24/05/2013 20:13:24


    ความคิดเห็นที่ 321


       ประเมินราคา  FFX-batch1  ก่อน        ทร. ฟิลิปปินส์จัดงบเพิ่มเป็น 439 ล้านเหรียญ  ตีซะ 440 ล้านเหรียญสำหรับ 2 ลำ  ลำละ 220 ล้านเหรียญ  หรือประมาณ  6400 ล้านบาทสำหรับค่าเงิน 29 บาทกว่าๆ     สเปกขนาดนี้  ถือว่าถูกมากนะครับ 

     

      เงินเฉียด 30,000  ล้านบาทของเราสามารถจัดหาได้ถึง 4 ลำ  เกือบ 5 ลำทีเดียว.....ทำราคาได้ไง .......อาวุธและระบบตรวจจับขนาดนี้

     

      ผมว่าถ้าทร.พร้อมในด้านการต่อเรือฟรีเกตขนาด 3000 ตันเองได้   เราน่าจะสามารถทำราคาเรือสเปกขนาดนี้ได้ถูกกว่านะครับ


    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 24/05/2013 20:47:26


    ความคิดเห็นที่ 322


    ที่ เกาหลีใต้ เลือก Phalanx Block 1B แทน Goldkeeper น่าจะเป็นเรื่อง การทำลายภัยผิวน้ำ ได้ด้วย นี่แหล่ะครับ ทำให้ FFX ลดการติดตั้งระบบ ปืนรอง ลงไป....

    ส่วนโครงการ Phalanx Block 1B เท่าที่ผมหาข้อมูล คือ Raytheon ส่งมอบ ระบบแรกให้ โครงการ FFX เมื่อเดือน เม.ย. 2011 ต่อมาในเดือน ก.ย. 2011 ถึงมีการข่าวการจัดหาตามข้อมูลข้างต้นอีก จำนวน 5 ระบบเพิ่มเติม...

    ซึ่งการจัดหา ดังกล่าว เป็นการจัดหาโดยตรงกับผู้ผลิต และไม่มีข้อมูลปรากฎว่า ระบบแรกที่ ส่งมอบให้นั้น มีมูลค่าเท่าไหร่.

    เมื่อลองดุในข้อมูล RAM แล้ว ในวีกีพีเดีย ลงข้อมูล เกาหลีใต้ ได้ License ในการผลิตด้วย สำหรับ โครงการ KDX-II และ III และ Dokdo ซึ่งคาดว่า เกาหลีใต้ คงขอเพิ่ม License ในการผลิตให้กับ FFX นี้ด้วย...อาจจะเป็น ดีล พิเศษ ที่ Raytheon ให้กับ เกาหลีใต้ ก็ได้ครับ...

    งั้น ก็น่าสนใจว่า RAM launcher จะมีมาใน เรือฟริเกตสมรรถนะสูงของไทย หรือเปล่า...ถ้าสมมติว่ามี คงได้แต่เครื่องยิง เพราะ ตัวลูกจรวด ก็คงต้องขอซื้อจาก สหรัฐ ซึ่งคงต้องขออนุมัติ จากสภาครองเกรส ก่อน...

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 25/05/2013 06:16:04


    ความคิดเห็นที่ 323


    ดูแล้ว Phalanx Block 1B คงจะราคา 13 - 15 ล้านเหรียญจริง ๆ ล่าสุด อังกฤษ ก็จัดหาในจำนวน 5 ระบบ ราคาใกล้เคียงกับ เกาหลีใต้ เช่นกัน

    Oct 23/12: 5 for RFA. Raytheon signs a GBP 42.8 million (about $68.6 million) contract to deliver 5 Phalanx Block 1B systems to Britain, beginning in 2013. Installation and in-service support will be provided by Babcock Marine.

    The weapons are destined for Royal Fleet Auxiliary support vessels. At the moment, Raytheon’s Phalanx system is installed on 14 Royal Navy vessels, including their 6 new Type 45 destroyers. Other British ships use Thales’ Goalkeeper 30mm system. Royal Navy | Raytheon.

    (ใช้ กูเกิ้ล Chome นี่ ผมว่าง ลิงค์ อะไร ไม่ได้เลยครับ) ใช้ copy จาก word แล้วมาวาง ก็ไม่ได้ ต้องทำเป็น ไฟล์รูป อย่างเดียว

     

     

    ป๋าครับ Copyแล้วลองกด Ctrl+v มาวางครับ /Admin

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 25/05/2013 08:14:03


    ความคิดเห็นที่ 324


    ผมว่ายังไงทร.เราก็เลือกฟาลังซ์ ส่วนจะรุ่นไหนก็ไม่สำคัญหรอกขอให้มันเป็นCIWSจริงๆเถอะ

     

    ทีนี้เรือฟิลิปปินส์ลำหละ220ล้าน ผมว่าไม่ได้ตามภาพแน่นอน จะต้องมีการปรับสเป็กนิดหน่อยนะ ฟาลังซ์หายไปเอาแรมไปติดตั้งแทน ส่วนด้านหน้าที่เก่าของแรมกลายเป็นds-30 ไป ปืนเรือกลายเป็น 75 SR จรวดร่อนไม่มีจรวดต่อสู้เรือใส่ได้8แต่ติดจริงแค่4(หรือปล่อยโล่งไว้ก่อน) ตอร์ปิโดเบา6ลูก เรดาร์ smart-s โซนาร์หัวท้าย

     

    เอ...  นี่มันสเป็กเรือเรานี่หว่า...  อยากได้จริงๆนะเนี่ย ต่อเอง4ลำราคาตามนี้เอามาแทนลำเก่าๆทั้งหมดคงเข้าทีนะ อาวุธป้องกันตนเองดีพอตัวเอกประสงค์มากๆใช้งานได้หมดทุกสถานะการณ์

     

    ฟิลลิปปินส์ก็ต้องการต่อเรือฟริเกตุที่บ้านเขาเองด้วย DSMEมีออฟเซตขยายอู่ให้เราเพื่อรองรับในอนาคตไหมนะ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 25/05/2013 09:49:00


    ความคิดเห็นที่ 325


    แต่ถ้าดัดแปลงแล้วยุ่งยากก็แค่ถอดฟางลังซ์ออกแล้วติด ds-30เข้าไปแทน2กระบอกแล้วกัน

     

    หลงรักนางสาวอิลชอนเสียแล้วสิเรา แม้จะไม่มีVLS และESSMแต่ทำให้ราคาลดฮวบลงมาได้ สเป็กที่เหลือไม่ขี้เหร่เลยนะครับ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 25/05/2013 10:04:10


    ความคิดเห็นที่ 326


    เข้ามาเพิ่มราคาเรือให้ครับ FFX-1 ราคาประมาณ 232 ล้านดอล์ได้เท่าในภาพเลย

     

    The Incheon, measuring 114 meters in length, 14 meters in width and 25 meters in height has a maximum speed of 30 knots. It can carry a 140-member crew and one military helicopter.

    It is equipped with state-of-the art weapons systems and military equipment such as anti-ship and anti-aircraft Rolling Airframe Missiles, a three-dimensional radar system and a Torpedo Acoustic Counter Measure designed to fight off enemy torpedo attacks. One unit is said to cost around 250 billion won ($232 million).

     

    http://navaltoday.com/2011/04/29/south-korea-launches-2-300-ton-frigate-incheon/

     

    ส่วนอันนี้เป็นข้อมูลที่เพื่อนๆต่างชาติคุยกัน 

     

    1. Indonesias PKR 10514 Sigma-class by Damen Schelde Shipbuilding of the Netherlands and PT PAL of Indonesia: US$220 million for 1 unit (signed June 2012);


    2. South Koreas FFX-1 Incheon-class by Hyundai Heavy Industries (HHI): US$232 million for the 1st unit, although HHI contract for the hull only was W140 billion (US$106.5 million) (signed December 2008);


    3. Thailands new frigate program based on Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering (DSME) DW-3000H: B13 billion (US$442 million) for 1 unit;


    4. Malaysias SGPV LCS Gowind-class by DCNS of France and Boustead Heavy Industries of Malaysia: MYR1.5 billion (US$467 million) each (signed December 2011);

     

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 25/05/2013 17:02:06


    ความคิดเห็นที่ 327


    ต่อด้วยราคาเรือฟริเกตและคอร์เวตทั่วโลก ตีว่าใกล้เคียงนะครับเพราะบางลำอาจไม่ได้รวมการติดตั้งอาวุธเพิ่มเติม

     

    http://newwars.wordpress.com/warship-costs/

     

    FRIGATES

    Absalon (Denmark)-$269 million

    Bertholf National Security Cutter-$641 million

    F100 Bazan (Spain)-$600 million

    F105 Cristobal Colon (Spain)-$954 million

    De Zeven Provincien (Netherlands)-$532 million

    FREMM (Franco/Italian)-$745 million

    LCS Freedom-$637 million

    Holland (Netherlands)-$169 million

    LCS Independence-$704 million

    Iver Huitfeldt (Denmark)-$332 millon

    Nansen (Norway)-$557 million

    Sachsen Type 124 (Germany)-$1.06 billion

    Valour MEKO A200 (South Africa)-$327 million

    F-22P Zulfiquar (China/Pakistan)-$200 million

    *****

    CORVETTES/OPVs/CUTTERS

    Baynunah (UAE)-$137 million

    Braunschweig K-130 (Germany)-$309 million

    Clyde (Britain)-$47,000,000

    Falaj 2 (UAE)-$136 million

    Khareef (Oman)-$262 million

    Kedah (Malaysia)-$300 million

    Knud Rasmussen (Denmark)-$50 million

    BAM Maritime Action Ship (Spain)-$116 million

    MILGEM corvettes (Turkey)-$250 million

    Otago (New Zealand)-$62.6 million

    Port of Spain (Trinidad and Tobago)-$76 million

    River (Britain)-$31,400,000

    Sarah Baartman/ Damen 8313 OPV (South Africa)-$20 million

    Sentinel-$47 million

    Sigma (Indonesian/Moroccan)-$222 million

    Visby (Sweden)-$184 million

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 25/05/2013 19:36:49


    ความคิดเห็นที่ 328


    ยังอีกตั้งหลายวันกว่าทร.จะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของโครงการ กระทู้นี้เงียบไปหน่อยไหมครับ สงสัยไปเที่ยวยูเครนกับเวปเพื่อนบ้านกันหมดแล้วแน่ ผมเลยขออัพในเรื่องที่ไม่ซ้ำมาก่อนแล้วกัน

     

    ผมขอพูดเรื่องอาวุธปราบเรือดำน้ำแบบง่ายๆแล้วกันนะครับ เรือลำนี้เราเน้นปราบเรือดำน้ำและจากคำพูดของประธานเรือลำนี้ชนะเรือสเปนเพราะระบบปราบเรือดำน้ำ ฉะนั้นจะต้องมีหมัดเด็ดเพิ่มเข้ามาแน่ แต่อะไรเรามาลองเดากันก่อนแล้วกัน

     

    อาวุธชนิดแรกผมถือเป็นอาวุธป้องกันตัวเองที่มีติดตั้งในเรื่อทั่วไปนั่นก็คือตอร์ปิโดเบาปราบเรือด้ำน้ำ เรือที่ต่อจากDSME ควรจะได้รับการติดตั้ง K745 Chung Sang Eo (Blue Shark) torpedo มาด้วย เรามาดูสเป็กกันก่อนแล้วกัน เป็นตอรืปิโดเบาะรรมดาติดอยู่บนแท่นยิง3นัดเหมือนเจ้าอื่นเป๊ะ

    Specifications
    Weight     280 kg
    Length     2.7 m
    Width     0.32 m
    Operational
    range     19 km

    ข้อมูลจากวิกิ ทุกอย่างปรกติหมดยกเว้นระยะยิงที่มากเกินไปคือ19กิโลเมตร ด้วยความสงสัยผมเลยหาข้อมูลเพิ่มบางแห่งบอกว่า12ไมล์ทะเลเทียบได้กับ19กม. ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ดีอีก ผมจึงไปหาในเวปเกาหลีได้สเป็กมาเท่านี้ครับ 12กิโลเมตร ตามลิงค์เข้าไปจะมีคลิปทดสอบการยิงด้วยแต่ผมไม่ได้ดูนะครับเน็ตมือถือบ้านนอกสู้ไม่ไหว 5555 ใครดูแล้วมาเล่าให้ฟังด้วย

     

    http://www6.atwiki.jp/namacha/pages/143.html

    K745ใ€Œ้’้ฎซใ€ๅ‹•็”ป๏ผˆ่ฃ…็”ฒ่ฒซ้€š่ฉฆ้จ“ใ‚„ๅฐ„ๅ‡บ่ฉฆ้จ“ใชใฉๅ„็จฎใƒ†ใ‚นใƒˆใชใฉ๏ผ‰

    ็›ดๅพ„ 324mm
    ๅ…จ้•ท 2.7m
    ้‡้‡ 280kg
    ๅผพ้�ญ้‡้‡ 60kg
    ้›ท้€Ÿ 45kt
    ่ˆช่ตฐ่ท้›ข 12,000m

     

    ถ้าตามนี้เท่ากับว่าตอร์ปิโดชนิดนี้อยู่ในเกณท์ปรกติยิงได้ประมาณ12กม. อาจจะไม่ใช่เก่งเป็นหมายเลข1แต่ก็ไม่ใช่ที่โหล่แน่  ราคาต่อลูกอยุ่ที่1ล้านวอนหรือ 8.3แสนดอล์ ก็พอไหวนะครับ

     

    เรือลำใหม่ของเราอาจไม่จำเป็นต้องติดตอรืปิดโเบาจากเกาหลีใต้ก็เป็นได้ และจะติดแบบนี้หรือแบบจากยุโรปก็ไม่สำคัญมากนักเพราะถ้าหลุดมายิงกันในระยะ10กม.นี่ ก่อนยิงระบบตรวจจับสำคัญมาก แต่หลังยิงต้องพึ่งดวงอย่างเดียว เราจะยิงโดนเขาไหมนะหรือจะโดนเขายิงก่อน ลุ้นกันครี่แตกเลย อะไรที่อยู่ในน้ำมันควบคุมยากเหลือเกินขอบอก ผมถือเป็นอาวุธป้องกันตัวไม่ใช่ไล่ล่าเรือดำน้ำได้อย่างเต็มตัว เพราะระยะยิงมันเสียวมาก

     

    เพียงแต่ผมคิดว่าเหตุผลสำคัญในคห.ถัดไปจะทำให้ทร.เลือกBlue Sharkตัวนี้นะครับ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 27/05/2013 19:23:03


    ความคิดเห็นที่ 329


    อย่างที่2ถือเป็นระบบอาวุธปราบเรือดำน้ำที่แท้จริงถ้านับตามระยะยิง Hong Sang Eo (Red Shark) torpedo หรือ K-ASROC

     

    Red Shark คืออะไรครับ ก็คือการทำตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ว่า สะสารเคลื่อนที่บนอากาศได้เร็วกว่าในน้ำ ควบคุมได้ดีกว่า และมีความแม่นยำสุงกว่า  เกาหลีใต้ก็เลยจับตอร์โดK745 Blue Shark มาต่อท่อนจรวดเข้าไป แล้วยิงไปในอากาศให้มันตกใกล้ๆเรือดำน้ำเพื่อเพิ่มควมเร็วและระยะยทางให้มากขึ้น มาดูสเป็กนะครับ

    Specifications
    Weight     820 kg
    Length     5.7 m
    Width     0.38 m
    Engine     TVC Rocket Motor
    Operational
    range     19 km
    Speed     45+ knots (83+ km/h)

    ความยาวเพิ่มเป็น5.3เมตรหนักมากขึ้นครึ่งตันกว่าๆ แต่จากสเป็กในวิกิบอกว่ายิงได้ไกล 19กม.ด้วยความเร็ว83 กม. บ้าไปแล้วพี่คิม นายลอกของK745มาใส่ชัดๆ ผมจึงเข้าเวปเดิมไปดูอีกทีได้ระยะมาที่30กม.ใช้ได้เลย แม้จะไม่รู้ว่าเป็นระยะไกลสุดของท่อนจรวดหรือรวมระยะที่ตอร์ปิโดวิ่งไปในน้ำด้วยก็ตาม แต่ถือว่าดีมากๆ ไกลออกไป2.5เท่าจากของเดิม ตามลิงค์มีคลิปด้วยผมไม่ได้ดูเหมือนเดิม

     

    http://www6.atwiki.jp/namacha/pages/143.html

     

    ๅจ้ท 5.7m
    ็ดๅพ 0.38m
    ้้ 820kg
    ้ฃ่ก้ๅบฆ ใใใ1
    ๅฐ็จ 7๏ฝ30km
    ๆจ้ฒ่ฃ็ฝฎ ๅบไฝใญใฑใใใขใผใฟใผ
    ๅผพ้ญ้จ K745ใ้้ฎซใ็ญ้ญ้ท

     

    จากภาพที่ผมนำมาใส่ K-ASROC จะถูกยิงขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นเมื่อหมดเชื้อเพลิงก๊อก2หรือถึงระยะเป้าหมายตอร์ปิโดK745จะถูกทิ้งลงมาโดยมีร่มช่วยพยุง เมื่อลงไปในน้ำบริเวณเป้าหมายที่กำหมดมันจะค้นหาและทำลายเป้าหมายอีกที ด้วยระยะ30กม. ถือว่าหายใจคล่องคอขึ้นมาหน่อยแม้จะไม่มีใครอยากเล่นกับเรือดำน้ำก็ตาม

     

    ราคาลุกละ2ล้านวอนหรือ 1.86 ล้านดอล์ แพงขึ้นมา2เท่าใช้ยิงจากท่อK-VLSจึงนับว่าทันสมัยมากพอตัว ผมคิดว่าเกาหลีใต้เพิ่มตัวนี้ให้เราแน่และทำให้เราต้องตใช้ตอร์ปิโดเบาK745เข้าไปด้วยเพราะมันมาคู่กัน แม้ตัวจรวดจะถอดตอร์ปิโดออกบนเรือมาใช้ยามฉุกเฉินเองไม่ได้เอง(หรือเปล่า) แต่การจัดหายุทธปัจจัยแบบนี้จะง่ายขึ้นมาก อยากได้กี่นัดก็โอนเงินไปให้เกาหลีใต้แล้วรอรับของได้เลยโดยไม่ต้องห่วงเรื่องการเมืองในประเทศ เผลอๆเอามันจากเรือเกาหลีใต้นั่นแหละมาใช้ก่อนก็ยังไหว เทียบกับการจัดหารตอร์ปิโดจากยุโรปและVL-ASROC จากอเมริกาที่ยุ่งยากและใช่ว่ามีเงินก็ซื้อได้ที่ไหน ตัวหลังอเมริกาไม่ขายเราหรอกครับเชื่อขนมกินได้เลยเขาหวง


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 27/05/2013 19:41:07


    ความคิดเห็นที่ 330


    นอกเรื่องนิดหนึ่ง ซ้ายมือ MK.41รุ่นยาวที่สุดติดตั้งจรวดSM-2   ขวามือท่อK-VLS ติดจรวด K-ASROC

     

    จะเห็นได้ว่า K-VLS สุงกว่านิดหน่อยเพื่อรองรับความยาวจรวดที่5.3เมตรให้ได้ มันเลยโผล่เหนือพื้นขึ้นมาบ้างแตกต่างไปจากของอเมริกา และนั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลมั้งครับที่ทำให้เรือFFX-I 6ลำแลกยังไม่ได้ติดมันทั้งที่เน้นปราบเรือดำน้ำ เพราะมันยาวมากการติดตั้งต้องเป็นด้านกลางหรือหลังเรือต้องดัดแปลงปรับปรุงเรืออีกมากทำให้โครงการล่าช้าไปเป็นปีๆแน่ เงินลงทุนจะสุงและค่าต่อเรือแพงขึ้นอีก เขาก็เลยหยุดไว้ก่อนรอติดในbatchใหม่ที่จะเพิ่มด้านต้านภัยอากาศยานด้วยแทนแล้วกัน แน่นอนราคาเรือเพิ่มอีกด้วยแน่เยอะเลยหละถ้าติดVLSถึง2ระบบเนี่ย ส่วนเรือbatchแรก6ลำผมว่าเขาคงใช้แบบนี้จนหมดอายุแหละ เรือพี่แกมีเยอะไม่ต้องคิดมากต่อๆมันเข้าไป

     

    จะว่าไปเรือOPVของเราก็ล่าช้าเป็นปีเหมือนกันนะ แถมยังไม่รู้อนาคตลำที่2อีกด้วย เฮ้อ

     

    VLS2ชุด 16ท่อคือออปชั่นที่ควรจะมีกับเรือของเรานะครับ แม้KDX-IIจะรองรับได้ถึง64ท่อก็ตาม ชอบเรือลำนี้ตรงนี้แหละ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 27/05/2013 19:53:15


    ความคิดเห็นที่ 331


    อาวุธชนิดที่3ที่สามารถติดได้แต่คงไม่ได้ติดแน่นอน Depth Charge(ระเบิดน้ำลึก) ที่โด่งดัง

     

    เราเคยดูหนังสงครามกันมาบ่อยๆนะครับ พระเอกเอาเรืออูยิงเรือพันธมิตรได้แล้วดำลงใต้น้ำลึกเพื่อกบดาน กองเรือที่เหลือจึงทิ้งระเบิดน้ำลึกเพื่อไล่ล่า เสียงโซนาร์ดัง ตุ๊งๆๆๆ แล้วก็มีแรงระเบิดด้านนอกจนทุกคนเซล้ม มีน้ำรั่วบริเวณห้องเครื่องหลักพระเอกจึงถึประแจตัวใหญ่ไปช่วยขันจนสำเร็จ(ทำได้ยังไง) แล้วเรือก็กลับสู่ฝั่งโดยปลอดภัยพระเอกไปกินเหล้าโดนจิ๊โก๋แทงตายหน้าห้องน้ำ

    ระเบิดน้ำลึกคืดระเบิดที่ตั้งเวลาตามความลึกของน้ำได้ แล้วทิ้งลงไปโดยใช้อุปกรณ์ง่ายๆทิ้งลงจากกราบเรือหรือด้านหลัง เรือเราก็ยังมีอยู่นะตามภาพนั่นแหละ ถ้าจะติดจริงๆก้ไม่ยากหรอกระเบิดก็มีอยู่ในคลังอยู่แล้ว เพียงแต่คงใช้งานไม่ได้ผลกับเรือดำน้ำแบบใหม่แล้วและนี่เป็นการรบระยะติดดาบแบบตายกันไปข้างเลย จึงไม่น่าจะมีในเรือใหม่ของเราอีกแล้ว เพียงแต่ผมนำมาให้ดูว่ามันเป็นยังไงเท่านั้นเอง

     

    เรามีเรือทิ้งระเบิดน้ำลึกกี่ลำครับเนี่ย มีการทดลองแล้วระเบิดแบบในภาพไหม อันนี้อยากรู้


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 27/05/2013 20:01:25


    ความคิดเห็นที่ 332


    อาวุธชิ้นสุดท้ายไม่ได้ซื้อใหม่แต่ใช้กับเรือได้แน่เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำนั่นเอง

     

    เรามีแบบในภาพ6ลำยังไม่ได้ซื้อเพิ่ม เวลาทำงานจริงเฮลิคอปเตอร์จะบินออกไปแล้วใช้ ระบบโซนาร์ตรวจจับเรือดำน้ำ (dipping sonar) และอุปกรณ์ตรวจจับสนามแม่เหล็ก (magnetic anomaly detection device) ของตัวเองในการตรวจสอบ เมื่อค้นพบก็ทิ้งตอร์ปิโดที่ติดตัวไปด้วยใส่แล้วกลับเรือซะ นี่เป็นการทำงานแบบฉายเดี่ยวนะครับ

     

    แต่ถ้าทำงานประสานกับเรือรบก็จะเป็นทำนองที่ว่า เฮลิคอปเตอร์บินไปยังจุดที่สงสัยหย่อนdipping sonarตรวจสอบพอพบเป้าหมายแล้วบอกไปยังเรือให้ยิงจรวดมาทำลาย หรือว่าเรือตรวจพบเป้าหมายแต่ไกลเกินระยะยิงจึงส่งเฮลิคอปเตอร์บินไปทิ้งตอร์ปิโดได้เลย อะไรทำนองนั้น

     

    นั่นหมายความว่าเรือและเฮลิคอปเตอร์จะต้องมีลิงค์เพื่อพุดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันจึงจะทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าทันสมัยสุดๆอาจมีหน้าจอร่วมเลยก็ได้ ปัญหาก็คือแล้วเรือใหม่เราจะมีแบบนี้ไหมหละแล้วใช้กับเฮลิคอปเตอร์ลำไหน ต้องปรับปรุงติดตั้งอะไรเพิ่มบ้างหรือซื้อเพิ่มไปเลย ดูไม่สำคัญแต่สำคัญมากนะครับในการปราบเรือดำน้ำที่นับวันจะเก่งกาจมากขึ้นทุกที เรือดำน้ำรุ่นใหม่ๆจะสามารถยิงจรวดต่อสู้อากาศยานได้เองแล้วแม้จะเพื่อป้องกันตัวก็ตาม กองทัพเรือต้องการคุยกับกองทัพอากาศบนฟ้าแล้วเฮลิคอปเตอร์ตัวเองหละอยากคุยด้วยไหมผมอยากให้พุดเรื่องนี้ชัดเจนด้วยนะครับ

     

    ระบบอาวุธต่อต้านเรือดำน้ำก็มีประมาณ4อย่างนี่แหละครับ

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 27/05/2013 20:11:47


    ความคิดเห็นที่ 333


    เรื่องเฮลิคอปเตอร์กับเรือผมอาจเข้าใจผิด(เพื่อนคนไหนข้อมูลแน่นวานแก้ไขให้ที) แต่เรื่องนี้ผมเข้าใจถูกอย่างชัดเจน ระบบตรวจับเรือดำน้ำที่สำคัญมากในการค้นหาและล๊อคเป้ารวมไปถึงปล่อยเป้าลวงเพื่อป้องกันตัวเอง

     

    ที่ผมเข้าใจถูกคือผมไม่เข้าใจอะไรเลย รู้แต่ว่ามันชื่ออะไรบ้างเท่านั้นเองครับ ฝากเพื่อนๆเป็นการบ้านด้วยนะครับใครชำนาญเรื่องนี้เข้ามาต่อให้ที ผมรวบรวมระบบที่มันมีทั้งหมดที่ผมรู้จักให้แล้วกันนะครับ

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 27/05/2013 20:16:54


    ความคิดเห็นที่ 334


    ....

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 27/05/2013 22:22:23


    ความคิดเห็นที่ 335


    รูปจากเว็บเพื่อนบ้าน ข่าวจาก นสพ. มติชน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ไม่รับรองความน่าเชื่อถือของข่าว

    1


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 27/05/2013 22:25:16


    ความคิดเห็นที่ 336


    .........ผมมองว่า ที่ทางสื่อเขียนข่าวออกมาอย่างนี้ ......เนื่องจากที่ผ่านมา ทร.ยังไม่ได้ให้ความกระจ่างเพียงพอ มีแต่ทร.ได้ให้ข่าวออกมาเพียงแต่ว่า ทางบริษัทเกาหลีได้รับเลือกให้เป็นผู้ต่อเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงให้แก่ทร.ไทย.....แล้วปิดปากเงียบไม่เล่าแจ้งแถลงไขให้ข้อมูลที่กระจ่างออกมาว่า.....เรือที่จะให้บริษัทเกาหลีต่อเรือขึ้นมานั้น จะเป็น แบบเรือ DW3000H หรือจะเป็นแบบเรือ KDX II(T) หรือแบบเรืออื่นๆอะไรกันแน่..ทำให้สับสนทำให้น่ารำคาญใจ.....

    ...............ทร.ควรทำให้สุจริตโปร่งใส บอกมาตรงๆว่าตอนนี้นั้น มันถึงขั้นตอนไหนอะไรกัน.....หรือตอนนี้ทร.กำลังเลือกแบบเรือ หรือทางทร.กำลังแก้ไขเปลี่ยนแปลงขนาดของแบบเรือ หรือทางทร.กำลังเลือกระบบอาวุธและอื่นๆ ทร.ก็บอกมาให้กระจ่าง......การใช้เงินงบประมาณ จำนวนตั้ง 13,000ล้านบาท ในการต่อเรือครั้งนี้ต่อหนึ่งลำ ซึ่งเป็นเงินจำนวนไม่น้อย ทร.จะมัวทำเป็นเงียบ ปิดๆบังๆอยู่ได้.....ผมมองว่า ทร.ควรใช้โอกาสนี้ออกมาชี้แจงได้แล้วว่า.....ปัจจุบันโครงการจัดหาเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงนี้ ได้ดำเนินการกันมาแล้ว ถึงขั้นตอนไหน มีปัญหาอุปสรรคอะไร และจะต้องใช้เวลาอีกสักเท่าไหร่จึงจะเซ็นสัญญาว่าจ้างต่อเรือกันได้ ก็บอกมาให้ประชาชนได้รับทราบทั่วกันไปเลย.........ครับ/สกายนาย

    โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 28/05/2013 13:23:17


    ความคิดเห็นที่ 337


    จากเว็บเพื่อนบ้าน โดยคนที่คุ้นเคย

    ที่มา http://www.thaiarmedforce.com/distribution/viewtopic.php?f=6&t=1025&start=1545


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 11/06/2013 15:33:43


    ความคิดเห็นที่ 338


    ขั้นต่ำสุด คือ สเปค เรือชั้น นเรศวร หรือ ดีกว่า...แต่มีเพิ่มระบบที่มากกว่า เช่น การปราบเรือดำน้ำ และรองรับ ฮ.ขนาด S-70B กับ MH-60S และระบบ FCS ที่รองรับการใช้ SM-2 ในอนาคต ด้วย...

    เท่าที่อ่านดู ผู้ที่โพส ก็ให้ความเห็นว่า จะมีระบบ VL-ASROC ด้วย..

    ถ้าไม่มี K-VL มาด้วย...แต่ใช้ MK-41...ดูแล้ว คงต้องมีระบบ MK-41 อย่างน้อย 2 ระบบ...

    มี Radome สำหรับเรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติ

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/06/2013 15:56:21


    ความคิดเห็นที่ 339


    ประเด็นมันอยู่ตรงภาษาที่ใช้น่ะครับ ตามเอกสารนี้ (ไม่รู้ว่าใช่ของจริงหรือไม่) ระบุชัดเจนเลยว่า ต้องเป็นตราอักษร SAAB เท่านั้น แต่สามารถเสนอ แบบ/รุ่น ที่สูงกว่าดีกว่าที่กำหนดไว้ได้ ภาษาราชการที่ระบุมาอย่านี้แปลว่าจะเสนอยี่ห้ออื่นไม่ได้เลยนะครับ !!! ทร.เจองานหนักแน่ๆ ครับคราวนี้ ทำไมจึงระบุยี่ห้อ SAAB เท่านั้น ??? แล้วมีการพิจารณาคัดเลือกกันอย่างไรเมื่อไหร่ ??? ทำแบบนี้ประเทศจะเสียหายเสียผลประโยชน์แค่ไหนอย่างไร ??? ที่สำคัญช่วงที่ผ่านมาทร.เองก็เงียบมากผิดปกติ อาการน่าเป็นห่วงจริงๆ ครับ

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 11/06/2013 18:39:08


    ความคิดเห็นที่ 340


    ผมว่าลักษณะการจัดหาของ ทร. อาจจะเป็นลักษณะ การว่าจ้างเฉพาะตัวเรือกับระบบขับเคลื่อน ครับ...โดยกำหนดสเปคให้ติดตั้งบ ระบบอาวุธ ของ กองทัพเรือ ที่กำหนดครับ...

    ทุกประเทศจึงสามารถเข้าร่วม ประกวดราคาได้ครับ....แม้แต่ประเทศจีน...

    เพียงแต่ อู่เรือประเทศไหน จะเสนอเงื่อนไข หรือ คุณลักษณะเรือ ที่ดีกว่า...

    ในเรื่องระบบ Radar ลองดูเล่น ๆ ครับ...

    ซึ่งเป็น เรดาร์ มาตรฐานของ กองทัพเรือสหรัฐ ทั้ง Sea Giraffe ของชั้น Independense และ SPS-48E ของ San antonio

    โดยบริษัท ITT กับ Saab มีความร่วมมือระบบเรดาร์ SABER-2020 ของเรดาร์ตรวจการณ์บนฝั่ง...และเมื่อดูระบบเรดาร์ของ ITT แล้ว ก็มี เรดาร์ตรวจการณ์อากาศระยะไกล คือ SPS-48E


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/06/2013 21:38:27


    ความคิดเห็นที่ 341


    เพื่อความเข้าใจโดยพร้อมเพรียงกัน 

    จากสมาชิกTAF 

    superpock wrote:ผมย้ำอีกรอบนะครับ บอกกับน้องใหม่ที่ตกใจกลัวว่าเอกสารนี่เป็นสเป้ก (อันที่จริงผมก็ใหม่เหมือนกันนะ)

    RFQ คือ Request for Quote หรือ Request for Quotation คือ การที่ผู้ซื้อระบุสินค้าที่ตนเองมีความสนใจ แล้วขอให้ซัพพลายเออร์เสนอราคาและเงื่อนไขของสินค้าตามที่ระบุนั้นมาให้พิจารณาก่อนจะตัดสินใจ


    ส่วนอันนี้ของราชการครับ

    RFQ (Request for Quotation)

    คือการเสนอขอราคาขายสินค้าจากผู้ขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ซื้อจะทำการเลือกสินค้าจาก Catalog ที่อยู่ในฐานข้อมูล และทำการส่ง RFQ ไปยังผู้ขายที่มีสินค้าชนิดนั้นๆพร้อมๆกันจำนวนหลายๆราย และผู้ขายจะเสนอราคาตอบกลับมายังผู้ซื้อเมื่อผู้ขายได้รับ RFQ แล้ว การขอราคาและการเสนอราคาอาจจะทำได้หลายๆรอบจนกว่าผู้ซื้อจะพอใจ กับข้อเสนอของผู้ขายรายใดรายหนึ่งและเลือกที่จะจัดส่งใบคำสั่งซื้อ ( PO) ไปให้

    ในระบบ RFQ จะมีจุดสำคัญคือขั้นตอนการอนุมัติซื้อ (Workflow) ซึ่งแต่ละหน่วยงานอาจจะมีขั้นตอนไม่เหมือนกัน เช่น การกำหนดวงเงินอนุมัติ จำนวนผู้อนุมัติ กลุ่มสินค้าที่แต่ละคนรับผิดชอบ สิทธิในการสั่งซื้อได้จากหลายๆส่วนงาน ดังนั้นโปรแกรมการทำงาน RFQ จะต้องสอดรับปรับเปลี่ยนให้รองรับกับรูปแบบการอนุมัติของหน่วยงานต่างๆได้ ซึ่งโปรแกรมของ CAT Telecom มีจุดเด่นในระบบ Workflow เป็นอย่างดี 

    Catalog ที่อยู่ในฐานข้อมูลกองทัพเรือ อาจจะมีแค่ระบบบนเรือหลวงนเรศวรเท่านั้นที่ใหม่สุดเลยเอามาอ้างอิง คืออย่างLong Range Radar= Giraffe Extended Range นี่มันตัวไหนหนะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย

     

     

    จบข่าว 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 11/06/2013 22:00:35


    ความคิดเห็นที่ 342


    แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ จากเอกสารRFQ นี้ คือ สเป็กคร่าวๆที่ทร.ต้องการ 

    มีเรดาร์พิสัยไกล+3D MFR

    2x CWI FCR

    1xEO

    IPMS

    Integrated Sonar System [หัวเรือ +(อันนี้เดาว่าเป็นข้อย่อยที่3.3.3.2จนถึงxx ได้แก่ ระบบโซน่าร์ลากท้าย และASW combat suite ) ]

    ...........SM-2 FFBNW (Fitted For But Not With)..............

    ถ้ามาแบบนี้ ไม่มีอะไรน่าว่าทร.มากนัก นอกจากว่า มันเงียบเกินขนาด และ ขึ้นอยู่กับระบบที่จะประกาศมาว่า ถูกใจแฟนๆมากน้อยแค่ไหน

    โดยส่วนตัวเดาว่า ต้องมี9LV Core แน่ๆ แต่จะต่อแขนต่อขายังไงนี่ สุดปัญญาจะทราบได้  

    และจะมีVLSมากี่ท่อ มีASROCหรือไม่ 

    คงต้องจับยามสามตาเอาแล้วกัน 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 11/06/2013 22:04:37


    ความคิดเห็นที่ 343


    SPS-48 RADAR


    โ€‹AN/SPS-48 E/G is the premier  the premier long range three-dimensional defense radar of the U.S. Navy and key international partners around the world. It  is fitted on U.S. Navy aircraft carriers, large deck transports and international frigates. Currently the SPS-48 undergoing a complete technology and capability refresh to address emerging threats, advance features and improved availability. The forecasted service life of this radar is through 2050.

    In 2001, ITT Exelis undertook the development of a transportable land-based variant of the SPS-48 with capabilities extended to encompass theater ballistic missiles. Six of these radar systems have been successfully deployed in Egypt and are under consideration with several international customers.

    LONG HISTORY AND PLANNED FUTURE

    Exelis has a long history of developing and successfully producing Defense Surveillance Radars. This lineage started with our land-based AN/TPS-32 and was followed by a number of other land-based systems for international customers. The maritime AN/SPS-48E is the primary detection subsystem of the U.S. Navy New Threat Upgrade combat system. The maritime variant supports the weapons direction system and the SM–2 by providing early and accurate threat tracking data that allow defensive missiles to be launched with search data, saving valuable time. Forty-five AN/SPS-48E radars have been delivered to the U.S. Navy. They are the principal air surveillance sensor on all aircraft carriers and large deck amphibious ships. The AN/SPS-48E is selected for the latest Navy amphibious ship, the LPD-17 class, thus assuring U.S. Navy support well into this century. Our advanced SPS-48E configurations are operational in both maritime and land-based applications.

    SUPERIOR PERFORMANCE AGAINST MULTIPLE THREATS

    Through the radar resource manager implemented in software, the SPS-48E matches its performance to the requirements on land or sea. High transmit power combined with simultaneous pencil beam transmissions provide more than 200 nautical miles of detection range in all operational environments including heavy jamming. Doppler waveforms coupled with image processing algorithms provide very fast detection of low-flying threats as they cross the radar horizon. High angle tracking (to 69 degrees) follows theater ballistic missile trajectories to over one million feet in altitude. The radar has demonstrated superior detection and tracking of high and low altitude cruise missiles, supersonic aircraft at all altitudes, helicopters, and ballistic missiles. The SPS-48E is a "plug and play" system it inter-faces easily to C4I systems by providing plots or tracks, and to all modern weapons systems, including the Patriot and the Improved Hawk, SM-2, ESSM and RAM, by providing properly formatted track data. Furthermore, it can accept and execute commands from external defense surveillance or shipboard combat systems.

    LOW SUPPORT COSTS VIA HIGH RELIABILITY, EXCELLENT BUILT-IN TEST, AND REMOTE MAINTENANCE

    The SPS-48E achieves high availability and low support costs via a combination of components and subsystems selected for high reliability, fail-soft modular design, selective redundancies installed in critical areas, corrosion protection, and extensive Built-In Test (BIT). The BIT subsystem is a computer-controlled test and maintenance tool that automates manual performance monitoring and preventative tests. Resulting test data and equipment status are compared to established limits and displayed to the maintenance technician in a user-friendly Windows format. The BIT data may be sent to remote maintenance sites or the factory via modem for troubleshooting or training assistance. Only two maintenance technicians are needed to keep the system fully operational. They use the BIT subsystem, optional electronic technical manuals and four pieces of test equipment.

     

    Contact:

    Defense Surveillance Solutions
    Roman Gonzales 
    Sr Business Development Manager
    +1 818.901.2937

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/06/2013 22:37:59


    ความคิดเห็นที่ 344


    ถ้า สมมติ สเปค ของเรือฟริเกตสมรรถนะสูง จำนวน 2 ลำ  คือ

    1. เรดาร์ตรวจการณ์อากาศระยะไกล 3 มิติ = SPS-48E  (มาตรฐานกองทัพเรือสหรัฐ) สำหรับใช้ข้อมูลให้กับ SM-2 และ Gripen  ผ่าน illuminators CEA และ Ling G
    2. เรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติ = Sea Giraffe 3D AMB (มาตรฐานกองทัพเรือสหรัฐ)
    3. ระบบอำนวยการรบ 9LV Mk4 (มาตรฐานกองทัพเรือไทย สำหรับเรือสมรรถนะสูง คือ ร.ล.จักรีฯ และ เรือชั้น นเรศวร)
    4. ระบบควบคุมการยิง CEROS 200 CWI = ESSM และ ปืนเรือ
    5. ระบบควบคุมการยิง illuminators CEA = ESSM และ SM-2
    6. แท่นยิง MK-41 จำนวน 2 ระบบ = ESSM และ/หรือ SM-2 จำนวน 1 ระบบ, VL-ASROC จำนวน 1 ระบบ
    7. SAGAM Decoy (ยุโรป) หรือ TERMA Decoy (มาตรฐานกองทัพเรือสหรัฐ)
    8. โซนาร์ DSQS-24C  และ Towed Array Sonar
    9. ระบบอาวุธ ปืนหลัก 76 ม.ม. และ ปืนรอง DS-30 + EOS และ แท่นยิงตอร์ปิโด แบบ 3 ท่อ และ Harpoon
    10. ระบบป้องกันระยะประชิด Phalanx Block 0
    11. รองรับการปฏิบัติการด้วย ฮ.แบบ S-70B และ MH-60S
    12. Link G&E

     

    เมื่อปฏิบัติการร่วมกับ ร.ล.จักรีนฤเบศร์ จำนวน 1 ลำ ประกอบเป็น กองเรือปราบเรือดำน้ำ

    1. เรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติ = Sea Giraffe 3D AMB (มาตรฐานกองทัพเรือสหรัฐ)
    2. ระบบอำนวยการรบ 9LV Mk4 (มาตรฐานกองทัพเรือไทย สำหรับเรือสมรรถนะสูง คือ เรือชั้น นเรศวรและ เรือฟริเกตลำใหม่)
    3. Link G&E
    4. ฮ.ปด. แบบ S-70B จำนวน 6 ลำ

     

    โดยมีเรือชั้น นเรศวร จำนวน 2 ลำ เป็นเรือพี่เลี้ยงให้กับ ร.ล.จักรีนฤเบศร์

    1. เรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติ = Sea Giraffe 3D AMB (มาตรฐานกองทัพเรือสหรัฐ)
    2. ระบบอำนวยการรบ 9LV Mk4 (มาตรฐานกองทัพเรือไทย สำหรับเรือสมรรถนะสูง คือ ร.ล.จักรีฯ และ เรือฟริเกตลำใหม่)
    3. ระบบควบคุมการยิง CEROS 200 CWI = ESSM และ ปืนเรือ
    4. TERMA Decoy (มาตรฐานกองทัพเรือสหรัฐ)
    5. โซนาร์ DSQS-24C
    6. ระบบอาวุธ ปืนหลัก 127 ม.ม. และ ปืนรอง DS-30 + EOS และ แท่นยิงตอร์ปิโด แบบ 3 ท่อ และ Harpoon
    7. Link G&E
    8. ฮ.ตผ. แบบ Super Lynx Mk-300

     

    แต่เดิมการตรวจการณ์อากาศระยะไกล จะเป็นหน้าที่ของ ร.ล.จักรีนฤเบศร์ ที่ประสานกับ F-5E ของกองบิน 7 แต่ในอนาคตจะเป็นหน้าที่ของ เรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำใหม่ (ถ้าสมมติใช้ SPS-48E) พร้อมกับการป้องกันภัยทางอากาศแบบพื้นที่ให้กับกองเรือ (SM-2) และประสานการร่วมมือกับ กองทัพอากาศ ด้วย Gripen  และ Erieye โดยมุ่งการทำสงครามแบบ Network

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/06/2013 08:12:14


    ความคิดเห็นที่ 345


    เว็บโน้นลงภาพไม่เป็นเว็บนี้ก้ได้ฟระ ขอลงภาพให้เห็นกันหน่อยนะครับหน้าตาเรือของเราตาม RFQ เจ้ากรรมนั่น

     

    ผมใส่ VL-ASROC เข้าไปนะครับเพราะมีท่อรองรับอยู่แล้ว ระบบและอาวุธต้องมาแน่อาจจะพร้อมกันเลยหรือในอนาคต ส่วน SM-2 เป็นเรื่องอนาคตของอนาคตอีกทีเลยใส่สีฟ้าไว้

     

    เรดาร์ Giraffe Extended Range ไม่รู้จักเลยเอาตัวปรกตินี่แหละขยายขนาดติดไปก่อน Giraffe AMB มีเรโดมด้วยเลยดูดีขึ้นทันตาเห็น

     

    ถึงนาทีนี้ DW3000H มีโอกาสน้อยมากแล้วครับเพราะเรือแบกน้ำหนักระบบและอาวุธตามRFQไม่ไหวแล้ว และเราไม่มีทางซื้อเรือลำนั้นได้3ลำหรอก ถ้าทร.ดิ้นรนจะเอาจริงๆเงินที่อาจจะเหลือนิดหน่อยก็ต้องคืนรัฐเพราะเราขอไปแค่2ลำนี่ เกาหลีนะครับไม่ใช่จีนที่เสนอเรือ3ลำพร้อมเฮลิคอปเตอร์6ลำ

     

    พอซื้อเรือดำน้ำครับแล้วหาเงินไปถอยSM-2มาซัก8ลูก โดยสัญญากับอเมริกาว่าจะไม่เก็บไว้บนแผ่นดินและมีเรือที่ทันสมัยที่สุดคอยดูแลผมว่าเขาขายอยู่นะ ว่าไหม

     

     

    ปล.1 เพิ่งแหงนหน้าขึ้นไปมอง ถ้าท่านจูดาสมีภาพ SPS-48 เอามาติดให้ผมด้วยนะครับ ตัวนี้ไม่รู้เลยจริง

     

    ปล.2 อันที่จริงผมว่าสเป้ก RFQ สุงกว่าตอนTORอะไรนั่นนะครับจำกันได้ไหม ตอนนั้นทร.ไม่สนใจSM-2นี่นา VLSก็เอาแค่8 VL-ASROC ก็ไม่โผล่ แล้วทำไมข้อมูลจากนายคนนี้เปลี่ยนไปอีกแล้วหละ

     

    คือถ้ามันเป็นจริงก็แปลว่าRFQยังมีความต้องการเปลี่ยนแปลงได้ ที่ส่งไปหาจีนอาจจะขอเป็นเรดาร์ T360 จรวด C803 เฮลิคอปเตอร์ Z-9EW ก็ว่าไป โดยปรกติขั้นตอนการซื้อของหลังจากRFQ แล้วเราจะต้องเสนอ POเข้าไปที่คนถือเงินก่อนเขาถึงออก PRไปให้คนขายอีกที ถ้ามันผิดจริงPOไม่ผ่านหรอกครับและคนส่งเอกสารติดคุกแน่นอน


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 12/06/2013 08:18:30


    ความคิดเห็นที่ 346


    ถ้า สมมติใช้ SPS-48E กับแบบ KDX-II ก็จะอยู่ในตำแหน่ง เรดาร์ ท้ายเรือเดิม แต่อาจจะเป็นแบบ เปลือย...หรือ แบบมี Radome ตามภาพข้างบน ครับ...

    ลักษณะการจัดหา คงจะออกมาในแนวเดียวกับ เรือชั้น นเรศวร น่ะครับ...คือ จ้างต่อตัวเรือ โดยกำหนดระบบอาวุธของ กองทัพเรือ...

    โดยใน กรณี นี้...ในความเห็นผม ก็จะมองได้ว่า....ทร. กำหนดระบบอาวุธให้...โดย อู่เรือ ต้องทำการ บูรณาการ ให้เข้ากับเรือของตัวเองได้...และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายรวมอยู่ในมุลค่าการจัดหา

    ไม่ใช่ การซื้อเรือ สำเร็จรูป...


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/06/2013 08:54:51


    ความคิดเห็นที่ 347


    คิดว่าระบบCWI ของCEA ที่มาในRFQนั้น หมายถึงตัวTransmitter Solid State ของCEA ซึ่งใช้ในเรือANZAC อัพเกรด (ตัวที่ไม่ได้ติดCEAFAR/CEAMOUNT) ซึ่งจะอินทิเกรตเข้ากับจานสายอากาศของCeros 200 เหมือนกับที่ใช้บนANZACเช่นกัน
    http://www.cea.com.au/!Global/Directory.php?Location=ProductsServices:ContinuousWaveIlluminators:SSCWI 

     ภาพแรกระบบTransmitter Solid State ของCEA 

    ซึ่งจะใช้แทนตัวTransmitterเดิมของCEROS ซึ่งเป็นTWT ....ทำให้ความน่าเชื่อถือสูงกว่า และสามารถอัพเกรดเพิ่มได้ในอนาคต (หากจานสายอากาศรองรับ) ตามภาพที่สอง (ภาพประกอบความเข้าใจ จากระบบMk99)  ที่วงกลมไว้ 



    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 09:34:00


    ความคิดเห็นที่ 348


    ตามข้อมุลในความต้องการของ ทร. ต้องการระบบควบคุมการยิง จำนวน 2 ระบบ สำหรับ SM-2 และ ESSM แต่ระบบ ที่ท่าน icy_CMU ดูในรายละเีอียด รองรับ ESSM แต่ไม่ได้บอกว่า รองรับ SM-2 ด้วยครับ...โดยในระบบของ CEA ในเวีป สำหรับในส่วนของสินค้าประเภท Continuous Wave illuminators จะประกอบด้วย 2 ระบบ คือ SSCWI ตามที่ท่าน icy_CMU ว่าไว้ กับ CEAMOUNT illuminator ครับ

    ซึ่งในใจผมคิดว่า น่าจะเป็น CEAMOUNT จำนวน 2 แท่น...ซึ่งเป็นแท่น หมุน ตามแผ่นโฆษณา ไม่ได้ติดตาย 4 ด้านเหมือนชั้น ANZAC น่ะครับ...ซึ่งเรือชั้น ANZAC ก็ติดตั้ง CEAMOUNT ไว้...

    ดังนั้น ภาพในจินตนาการของผม ก็จะเห็น แท่น CEROS 200 อยู่ด้านหน้า ต่อด้วบ แท่น CEAMOUNT ตามมา รวม 2 ระบบ ติดตั้งบนดาดฟ้าสะพานเดินเรือ กับ บนโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ท้ายเรือ...

    ซึ่งจะทำให้ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง สามารถปล่อยลูกจรวด ESSM จำนวน 4 ลูก ได้พร้อม ๆ กัน...หรือ ปล่อยจรวด ESSM จำนวน 2 ลูก พร้อม ๆ กับ SM-2 จำนวน 2 ลูก ได้พร้อม ๆ กัน...ที่น่าจะเป็นสิ่งที่เหนือกว่า เรือชั้น นเรศวร..

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/06/2013 10:20:25


    ความคิดเห็นที่ 349


    หาเรดาร์ได้แล้ว ขโมยมาจากเรือบรรทุกเครื่องบินเลย แต่สวยเก่งจบเลยนะครับ ได้ครบทุกอย่างที่ควรจจะมี เรดาร์ตัวนี้คงไม่มีราโดมคลุมหรอถ้าดูจากRFQ

    อันที่จริงแค่เรือเราเตรียมระบบรองรับSM-2ผมก็ดีใจยกมือท่วมหัวแล้ว คงต้องรอของจริงอีกไม่นานนี่แหละ

    อ่านที่ท่านจูลดาสเขียนมาเรือเรายังคงอ้างอิงกับสหรัฐเหมือนเดิม อ่างล้างหน้าบนเรือต้องเป็นตราอักษร อเมริกัน สแตนดาร์ดแน่นอน


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 12/06/2013 10:58:15


    ความคิดเห็นที่ 350


    ทำไปทำมายิ่งงงมากขึ้น -.- ระบบ CWI : Ceamount บนเรือ ANZAC เป็นแบบ Fixed ที่แยกต่างหาก ไม่ได้ใช้จานของ Ceros 200 ไม่ใช่หรือครับ แล้วก็ยังไม่เคยมีการยืนยันว่าใช้ร่วมกับ SM2 ได้ด้วย เรือของทร.ออสเตรเลียที่ปรับปรุงให้ใช้ SM2 blockIIIA ได้และได้ทดลองยิงไปแล้ว คือ เรือชั้น Adelaide นี่ครับ ไม่ใช่ ANZAC 

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 12/06/2013 11:14:27


    ความคิดเห็นที่ 351


    การติดตั้ง CEAMOUNT ของเรือชั้น ANZAC นั้น...ผมว่า เป็นการ รองรับการใช้ SM-2 ในอนาคต มากกว่าครับ...

    แต่เดิม ANZAC ใช้ SAM คือ Sea Sparrow โดยใช้ CEROS เป็นระบบควบคุมการยิง...ต่อมา มีการเปลี่ยนจาก Sea Sparrow มาเป็น ESSM...จึงต้องมีการ อัพเกรด เรือใหม่...เพื่อให้ใช้ ESSM ได้...ถ้าผมจำไม่ผิด ถอน CEROS ออก แล้วใช้ CEAMOUNT แทน..

    ในปัจจุบัน เรือชั้น ANZAC ผมคิดว่า ยังเป็นการประเมินค่าอยู่ครับ...จึง อัพเกรดมาเพียงลำเดียว...แต่ล่าสุด ก็มีข่าวว่า จะทะยอยเริ่ม อัพเกรด ลำที่เหลือ ครับ...

    ส่วนเรือชั้น OHP ของ ออสเตรเลีย...แต่เดิม ใช้ SM-1 อยู่...ต่อมา เมื่อต้องการเปลี่ยนมาใช้ SM-2 จึงต้องมี อัพเกรด เรือใหม่ เช่นกัน...โดยมาติดตั้ง MK-41 เพื่อใช้ SM-2 แทน SM-1...

    ดังนั้น ในอนาคต SAM ของ ออสเตรเลีย คงเหลือเพียง ESSM กับ SM-2 เท่านั้น...เรือ ANZAC และ Hobart Class ก็ควรคงจะต้องใช้ระบบยิงจรวด ทั้ง 2 อย่างนี้ ได้ทั้งคู่ ครับ...

    โดย ANZAC ใ้ช้ CEAFAR/CEAMOUNT สำหรับ ESSM กับ SM-2

    ส่วน Hobart ใช้ AEGIS สำหรับ ESSM กับ SM-2

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/06/2013 11:41:37


    ความคิดเห็นที่ 352


    รบกวนท่าน Superboy ช่วยทำเป็น Stealth Design ด้วยสิครับ ได้โปรด ^  ^ (แล้วก็อย่าลืม DS-30 พร้อมฝาครอบด้วยนะครับ) ดูไปดูมาก็น่าจะเป็นเรือฟริเกตสมรรถนะสูงสมชื่อโครงการได้ซะที เนอะ เนอะ อ้อ...ถ้าติดตั้ง Mk.41 VLS มาก่อน 2 ชุด (ESSM + VL ASROC) แล้วเหลือที่ไว้เพิ่มเติมได้อีก 1-2 ชุด สำหรับ SM2 ก็จะเป็นเรือที่ทรงพลานุภาพอย่างยิ่งเลยทีเดียว หรือหากงบประมาณและเนื้อที่จำกัดจริงๆ ก็จัดเป็นส่วนผสมแบบฟิตๆ  16 ท่อยิง ก็แบ่งเป็น ESSM : 4 ท่อ (16 ลูก) + VL ASROC : 6 ท่อ + SM2 : 6 ท่อ ก็น่าจะ(เกิน)พอสำหรับหลักนิยม อัตราการบรรจุอาวุธขั้นต่ำบนเรือรบในสภาวะการณ์ปกติของทร.

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 12/06/2013 11:42:58


    ความคิดเห็นที่ 353


    ท่าน Juldas ผมว่า Ceros 200 บนเรือ ANZAC น่าจะยังมีอยู่นะครับ เท่าที่หาเจอทั้งข้อมูลและรูปภาพ คงเอาไว้คคย.ปืนหลัก และอาจใช้เป็นระบบสำรองด้วยอีกทางหนึ่ง

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 12/06/2013 11:46:01


    ความคิดเห็นที่ 354


    โดยส่วนตัว คิดว่า มีแค่Ceros 200 ที่เป็นระบบคคย. ส่วน CEA SSCWI ใช้แทนTWT Transmitter ของCeros 200 เแบบเดิม อ้างจาก

    http://www.innovation.gov.au/Science/PMSEIC/Documents/GrowingTechnologyBasedSMEs.pdf 

    Solid State Continuous Wave Illuminator (SSCWI)Transmitter (2nd generation product)

    In 1995, CEA was awarded a contract by the RAN todesign, develop and manufacture six solid state 2kWilluminator transmitters for installation in the final sixANZAC Frigates. CEA was awarded a follow-on contract in2002 to replace the existing Mk73 transmitters in the first three ANZAC Frigates that were based on older TravellingWave Tube (TWT) technology and were becomingincreasingly unreliable. The CEA SSCWI Transmitters provide target illumination forthe Evolved Sea Sparrow Missiles (ESSM) by transmittinga powerful radar signal at an incoming target through theSAAB 9LV Antenna Director. This combination has beenoperationally proven in service with the RAN includingsuccessful firings of the ESSM in 2003 and 2004. On 14 November 2004, in a further testimony to theSSCWI Transmitter’s scalable design and modulararchitecture, a contract was signed with the Abu DhabiShipyards for the manufacture and delivery of four 1kWSSCWI Transmitters, spares and installation support to theUAE Navy for the Baynunah Corvette Programme. This isCEA’s first export to the UAE and the second majorcontract in the region.

     

    อีกอันหนึ่ง 

    http://www.cea.com.au/News+Media/Attachments/2011-0009.pdf

     

    One example was the Solid StateContinuous Wave Illuminator(SSCWI) transmitter, conceived as asolid-state solution to provide continuous wave RF output to support guidance and air target illumination forsemi-active homing missiles. Fitted tothe Ceros 200 director equipping theRAN’s ANZAC frigates, and also supplied for the United Arab Emirates’Baynunah corvette programme, theSSCWI transmitter affords superiorperformance, reduced size, andenhanced reliability and maintainability compared to legacy vacuumtube transmitters.

     

     

    เพราะฉะนั้น การใช้จานสายอากาศCeros 200 แต่ใช้ตัวส่งSSCWI ของCEA จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ต้องR&D อีก 

    ปัญหามีแต่ว่า ระบบCeros 200 หาเปลี่ยนTransmitter แล้ว กำลังส่งจะเพียงพอสำหรับนำวิถีให้SM-2MR ในระยะไกลหรือไม่ นั่นคือคำถาม ???? 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 12:00:41


    ความคิดเห็นที่ 355


    ส่วนHMAS Perth ยังมีระบceros ครบถ้วน แต่จากการสังเกตคือ สายอากาศสำหรับโหมดCWI หายไป คงจะใช้คุมปืนอย่างเดียว 


    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 12:08:15


    ความคิดเห็นที่ 356


    ขอโทษครับ ข้อมูลผิดพลาด ANZAC ไม่มี CEROS แต่ใช้ Raytheon CW mk73 เป็น Fire Control ครับ...เอ๊ะ ลองหาดูก็ไม่ใช่อีก อีกเว๊ป ก็บอกเป็น

    Electronics

    Radar:

    Air search: Raytheon SPS-49(V)8 ANZ; C-band

    Air/surface search: Ericsson Sea Giraffe; G/H-band

    Navigation: Atlas Elektronic 9600 ARPA; I-band

    Fire Control: CelsiusTech 9LV 453; J-band [To be replaced by CEA FAR; (?X?)-band]

    IFF: Cossor AIMSMk.XII

    Sonar:

    Hull mounted: Thomson Sinatra Spherion B Mod.5; active medium-frequency search and attack

    Thomson Marconi TMS 5424 Petrel high-frequency mine avoidance

    Optronics:

    CelsiusTech 9LV 453 Mk.3 optronics director

    Combat Data Systems:

    CelsiusTech 9LV 453 Mk.3 [157 to have Mk.3E, and Mk.3E to be retrofitted to older units]

    Raytheon CW Mk.73 Mod.1 for RIM-7P [CEA SSCWI to be fitted for ESSM]

    OE-2 STACOM; Link 11

     

    และในเว๊ป Naval technology 

    Command and control

    The Anzacs combat data system is built around the Saab Systems 9LV 453 mk3 combat management system, with link 11 and SHF satellite commmunications. The 9LV mk3E is fitted in the last vessel for the RAN. MILSATCOM communications system has been installed in HMAS Warramunga and subsequent vessels, which facilitates joint exercises with US and allied navies.

    Weapons control is managed by the Saab Systems 9LV 453 optronic director with Saab Systems J-band radar. Raytheon CW mk73 is the fire control system for the Sea Sparrow missile. This has been replaced with the CEA Technologies I/J-band solid-state continuous-wave illuminator transmitter (SSCWI) on Warramunga and will be fitted to all Anzac vessels

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/06/2013 12:13:13


    ความคิดเห็นที่ 357


    จาก

    https://www.natoseasparrow.org/Consortium%20Products%20Handbook%20Rev%20-1.pdf

     

    Mk73 เป็นCWI Transmitter 

    ซึ่งใช้ร่วมกับจานสายอากาศของCeros 

    เหมือนกับ Mk93 Mod 0 ใช้กับSTIR  

    ส่วนประกอบของระบบคคบ. จะอยู่ด้านบน (รูปSPG-62 ) ซึ่งคล้ายๆกัน 


    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 12:35:33


    ความคิดเห็นที่ 358


    ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายๆด้วยรูประดับสุดยอดกราฟิค 555 ก็จะประมาณนี้ 


    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 12:48:36


    ความคิดเห็นที่ 359


    เอ...แล้วแบบนี้ ไอ้แป้นกลมๆ แบนๆ ที่ติดอยู่บนโดมข้างใต้แผ่นสายอากาศของ CEAFAR มันคืออะไรล่ะครับ  แล้วประเด็นก็คือกำลังส่งของ SSCWI ตัวนี้ผ่านจานของ Ceros 200 ที่มีขนาดเล็ก (ราว 1 เมตรกว่าๆ เล็กกว่า Stir 1.8 หรือ Stir 2.4 ตั้งเยอะ) จะไปได้ไกลพอที่จะนำวิถีให้ SM2 block III ได้หรือไม่ครับ เพราะเท่าที่หาข้อมูลได้ เรือ ANZAC ของออสเตรเลียก็ไม่เห็นมีแผนที่จะติดตั้ง SM2 แต่อย่างใดเลยครับ (แต่มีการเตรียมที่เผื่อไว้สำหรับ Mk.41 อีก 1 แท่น FFBNW : Fitted For But Not With)

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 12/06/2013 13:02:12


    ความคิดเห็นที่ 360


    ไอ้กลมๆนั่น เป็นIFF Cossor AIMS Mark XII ตอนแรกจะติดอยู่ข้างใต้ CelsiusTech 9LV 453 Target Indication Radar  (Sea Giraffe ตัวแรกๆแบบเดียวกับที่ติดบน Lekiu ) 

    แต่หาข้อมูลในเน็ตไม่เจอเลย 
     


    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 13:30:47


    ความคิดเห็นที่ 361


    ขอบคุณมากครับท่าน icy_cmu

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 12/06/2013 13:37:52


    ความคิดเห็นที่ 362


    ท่าน TWG ไปหาฝาครอบเอาเองนะครับผมปวดตาแล้ว  เรือลำนี้ปรับปรุงความหล่อได้แค่นี้แหละครับนอกจะแก้โครงสร้างเรือด้านหน้าเสียใหม่ซึ่งผมว่าอย่าเลย

     

    ส่วนตัวผมได้เท่าลำล่างก็ดีใจแล้ว ขอเรดาร์ระยะไกลแรงๆกับSM-2ในอนาคตด้วยแล้วกัน

     

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 12/06/2013 13:59:39


    ความคิดเห็นที่ 363


    ช่วยลงภาพเรือที่คอนเซปใกล้เคียงกับเรือลำนี้ของเรา(หรือเปล่า) เพียงแต่เราเน้นปราบเรือดำน้ำด้วยเลยมีลูกยาวเพิ่ม


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 12/06/2013 14:10:07


    ความคิดเห็นที่ 364


    เอาใหม่ พลาด 


    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 14:36:04


    ความคิดเห็นที่ 365


    ถ้าพูดถึงคอนเซ็ปทืโดยรวมๆแล้ว 

    เรือใหม่ของเรา 

    จะประมาณANZACที่ทันสมัยขึ้น 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 15:00:08


    ความคิดเห็นที่ 366


    ว้าวๆๆ แจ่มไม่เบาเลยนะนี่ ได้แค่นี้ก็ขอบคุณหลายๆ แล้วเด้อครับ 555 แม้จะไม่ได้ Ceafar / Ceamount หรือ iMast 500 มาอย่างที่อยากได้ แต่ได้เรดาร์ Long Range 3D ร่วมกับร่างจำแลงของ Ceamount ที่จะสามารถรองรับ SM2 ได้ในอนาคต มี Mk.41 มากกว่า 1 ชุด (น่าจะยังเพิ่มได้อีกด้วย) แล้วยังได้ ASW Suite ระดับแนวหน้า กับ VL ASROC ลานจอด + โรงเก็บสำหรับ ฮ.ขนาดกลาง และรองรับการอัพเกรดในอนาคต เท่านี้ก็นอนหลับฝันดีกันได้ต่อไปแล้วล่ะครับ

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 12/06/2013 15:09:02


    ความคิดเห็นที่ 367


    จริงๆแล้วระบบSM-2 ก็ยังจำกัดอยู่ที่เส้นขอฟ้าเช่นเดียวกับระบบเรดาร์ 

    ในTerminal Phase ของSM-2MR ใช้Semi Active Homing มันก็เลยจำกัดระยะอยู่ที่เส้นขอบฟ้าของตัวเรดาร์คคย.อยู่ดี 

    เพราะฉะนั้น เป้าที่บินต่ำๆอย่างอวป. ก็คงจะใช้ความสามารถของSM-2 ไม่ได้ถนัดนัก  

    แต่ในBlock IIIBมีIR Seeker ด้วย ก็อาจจะช่วยได้บ้าง 

    ผลที่แตกต่างกันจริงๆของเรดาร์คคย.ที่กำลังส่งสูงๆคือ เป้าที่บินสูงมาหน่อยอย่างอากาศยาน 

    เรดาร์คคย.ที่แรงๆ ก็ย่อมIlluminateเป้าได้ไกลกว่า 

    ปัญหาอยู่ที่ว่า Ceros 200 มันจะรองรับSM-2 ได้จริงๆหรือ หรือ หากทำได้ ระบบCMS อย่าง9LV จะใช้มันได้คุ้มค่าเต็มประสิทธิภาพหรือเปล่า นั่นคือคำถามที่ทร.ต้องตอบ หากSAAB ได้จริงๆ และทร.เล็งSM-2 ไว้ 

     

    ปํญหาอีกอย่างหนึ่งสำหรับ 9LV คือ มันไม่ดังเรื่องASW มันใช้ได้แค่ไหนกับระบบปราบเรือดำน้ำเทพๆ 

    หรือจะต้องมีCombat Suite ของระบบASWแยกมา แล้วค่อยมาintegrateเข้ากับ9LV  

    ก็จะกลายเป็นว่า เอา9LV มาเพราะแค่Datalink ส่วนที่เหลือ CMSเจ้าอื่นทำได้ดีกว่า 

     

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 15:24:31


    ความคิดเห็นที่ 368


    ถ้าอย่างนี้ Aster 30 ที่เป็น Active homing ก็น่าจะดีกว่าสิครับเพราะเมื่อบินพ้นแนวขอบฟ้าไปแล้ว จรวดก็ยังสามารถตรวจจับล๊อคเป้าที่บินต่ำได้ แล้วถ้าเป็น SM2 blockIIIB ที่มีระบบ IR homing ด้วยนี่ต้องใช้เรดาร์ช่วย illuminate ไปจนถึงช่วงไหนครับท่าน icy_cmu

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 12/06/2013 15:48:14


    ความคิดเห็นที่ 369


    เรื่องระบบ Anti Submarine...ผมคิดว่า ทร. น่าจะเล็งของ ATLAS Elektronik เป็นคนทำระบบให้...

    จากรูปตามที่ท่าน icy_CMU ให้ความเห็น ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เหมือนกันครับ...

    เพราะดู สเปคของ CEROS 200 ทร. ก็ไม่ได้ระบุว่าเป็น CWI...คงใช้ CWI ของ CEA พ่วงกับ CEROS...

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/06/2013 15:51:22


    ความคิดเห็นที่ 370


    ยังมีอะไรเป็นปริศนากับเรือลำนี้อีกไหมนะ นอกจากเรดาร์ระยะไกล ????

     

    นี่ถ้ามีหน้าต่อไปจะรู้ระบบปราบเรือดำน้ำหมดเลยนะ แย่จัง

     

    CIWS จะเชียร์ให้เป็นแรมยังไงก็ดูจะลุ้นไม่ขึ้นเลย ฟางลังซ์นอนมาพระสวดแน่นอน

     

    SM-2 โอกาสยิงพ้นขอบฟ้าในเขตน่านน้ำเรามีน้อยจังเลยนอกจากออกไปไกลๆโน่น คิดว่าคอนเซบทร.น่าจะใช้กับเป้าหมายที่มาจากท้องฟ้าสุงๆมากกว่า เกิดวันดีคืนดีขีปนาวุธไม่ทราบฝ่ายหล่นลงมายังพอมีตัวช่วยบ้าง หวังพึ่งฐานยิงจรวดจากบนบกก็ไม่มีเลย

     

    เรื่องประสิทธิภาพในการใช้งานคงไม่ได้100เปอร์เซนต์แน่แต่ทร.คงเข้าใจดีอยู่แล้วก็ต้องรอดดูกันไป ASW SUITE ต้องมีสิครับไม่งั้นโกรธกันตายเลย

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 12/06/2013 16:02:23


    ความคิดเห็นที่ 371


    SM-2MR มีระบบMid course Guidance ....อัพเดทข้อมูลเป้าจากเรดาร์ตรวจการณ์ให้SM-2 จนเข้าระยะที่กำหนดถึงใช้เรดาร์คคย. นำวิถีจรวดให้ชนเป้า(เหมือนESSM)ส่วนกรณีใช้IR seeker จะใช้MCG จนถึงระยะที่Seeker จับเป้าได้ แล้วก็ปล่อยจรวดให้เป็นอิสระ อย่างหลังนี้ ทำให้จรวดสามารถจัดการเป้าที่อยู่พ้นเส้นขอบฟ้าได้

    ในกรณีนี้ สิ่งที่สำคัญคือ จะต้องมีระบบuplink channel ให้กับจรวด  ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะมีมาไหม (เข้าใจว่ารล.นเรศวรอัพเกรดไม่ได้ใส่ระบบนี้มา) 

    แต่Update Rate ที่สูงของGiraffe AMB นี่ก็น่าจะเหมาะกับโหมดMCGไม่น้อย (เร็วเท่าherakles ) แต่ระยะมันน้อยไปหน่อย รวมถึงC-Band ทีมักมีปัญหากับละอองในอากาศ รวมถึงฝน ซึ่งจะทำให้เรดาร์ระยะลดลงไปอีก ........ซึ่งS-bandอย่างSmart-S มีปัญหานี้น้อยกว่ามาก 

    แต่การมีเรดาร์ระยะไกล ก็อาจจะช่วยเรื่องปัญหานี้ไปได้บ้าง 

    Aster 30จรวดฉลาดมากๆ ขอแค่เรดาร์Update rate สูงๆ (อย่างHerakles)และมีuplink channel  ก็พอแล้ว จรวดก็ใช้ระบบMCG ไปจนพ้นขอบฟ้าแล้วก็ใช้เรดาร์หัวจรวดนำวิถีเข้าหาเป้าต่อ เหมาะกับการป้องกันอวป.ที่มาเยอะๆพร้อมๆกัน (แต่ระบบsemi-activeก็ทำได้ หากCMSฉลาดพอ) 

    ข้อเสียของจรวดฉลาดๆก็มี

    1.แพง ยิงทีเหมือนยิงเรดาร์แจ่มๆทิ้งไป1ตัว

    2.เรดาร์หัวจรวด แจมง่ายกว่าเรดาร์คคย.

    3.ระบบประมวลผลสัญญาณสู้บนเรือไม่ได้ หมายถึงจะมีปัญหากับGround Clutter แน่ๆ มากน้อยแค่ไหนค่อยว่ากัน

     โดยส่วนตัวคิดว่า บ้านเรา แค่SM-2MR นี่ก็เหลือกินเหลือใช้แล้ว  ส่วนAster30 ปล่อยให้พวกรวยๆเค้าใช้กัน 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 16:19:19


    ความคิดเห็นที่ 372


    เจ้า SM2 คงเอาไว้สอยเครื่องบินรบในระยะไกลมากกว่าครับ หน้าที่ในการจัดการจรวดหรือขีปนาวุธน่าจะเป็นของ ESSM มากกว่า ถ้าเป็นอย่างที่ท่าน icy_cmu ว่ามา ทร.เราคงจะเล็งเจ้า SM2 blockIIIB ไว้กระมัง แล้วก็มาลุ้นกันว่า 9LV Mk.4 จะเป็นของดีเลิศประเสรืฐศรี หรือ จะเป็นพวกสวยแต่รูปจูบไม่หอม

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 12/06/2013 16:21:18


    ความคิดเห็นที่ 373


    SM-2MRมันระยะใกล้กว่าASMที่ยิงจาก บ. นี่ครับ ผมว่าน่าจะเอามากันจากBrahmosตั้งแต่ไกลๆมากกว่ามั้ง...ว่าแต่ของตะวันตกมันมีอะไรที่สอยบ.ได้ก่อนที่เข้าระยะยิงบ้างครับ
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 12/06/2013 16:49:54


    ความคิดเห็นที่ 374


    อย่างอวป.ระยะยิงไกลๆ300-500กม. 

    สุดท้ายแล้ว เรดาร์บนเครื่องบิน ก็น่าจะเห็นเรือบนจอเรดาร์ได้ไม่เกิน 2-300กม. (อ้างจาก เรดาร์ใหญ่ๆอย่างErieye) 

    ยกเว้นว่า จะมีระบบข่าวกรองเจ๋งๆ สามารถรายงานตำแหน่งเรืออย่างแม่นยำ อย่างนั้นจึงพอจะได้ใช้ได้ระยะไกลขึ้นมาหน่อย (โหมดINS หรือGPS แล้วTerminal Phaseเป็น Active Radar) 

    ถ้าจะพอจัดการกับบ.ก่อนที่มันจะปล่อยมา คงจะเป็นSM-2ER (190กม. -----Harpoon /Exocet AM39 /C-803 ) หรือSM-6 โลด (240กม.)  

    แถวบ้านเรา เท่าที่ทราบข่าว ยังไม่มีใครจัดหาBrahmos/Yakhont เวอร์ชั่นยิงจากเครื่องบิน 

    ภัยรอบบ้านเราก็คงมีแค่ KH-31 KH-35 อยู่ในระยะSM-2MR 

    อันที่น่าจับตาและน่ากลัว คงเป็นKH-59(อันนี้น่ากลัวหน่อย แต่เรดาร์จรวดของรัสเซียยุคเก่าๆน่าจะแจมได้ไม่ยาก)จากSu-30MKM/MKV กับAGM-84 จากF-18C/D ของมาเลย์ 

     

    แต่ถ้าว่ากันตามจริง .........ดุ่มๆมายิงอวป.ใส่นี่ เท่ากับประกาศสงครามเต็มรูปแบบกันเลยนะ ประเทศรอบบ้านเรา ประเทศไหนบ้างที่อยากจะทำแบบนั้น ????? เพราะถ้าหากฟัดกันจริงๆ เจ็บปางตายทั้งคู่ ไม่มีประเทศไหน อาวุธเวอร์ไปกว่าใครกันมากนักด้วย อีกทั้งเศรษฐกิจก็ใช่ว่าจะคุมการเงินในระยะยาวได้ ไหนจะเรื่องอำนาจต่อรองทางการเมืองระหว่างประเทศที่ไม่มีใครในย่านนี้สามารถวีโต้คำสั่งUNได้ ?????  

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2013 17:09:37


    ความคิดเห็นที่ 375


    ผู้การเรือที่สั่งยิงเครื่องบินอยู่ห่างออกไป100กม.ได้เขาต้องเป็นคนใจเด็ดมากเลยนะครับ แต่นักบินที่ยิงจรวดใส่เรือรบตั้งแต่100กม.ก็เป็นทหารทั่วไปนี่แหละแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น จรวดยิงไปแล้วไม่คืนกลับเสียด้วย

     

    ยุทธวิธีเน้นการตั้งรับก็เสียเปรียบแบบนี้แหละญี่ปุ่นถึงโจมตีอเมริกาสายฟ้าแลบเพื่อหวังจับเกมส์ไวๆ แต่ดันทำไม่ได้แถมเสัยเรือบรรทุกเครื่องบินและนักบินมือดีไปเกือบหมด ถ้าทำได้มาจะเป็นยังไงนะอยากรู้จัง

     

    ถ้าเอาแค่ยิงเครื่องบิน รอ SM-6 สิครับกำลังจะมาในอีกไม่นาน(มันคืออัมรามต่อตูด) 3.5 มัค 240กม. ราคา 4.3ล้านเหรียญ ในวิกิว่าไว้แบบนี้

     

    ปล. จากแผนภาพนี่คือสิ่งที่ทร.และทอ.ของเราใช้เป็นโมเดลในอนาคต (ผมคิดว่าใช่หลังจากรู้ว่าทร.ต้องการSM-2ในอนาคต นับเป็นข่าวดีชิ้นสำคัญจากคนที่เราไม่ทราบชื่อคนนั้นเหมือนกันนะครับ) เพียงแต่ประเทศเรางบประมาณไม่มากและยังต้องเน้นลงใต้น้ำที่เป็นคุกคามหลักในตอนนี้เสียก่อน  อาจเป็นอีกเหตุผลมั้งครั้บที่SAABจะได้ดีลนี้ไป ถ้าพวกเราทุกคนไม่โดนสับขาหลอกนะครับ เพราะตอนนี้เรืออัพเดทล่าสุดก็SAABเต็มลำแล้ว

     

    คอนเซปก็ตามสภาพเงินในกระเป๋าด้วยนะครับ ผมคิดว่าดีมากนะเพียงแต่ต้องก้าวไปทีหละขั้นๆ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 12/06/2013 17:09:47


    ความคิดเห็นที่ 376


    radar คงตรวจจับเครื่องบินได้ที่ระยะเกิน 100  km แต่จะพิสูจน์ฝ่ายได้ที่ระยะไหน

    กลัวยิงไปจะ jackpot แบบ ticonderoga class ที่สอยเครื่องบินโดยสาร Flight 655 ของอิหร่าน  เพราะเข้าใจว่าเป็น  F14
     
    แล้วถ้ามีการจราจรทางอากาศและทางน้ำหนาแน่นจะมีผลต่อประสิทธิภาพของ   Radar ไหมครับ  จอภาพจะแสดงผลได้หมดหรือไม่?

    อย่าง   Sea Giraffe AMB   tracked  Air targets ได้   200  เป้าหมาย  Surface targets 400 เป้าหมาย แค่เครื่องบินโดยสารก็เพียบแล้ว

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 12/06/2013 18:42:05


    ความคิดเห็นที่ 377


       ก็ถ้า CMS เป็น 9LV แล้ว  SPS-48E  มีโอกาสสูงกว่า  SMART-L  แล้ว  และมีระยะตรวจจับและประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน    ถ้า FCR  มี CWI  รองรับ  SM-2  ได้   ถึงเรด้าร์อำนวยการรบจะสั้นไปสักนิดและถูกรบกวนง่ายกว่าจากละอองฝน   ก็ OK  ครับ    เพราะเรือชุดนี้เน้นขีดความสามารถต่อต้านเรือดำน้ำ   ซึ่งระบบที่เห็นกันในอเกสารและที่คาดเดากัน  ก็ถือว่าดีเยี่ยมแล้วครับ  

       ก็ด้วยเงินเท่านี้  ถือว่าเรือมีประสิทธิภาพดีกว่า  Formidable  มากแล้วในด้าน ASW  ส่วนขีดความสามารถในด้านต่อต้านอากาศยาน  แค่ทำการติดตั้ง  VLS  เพิ่มเติมเพื่อทำการติดตั้ง  SM-2  เข้าไปก็สามารถใช้ได้ทันที   ก็ถือว่าใกล้เคียงกันแล้วครับ  

       เห็นด้วยครับว่าสเปกระบบตรวจจับและอาวุธขนาดนี้   เรือขนาด DW-3000H  หรือ FFX-1  คงจะไม่สามารถติดตั้งได้    คงมีแนวโน้มจะเป็น KDX-2 ทำการ Mod ค่อนข้างแน่แล้วล่ะครับ    เพราะเรือน่าจะใหญ่พอ

      ขีดความสามารถในด้านการต่อต้านเรือดำน้ำนั้น  ถ้ามีการจัดหา VL-ASROC มาด้วยจริง  ก็ถือว่าเรือชั้นนี้ดีกว่าชั้น Gowind ของมาเลย์ในด้านการต่อต้านเรือดำน้ำแล้วครับ   จริงๆ ASW suit  ถ้ายี่ห้อนี้  ผมให้เกรดดีกว่าของ  Thales  ที่มาเลย์นำมาติดตั้งบนเรือของตนเอง

     

      สำหรับรูปแบบของระบบตรวจจับที่ติดตั้งในเรือใหม่ของเรา   ถ้าทำการ Upgrade เรด้าร์อำนวยการรบเป็น CEA MOUNT/FAR  หรือถ้า 9LV  รองรับ  I-MAST-400/500  เมื่อไหร่    เมื่อทำการ upgrade ติดตั้งระบบเสาเรด้าร์รวมการแบบนี้    เรือลำนี้จะมีประสิทธิภาพระดับเรือพิฆาตดีๆลำหนึ่งทีเดียวครับ    และคงสามารถติดตั้ง  VLS ได้มากกว่า 32 cell ด้วย 

     

      เงินขนาดนี้   ได้สเปกขนาดนี้   พอใจมากแล้วครับ    อยากให้มีเพิ่มอีกสัก 2-4 ลำ  ในอนาคตครับ

     

    โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 12/06/2013 22:33:54


    ความคิดเห็นที่ 378


    ผมมอบเรือลำนี้ให้ท่านนีโอเลยนะครับ จิตนาการสำคัญกว่าความคิดเมื่อเอจิสมาเจอกับราโดมจะเกิดอะไรขึ้น (อะไรที่ผมลืมใส่ก็เอาไปรวมไว้ในโดมแล้วกัน)

     

    อีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราจะต่อเรือ KDX-IITA AAW เป็นลำที่3ในอู่ใหม่ที่DSMEมาช่วยลงทุนสร้างให้ประเทศ 2ลำแรกASWลดขนาดย่อส่วน แต่ลำนี้คิดต่างเพิ่มขนาดไปเลย ระวางขับน้ำปรกติ5800ตัน ท่อVLS 64+32=96ท่อ  ท้าชนKDX-IIA ของเกาหลีได้เลย

     

     

    ฝากถามเรื่องเรดาร์นิดหนึ่งครับ SPS-49A(V)1 กับ SPS-48E ตัวไหนสมรรถนะดีกว่า ใช้งานกับSM-2ได้เข้ากันมากกว่า และตัวไหนมีแววได้ลงเรือเรามากกว่า คือตอนนี้ยังคิดถึงตัวอื่นไม่ออกเหมือนกัน ในราคาที่ไม่แพงมากใส่เรือได้ใช้งานกับSM-2ได้ดีและเขายินดีขายยินดีขายให้เรานะ ตอนนี้หายใจเข้าออกเป็นจรวดลูกนี้ไปเสียแล้วหลังจากนั่งมองESSMมานาน

     

     

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 13/06/2013 10:44:29


    ความคิดเห็นที่ 379


    ผมยังมีประเด็นข้องใจสงสัยอยู่ ก็คือเรื่องระบบเรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศระยะไกล ซึ่งใน RFQ ระบุว่าเป็นแบบ/รุ่น Sea Giraffe Extened Range เท่าที่พยายามหาข้อมูล แม้แต่ในเวปของ SAAB เองก็หาไม่เจอครับ ส่วนเรื่อง ASW Suite นั้นน่าสนใจตรงระบบ Tow Sonar ที่ดูเหมือนว่าทร.จะเลือกใช้ระบบ ACTAS ของ Atlas ที่เป็นระบบใหม่ล่าสุด น่าจะเจ๋งแจ่มแจ๋วทีเดียว แต่ปัญหาคือมันใหม่มากๆ มากเกินไปไหม เพราะเห็นหลายคนบอกว่ายังไม่เคยถูกติดตั้งใช้งานบนเรือรบจริงๆ มีแค่ระบบต้นแบบที่ทดสอบเท่านั้น !!!

    ACTAS



    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 13/06/2013 11:07:12


    ความคิดเห็นที่ 380


    ดูเหมือนว่า มันจะดีมากเลยนะครับ   แต่ก็อานะ  บอกไม่ถูก  ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ตอนนี้ผมก็รอ   ทร.เค้าประกาศอย่างเดียว   ยังไงก็ถือว่าทร. มองการไกลจริงๆๆๆ

    โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 13/06/2013 14:17:32


    ความคิดเห็นที่ 381


    SPS-49 เป็น2D Radar 

    SPS-48 เป็น3D PESA Radar 

    ระยะพอๆกัน เก่าพอๆกัน SPS-49 ใช้เป็นเรดาร์เสริมให้กับระบบAEGIS (Early Warning).....เรือที่เคยติดSPS-49 ส่วนใหญ่ จะติดSparrow เป็นอาวุธหลัก (จะมีก็OHP ที่ใช้SM-1MR)  หากมีเรดาร์3Dดีๆอยู่แล้ว SPS-49ก็น่าจะพอ สำหรับSM-2MR 

    ส่วนSPS-48 ใหญ่กว่าหนักกว่า เป็น3Dเรดาร์ มีความสามารถใช้ร่วมกับระบบNTU(New Threat Upgrade-----การปรับปรุงเพื่อทำให้เรือมีประสิทธิภาพในการต่อต้านเป้าหมายที่มาจำนวนมากดีขึ้น  )เช่นเดียวกับSPS-49  เพื่อใช้ร่วมกับSM-2ได้  หากเล็งSM-2MRไว้จริงๆ SPS-48 เหมาะที่สุด แต่ปัญหามันคือน้ำหนักนี่แหละ 

    SPS-49 ------พอเพียงสำหรับSM-2MR ไม่ใหญ่โตเกินไป  

    SPS-48 -----3D, PESA, Solid State 

    โดนส่วนตัวคิดว่า ทร.น่าจะใช้SPS-49 หรือ เรดาร์ระยะไกลที่ไม่หนักมากแบบอื่นมากกว่า เช่นLW-08 (หากยังมีขาย เปลี่ยนTransmitterเป็นSolid State) ....ในขนาดและน้ำหนักที่พอไหว ก็สองตัวนี้แหละ 

    แต่หากเรือใหญ่พอรับไหว SPS-48 ก็เก่าไปหน่อย แต่ราคาน่าจะไม่แพง เมื่อเทียบกับในคลาสเดียวกันอย่างLanza หรือ RAN-40L 

    ส่วนเรดาร์อำนวยการบ อย่างSea Giraffe AMB .........โดยส่วนตัวอยากได้ Smart-S หรือ Kronos (โดยเฉพาะ Kronos นี่เป็นAESA แท้ๆ) 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 13/06/2013 15:14:30


    ความคิดเห็นที่ 382


    sea giraffe amb กับ Smart-S Mk2 ไม่ใช่ AESA  แต่เป็น 3D  Solid State PESA เหรอครับ?

     

    ขอบคุณครับ ตอนแรกเข้าใจว่า Smart-S Mk2 เป็น AESA มาตั้งนาน

    v

    v

    v

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 13/06/2013 16:08:05


    ความคิดเห็นที่ 383


    AMB เป็นใช้TWTเป็นตัวส่งคลื่น .....เป็นPESA  C-Band  

    Smart-S จะเป็นPESA แบบSolid State S-Band 

    Kronos เป็นAESA C-Band  

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 13/06/2013 16:54:01


    ความคิดเห็นที่ 384


    ถ้าดูตาม RFQ ทร.ต้องการเรดาร์3มิติระยะไกลในวงเงินที่พอซื้อได้ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่แต่ผมชอบนะ (อาจจะเป็นเพราะเรือฟริเกตุรุ่นต่อไปในอนาคตลดระบบเรดาร์เหลือแค่3มิติระยะกลางอย่างเดียวก็ได้มั้ง) มันก็ตัดตัวเลือกออกไปหลายตัวเหมือนกัน

     

    และถ้ายึดว่าSAABได้รับคัดเลือกไปด้วยตามข่าวปล่อน เราก็อาจจะได้เรดาร์3มิติระยะไกลมาติดเป็นลำแรกของโลก(เหมือนโซนาร์ลากท้าย)หรือเปล่า ผมว่าSAABชนะคู่แข่งเพราะราคาฝั่งโน้นน่าจะเสนอราคาให้ทร.แพงเกินไปหน่อยหรือเปล่าครับ คือเสนอระบบพื้นฐานมาตามตามต้องการในราคาพอดีเป๊ะแต่ถ้ารวมการintergratedระบบหรือเพิ่มดาต้าลิงค์กับทอ.จะแพงขึ้นทันตาเห็น ส่วนคนที่ได้ราคาแพงกว่าวงเงินนิดหน่อยแต่ได้ครบตามต้องการพอดี น่าจะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เรือหลวงมเรศสวรแล้วมั้ง(เดาเอา) คือไอ้ที่ทร.ต้องการมันคงไม่ได้ประสิทธิภาพ100เปอร์เซนต์เต็มหรอกแต่ก็เพียงพอกับภัยคุกคาม

     

    ในเมื่อยังไม่เคยเห็นเรดาร์ตัวใหม่ตัวนี้ผมใส่ในเรโดมให้ก่อนแล้วกันลำสุดท้ายแล้วมาได้ไกลสุดแค่นี้แหละ จากนี้ไปคงไม่มีข่าวแล้วเพราะคนปล่อยข่าวโดนสอยกลางอากาศ ก็ต้องรอทร.ออกมาชี้แจงกันหละครับอาจจะวันที่30หรือต้นเดือนหน้ารอกลาโหมและรัฐบาลอนุมัติก่อน

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 14/06/2013 09:15:42


    ความคิดเห็นที่ 385


    ท่าน Superboy ผมว่าตำแหน่งการติดตั้งไอ้เจ้า Phalanx มันบัง Ceros 200 ตัวหลังนะครับ ส่วนตัวหน้าก็น่าจะย้ายลงมาติดบนหลังคาสะพานเดินเรือ(รึเปล่า) แล้วก็โดมครอบ Long Range 3D Radar มันดูเล็กแล้วก็เตี้ยไปหน่อยนะครับ ผมเพิ่งเลื่อนขึ้นไปดูรูปของท่าน Judas มาน่ะครับ แหะ แหะ (อันที่จริงใน RFQ ก็ไม่ได้กำหนดไว้ว่าต้องมีนะครับตัวนี้) ส่วนไอ้เจ้า Tow Sonar ในรูปนี้มันก็เป็น CAPTAS ของ Thales นี่นา(ผมรู้สึกว่างานนี้ทร.พยายามเลือกอะไรที่ไม่ใช่ของ Thales เลยนะครับ) แต่เอาเป็นว่าถ้าได้มาตามนี้จริงๆ ล่ะก็ "แจ่มแจ๋ว" ใช้ได้ไม่อายใครเลยทีเดียวครับ ^  ^

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 14/06/2013 10:38:56


    ความคิดเห็นที่ 386


    ฟางลังซ์อยู่ที่เดิมของโกลด์คีปเปอร์ส่วนcerosอยู่ที่เดิมของstirไม่น่าจะมีปัญหานะครับ ผมแค่ปิดราวระเบียงกันคนตกให้ดูทืบแบบเรือstealthเท่านั้นเอง ส่วนด้านหน้าผมติดระบบตามเรืออัลซาสของออสเตรเลียหนะแต่มันก็สัลบกับได้ คือเรือเราคอนเซปใกล้เคียงเขามากเลยเอามาจิ้นใส่เรือลำนี้แทน

     

    ราโดมในเรดาร์3มิติผมจำมาจากเรือ LPD17ที่เราจะไปขโมยเรดาร์ SPS48E เขามายังไงหละครับแต่พี่สร้างเสียสุงเป็นปล่องไฟเลย ถ้าเรดาร์เป็นของSAABจริงๆน่าจะไม่ใหญ่มากและคงตรวจจับได้ซัก350กม.แต่มีระบบทันสมัยอะไรแบบนี้นะ เจ้านี้ช่วงชกสั้นกว่าเขานิดหน่อยแลกกับราคาและลิงค์หละมั้ง

     

    ถ้าเรดาร์ทรง4เหลี่ยมก็พอปิดได้แต่ถ้าทรงเรือบินก็คงยาก ส่วนราโดมไปยืมของเรือฝรั่งเศษมาแปลงนิดหน่อย ดูแล้วยังไม่ค่อยลงตัวนักไว้รอได้สเป็กจริงๆค่อยว่ากัน


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 14/06/2013 10:58:25


    ความคิดเห็นที่ 387


    โดยส่วนตัวหากเป็นSAAB แล้วชนะ 

    จะrecommend SPS-49A(V)1/2 

    เพราะ 1.ไม่ต้องเสียค่าR&Dกับเรดาร์ใหม่ซึ่งไม่รู้จะขายได้หรือเปล่า (ดูจากทิศทางตลาดเรดาร์พิสัยไกล มักจะขายไม่ออก ตอนนี้ตลาดนิยมเรือขนาดไม่ใหญ่นัก และใช้เรดาร์อเนกประสงค์3มิติมากกว่า) 

           2.เคยเอาเรดาร์นี้มาอินทิเกรตกับระบบ9LVแล้วในANZAC .......เคยมือแล้ว

           3.ระยะตรวจจับไกลสมใจทร.

           4. ทำให้ราคาของระบบโดยรวมที่ทำให้ทร.ปฏิเสธไม่ลง 

    มีข่าวหลุดๆมาว่าตัวแทนของDSMEไปหาSaab เพื่อคุยเรื่องระบบที่จะมาติดตั้งบนเรือ (ไม่ได้ระบุประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ทั้ง เรือของชาติอื่น หรือ ของทร.ไทยก็ได้ )

    หากเป็นเรือทร. ....... เรื่องที่จะต้องคุยคงเป็นเรื่องโครงสร้างเรือ ซึ่งน่าจะเป็นส่วนของระบบตรวจจับต่างๆ 

    ไม่แน่ว่างานนี้ อาจจะได้เห็นCeros +Sea Giraffe AMB จริงๆ 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 14/06/2013 11:16:36


    ความคิดเห็นที่ 388


    โอ้...ท่าน icy_cmu มาถึงตอนนี้ผมค่อนข้างแน่ใจเกือบ 100% เลยครับว่าระบบของ SAAB 9LV Mk.4 + Sea Giraffe AMB + Ceros 200 + Eos 500 นั้นนอนมาแน่ๆ แถมด้วยชุด CWI ของ CEA ส่วนที่เหลือก็ไปปรับแต่งให้สมกับชื่อโครงการ "เรือฟริเกตสมรรถนะสูง" ก็แล้วกันครับ Long Range 3D Radar จะเอาตัวไหนดี ส่วน ASW Suite  ก็ของไม่พ้น Atlas DSQS-24C + ACTAS + VL ASROC ...  

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 14/06/2013 12:18:22


    ความคิดเห็นที่ 389


    อย่าพึ่งแน่ใจไป .........

    งานนี้อาจจะมีASW suite ของSamsung มาก็ได้ (หากจะเอาK-ASROC)

    หรือหากเป็นVL-ASROC ก็จะได้เห็นหน้า SQQ-89 A(V)15 ก็ได้

    เท่าที่ทราบคือ DSME เป็นMain Contractor  

    หากSAABชนะ(เป็นSub-Contract และSystem Integrator ให้DSME)

    อาจจะได้เห็น

    3500-4000t /5000t Full load  

    -Sensors &CMS

    9LV CMS +SQQ-89A(V)15(Lockheed)/KDCOM-II (Samsung) ..........อาจจะ + WDS Mk14 สำหรับmid courseให้ESSM หรือ SM-2เข้าไปด้วย 

    2xCeros 200 CWI (CEA SSCWI)(SAAB)

    1x EOS 500 (SAAB)

    1xSea Giraffe AMB (SAAB)

    1x Raytheon AN/SPS-49A(V)2 

    1xAtlas- DSQS-24C-------ตัวนี้ติดตั้งบน De Zeven Provincien (6พันกว่าตัน) ดังนั้น ถ้าลองพิจารณาดู เรือใหม่อาจจะได้พิกัดถึง5000t 

    1xVDS Atlas-ACTAS

    -Soft-kill 

    Towed Torpedo Decoy .....AN/SLQ-25 Nixie????

    SKWS Decoy /NGDS 

    -Weapons

    1x127mm. Mk45 Mod4 /76mm. OTO SR 

    1xCIWS (ให้ภาษีPhalanxมากที่สุด) 

     2xDS-30M 

    8xHarpoon Block 2 

    8-32x MK41 VLS /K-VLS (32xESSM+???? VL-ASROC/K-ASROC+SM-2MR FFBNW)

    2xtriple Mk32

    1xMH-60S/S-70B 

    Options ถ้าทางเกาหลีกระจายSub-contractor และอาจจะให้เจ้าอื่นเป็นSystem Integrator  

    9LV CMS ----------->TACTICOS /KDCOM-II Full Set 

    Ceros 200 ------>STIR 1.8HP/2.4HP

    EOS-500 ------->Mirador,Samsung Thales  Radar/EO 

    AMB-------->Kronos /Smart-S MkII 

    SPS-49----->LW-08/09 หาก5พันตันขึ้นก็ RAN-40L เพิ่มมาอีก1

    ..............หากเดาถูกจะเป็นเจ้าพ่อใบ้หวย 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 14/06/2013 15:06:33


    ความคิดเห็นที่ 390


    Kronos 3D ไทยเราก็เคยซื้อมาเป็นระบบระวังภัยทางอากาศนี่นะ ก็พอมีโอกาศอยู่
    http://defense-studies.blogspot.com/2011/11/selex-sistemi-integrati-wins-contracts.html

    ถ้าได้ Sea Giraffe AMB มานี่ กำลังเรือฟริเกตหลักของ ทร.ก็จะเป็นเรดาห์ตัวนี้หมดเลย เรือธงก็ไม่เว้น

    จุดเด่น
    -มีความเข้ากัน การปฏิบัติงาน การซ่อมบำรุง
    -น้ำหนักเบา ขนาดเล็ก
    -C-band resolution สูงกว่า S-band
    -Transmission Power 25 KW กินไฟน้อย
    -update rate สูง เพราะหมุน 30/60 rpm
    -ทำหน้าที่เป็น Counter battery radar ได้
    -ราคาถูก กว่าตัวเลือกอื่น !!!

    จุดด้อย
    -C-band detection range ลดลง เมื่อสภาพอากาศมีไอน้ำหรือความชื้นสูง มีเมฆมาก มีหมอกลง ฝนตก หิมะตก
    -Transmission Power ต่ำกว่า Smart-S
    -TWT ในขณะที่เจ้าอื่นใช้ Solid State


    สงสัยอย่างหนึ่งตรง Dual TWTs มันดียังไงครับ ทำให้ส่ง 2 band พร้อมกันหรือครับ?

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 14/06/2013 15:40:30


    ความคิดเห็นที่ 391


    หลังจากลองทำอยู่หลายวันผมก็รู้แล้วว่า เราควรแก้ไขภาพโครงสร้างเรือบนไฟล์นามสกุล .png เท่านั้น ภาพไม่แตก สีไม่เพี๊ยน ดัดแปลงตกแต่งง่ายใช้เวลาเร็ว แต่โพสแล้วเซฟไปจะได้ภาพแบบไหนกันนะ ขอลองหน่อย

     

    ส่วนเรือของเรากับหน้าตาที่ดัดแปลงน้อยที่สุดเอาเงินไปลงระบบและอาวุธดีกว่า สั้นและเบาลงมาหน่อยก็พอปรกติเรือลำนี้ก็สวยงามอยู่แล้ว


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 15/06/2013 12:28:10


    ความคิดเห็นที่ 392


    ไม่ได้แฮะ ต้องแก้เป็น .jpg ก่อนหรือเปล่าลองอีกรอบ

     

    หลังงจากลองเซฟไปเปิดในเครื่องตัวเองภาพสวยชัดเจน แต่ขยายใกล้ๆภาพแตกอยู่ดี


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 15/06/2013 12:31:05


    ความคิดเห็นที่ 393


    เข้าใจความหมายและวัตถุประสงค์ของท่าน Superboy นะครับ แต่ระวังให้ดีนะครับเดี๋ยวจะตายน้ำตื้น เหมือนคราวที่ขออนุมัติซื้อเรือดำน้ำมือสอง ด้วยชื่อโครงการ "เรือฟริเกตสมรรถนะสูง" และงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ 30,000 ลบ. หากเรือที่ได้รับการคัดเลือกมีหน้าตาและระบบต่างๆ ละม้ายคล้ายรล.นเรศวรที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ แม้ตัวเรือจะมีขนาดใหญ่กว่ามากก็ตามที แต่คนที่จ้องจับผิดจ้องล้มโครงการย่อมสามารถนำไปใช้โจมตีได้ และต้องไม่ลืมว่าคนส่วนมากจะไม่สามารถเข้าใจระบบตรวจจับระบบอาวุธ ได้ดังเช่นพวกเราที่สนใจศึกษาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในที่นี้ ดังที่ได้เคยกล่าวไว้ครับว่า การปรับแต่งรูปทรงเรือให้มีรูปร่างหน้าตาทันสมัยนั้นจำเป็นมากครับ และไม่น่าจะทำให้ราคาค่าใช้จ่ายในการต่อเรือสูงขึ้นมากมายแต่อย่างใด โครงการใหญ่ที่มีคนจับตามองมากๆ แบบนี้ อย่าได้มองข้ามเรื่องเล็กๆ และคิดว่าไม่สำคัญเชียวนะครับ แล้วจะหาว่าไม่เตือน

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 15/06/2013 13:56:52


    ความคิดเห็นที่ 394


    ผมเห็นด้วยกับคุณTWGนะครับ หน้าตาเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่งั้นซื้อเรือดีแต่หน้าตาแบบเรือรัสเซีย อาวุธหนักๆใหญ่ๆ(ผมชอบนะ)แต่ไม่สวยทันสมัย ดูเก่า ถึงมันจะดีแค่ไหนคนที่ไม่รู่เรื่องมาดูก็อาจจะคิดว่ามันห่วย อย่างน้อยทร.ก็โฆษณาได้ว่ามีหน้าตาทันสมัย รูปทรงstealth ทันสมัยระดับแนวหน้าของโลก ฯลฯ ต่อให้เรดาห์เป็นSea Giraffeคนที่ไม่รู้เรื่องมาเห็นก็ต้องคิดว่ามันสุดยอดนั่นแหละครับ(อยากได้I-Mast ปัญหาเรื่องดูเก่าจะหมดไปทันที) ตอนนี้สำหรับทร.หน้าตาเป็นเรื่องสำคัญมากครับ หลังจากพลาดเรือดำน้ำทร.เสียเครดิตไปมากกับU-206Aที่เป็นเรือเก่าไปมาก แม้มันจะดี เดี๋ยวลำนี้จมกลางทางซวยอีก
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 15/06/2013 15:05:33


    ความคิดเห็นที่ 395


    ถ้าได้ I-Mast มา  ทร.  สามารถนำไปโม้ให้นักข่าวกับประชาชนคนไทยได้เลยว่านี่คือเรือ Aegis ลำแรกของไทยและของอาเซียน

    พร้อมกับหยิบภาพเรือ Aegis ประเทศต่างๆ มาเทียบ  ภาษีดีกว่า formidable ของสิงคโปร์อีก

    คนทั่วไปมีหรือจะไม่เชื่อ กระแสต่อต้านก็จะน้อยลง


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 15/06/2013 15:49:43


    ความคิดเห็นที่ 396


    สงสัยอย่างนึง ..........ไปว่าท่านsuperboyกันทำไมเรื่องหน้าตาเรือ ? 

    เค้าไม่ได้เป็นคนออกแบบเรือสักหน่อย 

    จะจิ้นก็ขอให้มีลิมิตกันสักนิด ด้วยความเคารพ ........

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 15/06/2013 15:57:14


    ความคิดเห็นที่ 397


    มิได้ครับ ท่าน icy_cmu ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะตำหนิหรือต่อว่าท่าน Superboy แต่อย่างใดเลยนะครับ ที่พิมพ์ไปนั้นก็แค่แสดงความเห็นห่วงใยทร. ก็เท่านั้นเองครับ ขอกรุณาอย่าได้มองเป็นเจตนาอย่างอื่นเลยครับ

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 15/06/2013 16:13:52


    ความคิดเห็นที่ 398


    ผมชอบแบบเรือของท่านsuperboyนะแต่ขอขนาดสัก4,500ตันอัพและติดsps 48e radarมาด้วยล่ะทำตัวเตรียมดุไว้ก่อน

    โดยคุณ yuy999 เมื่อวันที่ 15/06/2013 16:36:05


    ความคิดเห็นที่ 399


    สำหรับมิตรักแฟนเลงที่ต้องการเห็นเรือเกาหลีล่องหนได้ กำลังจะมีในอีก8ปีข้างหน้าครับ KDX-IIA ของเรานี่แหละ

    นี่คือหนึ่งในภาพCGเรือลำนี้(นอกจากแบบใส่เรดาร์ใหม่เหมือนที่ผมให้ดูซึ่งเราเห็นกันอยู่บ่อยๆ) SPY 1F + 80 VLS ขนาดเรือกดไป6000ตันแล้ว แต่เขาเรียกว่ามินิเอจิสนะ เรือKDX-IITของเราคงจะเป็นเป็นนาโนเอจิสแน่นอน

     

    เกาหลีก็มีโครงการเรือรุ่นใหม่ที่สวยแจ่มกว่ากว่ารุ่นเก่าๆที่อ้างอิงกับเรืออเมริกา(ที่สร้างมาเพื่อเดินทางไปทั่วโลกเลยเน้นความอข็งแกร่งทนทานทะเลลึกได้ดี) อย่างเรือ KDX-4 นี่ก็คล้ายๆ DDG-1000 เหมือนกันนะ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 15/06/2013 22:20:20


    ความคิดเห็นที่ 400


    ผมขอI-Mast 500 / SPY-1K+ Aegis combat system กับ 48x Mk.41 หรือ 32x Mk.41 + 16x K-VLS กับเรือสัก4000-4500ตัน ได้เท่านี้ทร.ก็ทุ่มงบกับเรือดำน้ำไปทีเดียวเลยดีกว่าครับ ไม่ต้องหาASW-เรือดำน้ำ-AAWอีก เอาลำนี้ทำได้ทั้งAAW+ASWมันจะเงินพอไหมเนี่ยครับ
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 15/06/2013 23:27:36


    ความคิดเห็นที่ 401


    KDX aegis หน้าตา LCS1 ขยายขนาดมาเลย  แต่คงใช้คอนเซปต์เดียวกับ DDG-1000 โดยเป็นฐานมิสไซล์ลอยน้ำ
    http://blog.naver.com/PostView.nhn?blogId=rujin27&logNo=70071552083

    ท่าน Phu2000 ถ้าเราต่อลำเดียวคงได้อย่างที่ท่านต้องการแน่ๆ 

    thales ยังมีระบบเรดาห์ตัว top ระดับเดียวกับ  AN/SPY-1D คือ  sea fire 500 ที่จะใช้ใน FREMM-ER


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 16/06/2013 00:44:20


    ความคิดเห็นที่ 402


    ลำละ3หมื่นล้าน 2ลำ6หมื่นล้าน......ผมว่าถ้าเราไม่ขัดแย้งทางทะเลกับใคร อีก10-20ปีทร.จะยังไม่ได้ด้วยซ้ำนะครับเนี่ย Aegisลำแรกของอาเซียนเป็นฝันไปซะแล้ว
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 16/06/2013 10:13:55


    ความคิดเห็นที่ 403


    มาร่วมสนุกด้วยครับ

    ในจินตนาการ


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 16/06/2013 10:55:19


    ความคิดเห็นที่ 404


    ขอทดสอบโพสภาพ .PNG อีกครั้ง ถ้าไม่ได้แปลว่าไม่ได้ยอมแพ้ครับ

     

    ไม่ได้จริงๆด้วยต้องเป็น .JPG เท่านั้น จะแปลงมาเป็น .GIF ภาพก็สีเพี๊ยนทันตาเห็น ผมใช้ MS Paint นะ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 16/06/2013 11:43:28


    ความคิดเห็นที่ 405


    ให้ save รูป ครั้งแรกด้วย jpg เลยครับ แล้วค่อยตกแต่งรูปที่หลังครับ อีกสักแบบ ครับ


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 16/06/2013 11:55:05


    ความคิดเห็นที่ 406


    ^ โอ๊ะ อันนี้ก็สวย ผมอยากทำบ้างแต่ไม่มีความสามารถด้านนี้ ฮ่าๆๆๆๆ
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 16/06/2013 12:46:01


    ความคิดเห็นที่ 407


       ภาพแรกของท่านjuldasผมว่าโอเคเลยล่ะsps-48eมันจะเป็นเรดาร์แจ้งเตือนสำหรับเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

    โดยคุณ yuy999 เมื่อวันที่ 16/06/2013 12:49:03


    ความคิดเห็นที่ 408


    อีกสักภาพครับ เอาเสากราฟ ของเรือชั้น Arleigh Burke มาใส่ครับ


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 16/06/2013 13:12:42


    ความคิดเห็นที่ 409


    KDX-IIA ราคาไม่น่าถึง1พันล้านเหรียญนะครับ เพราะเอจิสแท้ๆอย่างKDX-IIIยังไม่ถึงเลย แต่ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า700-800ล้านกับขนาด5,600ตัน ไม่ว่าจะใช้เอจิสจากยุโรปหรืออเมริกาก็ตาม

     

    • KDX-III class destroyer - The 7,700 ton KDX-III destroyers, also known as The Sejong the Great class destroyers, are the primary guided missile destroyers of the Republic of Korea Navy. The ship features the Aegis combat system (Baseline 7 Phase 1) combined with AN/SPY-1D multi-function radar antennae. Unit price: $923 million
    • KDX-II class destroyer - The KDX-II is a modern 4,400 ton multirole destroyer optimized for use against air, surface and land targets. Unit price: $597 million

     

    เรือดตระกูล KDX-II มีแผนเสนอขายให้กับ บราซิล อินเดีย และถ้าไทยเราเลือกลำนี้จริงๆก็จะเป็นชาติแรกที่ได้ใช้ แบบเรือพื้นฐานคงเหมือนกันแต่อย่างอื่นแตกต่างกันไปตามความต้องการแต่ละชาติ (เหมือนเรือเมโก้) เรือของเราหน้าตาเปลี่ยนไปมากแค่ไหนนั่นแหละคือพื้นฐานของเรือบราซิลและอินเดีย แต่จะเอาstealthแบบในภาพผมว่าคงไม่ไหวนะเกาหลีคงไม่ยอมแน่

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 16/06/2013 13:17:49


    ความคิดเห็นที่ 410


    เรื่องหนึ่งที่มักจะพบตามเว็บบอร์ดทุกประเทศคือเราไม่พอใจในอาวุธตัวเราเอง คนอเมริกาบอกว่าจะไปต่อเรือ Arleigh Burke ทำไมกันในเมื่อ KDX-III ประสิทธิภาพเท่ากันแต่ราคาถูกกว่าพอสมควร (ใช้ระบบของเกาหลีได้เหรอ) บางคนบอกว่ายกเลิกเรือLCSแล้วไปเอาformidable ของสิงค์โปร์มาใช้ดีกว่า (จะใช้จรวดAsterจริงๆเหรอ) อ่านแล้วมาเปรียบกับบ้านเราก็ฮาดี

     

    ประเทศอเมริกาผมชอบที่แกใช้อาวุธผลืตในประเทศทั้งๆเกือบทั้งหมด ทั้งที่บางอย่างราคาแพงเกินตัวไปเยอะเหมือนกัน เพราะเขาถือว่านอกจากสร้างเรือลำหละ1พันล้านเหรียญแล้วยังสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในประเทศอีกด้วย สภาคองเกรสเองก็ไม่กล้ขวางเต็มลำเลยไปประหยัดกับค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆแทน แต่พอจะซื้อเครื่องบินใบพัดจากบราซิลซัก20ลำกลายเป็นเรื่องใหญ่โตประท้วงกันให้วุ่นจนป่านนี้ไม่รู้ได้ซื้อไปหรือยัง

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 16/06/2013 13:29:52


    ความคิดเห็นที่ 411


    แก้ไขภาพใน.jpgภาพมันจะแตกและสีไม่สดหนะครับบริเวณสิขาวๆจะเห็นชัดเจน ผมเข้าไปตามเวปที่เขาเขียนภาพนี้กัน เขาคอมเม้นว่าควรเป็น .png หรือ .gif เดี๋ยวผมใส่ลิงค์ให้นะครับลองเข้าไปทำกันดู เผื่อในอนาคตจะได้มีคนทำภาเรือหลวงนเศวรกับเรือหลวงจักกรีให้ฝรั่งมันดูบ้าง

     

    http://www.shipbucket.com/forums/viewtopic.php?f=18&t=16

     

     

    ถ้าเป็น .png มันจะเนียนมากขยายออกมาก็ไม่แตก นึกแล้วเชียวว่าเราต้องลืมอะไรไป ลำนี้ใส่กระจกให้รอบทิศเลยแล้วกัน


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 16/06/2013 13:39:57


    ความคิดเห็นที่ 412


    safe รูปเป็น ไฟล์ JPG แล้วใช้ขนาด 1000 ครับ..สีมันจะไม่เพี้ยน ไม่แตก ครับ...เวลาทำรูป ก็ใช้การ ขยายหน้าจอ Zoom ครับ...

    อักสักแบบ ใช้ เสากราฟ ของ LCS Independense

     


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 16/06/2013 15:18:25


    ความคิดเห็นที่ 413


    Royal Thai Navy Orders Up To 2 Arleigh Burke Class Destroyers

    As had been unexpected, the Royal Thai Navy has awarded a contract for DDG 51 Arleigh Burke class destroyer. A total of $500 million was awarded in a contract for a destroyer with an option for another one.

    Huntington Ingall received a four years contract to build a destroyer in a contract worth $500 million. One destroyer is to be build from FY 2013 through FY 2017.

    First Commissioned in 1991, the Arleigh Burke class has gone through several versions, each resulting in increased capability and displacement. The first 28 ships were Flight I and Flight II ships (DDG 51 through DDG 78).

    The current version of the Arleigh Burke is the Flight IIA starting with DDG 79, the USS Oscar Austin. Some specifications of Royal Thai Navy Flight IIA are:
    • Length: 509 ft (155.29 m)
    • Beam: 59 ft (18 m)
    • Displacement: 9496 long tons (9648.4 metric tons)
    • Speed: in excess of 30 knots
    • Crew: 276
    Propulsion consists of four General Electric LM 2500-30 gas turbines with two shafts and 100000 total shaft horsepower.

    The Flight IIA features several improvements over its predecessors, including:
    • The addition of the Kingfisher mine-avoidance capability
    • A pair of helicopter hangars with the ability to deploy two Lamps MK III MH-60 helicopters
    • Blast-hardened bulkheads.
    The first Flight IIA ship was commissioned in August 2000.

    The Arleigh Burke class is fitted with the MK 41 Vertical Launch System with up to 96 cells. Armament includes:
    • RIM-66 Surface-to-Air Standard Missiles (SM-2MR)
    • RIM-162 Evolved Sea Sparrow Missiles (ESSM)
    • RUM-139 Vertical Launch ASROC (VLA)
    • MK-46 torpedoes (from two triple tube mounts)
    • Phalanx Close In Weapon System (CIWS)
    • MK 45 5-inch Gun
    The MH-60 helicopters can be armed with Penguin or Hellfire missiles and MK 46/MK 50 torpedoes.
    This is the first ever exporting for this ship class .Unlike the others AEGIS equipped ships that have been built indigenously ex. Kongo Class of JMSDF,Sejong the great class of ROKN and etc. ,this ship will be built in the US.
    http://www.reuters.com/article/2013/06/15/royal-thai-navy-idUSBRE95216H20130603
    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 16/06/2013 16:18:53


    ความคิดเห็นที่ 414


    ผมดื่มน้ำอยู่มาเจออันนี้เข้า พรูดดดดด หมดปากเลยครับ....ไหนๆก็ไหนๆเอาSM-2ER SM-3 Tomahawk LRASMมาด้วยสิครับ ฮ่าๆๆๆ
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 16/06/2013 16:25:20


    ความคิดเห็นที่ 415


    แหมท่าน ผมอ่านจนจบตายังไม่หายเลิกเลย   555

    โดยคุณ 8iam เมื่อวันที่ 16/06/2013 16:35:40


    ความคิดเห็นที่ 416


    สงสัย รุ่นนี้ หรือเปล่า ครับ ท่าน icy_CMU  ฮ่า ฮ่า ฮ่า


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 16/06/2013 18:29:27


    ความคิดเห็นที่ 417


                  หลวงพี่ครับ  เอาจริงหรือครับนี่.... OMG !!  ระวางจัดเต็มเกือบหมื่นตันเลย..  จะลดขนาดไหมเนี้ยะ    5555

    โดยคุณ nui-714 เมื่อวันที่ 16/06/2013 19:04:26


    ความคิดเห็นที่ 418


    ถ้าท่าน icy เอาลำนี้มาหลอก ผมคงเชื่อไปแล้วมากกว่า 50%  555+


    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 16/06/2013 19:23:49


    ความคิดเห็นที่ 419


    จะจิ้นทั้งที ต้องจิ้นของใหญ่ เคี้ยกๆ โดยจับได้ง่ายแฮะ คราวตอนบอร์ดวิง21 เอาF-15มา เชื่อกันไปครึ่งบอร์ด สงสัยต้องกลับไปทบทวนมุขใหม่ 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 16/06/2013 19:30:44


    ความคิดเห็นที่ 420


    จิ้นทั้งทีไม่เอาแบบZumwalt 2ลำ + ต่อเองในประเทศ มีออปชั่นพิเศษแถมNimitz+Los Angelesมาด้วยเหรอครับ....ใครมันจะบ้าเชื่อล่ะเนี่ย
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 16/06/2013 20:31:13


    ความคิดเห็นที่ 421


    อย่าว่าผมดื้อเลยนะครับท่านจูดาส ดูสีแดงใต้ท้องเรือท่านกับเรือผมสิ(ลำล่าสุดนะ) รวมถึงใบพัดสีเหลืองด้วย มันจืดลงไป

     

    เบื่อเรือลำนี้แล้วเดี๋ยวลองทำเรือหลวงนเรศวรดีกว่า วันหลังจะเอาผมงานน่าเกลียดๆมาให้ชมนะครับ

    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 16/06/2013 20:58:08


    ความคิดเห็นที่ 422


    ระวังผิดหวังนะครับ  ใครนะเป็นเริ่มสร้างกระแส KDX-2  ...... คุณ superboy น่าขยายแบบโดยใช้พื้นฐานแบบเรือ DW-3000H มาติดตั้งระบบต่างๆและอาวุธ ตาม comment คุณ Icy_cmu ครับ  ซึ่งใกล้เคียงมากที่สุดครับ

    โดยคุณ Chelsea เมื่อวันที่ 16/06/2013 21:16:38


    ความคิดเห็นที่ 423


    ครับ ถ้าเรา save หลายครั้ง รายละเอียดก็จะจางลงตาม ครับ...

    ส่วนใต้ท้องเรือ ถ้ามันจาง ก็ copy ใต้ท้องเรือ วางไปใหม่ ครับ...จะช่วยได้มากขึ้นครับ


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 16/06/2013 22:22:29


    ความคิดเห็นที่ 424


    ในอนาคต Thales ยังได้เสนอแผนการปรับปรุงเรือผิวน้ำชุดอื่นๆ ของกองทัพเรือไทยเช่นเดียวกัน เพื่อให้เทคโนโลยีของเรือแต่ละลำในกองทัพเรืออยู่ในระดับที่ก้าวทันกัน นอกจากเรือตรวจการณ์แบบต่างๆ ที่ Thales มีส่วนรับผิดชอบในการก่อสร้างหรือปรับปรุงดังที่กล่าวไปแล้ว และเรือฟริเกต ชุด ร.ล.กระบุรี ที่กำลังดำเนินการปรับปรุงโดยบริษัทจากประเทศจีน นอกจากนี้แม้ว่าทาง Thales จะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้รับการคัดเลือกจากกองทัพเรือในโครงการปรับปรุงระบบ การรบ/ระบบอาวุธของเรือฟริเกตชุด ร.ล.นเรศวร ที่ Thales เห็นว่าบริษัทของตนน่าจะได้รับการคัดเลือกมากกว่าบริษัท Saab ของสวีเดน แม้ว่าเงื่อนไขของกองทัพเรือจะต้องการให้ระบบอำนวยการรบใหม่ที่จะติดตั้ง สามารถเชื่อมต่อกับระบบ Tactical data-link ของสวีเดนได้ก็ตาม แต่ระบบของ Thales ก็สามารถทำการเชื่อมต่อ (Integrate) กับ link ของสวีเดนหรือรวมทั้ง Thai-link ที่กองทัพไทยพัฒนาขึ้นเองได้เช่นกัน โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์ของ Saab แต่อย่างใด

    http://www.thaiarmedforce.com/taf-military-news/54-rtn-news/447-das2012-thales.html

    รอบนี้ Thales จะแห้วงานใหญ่เหมือนที่เคยแห้วมาตลอดอีกหรือไม่!!!

    โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 16/06/2013 23:26:53


    ความคิดเห็นที่ 425


    ดูแล้ว เหมือนกับว่า ทร. น่าจะมี บทเรียนในเรื่องการใช้งาน และความเต็มประสิทธิภาพของ ระบบการรบ ที่คละแบบ มากกว่าครับ...

    เลยอุดช่องความเสีี่ยง ด้วยข้อจำกัดของงบประมาณ...

    จะเห็นได้จาก การอัพเกรดของเรือชั้น นเรศวร กับ เรือชั้นกระบุรี และ ร.ล.จักรีฯ...ก็ทำการอัพเกรดจากเจ้าใด เจ้าหนึ่ง ไปเลย...

    และด้วยตลาดของ Saab เป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มาก...ผมคิดว่า อำนาจต่อรองของผู้ซื้อ น่าจะมีมากกว่าเจ้าอื่น ๆ...แต่ เทคโนโลยี่ ก็ไม่ได้น้อยกว่า และในบางเรื่องก็ดูจะมีเทคโนโลยี่ ที่มากกว่า เช่น การทำการรบร่วมแบบ บูรณาการ...

    กองทัพเรือ อาจจะต้องลงทุนในเรื่อง ระบบเครือข่าย ในจำนวนที่สูง ในขณะนี้...แต่อาจจะประหยัดงบประมาณในเรื่อง การที่ กองทัพเรือจะต้องจัดหา เครื่องบินโจมตี ออกไป...หรือ อาจจะประหยัดงบในเรื่องการจัดหาเรือป้องกันภัยทางอากาศ ที่ยังมี กองทัพอากาศ อุดช่องโหว่ในส่วนนี้ได้ก่อน...โดยมุ่งเน้นที่ งบประมาณการจัดหา เรือดำน้ำ เป็นลำดับต้นก่อน...

    ความประหยัดและความีประสิทธิภาพในแง่ การฝึกและประสบการณ์ จากการที่ เรือสมรรถนะสูง ใช้ระบบอำนวยการรบแบบเดียวกัน ระบบส่งข้อมูลแบบเดียวกัน...การสับเปลี่ยน หรือ ทดแทน ของกำลังพล ก็จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ...การฝึก การอ่านข้อมูล ก็สามารถใช้ตำรา ใช้ครูฝึก คนเดียวกันได้...

    เช่นเดียวกัน ถ้า กองทัพเรือ ไม่ใช่ ระบบของ Saab...แต่ใช้ระบบของ Thale...กองทัพเรือ ก็ต้องจัดหาระบบอาวุธจาก Thale เหมือนกันหมด เช่นเดียวกัน...

    เพียงแต่ ในขณะนี้ กองทัพเรือ เลือกตัวเลือกจาก Saab เป็นคำตอบ

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 08:17:18


    ความคิดเห็นที่ 426


    ภาพจากกระทู้เก่า ครับ

    ถ้า กองทัพเรือ สามารถจัดหาเรือมาได้ตามแบบ และ ตามความต้องการ ปัจจุบัน ก็จะเห็นภาพ กองทัพเรือ

    แบบที่ 1 จัดหา เรือชั้น ชาลล์ เอฟ อาดัมส์ มาได้


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 08:27:56


    ความคิดเห็นที่ 427


    แบบที่ 2 ถ้า ทร.จัดหา เรือชั้น Knox มาได้ จำนวน 4 ลำ


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 08:28:55


    ความคิดเห็นที่ 428


    ท่าน superboy ผมเคยทำ เรือชั้น รัตนโกสินทร์ ครับ...ก็เสร็จแล้ว แต่ บังเอิญไปเจอในเว๊ปจีน ที่เขาทำเหมือนกัน แล้วสวยกว่า...ความขี้เกียจเลยครอบงำ ไม่ได้ทำต่อให้สมบูรณ์

    ภาพนี้ ผมลองทำดูครับ


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 08:37:01


    ความคิดเห็นที่ 429


    เรือชุด รล.รัตนโกสินทร์ นี่เป็นเรือที่ผมชอบมากที่สุดของทร.ไทยเลยครับ แม้จะลำเล็กแต่หมัดหนักและมีระบบตรวจจับพร้อมอาวุธครบทั้งสามมิติ จะขาดไปก็แค่ฮ.ประจำเรือเท่านั้น แต่ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าเรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำใหม่นี้ จะเป็นเรือรบที่ทรงพลานุภาพสมกับชื่อโครงการนะครับ

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 17/06/2013 10:53:52


    ความคิดเห็นที่ 430


    ภาพแสดง กองเรือปราบเรือดำน้ำ ของ กองทัพเรือ ในะระยะ 25 - 30 ปี ที่ผ่านมา

    นับจากการอัพเกรด ระบบเรดาร์ และ ระบบโซนาร์ และ ระบบอำนวยการรบ ของ เรือชั้น ตาปี เรือชั้น รัตนโกสินทร์ และ ร.ล.มกุฎฯ เป็นแบบระบบเดียวกัน

    ก่อนการมีประจำการด้วยเรือชั้น พุทธฯ

    และมองภาพในอนาคต ของ กองเรือปราบเรือดำน้ำ ที่ดูแล้วว่า ทำไม กองทัพเรือ ถึงมีความต้องการให้ เรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำใหม่ มีระบบต่าง ๆ มีลักษณะเหมือนกัน

    กับ ชั้น นเรศวร และ ร.ล.จักรีฯ

    ยุคก่อนจัดหาเรือดำน้ำ


    ยุคจัดหาเรือดำน้ำ (แต่ไม่ได้)



    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 13:11:18


    ความคิดเห็นที่ 431


    ยุค เมื่อมีการจัดหา เรือดำน้ำ ประจำการไ้ด้ ประมาณปี 2563 - 2565

    กองเรือปราบเรือดำน้ำ ของ กองทัพเรือ


    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 13:58:10


    ความคิดเห็นที่ 432


    ชอบรูปสุดท้ายครับ เพราะบนเรือจักร๊ฯมี ESSM ด้วย ส่วนเรือส.ดูแล้วน่าจะเป็น U-209 AIP ใช่ไหมครับ แจ่มมมม

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 17/06/2013 14:54:33


    ความคิดเห็นที่ 433


    เรือป้องกันภัยทางอากาศผมกลายสภาพเป็นอากาศไปแล้วสินะครับ ท่านJuldas ฮ่าๆๆๆ ส่วนตัวอย่างน้อยอยากให้ลำนี้Fit for SM-2MR Block IIIA/Bได้ครับ.....ว่าแต่ตามรูปเป็นกฟก.2สินะครับ แล้วกฟก.1จะเอาOHPมาใส่แทนเรือพุทธฯ(ประจำการชื่อเดิม)เหรอครับ
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 17/06/2013 16:38:12


    ความคิดเห็นที่ 434


    กองเรือปราบเรือดำน้ำ จะหมายถึง ทั้ง กองเรือฟริเกตที่ 1, กองเรือฟริเกตที่ 2, กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ และ กองเรือดำน้ำ ประกอบกำลังเป็น กองเรือปราบเรือดำน้ำ ครับ...

    กองเรือฟริเกตที่ 1 จะเป็น กองเรือฟริเกตที่เน้น ภาระกิจปราบเรือดำน้ำ (เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ลำใหม่)

    กองเรือฟริเกตที่ 2 จะเป็น กองเรือพี่เลี้ยง เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (เรือชั้นนเรศวร ที่เพิ่มระบบโซนาร์ เพื่อคุ้มครอง ร.ล.จักรีฯ ที่ไม่มีระบบโซนาร์ในตัวเอง โดยเรือชั้น นเรศวร เรือฟริเกตสมรรถนะสุงลำใหม่ และ ร.ล.จักรีฯ จะมีระบบบูรณาการร่วมกัน)

    กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เป็น กองบินอากาศยานปีกหมุน ปราบเรือดำน้ำ (ฮ.ปด.1) สนับสนุน กองเรือฟริเกตที่ 1

    กองเรือดำน้ำ จะเป็น เรือดำน้ำ สำหรับ ภาระกิจปราบเรือดำน้ำ ภาระกิจร่วมกับ กองเรือฟริเกตที่ 1 (เรือฟริเกตสมรรถนะสูง กำหนด สเปค มีระบบสื่อสารใต้น้ำด้วย)

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 20:17:55


    ความคิดเห็นที่ 435


    ท่านจูดาส ท่านไอซ์ และเพื่อนๆทุกท่าน ช่วยดูภาพเรือหลวงนเรศวรของผมหน่อยครับว่าเป็นยังไงบ้าง เพิ่งเขียนได้50เปอร์เซนต์เองแต่ไม่รู้ตำแหน่งมันตรงหรือเปล่า ไว้เสร็จแล้วค่อยใส่สีแดงใต้ท้องเรืออีกที หรือไม่ใส่ดี

     

    decoyถูกต้องไหม cerosของเรามีเสาอากาศเพิ่มหรือเปล่า ความยาวผมว่าได้นะ(120เมตร) เสากะโดงไม่แน่ใจว่าของใหม่จะเป็นแบบไหน เรือเราสีอ่อนกว่านี้หรือเปล่า ใช้เรือmeko200แปลงมาหนะครับ

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 17/06/2013 20:23:03


    ความคิดเห็นที่ 436


    ตอบท่าน TWG ตามภาพ คือ เรือดำน้ำ A-19 Gotland ครับ...

    ลองนึกถึง นะครับว่า....ถ้า ตอนนั้น ทร.จัดหา Gotland มาได้ตามแผนจัดหา...

    ระบบการรบ บูรณาการร่วมกัน ระหว่าง กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ...มันจะน่าเกรงขามขนาดไหน ครับ...

    บนฟ้า มี Gripen และ Erieye + Link G&E กับ กองทัพเรือ

    บนทะเล มี กองเรือฟริเกต และ กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ มี 9LV และ Link G&E กับ กองทัพอากาศ

    ในใต้น้ำ มีระบบ ข้อมูลร่วมระหว่าง กองเรือผิวน้ำ ของกองทัพเรือ และ อาจจะหมายถึง ระบบข้อมูลร่วมกับ Gripen และ Erieye กับ กองทัพอากาศ

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 20:28:07


    ความคิดเห็นที่ 437


    ถ้า superboy ลองใช้ภาพของ Thales หรือภาพลายเส้นของ แผ่นโมเดลเรซิ่น แล้ว copy ไปลงใน Excle และ copy อัตราส่วนความยาว ของ Shipbucket ไปทาบ ย่อรูปให้ได้ความยาวเรือ ตามอัตราส่วนของ shipbucket

    แล้ว copy รูปที่ย่อขนาดแล้ว ไปลงใน เพลท ของ Shipbucket แล้วเราก็ตกแต่งรูปโดยลบสีเดิมให้หมด ให้เหลือแต่ลายเส้นโครงเรือ แล้วค่อยเติมสีที่หลังครับ...ผมใช้วิธีนี้ กับ เรือชั้น รัตนโกสินทร์ ครับ..

    แต่ตามรูปของท่าน superboy คงต้องปรับความเอียงของ สะพานเดินเรือ หน่อยครับ

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 20:42:20


    ความคิดเห็นที่ 438


    -Sea giraffe AMB(ในภาพของท่านsuperboy น่าจะยังเป็นType360อยู่) ไว้บนเสากระโดงหลัก และมีสายอากาศสำหรับระบบIFFด้านล่างตัวเรดาร์  

    -แท่นDL-12T ไว้ข้างเสากระโดงหลัก  Mk137 ไว้บนสะพานเรือด้านหน้า 

    -Ceros 200 ด้านหลัง ไว้บนแท่นยกตัวที่สูงกว่า ส่่วนEOS 500 ไว้บนแท่นต่ำกว่า 

    -น่าจะมีโดมSATCOM ตำแหน่งบนด้านหลังสะพานเดินเรือ

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 17/06/2013 20:46:48


    ความคิดเห็นที่ 439


    แก้แบบนี้พอดูได้หน่อย ไว้เก็บรายละเอียดครบแล้วจะมาโพสอีกที ขอไปวุ่นวายกับเสากระโดงเรือให้จบก่อน ตรงบริเวณกราบเรือด้วยมองในภาพดูมันวุ่นวายดี

    หอบังคับการมันตั้งโด่แบบนั้นเพราะผมยืมเรือOHPมาหนะ เรดาร์หาได้แล้วเรือสิงค์โปร์นี่เอง แต่แท่น VLSของเราไม่ได้โผล่ขึ้นมาสุงใช่ไหมครับ

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 17/06/2013 21:56:02


    ความคิดเห็นที่ 440


    รูปสุดท้ายแล้วลืมย้ายdecoyไปด้านหน้า เหลือแค่ตกแต่งรวมๆอีกรอบกับวัดขนาดแบบท่านจูดาสบอก

     

     แบบนี้ด้านหลังก็โล่งเลยสิครับ บนหลังคาโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ยังพอมีที่ว่างอยู่นะสำหรับ CIWS แท้ๆ


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 17/06/2013 22:45:24


    ความคิดเห็นที่ 441


    ESSMไม่ได้ติดบนSuperstructureเหรอครับ? (รูที่เจาะไว้ผมว่ามันยาวพอแค่self-defense พอติดtacticalเลยต้องโผล่มารึเปล่า) ส่วนCIWs ก็แกะPhalanxเรือพุทธฯมาแปะ(refurbishแล้ว)ดีไหมเนี่ย
    โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 17/06/2013 22:52:08


    ความคิดเห็นที่ 442


    บนหลังคา SAGAM Decoy ยังติดไม่ได้เลยครับ พวกระบบ CIWS คงไม่ค่อยมีหวัง...และไม่แน่ใจว่า เป็นเรื่องเทคนิค (ทำให้ เฮลิคอปเตอร์ ลงไม่ได้) หรือ โครงสร้างการต่อเรือของประเทศจีน กันแน่ หนอ... ?

    โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 17/06/2013 23:00:07


    ความคิดเห็นที่ 443


     ถ้าาหากเรือใหม่ได้ขนาดkdx2รวมทั้งเรดาร์และอาวุธมาตามแบบที่ท่านjuldasร่างเอาไว้อย่างน้อยคงทำให้เรือจักรีเราอุ่นใจได้บ้าง แต่ว่าถ้าหากทัพเรือตกลงปลงใจกับทางsaabน่าจะจัดทำแผนอากาศยานประจำเรือจักรีไปเลย ให้ทางโน้นทำแผนเสนอไอเดียมาแล้วค่อยมาดูงบประมาณว่าจะไหวมั้ย ถ้าหากอนาคตเรามีความพร้อมในเรื่องอู่ต่อเรือของเราเองมันจะช่วยให้โครงการต่างๆง่ายกว่าเดิมเยอะ ส่วนเรือดำน้ำใจอยากได้u212หรือไม่ก็a26มันเป็นเรือดำน้ำที่ดูคล่องตัวมากเอาไว้ไล่ล่าเรือดำน้ำด้วยกันคงจะเอาเรื่องน่าดู

    โดยคุณ yuy999 เมื่อวันที่ 17/06/2013 23:26:35


    ความคิดเห็นที่ 444


    mk41 SDL เป็นโครงการที่มาหลังการต่อรล.นเรศวร จากเว็บ

    http://www.deagel.com/Rocket-and-Missile-Launchers/Mk-41-Self-Defense-Launcher_a001420003.aspx 

    Mk41 SDL พร้อมเข้าประจำการในปี2004 หลังจากรล.นเรศวรถึง10ปี ดังนั้นรล.นเรศวร น่าจะรองรับTactical length มาแต่แรก จึงไม่ต้องมีการเสริมดาดฟ้า 

    โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 18/06/2013 00:33:42


    ความคิดเห็นที่ 445


    .....................เนื่องจาก ผมได้อ่านพบข้อความแสดงความคิดเห็นของ ท่าน fatboy ไว้ในเว็บไซด์ TAF ซึ่งมีสาระสำคัญว่า

               "อนึ่ง เรือฟริเกตชุดใหม่ ไม่ได้เน้นภารกิจด้าน ASW เป็นหลักครับ เรือชุดนี้จะเป็นเรือฟริเกตอเนกประสงค์ คล้ายเรือฟริเกต ชุดนเรศวร เพียงแต่มีขีดความสามารถมากกว่า ในทุกๆด้านครับ ทั้งป้องกันภัยทางอากาศให้กองเรือ ค้นหาและปราบเรือดำน้ำ

    แต่ที่แปลกใจมากคือ เหตุใดถึงมีกระแส KDX-2 เกิดขึ้นมาครับ" นั้น

    ..................และด้วยสาเหตุที่ผมมีความเชื่อถือในข้อมูลของ ท่าน fatboy ในเว็บไซด์ดังกล่าว จึงทำให้ผมเชื่อว่า เรือฟรีเกตสมรรรถนะสูง ที่ทร.กำลังดำเนินโครงการอยู่นี้ ไม่ใช่เรือในแบบเรือ KDX II แต่อย่างใด ....และน่าจะเป็นเรือใน แบบเรือ DW 3000H ขยายขนาดเรือ มากกว่า........................ครับ/สกายนาย

    โดยคุณ สกายนาย เมื่อวันที่ 18/06/2013 10:55:55


    ความคิดเห็นที่ 446


    กระแสKDX-II มาจากผมไม่แน่ใจนะ แต่ตัวผมเองตั้งกระทู้เชียร์เรือลำนี้สุดลิ่มอยู่กระทู้หนึ่งไม่รู้มีความผิดกับเขาด้วยหรือเปล่า เอาผู้หมวดคนสวยมาจับผมไปก็ได้นะจะได้ให้ผู้หมวดพยาบาลคนสวยอีกคนทำแผลให้

     

    เรือฟริเกตุสมรรถนะสุงจะพลิกไปพลิกมาแบบนี้เรื่อยๆจนกว่าเราจะได้เรือจริงมาจอดหละครับ พวกเราก็วิจารณ์กันไปตามเนื้อผ้าของข่าวที่พอจะหาได้มาจากทร.ในเวลานั้นๆ ถ้าย้อนกลับไปดูต้นๆกระทู้ก็จะเห็นว่าผมเชียร์ i-mast 500ว่าเป็นหลานห่างๆของเอจิสอยู่เลย แต่เราเอาเรือลำนั้นมาต่อยอดไม่ได้เพราะไม่มีภาพเรือจริงๆหรือสายเส้นเลย DSME มีขนาดเรืออยู่2ลำเองที่เราพอจะเลือกได้ก็เลยต้องวนไปวนมานี่แหละ ไม่เหมือนก่อนหน้าที่จะเปิดเผยชื่อตอนนั้นมีเรือตั้งไม่รู้กี่แบบต่อกี่แบบ

     

    เอาอัพเดทสุดท้ายมาให้ชมครับมากกว่าคงต้องรอเรือจริงแล่นออกมาก่อน ดูเหมือนCIWSจะเป็นช่องว่างที่เติมไม่เต็มของเรือลำนี้นะ

     

     


    โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 18/06/2013 11:27:30


    ความคิดเห็นที่ 447


    ถ้าเป็นอย่างที่ท่าน FATBOY ว่าไว้

        ใครก็ได้ครับช่วยเขียนแบบเรือ DW3000H รุ่นขยายขนาดออกซัก 4000 ตัน และมีระบบตามที่(คนที่ถูกแบนใน TAF)นำมาอ้างอิงซักหน่อยก็ดีครับ

    จะเป็นพระคุณอย่างมาก

    โดยคุณ Woot1980 เมื่อวันที่ 18/06/2013 11:58:11


    ความคิดเห็นที่ 448


    ฝากท่าน superboy ช่วยแก้ไขแบบเรือ นเรศวรอีกนิดครับ ผมว่า ระยะตัวเรือน่าจะกินน้ำลึกกว่านี้เพราะรูปที่คนเขียนเมื่อเปรียบเทียบกับรูปจริงนั้นดูมันหนากว่าครับ

    เอ่อแล้วช่วย move ระยะหมายเลขของเรือเข้ามาด้านซ้ายอีกนิดครับให้มันตรงกับป้อมปืน

    (ปล.จะขอ save รูปเก็บไว้ใน catalog ของผม)

    โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 18/06/2013 12:06:33


    ความคิดเห็นที่ 449


    สาเหตุที่พวกเราหยิบยกประเด็นแบบเรือที่ใช้อ้างอิงเป็น KDX II หรือ DW5000D นั้นมาจากข่าวที่มีใจความอ้างถึง แหล่งข่าวระดับสูงในทร.ได้กล่าวว่า "แบบเรือที่ได้รับเลือกนั้นมีพื้นฐานจากเรือที่อู่ DSME เคยต่ออยู่ก่อน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่กำหนดไว้ แต่ได้นำมาปรับแก้ตามความต้องการของทร.ไทย" เมื่อพิจารณาจากเรือที่ต่อโดย DSME และมีขนาดราว 5,000 tons ก็มีแค่ KDX II ส่วน DW3000H นั้นเป็นแค่การแบบที่ยังไม่เคยมีการต่อ แต่ถึงอย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าเรือทั้งสองแบบนี้เป็นเรือที่มีโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน หน้าตาอาจดูต่างกันมากเพราะการออกแบบที่ทันสมัยมากขึ้นและขนาดที่เล็กลง ดังนั้นเราจะเอา KDX II มาย่อขนาดลง หรือจะเอา DW3000H ไปขยายแบบ ก็คงไม่ได้ต่างกันซักเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามหากรวบรวมข่าวเท่าที่หาได้ในเวลานี้แล้ว ผมมองว่าการเอาแบบเรือที่มีขนาดใหญ่(ที่เคยต่อแล้วหลายลำ) มาเป็นพื้นฐานแล้วปรับลดขนาดตามความต้องการ ง่ายกว่าและดีกว่าการขยายแบบเรือที่ยังไม่เคยต่อจริง เพื่อให้บรรลุความต้องการที่ค่อนข้างสูง(เท่าที่คิดกัน) เอาแค่ความต้องการแต่ละข้อ ไล่ตั้งแต่ระบบเบื้องต้นอย่างน้อยต้องเท่ากับหรือดีกว่ารล.นเรศวรที่ปรับปรุงใหม่ + ASW Suite + ฮ.ขนาดกลาง + CIWS แล้วยังจะเพิ่ม เรดาร์ตรวจการณ์ทางอากศระยะไกล 3 มิติ + รองรับ SM2 ได้ในอนาคต ในขณะที่รล.นเรศวรเองก็มีระวางขับน้ำอยู่ที่ 2,9XX tons เข้าไปแล้ว เรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำนี้ควรจะมีระวางขับน้ำอย่างน้อยเท่าไหร่ ??? หากจะเอา DW3000H มาขยาย ??? หากเอา KDX II มาลดขนาด ??? แบบไหนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ??? ทั้งกับทร.ไทย และทั้ง DSME ลองคิดดูนะครับ สำหรับผมประเมินว่าระวางขับน้ำน่าจะต้องเฉียดๆ 4,000 tons และการปรับแก้แบบเรือขนาดใหญ่ที่เคยต่อมาแล้วหลายลำน่าจะง่ายกว่าและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า การขยายแบบเรือที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่โดยยังไม่เคยต่อจริงๆ เลยแม้แต่ลำเดียว

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 18/06/2013 15:19:10


    ความคิดเห็นที่ 450


    ขอปิดกระทู้นี้นะครับ เพราะเริ่มใช้เวลาในการโหลดนานขึ้น จะตั้งกระทู้ใหม่ให้ครับ/ADMIN

    โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 18/06/2013 15:30:34


    ความคิดเห็นที่ 451


    ที่มาของกระแส KDX II มาจากข่าวครับ มีการอ้างคำพูดของแหล่งข่าวระดับสูงในทร.ว่า "เรือที่ได้รับเลือกนั้นมีพื้นฐานมาจากเรือขนาด 5,000 ตัน ซึ่งได้เคยต่อมาก่อนหน้านี้ โดยได้รับการปรับลดขนาดและปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของทร.ไทย" ส่วน DW3000H นั้นเป็นเพียงแค่แบบเรือที่ออกแบบใหม่ ยังไม่เคยต่อจริงเลยแม้แต่ลำเดียว เท่าที่สังเกตุน่าจะเป็นแบบเรือพื้นฐานเดียวกันที่ได้รับการย่อขนาดลงมา และปรับแต่งหน้าตาให้ดูทันสมัยมากขึ้น(โดยเฉพาะการใส่ iMast 400/500 ลงไป) แต่หากพิจารณาโดยละเอียดตามความต้องการของทร.(เท่าที่หาข้อมูลได้ในปัจจุบัน) เรือน่าจะต้องมีขนาดใหญ่กว่ารล.นเรศวร(ระวาง 2,900 ตัน)อยู่มากพอสมควร เพราะทร.ได้กำหนดความต้องการเบื้องต้นไว้ว่าระบบต่างๆ ต้องเท่าหรือดีกว่ารล.นเรศวรที่ปรับปรุงแล้ว อีกทั้งยังเพิ่มระบบ ASW Suite ที่มากขึ้นและอาจจะมี VL ASROC มาด้วย , รองรับฮ.ขนาดใหญ่ขึ้น (ขนาด 10 ตัน) และยังต้องรองรับ SM2 ได้ในอนาคตอีกด้วย เมื่อพิจารณาการปรับปรุงแก้ไขแบบเรือที่ใหญ่กว่าและเคยต่อมาแล้วหลายลำ กับเรือที่เล็กกว่าและยังไม่เคยต่อจริงเลยแม้แต่ลำเดียว แบบไหนน่าจะง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่้ากัน และยังสามารถรองรับการปรับปรุงเพิ่มเติมได้ในอนาคตอีกด้วย

    โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 18/06/2013 15:33:39