เอาภาพเก่า..เมื่อประมาณ ปี 2553-2554 มาให้ดูครับ..ผมได้มากจากWeb ต่างประเทศจำไม่ได้ว่า Webไหน....น่าจะเป็นภาพรถถังมือสอง
ที่ซื้อจากยูเครนช่วงก่อนปะทะกันหนล่าสุดไม่นาน....เค้าระบุข้อความในกระทู้ และ ตั้งชื่อภาพ..หากแปลเป็นภาษาไทยก็คงประมาณ ว่า
"รถถังที่จะส่งไปเขาพระวิหาร"( tanks to preah vihear )
แต่เท่าที่ผมสังเกตดู พบว่า เรามักจะเห็นแต่กัมพูชาซ้อมยิงจรวดหลายลำกล้อง..แต่ไม่เคยเห็นภาพกัมพูชานำรถถังเหล่านี้มาซ้อมรบร่วมกับทหารราบเลย
(แม้แต่การซ้อมรบของทหารราบก็ไม่ค่อยเห็น) ผิดกับของไทยหากมีการซ้อมรบมักจะจัดเต็มทั้งรถถัง , ยานเกราะ , ทหารราบ และ ทหารปืนใหญ่
รวมทั้งเรายังจัดให้แต่ละหน่วยมาทำการซ้อมรบร่วมกันอยู่บ่อยๆ..ในขณะที่การซ้อมรบในลักษณะนี้ทางฝั่งกัมพูชาเลย
ทำให้ผมสงสัยว่ารถถังที่กัมพูชามีอยู่นั้น..ปัจจุบันมีความพร้อมรบแค่ไหน....และ การที่ไม่เคยเห็นกัมพูชานำหน่วยทหารราบ , ทหารรถถัง และ
ทหารปืนใหญ่มาซ้อมรบร่วมกันเลย..ยิ่งทำให้สงสัยว่าหากปฏิบัติการรบจริง ทหารแต่ละหน่วยของกัมพูชาจะสามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิหรือไม่
หากเกิดสงครามเต็มรูปแบบจริงๆทหารกัมพูชาจะมีความพร้อมรบในระดับไหน...เพราะในความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าทหารพรานของเรายังดูมีมาตรฐานกว่า
ทหารราบปกติของกัมพูชาอีกนะครับ
ในความคิดของผมคิดว่าคงไม่เกิดเหตุซ้ำรอยอย่างแน่นอน เพราะว่ารัฐบาลชุดนี้น่าจะพอคุยกันกับกัมพูชาได้ในระดับหนึ่ง
อะไรก็เกิดขึ้นได้นะ ตัดสินเสร๊จอาจจะมีการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดทักทายก็เป็นได้
ตอบจากกระทู้ กัมพูชาไปซื้อ RM-70 มาตั้งแต่ตอนไหนเนี้ย ครับ เพราะโดนปิดไปแล้ว
เพิ่งมาสังเกตครับ ว่ารถยิงจรวดหลายลำกล้องที่กัมพูชาขนมาซ้อมยิงล่าสุด เป็นRM70เยอะมาก ตามภาพ อ่านข่าวดูผ่านๆก็บอก BM21 ก็เลยคิดว่าตัวเดิมๆ แต่ก็นะ มันก็คือเอาระบบแกรด 122มม. มาใส่รถบรรทุกของเช็กละครับ
ส่วนที่ว่ากัมพูชาสั่งซื้อมาปีก่อนๆ ผมเช็คจากเว็บของ SIPRI แล้วไม่มีนะครับ อาวุธล็อตใหญ่ที่่เค้าซื้อมาปี2010 มาจากยูเครนครับ รถถังที55 กับบีทีอาร์60 รวมเป็นร้อยคัน มาถึงปี2012ครับ
ใครสนใจดูข้อมูลการซื้ออาวุธทั่วโลกก็ตามเว็บนี้ครับ
http://armstrade.sipri.org/armstrade/page/trade_register.php
อันนี้ล่าสุดปี2012 กัมพูชาสั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์โจมตี คล้ายๆกับที่เราซื้อ จากฝรั่งเศสครับ ส่วนแซด9 คงเป็นข่าวปีนี้เลยไม่มีในไฟล์ RM70ส่วนตัวคิดว่าใหม่ล่าสุดเลย ปี2013นี่ละ
อันนี้ถือเป็นการสั่งซื้ออาวุธของกัมพูชาล่าสุดตั้งแต่ปี2010-2012
Canada
R: Cambodia (4) PW-100 Turboprop/turboshaft 2012 2012 (4) For 2 MA-60 transport aircraft from China; PW-127 version
China
R: Cambodia 12 AS-365/AS-565 Panther Helicopter 2011 Incl 4 armed version; delivery 2013
2 MA-60 Transport aircraft 2012 2012 2
Ukraine
R: Cambodia (40) BTR-60PB APC (2010) 2012 (40) Designation uncertain (reported as 8-wheeled APC); probably ex-Ukrainian
(100) T-55 Tank (2010) 2012 (100) Ex-Ukrainian
ก็อปไฟล์Wordมาคงงงเล็กน้อย โหลดแบบWord ได้ที่นีครับ
https://word.office.live.com/wv/WordView.aspx?FBsrc=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fdownload%2Ffile_preview.php%3Fid%3D430667023693962%26time%3D1365406592%26metadata&access_token=100002402178120%3AAVLqaLGOk-3Q2Ty_04APyHbnT4nZAiXNwK7D_EnhaEfHYg&title=Trade-Register-2011-2012.rtf
ท่านแทนครับแล้วไอ้รถสายพานลำเลียงพลแบบ BMP-1 กับรถหุ้มเกราะล้อยางแบบ BRDM-2 แล้วก็รถบรรทุกหัวลากแบบ MAZ-537 ที่กัมพูชาซื้อมาเมื่อปลายปีที่แล้วไม่เห็นมีในรายการเลยครับว่าซื้อมาจากประเทศใด เป็นไปได้ไหมครับว่า RM-70 จะปนมากับล็อตนี้
เขาคงจัดหาอาวุธตอบโต้ที่เราจัด ปืนใหญ่ M198 มาหรือเปล่าว ถ้าเกิดปะทะขึ้นมาจริงทางกองทัพจะงัดเจ้าตัวนี้มาไหม
นินจาตัวใหญ่จัง ขอความกรุณาช่วยเปลี่ยนหน่อยนะครับ ตัวมันใหญ่จนบังข้อความครับ ขอคุณครับ
อ่า เป็นความผิดของผมเองครับ ไฟล์นั้นผมใส่ปีผิดเริ่มจาก2011ครับ ไม่ใช่ 2010
บีอาร์ดีเอ็ม2 สั่งปี2010มีครับ ส่วนบีเอ็มพี1 เค้าว่าซื้อจากโซเวียตตั้งแต่ปี1989โน้นแล้ว ลองดูในไฟล์ครับ
รถบรรทุกMAZ-537 คือหน่วยงานนี้ เค้าไม่รายงานพวกรถบรรทุกเลยครับ แล้วก็ไม่รายงานพวกอาวุธปืนเบาเลย
Bulgaria
R: Cambodia 4 BRDM-2 Reconnaissance AV (2010) 2010 4 Ex-Bulgarian
(10) BMP-1 IFV (1988) 1989 (10) Probably ex-Soviet; supplier uncertain
ผมหาข่าวRM70 ของกัมพูชาในเว็บนอกก็ไม่เจอเลยครับ สงสัยไม่มีใครสังเกตกัน
คงต้องรอสิ้นปี2013 ปี2014กว่าโน้นครับ เว็บคงจะมีรายงานที่แน่นอนว่ากัมพูชาจัดซื้อมาปี2013 เหอะๆ
ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับว่า ตาลุงคนนี้แกเอาเสื้อสายเดี่ยวมาทำอะไรครับ
[img]http://pics.manager.co.th/Images/556000004220511.JPEG[/img]
ซีซ่าไทย
มีการฝึกอยู่ครับแต่นานมากแล้ว ตามคลิปเลยครับ ^^
มีถ่ายทอดวันนี้ 15 เมษายน ทางช่อง NBT 11 เป็นคำให้การด้วยวาจาของฝ่ายกัมพูชา
ฟังแล้วข้อมูลดี แต่มันเป็นข้อมูลที่ดีแต่แพ้คดีในปี 2505 นี่ซิ มันเลยมีสองทางเลือกคือ 1.ไม่ต้องต้องไปศาล(แต่เราเลือกไป)เพราะเขตแดนจริงๆศาลโลกไม่เคยตัดสินให้ใครได้เลย เพราะไม่มีใครเคยฟัง และนี่เป็นคดีเก่าที่ศาลตัดสินแล้วว่าตัวปราสาทเป็นของเขมร แต่แผ่นดินของไทย (อุตส่าให้เขมรเพื่อเอาใจฝรั่งเศสอีก) มันเป็นคดีว่าปราสาทของใครไม่ใช่ตัดสินเรื่องเขตแดน ดังนั้นเขมรพยายามพาไปประเด็นอื่นแต่ ในเวทีโลกเราเสียเปรียบ เนื่องจากเราดันยอมรับ MOU43 กับเขมรอยู่ ซึ่งดันมีแผนที่หนึ่งต่อสองแสนของเขมรตัวปัญหาแนบอยู่ฝ่ายเดียว แต่ไม่มีมีแผนที่ หนึ่งต่อห้าหมื่นสำหรับภาคพื้นดินของไทย(ทหารไทยใช้) ซึ่งแผนที่สองชุดนี้มันต่างกันมาก ไอ้พื้นที่ 4.6 จึงเป็นเพียงเรืองเล็กไปเลย เพราะถ้าไปยึดแผนที่หนึ่งต่อสองแสนที่ฝรั่งเศสทำให้เขมร แผนที่นี้ส่วนมากจะกินพื้นที่ไทยตลอดตะเข็บชายแดนด้านตะวันออกลงมาถึงอ่าวไทย เราจะไม่เสียเปรียบแค่ 4.6ตร.กม. แต่จะพาลไปถึงอณาเขตทางทะเลอีกมหาศาลตามข้อตกลงที่ค้างอยู่คือ MOU44 (จะทำต่อได้เมื่อ MOU43 เสร็จสิ้นซึ่ง MOU 43 เราดันยอมรับแผนที่เค้าซะด้วย)
2.ไม่ต้องไปศาล (เอาย่อๆนะครับผมพิมพ์ระบบมันดีด) ไม่ต้องกลัว UN เพราะรบตะเข็บชายแดนมีเกือบทุกวันทั่วโลก ยกเลิก MOU43 ซะ แล้วทำกันใหม่ ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะถ้ายึดแผนที่เขมรอย่างเดียว ก็ไม่ต่างกับการยกแผ่นดินให้เค้า มวยแพ้แบบไม่ทันชก ถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง ดังนั้นเราไม่ไปไม่สนก็ทำได้ เพราะการไปศาลโลกต้องเต็มใจไปทั้งสองฝ่าย อย่าลืมศาลโลกไม่มีใครยืนยันได้ว่าคำวินิจฉัยจะโปร่งใสหรือไม่ เพราะอย่างที่บอก ในปี 2505 นั้นเราว่าความดีมาก ข้อมูลเน่น แต่กลับโดนกฎหมายปิดปากเฉยเลย หาว่าเขมรยกแผนที่อ้างตลอดแต่เราไม่ประท้วง คิดดูเราเจอปราสาท เราบูรณะซ่อมแซม และอยู่เขตเรา กลับหาว่าเราเฉยเมย (ก็เรื่องของเรา) สุดท้ายยกให้เขมรไปเลย ดั้งนั้นปัจจุบันเราต้องเลิก MOU43,44 ไปซะ แล้วเอาแผนที่หนึ่งต่อห้าหมื่นเราไปทำ MOU ด้วยจึงจะถูกต้อง ต่อไปภายภาคหน้าเราจะได้ไม่โดนเรื่องกฎหมายปิดปากอีก เขมรอ้างได้เต็มปากว่ารัฐไทยลงนามตกลงปักปันดินแดนตามแผนที่หนึ่งต่อสองสนของเขมร ไทยยอมรับ ไทยรู้เห็น เท่ากับจบครับ แผนที่เขมรเป็นแผนที่ฝรั่งเศสทำขึ้นเอาเปรียบเราเท่านั้นเอง แถมเป็นอัตราส่วนที่ผิดหลักถ้าจะมาคุยในเรื่องอนาเขตพื้นดิน เพราะหาความละเอียดได้ยาก ดังนั้นถ้าเรายังยึด MOU ไว้ต่อ ก็จะมีคดีบ้าๆบอๆ หรือเหตุรุกล้ำจากเขมรไม่หยุดหย่อน แถมไอ้แผนที่หนึ่งต่อสองแสนถ้าเทียบกับหนึ่งต่อห้าหมื่นของเรา แผนที่ของเขมรจะกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของเรายาวลงมาถึงอ่าวไทยนะครับ จงไม่ใช่เรื่องตลก ไม่ใช่แค่ 4.6 ตร กม. ที่จะปล่อยไว้ ถ้าเกิดปัญหา เราจะโดนรุมอย่างเดียว ใครก็ไม่ฟังเราแล้วเพราะเราหลวมตัวยอมรับเอกสารเขมรเอง จึงถามว่างั้น MOU43,44 ทำได้ยังไงในเมื่อยึดแผนที่เขมรฝ่ายเดียว ตัวผมตอบไม่ถูกเหมือนกัน เพียงแต่คาเดาว่าน่าจะหละหลวมทำผิดพลาด และถ้าถามว่าทำไมไม่มีใครคิดแก้ มันก็พูดยากเพราะ MOU นี้ สองขั้วอำนาจของไทยทำด้วยกัน(เค้าร่วมรัฐบาลกันตอนนั้น) จึงเห็นว่า MOU ไม่มีใครพูดถึง ทั้งที่เอกสารใน MOU ส่วนนึงเขมรนำไปใช้ในศาล วันนี้ปล่อยไม่ได้แล้ว ถ้าเดินเกมส์ศาลโลกแล้ว ก็ต้องแก้เกมส์หลังบ้านเราด้วยอย่าให้ขัดแย้งกัน เราเสนอหนึ่งต่อห้าหมื่นในศาลโลก แต่ใน MOU เรารับหนึ่งต่อสองแสนของเขมรที่เสนอศาลโลก ใครไม่ทราบก็มองว่าเราสับสน โลเล แก้เถอะครับ ถ้าไม้แก้ประชาชนมองได้ว่าปล่อยเพื่อเอื้อประโยชน์ระดับชาติ ถ้าลามไปถึง MOU44 มันจะคุยยากเรื่องพลังงานแหล่งใหม่นะครับ เราจะเสียเกือบหมด เขมร ฝรั่งได้ประโยชน์ คนไทยได้อะไร พระวิหารแค่ละครซ้อมเล่นๆหลอกคนดูหน้าฉาก แต่หลังฉากมันโหดร้ายกับคนไทยและลูกหลานเราเองนะคับ ฉะนั้นอย่าปล่อยไว้เลย