ทหารนักรบสั่งลุยเชิงรุก ชูเห็นเขาแต่ไม่เห็นเรา บุกโจมตี..อย่ารอเอาคืน จวกการเมืองอย่าเสือก! |
ปฏิบัติการ"ล่อเสือเข้าถ้ำ"ที่ฐานปฏิบัติการทหาร ร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจ นราธิวาส เมื่อเช้ามืดวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การปลิดชีพ 16 ผู้ก่อการร้าย พร้อมการยึดอาวุธสงครามและยุทโธปกรณ์จำนวนมาก กลายเป็นปรากฎการณ์ที่ผู้คนในสังคมต่างแสดงความชื่นชมในฝีมือของเหล่าทหารกล้า แต่ไม่นานถึงข้ามวัน กระแสชื่นชมกลับกลายเป็นเสียงตำหนิ ติเตียน ถึงขั้นด่าทอ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี แห่งรัฐบาลพี่คนแรก "กูเกิ้ลเหลิม" กลับออกมากวนน้ำให้ขุ่น สร้างข่าวสั่งเยียวยาครอบครัว 16 ผู้ก่อกาารร้าย นำมาซึ่งความไม่พอใจของคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเหล่าทหารหาญที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ "พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ" อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก "อดีตนายทหารนักรบ"ที่ผ่านสมรภูมิรบต่าง ๆมามากมาย จนได้เงินเพิ่มสู้รบมากถึง 16 ขั้น ซึ่งนับว่ามากที่สุดในกองทัพไทย คืออีกผู้หนึ่งที่ชื่นชมต่อปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการข่าวกรองที่แม่นยำ สามารถดึงมวลชนในพื้นที่มาอยู่ฝ่ายเดียวกับทหารได้ ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติการที่มีความกล้าหาญ!!! ...พร้อมกับตำหนิถึงพฤติกรรมรองนายกรัฐมนตรีขี้โม้ ที่อาศัยสถานการณ์"หาเสียงทางการเมือง" นายทหารแก่ผู้นี้จึงตอกกลับด้วยคำพูดที่รุนแรง ไม่ควร"เสือก"กับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งย่อมรู้ดีถึงความเร่งด่วนจำเป็นในสถานการณ์หลายๆด้าน แนวคิดของชายชาติทหารรนักรบผู้นี้ ถึงแม้จะพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว แต่ก็มิอาจละทิ้งความเห็นที่เป็นประโยชน์แก่เหล่าทหารกล้า ในฐานะต้นแบบนักรบไปได้ กับคำแนะนำการทำการต่อสู้ในพื้นที่ที่ต้องบุกลุยปฏิบัติการเชิงรุก ทำอย่างไร"ให้เขาไม่เห็นเรา แต่เราเห็นเขา" แนวคิดนี้จึงน่าติดตาม!!! Q : เหตุการณ์ผู้ก่อความไม่สงบบุกโจมตีฐานปฏิบัติการทหาร ร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจ นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนสำคัญที่ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐไม่เกิดการสูญเสียเป็นเพราะ"ข่าวกรอง"? A : เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากข่าวกรอง ถ้าเรารู้ล่วงหน้า "รู้เขา"เราชนะทุกครั้ง แต่ที่ผ่านมาเราไม่รู้เขา แต่ครั้งนี้เรารู้เขาเพราะว่าจากการข่าว ต้องชื่นชมเขา แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงถึงความแข็งแกร่งของผู้ก่อการร้าย ที่มีความเชื่อมั่นมาก เขาไม่คิดว่าข่าวรั่ว ถ้าข่าวไม่รั่วจากเขาเราคงแย่เหมือนกัน ถ้าไม่ได้ข่าวกรองเราคงแย่เหมือนกัน "ข่าวกรองทหารครั้งนี้ถือว่าใช้ได้ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ต้องชื่นชมเขา เป็นเรื่องปกติถ้าเรารู้เขา เรารบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง นี่คือตัวอย่าง จะทำอย่างไรเราจะมีข่าวกรองเช่นนี้ แม่นยำเช่นนี้ในทุกๆครั้ง" Q : ส่วนหนึ่งที่ทำให้ข่าวกรองมีความแม่นยำเพราะประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือใช่หรือไม่? A : ถ้าประชาชน...โดยเฉพาะเรื่องการ"ก่อการร้าย" เราชนะเขาได้ เราต้องได้ข่าวกรอง ทีนี้ข่าวกรองจะได้เพราะผู้ก่อการร้ายเขาปนอยู่กับ"มวลชน" ถ้ามวลชนเป็นฝ่ายเรา เราจะได้ข่าวกรองง่ายขึ้น เป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมชาติ ต้องชื่นชมข่าวกรองครั้งนี้ดีเลิศ ถึงเป็นฝ่ายชนะ ข้าศึกไม่สามารถทำอะไรได้ เขากล้าหาญด้วย Q : สิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ คืออาวุธและอุปกรณ์ต่างๆที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถยึดมาได้ใช่หรือไม่? A : เขาไม่ได้น่ากลัว แต่มีความแข็งแรงขึ้น ความแข็งแรงนี้ เป็นเพราะว่าเราไม่สามารถที่จะจำกัดการก่อการร้ายรายวันเขาได้ เขาก็ฮึกเฮิม เพราะข่าวกรองเราไม่ดีเท่าที่ผ่านมา ยกเว้นครั้งนี้ เขาจึงเหิมเกริม มีเสรีในการปฏิบัติ แต่ถ้าการปฏิบัติการเชิงรุกทางทหารของเราจำกัดเสรีการปฏิบัติของเขาได้ ไม่ให้เขาทำอะไรง่ายๆได้ เขาก็ไม่สามารถรวมกำลังและมีความฮึกเหิมขนาดนี้ได้ ที่แล้วๆที่ผ่านมาเราตกเป็นฝ่ายเป็นเป้าให้เขาจัดการกับเราอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น"รูปแบบการปฏิบัติการ" "ยุทธวิธี"มันต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม Q : การบุกถล่มครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการ"แสดงศักยภาพ"อย่างหนึ่ง? A : ใช่...เป็นการ"แสดงศักยภาพ"อย่างหนึ่ง ถ้าเขาชนะเขาจะได้มวลชน สามารถควบคุมมวลชน แล้วขวัญกำลังใจของมวลชนก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา Q : ที่ผ่านมาฝ่ายเราไม่สามารถจำกัดเสรีการปฏิบัติของผู้ก่อความไม่สงบได้(ถามยังไม่จบ)? A : (ตอบทันที)คือหมายความว่าฝ่ายเราไม่สามารถจำกัดการปฏิบัติการเชิงรุกของฝ่ายผู้ก่อการร้ายได้ มีปล่อยให้เขาทำตลอดเวลา ซุ่มโจมตี วางกับระเบิดเรา เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราในการปฏิบัติการรบ Q : ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีอย่างไร? A : ปฏิบัติการเชิงรุก ยุทธวิธีของหน่วยทหารขนาดเล็ก เขารู้กันทั้งนั้น "เหนื่อยหาย ตายไม่ฟื้น" "ไม่ให้เขาเห็นเรา แต่เราเห็นเขา" ทำอย่างไรให้เราเห็นเขา แต่เขาไม่เห็นเราเท่านั้นทำให้ได้
เสียง.........................................1 เสียง..........................................................2 A : ก็แน่นอน ก็จำเป็น แต่เราจะวางระเบิดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เราต้องหาให้เจอว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาจะออกมาเวลาไหน เราก็ซุ่มจับเขาสิ เราอาจจะเหนื่อยยาก อดหลับอดนอน เหมือนเราตกปลา บางวันเราก็ได้ บางวันเราก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่อยากพูดในรายละเอียด มันเป็นความลับทางการทหาร เขารู้อยู่แล้วว่าปฏิบัติการเชิงรุกและใช้ยุทธิวิธีของหน่วยทหารขนาดเล็ก ทำอย่างไรให้เราเห็นเขา แต่เขาไม่เห็นเรา ระบบการข่าวเราต้องดี แล้วเราจะปลอดภัย
เสียง....................................................3 เสียง............................................................4 เสียง...................................................5 A : (ตอบทันที)เพราะเราทำซ้ำซากให้เขาเห็นไง เท่านั้นเอง เราทำอะไรซ้ำซากให้เขาเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เขาก็ง่ายสิ เขาเอาปืนมากระบอกเดียว เอาถังแก๊สมาอันนึงอัดอยู่ อยู่ตรงไหนก็ซุ่ม รถมาอะไรมาเขากะเวลาได้ เขาก็บึ้ม ง่ายจะตายไป Q : การเยียวยาอาจมีผลต่อกำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานอยู่พื้นที่หรือไม่? A : ทหารไม่กำลังใจเสียหรอก คนเราทำหน้าที่รักชาติบ้านเมือง มีจิตวิญญาณเพื่อรักชาติบ้านเมืองโดยแท้ ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ไม่ต้องไปบอกเขาหรอกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ คนที่เขาทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองเขาได้รับการฝึกมาอย่างดี มีผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้นำที่ดีแล้ว เขาจะรู้ทุกอย่างว่าเขาจะทำอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร คนข้างบนไม่ต้องไป"เสือก"ทะลึ่งไปสอนเขาหรอก อะไรที่เป็นเรื่องทุกข์ยากของประชาชนในพื้นที่ เขาก็มีหน้าที่
เสียง......................................................6 |
ที่มา http://thaiinsider.info/news2012b/column/interviews/21695-2013-02-15-04-00-00
ขอบคุณคุณRunningManที่นำมาให้อ่านครับ. ความเห็นส่วนตัวสำหรับคนรู้น้อยอย่างผม ผมเห็นด้วยกับนายทหารท่านนี้ครับ.
มันต้องโดนด่าเยอะๆ ถูกเลย พูดแค่หวังผลททางการเมือง เกลียดจริง นักการเมือง
ไม่เกี่ยวกับความเห็นทางการเมืองนะ แต่แบบนี้ล่ะ ที่เขาเรียกว่า "นักรบชาติทมิฬ" the ulmimate warrior
พล.อ ปรีชา เป็นถึงรองอดีตเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ. และเป็นบุคคลสำคัญ ของฝ่าย พธม
จึงไม่แปลกใจที่ให้ข่าวเช่นนี้ในเวลานี้ ที่อยากเห็นก็คือการเสนอความคิดเห็นที่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายการเมืองมากกว่า
มันถึงจะเกิดประโยชน์จริงๆต่อฝ่ายทหาร ต่อประเทศชาติ
และผลงานครั้งนี้ ทัพเรือ สมควรใด้รับการยกย่องในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิ
เจอ ซิล+ไนท์วิชั่นเข้าไปพวกโจรใต้ก็สมควรใด้รับผลกรรมคืนบ้าง
ผมเห็นด้วยกับลุงแกนะ ก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ทางทหารเองก็คงรู้นะว่าต้องทำไง
เห็นด้วยกับนายทหารท่านนั้นทุกอย่าง
ผมอยากให้สร้างค่ายทหารขนาดใหญ่ แบบเดียวกับค่ายอิงคยุทธ
เพิ่มในเขตบันนังสตาร์ ของจังหวัดยะลา และ อำเภอบาเจาะ หรือ
เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ผมคิดเอาเองง่ายๆ ถ้าในสามชายแดนใต้ มีฐานทหารที่มั่นคง ถ้าผมเป็นโจร
หากจะคิดแบ่งแยกดินแดน ก็ต้องคิดหนักขึ้น เพราะค่ายทหารมั่นคงใหญ่โต
ตั้งอยู่ในพื้นที่ถึง 3 แห่ง ครอบคลุมทั้งสามชายแดนใต้
ถ้าผมเป็นโจรแบ่งแยกดินแดน มี 2 ทางเลือก คือ โจมตีค่ายทหารทั้ง 3 แห่ง
ให้แตก กับอีกทางเลือกคือ เลิกคิดแบ่งแยก เพราะการโจมตีค่ายทหารขนาดใหญ่
เป็นการวิ่งเข้าไปตายเปล่าๆ
แต่ ค่ายทหารที่จะสร้างใหม่ ต้องเลือกทำเลเหมาะๆหน่อย ไม่ใช่เป็นค่ายทหารในวงล้อม
ของชาวบ้านเหมือนใข่แดง แบบบางค่ายในปัตตานี
ปล. แปลความหมาย ของนายทหารท่านนั้น " รบกับเงา เราต้องเป็นเงาของเงา "
ถ้าใครเป็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ต้องมีคิดบ้างละครับ คนหนึ่งทำเพื่อประเทศชาติ อีกคนทำเพื่อทำลายประเทศ คนหนึ่งได้หกเจ็ดล้านทำงานไม่กี่เดือนแถมทำไม่ดีอีก อีกคนคิดตามตำแหน่งจำนวนเงินตามปีที่เสี่ยงตาย
คลิปด้านบนไม่เกี่ยวกับ ภาคใต้ครับ เป็นเหตุการณ์พ่อเมายาบ้าฆ่าตัดคอลูก แล้วผูกคอตัวเองตายครับ
http://news.tlcthai.com/news/6878.html
ลองอ่านดูนะ
พันเอกทวีศักดิ์ จันทราสินธุ์ หัวหน้าหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด ชุดอโณทัย (EOD) ปัตตานี บอกว่า ระเบิด 2 ลูกบริเวณหอนาฬิกา เมืองปัตตานี เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยการตั้งวงจรอิเล็กทรอนิกส์ บรรจุในถังดับเพลิงขนาด 15 กิโลกรัม ที่สำคัญเป็นถังดับเพลิงที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือที่รู้กันอยู่แก่ใจว่า ประเทศมาเลเซีย
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/ohmmeter/2013/02/17/entry-2