จีนส่งทัพยกพลขึ้นบก สะเทินน้ำสะเทินบก เฉียด จมูกเสือเหลือง
|
||||
|
||||
กองเรือ 4 ลำ นำขบวนโดยเรือยกพลขึ้นบก จิ่งกังซาน ได้แล่นเข้ามายังแนวหาดเจมส์ (James Shoal) ประชิดสุดเขตแดนในบริเวณเส้นประเก้าเส้น (nine-dash line) ซึ่งเป็นแผนที่ที่จีนลากระบุเขตแดนทะเลจีนใต้ของตน บริเวณที่ขบวนเรือจิ่งกังซานแล่นเข้ามานี้ อยู่ห่างจากมาเลเซีย เพียง 80 กิโลเมตร ห่างจากบรูไนไม่ถึง 200 กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ ถึง1,800 กิโลเมตร สำนักข่าวซินหวารายงานเมื่อวันอังคาร(26 มี.ค.) ว่าเจ้าหน้าที่นาวีและลูกเรือได้มารวมตัวกันที่ดาดฟ้าเรือจิ่งกังซาน เพื่อประกาศคำมั่นปกป้องทะเลจีนใต้ รักษาอธิปไตยของชาติ และก้าวสู่ฝันสร้างชาติจีนที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ เรือจื่งกังซานเป็น 1 ในเรือยกพลขึ้นบกขนาด 200 เมตร ที่นาวีจีนมีอยู่ 3 ลำ “นับเป็นการส่งสารที่แรงอย่างน่าประหลาดใจในการส่งปฏิบัติการดัง กล่าว ประกาศปฏิบัติการใหม่ในการลาดตระเวนในอาณาบริเวณ” Gary Li นักวิเคราะห์อาวุโส ประจำ IHS Fairplay ในลอนดอน ว่า “มันมิใช่เพียงแค่เรือไม่กี่ลำที่แล่นอยู่ตรงนั้นตรงนี้ เรือยกพลขึ้นบก บรรทุกทั้งเจ้าหน้าที่นาวี เรือสะเทินน้ำสะเทินบก (hovercraft) หนุนด้วยเรือคุ้มกันที่ดีที่สุดของฝูงเรือรบจีน” Gary Li กล่าวพร้อมชี้ว่าจะมีเครื่องบินขับไล่ร่วมปฏิบัติการนี้ด้วย “เราไม่เคยเห็นความเคลื่อนไหวเช่นนี้ในน่านน้ำทางใต้ที่ไกลขนาดนั้น ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ...เป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้ว่ามันเป็นเพียงเหตุ บังเอิญหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ได้สะท้อนว่า (ประธานาธบดี) สี จิ้นผิง ต้องการให้มีการฝึกซ้อมที่เป็นจริงเป็นจังมากขึ้น” วงในต่างมองว่าเรือยกพลขึ้นบก เป็นเรือชั้นเยี่ยมที่สุดของกองทัพจีน และเป็นยุทธศาสตร์ที่ตัดสินชัยชนะในการบุกไต้หวัน บรรดาปฏิปักษ์ในอาณาบริเวณต่างจับตามองการเข้าประจำการของเรือยกพลขึ้นบก สำหรับเรือยกพลขึ้นบกลำแรกของจีน คือ เรือคุนหลุนซาน ถูกส่งไปใช้ในปฏิบัติการปราบปรามโจรสลัดย่านจงอยแอฟริกา (Horn of Africa) ภาพต่างๆที่ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์แผ่นดินใหญ่ ได้แก่ ภาพกองกำลังบุกขึ้นชายหาด โดยมีกองหนุน คือ เรือสะเทินน้ำสะเทินบก และเฮลิคอปเตอร์ ที่บินขึ้นจากเรือจิ่งกังซาน ภาพเหล่านี้เป็นภาพการฝึกซ้อมเป็นเวลาหลายวันตามจุดต่างๆรอบหมู่เกาะสแปรตลี ย์ ที่จีนอ้างอธิปไตย ทั้งนี้กองทัพจีนได้ยึดชายหาดและแนวโขดหินสแปรตลีย์ 6 แห่ง มาจากเวียดนาม ในสงครามทางทะเลเดือนมี.ค. เมื่อ 25 ปีที่แล้ว |
||||
ข่าวการปรากฏตัวของจิ่งกังซานนอกฝั่งเจมส์ โชล เมื่อคืนก่อน ทำให้ผู้นำทหารในอาณาบรืเวณ ขมวดคิ้วกัน “มันเป็นการประกาศอธิปไตย “กองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบก” ทุกคนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้” ทูตทหารผู้หนึ่ง กล่าว “สแปรตลีย์นั่น เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การมาโผล่มาที่เจมส์ โชล ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกแล้ว...จีนกำลังโชว์ว่าเขาไม่กลัวที่จะส่งสารแก่ภูมิภาค และในปีที่บรูไนเป็นประธานอาเซียน การเคลื่อนไหวแบบนั้นนับเป็นสัญลักษณ์ที่แรงมาก” ทั้งนี้ กองทัพพีแอลเอ ได้ส่งกองกำลังประจำการในทะเลจีนใต้เมื่อปี 2552 และ2553 สร้างความวิตกกลัวไปทั่วภูมิภาค และความวิตกกลัวนี้ก็ได้กระตุกหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดันข้อพิพาทดินแดนทะเลจีนใต้ที่คุกรุ่นมานาน กลับมาเป็นวาระของภูมิภาค พร้อมๆกับขยับไปใกล้ชิดกับสหรัฐฯ เชื่อกันว่าหมู่เกาะสแปรตลีย์ อุดมด้วยทรัพยากรแร่ แหล่งแก็สธรรมชาติ และน้ำมัน มีคู่กรณีที่อ้างกรรมสิทธิเหนือหมู่เกาะฯ ซึ่งมีลูกเกาะราว 45 เกาะ ทั้งได้ส่งกองกำลังขนาดเล็กไปประจำการบนเกาะต่างๆ ได้แก่ บรูไน จีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียด |
ถ้า มาเลเซีย จะ บลัฟ ให้ดูน่ากลัว สักหน่อย...
น่าจะทำแบบ เสนอข่าว ว่า
"มาเลเซีย ก็สังเกตุการณ์ การฝึกข้างต้น อยู่ โดย เสนอภาพถ่าย การฝึก ที่ถ่ายมาจาก เรือดำน้ำของ มาเลเซีย เอง แสดงต่อ สาธารณะชน"
ผม เดา ว่า...น่าจะมี เรือดำน้ำ ของ มาเเลเซีย แล่นอยู่แถว ๆ นั้น บ้าง นะครับ...เพราะมันใกล้กับ ฐานทัพเรือดำน้ำ ของ มาเลเซีย ด้วย...
มาเลเซีย เขาไม่เอาเรือดำน้ำไปส่องเล่นๆ แถวนั้นเหรอครับ แถวนั้นมันถิ่น เรือดำน้ำ นะนั้น แต่จีนก็แหย่ไปทั่ว เลยนะเนี้ย
ผมกลัวว่าเกาะสแปรตลี่ (เขียนอาจไม่ถูกน่ะครับ) อาจจะกลายเป็นสงครามเกาะฟอล์คแลนด์ 2 ก็ได้แต่คู่กรณีเป็นจีนกับมาเลเซีย ซึ่งความพร้อมรบของทั้งสองฝ่ายสูงกว่ากรณีอังกฤษกับอาเจนติน่ามากครับ ถ้าเกิดสงครามกันจริงคงเจ็บหนักทั้งคู่
จีนก็คงไม่พลาดเอาเรือดำน้ำไปด้วยล่ะมั่งครับ จัดเต็มมาซ่ะขนาดนี้
การที่จีนแต่งทัพลงมาถึงหน้าบ้านมาเลเซีย แบบนี้ เรียกว่าไม่ได้ทำให้มาเลเซียไม่ชอบแค่เจ้าเดียวครับ จากเส้นทางนี่ผ่านตั้งแต่หน้าบ้านคือเวียดนาม หลังบ้านอย่างฟิลิปินส์และลงมาถึงหน้าบ้านของมาเลเซียเนี้ยล่ะครับ
เกาะสแปร์ลีย์ นี่เป็นการอ้างและแสดงบทบาทหลายเจ้าครับ เรียกว่า เหมือนอาเซียนปะัทะจีนเลยทีเดียว
แต่ผมเห็นด้วยกับ คุณ juldas ครับ ถ่ายรูปจากกล้อง เพอริสโคป จะเป็นการปฏิเสธอำนาจทางการจีนของหมู่เกาะดังกล่าว และถ้าถ่ายใกล้กว่า 12 ไมล์ทะเล ยิ่งชัดเจนครับ แถมเป็นการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าถ้าใช้เรือ หรือเครื่องบินบินเข้าใกล้เกาะ อาจโดนสกัดได้แต่ถ้าเรือดำน้ำแอบเข้าไป แล้วออกมากว่าจีนจะรู้ตัวมาเลเซียก็อ้างสิทธิ์โดยถ่ายรูปมายืนยันเรียบร้อย ซึ่งถ้าจีนจะป้องกันต้องใช้กองเรือมหาศาลในการค้าหายกเว้นจีนจะมีของแอบไว้ แต่โอกาสปะทะคงน้อยเพราะไม่มีใครอยากมีปัญหาอย่างมากถ้าจีนเจอคงส่ง active sonar ยิงใส่เรือก็ถือว่าจีนชนะแล้วครับ มาเลก็คงถอยไปแล้วหาโอกาสเข้ามาใหม่
ปัญหาของมาเลย์ในตอนนี้คือ
จะส่งเรือดำน้ำสกอรืเปี้ยนไปถ่ายรูปยังไงไม่ให้เรือจีนตรวจพบ"ด้วยตาเปล่า"???
เกิดส่งไปแล้วผบ.เรือทำอะไรไม่ทราบต้องลอยลำขึ้นมาอายคนทั้งโลกเขาเลยงานนี้ ตอนซ้อมในบ้านยังมีปัญหาเยอะเลยนะครับเป็นที่คนไม่ใช่ที่ระบบ
เทคโนโลยีใช้เงินซื้อได้ แต่การใช้งานจริงต้องเอาจากความสามารถและประสบการณ์ อย่างหลังเลยมาเลย์ไม่มีมาก่อน อย่างแรกมาเลย์กำลังพยายามทำแต่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่คือเรียนรู้ได้ช้ามากนั่นเอง
อย่างไวสุด10ปีครับ กว่ามาเลย์จะชำนาญเรือดำน้ำ2ลำนี้จนกล้าดำไปถ่ายรูปได้ใกล้ๆ ไม่วิจารณ์กองทัพเรือไทยนะเราอาจจะมีไอเท็มลับก้ได้
แต่เรือจีนในภาพเหมือนของเราเลยนะ เดี๋ยวนี้อาวุธมันใช้เหมือนๆกันทั่วโลกเลยเป็นแฟชั่นหรือเปล่าเนี่ย
ทำให้อยากได้ลำที่2ไวๆจัง หาเงิน6000ล้านไปถอยมาจอดอีกฝั่งไวๆนะครับกองทัพเรือมันอเนกประสงค์และจำเป็นจริงๆเรือแบบนี้
จีนขู่แรงเหมือนกันนะครับคราวนี้ - -
แค่สกอร์เปี่ยน 2 ลำเนี่ยนะริอาจจะไปต่อกรกับจีน เผลอๆจะไปจ้ะเอ๋ กับ Type091 Han Class
หรือไม่ก็ Type093A Shang Class งานนี้มีหวังได้ไปเป็นผีเฝ้าอยู่ใต้ทะเลแน่
Type 091 Han Class
ผมคิดว่า สไตล์ของจีนเค้าค่อนข้างโฉ่งฉ่างนิดๆ ประกอบกับความมั่นใจในขนาดของกองทัพ หากเรือดำน้ำ เรือรบมาเลเซียใช้วิธีส่งสัญญาณตรวจจับใดๆไปจับกองเรือจีนทำให้เกิดสัญญาณเตือนในห้องควบคุมของเรือจีน อาจมีการยิงสวนเลยก็ได้น่ะครับ ตรงนี้ให้ระวังครับ ทางที่ดีส่งเรือไปเรียบๆเคียงๆ ถ่ายรูป ติดต่อสื่อสาร เพื่อแสดงตัวโดยไม่แสดงความก้าวร้าว ครับ อย่างน้อยเพื่อแสดงสิทธิ์ว่าอยู่ในพื้นที่ ส่วนเรื่องกรรมสิทธิ์ก็เป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศไปจัดการเอาทีหลัง ครับ
งานนี้ เสือเหลืองมาเลเซีย เสียเหลี่ยมพี่จีนเข้าอย่างจังแล้วละครับ
จีนเลือกเวลาซ้อมใหญ่ได้ถูกที่ถูกเวลาเหลือเกิน จังหวะนี้มาเลย์กำลัง
มีปัญหากับกองกำลังในหมู่เกาะฟิลิปปินส์พอดี ..
หากมาเลย์ทำอะไรโฉ่งฉ่างตอบโต้จีนกลับไป งานนี้เชื้อไฟปะทุขึ้นแน่ๆ
เผลอๆพี่จีนอาจจะหันไปสนับสนุนกองกำลังของฟิลิปปินส์แบบเต็มตัว
เวลาสอยเครื่องบินรบ หรือ เรือดำน้ำ จีนก็จะบอกว่า " อั๊ว ม่ายเกี่ยวน๊า
หากลื้อข้องใจ จะรบกะอั๊วก็ล่าย แต่ อีขอบอกก่องน๊า ว่าลื้อจะเละเป็นโจ๊ก อิอิ "
ผมยัง สงสัย ในเรื่อง กองกำลังเชื้อชาติ ฟิลิปปินส์ จำนวน 100 คน บน รัฐซาบาร์ ว่าเป็น แผนของ มาเลเซีย เองหรือเปล่า ?
ถ้ามองใน มุมมอง แบบ นิยาย....
มาเลเซีย อาจจะมีการข่าว ว่า จีน จะมีการซ้อมรบ ในบริเวณเหนือฝั่ง ซาบาร์ อยู่ระยะนึงแล้ว...
การที่ มาเลเซีย จะขนกองกำลัง มาสังเกตุการณ์ การซ้อมรบของ จีน ก็จะดู เป็นฝ่ายตรงข้ามไป...
เหตุการณ์ที่มี กองกำลังเชื้อชาติฟิลิปปินส์ มาวางกำลังติดอาวุธ ในช่วงเวลาก่อนการซ้อมรบ จีน ไม่กี่วัน...
ทำให้ มาเลเซีย มีข้ออ้าง ในการวางกองกำลัง ทหาร ลักษณะ พร้อมรบ
รวมถึง การใช้ F/A-18D ปฏิบัติการบน เกาะรัฐซาบาร์
และ กองเรือยามฝั่ง หรือ MMEA ของ มาเลเซีย ได้มอบหน้าที่ การรักษาความสงบ คืน ให้ กองทัพเรือ มาเลเซีย....
ดังนั้น ในตอนนี้ ในขณะที่ จีน กำลังฝึก ยกพลขึ้นบก ในบริเวณน่านน้ำ เหนือเกาะรัฐซาบาร์...แต่ก็มี กองกำลังทหารติดอาวุธ พร้อม อากาศยาน แบบ F/A-18D ของ มาเลเซีย ปฏิบัติการอยู่บนฝั่ง รัฐซาบาร์ ด้วยเช่นกัน...
ก็อยู่ที่ว่า มาเลเซีย จะ เนียน ตามความเห็นส่วนตัวของผม หรือเปล่า....
ถ้า มาเลเซีย เนียน ได้ขนาดนั้น...จีน คงต้องทบทวน เรื่องการข่าว ของตนเองเหมือนกัน...
ไม่มีเวลามาดูหรือตอบเลย มีเรื่องเกิดสนุกสนุกด้วยแฮะ
ตำแหน่งที่จีนยกกำลังไปโชว์เพาเวอร์เป็นจุดที่ผมเคยให้ข้อสังเกตไปแล้วครับว่าพื้นที่บริเวณนี้เหมาะแก่การยึดครองถ้าต้องการควบคุมทะเลจีนใต้และเส้นทางเดินเรือ โหแต่เล่นมาเหยียบจมูกมาเลย์ถึงหน้าบ้านเล่น ส่งสารบอกอาเซียนแรงจริงๆ คงมั่นใจว่าอย่างน้อยอาเซียนอีก 2 -3 ชาติคงไม่กล้ามางอแงด้วย...... ตำแหน่งแทบจะใจกลางกลุ่มอาเซี่ยนเลย
มาเลย์คงต้องมีการขยับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งเรือดำน้ำอีก 2 ลำ เรือLPDกึ่งบรรทุกบ. และเครื่องบินรบฝูงใหม่ทดแทน MIG-29 ซึ่งข่าวข้างบนออกมาแล้วครับว่าเสือเร่งจัดหาทันที
ผมถึงสนับสนุนให้จักกรีกลับมาอยู่ในสภาพเรือบรรทุกบ.ให้เร็วที่สุด เรือฟรีเกต ASW 4 ลำ AAW 2 ลำ และที่ต้องได้ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้คือ เรือดำน้ำ
ผมถึงสนับสนุนให้ขยายกำลังทางอากาศ เพิ่มฝูงบิน และคงระดับจำนวนเครื่องบินต่อฝูงไว้ที่ 18 เครื่องเป็นอย่างน้อยเช่นเดิม แม้ว่าจะมีการอ้างว่าเครื่องบินรบสมัยใหม่ทดแทนเครื่องเก่าด้วยจำนวนเครื่องที่น้อยกว่าก็พอแล้ว ไม่จริงเลย เพราะระดับภัยคุกคามและสถานะการณ์โดยรอบตัวเปลี่ยนไปแล้ว อย่าให้ขาต้องเหยียบโลงไปข้างหนึ่งก่อนเสียแล้วถึงดิ้นเ่ร่าๆเลยครับ
จำนวนที่น้อยกว่า จะหมายถึง จำนวนเครื่องพร้อมรบเท่าเดิมครับ....
อัตราความพร้อมของ เครื่องจะอยู่ประมาณ 80 - 100% ครับ...
จะแตกต่างจาก อดีต ที่ความพร้อมรบ จะอยู่ประมาณ 50 - 70%...เพราะจะมี เครื่อง สต๊อค ที่ประมาณ 4 - 6 เครื่อง...
แต่สภาพพร้อมใช้ จริง ๆ จะอยู่ที่ 9 - 12 เครื่อง...
จะสังเกตุ ได้ว่า ในอดีตเอง อัตราฝูง 701 และ 102 จะมีอัตราที่ 12 - 16 เครื่อง เท่านั้นครับ...
ส่วนมาเลเซีย ก็มีอัตราฝูงบิน เท่าเดิม ไม่ได้แตกต่างจาก อดีต ครับ...
ฝูงที่จะจัดหาใหม่ ก็เป็น ฝูงที่ ทดแทน Mig-29...
ถ้าเทียบกัน จริง ๆ....ประเทศไทย จะมี เครื่องบินรบ รวมประมาณ 95 ลำ (ไม่รวม Alfha Jet และ L-39) ในขณะที่ มาเลเซีย มีสูงสุด ไม่เกิน 44 ลำ (ไม่รวม Hawk)...มาเลเซีย แหล่ะครับ...ที่เขา จะกลัว ไทย...
ในขณะที่ มาเลเซีย มีแผ่นดินแยกเป็น 2 ฝั่ง ไม่เป็น ผืนเดียวเหมือนประเทศไทย...
สิ่งที่ มาเลเซีย จะกังวล ต่อ จีน คงเป็นเรื่อง เรือบรรทุกเครื่องบิน ครับ ในความเห็นผม...ถ้า เรือบรรทุกเครื่องบินจีน พร้อมรบ เมื่อไหร่...สิ่งนี้ จะเป็นภัยคุกคามต่อ มาเลเซีย สูงสุด..
ในสภาพปัจจุบันก็ใช่ครับป๋าจูล นาทีนี้จำนวนและระบบเครือข่ายที่ทอ.วางเอาไว้เพียงพอรับมือเพื่อนบ้านโดยรอบแล้วครับ
แต่การที่จีนส่งกำลังมาแบบโฉ่งฉ่างขนาดนี้ จะกดดันทั้งเวียตนามและมาเลย์ให้เร่งโครงการทางทหารที่ยังค้างคาเอาไว้ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
สถานะการณ์กดดันเพื่อนบ้านอาเซี่ยนขนาดนี้ ยังไงทั้งเวียตนามและมาเลย์เองก็ต้องวางระบบเครือข่ายแบบเดียวกับที่เรา วางแน่นอนครับ เพราะอีกไม่กี่ปีเรือบรรทุกบ.ขนาดใหญ่ของจีนก็จะมีความพร้อมรบสูงสุด
แบบนี้ขีดความสามารถของทั้ง ทอ.มาเลย์และเวียตนามก็ไม่น่าจะสามารถทัดเทียมอากาศนาวีของจีนได้ เพราะทร.จีนจะมี AEW&C และเครื่องบินโจมตี เครื่องขับไล่ ระบบเครือข่ายอันทันสมัยสุดๆตามมากับกองเรือด้วย และทั้งสองประเทศเองก็มีโครงการเรื่องการจัดหาเครื่อง AEW&C AWAC ด้วยกันทั้งสองประเทศอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นการที่จีนบุกมาแบบโฉ่งฉ่างขนาดนี้ ยังไงทั้งสองประเทศก็ต้องเร่งวางระบบแบบเดียวกันกับเราอย่างเร็วที่สุดเท่า ที่จะทำได้ครับ ไม่อย่างนั้น ก็ต้องเป็นแบบคราวนี้ นั่งดูตาปริบๆไม่กล้าไปลองของใดๆทั้งสิ้น แม้แต่จะไปถ่ายภาพ เพราะทางนั้น แรง..........
จะรอให้เพื่อนบ้านพร้อมก่อนในตอนนั้นคงไม่ไหวแล้วล่ะครับ ภัยคุกคามต่อภูมิภาคเพิ่มขึ้นมาในระดับที่สูงมากทีเดียวตอนนี้
ในเมื่อตอนนี้เรายังคงสภาพเหนือกว่าอยู่ และสถานะการณ์ก็เร่งให้เพื่อนบ้านต้องวิ่งสุดแรงเกิด เพราะคราวหน้าอาจจะมีเรือบรรทุกบ.ขนาดหนักมาด้วย ยังไงก็ต้องสร้างทุกอย่างที่วางแผนเอาไว้
ดังนั้นเมื่อสถาะการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วนกระทันหัน แผนเดิมที่คิดว่า เท่านี้ก็พอแล้ว รับรองว่ามันจะไม่พอที่จะรับมือและรักษาสมดุลแห่งอำนาจเอาไว้ได้ในเวลาที่เร็วเหลือเชื่อเลยครับ ยังไงเราก็ต้องเปลี่ยนตามเช่นกัน และควรจะรักษาระดับความเหนือชั้นเอาไว้อยู่เสมอ
บอกเลยว่าถ้าจีนบุกจริง มาเลย์คงไม่มีทางรักษา ซาราวักไว้ได้แน่นอนครับ ถ้ามาเลย์ยังปวกเปียกขนาดนี้
บอกเลยว่าแม้แต่ ทร.ไทบเอง เวลานี้ควรจะต้องทบทวนเรื่อง Harrier 2+ และการเปลี่ยนจักกรีกลับมาเป็นเรือบรรทุกบ.กันจริงจังอีกครั้ง รวมถึงระบบเครือข่ายแบบ ทอ.ด้วย ซึ่งต้องมีการจัดหา AEW ประจำเรือ และระบบดาต้าลิ้งที่ต้องสื่อสารกันได้ทั้งกองเรือ เพราะพื้นที่จีนแสดงพลังคราวนี้อยู่นอกขีดความสามารถของ ทอ.จะให้ความคุ้มครองได้ ครับ
ตอนนี้แม้แต่เรือบรรทุกบ.ลำที่สองที่เราเคยมีแผนจะจัดหา ก็ควรจะต้องปัดฝุ่นมานั่งพิจารณากันจริงๆจังได้แล้วครับ แต่ยังไงตอนนี้ต้องการเรือ ASW และ เรือดำน้ำอย่างเร่งด่วนสุดก่อนครับ
สถานะการณ์แบบนี้ งบของทร. และ ทอ. ควรจะต้องได้รับเพิ่มให้เท่าๆกับที่ทบ.ได้แล้ว เลิกคิดถึงเรื่องเก่าๆกันได้แล้วครับ เรื่องใหม่ตรงหน้า ร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆจนจะนั่งไม่ติดพื้นกันแล้วครับ
ในเรื่องระบบโครงข่ายของ ทอ. จากที่ผมลองอ่านมาผมกลับมองต่างจากท่าน neosiamese2 นะครับเพราะแต่ละโครงจากของ ทอ. อย่าง RTADS หรือระบบสั่งการต่างๆผมมองว่าเป็นเพียงแค่ทำการปรับปรุงระบบเดิมจาก analog สู่ยุค Network IP เท่านั้นเองและจากข้อมูลของระบบ Radar ก่อนที่ TAF จะไม่ใส่รุ่นเป็น xx ผมเห็นว่าบางสถานีต้องทำการเปลี่ยนแล้วแต่ ทอ. กลับไม่มีงบประมาณมาใช้ในส่วนนี้ดังนั้นระบบต่างๆของเราก็ยังต้องพัฒนาอีกไกลเพียงแค่เราเริ่มก่อนเพื่อนบ้านแค่นั้นเองครับ
Sout Chaina Sea ( ทะเลจีนใต้ )
เพราะคำนี้ คำเดียว .. ทำให้จีนสามารถอ้างกรรมสิทธิ์
เหนือหมู่เกาะในแถบทะเลจีนใต้ได้ทั้งหมด
โดยส่วนตัว ผมคิดว่า มาเลเซีย ไม่กล้าหือ
จะมีก็แต่ เวียดนามเท่านั้น ที่ยังดูแข็งกร้าวกับจีน
ณ วันนี้หลายๆคนคงเห็นภาพแล้วนะครับว่า
เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ทำไมถึงได้รีบเสริมกำลังทางเรีอ และกำลังทางอากาศกันอย่างคึกคัก
ตราบใดที่กองเรือจีนยังไม่มีเรือบรรทุกเครื่องบินล่ะก้อ...การรุกรานทางทะเลของจีนโดยกองเรือผิวน้ำก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก