เกาหลีเหนือประกาศภาวะสงครามกับเกาหลีใต้แล้ว สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เมื่อล่าสุด ทางการเกาหลีเหนือได้ประกาศภาวะสงครามกับเกาหลีใต้แล้ว พร้อมขู่ว่า การกระทำใดๆก็ตามที่เป็นการยั่วยุทางทหาร อาจนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีได้ สถานีโทรทัศน์ทางการของเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์ในช่วงเช้าของวันนี้ โดยย้ำว่า ขณะนี้ ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นั้น ได้เข้าสู่ภาวะสงครามอย่างเต็มรูปแบบ และสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ที่เคยอยู่ระหว่างสันติภาพและสงคราม ได้สิ้นสุดลงแล้ว มีเพียงแต่ภาวะสงครามเท่านั้น พร้อมกับขู่ว่า การกระทำใดๆก็ตาม ที่เข้าข่ายยั่วยุทางการทหาร บริเวณพรมแดนของเกาหลีเหนือ อาจทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างเต็มรูปแบบ และนำพาไปสู่สงครามนิวเคลียร์ได้ การประกาศภาวะสงครามดังกล่าว เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ติดตั้งขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีจากสหรัฐฯ พร้อมทั้งเล็งเป้าขีปนาวุธของเกาหลีเหนือไปยังฐานทัพของสหรัฐฯในเกาหลีใต้ ตลอดจนฐานทัพอื่นๆในมหาสมุทรแปซิฟิก และแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ สร้างความวิตกกังวลให้แก่นานาชาติ เกี่ยวกับแนวโน้มของการเกิดสงครามในคาบสมุทรเกาหลี ทางด้านของนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ก็ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า สถานการณ์ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี อาจลุกลามบานปลายจนเกินควบคุม พร้อมเรียกร้องให้ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ หยุดการกระทำที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากนานาชาติ ขณะเดียวกัน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ชาวเกาหลีเหนือหลายพันคน ได้มารวมตัวกันกลางกรุงเปียงยาง เพื่อให้การสนับสนุนนายคิม จอง อึน ประธานาธิบดีของเกาหลีเหนือ ที่ได้ประกาศเตรียมการสู้รบกับสหรัฐฯ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าแถวเดินขบวน และตะโกนคำขวัญ "จักรวรรดินิยมอเมริกาจงพินาศ" และ "กวาดล้างอเมริกาผู้รุกราน" ก่อนที่จะสลายการชุมนุมในเวลาต่อมา ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่า สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเลวร้ายมากยิ่งขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯ รวมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ และสหรัฐฯได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน อย่างบี-2 สเตลท์ มาบินเหนือน่านฟ้าของเกาหลีใต้ ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่า เป็นการข่มขู่ยั่วยุเกาหลีเหนือโดยตรง และเกาหลีเหนือจะไม่ยอมถูกคุกคามอีกต่อไป ขณะที่ นายชัค เฮเกล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ก็ออกมาตอบโต้ว่า ทุกความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ สหรัฐฯมองว่า เป็นการข่มขู่คุกคามอย่างรุนแรง และเกาหลีเหนือควรตระหนักว่า หากยังไม่หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ เกาหลีเหนืออาจตกอยู่ในภาวะอันตรายได้ by Sutthiporn 30 มีนาคม 2556 เวลา 08:42 น.
http://news.voicetv.co.th/global/66559
จากที่ผมดูลักษณะ โหงวเฮ้งของ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
ผมคิดว่า คนลักษณะนี้ สามารถทำอะไรก็ได้ ที่คนอื่นคาดไม่ถึง
คนลักษณะนี้ ถ้าเป็นภาษาชาวบ้าน คือ ไม่ขาด ก็เกิน ( 10โล ทั้งเข่ง )
แต่ไม่ได้หมายถึง บ้า หรือ ติ๊งต๊อง น่ะ
คนลักษณะนี้ ถ้าอารมณ์ร้อน ก็ต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบ หากไปแสดงอาการ
แข็งกร้าวตอบโต้ .. มันพร้อมที่จะทุ่มหมดหน้าตักทันที โดยไม่คิดถึง
ผลกระทบไดๆ .. มันแตกต่างกับผู้เป็นพ่อ ที่สุขุม มากกว่านี้เยอะ
ตอนนี้ สงครามนิวเคลียร์ จะเกิด หรือ ไม่เกิด มันอยู่ที่เกาหลีใต้ ว่า
จะอดทนได้มากแค่ใหน
ถ้าพี่จีนไม่ช่วยจะไหวเร้อ?
ในความคิดผมว่ามันเป็นแค่การโชว์พลังกันครับ ด้วยว่าเพิ่งผลัดผู้นำกันทั้งคู่แถมเกาหลีใต้ยังเป็นผู้หญิงฝั่งเหนือคงอยากหยั่งเชิงดู ส่วนฝั่งเหนือเองตัวผู้นำคนใหม่ที่เคยอยู่ใต้เงาผู้เป็นพ่อมาก่อนก็จะเป็นการโชว์พาวเวอร์ทั้งต่อชาวโลก โดยเฉพาะกับปชช เกาหลีเหนือเองเพื่อให้เกิดความศรัทธาในผู้นำเหมือนที่เคยๆเป็นมาจากรุ่นก่อนๆ
เหตุที่ผมมั่นใจว่าไม่เกิดสงครามใหญ่แน่เพราะเกาหลีเหนือเองต่อให้รบชนะยึดโซลได้ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมานอกจากเปิดโอกาสให้พวกตะวันตกเข้ามาโจมตี ส่วนนิวเคลียร์เค้าก็มีเหมือนกันแรงกว่าด้วย สรุปคือเป็นสงครามที่มีแต่เสียกับเสีย
เกาหลีใต้อดทนมากเลยนะทั้งโดนยิงถล่มเกาะ เรือก็ถูกโจมโดยเรือดำน้ำเกาหลีเหนือ หรือว่าเกาหลีเหนือพัฒนานิวเคลียร์ได้สมบูรณ์แบบแล้ว
....ถ้าสงครามจริงๆ....สงสารประชาชนเกาหลีเหนือ...กับ..เกาหลีใต้.....ต้องรับเคราะห์ ....ถ้า ผู้นำเกาหลีเหนือ มันบ้า...ใช้นิวเคลียร์....คงจะ...ได้ดู ระเบิดนิวเคลียร์....ลูกที่..3 ...4..5 ..เเน่นอน...แต่อย่าให้เกิด...เถอะ...สาธุ...
ผมมองว่า สงครามถ้าจะเกิดในครั้งนี้...น่าจะเป็น สงครามเพื่อสร้างสัญลักษณ์ให้ผู้นำ...มากกว่า สงครามเชิงรุกราน...ซึ่งผมก็ เดา ว่า...ไม่น่าจะยืดเยื้อ...เหมือนในอดีต...
ผมคิดว่า เป้าหมายแรกของ เกาหลีเหนือ ถ้าจะโจมตี เกาหลีใต้...น่าจะเป็น จุดที่ตั้ง กองกำลังทหาร เป็นอันดับแรกมากกว่าครับ...
เหมือนกับที่ เรือรบ โชนัน ถูกจม...
เส้นขนานที่ 38 น่าจะเป็น สัญลักษณ์ที่ เกาหลีเหนือ น่าจะเริ่มสงครามที่ ตรงนี้ ครับ...
การโจมตี พลเรือนของเกาหลีใต้ คงไม่ใช่ สัญลักษณ์ที่ดี ต่อตัวผู้นำ เกาหลีเหนือ แม้แต่ในประเทศตัวเองครับ...
ซึ่งผมมองว่า ด้วยเทคโนโลยี่ทาง ดาวเทียม ของทั้งสหรัฐ และ เกาหลีใต้...จะช่วยลดทอน การถูกโจมตีที่บริเวณ พลเรือน ของเกาหลีใต้ได้ พอสมควร อาจจะมีบ้างประปราย เท่านั้นครับ..คือ อาวุธเชิงรุก ของ เกาหลีเหนือ น่าจะถูกทำลายก่อนเป็นอันดับแรก...
สิ่งที่น่ากลัวของ เกาหลีเหนือ ผมกลับมองว่า คือ กำลังพล ที่มีใจหึกเหิม...ซึ่งประวัติศาสตร์ของ สงครามเกาหลี ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นประจักษ์อยู่ครับ...
ผมเลยมองว่า ถ้า เกาหลีใต้ และ สหรัฐ สามารถข่มขวัญ หรือ บั่นทอน ความหึกเหิม ของ กำลังพล ในส่วนนี้ได้...จะสร้างความได้เปรียบในแง่จิตวิทยา มากกว่า การทำลายให้เกิดความสูญเสียชีวิตจำนวนมากของคนสัญชาติ เกาหลี ด้วยกันครับ...
การสูญเสียชีวิต คงต้องมี...แต่ควรจะมีในลักษณะ การป้องกันและหลีกเลี่ยง และแสดงให้เห็นถึง การมีเทคโนโลยี่ที่เหนือกว่า...แต่ไม่อยากจะทำลายล้าง คนเชื้อชาติเดียวกัน...ที่ให้เกิดภาพ ตรงกันข้าม กับผู้นำ เกาหลีเหนือ ที่จะสะท้อนให้เห็นภาพการทำลายคนเชื้อชาติเดียวกันมากกว่า...เกาหลีใต้ ต้องสร้างภาพ ตรงจุดนี้ให้ได้ น่าจะได้เปรียบกว่า...การปรากฎภาพชัยชนะของสงคราม
ความเห็นผมว่า...โอกาส เกิดสงครามมีอยู่สูงครับ...
แต่คิดว่า คงเป็นเพียงสงครามสั่งสอน แล้วก็ยกทัพกลับ...ไม่รุกรานไปเกินกว่านั้น...
ทำให้คิดว่า ฐานอำนาจของ ปธน.เกาหลีเหนือ ปัจจุบัน มีความสั่นคลอนลึก ๆ อยู่...
เมื่อไม่นานมานี้ ปีที่แล้ว ก็เพิ่งมีการประหาร นายพล ไปคนหนึ่ง...และรู้สึก มีการปลดนายพล ไปหลายคนเหมือนกัน...
ถ้ามี นายทหาร ที่จะสั่นคลอนอำนาจ อยู่....การทำสงครามช่วงนี้ น่าจะเป็นช่วยลดทอนขวัญและกำลังในการล้มล้างอำนาจลง...และ เป็นการทดสอบ นายพล ที่ยังภักดีต่อตัวเอง ไปในตัวด้วย...
เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นสงครามจำกัดขอบเขต คืออาจยิงเกาะซักเกาะนึง แล้วก็ประกาศชัย จบแยกย้าย มีความสูญเสียบ้างแต่ไม่มาก เหมือนที่ไทยมีกับเขมรอยู่ช่วงนึงพอ คุยได้เรื่องก็จบ ส่วนใครจะชนะก็แล้วแต่ใครจะประกาศ เกาหลีคงไม่กล้ายิงโซลหรอกครับ คิดยังไงก็ไม่คุ้ม ยกเว้น อเมริกาจะเอา บี2 ไปบอมเปียงยางอาจกลายเป็นหนังยาวได้
อาจจะต้องจับตา ช่วงในอาทิตย์หน้า ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิดของ Kim il sung
ซึ่งเป็น ผู้นำ ในการบุกเกาหลีใต้ เมื่อปี 1950 และมีชัยในหลายพื้นที่ จน UN และ สหรัฐ ต้องเขามาช่วยเหลือ เกาหลีใต้ จนสงครามสิ้นสุดในปี 1953
Kim Il-sung Korean pronunciation: [ki.mil.sอษล], also romanised as Kim Il Sung (15 April 1912 – 8 July 1994) was the leader of the Democratic Peoples Republic of Korea, commonly referred to as North Korea, from its establishment in 1948 until his death in 1994. He held the posts of Prime Minister from 1948 to 1972 and President from 1972 to his death. He was also the leader of the Workers Party of Korea from 1949 to 1994 (titled as chairman from 1949 to 1966 and as general secretary after 1966). He invaded South Korea in 1950, and almost succeeded in overrunning the entire peninsula but for UN and American intervention. The Korean War, sometimes referred to as the Korean Civil War, ended with a ceasefire in 1953.
His tenure as leader of North Korea has often been described as autocratic, and he established an all-pervasive cult of personality. From the mid-1960s, he promoted his self-developed Juche variant of socialist organisation, which later replaced Marxism-Leninism as the ideology of the state in 1972. In the Library of Congress Country Study on North Korea in 2009, he was described as "one of the most intriguing figures of the twentieth century". He outlived Joseph Stalin by four decades, Mao Zedong by two, and remained in power during the terms of office of six South Korean presidents, seven Soviet leaders, ten U.S. presidents, fourteen UK Prime Ministers and twenty-one Japanese prime ministers.
Following his death in 1994, he was succeeded by his eldest son Kim Jong-il. The North Korean government refers to Kim Il-sung as "The Great Leader" (์๋ํ ์๋�น, widaehan suryeong) and he is designated in the North Korean constitution as the countrys "Eternal President". His birthday is a public holiday in North Korea.
ซึ่ง ผุ้นำ คนปัจจุบัน อาจจะต้องการสร้าง สภาวะผู้นำ ให้โดดเด่น เป็น kim il sung แห่ง ศตวรรษที่ 21 ก็ได้...
และ ถ้า เกาหลีใต้ วางกลยุทธ์ให้ดี กรณี เกิดสงครามขึ้น...ก็จะเป็น แรงสะท้อนกลับที่หนักหน่วง และสามารถโค่นล้มอำนาจ ได้ด้วยเช่นกัน...
โดย ผมคาด เดา ว่า...สงคราม น่าจะเกิด...แต่จะไม่ยืดเยื้อ...
ซึ่ง ผมมองว่า เกมส์ สงครามครั้งนี้...ถ้า เกิดขึ้น...เกาหลีใต้ และ สหรัฐ ควรใช้ความได้เปรียบในการสงครามของระบบอาวูธ...ในการสร้างการข่มขวัญ..
มากกว่า การสูญเสียชีวิต..
การใช้ระเบิด แบบหนักหน่วง ตัดการส่งเสบียง...ให้ ทหารของ เกาหลีเหนือ ที่เข้าทำศึก จำนวนมาก ถูกตัดขาดจาก กองบัญชาการ...สูญเสียกำลังใจ...และ ปล่อยให้กลับประเทศ...ให้เกิด ลักษณะภาพว่า ผู้นำ ส่งพวกเขามาตาย เพื่อสร้างบารมี เท่านั้น...
เพราะ เกาหลีใต้ กับ เกาหลีเหนือ คือ คนเชื้อสายเดียวกัน เป็น ญาติพี่น้องกัน...การทำให้เกิดความสูญเสียในแง่ชีวิตจำนวนมากเกินไป จากชัยชนะของ เกาหลีใต้ จะสร้างฐานความภักดีให้แก่ ผู้นำ เกาหลีเหนือ มากกว่า ความได้เปรียบจากชัยชนะ...
แต่อาจจะต้อง ระวัง เรื่องระเบิด นิวเคลียร์ ที่จะกระทำต่อ เกาหลีใต้ มากขึ้น...ถ้า ฐานอำนาจของ ผู้นำ เกาหลีเหนือ สั่นคลอนมากจริง ๆ ด้วยเหมือนกัน...
ผมมองว่า...ลึก ๆ...ฐานอำนาจของ ผู้นำ เกาหลีเหนือ น่าจะมีจุดที่ คณะทหารส่วนหนึ่ง ไม่ได้มีความเลื่อมใสเพียงพอ...และพร้อมจะแข็งกร้าว ด้วยอยู่เหมือนกัน...
แต่ถ้าโจมตีระบบส่งกำลัง ผมว่า โซลอาจจะโดนโจมตีได้นะครับ เพราะแนวรบไม่น่าจะลึกมาก เมืองหลวงเกาหลีใต้อยู่ติดชายแดนเกินไป อาจจะอยู่ในระยะปืนใหญ 180 mm แถมระบบสำรองกระสุนน่าจะพร้อมในที่ตั้งแล้ว ซึ่งสงครามบนแผ่นดินใหญ่น่าจะสูญเสียมากไป ทั้ง 2ฝ่าย ปัญหาคือเราจะหาทางลงให้ท่านผู้นำอย่างไรไม่ให้เสียหน้า เพื่อนๆคิดว่าจะมีทางอื่นในการยุติสถานการณ์นี้ไหมครับ
เกาหลีเหนือต้องการเพียงปฏิรูปเศรษฐกิจครับ แต่เค้าถูกอเมริกากดขี่อยู่ แถมยังไม่ยอมให้เพื่อนประเทศอื่นๆอื่นติดต่อสังคมค้าขายด้วยอีก เค้าออยากเป็นเหมือนจีน ที่การปรกครองแบบคอมมิวนิส และเศรษฐกิจไปด้วยกันได้ แต่ก็นั่นแหละ อเมริกากีดกันเค้าทุกอย่าง เมื่อค้าขายกับใครไม่ได้ เศรษกิจก็ไม่พัฒนา อเมริกาทำเกาหลีเหนือไว้เยอะครับ
ผมอยากถามคุณjudasหน่อยครับว่ามีโอกาสที่จีนจะเข้าผสมโรงด้วยไหมถ้าเข้าจะยังคงหนุนเกาหลีเหนืออีกหรือไม่
ผมมองในความเห็นส่วนตัวว่า...
เป็น เกมส์...รักษาอำนาจภายใน ของ ปธน.คนใหม่ เกาหลีเหนือ มากกว่าครับ...
ความยืดเยื้อของ สงคราม คงไม่มี...
ความรุนแรง...มีความน่ากลัว อยู่ว่า...ถ้า ฐานอำนาจ สั่นคลอน อย่างรวดเร็ว รุนแรง...การต่อสู้ แบบยอมถวายหัว ของ ผู้นำ จะเป็นสิ่งที่น่ากลัว...
การตอบโต้ ครั้งนี้...เกาหลีใต้ และ สหรัฐ...ผมคิดว่า ทำได้เพียง การสั่งสอน และ สร้างภาพ ผู้นำ ส่ง เด็กหนุ่ม และ คนหนุ่ม ไปตาย น่าจะเพียงพอ...และ รอเวลา ให้สุกงอม...
จะเป็นสิ่ง ยั่งยืน กว่า การเอาชนะสงคราม แบบ อิรัก หรือ อัฟกานิสถาน...
การสงครามครั้งนี้ เป็น สงครามเชื้อชาติเดียวกัน...ยังมีความผูกพัน และ สายสัมพันธ์ เดียวกัน...เป็น สงคราม เรื่อง การปกครอง...ไม่ใช่ การก่อการร้าย หรือ สงครามศาสนา...มันเป็น สงครามต่างแบบ จาก อิรัก หรือ อัฟกานิสถาน...
ซึ่ง จีน คงไม่เข้าไปยุ่ง เหมือนในอดีต...
คงมีเงื่อนไข ของ กองกำลังสหรัฐ ในคาบสมุทรเกาหลี ที่ จีน คงจะยับยั้ง ไว้...
เว้นแต่...เกาหลีเหนือ สามารถโจมตี กองกำลังสหรัฐ ที่ เกาะกวม ได้จริง ๆ....
ซึ่ง สหรัฐ คงไม่นิ่งเฉย...การเคลื่อนกองกำลัง ขนาดใหญ่ ของ สหรัฐ คงเกิดขึ้น...จุดนั้น ถึงจะเป็นโอกาสที่ จีน จะเข้ามาเกี่ยวข้องได้...
ผมมองว่า สงครามครั้งนี้...มีเปอร์เซ็นต์ เกิดขึ้น สูง...แต่เป็น สงครามระหว่าง เกาหลีเหนือ กับ เกาหลีใต้ เท่านั้น...
และ ผมมองภาพว่า...ประชาชน เกาหลีใต้ บางส่วน คงมีการต่อต้าน สหรัฐ ด้วยเหมือนกัน...ถ้า สหรัฐ จะเข้ามามีบทบาท เกินหน้า เกาหลีใต้...
ความนำสมัย และ เทคโนโลยี่ทางทหารของ เกาหลีใต้...ไม่น่าจะเปิดทางให้ สหรัฐ เข้ามามีบทบาทเหมือนในอดีต...น่าจะถูกต่อต้านโดย ชาวเกาหลีใต้เอง ด้วย...
สงครามครั้งนี้ ถ้าจะเกิด...คงเป็น สงครามของ คนเกาหลี โดยเฉพาะ...
ขอบคุณสำหรับคำตอบของคุณJudasครับ