Credit : ข่าวจาก Blog ของท่าน AAG_TH
http://aagth1.exteen.com/20130220/f-35-jsf
F/A-18SH SILENT HORNET
F/A-18E/F SILENT HORNET
RAFALE Future Upgrade
ผมสนใจในส่วนของ F/A-18SH ครับ ถึงแม้จะพัฒนามาจาก F/A-18E/F ฉายา Super Slow Hornet แต่ก็คิดว่ายังไงๆ ความคล่องตัวก็ไม่น่าจะน้อยกว่า F-35 เป็นแน่
แถมซ้อมรบ Dogfight ชนะ F-22 มาแล้วด้วยถึง 2 ครั้ง (F/A-18E 1 ครั้ง EA-18G Growler อีก 1 ครั้ง)
และก็มีระบบ Avionics อันทันสมัยไม่แพ้ F-35 (F/A-18E/F Block II ขึ้นไป และ EA-18G)
แต่ถ้า F/A-18SH มันจะคล่องได้ ทำไม Delta Wing+Canard จากยุโรป จะทำไม่ได้ ก็คิดว่าคงน่าสนใจไม่แพ้กัน แต่คงต้องพัฒนาระบบ Avionics ให้ทันสมัยเทียบเท่ากับ F/A-18E/F Block II
แต่ตอนนี้ ชาติยุโรปก็พัฒนา เรดาร์ AESA กันอยู่ซึ่งตอนนี้ก็มี Dassult Rafale พัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ แต่ไม่รู้ว่าขีดความสามารถจะเท่า AESA ของ อเมริกันหรือเปล่า (ของ F/A-18E/F สามารถใช้เป็น Jammer ได้ รบกวนได้แม้แต่สัญญาณมือถือ ข้อมูลจาก Tango ฉบับนานมาแล้ว)
ส่วนสำหรับไทยเรา ที่ล๊อคเป้าไว้ว่า เครื่องบินยุคที่ 5 จะเอา F-35 ถ้าเกิดมันล้มขึ้นมา ก็ไม่ต้องไปมองไหนไกลครับ สั่งซื้อ JAS-39NG(E/F) แทนซะเลย แล้วทำ MLU JAS-39C/D จำนวน 12 เครื่องให้เป็นมาตรฐาน NG(E/F) ในอนาคตครับ
DEDIRA (DEmonstrateur de DIscrétion RAfale), FRENCH STEALTH RAFALE PROJECT.
DEDIRA is now the official name of the global project to reduce rafale radar signature which contain passive and active solutions.
The features that very are likely to be integrated to reduce further rafale radar signature are :
-Improved air intake design (ออกแบบ ช่องเอาอากาศไปเผาไหม้เครื่องยนต์ใหม่ น่าจะแนวๆ F/A-18C/D พัฒนาไปเป็น F/A-18E/F)
-New generation RAM (เคลือบผิว ลดการสะท้อนเรดาร์ น่าจะแบบ F-22)
-Stealth Cocoon and hard point to hide weapons (กระเปาะเก็บอาวุธ)
-GaN spectra (already in development since 2009 under the INCAS project (INsert CApability Spectra)
-Other features kept secret by the french Mod (อื่นๆ เก็บเป็นความลับ ในการพัฒนา)
ในส่วนแผนการพัฒนา Rafale ก็น่าสนใจไม่น้อยครับ
ทางฝั่ง EF-2000 และ JAS-39 ยังไม่ประกาศแผนการพัฒนาเครื่องให้มีการตรวจจับได้ยากชัดเจน ในตอนนี้ครับ แต่คิดว่าน่าจะมีเหมือนกัน
ความจริง f-35 มันก็ไม่ได้ห่วยแตกอะไรขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแต่มันไม่ได้เหนือกว่าและอาจจะอ่อนกว่าเล็กน้อย (ฮา) ไอ้คนวิจารณ์แกก็เป็นสุดโต่งของอีกด้าน อีกด้านก็คือคนที่สนับสนุนเต็มที่และคิดว่านี่เป็นเครื่องบินเทพแห่งอนาคต เราๆ ท่านๆ ก็น่าจะประเมิณว่าความสามารถคงอยู่ระหว่างกลางๆ
เรื่องบินในพายุไม่ได้ อันนั้นก็เข้าใจได้ว่า พล.อ.ท ที่ให้สัมภาษณ์แกก็บอกแล้วว่ามันซ่อมได้
หลายๆ เรื่องของเครื่อง f-35 มันเป็นเรื่องซอฟท์แวร์ และหลายอย่างที่ถ้าปลดล็อกก็อาจจะความสามารถมากกว่าที่รับรู้กัน เรื่องความเร็วจริงๆ ก็อาจจะไปได้เร็วกว่านี้
เรื่องความหนักกับความอ้วนอันนั้นต้องยอมรับ แต่ก็แลกมากับอาวุธที่เก็บไว้ในลำตัว = ตรวจจับยาก
ไม่นานมานี้ f35 ได้มีการลดสเป็กการเร่งความเร็วลง ทำให้คนกลัวว่าเครื่องจะห่วยแตก แต่ทางล็อกฮีดเถียงว่าเครื่องอื่นๆ ที่เอามาเปรียบกับ f-35 เปรียบกับเครื่องตัวโล้น ซึ่งพอติดอาวุธเข้าไปก็โดน f35 กิน ใครจะผิดจะถูกยังไงผมก็ไม่รู้
แต่ที่แน่ๆ สหรัฐฯ ไม่มีทางถอยหลังซื้อเครื่อง f-35 500 ลำแล้วปิดสายการผลิตแน่ๆ เพราะสหรัฐฯ ยังมี f-22 อยู่ ดังนั้นถ้าเจอคนที่เป็นเรื่องเป็นราวก็เอา f22 ไปตีได้ ขณะที่เวลาล่อคนอ่อนๆ ไม่มีทางสู้ f35 สบายบรื๋อ
ตามท่าน tongrawit ว่าไว้เลยครับ ยังไม่เคยเห็นเครื่องยุโรป บินโชว์ตามงานแอร์โชว์แล้วหิ้วถังน้ำมัน หิ้วอาวุธบินเลย บินแต่โล้นๆ เลยไม่รู้ว่าความคล่องตัว จะลดลงไปมากหรือไม่ถ้าต้องหิ้วอาวุธ
แต่ถ้าเป็นภารกิจ Air-Defense ตามรูปด้านบน ถังน้ำมันถังเล็กๆเรียวแหลม (เคยอ่านว่าเป็น SuperSonic Tank) กับอาวุธ Air-to-Air ก็ไม่น่าจะทำให้ความคล่องตัวลดลงไปเท่าไหร่ แต่อยู่ที่ว่า จะโดน F-35 ยิงจากระยะไกลก่อนหรือเปล่า
แต่ถ้าเป็น SU-35 นี่ หรือ SU-30MKI/MKM ถึงจะหิ้วอาวุธภายนอกลำตัวเยอะๆ ก็ยังคล่องตัวอยู่ครับ เครื่องเขารงจริงๆ แถมมี Thrust Vectoring อีก
จากเกมจำลองการรบของออสเตรเลีย ก็จำลองออกมาว่า F-35 ไม่สามารถต้านทานการบุกของ SU-35 ( Radar Irbis-E) ได้ครับ
แต่มีข่าวมาเหมือนกันครับว่า Typhoon และ Rafale กำลังพัฒนา Thrust Vectoring อยู่ด้วยครับผม
ถ้า JAS ทำ Thrust Vectoring แล้ว โม เป็น Silent Gripen คงสุด ๆ นะครับ
ด้วย ความที่ JAS เองตัวดิบ ๆ ก็ เล็กมากอยู่แล้ว คง โม ให้ เป็น Silent Gripen ไม่น่ายก
จากข้างบนถ้าอยากไห้"เงียบ" ละก้สั่งทำที่เก็บเสียงแบบที่ใส่ปลายกระบอกปืนน่ะ แต่เราทำออกมาใหญ่ใง แล้วเอามาใส่ตรงท่อไอพ่น รับรองเงิบ อุ้ย เงียบ สมใจเลยครับ สมใจเลยครับ
ก้ อ่านออกเสียงยังไงหรือครับ อยากทราบเห็นพิมพ์แบบนี้มาหลายกระทู้แล้ว คุณ yukikaze
แล้วเครื่องพวกนี้จะถ่วงดุลกับเพื่อนบ้านได้เปล่าครับ อย่างเวียดนาม มาเล อินโด พม่า อาจจะเป็น pak-fa แล้วมันจะส่งผลถึงสิงค์โปรด้วยเปล่าครับเห็นว่าจะซื้อ f-35 แน่ๆ
เครื่องบินเวลาบินตามงานแอร์โชว์เขาไม่ติดถังน้ำมันสำรองอยู่แล้วครับ เพราะจะขาดความคล่องตัวไปมาก
ส่วนอาวุธจรวดทั้งหลายเขาก็ไม่ติดกัน เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะเวลาลงจอด ที่เห็นติดบินโชว์ส่วนมากจะจรวดดัมมี่
ก็ > ก้ ผมก็พิมพ์ไปบ่อยๆครับ ถ้าเวบบอร์ดไหนแก้ไขได้ ผมก็จะตามแก้หรือดูก่อนกดส่งข้อความ ็ กับ ้ มันอยู่ปุ่มเดียวกัน และอย่าง ซ พิมพ์เป็น ว เป็นประจำเหมือนกัน
เหมือนกับว่าบางทีเรากดปุ่ม Shift ไม่ได้จังหวะกัน แต่ก็พยายามไม่ให้ผิดครับ
ไม่เป็นไรครับผมท่าน nick01 ^_^
ท่าน premsk127 ถ้ามีเครื่องยุค 4.5 ปรับปรุงให้ตรวจจับได้ยากขึ้นเป็น 4.75 แล้วจะถ่วงดุลกับเพื่อนบ้านที่ในอนาคตอาจจะ เลือกใช้ Sukhoi T-50 PAK-FA ได้หรือเปล่า
จากที่อ่านมาจากเว๊บนอก เจ้า PAK-FA ตัวต้นแบบ มันยังไม่ได้เป็นเครื่อง Stealth แบบที่ตรวจจับได้ยากมากๆ ถึงขั้น Very Low Observer (VLO) แบบ F-22 , B-2 ครับ ยังมีจุดบกพร่องในการออกแบบ ช่อง Air-Intake ที่มองเข้าไปแล้วเห็น ใบพัด Turbo Fan เต็มๆ เวลาบินแบบ Head-On เข้าหากัน ละ จะตรวจจับได้ง่ายอยู่ครับ
แต่เรื่องความคล่องตัวทางการบิน PAK-FA น่าจะคล่องกว่า F-35 และเครื่องยุคที่ 4.5-4.75 ที่ต้องหิ้วอาวุธนอกลำตัวด้วยครับ ต้องรอดูว่า Stealth Cocoon ที่จะออกแบบมาให้เก็บอาวุธเขาจะทำออกมาได้ เพรียวลม และเบาขนาดไหนด้วยอ่ะครับ............แต่คิดว่าทำไมไม่ออกแบบ Air-To-Air Missile ที่มันลดการสะท้อนเรดาร์ ยามหิ้วไปด้วยเลย ส่วนถังน้ำมันก็ใช้เป็น CFT แทน ความคล่องตัวน่าจะลดไปไม่มาก
PAK-FA ใช้เรดาร์ ที่พัฒนามาจาก Irbis-E ที่ตรวจจับเครื่อง VLO ได้ที่ 90 กิโลเมตร (แต่ติดกับเครื่องขนาดใหญ่ RCS เยอะๆอย่าง SU-35 ก็โดน F-22 , F-35 จับได้ก่อนอยู๋ดี )
แต่ถ้าเอามาติดกับ Pak-Fa ที่เป็นเครื่อง LO (Low Observer) อาจจะสามารถ ตรวจจับ F-35 ได้ก่อน หรือในเวลาใกล้เคียงกันครับ แต่ยังไงก็คิดว่า คงจะยังสู้ F-22 เรื่องการรบแบบ BVR ไม่ได้ครับ เนื่องจากคุณสมบัติที่ผมว่าไว้ด้านบน
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเครื่อง 4.75Gen (Reduce RCS + Stealth Cocoon) ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องระดับ LO คือมี RCS ต่ำกว่า 1.0 ลงไปเหมือนกัน (ทุกวันนี้ F/A-18E/F , Rafale , Typhoon ตามเว๊บเมืองนอกเขาก็เคลมว่า ต่ำกว่า 1.0 อยู่แล้ว แต่ไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดว่า ตัวเลขที่แท้จริงมันเท่าไหร่) แล้วถ้าลดลงไปอีก ก็อาจจะตรวจจับได้ยากขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงขัน VLO ซึ่ง PAK-FA ที่ใช้ Irbis-E ก็คงจะจับได้ตั้งแต่ 100 กิโลเมตร+ อยู่ดี
ก็ต้องมาดูว่า เรดาร์ ทางฝั่ง ยุโรป เขาพัฒนาให้จับเครื่องแบบ PAK-FA ได้ที่ระยะเท่าไหร่ด้วยครับ
อันนี้เป็นเรื่องของอนาคตอีกที แล้วค่อยกลับมาคำนวนกันใหม่ครับ เพราะในระยะเวลา 10 ปี มีการพัฒนาเรื่อยๆครับ