เนื่องจากกระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/30233478
ผมเกิดสงสัยว่าทำไม ME109 และ FW190 เครื่องบินประเภทเดียวกันหน้าที่เดียวกัน
ทำไมจึงประจำการพร้อมๆกัน ผมจึงไปอ่านดูในวิกิพีเดียแล้วเกิดสงสัย
เครื่องบิน ME109 กับ FW190
ในวิกิพีเดียบอกไว้ว่า ME109 ซึ่งใช้เครื่องยนต์ V-12 Aero Engine เป็นเครื่องยนต์ V engine
แต่กลับมีประสิทธิภาพน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบ Redial Engine ของ FW190
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ครับ? เพราะในนั้นบอกไว้ว่า นักบินที่พูดเรื่องนี้คือนักบินที่เคยบินเครื่องทั้งสองชนิด
แล้วมาเปรียบเทียบกัน FW190 มีความคล่องตัวมากกว่า สามารถโหลดน้ำหนักได้มากกว่า และมีอำนาจการยิงที่มากกว่า
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ไม่ได้มีแต่เครื่องบินขับไล่หรอกครับ ที่หน้าที่เหมือนกันแต่คนล่ะบริษัท เรื่องแบบนี้เกิดกับมหาอำนาจหลายๆประเทศในช่วงนั้น โดยกองทัพจะออกข้อกำหนดมาแล้วส่งให้บริษัทผู้พัฒนา ช่วยกันผลิตเข้าสู่สงคราม โดยเครื่องคนล่ะแบบกันแต่มีประสิทธิภาพที่กองทัพต้องการ
ของเยอรมันช่วงนั้นเป็นRLMที่มีฮอร์มาน เกอร์ริ่ง เป็นผู้บริหารเพื่อคัดเลือกแบบเครื่องบินออกมา โดยเครื่องยนต์ที่มีบทบาทอย่างมากในช่วงนั้นคือเครื่องเดมเลอร์-ดีบี กับ เครื่องจุงเกอร์-จูโม่ ที่มีส่วนในทุกโครงการของกองทัพอากาศนาซี
ผมชอบนะเครื่องบินเยอรมันสมัยสงครามโลกเนี่ย
ดูขลัง และเท่มาก โดยเฉพาะ ตรากางเขนเหล็ก
ME-109
FW-190
The Iron Cross
ต้องดูว่า me 109 เป็นโมเดลรุ่นปีใหนด้วยคับ
109 ออกมาเกือบ20รุ่นตั้งแต่ปี 40-45 ถ้าเอารุ่นปี40 มาเทียบกับ fw ที่ออกมาปี41 ก็งคงไม่แปลก
เสริมนึดนึงคับ
fw 190 เป็นเครื่องบินที่ติดตั้งปีนไว้เยอะสุด แต่ไม่ใช่เครื่องที่มีปืนน่ากลัวที่สุด เป็นเครื่องสารพัดประโยชน์ ออกแบบเพื่อขับไล่ จู่โจม ทั้งอากกาศและภาคพื้น เหมือนเป็นครึ่งหนึงของ 109 และ
กดปุ่มผิดคับ แหะ ต่อๆๆ
เหมือนเป็นครึ่งหนึงของ 109 และ Stuka ในด้านของการใช้งาน แบกระเบิดได้มาก ติด Gunpod ภายนอกได้ เครื่องมีเกราะที่ดี ทนการยิงของปืนเล็ก และ.50ได้นิดหน่อย น้ำหนักมากเครื่องแรงทำให้ดิ่งโฉบโจมตีได้เร็วและใช้แรงเฉื่อยไต่กลับขึ้นไป เคยมีเครื่อง p47 (usa) ถูก 190ลำหนึ่งถล่มยิงบนน่านฟ้าฝรั่งเศษจนหมดกระสุนจากทางด้านหลัง p47ลำนั้นบินต่อไปได้ และลงจอดที่ฐานในอังกฤษอย่างปลอดภัย!!!
ส่วน109 ลงสนามช่วงปี 1940 เป็นเครื่องขับไล่ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดก่อนสปริทไฟร์และมัสแต็งค์ มีความคลอ่งตัวมาก เกราะบาง ปืนหนัก (ไม่ใช่ปืนเยอะนะคับ) เป็นเครื่องบินแบบ Air to Air มีหน้าที่ขับไล่ จู่โจม สกัดกั้น มีเพดานบินสูง ฉวัดเฉวียนได้ดีมาก มักใช้สกัดกั้นเครื่องบินทิ้งระเบิด 109 รุ่นปี41 มีปืน20ม.ม.ในวงใบพัด 7.92 4กระบอก ที่ปีกและหัวเครื่อง รุ่นปี42ปิศาจแห่งน่านฟ้ายุโรป(สำหรับเครื่องทิ้งระเบิด)ได้บินขึ้นท้องฟ้าฝรั่งเศษ เยอรมันติดตั้งปืนใหญ่อากาศ mk108 ขนาดลำกล้อง 30ม.ม. นัดเดียวเข้าที่เครื่องยนต์ หรือ3-5นัดที่ปีก ป้อมบิน b-17 ร่วง นัดเดียวจังๆก็เก็บมัสแตงได้ (แต่มักจะถูกมัสแต็งเก็บก่อน 555)
นี่คือความแตกต่างของ109 และ 190 ครับ
TA-152 เครื่อง FW-190 รุ่นที่ใช้เครื่องแถวเรียง
ข้อเสียของ ME-109 คือหักเลี้ยวขวาด้วยความเร็วสูงมากไม่ใด้ เพราะจะทำให้ตัวเครื่องเสียการทรงตัวเป็นอย่างมาก(ไม่รู้เป็นเพราะอะไร)จึงทำให้นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องใด้อย่างเต็มที่ในขณะนั้น By Discovery Chanal
เยอรมันมี ME/BF109 + FW190 ก็เหมือนกับที่อังกฤษมี Hurricane + Spitfire นั้นแหละครับ
ไม่ได้มีอะไรมาแทนอะไรในภารกิจเดียวกัน แต่เสริมการทำงานซึ่งกันและกันมากกว่า
ข้อด้อยของ ME/BF109 เช่นพิสัยบินที่สั้นมากๆ มีส่วนทำให้เยอรมันครองอากาศไม่ได้คราว Battle of Britain
ฐานล้อที่แคบก็ทำให้สูญเสียตอนนำเครื่องลงเป็นจำนวนมาก
ส่วนข้อด้อยของ FW190 นึกไม่ออกครับ โดยทั่วไปดูดีมีชาติตระกูลมาก เสียแต่ไม่ค่อยมีให้บินโดยเฉพาะช่วงท้ายๆ ปี 44 ต่อต้นปี 45 เนื่องจากโรงงานโดยบอม์บกับขาดแคลนเชื้อเพลิงและนักบิน
สุดท้าย ตอนเกอร์ริ่งไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจนักบินเยอรมันตอนศึก Battle of Britain เกอร์ริ่งถาม นบ. ขับไล่ซึ่งอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าว่า ต้องการให้สนับสนุนอะไรบ้าง นบ. ตอบว่า อยากได้ Spitfire สักเครื่องครับ (บทสนทนาในหนัง Battle of Britain) อย่างฮา...เลย