หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ฟิลิปปินส์ จะซื้อ FA-50 จากเกาหลีใต้ จำนวน 12 เครื่อง

โดยคุณ : TOP SECRET เมื่อวันที่ : 02/02/2013 13:00:51

Philippines To Buy 12 S. Korean Fighter Jets

MANILA — The Philippines will buy 12 South Korean FA-50 fighter jets to strengthen its poorly armed military, government spokesmen said Jan. 30 amid increasing maritime tensions with China.

The FA-50s will be the first fighter jets to be operated by the Philippine air force since it retired the last of its U.S.-designed F-5 fighters in 2005, said President Benigno Aquino’s spokesman, Edwin Lacierda.

“We don’t have any existing jets right now that are in use, therefore it is necessary for us to upgrade. This is part of the ongoing process of modernizing our military hardware,” he told reporters.

Lacierda said the jets would be used for “training, interdiction and disaster response” and would use their aerial cameras to survey areas. He stressed that the planned purchase was “not aimed at any particular country” despite the new tensions with China over conflicting maritime territorial claims in the South China Sea.

Defense department spokesman Peter Galvez said the FA-50 was chosen because it fit all the country’s requirements and because of its cost, adding that 18.9 billion pesos ($309 million) had been budgeted for the acquisition.

Manila will now begin negotiations for the aircraft, he said, adding that the government will seek to have two planes delivered as soon as possible so Filipino pilots can begin training on them.

In recent months, the cash-strapped Philippines has stepped up efforts to modernize its military in the face of China’s increasing assertiveness in pressing its claims to most of the South China Sea.

Although the Philippines has long relied on its defense ties with the United States for most of its arms, it has recently been seeking more weaponry from other countries such as Poland, Spain, Italy, Canada and France. President Aquino discussed acquiring more South Korean military equipment when South Korean President Lee Myung-Bak visited the country in November 2011.

 

   ที่มา : http://www.defensenews.com/article/20130130/DEFREG03/301300019/Philippines-Buy-12-S-Korean-Fighter-Jets?odyssey=tab|topnews|text|FRONTPAGE





ความคิดเห็นที่ 1


   หลังจากขาดช่วงในการที่มี เครื่องบินรบ/เครื่องบินขับไล่ ในการป้องกันประเทศมานานหลายปี หลังจากปลดประจำการ F-5 A/B ไปในเดือน กันยายน 2005 (ข้อมูลจาก Wikipedia)

  หลังจากปลดประจำการ F-5 ไป เครื่องบินที่ดีที่สุดที่ กองทัพอากาศ ฟิลิปปินส์ มีก็น่าจะเป็น เครื่องบินฝึก/โจมตีเบา S-211   แต่คงไม่เพียงพอต่อการป้องกันประเทศ จากเครื่องบินขับไล่ข้าศึก

   จนมาถึงปัจจุบัน กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ ก็จะกลับมามีเครื่องบินชับไล่ อีกครั้งหนึ่ง แม้จะเป็นจำนวนน้อยนิดเพียง 12 เครื่อง แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเอาซะเลย อย่างน้อยก็เอาไว้ "ป้องปราม"  แต่จะเอาไป ป้องปรามจีน คงจะไม่ไหว  ไม่รู้ว่าประสิทธิภาพของ FA-50  เมื่อเทียบกับ J-10B แล้วเป็นยังไง  แต่โดยส่วนตัวคิดว่า J-10B น่าจะเหนือกว่า  หรือจะเป็น J-15  เครื่องบินขับไล่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบินของจีน ขีดความสามารถก็น่าจะเหนือกว่าครับ

    ยังไงก็แสดงความยินดีด้วย ที่จะมี ปีกที่จะมาปกป้องคุ้มครองชาติ ครับ

   

โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 31/01/2013 00:17:44


ความคิดเห็นที่ 2


เอาไปสู้ไม่ได้แต่ก็มำให้ต้องคิดหนักขึ้น เพราะสเกลสงครามก็จะใหญ่ขึ้นไปด้วยถ้าปะทะกันจริงๆ

อีกอย่างก็ใช่ว่าจะเอาไว้รบกับจีนคนเดียว เพราะบ้านนี่ก็รักกันทั้งนั้น

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 31/01/2013 03:19:00


ความคิดเห็นที่ 3


เมื่อคืนดูหนังนี่มา สนุกดีครับ มี FA-50 ของเกาหลี ร่วมแสดงด้วย ก็ถือว่า เกาหลี ทำหนังและถ่ายทอดหนังแนวนี้ออกมาได้ดีครับ

ถ้าว่ากันตามจริง ฟิลิปินส์ ควรมีเครื่องบินรบที่ลำใหญ่ๆ+ครองอากาศได้นานๆ เช่นเครื่อง F-15 หรือเครื่องบินตระกูล SU-30 และมีเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศ

เพราะปิลิปินส์ มีสภาพพื้นที่เป็นหมู่เกาะมากมายและที่สำคัญมากๆเลยก็คือ มีพื้นที่ทางทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล เพราะแน่นอน มันต้องดวลกะเครื่องบินรบของจีนอยู่แล้ว

รู้อยู่แล้วว่า จีน มีเครื่องบนรบที่ครองอากาศได้นานและมีเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่มีขีดความสามารถในการบรรทุกเครื่องบินรบไปได้ทุกที่

ปล.แล้วเครื่องบินรบเรา เคยมีการปะทะกันระหว่างเครื่อง SU-30 ของมาเล หรือ MIG-29 ของพม่า มั้งเปล่าหว่า เดี๋ยวกองทัพอากาศของเพื่อนบ้านรอบๆ เรา ก็จะมีเครื่องแบบนี้ เพิ่มมากขึ้นอยู่แล้ว เมื่อประเทศพวกนี้ เจริญขึ้นและมีสตางค์ซื้อเครื่องบินรบทันสมัยไว้ประจำการ

โดยคุณ seetha456 เมื่อวันที่ 31/01/2013 09:36:23


ความคิดเห็นที่ 4


   309 ล้านเหรียญ หารด้วย 12  =  เกือบ 26 ล้านเหรียญต่อลำ  หรือราวเกือบ  800 ล้านบาท

  เฮ้ย.........!   ทำไมถูกจังอ่ะ   ตอนแรกคาดว่าราคาขายประมาณ  30  ล้านเหรียญ หรือราวๆ 900 ล้านบาท    คงเพราะรวมยอดจากของทอ.เกาหลีด้วย    แต่เกาหลีทำราคาได้น่าเหลือเชื่อจริงๆ   

 

  ประสิทธิภาพขนาดไหนที่ระดับราคานี้  

ถ้าเราเอา  F-5T  ของเราติดตั้งเรด้าร์ EL/M 2032  และระบบดาต้าร์ลิ้งค์   ระบบพิสูจน์ฝ่ายใหม่   MMC ใหม่  และเพิ่มขีดความสามารถติดตั้งกระเปาะ แลนเซ่อน    นั่นล่ะครับ  F/A-50    ประสิทธิภาพเทียบกับราคาแล้วถือว่าโคตรคุ้ม   ประมาณ 80%  ของ JAS-39  C/D ที่เราใช้อยู่   

 

 ถ้ามุมมองเรา  ฟิลิปปินส์จัดหาแค่ F/A-50  แล้วรับมือกับจีนไม่ไหว    เพื่อนบ้านแถบนี้จีงจัดหาของหนักๆอย่าง  SU-30  F-15SG     แล้วมองตัวเราสิครับ     ประสิทธิภาพทั้ง Jas-39   ทั้ง  F-16   F-5T ที่คาดว่า upgrade แล้วประสิทธิภาพพอๆกับ  F/A-50  เท่านั้น    จะไหวหรือ.......

 

  jas-39  เหมาะกับฝูงสกัดกั้น    แต่ราคาแพงพอๆกับ F-16 50/52+   ยิ่งรุ่น E/F  ราคาแพงเท่ากับ  F-35  แพงกว่า F-16 block 60  ที่ประสิทธิภาพใกล้กัน (เหนือกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ)      จะไหวหรือ.........

 

 สกัดกั้น 3 ฝุงน่าจะเพียงพอแล้ว   ควรมีรุ่นหนักๆไว้สัก 3 ฝูงถ่วงดุลนะครับ    อ้อลืมไป  ทอ.จะเล่น สเตลธ์ไปเลย......F-35


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2013 11:21:58


ความคิดเห็นที่ 5


   ก็ถ้าจัดหา Jas-39  ครบตามต้องการ 3 ฝูงจริง    แล้วทุ่มทุกอย่างกับ F-35  อีก 2-3 ฝูงเพื่อทดแทน F-16   ก็ OK.  ครับ    

   แต่จากภัยคุกคามที่หนักมือขึ้น   ถ้าจะทดแทน  L-39 40 เครื่อง    Alphajet  25 เครื่อง (ต้องการ 50 เครื่อง)    และต้องการรับมือของหนักๆ      T/F/A-50  น่าจะเป็นคำตอบ    ราคาก็ถูกกว่า  M-346  ที่เห็นใครๆก้เชียร์กันจังเพราะตรงตามความต้องการ    ราคา   27-28  ล้านเหรียญ   แพงกว่า  F/A-50  ด้วยซ้ำ   แต่ประสิทธิภาพต่ำกว่า F/A-50    

   ใครๆก้ว่า  F/A-50  มีประสิทธิภาพเกินจำเป็น     จีนมาเคาะประตูหน้าบ้านอาเซี่ยนแล้วครับ    ผมว่าเอาของแรงๆหน่อยดีกว่า

  90  เครื่อง   มากพอที่จะเปิดสายการประกอบเครื่อง หรือชิ้นส่วนบางชิ้นด้วยตนเองได้ครับ    อีก 10 ปี ถึงจะปลด  L-39   Alphajet    มีเวลาคิดครับ  

 

  ช่วงนี้ของเกาหลีเขามาแรงนะ   ทั้งเรือทั้งเครื่องบิน


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2013 11:39:58


ความคิดเห็นที่ 6


เกาหลี น้องใหม่ ในตลาดการค้าอาวุธครับ เกาหลี จึงทำยังไง ให้อาวุธแบรนของตัวเองตีตลาดได้

ถ้าไทย จะพัฒนาอาวุธของตัวเองร่วมกะเกาหลี ผมว่า ก็น่าสนนะ เพราะอุสหกรรมด้านอาวุธของเขา ก็พัฒนาไปไกลแล้ว แถมอยู่ใกล้บ้านเราด้วย เกาหลี มีสงครามตลอด+ร้อนระอุอยู่ตลอด ทำให้ต้องพัฒนาอาวุธอยู่เรื่อยๆ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอยู่เรื่อยๆ

แพคเก็จการขายอาวุธของเกาหลี จึงต้องทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้นไปด้วย เพราะต้องตีตลาดให้ด้วย อาวุธที่ขาย ก็ต้องมีความน่าสนใจกว่าอาวุธทั่วๆของตลาด แม้จะอยู่ในระดับเดียวกัน

ถ้า ญี่ปุ่น สามารถทำอาวุธส่งขายตลาดต่างประเทศได้ คงจะมีแพคเก็จเสนอขายอาวุธที่น่าสนใจไม่ต่างจากเกาหลี

เพราะการขายอาวุธได้แต่ละครั้ง มันทำกำไรมหาศาลและนำเงินเข้าประเทศมหาศาล ในการซื้อแต่ละครั้ง

โดยคุณ seetha456 เมื่อวันที่ 31/01/2013 12:32:49


ความคิดเห็นที่ 7


เริ่มจากผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมในแบบของตัวเองให้ได้ก่อน 

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 31/01/2013 17:13:53


ความคิดเห็นที่ 8


   ขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมทางทหาร  คงต้องพึ่งพาหลายกรณีและหลายฝ่ายจึงจะเดินได้เต็มที่

         อย่างทร.  มองว่าจะต้องพึ่งพาตนเองให้ได้ถึงที่สุด   และได้รับการสานต่อจาก ผบ.ทร. แทบทุกรุ่นทีเดียว   ดังนั้นมาถึงวันนี้ทร.จึงสามารถต่อเรือรบเองได้แล้ว   หรือฟรีเกต Hi-end  คราวนี้ถ้าอู่ไม่มีงานล้นมือ   ก็คงทำการต่อเองในประเทศไปแล้ว    ขนาดไม่ได้รับการเหลียวแลจากทั้งรัฐบาลและผู้มีอำนาจที่นอกเหนือรัฐบาลมาตั้งแต่จบยุคท่านชวลิตไปสิบกว่าปีแล้ว   

   ตอนนี้มีลุ้นที่รองนายกและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังมาเที่ยวดูงานที่ฐานทัพเรือสัตหีบ    ถ้าได้รับการสานต่ออู่ราชนาวีครบเฟส 2 หรืออาจจะมีแถมขยายพื้นที่ก่อสร้างโรงต่อเรือขนาดเป็นแสนตันและสลิปเวย์    ทร.ก็จะเป็นเหล่าทัพที่มีความพร้อมสูงสุดในการพึ่งพาตนเอง    ผมว่า LPD ลำที่ 2 จนาด 8,000 ตันก็ค่อได้ในตอนนี้     ไม่น่าเชื่อ  งานล้นมือ

  ส่วน ทบ. ก็เริ่มตามาแล้ว    เน้นงานหน่วยปืนใหญ่ก่อน   และมีลุ้นในงานการผลิตยานเกราะ   และดูเหมือนว่ารัฐบาลชุดนี้ก็สนใจโครงการอุตสาหกรรมนี้   กลาโหมบอกพร้อมที่จะสนับสนุน    ถ้าโครงการเหล่านี้มีการสานต่อจากผบ.ทบ.รุ่นนี้ไปสัก 3-4 รุ่น    โครงการผลิตยานเกราะด้วยตัวเองก็น่าจะไม่ผิดพลาดอะไร    ยิ่งมีแนวโน้มว่ารัฐบาลซีกนี้คงจะอยู่อีกนาน   ก็มีลุ้นมากขึ้น    ดูผลเลือกตั้ง กทม. เดือนหน้านี้ดีที่สุด

  ส่วนทอ.  คงต้องรีบเดินเครื่องตามเหล่าอื่นๆอย่างเร่งด่วน   ดูงานแรกที่ท่าน ผบ.ทอ.  ประกาสแล้วว่า  บ.ทอ. 6   ต้องเข้าสู่สายการผลิต    อันนี้ถ้าทำได้   จะเป็นผลงานชิ้นเอกของท่านเลยทีเดียว    แล้วต้องดูว่า ผบ.ทอ. รุ่นต่อๆไปจะสานโครงการอื่นๆต่ออีกไหม   เช่น   การจัดหาเครื่องบินฝีกโจมตีใบพัดเพื่อทดแทน  PC-9 และ  AU-23  เป็นต้น   

 

      

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2013 20:36:29


ความคิดเห็นที่ 9


   สำหรับผม   ถ้าทอ.เริ่มการจัดทดแทน PC-9  และ  AU-23  ซึ่งเมื่อรวมยอดกันแล้วก็ไม่ได้น้อยกว่ายอด  L-39 และ Alphajet      ดังนั้นถ้ามีการจัดหาโดยการซื้อแบบมาทำการผลิต   ทอ. ก็จะเข้าสู่การพึ่งพาตนเองตามเหล่าทัพอื่นๆเช่นกันครับ    สำหรับผม    อยากให้จัดหา  Super Tucano  มากที่สุด   และทำการผลิตเองในประเทศโดยซื้อแบบมาผลิต  

 

  เมื่อภาคอุตสาหกรรมอากาศยานได้รับการพัฒนาขึ้นตามแผนโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมการบินที่โคราช    ก็มีลุ้นได้ว่า    เครื่องบินเจ๊ตอาจจะเป็นรายการถัดไป

 

  ก็บอกแล้วว่ารัฐบาลซีกนี้มันบ้าพลังอุตสาหกรรม   อยากจะให้ประเทศมีพลังทางอุตสาหกรรมแบบญี่ปุ่น เกาหลี  จีน   รอดูกันต่อไป


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 31/01/2013 20:44:57


ความคิดเห็นที่ 10


อุสหกรรมด้านอาวุธของเขาไปไกลแล้วเนาะ *-* อยากให้ไทยเราทำได้แบบนี้บ้างจังแฮ่ะ

โดยคุณ seetha456 เมื่อวันที่ 02/02/2013 00:56:11


ความคิดเห็นที่ 11


เอามาแทนL-39 และ Alphajetผมเห็นด้วย แต่ไม่มีงบเนี่ยสิจะทำยังไง กองทัพอากาศต้องเอาเงินก้อนใหญ่ไปลงกับฝุงบินสมรรถนะสุง(เท่าที่ต้องการ)หมด ฝุงบินฝึกหัดและโจมตีทิ้งระเบิดคงยาก

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 02/02/2013 13:00:51