หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


มาเลเซียประกาศซื้อเครื่องบินรบ 18 ลำเสริมเขี้ยวเล็บภายในปี 2015

โดยคุณ : Ronin เมื่อวันที่ : 04/04/2013 21:13:45

อาหมัด ซาฮิด ฮามิดี
       รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มาเลเซียเตรียมซื้อเครื่องบินขับไล่เพิ่มเติมอีก 18 ลำ ภายในปี 2015 เพื่อนำมาแทนที่ฝูงเครื่องบินขับไล่เดิมซึ่งมีเครื่อง “มิก-29” ของรัสเซียเป็นแกนหลัก และมีอายุการใช้งานยาวนานโดยล่าสุดรัฐบาลเสือเหลืองประกาศขึ้นบัญชี 5 บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ที่อยู่ในข่ายการพิจารณา
       
       คำแถลงของอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแดนเสือเหลือง ในวันพฤหัสบดี (28) ระบุว่า ตัวเลือกของมาเลเซียในการเสริมเขี้ยวเล็บครั้งนี้ประกอบไปด้วย เครื่องบินขับไล่ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จากสหราชอาณาจักร, เครื่องบินขับไล่ ซาบ เจเอเอส-39 กริเพนจากสวีเดน, เครื่องบินขับไล่ ดัสโซลต์ ราฟาลจากฝรั่งเศส, เอฟ/เอ 18 อี/เอฟ ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต จากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ซูคอย ซู-30 จากรัสเซีย
       
       รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียเปิดเผยข่าวการเสริมเขี้ยวลับทางอากาศดัง กล่าว ระหว่างเข้าร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้าด้านการเดินเรือและอวกาศนานาชาติที่เกาะ ลังกาวี โดยยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดตัวเลขงบประมาณที่แน่นอนที่จะนำมาใช้ใน โครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ครั้งนี้ และคาดว่าการตัดสินใจอนุมัติจัดซื้อขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นหลังการเลือกตั้ง ทั่วไปที่คาดว่านายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค อาจประกาศในช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้
       
       ขณะที่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมอาวุธระหว่างประเทศ เผยว่า การจัดซื้อฝูงบินขับไล่ของมาเลเซียอาจต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งในมุมมองของรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์แล้วถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องบินขับไล่ที่มาเลเซียมีอยู่ในความครอบ ครองขณะนี้ ไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องประเทศจากภัยคุกคามใหม่ๆ ได้ โดยเฉพาะข้อพิพาทกับจีนเกี่ยวกับพื้นที่หลายส่วนในทะเลจีนใต้ และภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ที่กำลังคุกคามความมั่น คงต่อรัฐซาบาห์บนเกาะบอร์เนียว

เอฟ/เอ 18 อี/เอฟ ซุปเปอร์ ฮอร์เน็ต จากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ
       

ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน
       

ดัสโซลต์ ราฟาลจากฝรั่งเศส
       

ซาบ เจเอเอส-39 กริเพนจากสวีเดน
       

 

ซูคอย ซู-30 จากรัสเซีย

 

ที่มา:http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037904





ความคิดเห็นที่ 1


เตรียมจะปลดระวาง MIG-29 แล้วอย่างแน่นอน เพราะได้ข่าวว่าลงกราวด์ไปหลายลำแล้ว

เอ่อแล้วไทยเราละครับ grippen ฝูงที่2 เมื่อไรจะซื้อซักทีอ่ะ 12+12 = 24 ลำ อย่างนี้ถึงจะน่าอุ่นใจหน่อย

 

 

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 29/03/2013 11:40:58


ความคิดเห็นที่ 2


มาเลย์จำเป็นต้องหาเครื่องบินมาแทนมิก29เพราะภัยคุกคามจากจีนเคาะประตูอยู่หน้าบ้าน ตอนนี้มีเงินเท่าไหร่มาเลย์ อินโด ฟิลิปปินส์ เวียตนามต้องระดมมาซื้ออาวุธก่อน

 

ประเทศไทยจะมีกริเพน E,Fแค่12เครื่องที่กองบิน7เท่านั้น ถ้ามีการจัดหากริเพนใหม่ก็คงอีก10ปีข้างหน้าเป็นอย่างเร็วแทน F16 ADF ซึ่งคงจะเป็นรุ่นNGที่นั่งเดี่ยว12เครื่อง แต่ต้องแย่งชิงกับเครื่องบินรบอีกหลายรุ่นเลยนะครับ

 

กองทัพอากาศยังไม่มีแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ตอนนี้ (ผมเห็นดีด้วย ของที่มียังใช้งานได้อยู่ช่วงนี้) มีแค่อัพเกรดF-16 กับ F-5เท่านั้น นาทีนี้ซื้อกริเพนมาเสียของเปล่ายังไม่ต้องรีบหรอก คือมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยกับสถานการณ์ที่การรบใหญ่จะเกิดที่ทะเลลึกห่างประเทศเราแล้ว ภัยที่น่ากลัวที่สุดของเราคือเรือดำน้ำเท่านั้น

 

ผมเสียดายแค่กริเพน12ลำของเราเป็นรุ่นฝึกหัด2ที่นั่ง4ลำเข้าไปแล้ว ถ้าได้ที่นั่งเดียวมาอีก4ลำก็คงดี รออีกซักพักไปสอยมือ2จากสวีเดนมาเสริมได้ไหมเนี่ย

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 29/03/2013 12:51:29


ความคิดเห็นที่ 3


ผมอยากให้ชุปชีวิตฝูง101ครับ แล้วใส่JAS-39 NGไป 18ลำ
แล้วเติมJAS-39 C 6ลำให้ฝูง701
เรือดำน้ำ 2ลำ
ปีนี้ขอแค่นี้พอ ค่าใช้จ่ายไม่ได้มากเกินปัญญาของรัฐบาลไทยเลย

ผมก็เห็นว่าจริงๆแล้วมาเลเซียต่างหากที่มีแสนยานุภาพทางทหารสู้ไทยไม่ได้ปัจจุบันนะ

โดยคุณ I see u เมื่อวันที่ 29/03/2013 20:31:03


ความคิดเห็นที่ 4


ก็ไม่แน่นะครับถ้าหากรัฐบาลมาเลเซียอนุมัติซื้อขึ้นมาจริง แบบแผนของกองทัพอากาศไทย เดิมที่ทำเอาไว้ยังไงๆผมว่าก็ต้องเปลี่ยน เพราะขีดความสามารถทางอากาศของประเทศเพื่อนบ้านเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และถ้ามาเลย์จัดหนักมาเป็นเครื่อง EURO fighter,SU-30,F-18E/F **ถ้าแย่กว่านั้นเป็น Grippen NG ซึ่งเหนือกว่ารุ่น C/D ที่เรามีประจำการอยู่**

ลำพังGrippen JAS-39C/D แค่ 12 เครื่อง จะเอาไม่อยู่นะครับ และอีกอย่าง F-16ADF ในความคิดของผมมันล้าสมัยไปแล้วต่อให้ติด AIM-120 ได้ก็เถอะ

Airfoce malaysia : SU-30 = 18 ,F18C/D = 8 , (NEW PROJECT = 18) นั้นเท่ากับว่ามาเลย์จะมีเครื่องบินรบสมรรถนะสูงในประจำการทั้งหมด 18+8+18 = 44 ลำ ในขณะที่เรามีเครื่องสมรรถนะสูงแค่ 12 ลำ แล้วอย่างนี้เรายังจะนิ่งนอนใจได้อยู่อีกหรือ

 (ต่อให้เราเชื่อว่าเสืออากาศของเราเหนือกว่าของมาเลย์ก็เหอะนะ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟมากนะครับ)

**ตามที่คุณ superboy บอก ถึงจะเป็นมือสองจากสวีเดน แต่ซื้อซัก 12 ลำก็ยังดีนะครับ ดีกว่าไม่ซื้ออะไรเลย

(ปล.จงอย่านิ่งนอนใจในสิ่งที่เราคิดว่าปลอดภัย)

                 

   

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 29/03/2013 13:32:46


ความคิดเห็นที่ 5


ทอ.... ต้องทำอะไรสักอย่างเเล้ว....

โดยคุณ arcobaleno เมื่อวันที่ 29/03/2013 15:10:08


ความคิดเห็นที่ 6


ผมว่าการเครื่องบินรบสมัยนี้ใช่ฝีมือวัดกันน้อยกว่าเดิมมากครับ

bvr กันทั้งนั้น มีเครื่องดีกว่าก็โอกาศชนะเกิน 50 เปอร์แล้วครับ T-T


โดยคุณ Axis เมื่อวันที่ 29/03/2013 15:12:14


ความคิดเห็นที่ 7


การซื้อเครื่องบินขับไล่ของมาเลเซียนั้นไม่ค่อยจะมีปัญหา แต่ปัญหาคือจำนวนนักบินที่จะหามาขับ เพราะคนมาเลเซียไม่ค่อยนิยมการเป็นทหารเท่าไหร่ แตกต่างจากบ้านเราที่ค่านิยมคนไทยนั้นการเป็นนายทหารคือสิ่งที่เด็กๆไฝ่ฝัน

ปล.ในที่นี้หมายถึงทหารอาชีพ ไม่ใช่ทหารเกณฑ์

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 29/03/2013 15:58:06


ความคิดเห็นที่ 8


     โฮ่ๆๆ.......สนุกแฮะ    มาเลย์ตอบโต้ทันทีเตรียมสั่งซื้อฝูงใหม่   แบบนี้คงไม่เช่าแล้วล่ะนะ   ก็เล่นมาเหยียบถึงหน้าบ้านเลย

 

ทอ. เอาไงดีครับ   จะนอนสบายใจว่าไม่จำเป็นที่จะเตรียมความพร้อมในระดับสูงมากอยู่อีกหรือครับ   จะลดกำลังฝูงบินลงจากฝูงละ 18 เหลือฝูงละ 12 ทุกฝูง  ........  เอาจริงอ่ะ   เพื่อนบ้านยังจัดเต็ม 18 เครื่องทุกฝูง    และบางประเทศก็เริ่มก่อตั้งฝูงบินขับไล่กันอีกครั้ง     จะบอกว่าเราไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง    คงยากที่จะตอบแบบนี้แล้วนะครับ    เพราะจีนยกกำลังมากลางพื้นที่ของอาเซี่ยนเลย    เพื่อนบ้านต้องจัดเต็มทุกรายการที่สนใจจัดหาแน่นอน   แล้วเราจะยังรักษาสมดุลระหว่างเพื่อนบ้านกันต่อได้หรือ

 

  จะลดกำลังลงในสภาวะที่ภัยคุกคามสูงขึ้นเป็นอย่างมาก    เหมือนฆ่าตัวตายเลยครับ  

  

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 29/03/2013 16:03:14


ความคิดเห็นที่ 9


ก็ไม่รู้นะ ว่าคนอื่นๆจะมีความรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่านะ ว่าเรือฟรีเกตใหม่ของเรา  หวยจะออกที่เรือจีน เพราะถ้าหากจีนส่งกองเรือมากดดันอาเซียนกันถึงขนาดนี้

และเพื่อเป็นการลดแรงเสียดทานจากกองเรือรบของจีน อาจมีแรงกดดันจากภายในบังคับให้ให้กองทัพเรือผูกมิตรกับประเทศจีน

น่าหวาดเสียวแทนกองทัพเรือจริงๆ......

โดยคุณ ObeOne เมื่อวันที่ 29/03/2013 17:10:02


ความคิดเห็นที่ 10


โดยส่วนตัวผมคิดว่า ประเทศจีน คงจะเลือกเราเป้นฐานทัพเรืออยู่แล้วล่ะครับด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตที่แน่นแฟ้นทั้งด้านการเมืองและอีกหลายๆด้าน ถึงตอนนั้นผมคิดว่ากองทัพเราน่าจะมีของเล่นโหดๆเยอะแยะและแน่นอนรวมถึงเรือดำน้ำด้วย

 

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 29/03/2013 17:32:07


ความคิดเห็นที่ 11


ถ้ายิงกันนาทีนี้ มาเลย์มีเครื่องบินรบแบบBRV ได้แค่26ลำ ผมตัดมิก29ทิ้งเลยนะเพราะมั่นใจมากว่าไม่มีนักบินมาเลย์กล้าบินกับเครื่องนี้แล้ว

 

ส่วนของไทยจะมี F-16 ADF 14 + F-16 MLU 6 + JAS 6 = 26 ลำเท่ากันพอดี (F-16 ADF ผมผิดค้านได้นะครับ จำได้แค่ว่าตกไป2จาก16)

 

ปี2015 มาเลย์ปลดมิก29และคัดเลือกเครื่องบินใหม่ได้แต่กว่าจะผลิตครบ18ลำก้อีก3ปีโน่น ผมให้ไวสุดเลยนะ ตอนนั้นมาเลย์มีเครื่องบิน BRV = 26 ลำเท่าเดิม

 

ส่วนของไทยจะมี F-16 ADF 14 + F-16 MLU 18 + JAS 12 = 44 ลำ มากกว่ากัน 18ลำ

 

ปี2018 สมมุติว่ามาเลย์ได้ฝูงใหม่ครบจะมี44ลำเท่ากับเราพอดี แต่ถ้าเขาบุกเข้ามายิงกันกี่รอบเราก็ชนะครับ  "ชนะแน่นอน" เพราะระบบเครือข่ายเรดาห์มุลค่าหลายหมื่นล้านของเราเสร็จแล้ว และเรามีเครื่องบิน AEW&C อีก2ลำช่วยเสริม มาเลย์ไม่มีตรงนี้นะครับโปรดอย่าลืม ปัจจุบันไม่้ได้ยิงกันดื้อๆตัวต่อตัวแล้ว  แต่ถ้ากองทัพอากาศเราบุกบ้านเขาอันนี้ตัวใครตัวมันครับไม่กล้าทำนายผล

 

ผมถึงบอกว่าถ้านับมาเลย์เป็นคู่แข่งเราก็ยังสบายใจได้อยู่ ไว้รอF16 ADF หมดอายุแล้วค่อยจัดหนักอีกรอบก็ยังทันครับ กริเพนมือ2นั่นเป็นแค่ไอเท็มเสริมเท่านั้น

 

เครื่องใหม่ผมก็อยากได้นะครับแต่ทอ.เองยังต้องปัดกวาดหลังบ้านตัวเองอีกหลายเรื่อง ผมอยากให้มองเครื่องบินลำเลียงมาช่วยC130บ้างและยังเครื่องบินสงครามอิเลคทรอนิคอีก ไหนจะเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยชุดใหม่อีกหละ นักบินฝีมือดีกว่าจะฝึกได้ราคาแพงกว่าเครื่องบินรบนะครับ ต่อให้มาเลย์ซื้อราฟลมาก็ต้องฝึกหัดอีกเป็น10ปีถึงจะบินคล่อง

 

 

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 29/03/2013 19:22:50


ความคิดเห็นที่ 12


ขอแก้ครับเขียนผิดทำให้คนเข้าใจผิดว่าฝูง101ตายไปแล้ว

จริงแล้วยังบินL-39อยู่ยังไม่ตายแต่คนพิมพ์จำผิด

 

เปลี่ยนเป็นกองบิน21เปลี่ยนจากF-5เป็นJAS-39 NG 18ลำแทน

(กองบิน21ริเริ่มทำWebboardจนดังแต่ก่อน มาตอนนี้ยังต้องบินF-5อยู่น่าเสียดายอะครับ)

โดยคุณ I see u เมื่อวันที่ 29/03/2013 21:10:15


ความคิดเห็นที่ 13


   เห็นด้วยกับท่าน Superboy ตรงที่ว่าควรจัดหามือสองมาสักส่วนหนึ่ง    และผมสนับสนุนว่าลองไปเทียบเคียง ทอ. อัฟริกาใต้ดูครับ   เขามีเครื่องเหลือใช้ใหม่ถอดด้าม 12 เครื่อง    น่าจะเหมามาหมดนะครับ   อย่างน้อยราคาก็ถูกลงบ้าง   และไปจัดหา AEW&C   มาเพิ่มได้แล้ว   ไม่ต้องรอให้ครบ 10 ปีเพื่อปลด ADF แล้วครับ

   สถานะการณ์กดดันเพื่อนบ้านอาเซี่ยนขนาดนี้   ยังไงทั้งเวียตนามและมาเลย์เองก็สนใจการวางระบบเครือข่ายแบบเดียวกับที่เราวางแน่นอนครับ   เพราะอีกไม่กี่ปีเรือบรรทุกบ.ขนาดใหญ่ของจีนก็จะมีความพร้อมรบสูงสุด   แบบนี้ขีดความสามารถของทั้ง ทอ.มาเลย์และเวียตนามก็ไม่น่าจะสามารถทัดเทียมอากาศนาวีของจีนได้     เพราะทร.จีนจะมี AEW&C และเครื่องบินโจมตี  เครื่องขับไล่  ระบบเครือข่ายอันทันสมัยสุดๆตามมากับกองเรือด้วย     และทั้งสองประเทศเองก็มีโครงการเรื่องการจัดหาเครื่อง  AEW&C  AWAC ด้วยกันทั้งสองประเทศอยู่ก่อนแล้ว   ดังนั้นการที่จีนบุกมาแบบโฉ่งฉ่างขนาดนี้    ยังไงทั้งสองประเทศก็ต้องเร่งวางระบบแบบเดียวกันกับเราอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ   ไม่อย่างนั้น  ก็ต้องเป็นแบบคราวนี้    นั่งดูตาปริบๆไม่กล้าไปลองอของใดๆทั้งสิ้น   แม้แต่จะไปถ่ายภาพ   เพราะทางนั้น  แรง..........

 

   จะรอให้เพื่อนบ้านพร้อมก่อนในตอนนั้นคงไม่ไหวแล้วล่ะครับ   ภัยคุกคามต่อภูมิภาคเพิ่มขึ้นมาในระดับที่สูงมากทีเดียวตอนนี้

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 29/03/2013 22:43:50


ความคิดเห็นที่ 14


   ส่วนทร.  ผมรอดูว่าไอ้ 2.2 ล้านล้านบาทนี่   มีโครงการขยายอู่ราชนาวีมาด้วยหรือเปล่า 

ถ้าจัดงบมาให้ด้วย   สงสัยจะเรือจีนจริงๆ    และเพื่อเป็นการส่งสารบอกจีนว่า  "ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนะ"    แต่ทางโน้นจะสนใจหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่งนะครับ    

 

   สมควรอย่างยิ่งครับที่ ทร. ควรจะทบทวนเรื่อง Harrier 2+ กันทันทีหลังจากที่โครงการเรือดำน้ำผ่านความเห็นชอบ (ผมหวังสุดๆเลยตอนนี้ว่ายื่นเรื่องเรือดำน้ำในไม่กี่ปีข้างหน้าเราต้องได้อย่างเร่งด่วน  เพราะสถานะการณ์ตรึงเครียดขึ้นมาปรี๊ดเลย) 

  และขีดความสามารถในด้านเครือข่ายของทร.ต้องพร้อมด้วยเหมือน   เพราะคราวหน้าทร.จีนคงส่งเรือบรรทุกบ.ที่มีความพร้อมรบสูงสุดมาด้วย    และจะเร่งให้มาเลย์ต้องทุ่มจัดหา Dokdo มาพร้อมกับเครื่องบินประจำเรือแบบด่วนเท่าที่จะทำได้แน่นอนครับ 

  จึงต้องพิจารณา AEW ประจำเรือด้วยครับ  และระบบดาต้าลิ้งค์กับเครื่อง Harrier และกับหมู่เรือคุ้มกัน   เพราะจุดที่จีนแสดงกำลังอยู่นอกขีดความสามารถของทอ.จะไปถึงได้    แต่เป็นจุดที่ควบคุมเส้นทางเดินเรือสำคัญทีเดียว    ไม่มีกำลังทางอากาศคุ้มกัน   ยากที่กองเรือไทยจะออกไปคุ้มกันเส้นทางเดินเรือนอกบ้านได้ครับ

  คิดเผื่ออนาคตกันได้เลยครับ  ทั้งทอ. และ ทร.


 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 29/03/2013 22:55:22


ความคิดเห็นที่ 15


ไม่เห็นด้วยครับท่าจะจัดหา JAS-39 รุ่น c/d หรือ E/Fอีก เพราะเครื่องบินชั้นสกัดกั้น! เรามีมากพอแล้ว ทุกวันนี้ท่ารบกันจริงๆ(ขอให้ไม่มีจริงๆ)  เครื่องบินพวกนี้คงไปได้ไม่ไกล(เวลาเกิดผิดแผนหรือจำเป็นต้องครองอากาศนานๆขึ้นมาจะทำไง) ต้องเข้าใจว่าเชื้อเพลิงมันน้อย! หรือ จะลุยทีต้องมีพวกไปด้วยเดี๋ยวไม่ได้ใช้สกิวหม...หมู่      (คิดเหรอว่าเขาจะมาเดี่ยวให้เราเล่นหม...หมู่) แถมต้องพ่วงเครื่องบินแจ้งเตือนภัยอีกเยอะ!ไปไหน สรุปก็เลยเป็นได้แค่เครื่องสกัดกั้นเฝ้าบ้านอย่างเดียว ยิ้งตั้งรับแต่ในบ้านคู่สงครามเราก็ยิ้มสิครับ! ประเทศเราเสียหายฝ่ายเดียวแน่นอน! ยิ้งเรื่องจะเอาไว้ป้องกันกองเรือนอกบ้าน...เสียเปรียบเห็นๆ

เห็นด้วยท่าจะจัดหาเพิ่ม แต่ต้องเป็บแบบ แบกของหนักไปได้เยอะๆโดยไม่ต้องกลับมาติดอาวุธใหม่แล้วไปอีกหลายๆรอบ แบบว่าไปครั้งเดียวรู้เรื่อง! หรือใครมาแหยม ก็ตามเอาคืนได้ยันบ้าน ไม่ใช่พอตามไปเอาคืนเขาแล้วเชื้อเพลิงหมดก่อนต้องกลับบ้าน.....

โดยคุณ yutthphichai เมื่อวันที่ 30/03/2013 00:43:51


ความคิดเห็นที่ 16


1. เรื่องอะไรแอฟฟริกาใต้เขาจะขายแจ๊สให้ล่ะครับ เป็นเรามีเครื่องบินเหลือใช้เก็บแช่แข็งไว้ได้ (ไม่ได้หมายถึงแช่จริงๆนะครับ)เราก็คงไม่ขายหรอก เพราะเขาก็ไม่ต้องเสียค่าบำรุงอะไรก็ดองไว้อยากใช้เมื่อไหร่ในอนาคตก็แกะมาใช้ไม่ต้องนั่งหาซื้อใหม่ให้วุ่นวาย

2. ผมว่างบกู้มา 2 ล้านล้านทหารคงไม่ได้อะไรเพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะไปเน้นที่โครงการทางเศรษฐกิจต่างๆเช่นรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือทวาย ระบบป้องกันน้ำท่วมฯลฯ

3. ระบบเครือข่ายเรดาร์นี่มูลค่า"หลายหมื่นล้าน"เลยเหรอครับ มีข้อมูลราคาด้วยเหรอครับ เท่าที่ผมรู้อยู่ในแพ็คเกจเดียวกับจ๊าส ซึ่งทั้งโครงการสามหมื่นเก้าพันล้านบาท ตัดค่าเครื่องบินค่าอาวุธเกรงว่าจะไม่ถึงหลายหมือ่นล้านนะครับ (ผมผิดแย้งได้นะครับ แค่สงสัย)

4. ดูถูกนักบินมาเลย์ไปหรือเปล่าครับที่ว่านักบินมาเลย์ต้องใช้เวลาฝึกบินถึงสิบปีกว่าจะคล่องหากซื้อราฟาลมา เราฝึกย๊าสไม่ถึงห้าปีก็ประกาศพร้อมรบแล้วครับ

5. ปี2015 เอฟ 16 mlu ของเราเสร็จแค่สิบสองลำเท่านั้นครับ

6. การวัดจำนวนเครื่องที่บีวีอาร์ได้แบบนี้ผมว่าไม่เวิร์คเสียทีเดียว เพราะถึงเอดีเอฟจะยิงอามรามได้ แต่ดูเรดาร์ของพี่แกก่อน จะไปแข่งอะไรกับเอฟสิบแปดมาเลย์ หรือซูสามสิบแกได้ ถ้าจำไม่ผิด เอฟสิบแปดของมาเลย์ติดเรดาร์รุ่นเดียวกับที่เอฟสิบหก เอ็มแอลยูเราติด 

สรุปว่าความได้เปรียบเราก็ยังคงอยู่ที่การรบแบบเครือข่ายข้อมูล และความพร้อมรบที่ดูเหมือนจะมากกว่า แต่ลองคิดว่าเกิดมาเลย์ซื้อมั่งล่ะครับ งานเข้าเลย เพราะลำนึงก็ไม่ได้แพงอะไร เงินเขาก็มีพอบ้าระห่ำซื้อเครื่องบินไปเรื่อยๆ เกิดเปลี่ยนมาลองซื่อเอแว็คกับดาต้าลิงค์คงมีมึน

 

ปล. คิดว่าคุณ superboy น่าจะจำผิดนะครับ เพราะที่เรามีมันกริปเป้น c/d 

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 30/03/2013 00:56:05


ความคิดเห็นที่ 17


เรื่องดาต้าลิงค์+เอแว็คมันไม่ได้เอาไว้รุมสกรัมนะครับ ตรงกันข้ามมันเอาไว้ใช้เวลาจำนวนน้อยกว่าด้วยซ้ำ (ไม่นับในกรณีที่อีกฝ่ายมาลำเดียว เพราะเราบวกเอแว็คเข้าไปก็เยอะกว่าแล้ว) โดยฝ่ายเราเครื่องบินขับไล่ก็แค่ปิดเรดาร์ก็สามารถปิดระยะเข้าโจมตีเครื่องบินอีกฝ่ายได้ก่อนทำให้ได้เปรียบมาก โดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันเปิดฉาก เพราะยังเข้าระยะล็อคเป้าเราไม่ได้ (เราปิดเรดาร์ เขาเปิดเรดาร์)

เพราะตัวเรดาร์ของเอแว็คไกลกว่าเครื่องบินรบมาก++ จึงใช้ในการครองอากาศได้เช่นกัน เพียงแต่เราต้องมีเครื่องเติมน้ำมันกลางอากาศด้วย 

จะขาดจริงๆก็คือเรื่องการโจมตีทางลึก ซึ่งถ้ารอบบ้านเราก็ไม่เท่าไหร่ หาระเบิดร่อนดีๆก็ได้ หรือจะรอ rbf 15 mk 4 ไปเลย รับรองยิงทีเกือบถึงออสเตรเลีย (เว่อร์)

แต่ถ้าเอากันจริง ย๊าสของเราระยะบินไกลสุดติดถังน้ำมันแบบปล่อยทิ้ง 3200 กิโลเมตร สมมติบิน ไปกลับระยะโจมตีก็ได้เกินพันกิโลเมตรแน่นนอน (เอาระยะบินไกลสุดหารสอง ได้ พันหกร้อยกิโลเมตร แต่ผมลดลงมาอีกเพราะระยะบินไกลสุดบินที่ความเร็วต่ำ) จัดชุดไปแบบอิสราเอลก็ได้อยู่ จัดลำติดอาวุธโจมตีกับลำคุ้มกัน (ที่หมด ติดถังน้ำมันเต็มอัตรา)

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 30/03/2013 01:14:14


ความคิดเห็นที่ 18


มีแต่คนพูดถึงแต่เครื่องบินว่า สามารถยิง BVR ได้กี่ลำ ประมาณนั้น แล้วอาวุธแบบ BVR หละไม่มีใครพูดถึงเลย ถ้าจำไม่ผิดเรามี AIM 120 อยู่ 8 นัด และต้องฝากไว้กับสหรัฐ แล้วเรามีอยู่ 8 นัด มีเครื่องบิน 44 ลำจะมีประโยชน์อะไร ถ้าผมจำผิดอะไรผมขออภัยด้วยครับ

โดยคุณ system_4 เมื่อวันที่ 30/03/2013 06:54:22


ความคิดเห็นที่ 19


จำนวนนเครื่อบินมีการพูดถึงผมจึงนับให้ดู จำนวนหรือเวลาคาดเคลื่อนไปบ้างไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรช่างมันเถอะ

 

อย่าที่ผมบอกนะครับ ว่าเราชนะเขาแน่นอนถ้า"เขาบุกเข้ามา" เพราะว่า "ระบบเรดาห์เครือข่าย"และ "AEW&C" นี่ต่างหากคือไม้ตายที่ทำให้ F-16 ADF เราจะยิงซู30 ได้ รายละเอียดคงไม่ต้องพูดซ้ำมั้งครับ แต่เราจะปิดเรดาห์และยิงตามที่คอมมานเซนเตอร์สั่งแล้วก้หลบไป ถ้าระบบทุกอย่างของเราพร้อมรบ แต่ถ้าไม่ก็จบกัน การรบสมัยนี้เครื่องบินสำคัญมากแต่ทีมเวิร์กสำคัญกว่า  นี่คือกรณีเขาบุกมาหาเราอย่างเดียวนะครับ

 

เออ ว่าแต่ผมพูดเรื่องกริเพนผิดตรงไหนเหรอ  เรามีรุ่น E=8 F=4  รวม = 12  ถ้าซื้อฝุงใหม่คงจะมีแต่รุ่นNGที่นั่งเดี่ยวขายแล้วหละตอนนี้

 

อัมรามเรามีมากกว่า8ลูกแน่ครับ แต่เท่าไหร่และยังไงไม่ใช่เรื่องที่จะพูดตรงนี้ได้กันนะครับ

 

ผมไม่ได้ดูถูกนักบินมาเลย์นะครับ แต่เขาเป็นคนพูดเองผมแค่ฟังเฉยๆ คนที่เคยบินกับเครื่องที่กำลังจะปลดนั่นแหละตอนนี้เป็นนักบินเอกชนสายการบินโลว์คอตไปแล้ว

 

แฮริเออร์2+คือไม้ตายที่ผมอยากได้มากๆ มันเอาไปบุกใครไม่ได้หรอกบินไปยิงใครซึ่งๆหน้าก็คงยาก แต่มันทำให้เขาต้องคิดมากขึ้นถ้าจะบุกเรา

 

เพราะแฮริเออร์รุ่นนี้มีจุดเด่นที่ยิงอัมรามได้และบินขึ้นลงทางดิ่งได้   มันสามารถขึ้นบินจากตรงไหนของประเทศก็ได้ไม่จำเป้นต้องอยู่บนเรือหลวงจักกรีนฤเบศ  เราจอดมันบนเรือขนน้ำมันหรือขนขึ้นรถไฟไปซุ่มตามชายแดนเอาไว้ยิงแอมรามใส่หลังF-18ที่บินข้ามชายแดนมาแล้วบินลงลานเตะตระกร้อแถวหาดใหญ่ก็ได้ แต่ก็คงยากมากถึงเป็นไปไม่ได้เลย

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 30/03/2013 11:16:48


ความคิดเห็นที่ 20


เอ่อ ที่คุณ superboy จำผิดคือเรามีกริเปน c/d ครับ e/f นั่นคือรุ่น ng 

ส่วน f16 adf ไม่สามารถเชื่อมต่อดาต้าลิงค์กับเอแว็คที่เรามีได้ครับ 

f 16 mlu ก็ไม่ได้ครับ อเมริกาไม่ให้ครับ

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 30/03/2013 12:11:57


ความคิดเห็นที่ 21


โครงการจัดซื้อเครื่องบิน GRIPEN 39 C/D

http://www.gripen.rtaf.mi.th/

กรุณาตรวจสอบข้อมูลด้วยครับ ถ้าจำผิดก็แก้ไขด้วยครับ คนอ่านเขาจะสับสน

ประเทศไทยไม่มีรุ่น E/F ครับ

 

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 30/03/2013 15:29:57


ความคิดเห็นที่ 22


กองทัพอากาศ ไทยเรา   มีกำลังพร้อมรบสูง นะครับ  แต่เพื่อนบ้านนี้ผมไม่ทราบว่าความพร้อมรบ มากน้อยเท่าใด   แต่ในช่วง10ปีนี้ กองทัพอากาศ จะไม่จัดหาเครื่องบินขับไล่เพิ่มเลยนะครับ   จะเน้น ไปทาง ฮ.ให้ครบตามจำนวนก่อน  พอเสร็จแล้ว ก็จะไปต่อที่เครื่องบินลำเลียง    แล้วเมื่อตอนนั้นF-16 ADF  ก็จะปลดพอดี  ก็ต้องมาแข่งกันอีกว่า เจ้าไหนจะได้  แต่จำนวน  ถ้าสมมุติได้Jas-39 E มาละก็ ผมว่าจำนวนก็จะไปอยู่ที่12ลำเหมือนเดิม  และก็ถ้าเราอยากจะบุกใครหรืออยากครองอากาศให้ได้นานนั้น Jas-39 C/D  เราก็ทำได้นะครับ เพียงแค่เพิ่มเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ เข้าไป  ผมไม่แนะนำให้ประเทศเราจัดหาเครื่องบิน2เครื่องยนต์นะครับ ค่าบำรุงรักษาบานโครด  ผมว่าเราน่าจะเน้น ความพร้อมมากกว่าความบ้าพลังนะครับ บางทีเครื่องที่บ้าพลังก็ไปไวเหมือนกัน   ส่วนพี่มาเลนั้น  ผมว่าหวยอาจจะออกไปที่Rafale  เพราะพี่แก เสนอโปรโมชั่นดีๆๆมาให้อีกตามเคยและก็อาจจะได้ประกอบที่มาเล    แต่ที่ประเทศเราจะต้องรีบปรับปรุงมากที่สุดไม่ใช่ ทบ.หรือทอ.นะครับ 2เหล่านี้ค่อยๆ เป็นค่อยๆไป จะดีที่สุด   แต่ทร.เนี้ย  น่าเป็นห่วงมากที่สุดแล้ว

โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 30/03/2013 15:58:37


ความคิดเห็นที่ 23


มาเลเซียไม่หน้าจะซื้อกริพเพนนะ

โดยคุณ Truss เมื่อวันที่ 30/03/2013 16:46:08


ความคิดเห็นที่ 24


ถ้ามาเลเซียต้องการจะลดเรื่องความหลากหลายของอาวุธ มาเลเซีย ควรจะเลือกจากรัชเซียเหมือนเดิม ซึ่งผมเชื่อว่า มาเลเซียมีตัวเลือกในใจแล้ว แต่ต้องมีตัวเลือกเข้ามาเพื่อผลจากการเจรจา อย่างที่บอก มาเลเซีย ไม่มีปัญหาเรื่องจัดหาเคื่องบิน แต่ปัญหาคือการหานักบิน

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 30/03/2013 17:10:27


ความคิดเห็นที่ 25


คือ ผมสงสัย ดังนี้ครับ

1. เครื่องบิน หนึ่งฝูง มีกี่ลำกัน นับยังไงกันแน่ในตอนนี้ หรือปัจจุบันนี้ 18 หรือ 12 ลำ (การจัดรูปแบบการรบสมัยใหม่มีแนวโน้มลดลง)

2. จำได้ f-16 (ไม่ระบุแล้วกันว่าอัพเกรดหรือไม่อัพเกรด รุ่นไหน) เรามีจำนวนรวม 59 ลำ ตกไป 2 ลำ ภารกิจพิเศษ 1 ลำ

3. กริฟเฟน-39 ได้รับมอบแล้ว 6 ลำ รออีก 6 ลำ รวมจำนวน 12 ลำ

4. แอล-39 + อัลฟ่าเจ็ต (ไม่ทราบจำนวน นำมานับด้วยหรือไม่ ในกำลังรบ)

ในจำนวนเครื่องบินขับไล่นี้ ถ้าเราไม่รุกรานใครก่อน กับการป้องกันประเทศผมว่ามีจำนวนเพียงพอ ผูกมิตรไว้เถิดครับ จีนก็เป็นมิตรที่ดีต่อเรามาโดยตลอด ใครจะรบกับใคร เราเป็นกลางซะ จะได้ไม่เดือดร้อน ประคองเศรษฐกิจให้ดี เด๊ยวเงินซื้ออาวุธจะตามมาเอง แต่เห็นด้วยนะครับ ที่ ทอ.จะไปเน้นเฮลิคอปเตอร์ กู้ภัย ปฏิบัตการ ธุรการ ให้ครบตามจำนวนที่ขาดก่อน    

โดยคุณ tommy เมื่อวันที่ 02/04/2013 11:14:05


ความคิดเห็นที่ 26


    RTADS  ใช้เวลาหลายปีในการวางระบบตามแต่งบประมาณอำนวย   แต่ก็ลงทุนไปได้เยอะพอดูแล้วครับ   แต่ถ้าจะบอกว่าสมบูรณ์แล้ว  ผมว่ายังนะ  แต่ผมว่าน่าพอใจในระดับหนึ่งทีเดียว

    และระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับ AEW&C ก็น่าจะใช้กับเครื่องจากสวีเดนเป็นหลักมากกว่าครับ   แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถเชื่อมต่อกับ F-16 ได้นะ   เพียงแต่ไม่น่าจะสมบูรณ์แบบและให้ประสิทธิภาพสูงสุดแบบเครื่องสวีเดนกับเครื่องสวีเดน

   ดังนั้นผมว่าฝูงสกัดกั้นใหม่ที่จะทดแทนทั้ง F-5T(ถ้าไม่มีการอับเกรด)  และ ADF  ก็น่าจะยังเป็น JAS-39 เช่นเดิมครับ    และคงมีการเพิ่มเติมเครื่อง AEW&C ที่มีพื้นฐานจากอีริคอายเช่นเดิม   เพราะได้วางระบบโครงข่ายเอาไว้แล้ว   นั่นคือมีฝูงสกัดกั้น 3 ฝูง    พร้อมโครงข่ายทั้งบนฟ้าและสถานีภาคพื้น  ทั้งแบบอยู่กับที่และสามารถเคลื่อนย้ายได้   เชื่อมต่อกับศูนย์บัญชาการและควบคุมแบบเรียลไทม์

   ดูดีมากครับโครงการนี้   เลยทำให้ทอ.คิดว่าจำนวนแค่ 12 เครื่องต่อฝูงน่าจะเพียงพอ   และไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหนักๆบ้าพลังไปลุยนอกบ้าน  เอาแค่กองหลังแน่นโคตรๆก็พอ   ส่วนเอาไว้ขู่เพื่อนบ้านก็ F-35 อีก 2 ฝูง

 

  แต่สถานะการณ์จากจีนคราวนี้   ผมรับประกันว่าในอีกไม่ถึง 20 ปี มันจะไม่พอ  ทั้งจำนวนเครื่องต่อฝูงบิน   ทั้งเครื่องที่ทำหน้าที่บุกเข้าไปตีหัวชาวบ้าน   และเครื่องบินที่ทำหน้าที่ครองอากาศ   เพราะจำนวนฝูงบินรบรอบๆบ้าน  ระบบเครือข่าย   เครื่องบินครองอากาศ  และ strike fighter มันจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากทั้งจำนวนและคุณภาพด้วย

 ดูระดับภัยคุกคามที่มีต่อภูมิภาคสิครับ   มันเหมาะสมไหมที่ในอนาคตเราจะยังเดินหน้าแบบนี้ต่อไปแบบก้มหูก้มตาทำไป

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 30/03/2013 23:52:17


ความคิดเห็นที่ 27


   และเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันกับที่มาเลย์โดน  แต่เราเป็นฝ่ายโดนซะเอง  แบบนั้นผมว่าบางที่มันอาจจะสายเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้ครับ    อย่าได้มั่นใจนักเลยครับว่าเพื่อนบ้านจะตามไม่ทัน   ระบบของเราล้ำสุดๆแล้ว    เหตุผลเพราะว่าภัยคุกคามจากจีนที่มีต่อเพื่อนบ้านนั้นมีขีดความสามารถสูงกว่าเรามากแบบเทียบกันไม่ได้  ทั้งจำนวนและประสิทธิภาพ  หรือแม้แต่โครงข่ายที่เรามั่นใจนักหนาว่าเจ๋ง    เพราะจีนเจ๋งกว่าเราแน่นอน

   ดังนั้นเพื่อนบ้านต้องคิดว่าจะพยายามตาม  จีน   ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้อย่างไร  เพื่อถ่วงดุลอำนาจครับ  คงไม่มีเพื่อนบ้านไหนที่คิดจะฝากชีวิตไว้กับอเมริกาที่นับวันมีแต่โรยราลงเรื่อยๆหรอกครับ 

  ดังนั้นไม่นานเราก็จะถูกตามทันและแซงหน้าแน่นอน   เพราะเพื่อนบ้านเขาไม่ได้มองที่เราว่าน่ากลัวสุดๆ   เขามองที่จีนครับ


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/03/2013 00:05:07


ความคิดเห็นที่ 28


   และการที่มาเลย์จัดหาระบบอาวุธทางทะเลและทางอากาศมาจากหลายๆแหล่ง  แม้แต่ในทอ.มาเลย์เอง  เครื่องก็มาจากหลายค่ายจนน่าเวียนหัว    ลองนึกถึงเมื่อมาเลย์จะต้องวางระบบเครือข่ายแบบเราบ้างสิครับ  มันจะชวนสยองขนาดไหน

  งานนี้ผมก็คิดเช่นกันว่าน่าจะเป็น SU-30 อีก  แต่คงจะลดการเอาชิ้นส่วนสาระพัดที่มายัดไว้ในเครื่องมากเกินไปจนเครื่องไม่พร้อมรบไปซะงั้นอีก   เพื่อวางโครงข่ายกับเครื่อง AEW&C หรือ AWAC ที่จะจัดหา

  แต่ก็จะไปติดปัญหากับเครื่อง F-18  เครื่อง HAWK  ที่เหลืออยู่    แถมยังติดปัญหาระบบเรด้าร์ภาคพื้นดินทั้งแบบอยู่กับที่และเคลื่อนที่ได้ที่วางไว้เดิมอีก  

   และยังกองเรือที่ใช้ระบบของยุโรปเป็นหลักอีก   มันจะเชื่อมระบบทั้งหมดเข้ากันได้อย่างไร    โคตรปวดหัวเลยครับ

 

ในขณะที่เรา  เมื่อ ทอ. วางระบบโดยใช้ของสวีเดนเป็นพื้นฐาน  และสามารถเชื่อมต่อกับของระบบของอเมริกาเดิมได้  แม้ไม่สมบูณณ์แบบ 100%    ทร. ไทย และ ทบ. ก็เริ่มวางระบบโดยพิจารณาระบบของสวีเดนเป็นระบบแรกสุดก่อน  เพื่อเชื่อมต่อกันได้ทั้งสามเหล่าทัพ

  ผมยอมรับครับว่า  ทั้งสามเหล่าทัพ คิดเรื่องระบบเครือข่ายได้หลักแหลมดีกว่าเพื่อนบ้านมากทีเดียวครับ    แต่ไม่ใช่ว่าเพื่อนบ้านจะแก้ปัญหาไม่ได้และตามไม่ทัน 

 สำหรับมาเลย์  ผมว่าทางโน้นคงปวดหัวอยู่อีกนานทีเดียวครับ     แต่กับเวียตนาม   ผมว่าไม่ใช่  และน่ากลัวมากด้วย   เพราะระบบของเขายืนพื้นอยู่แค่กับระบบของทางรัสเซียเป็นหลักทั้งสามเหล่าทัพ   ดังนั้น  ง่ายสำหรับเขาที่จะวางระบบเครือข่ายแบบเดียวกับเราครับ  และไม่น่าจะใช้เวลามากมายอะไรด้วย  

  อย่ามั่นใจนักครับ 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/03/2013 00:29:46


ความคิดเห็นที่ 29


เรื่อง ความหลากหลายของแบบ เครื่องบินรบ ของ มาเลเซีย นั้น ผมว่า มาเลเซีย เขาคงไม่น่ากังวล เท่าไหร่ครับ...

กองทัพอากาศไทย มี เครื่องบินรบถึง 5 แบบ

คือ Jas-39, F-16A/B, F-5E/F, F-16ADF, F-16MLU ภาระการซ่อมบำรุง และรบบเอวิโอนิค การบินรักษาสภาพเครื่อง ม่ีกว่า 90 เครื่อง

ส่วน มาเลเซีย มี เครื่องบินรบ 3 แบบ

คือ F/A-18D, Su-30, Mig-29 ภาระการซ่อมบำรุง และระบบเอวิโอนิค การบินรักษาสภาพเครื่อง มีไม่เกิน 44 เครื่อง

มาเลเซีย มีแบบเครื่องบิน น้อยกว่า ไทย เกือบครึ่ง และ ภาระการซ่อมบำรุง และระบบเอวิโอนิค มีน้อยกว่า ไทย เกือบครึ่ง เช่นเดียวกัน...

สิ่งที่ มาเลเซีย ยังดูขาดอยู่ น่าจะเป้นการ ฝึกร่วมต่าง ๆ ซึ่งหมายถึง ประสบการณ์...

ความคาดหมาย ของ บ.รบ ฝูงใหม่ของ มาเลเซีย...ถ้า มาเลเซีย สามารถจัดหา AEW&C เป็น E-2D มาได้...ผมให้ คะแนน F/A-18E/F คงเข้าวิน...

แต่ถ้า สุดท้าย มาเลเซีย เลือกที่ Erieye ผมให้ คะแนน Rafale หรือ Jas-39 E/F

ส่วน Euro Fighter ให้มาเป็นอันดับสุดท้าย

แต่ท้ายสุด ผมให้คะแนน Jas-39 E/F เป็นอันดับหนึ่ง...เพราะเท่าที่ดูในขณะนี้ มาเลเซีย ยังขาด เครื่องบินรบ Interceptor อยู่...

 

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 31/03/2013 07:53:19


ความคิดเห็นที่ 30


ซึ่ง แพคเกจ ที่ Saab อาจจะจัดให้ มาเลเซีย คือ การให้เช่า Jas-39 C/D มือสอง จำนวนหนึ่ง จนกว่า รุ่น E/F จะส่งมอบได้...

และรวมกับ AEW Erieye บน Saab 2000  หรือ อาจจะกับ ERJ-145 แบบ ทอ.บราซิล...

ซึ่งดูแล้ว เครื่องบินรบ ของ Saab น่าจะตอบสามารถตอบสนอง กับ ภัยคุกคามจาก จีน ที่มาเลเซีย กำลังเผชิญ อยู่ ได้ทันเหตุการณ์กว่า...บ. รบแบบอื่น ๆ ยังต้องใช้เวลาในการผลิต และ การฝึกนักบินให้พร้อมรบ อีก 5-8 ปี

ส่วน Jas-39 มือสอง สามารถจะนำมาให้ มาเลเซีย มาใช้งานได้ก่อน ภายใน 2 ปี และถ้า Saab สามารถส่งมอบรุ่น E/F ได้ภายในปี 2019 - 2020 ก็จะทันกับ ความพร้อมรบของ เรือบรรทุกเครื่องบินจีน ที่คงมีขีดความสามารถเกือบสมบูรณ์ ซึ่ง Jas-39 ก็ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ F/A-18D ที่ มาเลเซีย มีใช้อยู่...

ปัจจุบัน J-15 ของ จีน ยังอยู่ระหว่างการทดสอบ ขึ้น-ลง บนเรือบรรทุกเครื่องบินอยู่...ซึ่ง จีน คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ในการฝึกนักบิน จำนวน 1 ฝูงบิน ให้มีความพร้อมรบสมบูรณ์ ซึ่งน่าจะใกล้เคียงในปี 2020 ที่ความสมบูรณ์ของ เรือบรรทุกเครื่องบินจีน คงมีความพร้อมรบ

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 31/03/2013 08:05:47


ความคิดเห็นที่ 31


เมื่อวานเพิ่งได้ดู  R2B เหลือเชื่อว่า T/A-50 ทำได้ขนาดนั้น ....  แต่ที่โพสต์นี่อยากสนับสนุนอีกเสียงที่ต้องการให้ไทยมี สไตรค์ ไฟท์เตอร์ สักฝูง  ผมเชียร์ F-15 E (หรือ SE ถ้ามีตังค์)

โดยคุณ nui-714 เมื่อวันที่ 31/03/2013 20:30:24


ความคิดเห็นที่ 32


อ่านในวารสาร Tango เมษายน 2556 มีบทความเขียนถึง F/A-50 ครับ

ในบทความเขียนบอกว่า ประสิทธิภาพของ F/A-50 เทียบได้กับ Gripen A/B นะครับ

โดยคุณ Ricebeanoil เมื่อวันที่ 31/03/2013 21:56:56


ความคิดเห็นที่ 33


เห็นด้วยกับป๋าjuldas ครับถ้ามาเลต้องการให้การพร้อมรบทดแทนมิก ๒๙ ที่จะปลดไปโดยเร็วที่สุด คือเช่า+ซื้อ กริพเพน-๓๙ ซี ดี มาใช้ก่อน รอจนการสายผลิด กริพเพน อี เอฟ เสร็จก็จะใช้เวลาไม่มากในการเปลี่ยนแบบครับ นักบินของเราเวลาฝึกที่สวีเดน จาก กริพเพน บีมาก่อน แล้วจึงมาเป็น ซี ดี ครับ เอเอ็มไอ ๑๒๐ เราซื้อมาครั้งเรก ๘ นัด จริงแต่ตอนนี้มันกี่ปีแล้ว ท.อ. ไม่บอกในรายละเอียดครับว่า ปีนั้นปีนี้ ซื้อมาเท่าไหร อย่าง ขีปนาวุธ ไอริส-ที ซื้อมาเมื่อไหร่ ซื่อมากี่นัด ไม่รู้ครับแต่ก็เห็นมีกันแล้ว บางอย่างก็เป็นความลับของหน่วยงานที่ไม่สามารถบอกได้ครับ
โดยคุณ ThaiPc53 เมื่อวันที่ 04/04/2013 21:13:45