กองทัพอากาศแอฟริกาใต้จับเจ้า Jas39 Gripens ใส่ซองvacuum-packed เหมือนไก่แช่แข็งเก็บเข้าโรงเก็บ เนื่องจากไม่มีเงินสำหรีบปฏิบัติการบิน ทั้งนี้กองทัพอากาศแอฟริกาใต้มีเจ้า Gripen อยู่จำนวน 26 ลำ โดยจัดมาหาใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยช่วงฟุตบอลโลกปี 2010 หลังจากนั้นก็หมดเงิน จึงได้นำ Gripen จำนวน 12 ลำเก็บเข้าซองvacuum-packed แช่แข็ง
กองทัพอากาศไทยยังสนใจจะจัดหามาเพิ่มหรือเปล่า น่าจะไปต่อราคาได้ราคาพิเศษนะ
พยายามไปหารูปภาพเครื่องบิน Jas39 Gripens ใส่ซองvacuum-packed แต่ก็หาไม่เจอ
ไม่รู่ว่ากองทัพอากาศไทยมีซองเก็บอย่างนี้หรือเปล่า น่าสนใจดี เป็นการจัดเก็บที่น่าจะสอาด ปลอดภัยและพร้อมใช้ได้เสมอ เพียงแค่ฉีกซองก็พร้อมบิน
ไม่ต้องกังวลว่าจะมีแมลง หนู แอบเข้าเข้ามาอยู่ในเครื่องบิน แอบมาทำลายอุปกรณ์อิเล็กโทรนิค
ทอ สนใจจะขอซื้อต่อซัก 4 ลำมาเพิ่ม ฝูง 701 น่าจะดีน่ะครับ
ไม่มีเงินใช้ฝากไทยใช้ก็ได้ ช่วยวอร์มเครื่อง
เดี๋ยวสนิมขึ้น
เนอะครับ น่าจะลองไปติดต่อขอซื้อมาใช้ เผื่อจะได้ราคาถูก ว่าแต่ อยากเห็นรูปเหมือนกันครับ
ค่าชั่วโมงบิน ก็ถูก กว่ารุ่นอื่น ยังไม่มีเงินสําหรับปฎิบัติการอีกเหรอ
อยากรู้เศรษฐกิจโดยรวมของแอฟริกาใต้แล้วซิครับ
ลักษณะ vacuum-packed น่าจะเป็นแบบนี้ครับ...
คือ การเก็บไว้คงสภาพเดิม ไม่ให้อากาศเข้า-ออก เหมือน ซองใส่ตลับหมึกพิมพ์เลเซอร์น่ะครับ...มันจะใหม่อยู่เสมอ....ไม่น่าจะเปรียบเทียบเป็น ไก่แช่แข็ง เลย 5 5 5 5 5...
ผิดคิดว่าอัฟริกาใต้คงไม่ขายให้หรอกครับเนื่องจากยังใหม่มาก หากจะขายคงต้องอีก 2-3 ปี จนแน่ใจว่าไม่มีความจำเป็นแล้วจริงๆ และราคาคงไม่ได้ถูกมากมายนัก
ส่วน ฮ. (ติดอุปกรณ์ตรวจจับครบ จำชื่อรุ่นไม่ได้ครับ) ในรูปท่าน Juldas ที่เค้าเลิกใช้แล้วผนึกเก็บไว้ไม่เอาไปทำลาย ผมคิดว่าคงจะยังมีอายุการใช้งานเหลืออีกเยอะพอสมควรคล้ายกรณี F16ADF ของไทยที่เราซื้อมาถูกมากๆ แบบนี้ผมว่าน่าจะขอซื้อจากสหรัฐมาใช้ในภาคใต้สัก 10-20 ลำ ใช้ลาดตระเวนตอนกลางคืนตรวจจับการลอบขุดถนนวางระเบิด สนับสนุนหน่วยทหารกรณีถูกลอบโจมตีตอนกลางคืน น่าจะช่วยบรรเทาความเสียหายฝ่ายรัฐได้มากพอสมควรครับ ดีกว่าใช้ Bell206 ที่ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับและอาวุธ
ฮ. ท่าน Juldas คือ OH-58 kiowa แหงๆ....
ผมว่า kiowa รอปรับปรุงในโครงการ CASUP หรือเปล่าที่จะยืดอายุใช้งาน OH-58 ถึงปี 2025
ขอบคุณท่าน Juldas สำหรับรูปภาพครับ
ถ้าไม่เห็นรูปนี้ ผมก็จะนึกถึงซองใส่ไก่ในช่องเย็น ก็คงประมาณถุงเก็บรถยนต์ตอนน้ำท่วม
วิธีการเก็บรักษาแบบนี้...อารมณ์เ้ดียวกับการเก็บรักษาเครื่องบินรบของสหรัฐ
ที่ฐานเดวิดมอนธาน..กลางทะเลทรายระเปล่า
อิอิ เป็นแบบนี้นี่เอง
เห็นหัวกระทู้ครั้งแรกผมนึกถึงภาพนี้ขึ้นมาเลย
ประเทศเขาคงหมดเงินไปกับการจัดงานแข่งฟุตบอลโลก ตอนแรกคิดว่าจัดงานระดับนี้แล้วจะได้กำไร แต่กลับขาดทุนยับ สนามฟุตบอลที่สร้างมาก็จะกลายเป็นสนามร้างอยู่แล้ว
ps.แอฟริกาใต้ได้หน้าฟีฟ่าได้เงิน
ในความเห็นผม....ผมมองว่า...แอฟริกาใต้ น่าจะเป็นลดค่าใช้จ่าย และมองว่า ภัยคุกคามของตนเอง ยังอยู่ในระดับปกติ
การมี กริพเพน จำนวน 14 ลำ หรือ 1 ฝูงบิน เท่ากับที่ ทอ. ไทย มี จำนวน 1 ฝูงบิน ก็คงจะเพียงพอในระดับปกติ
ส่วนที่เหลือ การจจะคงไว้ จำนวน 1 ฝูง หรือ 12 ลำ ก็อาจจะทำให้มองว่า จะทำให้ ตัวเครื่องเสื่อมสภาพไปโดยไม่เกิดประโยชน์ เพราะมันก็ต้องบินรักษาสภาพด้วย...
เลย แพค เก็บไว้เป็นสต๊อคพร้อมใช้ ไว้ทดแทนฝูงที่ใช้งานปัจจุบัน น่าจะดีกว่า...
หรือ ถ้ามองในลักษณะ โลกสวยงาม....ประสิทธิภาพ ของ กริพเพน คงจะสูงเกินตัวจริง ๆ...ทำให้ จำนวน ไม่ส่งผลต่อ ประสิทธิภาพทางยุทธวิธี...
น่าสนใจนะครับ เพราะอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราคงต้องจัดหาฝูงใหม่ถ้าไม่ทำการอับเกรด F-5T ราคาคงได้ถูกลงมาบ้างไม่มากก็น้อย เหมือนรถมือสอง อยากให้คงไว้ฝูงละ 18 เครื่องเท่าเดิม ไม่ใช่ลดลงเป็นฝูงละ 12
Mar 15, 2013 15:57 UTC by Defense Industry Daily staff
In 1999, South Africa became the Saab JAS-39 Gripen‘s 1st export customer, ordering 26 fighters. The country is generally considered to be one of Africa’s stronger economies, and a regional security partner. On the defense front, their arms firms have managed to survive, albeit with some adjustment pains and restructuring. They can still produce weapons that are relevant on the world stage. Unless current trends change, however, outside views of the country’s regional security role may need a rethink. Opposition Democratic Alliance MP David Maynier recently forced the ANC government to acknowledge that 12 of its 26 delivered JAS-39C/D fighters were in long term storage. In reality, the SAAF’s fighter problem is even worse than that. He sums up the situation this way:
คงจะไม่มี งบประมาณบินจริง ๆ อ่านตามความเข้่าใจ ในปี 2013 คงมีงบประมาณบินได้ปีละ 150 ชั่วโมงบิน สำหรับ 6 นักบิน
ผมว่า การมีอัตราฝูง 12 ลำ ก็เหมาะสมดีครับ...สำหรับ เครื่องบินยุคใหม่...ฝูง 18 ลำ น่าจะเป็นอัตราสมัยเครื่องบินยุคสงครามเย็น มากกว่า ครับ...คือ การต้องมี สต๊อค เครื่องบินไว้ กรณี เกิดสงครามแล้ว ไม่สามารถจัดหา บ. มาเพิ่มเติมได้...
การมีอัตราฝูง 12 ลำ จะทำให้ ทอ. จะได้จัดหา ฝูงบิน รบใหม่ เร็วขึ้น...เพราะ ชั่วโมงบินของ เครื่องบิน จะสูงขึ้น...อายุประจำการ อาจจะอยู่ประมาณ 25 ปี...
การมีอัตราฝูง 18 ลำ...จะทำให้ ทอ. จะต้องมีภาระการอัพเกรด บ. ในอนาคต เนื่องจาก อายุใช้งานของ บ. ต่อลำ ยังคงเหลืออีกมาก...ความทันสมัย อาจจะไม่ทัน กับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ที่มีความรวดเร็ว กว่าในอดีต มากครับ...
ท่าน Juldas ยังแปลแบบปราณี "คงจะไม่มี งบประมาณบินจริง ๆ อ่านตามความเข้่าใจ ในปี 2013 คงมีงบประมาณบินได้ปีละ 150 ชั่วโมงบิน สำหรับ 6 นักบิน"
ถ้าผมแปลละ จะเป็นว่าทั้งฝูงบิน จะมีชัวโมงบินแค่ 150 ชม.ในปี 2013
“The sad facts of the Gripen system are as follows: 26 Gripen fighter jets were delivered; 10 or fewer are operational; 12 are in long-term storage; there are six qualified pilots; there are about 150 flying hours available to the entire squadron for 2013.”
โดยผมจะเอา ; เป็นการแยกแต่ละประโยค แต่ละFact
1. มีการส่งมอบ Gripen จำนวน 26 ลำ
2. มีจำนวนที่ยังทำงานอยู่แค่ 10 ลำหรือน้อยกว่านั้น
3. 12 ลำได้นำไปถูกเก็บแบบแช่แข็ง
4. มีนักบินที่มีคุณภาพ(จำนวนชัวโมงบินถึงเกรณ์) 6 คน
5. มีงบประมาณสำหรับปี 2013 สำหรับทั้งฝูงบิน 150 ขม.
ชอบลายพรางครับ สวยดีถ้าเอาข้าวไปแลกได้ก็ ok น่ะครับ อาจจะ 6 เครื่องก่อน แล้วอีก 2-3 ปีถ้าเค้าแน่ใจว่าไม่จำเป็นต้องมีแล้วก็ขอซื้อเครื่องที่เหลือ ครับ ยังไงก็คงไม่เล่นตัวมากนักเพราะประเทศที่ใช้ Jas39 มีไม่กี่ประเทศ
ยาวๆแล้วน่าจะคุ้มกว่าอัพเกรดF5นะครับผมว่า อีกอย่างดูแล้วแอฟริกาใต้ก็คงไมีความจำเป็นต้องประจำการมากเท่าไหร่(ดูจากเพื่อนบ้านรอบๆ) เลหลังให้เราคงเข้าท่าดี ไม่รู้เค้ารับเป็นข้าวสารรึเปล่าอิๆ