หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


บังคลาเทศ กำลังเจรจาเพื่อจัดหา เรือดำน้ำ จากประเทศจีน

โดยคุณ : juldas เมื่อวันที่ : 10/02/2013 00:49:26

ข่าวจาก jane

Bangladesh announces plans to acquire submarines
Bangladesh is in negotiations to buy submarines from China, a senior military official told reporters in Dhaka on 24 January. The official was speaking after Prime Minister Sheikh Hasina said the country would establish a submarine force to boost its presence and power projection in the Bay of Bengal. "We have made a decision to add submarines with base facilities to Bangladeshs navy very soon to make it a deterrent force," Hasina said in the southern city of Khulna at the commissioning of BNS Padma : a 50.4 m patrol craft that is the largest naval vessel to be built in the country

[first posted on 25 January 2013]






ความคิดเห็นที่ 1


ผลกระทบ ที่จะมี ต่อ ไทย

ถ้า รัฐบาลบังคลาเทศ...ยอมที่จะจัดหา เรือดำน้ำ ให้กับ กองทัพเรือของเขา...

คือ พม่า...คงไม่นิ่งเฉย...และคงจะ จัดหา เรือดำน้ำ ตามมาติด ๆ...

หรือ ไม่แน่...พม่า ก็อาจจะรีบดำเนินการจัดหา มาก่อน บังคลาเทศ...

คราวนี้ คนที่ กระอัก กระอ่วน ก็น่าจะเป็น ไทย...

ซื่งถ้า โครงการ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ดำเนินการเสร็จสิ้นในปีนี้...

แต่ เรือดำน้ำ ของ บังคลาเทศ หรือ พม่า...เริ่ม ดำเนินการในปีหน้า หรือ ปีต่อไป...

ไทย ก็คงต้องตามหลัง พม่า และ บังคลาเทศ อีกหลายปี ที่เดียว...

เพราะกว่า จะเสร็จโครงการ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ก็ปี 2561 โน่น...

 

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 06/02/2013 07:51:13


ความคิดเห็นที่ 2


 DHAKA, Jan 24 – Bangladesh is to acquire its first submarines to boost its naval power in the Bay of Bengal, Prime Minister Sheikh Hasina said Thursday, only days after she signed the country’s largest defence deal.

“We have made a decision to add submarines with base facilities to Bangladesh’s navy very soon to make it a deterrent force,” Hasina said, as she commissioned the country’s first domestically produced warship at a base in the southern city of Khulna.

“We will build a modern three-dimensional navy for future generations which will be capable of facing any challenge during a war on our maritime boundary.”

The announcement is the latest sign of Hasina’s willingness to spend heavily on defence, coming only nine days after she signed a $1 billion defence deal in Russia for the purchase of training fighters, helicopters and anti-tank missiles.

Analysts have said the deal with Moscow represents the biggest military purchase agreement since impoverished Bangladesh won its independence in 1971.

Hasina did not give details of how many submarines the country would be purchasing and from where, but a senior army general has said that Bangladesh is in negotiations with China on the subject.

Bangladesh, a third of whose 153 million population lives below the poverty line, has been expanding its defence capabilities in recent years, building a new air base close to neighbouring Myanmar and adding new frigates.

A UN tribunal ended a territorial dispute between Bangladesh and Myanmar last March, but the row had brought the two sides close to military conflict in 2008 when Myanmar sent naval ships to support drilling for gas.

Bangladesh has also a long-standing dispute with neighbouring India over their maritime boundary in the resources-rich Bay of Bengal.

Hasina said the amicable settlement of the sea dispute with Myanmar has ensured the country’s sovereignty over 111,631 square kilometres (43,100 square miles) of maritime area, nearly the size of the country itself.

She added the defence purchase was essential to ensure security of the huge area, in which Dhaka last month invited bidding from international oil companies to drill for new gas and oil reserves.

According to the state-run BSS news agency, the new warship that Hasina officially commissioned on Thursday was made in Khulna Shipyard under the supervision of the Bangladesh Navy.

The “BNS Padma” is armed with four 37-millimetre and two 20-mm cannons to resist land and air attacks and capable of laying mines.

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 06/02/2013 08:03:11


ความคิดเห็นที่ 3


Bangladesh Navy to Introduce Submarine from China

Bangladesh is negotiating with China to procure submarines, said senior military officials on Monday.

‘Substantial progress has been made’ towards concluding the purchase deal, Armed Forces Division principal staff officer lieutenant general Abu Belal Muhammad Shafiul Huq told New Age during a news briefing held at the Falcon Hall of Bangladesh Air Force at Tejgaon in the capital.Abu Belal also told New Age that they would let the people know about the deal once it was finalised.

He, however, did not disclose the number of submarines the government wanted to buy for the Navy against the background of an enhanced geopolitical focus on the resource-rich Bay of Bengal.

Bangladesh has longstanding territorial disputes over the bay with neighbouring Myanmar and India. Bangladesh settled its maritime row with Myanmar last year and settlement of disputes with India now awaits the verdict of an international court.

Government officials hinted that there was a plan to purchase at least three submarines in the next few years.Besides submarines, Dhaka is also negotiating with Beijing to buy two frigates under a state-to-state purchase deal to boost the country’s naval strength, they said.
Beijing offered two of its old 053H2 frigates at a very low rate on the condition that Dhaka would bear the refurbishment and defence equipment costs for the off-the-shelf ships.
An estimated Tk 6.55 billion will be needed to add two frigates to the country’s existing frigate fleet of six.

The Armed Forces Division has been equipped and modernised to safeguard the country’s ‘exclusive economic zone’ in the bay, said major general Abdul Matin.He said arms purchase from China had increased over the last four years.

Bangladesh has procured tanks and 16 fighters from China during the present government.
The government also has inked a $1 billion deal with Russia to buy training fighters, choppers, and anti-tank missiles.

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 06/02/2013 08:07:06


ความคิดเห็นที่ 4


เรียกว่าจีนขายอาวุธให้มันส์มือไปเลย

แต่ขนาดอ่าวไทยตอนล่างและทะเลจีนใต้เรือดำน้ำก็มีถึง3ชาติ เรายังไม่มีการผลักดันเรือดำน้ำอย่างเต็มที่(ส่วนตัวว่างี้)

เกรงว่าฝั่งอันดามันก็จะเป็นเช่นเดียวกัน 

ในขณะที่เรือผิวน้ำก็น่าจะแข่งขันกันพอสมควรสำหรับฝั่งอันดามัน อย่างบังคลาเทศเองสนใจเรือคอร์เวตแบบใหม่ชั้น Milgem เช่นกัน

สรุปได้ว่าน่าเป็นห่วงทั้งผิวน้ำและใต้น้ำ

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 06/02/2013 08:13:57


ความคิดเห็นที่ 5


กำลังคิดเลยครับว่าถ้ารัฐต้องเพิ่มงบให้ทร.เพื่อเพิ่มเรือฟรีเกตใหม่เป็น4ลำจะได้เพิ่มการต่อรองต่อจากนอก2+ต่อในประเทศ2 พออ่านข่าวนี้เลยคิดว่าทร.คงต้องทบทวนเรื่องเรือดำนำ้ให้เร้วขึ้นแล้วครับ อาจจะต้องเป็นoptionผูกกับดีลโครงการเรือฟรีเกตที่อาจจะมีขายพ่วง/เช่าเรือดำนำ้เก่ามาใช้ก่อน

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 06/02/2013 08:22:45


ความคิดเห็นที่ 6


ถ้าบังคลาเทศและพม่ามีเรือดำนำ้ การจัดหาเรือดำนำ้แค่2ลำคงจะไม่พอต่อการใช้งานแน่ครับ ยิ่งกลายเป็นเรืองปวดหัวของทร.มากขึ้น

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 06/02/2013 08:24:54


ความคิดเห็นที่ 7


อันที่จริงโครงการเรือฟรีเกตยังไม่เร่งด่วนเท่าเรือดำนำ้ ถ้าสามารถเปลี่ยนโครงการเรือฟรีเกตเป็นเรือดำนำ้ได้คงจะดี เพราะเรือผิวนำ้ของเรายังมีแม้ว่าจะไม่พอใช้ แต่เรือดำนำ้เราไม่มีเลย นึกถึงที่คุณJudasคงสมมคิไว้ว่าเป็นเรือดำนำ้2+OHP2(ปรับปรุงระบบ) จัดหาเรือดำนำ้ก่อนแล้วเลือ่นโครงการเรือฟรีเกตออกไป3-5ปีเพื่อรอความพร้อมในการต่อรือในประเทศ พอถึงเวลาเราสมารถจะดีลเรือฟรีเกตมาต่อในประเทศได้ น่าจะดีกว่าครับ

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 06/02/2013 08:50:35


ความคิดเห็นที่ 8


ผมว่า ถ้า พม่า มีการออกข่าว เรื่องการจัดหา เรือดำน้ำ ขึ้นมา...ในเร็ว ๆ นี้...

ก็ น่าลุ้น โครงการ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง...ที่ อาจจะต้องเปลี่ยนโครงการเป็น จัดหาเรือดำน้ำ แทน...

เพราะงบประมาณ มันสามารถจัดหาได้อยู่...

และ การยอมรับ เรือ OHP ของ สหรัฐ ก็คงน่าจะเกิดขึ้น...เพราะ การขยายโครงการ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ออกไป...

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 06/02/2013 10:19:12


ความคิดเห็นที่ 9


ผมอาจจะคิดมากไปมั้ยครับ ว่าการออกข่าวเรื่องบงคลาเทศซื้อเรือดำนำ้จีน เหมือนจะตีกรอบให้ทร. เพราะประทศที่เสนอตัวเข้ามาแข่งดีลเรือฟรีเกตและสามารถให้เราจัดหารเรือดำนำ้ได้ในราคาไม่สูงก็มีแค่จีนนะครับ ทุกอย่างลงตัวเหลือเกิน เรือ3ลำ ฮ.6ลำ หรือจะเปลี่ยนเป็น เรือ2ลำ ฮ.4ลำ+ให้ยืมเรือดำนำ้1ลำมาฝึกก่อน(ทดลองขับถ้าชอบค่อยคุยราคา55555)

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 06/02/2013 10:32:14


ความคิดเห็นที่ 10


คงไม่น่าจะมีอะไรครับ ท่าน RAF

เป็นข่าวของ บังคลาเทศ...ซึ่ง บังคลาเทศ กำลังปรับกองทัพเรือ ให้มีควาทันสมัย และ มีศักยภาพ สูงขึ้น...

บังคลาเทศ มองคู่ขัดแย้ง คือ อินเดีย กับ พม่า ครับ...

การจัดหาของ บังคลาเทศ คงไม่แคล้ว ที่ต้องให้น้ำหนักทาง จีน...ในเรื่อง ราคา...

ซึ่งถ้า บังคลาเทศ จัดหา เรือดำน้ำ จาก จีน ได้จริง...และถ้า จีน ยอมขายให้...

พม่า ก็คงต้องจัดหามา เช่นกัน...แต่ คงไม่ใช่ เรือดำน้ำ จีน...คงจะเป็น เรือดำน้ำ จาก รัสเซีย มากกว่าครับ...

งานนี้ บังคลาเทศ ก็อาจจะถูก บล๊อค จาก พม่า...ในการที่ขอให้ จีน จะไม่ขายเรือดำน้ำให้ บังคลาเทศ...

แต่ถ้า จีน ประเมินว่า...สุดท้าย พม่า ก็คงเลือกการจัดหา เรือดำน้ำ จาก รัสเซีย...

จีน ก็คงไม่ปฏิเสธ กับ บังคลาเทศ สำหรับ เรือดำน้ำ...

ซึ่ง ผลตอบแทน ที่จีน จะได้...ก็คงจะมาจาก แหล่งพลังงาน ในอ่าว เบงกอล นั่นเอง...

 

ผมถึงมองว่า...การที่ ไทย ไม่พึ่งพา ความมั่นคง จาก จีน...จะทำให้ ไทย มีน้ำหนัก สร้างข้อต่อรองทางการค้า ได้มากในทุกส่วน...

ทางเชื่อมระหว่าง ทะเลจีนใต้ กับ ทะเลอันดามัน...จะมี ไทย และ กลุ่มประเทศอาเซียน ขั้นกลาง...

ไม่มีใคร คุม หรือ มีอำนาจ ได้ทั้งหมด...

ซึ่ง กลุ่มประเทศอาเซียน ควรจะระวังในส่วนของ กัมพูชา...ควรมองแนวทาง ในการสร้างความเข้มแข็งให้ กัมพูชา มากขึ้น...

หรือยอมรับ ให้ ญี่ปุ่น หรือ ออสเตรเลีย...ถ้าจะมีความช่วยเหลือ ทางการทหาร...

เพื่อจะไม่ทำให้ กัมพูชา ดูอ่อนแอ เกินไป...จน ประเทศจีน ขอเข้ามาตั้ง ฐานทัพเรือจีน ในประเทศกัมพูชา...เพื่อรักษาผลประโยชน์ของจีน ในกัมพูชา โดยมีสาเหตุจากที่ กัมพูชา มีความอ่อนแอในการป้องกันประเทศ

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 06/02/2013 11:03:00


ความคิดเห็นที่ 11


ถ้าข่าวการจัดหาเรือดำน้ำของบังคลาเทศ ทำให้มีข่าวว่าพม่าจัดหาเรือดำน้ำ และถ้าทำให้ประเทศที่เสนอเรือฟรีเกตที่มีอุตสาหกรรมต่อเรือดำน้ำได้ประโยชน์จริงล่ะก็ ผมมองว่านอกจากจีน ก็จะเป็นเกาหลีใต้ และผมมองอีกว่า ทร. คงไม่เอาเรือดำน้ำจีนแน่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ดังนั้นผลคงออกที่ เรือฟริเกตเกาหลีและขอพ่วง เช่า / ซื้อ เรือดำน้ำมือสอง U209 เกาหลีใต้ 2 ลำ  ส่วน U206A ของเยอรมันน่าจะหมดหวังไปแล้ว ส่วนประเทศอื่นที่เข้าเสนอขายเรือฟริเกตก็ไม่น่าจะมีเรือดำน้ำมาเสนอให้ ทร. ได้ ครับ  อ้อ มีสิงค์โปรอีก 1 ประเทศอาจเสนอให้ ทร. เข้าฝึกใช้เรือดำน้ำเก่าที่ซื้อมาจากสวีเดนก็ได้

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 06/02/2013 11:13:21


ความคิดเห็นที่ 12


Song ดาวเกรด ละมั้ง  ขนาดจีนยังลด สเปก เลย แหม อิจฉาเพื่อนบ้านจริงๆๆ

โดยคุณ cananac11 เมื่อวันที่ 06/02/2013 11:36:59


ความคิดเห็นที่ 13


ก็อย่างที่ ป๋าว่าแหละครับ ผมเห้นจีนทำมันก็เกมส์เดิมๆ แทบไม่ต่างอะไร จากพวกฝรั่งในสมัยก่อน จะมีที่เหนือกว่าพวกฝรั่งก็เรื่องที่ ตนมีคนอยุ่ในหลายๆประเทศทั่วดลกเป็นชมชนขนาดใหญ่ทั้งนั้น(ทั้งนี้ ไม่นับรวมพวก กลายพันธ์นะครับ) ขายอาวุธให้ เขารบกัน ไทย+กัมพูชา /พม่า+บังคลา  ทั้งนั้ถ้ามาตั้งฐานใน กัมพูชา ก็มันหล่ะ คงได้เห็น เพื่อนใหม่เกิดใน อาเซียน คือ คู่ ไทย เวียดนาม แน่ๆ เพราะมิตร ของศัตรูก็คือ ศัตรู ส่วน ศัตรูของศัตรู ก็ คือ มิตร   นั้นเป็นเหตุ ผมที่ผมว่าไม่ควรสนใจจีนมากนัก นอกจากเรื่องการค้า อาวุธและเทคโนโลยี่ ก็ โน้นเลย ฝรั่งต่างแดน กับ พี่ยุ่น เพื่อความเป้นชาติที่เข้มแข็ง ต้องกันจีนออกให้ห่าง(อย่าลืมนะครับว่า คนไทยเชื้อสายจีน มีในประเทศไทย ประมาน 14 เปอร์เซนเลยทีเดียว มันอัตราย เดี๋ยว โดนเสื่อมหมด)

ปล.ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ และ ถ้าเพื่อนๆ ที่มีเชื้อสายต่างๆ อ่านก็อย่าลืมและจงจำไว้ครับ ว่า คุณเป็นคนไทยแล้ว เกิดที่นี้โตที่นี้ สายเลือดและบรรพบุรุษเรื่องนั้นผมก็เข้าใจ  ขอบคุณครับ

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 06/02/2013 13:55:58


ความคิดเห็นที่ 14


ผมว่า ทร น่าจะทำการเช่าเรือดำน้ำมาใช้ไปก่อนในระหว่างนี้นะครับหากพม่าจัดหาเรือดำน้ำมาจริงดีกว่าปล่อยให้เค้าทิ้งไปเรื่อยๆ  เรือฟรีเกตแม้จะไม่เร่งด่วนแต่ก็จำเป็นพอควรหากดูเทียบกับรอบๆบ้านเราอย่างมาเลย์หรือสิงคโปร์   ท่มีเรือใหม่ๆเข้าประจำการเรื่อยๆ   

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 06/02/2013 15:06:39


ความคิดเห็นที่ 15


   ด้วยข่าวนี้  คิดว่าทร.คงจะดันเรื่องเรือดำน้ำอีกแน่ภายใน 1-2 ปี  ที่จะถึง   แทนที่จะเป็นหลังปี 2560-61   เพราะอย่างไรการแข่งขันในกำลังรบผิวน้ำเองก็ทวีความมันส์มากขึ้นเช่นกันครับ  

  การแข่งขันยิ่งสูง   จำนวนเรือรบผิวน้ำและเรือดำน้ำก็ยิ่งจะมีจำนวนมากขึ้น   ถ้าเราจะดำรงสมดุลต่อไปได้  ก็คงต้องจัดหาเรือแบบต่างๆมากขึ้นในเวลาสั้นๆ      และการจัดซื้อจำนวนมากน่าจะก่อปัญหาเรื่องดุลการค้าและมีความเสี่ยงในเรื่องถูกโจมตีจากฝ่ายค้านและผู้ไม่เห็นด้วยมากขึ้น    ดังนั้นผมว่า  อู่ต่อเรือที่มีความพรั่งพร้อมในด้านเครื่องมือทุกชนิดยิ่งทวีความจำเป็นมากยิ่งขึ้นแล้วครับ    การมีอู่ต่อเรือที่มีความพร้อมสูงมาก   จะทำให้ทร.และรัฐบาลตัดสินใจในด้านการจัดหากำลังรบได้มากขึ้น  และเป็นอิสระมากขึ้นจากการถูกบีบจากมหาอำนาจทั้งหลายครับ

   การที่เพื่อนบ้านจัดหาอาวุธจากจีนมากขึ้น   ก็ทำให้จีนมีอิทธิพลในภูมิภาคมากขึ้นเรื่อยๆครับ   เพราะต้องพึ่งพาด้านความมั่นคงจากจีนสูงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

  ทร.ต้องเร่งเครื่องและต้องรีบตัดสินใจให้ดีแล้ว...........

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 06/02/2013 15:10:19


ความคิดเห็นที่ 16


  

           ส่วนเรือดำน้ำนั้น   ที่ผ่านมาหมาดๆ  ไม่น่ามาจากเรื่องเงินนะครับ   ดังนั้น 2-3 ปี นี้   ต่อให้ทร.มีเงิน  แต่การจะจัดหาเรือดำน้ำก็คงโดนขวางสุดกำลังอยู่ดี ......  เซ็ง.......................

    ผมกลัวว่าถ้าดันเรื่องเรือดำน้ำตอนนี้อีก  อาจจะเจอตอแล้วแป๊กอีกตามเคยครับ   กลัวว่าจะอดทั้งเรือฟรีเกต Hi-end และเรือดำน้ำ .................... เซ็ง  อยากใได้เรือ type 209 1400/AIP  หรือ Type 210 mod/AIP จังเลย 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 06/02/2013 15:14:36


ความคิดเห็นที่ 17


 ผมว่าคนละเรื่องกันเลยนะถ้ามาพูดถึงเรื่องคนไทยเชื้อสายจีน โดยมองว่าเป็นอันตรายต่อประเทศ ถ้าจะกล่าวถึงเชื้อสายไทย ผมถามหน่อยครับว่า สมัยที่เราต้อนคนลาว ต้อนคนเขมร หรือพม่า มอญ แขกมลายู มันจะไม่มีเชื้อสายปะปนกันเลยหรือ เชียงใหม่เป็นของส่วนหนึ่งของพม่าตั้งกี่ปี เราก็ตีเอากันไปกันมา จนสุดท้ายเราก็คือคนไทยด้วยกัน คนไทยเชื้อสายบริสุทธิ์ เป็นยังไงหรือครับ ผมว่าที่เราเป็นไทเพราะเรารวมกัน ไม่ได้มีเชื้อสายอะไรมากั้นกลางนักหรอก เพราะเราเป็นไท เป็นอิสระ พระเจ้าตากท่านก็เชื้อสายจีน ทำไมกอบกู้เอกราชให้ท่านได้อยู่ทุกวันนี้ละครับ หลงประเด็นมากเรื่องเชื้อสาย เรามมีอธิปไตยของเรานะครับ หลายอย่างจะแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเลย ระหว่างประเทศนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ระบบเศรษฐกิจการเมืองการปกครอง มีผลต่อความมั่นคงไม่แพ้กำลังทหารหรอกครับ ในปัจจุบันดูจะสำคัญยิ่งยวดเสียด้วย แล้วคนไทยกับคนจีนก็นิยมชมชอบค้าขายกัยมาแต่โบร่ำโบราณ

โดยคุณ ford เมื่อวันที่ 06/02/2013 15:18:00


ความคิดเห็นที่ 18


เห็นด้วยกับท่านfordครับส่วนท่านSeriesVIIท่านไม่ต้องมาย้ำครับตระกูลผมเรามีเชื้อสายจีนมาตั้งแต่ต้นตระกลูแล้วครับแต่เราก็คิดว่าเราเป็นคนไทยเรารับใช้ชาตินี้มา4รุ่นจนถึงรุ่นผมครับท่านอย่านำเอาสายเลือดมาดูถูกคนอื่นครับถามตัวท่านเองดีกว่าว่าท่านแน่ใจว่าท่านเป็นคนไทยแท้แล้วท่านได้เสียสละเลือดเนื้อให้แผ่นดินเหมือนผมและตระกูล"วงศ์สมบูรณ์"บ้างหรือยังครับ

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 06/02/2013 15:37:13


ความคิดเห็นที่ 19


เอ้า....ดันไปโยงเรื่องเชื้อชาติอีก เฮ้อ

โครงการเรือฟรีเกตของพม่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบอาวุธแน่

เห็นแล้วก็เป็นห่วงทร.จริงๆ

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 06/02/2013 17:06:42


ความคิดเห็นที่ 20


นั้นไงผมก็นึกแล้วว่าถ้าผมพิมพ์เรื่องพวกนี้มันดูออกจะล่อแหลม ต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ(ผมพูดก็เพื่อจะบอกในลักษณะ ของคนที่เชื่อ ว่า ยิว มีผมต่อ อเมริกาหมายถึงคนอเมริกันเชื้อสายยิวนะครับ)ถ้าไม่เชื้อที่ผมพูดก็จบ แล้วผมไม่คิดดูถูกเลยครับ ไม่ดูถูกคนชาติไหนๆ ทั้ง นั้น กรุณา เข้าใจผมด้วย และอย่าโยงไปในมุมนั้น ถ้าผมทำให้คิดต้องกราบขออภัยครับ ต่อ ข้อ ถามที่ว่าผมไทยแท้หรือป่าว ผมไม่ใช่ไทยแท้ครับ ก็ แบบคุณ บทไน นั้นแหละ ทางผมมารุ่น ปู่ นี้เอง

แล้วท่านที่อ่านทำความเข้าใจด้วยครับ อันนี้ ผมพยายาม บอก บอกว่าถ้าเราต้องรบ หรือ มีปัญหา กับ จีนแผ่นดินใหญ่ (ซึ่งคิดว่าคงไม่มี) มันจะมีผม แค่ นั้นเอง ครับ ขอบคุณครับ

อีกอย่าง ที่ผมจะบอกก็แค่ว่า อันนี้ผม รู้สึกเองนะครับ ว่า คนไทยเชื้อสายจีนแสดงตัวในสังคมใด้จัดเจนที่สุด ในทุกๆด้าน

ให้มองและเข้าใจในแง่วิชาการ หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

ปล.ถ้าทำให้เข้าใจผิดพลาดประการใดต้องกราบขออภัยทุกท่านจริงๆครับ

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 06/02/2013 19:12:32


ความคิดเห็นที่ 21


แล้วต้อง ขอโทษท่านเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ เพิ่มเติ่มอีก ตอบคุณ ฟอร์ด นะครับ เรื่อง สายเลือด ท่านพูดถูกแล้ว ซื้งผมก็ พยายาม จะบอก ว่า ใครก็ตามมาอยุ่แผนดินนี้แล้ว เป็นคนไทยทั้งหมด ให้รับประเทศนี้ ครับ (ซึ้งถ้ามผมพิม สื่อความหมายได้ไม่ดี ต้องขอโทษ เพื่อนๆ ทุกท่านอีก รอบ นะครับ )

ปล. คนกัมพูชา เชื้อ ไทยเยอะ ลาวก็ เยอะ พม่า ก็ มี ส่วนเรา ไทย ก็ โดน ผสม มา นาน แต่ โบราณแล้ว ผมก็ เข้าใจประวัติศาสตร์พวกนี้ดีพอครับครับ ฝรั่งอีก แขก อีก เยอะ ครับ เพราะงั้นผมไม่ได้ จะดูถูกใครเลย ผมก็ ไม่ใช่ เชื้อ ไทยแท้ ครับ จบ นะครับ ขอบคุณครับ

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 06/02/2013 19:21:06


ความคิดเห็นที่ 22


แย่แล้วละสิ ผม ยายมอญ ตาจีน ปู่ไทย ย่าไทย แล้วผมเชื้อสายไหนล่ะเนี๊ยยย  ขำๆครับ อย่าเอาเรื่องเชื้อชาติมาคุยกันเลยครับ แตกคอกันเปล่าๆ คนจีน คนลาว คนมอญ แขก พม่า ก็ช่วยกันสร้างชาติไทยมาจนมีแผ่นดินทุกวันนี้แหละครับ

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 06/02/2013 19:27:51


ความคิดเห็นที่ 23


ครับผมเองก็ต้องขอโทษด้วยเช่นกันครับที่ใจร้อนไปครับ เพราะในความเข้าใจครั้งแรกมันกระทบส่วนลึกในใจของผมจริงๆครับมันกระทบทำนองว่าสิ่งที่ทำมาทั้งชีวิตไร้ค่าแต่พอมาฟังที่ท่านอธิบายมาก็เข้าใจครับ ยังไงก็คงต้องขอโทษท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับที่ทำให้วุ่นวายครับ

สุดท้ายอยากทิ้งท้ายไว้ครับว่าประเทศไทยจะไม่มีวันสูญสิ้นหรือเป็นเมืองขึ้นของใครแน่นอนครับถ้ายังมีคนไทยที่ยังมีลมหายใจอยู่บนแผ่นดินครับ

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 06/02/2013 20:19:18


ความคิดเห็นที่ 24


มาแบบ ท่าน champ thai army  นี้ค่อยสบายใจขึ้นหน่อยครับ กลับมาอ่านกระทู้ตอนเย็นๆ ตกใจเหมือนกันครับด้วยที่ผมไม่มีเจตนา จะดูถูกใครอยู่แล้ว คงเป้นว่าสื่อสารไม่ดี ที่หน้าที หลัง ผมจะระวังให้ มากเลยครับเรื่องพวกนี้คงไม่พูไม่ขยายความอีกแล้ว

เอาเรื่องกระทู้ป๋า มั้ง  ที่ผมมองมันก็คลายๆหรือเหมือนๆ เพื่อนสมาชิกหลายๆท่านเกี่ยวกับอาวุธ เลยไม่ค่อย พิมเรื่องพวกนี้ แต่ ผมคิดว่า พม่า คงจะเอาเรือดำน้ำ ชั้น กิโล แบบเดียวกับ เวียดนามนี้แหละ ครับ  ทีนี้จะกลายเป้น ว่า ทาง ฝั่งนั้น จะมี กิโล ของ พม่า/อินเดีย แล้ว ดำน้ำจีน ของ บังคลาเทศ ทางใต้ลงมาก็ เรือ สวีเดน ของ สิงค์ กับแมงป่อง ของมาเลย์ ทางตะวันออก ก็ กิโล ของเวียดนาม อีก  ทีนี้เราจะเอาไงหล่ะ

ผมก็เห็นอยุ่ทางเดียวคือคำตอบ เรื่องเรือดำน้ำเรา คง และควรจะเป็น เรือ สวีเดน ไม่ก็ เยอรมัน ซึ่งใจก็ชอบ กิโล กับ อามู ของรัสเซีย แต่ดูระบบแล้ว ที่เข้ากับ ทร.เรา คงต้อง สวีเดน หรือ เยอรมัน เท่านั้นแหละ ครับ อ่อ เกาหลี ก็ พอทน

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 06/02/2013 20:27:11


ความคิดเห็นที่ 25


 เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าครับ   ข่าวจากท่าน qwertyuiop 

 

ฝึก เข้ม...คนเข้ม....ผบทร.เปิดฝึก ทร.56 พร้อมรับสถานการณ,ทุกด้าน เผยทอ.ส่งเครื่องบินรบร่วมฝีกด้วย /เผยทร.ส่ง TOR เรือฟริเกตให้ประเทศต่างๆ แล้วรอเสนอกลับมาภายในมีค./ ยันไม่มีแผน.ซิ้อเรือ LCS จากอเมริกา... .ที่ท่าเรือ แหลมเทียน สัตหีบ ชลบุรี พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ ทร.ได้ทำพิธีเปิดการฝึก ทร.2556 บนเรือหลวงอ่างทอง กล่าวว่า การฝีก กับนักการทหาร เป็นของคู่กัน จะต้องมีการฝีกตลอดเพื่อความพร้อม รับสถานการณ์ทุกด้าน ทั้งทะเล และทางบก และต้องฝึกร่วมกับมิตรประเทศ และเหล่าทัพ การฝีกปีนี้ กองทัพอากาศ ได้มาร่วมฝึก ทั้งการวางแผน และการส่งเครื่องบิน มาฝีกกับ เรือรบของทร. ด้วย เพราะการรบ ไม่ได้รบแค่เหล่าทัพเดียว ต้องประสานกัน เมื่อเป็นเพื๋อน เป็นฝ่ายเดียวกัน ก็ต้องมองตารู้ใจ ต้องฝึกร่วมกัน สิ่อสารกัน และถือเป็นการฝึกในระบบNetwork Centric Warfare ด้วย โดยการฝึกมีทั้งภาคที่ตั้ง การวางแผน และการฝึกภาคสนาม ที่ให้แบ่งฝ่ายกันฝึก ให้มีอิสระในการใช้ความคิด แล้วนำมาเป็นบทเรียนต่อไป 

ส่วนโครงการจัดซื้อเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ของทร. นั้น ทร.ได้เสนอTOR ไปแล้ว ตอนนี้ก็รอดูว่า จะมีประเทศไหน เสนอกลับมาบ้าง คาดว่า ภายในปลายมีนาคม จะรู้ว่า มีประเภทไหน ที่มีคุณสมบัติอยู่ในข่ายที่ ทร.ไทยกำหนดไว้บ้าง
ส่วนที่ นิตยสาร Jane"s Defence เสนอข่าวว่า ทร.ไทยจะซื้อ เรือ LCS - จากอเมริกา ที่ขายพิเศษ เพราะไทยเป็นสมาชิกนอกนาโต้ นั้น ผบทร. กล่าวว่า ไม่มึเรื่องนี้ ไม่มีการเสนอมา ทร.ก็ไม่มีแผนซิ้อจากอเมริกาแต่อย่างใด แต่ถ้า เป็นเรือฟริเกต ของสหรัฐ- และอยู่ในคุณสมบัติที่เราเสนอไป เช่นระวางขับน้ำ 3-4 พันตัน เราก็จะพิจารณา

ทั้งนี้มีรายงานว่า ข่าวนี้อาจสับสน เพราะที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาเคยเสนอขาย เรือฟริเกตชั้น Perry Class จำนวน2 ลำให้ไทย แตเป็นเรือมือสอง ทร.ไทย จึงปฏิเสธ เพราะต้องการเรือใหม่

 

   หลุดไปแล้วหนึ่งครับ  LCS  แถม  OHP  2 ลำก็หลุดไปด้วย   

ดูจากข่าวโครงการเรือฟรีเกต  Hi-end  คงเดินหน้าจนจบโครงการ  เพราะ TOR ไปเร็วเกินคาด  คงจะเสร็จสิ้นในปีนี้และรู้กันว่าใครชนะ    มีแนวโน้มจะไม่ใช่แค่ 2 ลำแล้ว    เพราะ  OHP ปิ๋วไปด้วย

 

  การที่  OHP 2 ลำปิ๋ว  แสดงว่าทร.คงจะเตรียมดันเรือดำน้ำแน่ๆใน 1-3 ปีข้างหน้าครับ    เพราะถ้าได้เรือฟรีเกตใหม่จากชาติเอเชีย  3 ลำ   และถ้าได้เรือดำน้ำมา   ฟรีเกตใหม่น่าจะสามารถปรับภาระกิจไปเป็นอย่างอื่นได้ด้วย     และคงมีเงื่อนไขอะไรที่มากกว่าตัวเรือแน่ๆครับ     ผมลุ้นสิทธิการต่อเรือในประเทศ   และการขยายอู่ราชนาวีมากๆครับ


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 06/02/2013 20:33:54


ความคิดเห็นที่ 26


ถ้ามันจะยุ่งยากนักเราก็ล้ม        กระดานให้เรือบรรทุกเครื่องบินพี่กันมาลอยกลางอ่าวซะเลย555(ขำๆนะครัย)

 

ปล  บอลไทยโดนไป3-1ละครับT___T  ค

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 06/02/2013 20:37:33


ความคิดเห็นที่ 27


   ดีครับ ทร. ตัดสินใจได้รวดเร็วเด็ดขาดจริงๆ    เวลาไม่รอแล้วครับ  การแข่งขันกำลังรบในภูมิภาคดูเดือดขึ้นเป็นลำดับ

ตัดสินใจได้ดีครับ 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 06/02/2013 20:39:17


ความคิดเห็นที่ 28


ใจเย็น ๆ กันครับ...จากที่อ่าน ยังไม่เห็นประโยคไหนว่า ปฏิเสธ เรือจากสหรัฐ น่ะครับ...

ผบ.ทร. ก็พูดตรงประเด็น ครับ...ว่า ยังไม่ได้มีแผนซื้อเรือจากสหรัฐ แต่อย่างใด...เพราะ เพิ่งจะ ยื่น TOR ให้แต่ละประเทศเสนอมาครับ...ต้องรอดูสิ้นเดือน มี.ค. ครับ...ว่ามีประเทศไหน เสนอมาบ้างครับ...คือตอนนี้ ยังไม่ได้ตัดสินใจใด ๆ ทั้งสิ้นในขณะนี้ครับ..แม้แต่ เรือจีน ก็ตาม ครับ...ตามข่าว jane ที่ความหมายว่า ทร. ได้เลือกเรือ LCS นั้น ยังไม่ใช่ครับ...

และ ทร. ไม่ได้จัดหา LCS เพราะ ทร. ต้องการเรือตามที่กำหนดความต้องการไว้ครับ...ซึ่ง ผบ.ทร. ก็บอกกว่า ถ้าเป็นเรือฟริเกต ที่อยู่ระหว่าง 3-4 พันตัน แล้วสหรัฐ เสนอมาแล้วคุณสมบัติตรง ก็จะพิจารณา...

ส่วน OHP ที่เสนอขายก่อนหน้านี้...น่าจะหมายถึง ก่อนหน้านี้ หลายปี ครับ...ที่ สหรัฐ เสนอขายเรือ OHP ให้ไทย...น่าจะช่วงปี 2548 - 2549 ช่วงนั้น มากกว่า ครับ...ช่วงที่ สหรัฐ ขายให้ ตุรกี บาร์เรน ช่วงนั้น ครับ...แล้ว ทร. ปฏิเสธ ไป...น่าจะคนละ โครงการ กับ FFG-46 กับ FFG-48 ครับ...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 06/02/2013 21:12:02


ความคิดเห็นที่ 29


ถ้าต้องจัดเร็ว ฟริเกต บวกเรือดำน้ำงานนี้ เกาหลีมาแน่  ..ขออนุญาตฟันธงครับ...

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 06/02/2013 20:43:27


ความคิดเห็นที่ 30


การออกมาปฎิเสธข่าวน่าจะเป็นการรักษาท่าทีตามปกตินะครับ   ทรคงมีประสบการณ์จากที่ผ่านๆมาคงต้องละเอียดรอบคอบหน่อย  

ขออภัยที่ส่งซ้ำนะครับพอดีไม่ชินกับแท้บเลตแอดมินช่วยลบด้วยครับ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 06/02/2013 21:01:06


ความคิดเห็นที่ 31


สอบถามนะครับที่ว่า OHP 2 ลำ หลุดไปด้วยนี่ไม่ใช่ที่บริจาคให้ 2 ลำใช่เปล่าครับ


โดยคุณ lfazuru เมื่อวันที่ 06/02/2013 22:07:03


ความคิดเห็นที่ 32


ตามข้อมูล คือ

ทั้งนี้มีรายงานว่า ข่าวนี้อาจสับสน เพราะที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาเคยเสนอขาย เรือฟริเกตชั้น Perry Class จำนวน2 ลำให้ไทย แตเป็นเรือมือสอง ทร.ไทย จึงปฏิเสธ เพราะต้องการเรือใหม่

ก่อนหน้านี้ เคยมี ข้อมูลว่า สหรัฐ เคยเสนอขาย เรือ OHP ให้ไทย ครับ...แต่ไทย ปฏิเสธ...จะเป็นช่วงที่มีการให้ กองทัพ ทำเพคเกจการจัดหาอาวุธ...

และในช่วงนั้น ก็มีข่าวว่า ทร. จะจัดหาเรือฟริเกตใหม่ ทั้งมือ 2 และ มือหนึ่ง...มีเรือ Type-22 จากอังกฤษ หรือ เรือชั้น Knox จาก ไตหวัน รวมอยู่ด้วยครับ...น่าจะเป็นช่วงที่ รัฐบาล มีนโยบาย สินค้าเกษตร แลก อาวุธ น่ะครับ...

การ เสนอขาย ก็จะเป็นเหมือนของ ไตหวัน น่ะครับ...

แต่ที่ข่าวล่าสุด คือ เดือน ธ.ค. คือ การช่วยเหลือ (ให้เปล่า) แต่ผู้รับ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และ ปรับสภาพเรือ เอง ครับ...

เป็น คนละกรณี กัน...

ผมจึงมองว่า น่าจะเป็นเรื่องเก่า ที่ ทร. เคยปฏิเสธ OHP เมื่อหลายปีก่อนครับ...น่าจะเกือบ 10 ปี ครับ...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 07/02/2013 07:40:44


ความคิดเห็นที่ 33


   อเมริกาบริจาคให้เรา  แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเราจะรับหรือไม่   ท่าน Fatboy ก็มาบอกเล่าเองครับว่าสำหรับ  OHP  ตอนนี้ไม่มีอะไรแน่นอน    สำหรับผมต้องการให้ทร.รับ  OHP 2 ลำนี้ใจจะขาด   เพราะเรือสามารถ  Upgrade  ให้มีประสิทธิภาพสูงทีเดียว    และทำให้ทร.พร้อมรบในเวลาสั้นๆ    แต่การตัดสินใจอยู่ที่ทร.แล้วครับว่าจะเอาหรือไม่เอา 

   การทร.เปลี่ยนการจัดหาเรือมาจากฝั่งเอเชีย  ซึ่งมีความเป็นไปได้ 70% แล้ว    ซึ่งจากต้นทุนและราคาที่เสนอกันมา   มีแนวโน้มว่าทั้งเกาหลี จีน และสิงคโปร์   จะสามารถเสนอได้ถึง 3 ลำมากกว่า 2 ลำ   ก็มีความเป็นไปได้ว่า  ทร.จะคิดว่า 1 ลำที่ได้เกินมาถ้าจัดหาขากชาติเอเชียนั้น   เอาไปทดแทนเรือ OHP 2 ลำจะดีกว่า    เพราะอายุการใช้งงานยาวนานกว่า   และสามารถ Upgrade ได้ภายหลัง     และถ้ารับ  OHP 2 ลำนี้   ทร.ต้องไปหาเงินมาปรับปรุงระบบอาวุธ  ก็ไม่น่าจะน้อยกว่า 100 ล้านเหรียญ หรือมากกว่า 3000 ล้านบาท   2 ลำก็กว่า 6000 ล้าน   แถมยังต้องจัดหาฮ.ประจำเรือมาเพิ่มอีก 4 ลำ   ซึ่งถ้าเป็น  S-70B ราคาก็อีกไม่น้อยกว่า 6000 ล้าน   น่าจะต้องใช้เงินมากกว่า 12,000 ล้านที่เดียวใน 2-3 ปีข้างหน้านี้   ซึ่งเงินขนาดนี้สามารถจัดหาเรือดำน้ำได้ 1 ลำแล้ว

   ถ้าทร.งดรับ  OHP 2 ลำ   แล้วรวบรวมเงินงบประมาณ 5-6 ปีข้างหน้า    อาจจะจัดหาเรือดำน้ำได้อย่างน้อย 2 ลำครับ   และถ้าได้รับงบประมาณในอัตราเพิ่มภายใน 5 ปี ข้างหน้า  ปีละมากกว่า 50,000-60,000 ล้านบาท   จะมีความเป็นไปได้สูงที่จะสามารถจัดหาได้ถึง 4 ลำในครั้งเดียว     อันนี้ต้องขอดูอัตราการเพิ่มงบประมาณในส่วน miใ ก่อนนะครับว่า 2-3 ปีข้างหน้าจะเป็นเช่นไร

 

   อันนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนตัวของผมนะ


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 07/02/2013 09:21:47


ความคิดเห็นที่ 34


   สำหรับทร.ในเวลานี้  ถ้าอีก 2-3 ปี  สามารถลองดันเรื่องเรือดำน้ำอีกรอบได้   ผมว่าทร.ทำแน่นอนครับ   ทร.เร่งเรื่องเรือฟรีเกต Hi-end ให้จบเร็ว ดดยออก TOR เร็วกว่าที่คิดกันว่าประมาณกลางปี  มาส่งหมาดๆไม่กี่วันนี้เอง  และรอผลตอบรับมีนาคมหรือเดือนถัดไปเท่านั้น   แสดงว่าต้องการเลือกแบบให้เสร็จสิ้นในปีนี้และสามารถลงนามกันได้เลย    และจะสามารถจัดสรรแผนงานงบประมาณได้ทันทีสิ้นปีนี้   เพราะจะต้องผูกพันกันไปจนถึงปี 2561   

  และในข้อเสนอของจีน  ก็เสนอให้มีการต่อเรือในประเทศไทยได้   ดังนั้นเกาหลีและสิงคโปร์คงต้องเสนอแบบเดียวกันมาด้วย    มีความเป็นไปได้สูงที่ทร.อาจจะต้องทำการก่อสร้างอู่ราชนาวีให้ได้ครบตามแผนงานเก่า 10 กว่าปีก่อน  และเผลอๆอาจจะต้องขยายมากกว่นั้นด้วย    เพราะต้อต่อเรือทั้ง OPV ลำที่ 2  3  4  และต้องรองรับงานต่อเรือฟรีเกต Hi-end ลำที่ 2 3   ในขณะที่อู่เดิมงานล้นมือ   แล้วนี่มีแนวโน้มทั้งพม่า  มาเลย์ เวียตนาม   อินโด   แม้แต่ฟิลิปปินส์จะขยายกองเรือ Blue navy กันมากขึ้น   ดังนั้น  IPV ชุด ที่สองจึงมีความเป็นไปได้สูงขึ้นเรื่อยๆครับ    

  ผมว่าป่านนี้รัฐบาลรับปากทร.ไปเรียบร้อยแล้วเรื่องการขยายอู่ราชนาวี   เพราะทร.ตัดสินใจเร็วและเด็ดขาดฟันธงมาก

  ถ้าเคลียร์เรื่องโปรเจคเรือฟรีเกต Hi-end และ เรือ  OHP  ได้เร็ว    ก็น่าจะสามารถวางแผนงานการใช้งบประมาณ ใน 5-6 ปีถัดไปได้เร็วครับ    และต้องทุ่มการจัดหาเรือดำน้ำให้เร็วที่สุด   เพราะมีความจำเป็นสูงสุด

 

 สงสัย Harrier2+  คงต้องรอนานหน่อย  สัก 5 ปีแหง๋ๆ   ยังไงสถานะการณ์ตอนนี้เรือดำน้ำสำคัญกว่ามาก    ถ้าเรือดำน้ำแป๊กอีก    ทร.ต้องเอางบนั้นไปจัดหาเรือฟรีเกต Hi-end ชุดที่สองอีกอย่างน้อย 3 ลำ  มาอุดช่องว่างครับ


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 07/02/2013 09:35:36


ความคิดเห็นที่ 35


ถ้าเมื่อมองถึง งบประมาณประจำปี ของ ทร. นะครับ...

ถ้า ทร. เลือกจัดหา เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ในปีนี้...

ทร. จะจัดหา เรือดำน้ำ ได้ ถ้าเป็น มือหนึ่ง ก็ต้องหลังปี 2561 ครับ...

เพราะถ้าเรา ถัวเฉลี่ย มูลค่า ลำละ 15,000 ล้านบาท ออกเป็น 3 ปี คือ งบประมาณผูกพันที่เพิ่มขึ้นของ ทร.ปีละ 5,000 ล้านบาท จาก กรอบงบประมาณของปี 2556 นะครับ...ซึ่งตอนนี้ ก็ยังไม่รู้ว่า เงื่อนไขการชำระหนี้ แบ่งการชำระเป็นอย่างไรบ้างครับ...

ปัจจุบัน กรอบงบประมาณปกติของ ทร. ที่มีงบประมาณผูกพันในการจัดหาอาวุธใหม่อยู่ประมาณ 5,000 - 6,000 ล้านบาท ครับ...

ส่วนที่เหลือ จะเป็นงบประมาณ ค่าใช้จ่ายปกติ และ งบประมาณลงทุนอื่น ๆ ประมาณ 29,000 ล้านบาท ครับ...ปี 2556 งบประมาณ ทร. ประมาณ 35,000 ล้านบาท

ซึ่ง ถ้า รัฐบาล คิดงบประมาณ การจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูงนี้ เป็นงบประมาณแยกต่างหาก จาก กรอบงบประมาณปกติปีก่อน...

งบประมาณปี 2557 ทร. น่าจะมี กรอบงบประมาณ ประมาณ 39,000 - 40,000 ล้านบาท...

แต่ถ้า กรอบงบประมาณปี 2557 ของ ทร. อยู่ประมาณ 38,000 ล้านบาท...ก็ เท่ากับว่า ทร. อาจจะต้อง ระงับ โครงการอื่น ๆ บางโครงการที่ต้องการออกไปก่อน...ครับ...เพราะมันมี งบประมาณ โครงการปรับปรุงเรือฟริเกต ชั้น นเรศวร กับ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ทับกันอยู่เป็นงบประมาณก้อนใหญ่...

และโครงการที่ เลื่อนออกไปนี้...มันก็จะต้องไปดำเนินการในปีต่อ ๆ ปีอีก...ซึ่ง โครงการอื่น ๆ เหล่านี้ ก็มีความจำเป็นเช่นกัน...

และในปีที่ 2558 หรือ  2559...มันก็จะมี งบประมาณจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ที่เหลื่อม หรือ ด้บเบิ้ล กันอยู่ ระหว่าง ลำที่ 1 กับ ลำที่ 2 ครับ...

โครงการเรือดำน้ำ ถ้าเป็น มือหนึ่ง...ผมมองว่า คงต้องหลังปี 2561 เป็นต้นไปครับ...ถ้า ทร. เลือกการจัดหา เรือฟริเกตสมรรถนะสุง เป็นที่แน่นอนแล้ว....

ผมเลย เก็ง ว่า...ถ้า พม่า ออกข่าว การจัดหาเรือดำน้ำ เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้...อาจจะเป็น ตัวแปร ให้เปลี่ยนโครงการ จัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูง เป็น เรือดำน้ำ ได้เหมือนกันครับ...

 

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 07/02/2013 09:52:25


ความคิดเห็นที่ 36


 พิมพ์ผิดครับต้องบอกว่า


ดังนั้น  OPV ชุด ที่สองจึงมีความเป็นไปได้สูงขึ้นเรื่อยๆครับ 

 

 ที่บอกว่า OPV ชุดที่ สอง มีความเป็นไปได้มากขึ้น  เพราะมาเลย์และพม่าครับ  มาเลย์มีแผนจะจัดหา OPV ชุดที่สองอีก 6 ลำ ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า   ยกเว้นมาเลย์จะทุ่มงบประมาณสุดตัวเพื่อจัดหาเรือดำน้ำอีก 2 ลำ ให้ได้เร็วที่สุดครับ   ส่วนพม่าก็เรือคอร์เวตแบบใหม่ทยอยออกมาแล้ว    เวียตนามด้วย 

 

  ถ้าต้องจัดหา OPV เป็นชุดที่สองด้วย  ต่อจากชุดแรก  และต้องพร้อมต่อเรือฟรีเกต Hi-end  อีก 2 ลำที่เหลือ    แบบนี้อู่ราชนาวีเดิมจะไม่สามารถรับงานได้อีกต่อไปครับ    ดังนั้นน่าจะต้องหาเงินเพื่อทำการชยายอู่ระหว่างที่เรือฟรีเกตลำแรกทำการต่ออยู่ที่ประเทศผู้ผลิต   ซึ่งใช้เวลา 2-3 ปี   ซึ่งมีเวลามากพอที่จะขยายอู่ราชนาวีให้แล้วเสร็จได้ครับ

 สงสัยรัฐบาลรับปากทร.ในเรื่องการให้งบสำหรับขยายอู่ราชนาวีจริงๆซะแล้วนะครับ    มิน่าผู้ใหญ่ระดับสูงใ่ายการเงินการคลังรัฐบาลถึงได้ไปเยี่ยมฐานทัพเรือสัตหีบ    กะแล้วคงไม่ไปปล่อยปลาปล่อยเตาและดำน้ำเล่นแน่ๆ

 



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 07/02/2013 09:59:18


ความคิดเห็นที่ 37


ดราม่ากันยาวเลยเรื่องนี้.....

 

ดีครับ สนุกดี ได้เห็นความคิดในหลายๆมุมดี

โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 07/02/2013 10:05:53


ความคิดเห็นที่ 38


  

     การวิเคราะห์ของผมไม่ได้ขึ้นกับกรอบงบประมาณที่ผ่านมาครับ   มีแนวโน้นว่างบประมาณของทร.จะได้รับเป็น % ที่เพิ่มขึ้นมาสูงพอควรในอีก 5-6 ปีข้างหน้า   

    เพราะผมเชื่อว่าฝ่ายการเมืองซีกนี้ต้องการจะเพิ่มงบประมาณให้ทร.มากขึ้นในอัตราสูงกว่ายุคการเมืองอีกซีก   เพราะต้องการปกป้องผลประโยชน์ทางทะเล  และหวังผลการเมืองภายในประเทศด้วย    ดูจาก 7-8 ปีก่อนได้ครับ    ทั้งแผนการจัดหาเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ     แผนการจัดหาเรือบรรทุกบ.เบาลำที่สอง   เรือดำน้ำ   Harrier-GR   LPD

   ดังนั้นเมื่อกลับมามีอำนาจอีกครั้ง   จึงมีความเป็นไปได้สูงขึ้นเรื่อยๆว่างบประมาณในส่วนของทร.จะเพิ่มขึ้นมากในเวลาสั้นๆครับ

2-3 ปีก้รู้แล้วครับว่าทร.จะได้งบแบบไหนอย่างไร  

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 07/02/2013 10:08:35


ความคิดเห็นที่ 39


ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจว่า ทร. จะพิจารณาเรื่อง เรือดำน้ำใหม่ หลังปี 2560 ครับ

(กว่าจะเลือกแบบ สรุปงบประมาณ สั่งสร้าง เข้าประจำการ ไม่ต่ำกว่า 10 ปีแน่นอน)

โดยคุณ MIGGERS เมื่อวันที่ 07/02/2013 13:52:48


ความคิดเห็นที่ 40


ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะแยกโครงกางการฟรีเกตออกจากเรือดำน้ำนะครับหยังไงมันก็คนละบทบาทหน้าที่หากรอหลังปี2560คงจะช้าไปยังไงผมว่าทรคงต้องดิ้นรนมีเรือดำน้ำไว้ให้เร็วที่สุดอย่างช้าในสองปีนี้ควรมีความชัดเจนมากขึ้นไม่แน่ว่าในดีลฟรีเกตอาจแถมเรือดำน้ำตามเป็นน้ำจิ้มกันลืมกันก็ได้

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 07/02/2013 16:11:06


ความคิดเห็นที่ 41


สำหรับผมถ้าเป็น ทร. ผมต้องการความแน่ใจว่าโครงการเรือฟริเกตต้องสำเร็จ และโครงการเรือดำน้ำก็ต้องสำเร็จด้วย ดังนั้นเพื่อรับประกันความสำเร็จ ผมจะยอมเอาเรือฟริเกตเกาหลีเพียง 2 ลำ ราคาน่าจะประมาณ 20000-24000 ล้านบาท แล้วเงินที่เหลือ 6000 ล้านบาท ต่อรองเกาหลีขอซื้อเรือดำน้ำ U209 มือสอง 1 ลำ โดยเงื่อนไขยอมให้ต่อเรือในเกาหลีทั้งหมดแต่ขอลิขสิทธิ์ต่อเรือฟริเกตลำที่ 3 4 สำหรับในอนาคตในประเทศไทย  อย่างนี้น่าจะรับประกันได้ว่าในอนาคตน่าจะมีเรือดำน้ำลำที่ 2 3 4 ตามมา  แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าในอนาคตรัฐบาลจะยอมจัดงบประมาณให้มีเรือดำน้ำหรือไม่ ครับ  แบบนี้ win-win ทุกฝ่าย

ที่เสนออย่างนี้ใช่ว่าจะชอบเกาหลีน่ะครับ แต่ผมเอาความจำเป็น ความเร่งด่วน ความเป็นไปได้ งบประมาณ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐมาเป็นตัวตั้ง ครับ

ส่วนของจีนผมก็ชอบมากตรงที่ได้เรือเยอะ แลกสินค้าเกษตรได้ถ้าร้องขอ แต่คุณภาพเรือและความขัดแย้งในภูมิภาคคือปัญหา

ส่วนสิงค์โปร์ก็ชอบคุณภาพเรือ ความประหยัด แต่ขาดเรือดำน้ำ

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 07/02/2013 16:23:40


ความคิดเห็นที่ 42


 ประเทศในอาเซียนที่ยังไม่มีเรือดำน้ำ

๐ ฟิลิปปินส์

๐ ไทย

Q บรูไน

๐ พม่า

๐ ติมอร์ตะวันออก

๐ ลาว

๐ กัมพูชา

เห็นชื่อประเทศเหล่านี้แล้ว  ไม่อยากเชื่อเลยว่า ประเทศเรายังไม่มีเรือดำนิ้า(ปัจจุบัน)


โดยคุณ kabinblade เมื่อวันที่ 07/02/2013 19:07:51


ความคิดเห็นที่ 43


ม้ามืด ขำๆครับ ฝันว่าอีกสิบปีกองทัพเรือจะมีรุ่นนี้ใช้

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 07/02/2013 20:15:40


ความคิดเห็นที่ 44


Type 054 มีระวางขับน้ำ 4,000 ตัน ยาว 135 ม. 

เครดิตรhttp://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=399:defense-news-around-the-world-4-10feb56&catid=3:defense-news&Itemid=3

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 07/02/2013 20:29:28


ความคิดเห็นที่ 45


ท่าน neosiamese ครับ AV-8B plus ลืมกันได้แล้วครับ ไม่มีโครงการจัดหาแน่นนอนครับ  สำหรับ ทร.บังคลาเทศจะจัดหาเรือดำน้ำ นั้นก็เนื่องมาจากการที่ ต้องเร่งเสริมสร้างกำลังทางเรือให้ สมดุลกับ ทร.พม่า ตามที่คุณ Juldas กล่าว

     เพียงแต่สาเหตุจริงๆคือ เร่งตามพม่าให้ทันในเรื่องเรือดำน้ำครับ เพราะพม่าเริ่มโครงการจัดหาเรือดำน้ำมาหลายปีแล้ว โดย ทร.พม่าส่งกำลังฝึกที่ สปจ.และรัสเซีย รวมถึงเริ่มการก่อสร้างฐานทัพสำรับเรือดำน้ำแล้วครับ

โดยคุณ FatBoy เมื่อวันที่ 07/02/2013 22:48:33


ความคิดเห็นที่ 46


อย่างเห็น นายกรัฐมนตรีหญิง ของ ไทย คนแรก...ได้ กล่าวแบบนี้ บ้างจัง...

 

Navy to get submarine soon: Hasina

Country-made BNS Padma commissioned

PrintDecrease Font SizeIncrease Font Size

Reported by: UNBConnect
Reported on: January 24, 2013 14:39 PM
Reported in: National
News - Navy to get submarine soon: Hasina
Khulna, Jan 24 (UNB) – Prime Minister Sheikh Hasina on Thursday said a submarine having base facilities would be commissioned in the Bangladesh Navy very soon to turn it into a ‘Deterrent Force’.
“Inshallah, we’ll be able to build a modern tri-dimensional naval force for the future generation, which will be able to face challenges in its own maritime during any war or aggression,” she said.

The Prime Minister said this at a function marking the commissioning of ‘BNS Padma’, the first country-made warship at Naval Base Titumir.

Hasina also called upon the country’s naval force to remain prepared to face any kind aggression in its maritime boundary in protecting the interest of the country.

The Prime Minister said steps have been taken to build Navy’s own air base at the Harbour, berthing in ships, training school as well as accommodation for sailors and officers of Navy. Besides, a special force SWADS has been formed to face violence in the country’s maritime areas, she said.

Hasina said her government is firmly committed to further developing and modernising the Navy in the future to protect the country’s sea resources through round-the-clock patrolling as well as resisting arms trafficking and smuggling.

Mentioning that new economic and military power has been expanding around the Bay of Bengal, Sheikh Hasina said adding that the movement of commercial ships is increasing significantly in India, Myanmar and China alongside Bangladesh.

She said that foreign trade would expand significantly through sea routes as the government is going to set up a deep seaport at Sonadia.

Besides, Hasina mentioned that her government has already opened Chittagong and Mongla Port for neighboring counties aiming to enhance political, economic and diplomatic cooperation with them.

In this context, she stressed the need for a strong naval force to ensure security of the country’s maritime.

Recalling the contributions of Father of the Nation Bangabandhu Sheikh Mujibur Rahman in establishing a modern, capable and efficient Naval Force, the Prime Minister said he had collected a number of patrol crafts, including Padma, Palash, Teesta and Karnafuli from India and Yugoslavia.

Following the farsighted leadership of Bangabandhu, the Prime Minister said, it had been possible to raise the justified demand relating to maritime of the country. Bangladesh was the first country that enacted Territorial Waters and Maritime Zone Act 1974.

Referring to the maritime boundary verdict victory at the International Tribunal- ITLOS, Sheikh Hasina said the responsibility of the Navy has significantly increased in ensuring security and protecting sovereignty as well as collecting fishes, exploring mineral resources in the huge water area of the sea.

The Prime Minister said her government has undertaken short and long-term plans to be implemented by 2020 to make Bangladesh Navy a more effective force.

As part of the short-term plan, two helicopters and missiles have been procured to make ‘BNS Bangabandhu’ fully operational.

Hasina mentioned that three ships were procured as well as a number of modern boats and ship destroyable new missiles have been added to the Navy fleet in the last fiscal.

Due the efforts of the present government, the premier said, a Frigate and a Large Patrol Craft of Bangladesh Navy have joined the UN Mission for the first time at UNIFL in Lebanon as part of establishing world peace.

She hoped that members of the Navy would continue to work with utmost sincerity, dedication and efficiency as well as maintaining discipline and chain of command upholding the dignity of the country’s naval force in the world arena.

Earlier on her arrival at the naval base, the Prime Minister was received by Chief of Naval Staff Admiral Zahir Uddin Ahmed and Commodore, Commanding Khulna, Commodore MA Razib.

Later, a smartly-turned out contingent of Bangladesh Navy gave a guard of honour to the Prime Minister. She inspected the guard and took salute.

At the function, Hasina handed over the ‘Commissioning Warrant’ to commander of the ship Lt Commander Shafiul Azam. She also visited the ship.

The newly-built BNS Padma, which is 50-meter long and 7.5-meter wide, is capable of running at 44 kilometer per hour. Four 37-millimeter and two 20-mm cannons have been added to the ship to resist land and air attacks.

Besides, the ship is capable of setting up mines in the sea and rivers effectively to check intrusion of enemies.

During the peace time, the ship would be engaged in security patrolling activities in southwestern coastal Sundarbans and related maritime areas under the Khulna Navy command.

Cabinet members, lawmakers, diplomats and high civil and military officials were also present on the occasion.

After assuming office by the present government in 2009, an agreement for purchasing and constructing 11 warships was signed to establish Bangladesh Navy as more efficient force.

As part of it, the Prime Minister set up structures of five warships at Khulna Shipyard run by Bangladesh Navy on March 5 last year. Of them, one ship, BNS Padma, was added to the Navy fleet today after commissioning
แปลได้ ประมาณนี้ ล่ะมั๊งครับ
Khulna 24 ม.ค. (UNB) – เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีชีค Hasina กล่าวว่า เรือดำน้ำที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานจะได้รับหน้าที่ในกองทัพเรือบังคลาเทศเร็ว ๆ นี้ เพื่อจะเป็น‘Deterrent Force’

"Inshallah เราจะให้กองทัพเรือมีความทันสมัย ในการรบแบบ 3 มิติ สำหรับคนรุ่นอนาคตซึ่งจะสามารถที่จะเผชิญกับความท้าทายในการเดินเรือของตัวเองในช่วงสงครามหรือรุกราน" เธอกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในการประจำการ BNS Padma, เรือรบที่สร้างจากอุตสาหกรรมภายในประเทศเป็นครั้งแรกที่ฐานทัพเรือ Titumir

Hasina ยังเรียกร้องให้กองทัพเรือของประเทศ ให้เตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้าการรุกรานใด ๆ ในทะเลอาณาเขตในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ

นายกรัฐมนตรีกล่าว ตามขั้นตอนที่ได้รับการสร้างฐานทัพอากาศของกองทัพเรือของตัวเองที่ท่าเรือ, berthing ในโรงเรียนฝึกอบรมนายเรือเป็นอย่างดีเป็นที่พักสำหรับลูกเรือและเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือ นอกจากนี้กองกำลังพิเศษ SWADS ได้รับการขึ้นที่จะเผชิญกับความรุนแรงในพื้นที่ในทะเลของประเทศที่เธอกล่าวว่า

Hasina กล่าวว่ารัฐบาลของเธอมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาและการ modernizing กองทัพเรือในอนาคตที่จะปกป้องทรัพยากรทางทะเลของประเทศผ่านการลาดตระเวนตลอดเวลาเช่นเดียวกับการต่อต้านการค้ามนุษย์และลักลอบ

การกล่าวขวัญว่าอำนาจทางเศรษฐกิจและการทหารใหม่ได้รับการขยายไปรอบ ๆ อ่าวเบงกอล  Sheikh Hasina กล่าวเสริมว่าการเคลื่อนไหวของเรือพาณิชย์จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอินเดียพม่าและจีน ข้างบังคลาเทศ

เธอบอกว่าการค้าต่างประเทศจะขยายอย่างมีนัยสำคัญผ่านเส้นทางทะเลเป็นรัฐบาลจะตั้งขึ้นที่ท่าเรือน้ำลึก Sonadia

นอกจากนี้ Hasina กล่าวว่ารัฐบาลของเธอได้เปิด ความสัมพันธ์กับจิตตะกองและ Mongla พอร์ต สำหรับจังหวัดใกล้เคียงมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการเมืองเศรษฐกิจและการทูตกับพวกเขา

ในบริบทนี้เธอเน้นถึงความจำเป็นสำหรับกองทัพเรือที่แข็งแกร่งเพื่อความปลอดภัยของการเดินเรือของประเทศ

นึกถึงผลงานของพระบิดาของประเทศ Bangabandhu Sheikh Mujibur Ra​​hman ในการจัดตั้งกองทัพเรือที่ทันสมัย​​ที่มีความสามารถและมีประสิทธิภาพ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเขาได้รวบรวม จำนวนเรือลาดตระเวน จำนวนหนึ่ง รวมทั้ง Padma, Palash, Teesta และ Karnafuli จากอินเดียและยูโกสลาเวีย

ตามเจตนารมณ์ผู้นำมองการณ์ไกลของ Bangabandhu ที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มันจะได้รับการยกระดับความต้องการที่เกี่ยวข้องกับ การคุ้มครองการเดินเรือของประเทศ บังคลาเทศ ในเขตน่านน้ำและการเดินเรือโซน Act 1974

หมายถึงเขตแดนทางทะเล ที่รอคำตัดสินชัยชนะในศาลระหว่างประเทศ-ITLOS ชีค Hasina กล่าว ความรับผิดชอบของกองทัพเรือได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการสร้างความมั่นใจการรักษาความปลอดภัยและการปกป้องอธิปไตยเช่นเดียวกับการจัดเก็บภาษีปลา สำรวจแหล่งแร่ในพื้นที่น้ำขนาดใหญ่ของทะเล

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลของเธอได้ดำเนินการแผนระยะสั้นและระยะยาวที่จะดำเนินการในปี 2020 ที่จะทำให้กองทัพเรือบังคลาเทศกำลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะสั้น คือ การจัดหาเฮลิคอปเตอร์สองลำและขีปนาวุธ ให้ BNS Bangabandhu อย่างเต็มที่

Hasina บอกว่าเรือสามลำถู​​กจัดหา เช่นเดียวกับ จำนวนของเรือที่ทันสมัย ​​และการจัดหาขีปนาวุธใหม่ เพิ่มอำนาจการทำลายได้อย่างรวดเร็วของกองทัพเรือในช่วงปีงบประมาณ

เนื่องจากความพยายามของรัฐบาลชุดปัจจุบันนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเรือรบและเรือลาดตระเวนขนาดใหญ่ของบังคลาเทศกองทัพเรือได้เข้าร่วมภารกิจของสหประชาชาติเป็นครั้งแรกที่ UNIFL ในเลบานอนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสันติภาพของโลก

เธอหวังว่าสมาชิกของกองทัพเรือจะยังคงทำงานด้วยความจริงใจสูงสุดทุ่มเทและมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการรักษาและระเบียบวินัยห่วงโซ่ของคำสั่งการส่งเสริมศักดิ์ศรีของกองทัพเรือของประเทศในเวทีโลก

ก่อนหน้านี้เมื่อเธอมาถึงที่ฐานทัพ, นายกรัฐมนตรีที่ได้รับการต้อนรับจากผู้บัญชาการกองทัพเรือ พลเรือเอกซาฮีร์  Uddin อาเหม็ดและพลเรือจัตวา, Khulna บังคับบัญชาพลเรือจัตวาซาชูเซตส์ Razib

ต่อมา กองทัพเรือบังคลาเทศได้จัดกองเกียติยศ ให้แก่ นายกรัฐมนตรี

ที่ฟังก์ชั่น, Hasina ได้ส่ง ใบสำคัญแสดงการขึ้นประจำการ ให้ผู้บัญชาการเรือ Shafiul Azam  และเธอยังเยี่ยมชมเรือ

ที่เพิ่งสร้างใหม่ BNS Padma มีความยาวเรือ 50 เมตร และกว้าง 7.5 เมตร ที่มีความเร็วที่ 44 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งปืน 37 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก และปืน 20 มม. จำนน 2 กระบอก ในอนาคตจะมีเพิ่มประสิทธิภาพการต่อต้านการโจมตีบก และทางอากาศ

นอกจากนี้เรือที่มีความสามารถในการต่อต้านทุ่นระเบิดในทะเลและแม่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบการบุกรุกของศัตรู

ในช่วงเวลาสงบ เรือจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยในทางตะวันตกเฉียงใต้ Sundarbans ชายฝั่งทะเลและพื้นที่ในทะเลที่เกี่ยวข้องภายใต้คำสั่งของกองทัพเรือ Khulna

สมาชิกคณะรัฐมนตรีฝ่ายนิติบัญญัตินักการทูตและเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารก็ยังสูงในปัจจุบันในโอกาส

หลังจากสมมติสำนักงานโดยรัฐบาลชุดปัจจุบันในปี 2009 ข้อตกลงในการซื้อและการสร้างเรือรบ จำนวน 11 ลำ ได้เพื่อสร้างกองทัพเรือบังคลาเทศให้มีความแข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี เป็นส่วนหนึ่งของการขึ้นโครงการสร้างเรือรบ จำนวน 5 ลำ ที่ใช้อู่ต่อเรือ Khulna กองทัพเรือบังคลาเทศ เมื่อวันที่ 5 มีนาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งเรือ BNS Padma ก็เป็นหนึ่งในนั้น และส่วนที่เหลือจะถูกสร้างเพิ่มอย่างรวดเร็วหลังจากการขึ้นประจำการแล้ว

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 08/02/2013 08:57:56


ความคิดเห็นที่ 47


เชื่อว่าเราต้องได้เห็นครับ

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 08/02/2013 10:30:04


ความคิดเห็นที่ 48


  ขอบคุณครับท่าน Fatboy  เป็นอันว่าจบดีลเรือฟรีเกตเมื่อไหร่   พวกเราได้ลุ้นเรือดำน้ำกันอีกรอบแน่อย่างนี้    คงตัดทุกรายการเพื่อมัน   ผมคอยเอาใจช่วยนะครับ   หวังว่ารอบนี้น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี   อยากได้รวดเดียว 4 ลำเลย 55555  ฝันจัง   แต่ถ้าได้ก็เอานะ   ดี

  เรื่อง Harrier 2+ ช่างมันก่อนก็ได้ครับ  ตอนนี้เรือดำน้ำสำคัญที่สุด  จะเกาหลี  จะเยอรมันก็ได้ทั้งนั้นแล้วครับ  ขอให้ได้มาก่อน

 

ปล. เสียดาย OHP 2 ลำ นี้ขาดใจครับ    แต่ช่างมัน  ถ้าทำให้ทร.สามารถมีงบเพื่อดันโครงการเรือดำน้ำได้อีกรอบภายใน 2-3 ปี ข้างหน้าที่จะถึงนี้ครับ


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 09/02/2013 23:55:35


ความคิดเห็นที่ 49


  OHP 2 ลำ พร้อม ฮ.ประจำเรือ  ก็ตกประมาณ 12,000 -14,000 ล้าน

  Harrier2+ อีกอย่างน้อย 8-12 เครื่อง พร้อมเครื่องที่มาทำอะไหล่  ก็น่าจะไม่น้อยกว่า 6000-9000 ล้านบาท

 Super Tucano อีก 12-16 เครื่อง  อีกสัก 4-5 พันล้าน 

 LPD ลำที่สอง อีกกว่า 5000 ล้าน

     ตัดทุกรายการหมด   น่าจะจัดหางบมาสำหรับเรือดำน้ำได้ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านก่อนปี 60 นะครับ   ลุ้นกันอีกรอบ   ถ้าทร.ไม่ได้งบประมาณเป็น % ที่สูงขึ้นในระยะ 5 ปีที่จะถึงนี้   สงสัยถ้าจัดหาเรือดำน้ำได้จริง   งบประมาณจะตึงตัวไปอีก 10 ปีทีเดียว   รายการที่เหลือคงต้องลืมสนิท

 

  ได้ข่าวว่าท่านชวลิตจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกครั้ง    อยากให้ท่านกลับมาจัง   ถ้าท่านกลับมา   ทร.น่าจะสามารถของบประมาณสำหรับทร.ได้ราบลื่นกว่านี้มาก    อยากให้ท่านผลักดันแผนเก่าๆของทร.กลับมาอีกครั้งครับ  แบบว่ามีงบนอกสนับสนุน  % งบสำหรับทร.พุ่งพรวดๆเหมือนยุคท่านเป็นนายก 


 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 10/02/2013 00:49:26