หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อ่านแล้วคิดยังไงกับข้อเสนอ

โดยคุณ : RunningMan เมื่อวันที่ : 20/02/2013 10:59:28

ทหารนักรบสั่งลุยเชิงรุก ชูเห็นเขาแต่ไม่เห็นเรา บุกโจมตี..อย่ารอเอาคืน จวกการเมืองอย่าเสือก!

 

ปฏิบัติการ"ล่อเสือเข้าถ้ำ"ที่ฐานปฏิบัติการทหาร ร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจ นราธิวาส เมื่อเช้ามืดวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การปลิดชีพ 16 ผู้ก่อการร้าย พร้อมการยึดอาวุธสงครามและยุทโธปกรณ์จำนวนมาก กลายเป็นปรากฎการณ์ที่ผู้คนในสังคมต่างแสดงความชื่นชมในฝีมือของเหล่าทหารกล้า

แต่ไม่นานถึงข้ามวัน กระแสชื่นชมกลับกลายเป็นเสียงตำหนิ ติเตียน ถึงขั้นด่าทอ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี แห่งรัฐบาลพี่คนแรก "กูเกิ้ลเหลิม" กลับออกมากวนน้ำให้ขุ่น สร้างข่าวสั่งเยียวยาครอบครัว 16 ผู้ก่อกาารร้าย นำมาซึ่งความไม่พอใจของคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเหล่าทหารหาญที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 

"พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ" อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก "อดีตนายทหารนักรบ"ที่ผ่านสมรภูมิรบต่าง ๆมามากมาย จนได้เงินเพิ่มสู้รบมากถึง 16 ขั้น ซึ่งนับว่ามากที่สุดในกองทัพไทย คืออีกผู้หนึ่งที่ชื่นชมต่อปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการข่าวกรองที่แม่นยำ สามารถดึงมวลชนในพื้นที่มาอยู่ฝ่ายเดียวกับทหารได้ ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติการที่มีความกล้าหาญ!!!

...พร้อมกับตำหนิถึงพฤติกรรมรองนายกรัฐมนตรีขี้โม้ ที่อาศัยสถานการณ์"หาเสียงทางการเมือง"

นายทหารแก่ผู้นี้จึงตอกกลับด้วยคำพูดที่รุนแรง ไม่ควร"เสือก"กับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งย่อมรู้ดีถึงความเร่งด่วนจำเป็นในสถานการณ์หลายๆด้าน  

แนวคิดของชายชาติทหารรนักรบผู้นี้ ถึงแม้จะพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว แต่ก็มิอาจละทิ้งความเห็นที่เป็นประโยชน์แก่เหล่าทหารกล้า ในฐานะต้นแบบนักรบไปได้ กับคำแนะนำการทำการต่อสู้ในพื้นที่ที่ต้องบุกลุยปฏิบัติการเชิงรุก ทำอย่างไร"ให้เขาไม่เห็นเรา แต่เราเห็นเขา"

แนวคิดนี้จึงน่าติดตาม!!!

Q : เหตุการณ์ผู้ก่อความไม่สงบบุกโจมตีฐานปฏิบัติการทหาร ร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจ นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนสำคัญที่ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐไม่เกิดการสูญเสียเป็นเพราะ"ข่าวกรอง"?
A : เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากข่าวกรอง ถ้าเรารู้ล่วงหน้า "รู้เขา"เราชนะทุกครั้ง แต่ที่ผ่านมาเราไม่รู้เขา แต่ครั้งนี้เรารู้เขาเพราะว่าจากการข่าว ต้องชื่นชมเขา แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงถึงความแข็งแกร่งของผู้ก่อการร้าย ที่มีความเชื่อมั่นมาก เขาไม่คิดว่าข่าวรั่ว ถ้าข่าวไม่รั่วจากเขาเราคงแย่เหมือนกัน ถ้าไม่ได้ข่าวกรองเราคงแย่เหมือนกัน 

"ข่าวกรองทหารครั้งนี้ถือว่าใช้ได้ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ต้องชื่นชมเขา เป็นเรื่องปกติถ้าเรารู้เขา เรารบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง นี่คือตัวอย่าง จะทำอย่างไรเราจะมีข่าวกรองเช่นนี้ แม่นยำเช่นนี้ในทุกๆครั้ง" 

Q : ส่วนหนึ่งที่ทำให้ข่าวกรองมีความแม่นยำเพราะประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือใช่หรือไม่?

A : ถ้าประชาชน...โดยเฉพาะเรื่องการ"ก่อการร้าย" เราชนะเขาได้ เราต้องได้ข่าวกรอง ทีนี้ข่าวกรองจะได้เพราะผู้ก่อการร้ายเขาปนอยู่กับ"มวลชน" ถ้ามวลชนเป็นฝ่ายเรา เราจะได้ข่าวกรองง่ายขึ้น เป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมชาติ ต้องชื่นชมข่าวกรองครั้งนี้ดีเลิศ ถึงเป็นฝ่ายชนะ ข้าศึกไม่สามารถทำอะไรได้ เขากล้าหาญด้วย 

Q : สิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ คืออาวุธและอุปกรณ์ต่างๆที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถยึดมาได้ใช่หรือไม่?

A : เขาไม่ได้น่ากลัว แต่มีความแข็งแรงขึ้น ความแข็งแรงนี้ เป็นเพราะว่าเราไม่สามารถที่จะจำกัดการก่อการร้ายรายวันเขาได้ เขาก็ฮึกเฮิม เพราะข่าวกรองเราไม่ดีเท่าที่ผ่านมา ยกเว้นครั้งนี้ เขาจึงเหิมเกริม มีเสรีในการปฏิบัติ แต่ถ้าการปฏิบัติการเชิงรุกทางทหารของเราจำกัดเสรีการปฏิบัติของเขาได้ ไม่ให้เขาทำอะไรง่ายๆได้ เขาก็ไม่สามารถรวมกำลังและมีความฮึกเหิมขนาดนี้ได้ ที่แล้วๆที่ผ่านมาเราตกเป็นฝ่ายเป็นเป้าให้เขาจัดการกับเราอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น"รูปแบบการปฏิบัติการ" "ยุทธวิธี"มันต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

Q : การบุกถล่มครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการ"แสดงศักยภาพ"อย่างหนึ่ง?
A : ใช่...เป็นการ"แสดงศักยภาพ"อย่างหนึ่ง ถ้าเขาชนะเขาจะได้มวลชน สามารถควบคุมมวลชน แล้วขวัญกำลังใจของมวลชนก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา 

Q : ที่ผ่านมาฝ่ายเราไม่สามารถจำกัดเสรีการปฏิบัติของผู้ก่อความไม่สงบได้(ถามยังไม่จบ)?
A : (ตอบทันที)คือหมายความว่าฝ่ายเราไม่สามารถจำกัดการปฏิบัติการเชิงรุกของฝ่ายผู้ก่อการร้ายได้ มีปล่อยให้เขาทำตลอดเวลา ซุ่มโจมตี วางกับระเบิดเรา เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราในการปฏิบัติการรบ 

Q : ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีอย่างไร?
A : ปฏิบัติการเชิงรุก ยุทธวิธีของหน่วยทหารขนาดเล็ก เขารู้กันทั้งนั้น "เหนื่อยหาย ตายไม่ฟื้น" "ไม่ให้เขาเห็นเรา แต่เราเห็นเขา" ทำอย่างไรให้เราเห็นเขา แต่เขาไม่เห็นเราเท่านั้นทำให้ได้

 

เสียง.........................................1

Q : ความพยายามในการไปจำกัดกรอบการลอบวางเพลิง การวางกับระเบิดสถานที่ต่างๆสามารถช่วยได้?
A : จำกัดได้แน่นอน เรารู้ว่าเรามีขโมยอยู่เต็มพื้นที่ เราก็ต้องคอยจ้องอย่าให้ขโมยมันเข้าบ้านเราสิ มันเรื่องปกติธรรมชาติ แต่ว่าเราจะเหนื่อย มีการเสี่ยงอย่างใคร่ครวญบ้าง แต่ว่าทหารก็จะมีจิตใจรุกรบมากขึ้น

Q : การเพิ่มจำนวนกำลังพลสามารถช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่?
A : เราไม่รู้ในรายละเอียด แต่เท่าที่ผ่านมา ดูรูปแบบการปฏิบัติการของเขาแล้ว เราเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเขาตลอดเวลา ยกเว้นครั้งล่าสุด ก็ต้องแสดงว่าเราต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรบของเรา ยุทธวิธีในการรบของเรา คือทำอย่างไรก็ได้ให้เราเห็นเขา ให้เขาไม่เห็นเรา เราต้องเป็นฝ่ายริเริ่มในการปฏิบัติ

Q : "ให้เราเห็นเขา แต่ให้เขาไม่เห็นเรา"คือการทำอย่างไร?
A : ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าเรามีทรัพย์สมบัติเยอะ เราก็เป็นห่วงว่าขโมยจะเข้าบ้านเรา เราก็ต้องป้องกันบ้านเราตลอดเวลา ไม่ประมาท เราอาจจะไปเดินข้างนอกกลางคืน ไปซุ่มดู ไปแอบดู แบ่งคน แบ่งผลัด...ง่ายมั๊ย ข้าศึกมันก็คน ขโมยมันก็คน มันวิธีธรรมชาติ คือการทำ...เขามีหน่วย...เราไม่อยากจะพูดมันเป็นความลับทางทหาร พูดแต่เพียงว่าทำอย่างไรก็ได้ให้เราเห็นเขา แล้วเขาไม่เห็นเรา 

Q : ต้องลาดตระเวนมากขึ้น?
A : ถูกต้องทั้งกลางวัน กลางคืน แล้วเส้นทางที่เขาซุ่มเรา ที่เราเดินอยู่บ่อยๆ เขาจึงยิงเราได้ การป้องกันครู ครูมาอย่างนี้ทุกวัน เดี๋ยวก็ทหารมาเวลานี้ๆ เขารู้เขาก็นั่งสบายสิ คอยซุ่มอยู่ เพราะพื้นที่เหล่านั้นมันเป็นป่า ซุ่มเราได้ตลอดเวลา เพราะอย่างนั้นจะทำอย่างไร

"เขาก็เป็นคน เราก็เป็นคน เรากลัวเขาทำไม เป็นเรื่องธรรมชาติปกติ เขาก็คน เราก็คน มี2มือ 2ตีน เหมือนกัน ทำไมต้องมาปล่อยให้เขาทำเราฝ่ายเดียวละ ทำไมเราไม่ทำฝ่ายเขาบ้างละ ทำไมไม่เอาหนามบ่งหนาม"

เสียง..........................................................2

 

Q : ความหมายของท่านคือแนะให้ทหารซุ่มโจมตี วางระเบิดผู้ก่อความไม่สงบด้วย?
A : ก็แน่นอน ก็จำเป็น แต่เราจะวางระเบิดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เราต้องหาให้เจอว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาจะออกมาเวลาไหน เราก็ซุ่มจับเขาสิ เราอาจจะเหนื่อยยาก อดหลับอดนอน เหมือนเราตกปลา บางวันเราก็ได้ บางวันเราก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่อยากพูดในรายละเอียด มันเป็นความลับทางการทหาร เขารู้อยู่แล้วว่าปฏิบัติการเชิงรุกและใช้ยุทธิวิธีของหน่วยทหารขนาดเล็ก ทำอย่างไรให้เราเห็นเขา แต่เขาไม่เห็นเรา ระบบการข่าวเราต้องดี แล้วเราจะปลอดภัย

 

เสียง....................................................3

Q : จะมีการเอาคืนฝ่ายเจ้าหน้าที่(ยังถามไม่จบ)?
A : (ตอบทันที)แน่นอน เมื่อเขาต้องการที่จะควบคุมประชาชน การก่อการร้ายเขาต้องควบคุมประชาชนให้เป็นฝ่ายเขาให้ได้ เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่เขาเพลี่ยงพล้ำเขาต้องแก้คืน แต่จะแก้แบบไหนนี่ก็แล้วแต่เขา อาจจะซุ่มโจมตีมากขึ้น อาจจะวางระเบิดมากขึ้น อาจจะก่อการร้ายอย่างโน้นอย่างนี้ ให้เห็นว่า"เขาหนักมือขึ้น" เพราะว่าการทำงานการก่อการร้าย เขาต้องควบคุมประชาชนในพื้นที่ให้ได้

Q : ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหารควรตั้งรับอย่างไร?
A : ถ้าตั้งรับไม่สำเร็จ การปราบปรามผู้ก่อการร้าย "ตั้งรับ"ไม่สำเร็จ "กินข้าวร้อน นอนตื่นสาย" ไม่สำเร็จ "ไปเป็นเวลา"ไม่สำเร็จ

Q : การป้องกันการถูกเอาคืนจากผู้ก่อการร้ายที่ดีที่สุด คือฝ่ายเราต้องเป็นฝ่ายรุกก่อน?

A : ก็แน่นอน เราต้องปฏิบัติการเชิงรุก เราต้องเป็น"เสือไล่ล่า" ไม่ใช่ให้มาไล่ล่าเรา เราต้องล่าเขา

เสียง............................................................4

Q : มองเรื่องการประกาศใช้"เคอร์ฟิว"อย่างไร?
A : มันอยู่ในพื้นที่ถ้ามีความจำเป็น อย่างคราวนี้เขามีความจำเป็นต้องไล่ล่าเราก็ต้องมีขอบเขต เรื่องปกติธรรมดา เพราะฉะนั้นการขอความร่วมมือจากประชาชน รัฐบาลก็ต้องระวัง การเคอร์ฟิวต้องไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะว่าถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อน คะแนนนิยมของประชาชนก็ลดลง เพราะฉะนั้นเราต้องทำเท่าที่จำเป็นทางยุทธวิธีที่เราต้องการ

Q : ทหารใช้เคอร์ฟิวจะเป็นการลดมวลชนหรือไม่? 

A : ถ้ามีเหตุผลอันจำเป็นและประชาชนเขาเห็นด้วย ไม่ได้ลดมวลชนอะไร เพราะว่ามันก็เป็นความปลอดภัยของเขาด้วย

Q : ถ้าประกาศเฉพาะช่วงเวลา หรือชั่วคราว?
A : เป็นการดูแลในรายละเอียด ต้องด้วยความจำเป็น ไม่ใช่ครอบคลุมไปหมด มันก็สร้างความไม่สะดวกสบายให้กับประชาชนเขา ฝ่ายรัฐบาลต้องทำในสิ่งที่ยากและต้องทำทุกทางให้ได้มวลชน ให้เขาสนับสนุนเราในการให้ข้อมูลข่าวสารกับเรา หรืออย่างน้อยก็ไม่ให้ที่แอบซ่อนผู้ก่อการร้ายที่ไปอยู่ปะปนกับเขา มันแยกไม่ออกใครดีใครชั่ว 

"อะไรก็ตามที่มีความจำเป็นตามความสถานการณ์เราไม่ต้องไปกลัว การอยู่กับความกลัวจะรักษาชาติบ้านเมืองไว้ไม่ได้ แล้วต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เขา เขารู้ข้อเท็จจริงที่สุด คนข้างบนอย่าไปยุ่งกับเขา" 


Q : การที่รัฐบาลยกขึ้นเป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการประกาศใช้เคอร์ฟิว แล้วเอาเข้าที่ประชุมตามที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯเป็นผู้เสนอ จริงๆแล้วทหารควรเป็นคนตัดสินใจใช่หรือไม่?
A : ถูกต้อง คนในพื้นที่ คนที่เขาปฏิบัติการในพื้นที่อันจำเป็น เขารู้สถานการณ์ที่เป็นอยู่จริงว่าเขาควรทำอะไร แค่ไหน เพียงใดตามความจำเป็น ตามความต้องการที่เขาได้ประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ของเขา เราอยู่ข้างบนเราจะไปรู้เรื่องอะไรเขาเล่า 

Q : คุณเฉลิมพูดเยอะไปหรือไม่?

A : ผมไม่อยากไปวิจารณ์เขา แต่เขาเป็นนักการเมือง เขาหาเสียงไปเรื่อย

Q : ความรุนแรงล่าสุดที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะคุณเฉลิมไปมาเลเซียใช่หรือไม่?
A : ไม่ทราบในรายละเอียด เราไม่รู้ ทุกอย่างเราไม่รู้หรอก เราไปพูดอะไรโดยที่ตัวเราไม่รู้มันก็เป็นความไม่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย 

Q : มองเรื่องที่คุณเฉลิมประกาศให้การเยียวยา 16 ผู้ก่อการร้ายอย่างไร?

A : ไม่มีความจำเป็นต้องไปพูดอะไรหรอก คุณเฉลิมพูดอย่างนี้คิดว่าหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยมากกว่า หาเสียง...หาเสียงกับมวลชนคนในพื้นที่ภาคใต้แข่งกับประชาธิปัตย์มากกว่า ผมคิดว่าอย่างนั้น ก็เขาเป็นนักการเมืองนี่ 

Q : จริงๆแล้วควรเยียวยาหรือไม่?
A : โดยข้อเท็จจริงมันไม่มีความจำเป็นอะไรหรอก ถ้าเป็นผมนะ เขาอาจคิดว่าด้วยมนุษยธรรมในชุมชนเขาดูแลกันอยู่แล้ว แล้วทหารที่อยู่ในพื้นที่เขามีหน้าที่ในการพัฒนาพื้นที่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปบอกอะไรเขาหรอก เพราะการทำงานทุกอย่างต้องอาศัยมสวลชนทั้งนั้น ไม่ต้องมาประกาศอะไร ทุกอย่างมันเป็นสถานการณ์จำเป็น ทหารเขาอยู่ในพื้นที่เขาดูคนที่ลำบาก เขาตัดผมให้ เอาหมอไปฉีดยาให้ อะไรให้ มันก็เป็นเรื่องผลประโยชน์อันจำเป็นที่เราต้องทำให้เขาอยู่แล้วในพื้นที่ด้วยมนุษยธรรม

เสียง...................................................5

"แต่ว่าขณะเดียวกันครอบครัวก็ต้องระมัดระวัง ว่าการที่คนในครอบครัวไปเป็นผู้ก่อการร้ายจะต้องไม่ร่วมมือ ต้องคอยตักเตือน การทำผิดคิดร้ายต่อชาติบ้านเมืองต้องตักเตือนกัน"

Q : อย่างนี้รัฐบาลต้องรู้ว่าครอบครัวไหนมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง แล้วเหตุใดถึงจัดการไม่ได้?
A : เรื่องนี้มันอยู่ที่ข้อมูลข่าวกรอง ทหารในพื้นที่เขาจะรู้ ระบบข่าวกรองของเราถ้าดีเราก็ต้องรู้ว่าใครเป็นใครในพื้นที่ เราจะไปหวังว่าคนนั้นรู้-ไม่รู้คงไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มันต้องทำงานกันอย่างจริงจัง มันต้องมีการเข้าถึงประชาชนอย่างจริงจัง แล้วต้องทำงานปฏิบัติการเชิงรุกอย่างจริงจัง ต้องไม่ให้เขาเห็นเรา แล้วเราเห็นเขา จะทำอย่างไรก็ได้ การปราบปรามผู้ก่อการร้ายจะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย 

"ทำอย่างไรที่ไม่ให้เขาเห็นเรา แต่เราเห็นเขา เราจะกิน จะนอน จะเดิน เขาไม่รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน จะไปเมื่อไหร่อย่างไรไม่รู้ แต่เรารู้ว่าเขาจะออกมาเมื่อไหร่ เราก็ซุ่มเขา จับเขา"

 

Q : แปลว่าที่ผ่านมาที่เราโดนยิง โดนบึ้ม(ยังถามไม่จบ)?
A : (ตอบทันที)เพราะเราทำซ้ำซากให้เขาเห็นไง เท่านั้นเอง เราทำอะไรซ้ำซากให้เขาเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เขาก็ง่ายสิ เขาเอาปืนมากระบอกเดียว เอาถังแก๊สมาอันนึงอัดอยู่ อยู่ตรงไหนก็ซุ่ม รถมาอะไรมาเขากะเวลาได้ เขาก็บึ้ม ง่ายจะตายไป 

Q : การเยียวยาอาจมีผลต่อกำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานอยู่พื้นที่หรือไม่?
A : ทหารไม่กำลังใจเสียหรอก คนเราทำหน้าที่รักชาติบ้านเมือง มีจิตวิญญาณเพื่อรักชาติบ้านเมืองโดยแท้ ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ไม่ต้องไปบอกเขาหรอกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ คนที่เขาทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองเขาได้รับการฝึกมาอย่างดี มีผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้นำที่ดีแล้ว เขาจะรู้ทุกอย่างว่าเขาจะทำอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร คนข้างบนไม่ต้องไป"เสือก"ทะลึ่งไปสอนเขาหรอก อะไรที่เป็นเรื่องทุกข์ยากของประชาชนในพื้นที่ เขาก็มีหน้าที่

 

เสียง......................................................6

"อย่างที่"ในหลวง"ท่านทรงตรัส "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" มันครบรูปแบบอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตั้งใจทำให้อย่างดี สำนึกในชาติให้เกิดความสำเร็จ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้วก็ไม่ต้องไปสอนเขาหรอก คนที่เขารู้เรื่องดีที่สุดคือคนในพื้นที่ที่เขาทำหน้าที่อยู่ แล้วทหารก็เป็นมนุษย์ ไม่ใช่จะรบกันแล้วจ้องฆ่าเขาอย่างเดียว ผู้หญิงลูกเด็กเล็กแดงให้เดือดร้อน...เขาก็ดูแลกันอยู่แล้วโดยมนุษยธรรม ไม่ต้องไปสอนเขาหรอก อย่าไปเสือกหาเสียง หาการเมืองอะไรในช่วงเวลาที่บ้านเมืองเสียหายเช่นนี้"

Q : แต่การพูดหาเสียงของฝ่ายการเมือง ต้องกระทบกับจิตใจของทหาร โดยเฉพาะคนที่เสียชีวิตไปแล้วเหมือนกัน?
A : ก็อาจจะมีผลกระทบต่อทหารอยู่ แต่ว่าทหารก็ต้องเข้าใจ เพราะว่าไอ้นักการเมืองพวกนี้มันเอาแต่หาเสียง เพราะฉะนั้นทหารต้องนึกถึงชาติ อะไรที่เป็นผลกระทบกับชาติบ้านเมืองต้องหยุดคิด คิดทำในสิ่งที่ทำให้ชาติบ้านเมืองสงบด้วยหน้าที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ คิดถึงชาติเป็นสำคัญ 

Q : จะฝากอะไรถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่หรือไม่?
A : ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ว่าต้องจำกัดเสรีในการที่เขาจะทำกับฝ่ายเราให้ได้ แล้วทำอย่างไรก็ได้ให้เราเห็นเขา แล้วเขาไม่เห็นเรา รายละเอียดต่างๆมีไว้อยู่แล้วที่กองทัพบก เขียนไว้ด้วยมือ บอกเขาหมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปพูดอะไรมาก เพียงแต่ว่าให้เขาระลึกเสมอ...ทหารเนี่ย เหตุการณ์ร้ายจะเกิดขึ้นกับเราได้ตลอดเวลาเรา"ต้องไม่ประมาท" แล้วที่สำคัญ"อย่าให้เขาเห็นเรา แล้วเราเห็นเขา" การทำงานในพื้นที่การก่อการร้ายเช่นนี้ หรือในสงครามทุกรูปแบบ"ถ้ารักสบายตายลูกเดียว" 

"แล้วจำด้วยว่าความเหนื่อยยาก เหนื่อยหาย ตายไม่ฟื้น รบกันต้องเหนื่อยยาก ต้องเลือกทางที่เหนื่อยยาก และเสี่ยงอย่างใคร่ครวญ ถ้าเลือกทางสบายตายลูกเดียว"

ที่มา http://thaiinsider.info/news2012b/column/interviews/21695-2013-02-15-04-00-00





ความคิดเห็นที่ 1


ขอบคุณคุณRunningManที่นำมาให้อ่านครับ. ความเห็นส่วนตัวสำหรับคนรู้น้อยอย่างผม ผมเห็นด้วยกับนายทหารท่านนี้ครับ.

โดยคุณ 8iam เมื่อวันที่ 17/02/2013 14:08:19


ความคิดเห็นที่ 2


มันต้องโดนด่าเยอะๆ ถูกเลย พูดแค่หวังผลททางการเมือง เกลียดจริง นักการเมือง

โดยคุณ uuhotu เมื่อวันที่ 17/02/2013 14:10:26


ความคิดเห็นที่ 3


ไม่เกี่ยวกับความเห็นทางการเมืองนะ แต่แบบนี้ล่ะ ที่เขาเรียกว่า "นักรบชาติทมิฬ" the ulmimate warrior

โดยคุณ manukit เมื่อวันที่ 17/02/2013 15:44:40


ความคิดเห็นที่ 4


เจ้าหน้าที่ทำงานเหนื่อยยาก เสี่ยงตายทุกวัน ข้าราชการในท้องถิ่นเสี่ยงชีวิตทำงานตามปกติ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ อาศัยอยู่อย่างหวาดกลัว แต่พอโจรชั่วที่เผาบ้านเมือง ฆ่าคนบริสุทธิ์ ถูกยิงตาย จะไปจ่ายเงินค่าทำศพให้มัน คนละเป็นล้าน ลูกน้องผม ทหารเกณฑ์ นายสิบ โดนระเบิด ถูกยิงตาย กว่าจะจ่ายเงินชดเชยไม่กี่บาทแล้วแต่ชั้นยศ ไม่อยากโพสแบบนี้เท่าไหร่ แต่คนคิดนี่ มันเอาอะไรมาคิด
โดยคุณ ccguy เมื่อวันที่ 17/02/2013 16:19:54


ความคิดเห็นที่ 5


พล.อ ปรีชา เป็นถึงรองอดีตเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ. และเป็นบุคคลสำคัญ ของฝ่าย พธม

จึงไม่แปลกใจที่ให้ข่าวเช่นนี้ในเวลานี้  ที่อยากเห็นก็คือการเสนอความคิดเห็นที่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายการเมืองมากกว่า

มันถึงจะเกิดประโยชน์จริงๆต่อฝ่ายทหาร ต่อประเทศชาติ

และผลงานครั้งนี้ ทัพเรือ สมควรใด้รับการยกย่องในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิ

เจอ ซิล+ไนท์วิชั่นเข้าไปพวกโจรใต้ก็สมควรใด้รับผลกรรมคืนบ้าง

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 17/02/2013 16:42:50


ความคิดเห็นที่ 6


ผมเห็นด้วยกับลุงแกนะ ก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ทางทหารเองก็คงรู้นะว่าต้องทำไง

โดยคุณ ecos เมื่อวันที่ 17/02/2013 17:27:25


ความคิดเห็นที่ 7


เห็นด้วยกับนายทหารท่านนั้นทุกอย่าง

 

ผมอยากให้สร้างค่ายทหารขนาดใหญ่  แบบเดียวกับค่ายอิงคยุทธ

เพิ่มในเขตบันนังสตาร์ ของจังหวัดยะลา  และ อำเภอบาเจาะ หรือ

เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

ผมคิดเอาเองง่ายๆ ถ้าในสามชายแดนใต้ มีฐานทหารที่มั่นคง ถ้าผมเป็นโจร

หากจะคิดแบ่งแยกดินแดน ก็ต้องคิดหนักขึ้น เพราะค่ายทหารมั่นคงใหญ่โต

ตั้งอยู่ในพื้นที่ถึง 3 แห่ง ครอบคลุมทั้งสามชายแดนใต้

ถ้าผมเป็นโจรแบ่งแยกดินแดน มี 2 ทางเลือก คือ โจมตีค่ายทหารทั้ง 3 แห่ง

ให้แตก  กับอีกทางเลือกคือ เลิกคิดแบ่งแยก เพราะการโจมตีค่ายทหารขนาดใหญ่

เป็นการวิ่งเข้าไปตายเปล่าๆ

 

แต่ ค่ายทหารที่จะสร้างใหม่ ต้องเลือกทำเลเหมาะๆหน่อย  ไม่ใช่เป็นค่ายทหารในวงล้อม

ของชาวบ้านเหมือนใข่แดง แบบบางค่ายในปัตตานี

 

ปล. แปลความหมาย ของนายทหารท่านนั้น " รบกับเงา เราต้องเป็นเงาของเงา "

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 17/02/2013 17:58:36


ความคิดเห็นที่ 8


ถ้าใครเป็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ต้องมีคิดบ้างละครับ คนหนึ่งทำเพื่อประเทศชาติ อีกคนทำเพื่อทำลายประเทศ คนหนึ่งได้หกเจ็ดล้านทำงานไม่กี่เดือนแถมทำไม่ดีอีก อีกคนคิดตามตำแหน่งจำนวนเงินตามปีที่เสี่ยงตาย 

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 17/02/2013 18:27:57


ความคิดเห็นที่ 9


คลิปด้านบนไม่เกี่ยวกับ ภาคใต้ครับ เป็นเหตุการณ์พ่อเมายาบ้าฆ่าตัดคอลูก แล้วผูกคอตัวเองตายครับ

http://news.tlcthai.com/news/6878.html 

โดยคุณ qwertyuiop เมื่อวันที่ 17/02/2013 18:58:53


ความคิดเห็นที่ 10


ลองอ่านดูนะ

พันเอกทวีศักดิ์ จันทราสินธุ์ หัวหน้าหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด ชุดอโณทัย (EOD) ปัตตานี บอกว่า ระเบิด 2 ลูกบริเวณหอนาฬิกา เมืองปัตตานี เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยการตั้งวงจรอิเล็กทรอนิกส์ บรรจุในถังดับเพลิงขนาด 15 กิโลกรัม ที่สำคัญเป็นถังดับเพลิงที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือที่รู้กันอยู่แก่ใจว่า ประเทศมาเลเซีย

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/ohmmeter/2013/02/17/entry-2

โดยคุณ manukit เมื่อวันที่ 17/02/2013 22:47:09


ความคิดเห็นที่ 11


ส่วนตัวผม เมื่อเห็นข่าวโจรตายแล้ว ผมยังหวั่นๆว่าพวก สิทธิมนุษยชน จะออกมาร้องเรียนอะใรเสียอีก ซึ่งก็เคยมีมาแล้วครั้นเมื่อเหตุการณ์ ที่มัสยิดกรือเซะ และเหตุการณ์กองกำลัง God army ที่โรงพยาบาลราชบุรี. แต่ครั้งนี้ผมว่าหนักกว่าพวกสิทธิมนุษยชนอะใรเสียอีก
โดยคุณ ขุนกลจักรพินาศ เมื่อวันที่ 17/02/2013 23:06:34


ความคิดเห็นที่ 12


ลองทำตามอย่างที่ลุงเค้าแนะนำก่อนก็ได้ไม่ลองไม่รู้จริงไหมหลายฝ่ายช่วยกันมันน่าจะดีขึ้น

โดยคุณ native999 เมื่อวันที่ 20/02/2013 10:59:28