คำแถลงของอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแดนเสือเหลือง ในวันพฤหัสบดี (28) ระบุว่า ตัวเลือกของมาเลเซียในการเสริมเขี้ยวเล็บครั้งนี้ประกอบไปด้วย เครื่องบินขับไล่ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จากสหราชอาณาจักร, เครื่องบินขับไล่ ซาบ เจเอเอส-39 กริเพนจากสวีเดน, เครื่องบินขับไล่ ดัสโซลต์ ราฟาลจากฝรั่งเศส, เอฟ/เอ 18 อี/เอฟ ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต จากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ซูคอย ซู-30 จากรัสเซีย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียเปิดเผยข่าวการเสริมเขี้ยวลับทางอากาศดัง กล่าว ระหว่างเข้าร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้าด้านการเดินเรือและอวกาศนานาชาติที่เกาะ ลังกาวี โดยยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดตัวเลขงบประมาณที่แน่นอนที่จะนำมาใช้ใน โครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ครั้งนี้ และคาดว่าการตัดสินใจอนุมัติจัดซื้อขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นหลังการเลือกตั้ง ทั่วไปที่คาดว่านายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค อาจประกาศในช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้ ขณะที่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมอาวุธระหว่างประเทศ เผยว่า การจัดซื้อฝูงบินขับไล่ของมาเลเซียอาจต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งในมุมมองของรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์แล้วถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องบินขับไล่ที่มาเลเซียมีอยู่ในความครอบ ครองขณะนี้ ไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องประเทศจากภัยคุกคามใหม่ๆ ได้ โดยเฉพาะข้อพิพาทกับจีนเกี่ยวกับพื้นที่หลายส่วนในทะเลจีนใต้ และภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ที่กำลังคุกคามความมั่น คงต่อรัฐซาบาห์บนเกาะบอร์เนียว |
||||
|
||||
|
||||
|
||||
|
||||
|
ที่มา:http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037904
เตรียมจะปลดระวาง MIG-29 แล้วอย่างแน่นอน เพราะได้ข่าวว่าลงกราวด์ไปหลายลำแล้ว
เอ่อแล้วไทยเราละครับ grippen ฝูงที่2 เมื่อไรจะซื้อซักทีอ่ะ 12+12 = 24 ลำ อย่างนี้ถึงจะน่าอุ่นใจหน่อย
มาเลย์จำเป็นต้องหาเครื่องบินมาแทนมิก29เพราะภัยคุกคามจากจีนเคาะประตูอยู่หน้าบ้าน ตอนนี้มีเงินเท่าไหร่มาเลย์ อินโด ฟิลิปปินส์ เวียตนามต้องระดมมาซื้ออาวุธก่อน
ประเทศไทยจะมีกริเพน E,Fแค่12เครื่องที่กองบิน7เท่านั้น ถ้ามีการจัดหากริเพนใหม่ก็คงอีก10ปีข้างหน้าเป็นอย่างเร็วแทน F16 ADF ซึ่งคงจะเป็นรุ่นNGที่นั่งเดี่ยว12เครื่อง แต่ต้องแย่งชิงกับเครื่องบินรบอีกหลายรุ่นเลยนะครับ
กองทัพอากาศยังไม่มีแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ตอนนี้ (ผมเห็นดีด้วย ของที่มียังใช้งานได้อยู่ช่วงนี้) มีแค่อัพเกรดF-16 กับ F-5เท่านั้น นาทีนี้ซื้อกริเพนมาเสียของเปล่ายังไม่ต้องรีบหรอก คือมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยกับสถานการณ์ที่การรบใหญ่จะเกิดที่ทะเลลึกห่างประเทศเราแล้ว ภัยที่น่ากลัวที่สุดของเราคือเรือดำน้ำเท่านั้น
ผมเสียดายแค่กริเพน12ลำของเราเป็นรุ่นฝึกหัด2ที่นั่ง4ลำเข้าไปแล้ว ถ้าได้ที่นั่งเดียวมาอีก4ลำก็คงดี รออีกซักพักไปสอยมือ2จากสวีเดนมาเสริมได้ไหมเนี่ย
ผมอยากให้ชุปชีวิตฝูง101ครับ แล้วใส่JAS-39 NGไป 18ลำ
แล้วเติมJAS-39 C 6ลำให้ฝูง701
เรือดำน้ำ 2ลำ
ปีนี้ขอแค่นี้พอ ค่าใช้จ่ายไม่ได้มากเกินปัญญาของรัฐบาลไทยเลย
ผมก็เห็นว่าจริงๆแล้วมาเลเซียต่างหากที่มีแสนยานุภาพทางทหารสู้ไทยไม่ได้ปัจจุบันนะ
ก็ไม่แน่นะครับถ้าหากรัฐบาลมาเลเซียอนุมัติซื้อขึ้นมาจริง แบบแผนของกองทัพอากาศไทย เดิมที่ทำเอาไว้ยังไงๆผมว่าก็ต้องเปลี่ยน เพราะขีดความสามารถทางอากาศของประเทศเพื่อนบ้านเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และถ้ามาเลย์จัดหนักมาเป็นเครื่อง EURO fighter,SU-30,F-18E/F **ถ้าแย่กว่านั้นเป็น Grippen NG ซึ่งเหนือกว่ารุ่น C/D ที่เรามีประจำการอยู่**
ลำพังGrippen JAS-39C/D แค่ 12 เครื่อง จะเอาไม่อยู่นะครับ และอีกอย่าง F-16ADF ในความคิดของผมมันล้าสมัยไปแล้วต่อให้ติด AIM-120 ได้ก็เถอะ
Airfoce malaysia : SU-30 = 18 ,F18C/D = 8 , (NEW PROJECT = 18) นั้นเท่ากับว่ามาเลย์จะมีเครื่องบินรบสมรรถนะสูงในประจำการทั้งหมด 18+8+18 = 44 ลำ ในขณะที่เรามีเครื่องสมรรถนะสูงแค่ 12 ลำ แล้วอย่างนี้เรายังจะนิ่งนอนใจได้อยู่อีกหรือ
(ต่อให้เราเชื่อว่าเสืออากาศของเราเหนือกว่าของมาเลย์ก็เหอะนะ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟมากนะครับ)
**ตามที่คุณ superboy บอก ถึงจะเป็นมือสองจากสวีเดน แต่ซื้อซัก 12 ลำก็ยังดีนะครับ ดีกว่าไม่ซื้ออะไรเลย
(ปล.จงอย่านิ่งนอนใจในสิ่งที่เราคิดว่าปลอดภัย)
ทอ.... ต้องทำอะไรสักอย่างเเล้ว....
ผมว่าการเครื่องบินรบสมัยนี้ใช่ฝีมือวัดกันน้อยกว่าเดิมมากครับ
bvr กันทั้งนั้น มีเครื่องดีกว่าก็โอกาศชนะเกิน 50 เปอร์แล้วครับ T-T
การซื้อเครื่องบินขับไล่ของมาเลเซียนั้นไม่ค่อยจะมีปัญหา แต่ปัญหาคือจำนวนนักบินที่จะหามาขับ เพราะคนมาเลเซียไม่ค่อยนิยมการเป็นทหารเท่าไหร่ แตกต่างจากบ้านเราที่ค่านิยมคนไทยนั้นการเป็นนายทหารคือสิ่งที่เด็กๆไฝ่ฝัน
ปล.ในที่นี้หมายถึงทหารอาชีพ ไม่ใช่ทหารเกณฑ์
โฮ่ๆๆ.......สนุกแฮะ มาเลย์ตอบโต้ทันทีเตรียมสั่งซื้อฝูงใหม่ แบบนี้คงไม่เช่าแล้วล่ะนะ ก็เล่นมาเหยียบถึงหน้าบ้านเลย
ทอ. เอาไงดีครับ จะนอนสบายใจว่าไม่จำเป็นที่จะเตรียมความพร้อมในระดับสูงมากอยู่อีกหรือครับ จะลดกำลังฝูงบินลงจากฝูงละ 18 เหลือฝูงละ 12 ทุกฝูง ........ เอาจริงอ่ะ เพื่อนบ้านยังจัดเต็ม 18 เครื่องทุกฝูง และบางประเทศก็เริ่มก่อตั้งฝูงบินขับไล่กันอีกครั้ง จะบอกว่าเราไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง คงยากที่จะตอบแบบนี้แล้วนะครับ เพราะจีนยกกำลังมากลางพื้นที่ของอาเซี่ยนเลย เพื่อนบ้านต้องจัดเต็มทุกรายการที่สนใจจัดหาแน่นอน แล้วเราจะยังรักษาสมดุลระหว่างเพื่อนบ้านกันต่อได้หรือ
จะลดกำลังลงในสภาวะที่ภัยคุกคามสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เหมือนฆ่าตัวตายเลยครับ
ก็ไม่รู้นะ ว่าคนอื่นๆจะมีความรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่านะ ว่าเรือฟรีเกตใหม่ของเรา หวยจะออกที่เรือจีน เพราะถ้าหากจีนส่งกองเรือมากดดันอาเซียนกันถึงขนาดนี้
และเพื่อเป็นการลดแรงเสียดทานจากกองเรือรบของจีน อาจมีแรงกดดันจากภายในบังคับให้ให้กองทัพเรือผูกมิตรกับประเทศจีน
น่าหวาดเสียวแทนกองทัพเรือจริงๆ......
โดยส่วนตัวผมคิดว่า ประเทศจีน คงจะเลือกเราเป้นฐานทัพเรืออยู่แล้วล่ะครับด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตที่แน่นแฟ้นทั้งด้านการเมืองและอีกหลายๆด้าน ถึงตอนนั้นผมคิดว่ากองทัพเราน่าจะมีของเล่นโหดๆเยอะแยะและแน่นอนรวมถึงเรือดำน้ำด้วย
ถ้ายิงกันนาทีนี้ มาเลย์มีเครื่องบินรบแบบBRV ได้แค่26ลำ ผมตัดมิก29ทิ้งเลยนะเพราะมั่นใจมากว่าไม่มีนักบินมาเลย์กล้าบินกับเครื่องนี้แล้ว
ส่วนของไทยจะมี F-16 ADF 14 + F-16 MLU 6 + JAS 6 = 26 ลำเท่ากันพอดี (F-16 ADF ผมผิดค้านได้นะครับ จำได้แค่ว่าตกไป2จาก16)
ปี2015 มาเลย์ปลดมิก29และคัดเลือกเครื่องบินใหม่ได้แต่กว่าจะผลิตครบ18ลำก้อีก3ปีโน่น ผมให้ไวสุดเลยนะ ตอนนั้นมาเลย์มีเครื่องบิน BRV = 26 ลำเท่าเดิม
ส่วนของไทยจะมี F-16 ADF 14 + F-16 MLU 18 + JAS 12 = 44 ลำ มากกว่ากัน 18ลำ
ปี2018 สมมุติว่ามาเลย์ได้ฝูงใหม่ครบจะมี44ลำเท่ากับเราพอดี แต่ถ้าเขาบุกเข้ามายิงกันกี่รอบเราก็ชนะครับ "ชนะแน่นอน" เพราะระบบเครือข่ายเรดาห์มุลค่าหลายหมื่นล้านของเราเสร็จแล้ว และเรามีเครื่องบิน AEW&C อีก2ลำช่วยเสริม มาเลย์ไม่มีตรงนี้นะครับโปรดอย่าลืม ปัจจุบันไม่้ได้ยิงกันดื้อๆตัวต่อตัวแล้ว แต่ถ้ากองทัพอากาศเราบุกบ้านเขาอันนี้ตัวใครตัวมันครับไม่กล้าทำนายผล
ผมถึงบอกว่าถ้านับมาเลย์เป็นคู่แข่งเราก็ยังสบายใจได้อยู่ ไว้รอF16 ADF หมดอายุแล้วค่อยจัดหนักอีกรอบก็ยังทันครับ กริเพนมือ2นั่นเป็นแค่ไอเท็มเสริมเท่านั้น
เครื่องใหม่ผมก็อยากได้นะครับแต่ทอ.เองยังต้องปัดกวาดหลังบ้านตัวเองอีกหลายเรื่อง ผมอยากให้มองเครื่องบินลำเลียงมาช่วยC130บ้างและยังเครื่องบินสงครามอิเลคทรอนิคอีก ไหนจะเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยชุดใหม่อีกหละ นักบินฝีมือดีกว่าจะฝึกได้ราคาแพงกว่าเครื่องบินรบนะครับ ต่อให้มาเลย์ซื้อราฟลมาก็ต้องฝึกหัดอีกเป็น10ปีถึงจะบินคล่อง
ขอแก้ครับเขียนผิดทำให้คนเข้าใจผิดว่าฝูง101ตายไปแล้ว
จริงแล้วยังบินL-39อยู่ยังไม่ตายแต่คนพิมพ์จำผิด
เปลี่ยนเป็นกองบิน21เปลี่ยนจากF-5เป็นJAS-39 NG 18ลำแทน
(กองบิน21ริเริ่มทำWebboardจนดังแต่ก่อน มาตอนนี้ยังต้องบินF-5อยู่น่าเสียดายอะครับ)
เห็นด้วยกับท่าน Superboy ตรงที่ว่าควรจัดหามือสองมาสักส่วนหนึ่ง และผมสนับสนุนว่าลองไปเทียบเคียง ทอ. อัฟริกาใต้ดูครับ เขามีเครื่องเหลือใช้ใหม่ถอดด้าม 12 เครื่อง น่าจะเหมามาหมดนะครับ อย่างน้อยราคาก็ถูกลงบ้าง และไปจัดหา AEW&C มาเพิ่มได้แล้ว ไม่ต้องรอให้ครบ 10 ปีเพื่อปลด ADF แล้วครับ
สถานะการณ์กดดันเพื่อนบ้านอาเซี่ยนขนาดนี้ ยังไงทั้งเวียตนามและมาเลย์เองก็สนใจการวางระบบเครือข่ายแบบเดียวกับที่เราวางแน่นอนครับ เพราะอีกไม่กี่ปีเรือบรรทุกบ.ขนาดใหญ่ของจีนก็จะมีความพร้อมรบสูงสุด แบบนี้ขีดความสามารถของทั้ง ทอ.มาเลย์และเวียตนามก็ไม่น่าจะสามารถทัดเทียมอากาศนาวีของจีนได้ เพราะทร.จีนจะมี AEW&C และเครื่องบินโจมตี เครื่องขับไล่ ระบบเครือข่ายอันทันสมัยสุดๆตามมากับกองเรือด้วย และทั้งสองประเทศเองก็มีโครงการเรื่องการจัดหาเครื่อง AEW&C AWAC ด้วยกันทั้งสองประเทศอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นการที่จีนบุกมาแบบโฉ่งฉ่างขนาดนี้ ยังไงทั้งสองประเทศก็ต้องเร่งวางระบบแบบเดียวกันกับเราอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ไม่อย่างนั้น ก็ต้องเป็นแบบคราวนี้ นั่งดูตาปริบๆไม่กล้าไปลองอของใดๆทั้งสิ้น แม้แต่จะไปถ่ายภาพ เพราะทางนั้น แรง..........
จะรอให้เพื่อนบ้านพร้อมก่อนในตอนนั้นคงไม่ไหวแล้วล่ะครับ ภัยคุกคามต่อภูมิภาคเพิ่มขึ้นมาในระดับที่สูงมากทีเดียวตอนนี้
ส่วนทร. ผมรอดูว่าไอ้ 2.2 ล้านล้านบาทนี่ มีโครงการขยายอู่ราชนาวีมาด้วยหรือเปล่า
ถ้าจัดงบมาให้ด้วย สงสัยจะเรือจีนจริงๆ และเพื่อเป็นการส่งสารบอกจีนว่า "ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนะ" แต่ทางโน้นจะสนใจหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่งนะครับ
สมควรอย่างยิ่งครับที่ ทร. ควรจะทบทวนเรื่อง Harrier 2+ กันทันทีหลังจากที่โครงการเรือดำน้ำผ่านความเห็นชอบ (ผมหวังสุดๆเลยตอนนี้ว่ายื่นเรื่องเรือดำน้ำในไม่กี่ปีข้างหน้าเราต้องได้อย่างเร่งด่วน เพราะสถานะการณ์ตรึงเครียดขึ้นมาปรี๊ดเลย)
และขีดความสามารถในด้านเครือข่ายของทร.ต้องพร้อมด้วยเหมือน เพราะคราวหน้าทร.จีนคงส่งเรือบรรทุกบ.ที่มีความพร้อมรบสูงสุดมาด้วย และจะเร่งให้มาเลย์ต้องทุ่มจัดหา Dokdo มาพร้อมกับเครื่องบินประจำเรือแบบด่วนเท่าที่จะทำได้แน่นอนครับ
จึงต้องพิจารณา AEW ประจำเรือด้วยครับ และระบบดาต้าลิ้งค์กับเครื่อง Harrier และกับหมู่เรือคุ้มกัน เพราะจุดที่จีนแสดงกำลังอยู่นอกขีดความสามารถของทอ.จะไปถึงได้ แต่เป็นจุดที่ควบคุมเส้นทางเดินเรือสำคัญทีเดียว ไม่มีกำลังทางอากาศคุ้มกัน ยากที่กองเรือไทยจะออกไปคุ้มกันเส้นทางเดินเรือนอกบ้านได้ครับ
คิดเผื่ออนาคตกันได้เลยครับ ทั้งทอ. และ ทร.
ไม่เห็นด้วยครับท่าจะจัดหา JAS-39 รุ่น c/d หรือ E/Fอีก เพราะเครื่องบินชั้นสกัดกั้น! เรามีมากพอแล้ว ทุกวันนี้ท่ารบกันจริงๆ(ขอให้ไม่มีจริงๆ) เครื่องบินพวกนี้คงไปได้ไม่ไกล(เวลาเกิดผิดแผนหรือจำเป็นต้องครองอากาศนานๆขึ้นมาจะทำไง) ต้องเข้าใจว่าเชื้อเพลิงมันน้อย! หรือ จะลุยทีต้องมีพวกไปด้วยเดี๋ยวไม่ได้ใช้สกิวหม...หมู่ (คิดเหรอว่าเขาจะมาเดี่ยวให้เราเล่นหม...หมู่) แถมต้องพ่วงเครื่องบินแจ้งเตือนภัยอีกเยอะ!ไปไหน สรุปก็เลยเป็นได้แค่เครื่องสกัดกั้นเฝ้าบ้านอย่างเดียว ยิ้งตั้งรับแต่ในบ้านคู่สงครามเราก็ยิ้มสิครับ! ประเทศเราเสียหายฝ่ายเดียวแน่นอน! ยิ้งเรื่องจะเอาไว้ป้องกันกองเรือนอกบ้าน...เสียเปรียบเห็นๆ
1. เรื่องอะไรแอฟฟริกาใต้เขาจะขายแจ๊สให้ล่ะครับ เป็นเรามีเครื่องบินเหลือใช้เก็บแช่แข็งไว้ได้ (ไม่ได้หมายถึงแช่จริงๆนะครับ)เราก็คงไม่ขายหรอก เพราะเขาก็ไม่ต้องเสียค่าบำรุงอะไรก็ดองไว้อยากใช้เมื่อไหร่ในอนาคตก็แกะมาใช้ไม่ต้องนั่งหาซื้อใหม่ให้วุ่นวาย
2. ผมว่างบกู้มา 2 ล้านล้านทหารคงไม่ได้อะไรเพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะไปเน้นที่โครงการทางเศรษฐกิจต่างๆเช่นรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือทวาย ระบบป้องกันน้ำท่วมฯลฯ
3. ระบบเครือข่ายเรดาร์นี่มูลค่า"หลายหมื่นล้าน"เลยเหรอครับ มีข้อมูลราคาด้วยเหรอครับ เท่าที่ผมรู้อยู่ในแพ็คเกจเดียวกับจ๊าส ซึ่งทั้งโครงการสามหมื่นเก้าพันล้านบาท ตัดค่าเครื่องบินค่าอาวุธเกรงว่าจะไม่ถึงหลายหมือ่นล้านนะครับ (ผมผิดแย้งได้นะครับ แค่สงสัย)
4. ดูถูกนักบินมาเลย์ไปหรือเปล่าครับที่ว่านักบินมาเลย์ต้องใช้เวลาฝึกบินถึงสิบปีกว่าจะคล่องหากซื้อราฟาลมา เราฝึกย๊าสไม่ถึงห้าปีก็ประกาศพร้อมรบแล้วครับ
5. ปี2015 เอฟ 16 mlu ของเราเสร็จแค่สิบสองลำเท่านั้นครับ
6. การวัดจำนวนเครื่องที่บีวีอาร์ได้แบบนี้ผมว่าไม่เวิร์คเสียทีเดียว เพราะถึงเอดีเอฟจะยิงอามรามได้ แต่ดูเรดาร์ของพี่แกก่อน จะไปแข่งอะไรกับเอฟสิบแปดมาเลย์ หรือซูสามสิบแกได้ ถ้าจำไม่ผิด เอฟสิบแปดของมาเลย์ติดเรดาร์รุ่นเดียวกับที่เอฟสิบหก เอ็มแอลยูเราติด
สรุปว่าความได้เปรียบเราก็ยังคงอยู่ที่การรบแบบเครือข่ายข้อมูล และความพร้อมรบที่ดูเหมือนจะมากกว่า แต่ลองคิดว่าเกิดมาเลย์ซื้อมั่งล่ะครับ งานเข้าเลย เพราะลำนึงก็ไม่ได้แพงอะไร เงินเขาก็มีพอบ้าระห่ำซื้อเครื่องบินไปเรื่อยๆ เกิดเปลี่ยนมาลองซื่อเอแว็คกับดาต้าลิงค์คงมีมึน
ปล. คิดว่าคุณ superboy น่าจะจำผิดนะครับ เพราะที่เรามีมันกริปเป้น c/d
เรื่องดาต้าลิงค์+เอแว็คมันไม่ได้เอาไว้รุมสกรัมนะครับ ตรงกันข้ามมันเอาไว้ใช้เวลาจำนวนน้อยกว่าด้วยซ้ำ (ไม่นับในกรณีที่อีกฝ่ายมาลำเดียว เพราะเราบวกเอแว็คเข้าไปก็เยอะกว่าแล้ว) โดยฝ่ายเราเครื่องบินขับไล่ก็แค่ปิดเรดาร์ก็สามารถปิดระยะเข้าโจมตีเครื่องบินอีกฝ่ายได้ก่อนทำให้ได้เปรียบมาก โดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันเปิดฉาก เพราะยังเข้าระยะล็อคเป้าเราไม่ได้ (เราปิดเรดาร์ เขาเปิดเรดาร์)
เพราะตัวเรดาร์ของเอแว็คไกลกว่าเครื่องบินรบมาก++ จึงใช้ในการครองอากาศได้เช่นกัน เพียงแต่เราต้องมีเครื่องเติมน้ำมันกลางอากาศด้วย
จะขาดจริงๆก็คือเรื่องการโจมตีทางลึก ซึ่งถ้ารอบบ้านเราก็ไม่เท่าไหร่ หาระเบิดร่อนดีๆก็ได้ หรือจะรอ rbf 15 mk 4 ไปเลย รับรองยิงทีเกือบถึงออสเตรเลีย (เว่อร์)
แต่ถ้าเอากันจริง ย๊าสของเราระยะบินไกลสุดติดถังน้ำมันแบบปล่อยทิ้ง 3200 กิโลเมตร สมมติบิน ไปกลับระยะโจมตีก็ได้เกินพันกิโลเมตรแน่นนอน (เอาระยะบินไกลสุดหารสอง ได้ พันหกร้อยกิโลเมตร แต่ผมลดลงมาอีกเพราะระยะบินไกลสุดบินที่ความเร็วต่ำ) จัดชุดไปแบบอิสราเอลก็ได้อยู่ จัดลำติดอาวุธโจมตีกับลำคุ้มกัน (ที่หมด ติดถังน้ำมันเต็มอัตรา)
มีแต่คนพูดถึงแต่เครื่องบินว่า สามารถยิง BVR ได้กี่ลำ ประมาณนั้น แล้วอาวุธแบบ BVR หละไม่มีใครพูดถึงเลย ถ้าจำไม่ผิดเรามี AIM 120 อยู่ 8 นัด และต้องฝากไว้กับสหรัฐ แล้วเรามีอยู่ 8 นัด มีเครื่องบิน 44 ลำจะมีประโยชน์อะไร ถ้าผมจำผิดอะไรผมขออภัยด้วยครับ
จำนวนนเครื่อบินมีการพูดถึงผมจึงนับให้ดู จำนวนหรือเวลาคาดเคลื่อนไปบ้างไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรช่างมันเถอะ
อย่าที่ผมบอกนะครับ ว่าเราชนะเขาแน่นอนถ้า"เขาบุกเข้ามา" เพราะว่า "ระบบเรดาห์เครือข่าย"และ "AEW&C" นี่ต่างหากคือไม้ตายที่ทำให้ F-16 ADF เราจะยิงซู30 ได้ รายละเอียดคงไม่ต้องพูดซ้ำมั้งครับ แต่เราจะปิดเรดาห์และยิงตามที่คอมมานเซนเตอร์สั่งแล้วก้หลบไป ถ้าระบบทุกอย่างของเราพร้อมรบ แต่ถ้าไม่ก็จบกัน การรบสมัยนี้เครื่องบินสำคัญมากแต่ทีมเวิร์กสำคัญกว่า นี่คือกรณีเขาบุกมาหาเราอย่างเดียวนะครับ
เออ ว่าแต่ผมพูดเรื่องกริเพนผิดตรงไหนเหรอ เรามีรุ่น E=8 F=4 รวม = 12 ถ้าซื้อฝุงใหม่คงจะมีแต่รุ่นNGที่นั่งเดี่ยวขายแล้วหละตอนนี้
อัมรามเรามีมากกว่า8ลูกแน่ครับ แต่เท่าไหร่และยังไงไม่ใช่เรื่องที่จะพูดตรงนี้ได้กันนะครับ
ผมไม่ได้ดูถูกนักบินมาเลย์นะครับ แต่เขาเป็นคนพูดเองผมแค่ฟังเฉยๆ คนที่เคยบินกับเครื่องที่กำลังจะปลดนั่นแหละตอนนี้เป็นนักบินเอกชนสายการบินโลว์คอตไปแล้ว
แฮริเออร์2+คือไม้ตายที่ผมอยากได้มากๆ มันเอาไปบุกใครไม่ได้หรอกบินไปยิงใครซึ่งๆหน้าก็คงยาก แต่มันทำให้เขาต้องคิดมากขึ้นถ้าจะบุกเรา
เพราะแฮริเออร์รุ่นนี้มีจุดเด่นที่ยิงอัมรามได้และบินขึ้นลงทางดิ่งได้ มันสามารถขึ้นบินจากตรงไหนของประเทศก็ได้ไม่จำเป้นต้องอยู่บนเรือหลวงจักกรีนฤเบศ เราจอดมันบนเรือขนน้ำมันหรือขนขึ้นรถไฟไปซุ่มตามชายแดนเอาไว้ยิงแอมรามใส่หลังF-18ที่บินข้ามชายแดนมาแล้วบินลงลานเตะตระกร้อแถวหาดใหญ่ก็ได้ แต่ก็คงยากมากถึงเป็นไปไม่ได้เลย
เอ่อ ที่คุณ superboy จำผิดคือเรามีกริเปน c/d ครับ e/f นั่นคือรุ่น ng
ส่วน f16 adf ไม่สามารถเชื่อมต่อดาต้าลิงค์กับเอแว็คที่เรามีได้ครับ
f 16 mlu ก็ไม่ได้ครับ อเมริกาไม่ให้ครับ
โครงการจัดซื้อเครื่องบิน GRIPEN 39 C/D
http://www.gripen.rtaf.mi.th/
กรุณาตรวจสอบข้อมูลด้วยครับ ถ้าจำผิดก็แก้ไขด้วยครับ คนอ่านเขาจะสับสน
ประเทศไทยไม่มีรุ่น E/F ครับ
กองทัพอากาศ ไทยเรา มีกำลังพร้อมรบสูง นะครับ แต่เพื่อนบ้านนี้ผมไม่ทราบว่าความพร้อมรบ มากน้อยเท่าใด แต่ในช่วง10ปีนี้ กองทัพอากาศ จะไม่จัดหาเครื่องบินขับไล่เพิ่มเลยนะครับ จะเน้น ไปทาง ฮ.ให้ครบตามจำนวนก่อน พอเสร็จแล้ว ก็จะไปต่อที่เครื่องบินลำเลียง แล้วเมื่อตอนนั้นF-16 ADF ก็จะปลดพอดี ก็ต้องมาแข่งกันอีกว่า เจ้าไหนจะได้ แต่จำนวน ถ้าสมมุติได้Jas-39 E มาละก็ ผมว่าจำนวนก็จะไปอยู่ที่12ลำเหมือนเดิม และก็ถ้าเราอยากจะบุกใครหรืออยากครองอากาศให้ได้นานนั้น Jas-39 C/D เราก็ทำได้นะครับ เพียงแค่เพิ่มเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ เข้าไป ผมไม่แนะนำให้ประเทศเราจัดหาเครื่องบิน2เครื่องยนต์นะครับ ค่าบำรุงรักษาบานโครด ผมว่าเราน่าจะเน้น ความพร้อมมากกว่าความบ้าพลังนะครับ บางทีเครื่องที่บ้าพลังก็ไปไวเหมือนกัน ส่วนพี่มาเลนั้น ผมว่าหวยอาจจะออกไปที่Rafale เพราะพี่แก เสนอโปรโมชั่นดีๆๆมาให้อีกตามเคยและก็อาจจะได้ประกอบที่มาเล แต่ที่ประเทศเราจะต้องรีบปรับปรุงมากที่สุดไม่ใช่ ทบ.หรือทอ.นะครับ 2เหล่านี้ค่อยๆ เป็นค่อยๆไป จะดีที่สุด แต่ทร.เนี้ย น่าเป็นห่วงมากที่สุดแล้ว
มาเลเซียไม่หน้าจะซื้อกริพเพนนะ
ถ้ามาเลเซียต้องการจะลดเรื่องความหลากหลายของอาวุธ มาเลเซีย ควรจะเลือกจากรัชเซียเหมือนเดิม ซึ่งผมเชื่อว่า มาเลเซียมีตัวเลือกในใจแล้ว แต่ต้องมีตัวเลือกเข้ามาเพื่อผลจากการเจรจา อย่างที่บอก มาเลเซีย ไม่มีปัญหาเรื่องจัดหาเคื่องบิน แต่ปัญหาคือการหานักบิน
คือ ผมสงสัย ดังนี้ครับ
1. เครื่องบิน หนึ่งฝูง มีกี่ลำกัน นับยังไงกันแน่ในตอนนี้ หรือปัจจุบันนี้ 18 หรือ 12 ลำ (การจัดรูปแบบการรบสมัยใหม่มีแนวโน้มลดลง)
2. จำได้ f-16 (ไม่ระบุแล้วกันว่าอัพเกรดหรือไม่อัพเกรด รุ่นไหน) เรามีจำนวนรวม 59 ลำ ตกไป 2 ลำ ภารกิจพิเศษ 1 ลำ
3. กริฟเฟน-39 ได้รับมอบแล้ว 6 ลำ รออีก 6 ลำ รวมจำนวน 12 ลำ
4. แอล-39 + อัลฟ่าเจ็ต (ไม่ทราบจำนวน นำมานับด้วยหรือไม่ ในกำลังรบ)
ในจำนวนเครื่องบินขับไล่นี้ ถ้าเราไม่รุกรานใครก่อน กับการป้องกันประเทศผมว่ามีจำนวนเพียงพอ ผูกมิตรไว้เถิดครับ จีนก็เป็นมิตรที่ดีต่อเรามาโดยตลอด ใครจะรบกับใคร เราเป็นกลางซะ จะได้ไม่เดือดร้อน ประคองเศรษฐกิจให้ดี เด๊ยวเงินซื้ออาวุธจะตามมาเอง แต่เห็นด้วยนะครับ ที่ ทอ.จะไปเน้นเฮลิคอปเตอร์ กู้ภัย ปฏิบัตการ ธุรการ ให้ครบตามจำนวนที่ขาดก่อน
RTADS ใช้เวลาหลายปีในการวางระบบตามแต่งบประมาณอำนวย แต่ก็ลงทุนไปได้เยอะพอดูแล้วครับ แต่ถ้าจะบอกว่าสมบูรณ์แล้ว ผมว่ายังนะ แต่ผมว่าน่าพอใจในระดับหนึ่งทีเดียว
และระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับ AEW&C ก็น่าจะใช้กับเครื่องจากสวีเดนเป็นหลักมากกว่าครับ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถเชื่อมต่อกับ F-16 ได้นะ เพียงแต่ไม่น่าจะสมบูรณ์แบบและให้ประสิทธิภาพสูงสุดแบบเครื่องสวีเดนกับเครื่องสวีเดน
ดังนั้นผมว่าฝูงสกัดกั้นใหม่ที่จะทดแทนทั้ง F-5T(ถ้าไม่มีการอับเกรด) และ ADF ก็น่าจะยังเป็น JAS-39 เช่นเดิมครับ และคงมีการเพิ่มเติมเครื่อง AEW&C ที่มีพื้นฐานจากอีริคอายเช่นเดิม เพราะได้วางระบบโครงข่ายเอาไว้แล้ว นั่นคือมีฝูงสกัดกั้น 3 ฝูง พร้อมโครงข่ายทั้งบนฟ้าและสถานีภาคพื้น ทั้งแบบอยู่กับที่และสามารถเคลื่อนย้ายได้ เชื่อมต่อกับศูนย์บัญชาการและควบคุมแบบเรียลไทม์
ดูดีมากครับโครงการนี้ เลยทำให้ทอ.คิดว่าจำนวนแค่ 12 เครื่องต่อฝูงน่าจะเพียงพอ และไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหนักๆบ้าพลังไปลุยนอกบ้าน เอาแค่กองหลังแน่นโคตรๆก็พอ ส่วนเอาไว้ขู่เพื่อนบ้านก็ F-35 อีก 2 ฝูง
แต่สถานะการณ์จากจีนคราวนี้ ผมรับประกันว่าในอีกไม่ถึง 20 ปี มันจะไม่พอ ทั้งจำนวนเครื่องต่อฝูงบิน ทั้งเครื่องที่ทำหน้าที่บุกเข้าไปตีหัวชาวบ้าน และเครื่องบินที่ทำหน้าที่ครองอากาศ เพราะจำนวนฝูงบินรบรอบๆบ้าน ระบบเครือข่าย เครื่องบินครองอากาศ และ strike fighter มันจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากทั้งจำนวนและคุณภาพด้วย
ดูระดับภัยคุกคามที่มีต่อภูมิภาคสิครับ มันเหมาะสมไหมที่ในอนาคตเราจะยังเดินหน้าแบบนี้ต่อไปแบบก้มหูก้มตาทำไป
และเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันกับที่มาเลย์โดน แต่เราเป็นฝ่ายโดนซะเอง แบบนั้นผมว่าบางที่มันอาจจะสายเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้ครับ อย่าได้มั่นใจนักเลยครับว่าเพื่อนบ้านจะตามไม่ทัน ระบบของเราล้ำสุดๆแล้ว เหตุผลเพราะว่าภัยคุกคามจากจีนที่มีต่อเพื่อนบ้านนั้นมีขีดความสามารถสูงกว่าเรามากแบบเทียบกันไม่ได้ ทั้งจำนวนและประสิทธิภาพ หรือแม้แต่โครงข่ายที่เรามั่นใจนักหนาว่าเจ๋ง เพราะจีนเจ๋งกว่าเราแน่นอน
ดังนั้นเพื่อนบ้านต้องคิดว่าจะพยายามตาม จีน ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้อย่างไร เพื่อถ่วงดุลอำนาจครับ คงไม่มีเพื่อนบ้านไหนที่คิดจะฝากชีวิตไว้กับอเมริกาที่นับวันมีแต่โรยราลงเรื่อยๆหรอกครับ
ดังนั้นไม่นานเราก็จะถูกตามทันและแซงหน้าแน่นอน เพราะเพื่อนบ้านเขาไม่ได้มองที่เราว่าน่ากลัวสุดๆ เขามองที่จีนครับ
และการที่มาเลย์จัดหาระบบอาวุธทางทะเลและทางอากาศมาจากหลายๆแหล่ง แม้แต่ในทอ.มาเลย์เอง เครื่องก็มาจากหลายค่ายจนน่าเวียนหัว ลองนึกถึงเมื่อมาเลย์จะต้องวางระบบเครือข่ายแบบเราบ้างสิครับ มันจะชวนสยองขนาดไหน
งานนี้ผมก็คิดเช่นกันว่าน่าจะเป็น SU-30 อีก แต่คงจะลดการเอาชิ้นส่วนสาระพัดที่มายัดไว้ในเครื่องมากเกินไปจนเครื่องไม่พร้อมรบไปซะงั้นอีก เพื่อวางโครงข่ายกับเครื่อง AEW&C หรือ AWAC ที่จะจัดหา
แต่ก็จะไปติดปัญหากับเครื่อง F-18 เครื่อง HAWK ที่เหลืออยู่ แถมยังติดปัญหาระบบเรด้าร์ภาคพื้นดินทั้งแบบอยู่กับที่และเคลื่อนที่ได้ที่วางไว้เดิมอีก
และยังกองเรือที่ใช้ระบบของยุโรปเป็นหลักอีก มันจะเชื่อมระบบทั้งหมดเข้ากันได้อย่างไร โคตรปวดหัวเลยครับ
ในขณะที่เรา เมื่อ ทอ. วางระบบโดยใช้ของสวีเดนเป็นพื้นฐาน และสามารถเชื่อมต่อกับของระบบของอเมริกาเดิมได้ แม้ไม่สมบูณณ์แบบ 100% ทร. ไทย และ ทบ. ก็เริ่มวางระบบโดยพิจารณาระบบของสวีเดนเป็นระบบแรกสุดก่อน เพื่อเชื่อมต่อกันได้ทั้งสามเหล่าทัพ
ผมยอมรับครับว่า ทั้งสามเหล่าทัพ คิดเรื่องระบบเครือข่ายได้หลักแหลมดีกว่าเพื่อนบ้านมากทีเดียวครับ แต่ไม่ใช่ว่าเพื่อนบ้านจะแก้ปัญหาไม่ได้และตามไม่ทัน
สำหรับมาเลย์ ผมว่าทางโน้นคงปวดหัวอยู่อีกนานทีเดียวครับ แต่กับเวียตนาม ผมว่าไม่ใช่ และน่ากลัวมากด้วย เพราะระบบของเขายืนพื้นอยู่แค่กับระบบของทางรัสเซียเป็นหลักทั้งสามเหล่าทัพ ดังนั้น ง่ายสำหรับเขาที่จะวางระบบเครือข่ายแบบเดียวกับเราครับ และไม่น่าจะใช้เวลามากมายอะไรด้วย
อย่ามั่นใจนักครับ
เรื่อง ความหลากหลายของแบบ เครื่องบินรบ ของ มาเลเซีย นั้น ผมว่า มาเลเซีย เขาคงไม่น่ากังวล เท่าไหร่ครับ...
กองทัพอากาศไทย มี เครื่องบินรบถึง 5 แบบ
คือ Jas-39, F-16A/B, F-5E/F, F-16ADF, F-16MLU ภาระการซ่อมบำรุง และรบบเอวิโอนิค การบินรักษาสภาพเครื่อง ม่ีกว่า 90 เครื่อง
ส่วน มาเลเซีย มี เครื่องบินรบ 3 แบบ
คือ F/A-18D, Su-30, Mig-29 ภาระการซ่อมบำรุง และระบบเอวิโอนิค การบินรักษาสภาพเครื่อง มีไม่เกิน 44 เครื่อง
มาเลเซีย มีแบบเครื่องบิน น้อยกว่า ไทย เกือบครึ่ง และ ภาระการซ่อมบำรุง และระบบเอวิโอนิค มีน้อยกว่า ไทย เกือบครึ่ง เช่นเดียวกัน...
สิ่งที่ มาเลเซีย ยังดูขาดอยู่ น่าจะเป้นการ ฝึกร่วมต่าง ๆ ซึ่งหมายถึง ประสบการณ์...
ความคาดหมาย ของ บ.รบ ฝูงใหม่ของ มาเลเซีย...ถ้า มาเลเซีย สามารถจัดหา AEW&C เป็น E-2D มาได้...ผมให้ คะแนน F/A-18E/F คงเข้าวิน...
แต่ถ้า สุดท้าย มาเลเซีย เลือกที่ Erieye ผมให้ คะแนน Rafale หรือ Jas-39 E/F
ส่วน Euro Fighter ให้มาเป็นอันดับสุดท้าย
แต่ท้ายสุด ผมให้คะแนน Jas-39 E/F เป็นอันดับหนึ่ง...เพราะเท่าที่ดูในขณะนี้ มาเลเซีย ยังขาด เครื่องบินรบ Interceptor อยู่...
ซึ่ง แพคเกจ ที่ Saab อาจจะจัดให้ มาเลเซีย คือ การให้เช่า Jas-39 C/D มือสอง จำนวนหนึ่ง จนกว่า รุ่น E/F จะส่งมอบได้...
และรวมกับ AEW Erieye บน Saab 2000 หรือ อาจจะกับ ERJ-145 แบบ ทอ.บราซิล...
ซึ่งดูแล้ว เครื่องบินรบ ของ Saab น่าจะตอบสามารถตอบสนอง กับ ภัยคุกคามจาก จีน ที่มาเลเซีย กำลังเผชิญ อยู่ ได้ทันเหตุการณ์กว่า...บ. รบแบบอื่น ๆ ยังต้องใช้เวลาในการผลิต และ การฝึกนักบินให้พร้อมรบ อีก 5-8 ปี
ส่วน Jas-39 มือสอง สามารถจะนำมาให้ มาเลเซีย มาใช้งานได้ก่อน ภายใน 2 ปี และถ้า Saab สามารถส่งมอบรุ่น E/F ได้ภายในปี 2019 - 2020 ก็จะทันกับ ความพร้อมรบของ เรือบรรทุกเครื่องบินจีน ที่คงมีขีดความสามารถเกือบสมบูรณ์ ซึ่ง Jas-39 ก็ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ F/A-18D ที่ มาเลเซีย มีใช้อยู่...
ปัจจุบัน J-15 ของ จีน ยังอยู่ระหว่างการทดสอบ ขึ้น-ลง บนเรือบรรทุกเครื่องบินอยู่...ซึ่ง จีน คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ในการฝึกนักบิน จำนวน 1 ฝูงบิน ให้มีความพร้อมรบสมบูรณ์ ซึ่งน่าจะใกล้เคียงในปี 2020 ที่ความสมบูรณ์ของ เรือบรรทุกเครื่องบินจีน คงมีความพร้อมรบ
เมื่อวานเพิ่งได้ดู R2B เหลือเชื่อว่า T/A-50 ทำได้ขนาดนั้น .... แต่ที่โพสต์นี่อยากสนับสนุนอีกเสียงที่ต้องการให้ไทยมี สไตรค์ ไฟท์เตอร์ สักฝูง ผมเชียร์ F-15 E (หรือ SE ถ้ามีตังค์)
อ่านในวารสาร Tango เมษายน 2556 มีบทความเขียนถึง F/A-50 ครับ
ในบทความเขียนบอกว่า ประสิทธิภาพของ F/A-50 เทียบได้กับ Gripen A/B นะครับ