หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ไม่มีใครคิดจะสดุดดีวีรชนกันเลยหรืออย่างไร

โดยคุณ : น่าคิด เมื่อวันที่ : 05/02/2013 18:19:11

ขณะโพส เวลา 00.15 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 56

ขึ้นต้นแบบ ล่อเป้า แบบนี้ผมไม่ทำมาหลายปีแล้ว แต่ครั้งนี้อดไม่ได้จริงๆ

บอร์ดนี้รู้กันว่า พูดถึงเรื่องทางทหาร แทบทุกเรื่อง

แต่เมื่อวาน วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 56 วันทหารผ่านศึก

ไม่มีสมาชิกคนไหน โพสเรื่องนี้ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อสดุดีทหารกล้า

ทั้งที่เสียชีวิตไปแล้ว และทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ หดหู่....

รถถัง เครื่องบิน เรือรบ มันก็แค่เศษเหล็กถ้าไม่มีทหาร

บรรเจิดดีแท้

รู้แบบนี้โพสตั้งเช้าก่อนไปทำงานซะก็ดี

-----------------

 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือหลังสงครามมหาเอเซียบูรพาสิ้นสุดลง มีทหารไทยจำนวนมากที่ถูกปลดปล่อยจากการเป็นทหาร จึงได้มีเสียงเรียกร้องขอให้ทางการพิจารณาให้ความช่วยเหลือดังนั้น ในปี พ.ศ.2490 กระทรวงกลาโหมอันเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านนี้โดยตรง จึงได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ทหารที่ กลับจากปฏิบัติการรบ และช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในการรบแต่ก็ยังเป็นหน่วยงานที่ไม่เป็นทางการ
             ต่อมากระทรวงกลาโหมได้เสนอพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกขึ้น โดยได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาล และได้มีการประกาศไว้ใน
             ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2491 จึงได้ยึดเอาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก โดยมี พลโท ชมะบูรณ์ ไพรีระย่อเดช เป็นผู้อำนวยการคนแรก ในปี พ.ศ.2510 องค์การทหารผ่านศึกได้ปรับเปลี่ยนฐานะมาเป็นองค์การเพื่อการกุศลของรัฐ และเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยได้รับเงินอุดหนุนจากกระทรวงกลาโหมและเงินที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นครั้งคราว ภารกิจหลักขององค์การทหารผ่านศึก ได้แก่ การให้การสงเคราะห์แก่ทหารที่ผ่านการปฎิบัติการรบ และครอบครัวของทหารที่ปฏิบัติการรบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ประเภท คือ

1.    การสงเคราะห์ทางด้านสวัสดิการ เป็นการให้การสงเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องทั่วๆ ไป ที่อยู่อาศัย การศึกษา ตลอดจนให้ความช่วยเหลือด้านอวัยวะเทียม
2.    การสงเคราะห์ทางด้านอาชีพ โดยการฝึกอบรมและการฝึกอาชีพ ให้ความช่วยเหลือในทางด้านการทำงาน จัดหางานให้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
3.    การสงเคราะห์ด้านนิคมเกษตรกรรม จัดสรรที่ทำกินในด้านเกษตรกรรมให้ และให้ความช่วยเหลือทางด้านเครื่องมือและวิชาการ
4.    การสงเคาระห์ด้านกองทุน โดยการจัดหาเงินทุนให้สมาชิกขององค์การทหารผ่านศึกได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ
5.    การสงเคราะห์ด้านการรักษาพยาบาลให้แก่สมาชิก โดยไม่คิดมูลค่า
6.    ให้มีการส่งเสริมสิทธิของทหารผ่านศึก โดยการขอสิทธิพิเศษในด้านต่างๆ ให้แก่ทหารผ่านศึก เช่น การขอลดค่าโดยสาร เป็นต้น

  ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ของทุกปี ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารผู้เสียสละแม้กระทั่งชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยและอธิปไตยของชาติ ดอกป๊อปปี้ สีแดง นั้น เป็นสัญลักษณ์แทน ทหารผ่านศึก ผู้พิทักษ์รักษาประเทศชาติให้มีเอกราชอธิปไตย สีแดงของดอกป๊อปปี้ คือ เลือดของทหารหาญที่ได้หลั่งชโลมแผ่นดินไว้ด้วยความกล้าหาญ เสียสละอันสูงสุด ดังนั้นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่เราทั้งหลายจะได้เห็นดอกป๊อปปี้บานสะพรั่งไปทั่วราชอาณาจักร

              สำหรับประเทศไทยแล้ว การจัดทำดอกป๊อปปี้เพื่อจำหน่ายในวันทหารผ่านศึกเกิดจากดำริของ ท่านผู้หญิง จงกล กิตติขจร ประธานสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก หรือมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในปัจจุบัน ที่ต้องการจะดำเนินการหาทุนมาช่วยเหลือทหาร และครอบครัวทหารผ่านศึก ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศจึงได้เลือกเอาดอกป๊อปปี้สีแดง ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ส สมรภูมิเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ระหว่างสัมพันธมิตร และเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสงครามในครั้งนั้นทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด จอมพลเอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่นได้เห็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวงและน่าพิศมัยเกิดขึ้น ณ สมรภูมิดังกล่าว ในบริเวณหลุมฝังศพทหาร โดยมีดอกป๊อปปี้ป่าขึ้นอยู่เดียรดาษทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานสวยงาม ตั้งแต่นั้นมาดอกป๊อปปี้จึงกลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึก เตือนใจให้ระลึกถึงเลือดสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ

              สำหรับประเทศไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามต่างๆ มาแล้ว โดยมีอนุสาวรีย์เชิดชูเกียรติ ปรากฎเป็นอนุสรณ์อยู่ วีรกรรมของนักรบไทยในการรบได้ขจรขจายไปทั่ว ปรากฎ ต่อสายตาชาวโลก ฉะนั้น เพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบกล้าหาญ จึงได้กำหนดให้ดอกป๊อปปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึกไทยเช่นเดียวกับในต่างประเทศ และมีการจำหน่ายในวันที่ระลึกทหารผ่านศึก ตั้งแต่ปี 2511 เป็นต้นมา  นับเป็นโอกาสอันดีที่เราท่านทั้งหลายจะได้แสดงความระลึกถึง และช่วยเหลือทหารผ่านศึกและครอบครัว ด้วยการซื้อดอกป๊อปปี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึก ผู้กล้าหาญ และเสียสละ ตลอดจนเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีและวีรกรรมของเหล่าทหารหาญที่ทำให้เราอยู่กันอย่างสงบสุขบนผืนแผ่นดินไทย และมีอธิปไตยมีชาติ บ้านเมือง ให้ได้อยู่อาศัย ตราบชั่วลูกชั่วหลานจวบจนปัจจุบัน

http://www.lib.ru.ac.th/journal/feb/feb03-VeteranDay.html

 

 





ความคิดเห็นที่ 1


เสียใจจริงๆครับที่ทำให้ ท่าน น่าคิดรู้สึกเช่นนั้น ผมเองก็สำนึกถึงเหล่าวีรชนเสมอแม้จะไม่ได้โพสแสดงข้อความใตๆ แต่สองสามวันก่อนผมก็ร่วมซื้อดอก ป๊อปปีหมดไปหลายตังเหมือนกันแม้จะเป็นแค่สิ่งเล็กน้อยที่จะตอบแทนเหล่าผู้กล้า ผมเองก็คิดว่าสมาชิกท่านอื่นก็คงมีไม่น้อยที่ทำเช่นกัน หวังว่าท่านน่าคิด จะรู้สึกดีขึ้นบ้างนะครับ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 04/02/2013 00:58:40


ความคิดเห็นที่ 2


ครับ เราต้องสำนึก และ ต้องเปลี่ยน ทัศนคติ กันแล้วครับ...

 

ขอบพระคุณ วีรชน และ เราต้องสำนึก ครับ....

โดยคุณ nidoil เมื่อวันที่ 04/02/2013 08:07:37


ความคิดเห็นที่ 3


หง่า อันนี้น่าจะพลาดกันไปครับ 

แต่วันครู ก็ไม่เห็นมีกระทู้เชิดชูคุณครูเหมือนกันแหละครับ ทหารก็ต้องมีครูเหมือนกันจริงไหมครับ

ครั้งต่อไป วันมาฆบูชา ก็เกี่ยวนะครับ เพราะ คำขวัญกองทัพไทย คือ เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน อย่าลืมตั้งกระทู้สดุดีพระศาสนานาครับ

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 04/02/2013 09:40:20


ความคิดเห็นที่ 4


ไม่มีไครลืมหรอกครับ เพียงแต่ว่าไม่แสดงออกกันเท่านั้นเอง  

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 04/02/2013 10:16:38


ความคิดเห็นที่ 5


ไม่ค่อยมีความภาคภูมิใจในความเป็นทหารไทยไงครับ 

อาวุธก็ใช้ของต่างชาติ แม้กระทั่งปืนเล็กก็ยังใช้ของต่างชาติ  

 

การจะปลุกให้คนรักชาติ รักความเป็นทหารได้ ต้องมีชาตินิยมสูงๆ 

เรื่องการใช้สื่อทำให้คนต้องการรับใช้ชาติและต้องการเป็นทหาร มีความภาคภูมิและซาบซึ้งในความเสียสละของทหาร อเมริกาถนัด ผู้นำทหารไทยควรไปดูบ้าง

ภาพที่ออกมา ทหารอเมริกันใช้อาวุธปืนอเมริกันสู้ศึกจนเสื้อผ้าขาดวิ่น มันปลุกใจคนอเมริกันมาก คนไปสมัครเป็นทหารกันเพียบ

แม้แต่คนที่ไม่ได้เป็นทหารเพราะไม่กล้าหรือคุณสมบัติไม่ได้ ก็พยายามสนับสนุนทหาร 

แต่ภาพของทหารไทยคือการเกณฑ์ทหาร ถอดเสื้อนั่งเรียงกันเป็นตับเขียนตัวเลข ดูทุเรศทุรัง

บ้างไปบนบานให้จับได้ใบดำ บ้างก็จับได้ใบแดงถึงกับร้องให้ออกมา ดูน่าสงสาร 

ที่ไปรบเนี่ยไปเพราะรักชาติหรือถูกบังคับเกณฑ์ไป 

อาวุธใช้ของต่างชาติ รบไปรบมากระสุนหมด ต้องบากหน้าไปซื้ออาวุธจีนแดง คุณภาพเหลือรับประทานยิงปืนครกกระสุนระเบิดใส่ตัวเองตาย 

 

ทหารไทยควรคิดใหม่ทำใหม่ ถึงจะซื้ออาวุธนอกที่ทันสมัยไฮเทคและแพงขนาดไหน มันไม่น่าภาคภูมิใจมากเท่าอาวุธเล็กๆที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซักชิ้น

ผมเล่นยูทูปดูคลิปไปเรื่อยๆเจอว่ามีปืนชื่อ Siamese Mauser แม้ว่าเราไม่ได้ทำเองหรือคิดเอง แต่การมีชื่อประเทศเราแปะอยู่ทำให้รู้สึกประหลาดใจแกมภาคภูมิใจ 

ประเทศเราจะมีแบบนี้อีกหรือไม่หรือจะแค่เป็นประเทศไร้ชื่อไร้นามอีกประเทศบนโลกใบนี้ต่อไป 

โดยคุณ zakuIII เมื่อวันที่ 04/02/2013 19:21:08


ความคิดเห็นที่ 6


 

   อืมม.....ผมลืมวันทหารผ่านศึกไปจริงๆ   ยอมรับผิดเต็มประตู  ขอโทษจริงๆครับ


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 05/02/2013 01:28:52


ความคิดเห็นที่ 7


คุณ zakull เบาๆ เหอะครับ อย่างแรงมาก

ทหารอเมริกาเขาจ่ายแพงคนเลยไปครับ ก็คล้ายๆ กับเมืองไทยคือบางคนหางานไม่ได้แล้วสมัครเป็นทหาร แต่ทหารเขาได้เงินเยอะกว่า เลยน่าจูงใจกว่า เศรษฐกิจเขาก็แย่มาหลายปีแล้ว คนตกงานก็เยอะ แล้วเขา pr โฆษณาชวนเชื่อแหลกลานครับ ส่งคนไปกล่อมเด็กที่ยังไม่จบมัธยม ซึ่งผมว่ามันน่าจะเรียกว่าหลอกเด็ก คือไปเอาเปรียบเด็กที่ยังไม่แน่ใจว่าชีวิตจะเอาไงดี กลับมาเป็นอย่างที่คิดก็ดีไป แต่เป็น trauma สมงสมองกันก็เยอะแยะ สรุปคือผมจะบอกว่ากองทัพสหรัฐฯเขาโฆษณาชวนเชื่อ

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 05/02/2013 07:41:01


ความคิดเห็นที่ 8


อ้าวๆพูดยังี้ได้ไงครับ วันทหารผ่านศึกเขาจัดทุกปีครับเคยไปร่วมไหม? ไม่มาโพสในนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่รักชาตินะครับ

จำเป็นด้วยเหรอครับที่ต้องรักชาติแล้วต้องใช้ปืนผลิตเอง ยังงี้ทหารที่นอนกอดปืนM-16อยู่ชายแดนมาอ่านเข้าเค้าคงคิดว่าตัวเองไม่น่าน่าภาคภูมิใจที่เกิดเป็นทหารงั้นสิ ทีอเมริกันมันยังใช้ปืนอิตาลี เบลเยี่ยม ออสเตรีย เยอรมันได้เลย

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 05/02/2013 15:58:59


ความคิดเห็นที่ 9


ผมคนหนึ่งไม่เคยลืมครับ... พ่อสงครามเวียดนาม ลุงสงครามเกาหลี ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่ ภูมิใจครับ

โดยคุณ May เมื่อวันที่ 05/02/2013 18:19:11