Bangkok to talk frigate purchase with Beijing
The government has formed a committee to negotiate with a Chinese team on purchase of three frigates to enhance Thai’s naval strength in the resourceful Gulf of Thailand, officials said. Both the sides will work out details of the state-to-state frigate purchase agreement the groundwork of which was laid during the visit of Prime Minister Wen Jiabao to Thailand in November 2012.
The Thai government has recently approved the purchase of two medium-sized frigates with a budget of 1 billion U.S. dollars after denying allegation about the countrys navy persistent request for submarines. However, Beijing had offered three of its Type 054T frigates at a very lower rate and the number of the frigates on conditions that Bangkok can not be denied. Some source said these special offer include six Z-9EC ASW helicopters.
Officials said the armed forced division had planned to utilize budgetary allocations of the 1 billion U.S. dollar fund, approved by the Yingluck Cabinet for the procurement of the frigates, is to be spent for a 10-year period, beginning from current fiscal year. The three frigates are unlikely be procured at the same time.
Type 054T frigate may be an improved version of the Type 054A frigate, possibly designated F40T, for which discussions have been held between Thailand and China.
Officials said commissioning of the type 054T frigates would help the capability of the Thai maritime force in Anti-submarine warfare in the Gulf of Thailand, the dimension of which had changed a lot in the last one decade amid growing interest of Cambodia, Malaysia and Vietnam in the area.
Officials also said Malaysia also plans to acquire two more Scorpène class submarines and Vietnam has recently purchased from Russia six Kilo class submarines and Russian submarine have already been delivered, the delivery of all six submarines will be completed before 2016 and most important thing is Cambodia has already started Submarine project.
Thailand and its neighbor Cambodia were on the edge of conflict in the Gulf in the past 10 years over oil and gas exploration by the latter in the disputed areas. Both the countries had engaged in legal battle over the disputed areas in an international court.
Besides, Thailand is still running a legal battle against another neighbor, Malaysia, over maritime boundary and also the most revealing public statement by any military top brass on the nature and consequences of the Thai Deep South conflict since violence resumed in January 2004.
www.chinadaily.com.cn/
ม่ายน๊าาา
เค้าอยาก สเปชเช่นด๊อยชช
กรูว่าแล้วหวยต้องออกเรือเจ๊ก ฝันสลายกลางอากาศ
อะไรกันได้งบมาตั้งมากมายพอที่จะซื้อเรือรบดีๆฝั่งยุโรปได้ ทำไมต้องไปซื้อของจีนแดงด้วย โอ้ว....มายก๊อต !!!
กุว่าแล้วไม่น่าหวังสูงเลย อยากร้องให้จริง
เรือเจ๊ก แล้วคราวนี้ใครจะกลัวไทย 55+
ถึงกับเซ็ง.....เจ็บไม่จำ
เรือคราสนี้มัน 6.000กว่าล้านไำม่ใช่หรือครับ แต่โครงการกำหนดให้ตั่ง30.000ล้าน
เจริญละคราวนี้ ........
Type 054T 3 ลำ ก็ยังพอได้อยู่นะ
แม่เจ้า ยุโรปมีดีกว่านี้ไม่เอา ป่านนี้บ้านเพื่อนนั่งขำฟันร่วงหมดปากแล้วล่ะ
รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อเจรจาต่อรองกับทีมจีนในการซื้อเรือรบสามเพื่อเพิ่มความแข็งแรงเรือไทยในไหวพริบอ่าวไทยเจ้าหน้าที่กล่าว ทั้งสองฝ่ายจะทำงานออกรายละเอียดของรัฐเพื่อรัฐสัญญาซื้อขายเรือรบรากฐานที่ถูกวางในระหว่างการเยือนของนายกรัฐมนตรีเหวินเจียเป่าประเทศไทยในพฤศจิกายน 2012
รัฐบาลไทยได้รับการอนุมัติเมื่อเร็ว ๆ นี้ซื้อของสองเรือรบขนาดกลางที่มีงบประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหลังจากที่ปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการร้องขอของประเทศถาวรกองทัพเรือสำหรับเรือดำน้ำ อย่างไรก็ตามปักกิ่งได้เสนอสามของเรือรบของประเภท 054T ในอัตราที่ต่ำกว่ามากและจำนวนของเรือรบเมื่อเงื่อนไขที่กรุงเทพฯไม่สามารถปฏิเสธ แหล่งที่มาบางคนบอกว่าข้อเสนอพิเศษเหล่านี้รวมหก Z-9EC ASW เฮลิคอปเตอร์
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าส่วนอาวุธบังคับได้วางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากการจัดสรรงบประมาณของกองทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี Yingluck สำหรับการจัดซื้อของเรือรบคือการใช้จ่ายสำหรับระยะเวลา 10 ปีเริ่มจากปีบัญชีปัจจุบัน เรือรบสามจะไม่น่าจะจัดหาได้ในเวลาเดียวกัน
ประเภทเรือรบ 054T อาจจะเป็นรุ่นปรับปรุงของเรือรบ 054A ประเภท F40T กำหนดอาจจะที่การอภิปรายจะถูกจัดขึ้นระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าการว่าจ้างจากเรือรบ 054T ประเภทจะช่วยความสามารถในการบังคับทางทะเลไทยในสงครามต่อต้านเรือดำน้ำในอ่าวไทยมิติของที่มีการเปลี่ยนแปลงมากในช่วงหนึ่งทศวรรษที่เติบโตท่ามกลางความสนใจของกัมพูชามาเลเซียและเวียดนาม ในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ยังกล่าวมาเลเซียยังวางแผนที่จะได้รับเรือดำน้ำมากขึ้น Scorpene ชั้นและเวียดนามได้ซื้อมาจากรัสเซียหกกิโลกรัมและเรือดำน้ำชั้นเรือดำน้ำรัสเซียที่ได้รับการส่งมอบการส่งมอบเรือดำน้ำทั้งหกจะแล้วเสร็จก่อน 2016 และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกัมพูชามี โครงการเรือดำน้ำเริ่มต้นแล้ว
ใช้ Google แปล ได้ Z9 อีก6ลำ มันคุ้มหรือป่าวนี้
The Thai government has recently approved the purchase of two medium-sized frigates with a budget of 1 billion U.S. dollars
เห็น ทร. มาเล เขา นำเข้าจากฝรั่งเศษเศร้าใจจัง
ไม่เเน่น๊ะ อนาคต อาจได้สั่งเรือดำน้ำจากพี่เเดงเขาอีก
เเต่ปัจจุบันนี้เราจะดูถูกจีนไม่ได้น๊ะครับ ข้าไม่ได้ดูถูกเเต่อยากได้ของยุโรปเขาอ่ะ ง่าๆๆ
ระวังท้องแตกตายนะคร๊าบบบ
คห.บนแปลผมอ่านแล้วสะอึกเลยครับ
เรือฟริเกตุสามลำตกลำหละหนี่งหมื่นล้านบาท ใช้รุ่น054Aมาปรับปรุงให้เข้ากับความต้องการกองทัพเรือ แถมเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ6ลำ ใช้เวลาจัดหา10ปีอาจจะซื้อทีหละลำหรือสองลำก็ว่าไป
นี่คืvดีลที่ทางจีนยื่นมานะครับ ดีที่สุดที่เขาสามารถเสนอเราได้แล้ว ถ้าได้อาวุธและอุปกรณ์บนเรือแบบจัดเต็มผมว่าคุ้มค่ามากเพราะยังไงกองทัพเรือต้องใช้อุปกรณ์ที่เข้ากับระบบดาต้าลิงค์เราแน่ๆ ก็ต้องดูเยอรมัน เกาหลีหรือฝรั่งเศษหละครับว่าจะยื่นข้อเสนอยังไง
มาเลย์ซื้อเรือลำหละหนี่งหมื่นสามพันล้านได้เรือขนาดเล็กกว่านี้ตั้งเยอะ แต่ผมเป็นมาเลย์ก็ต้องเอาลำเล็กหละเพราะคนเค้าความสามารถไม่ถึงเทคโนโลยี
คห.ข้างบนนิสัยไม่ค่อยดีเลยนะครับไปเรียกเค้าเจ็ก อยากได้ของอยุโรปแต่ถ้าเค้าขายแพงก็คงไม่ไหวหรอกมั้ง เรือจีนเราก็มีใช้อยู่แปดลำถ้าจำไม่ผิดนะผมก็ว่าคุ้มตามราคา
ได้เรือสามลำนี้+OHP อัพเกจนิดหน่อยคงพอไหวน่า
นี่คือข่าวจากจีน ดีลที่ดีที่สุดจากจีน ดีลของเยอรมันอยู่ไหนหละ อย่าหวังจะได้เรือ206แถมมานะครับ
ประเทศชาติอ่อนแอ อะไรๆก็อ่นแอไปหมด น่าเศร้าใจยิ่งนัก .... สุดแล้ว ก็เข้าตำรา (คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ)... เอานักธุระกิจ มาซื้อ ของให้ ทหารใช้ แทนที่ทหารจะเป็นฝ่าย ไปเลือกซื้อเอง ก็แบบนี้ล่ะ เวรกรรมประเทศไทยแท้ๆๆ การเมืองนำการทหาร การเมืองแย่ แล้วยังพาล ทำการทหาร รั้วของชาติแย่เขาไปอีก (เศร้าใจจริงๆ) ประเทศไทยที่ผมรักสุดหัวใจ
Type: | Frigate |
Displacement: | 4,053 tonnes (full)(CCTV report), 3,600 tonnes (standard) |
Length: | 134.1 m (440 ft)(CCTV report) |
Beam: | 16 m (52 ft) (CCTV report) |
Propulsion: | CODAD, 4 x Shaanxi / SEMT Pielstick 16 PA6 STC diesels, 5700 kW (7600+ hp @ 1084 rpm) each |
Speed: | 30 kn estimated |
Range: | 8025 nautical miles estimated |
Complement: | 165 |
Sensors and processing systems: |
Type 382 Radar (Upgraded from Type 381 Radar "Sea Eagle S/C") 3D air/surface search radar |
Electronic warfare & decoys: |
Type 922-1 radar warning receiver HZ-100 ECM & ELINT system |
Armament: | 1 x HQ-16 32-cell VLS SAM launcher or anti submarine rocket launcher 2 x 4 C-803 anti-ship / land attack cruise missiles 1 x PJ26 76 mm dual purpose gun 2 x Type 730 7-barrel 30 mm CIWS guns 2 x 3 324mm YU-7 ASW torpedoes 2 x 6 Type 87 240mm anti-submarine rocket launcher (36 rockets carried) 2 x Type 726-4 18-tube decoy rocket launchers |
Aircraft carried: | 1 Kamov Ka-28 Helix or Harbin Z-9C |
Aviation facilities: | hangar |
http://en.wikipedia.org/wiki/Type_054A_frigate
เหมือนที่ผมเคยพูดไปแล้วเลยว่า เรื่องเรือฟริเกตุมีแต่คนด่ารัฐบาลทั้งๆที่ก่อนหน้านี้งบประมาณซื้อเรือมันน้อยกว่านี้เยอะมากๆน่าจะประมาณสองหมื่นล้านบาทหละมั้ง
การที่รัฐบาลเพิ่มเงินมาให้เนี่ย ถ้าไม่ไปค้าขายก็คงไม่ได้เงินมา ไม่ยอมรับในข้อนี้แต่จะใช้เงินอย่างเดียวก้ไม่ไหวนะ
สามล้อถูกหวยแต่ติดหรู ถ้าผมเป็นรัฐบาลจะลดวงเงินลงเหลือเท่าเดิมแล้วทำลอยชายไปวันๆเอาเงินไปให้กองทัพบกแบบรัฐบาลที่แล้วดีกว่า สบาใจกว่ากันเยอะ
ผมว่าซื้อมายังไงในอนาคต เรือชุดนี้ก็ต้องอัพเกรดระบบต่าง ๆ เป็นของยุโรป
และต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านบาทในการอัพเกรดระบบ
แล้วทำไมต้องเสียงบประมาณหลายรอบในเมื่อซื้อเรือยุโรป
ครั้งเดียวก็จบแล้ว หรือว่าถ้าซื้อเรือยุโรปมาแล้วมันของบอัพเกรด
เพิ่มไม่ได้ครับ
ปล.ถ้าไม่อัพเกรดระบบก็ขอให้มีความสุขกับเรือจีนแดงครับ
เกลียดอะไรมักได้แบบนั้น ทัพเรือยังไม่ตัดสินใจเลือกนิครับ ใจเย็นไว้ก่อน แต่ก็เสียวใช่เล่น ของแถม แถมได้3ลำ กลัวทัพเรือจะเอาของเยอะมากกว่าคุณภาพจัง เพราะเรายิ่งจนๆๆ จะซื้อเรือทีแต่ละลำ ยังลำบากเลย
ผมก็ไม่ชำนาญเรื่องทางเรือซักเท่าไร แต่ในความเห็นผมเรือจีนก้ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลยนะครับ ได้มาสามลำ+ฮ.ปราบเรือดำน้ำอีก6ลำ ภายในงบ3หมื่นล้าน ผมมองว่าถ้าเป้นประเทศอื่นซื้อคงไม่ได้ดีลที่คุ้มค่าแบบเราเป้นแน่แท้ ในอนาคตข้างหน้าถ้าจีนเลือกเราเป้นที่ตั้งฐานทัพเรือ ก้จะเป้นผลดีกับเราเลยทีเดิยว ในด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบที่เราไม่มีแบบไร้ข้อจำกัด แถมเราอาจมีเรือดำน้ำ(จีน)เข้าประจำการในเร็ววันนี้ก้ได้ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าดีลนี้มีแต่ได้กับได้
หายอยากกันไป
ผมทำใจนานแล้วครับ คิดไว้แล้วหวยมันต้องออกแบบนี้ ก็ไม่แน่นะครับเรือจีนที่เราว่าแย่ๆๆ เอาเข้าจริงๆ อาจดีก็ได้ครับ
ยังไม่ได้ตัดสินใจนี่ครับ แต่ ผมว่า เอาเรือจีนแหละ ได้เยอะดี
ผมว่า ใจเย็นกันก่อนนะครับ เล่นว่าของจีน มันสะเสียหมดเลย แต่ในทางกลับกัน เรือของจีนผมว่าเขาก็มีการพัฒนาไปเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่จะมีเปลี่ยนแปลงเจ้าType 054T นั้น ข้างในมีอะไรบ้าง แถมก็ได้ลำ3+กับฮ. Z-9EC ASW อีก6ลำ แต่ก็เป็นแค่การเสนอ ทำไมฝ่ายยุโรป ไม่เสนอมาบ้างหว่า แต่ก็รอ ใกล้ๆเดือน ที่เขาจะตัดสินกันดีกว่านะครับ ผมว่า นะครับ แหม่ๆ
ผมอยากได้เรือ เยอรมันจุง 2ลำ แถม เรือดำน้ำ4ลำ พอใจละ อนาคตข้างหน้าจะได้เป็นลูกค้าเรือดำน้ำ กัน55+
ถ้าเราเลือกของจีนครบจีนมากๆ อนาคตเราจะเหมือน ปากีสถาน อีหร่านไรงี้ไหมครับ พวกนี้ก็เคยเป็นมิตรเมกามาก่อน เริ่มจะไปคบจีนหมดแล้ว เพื่อนบ้านคงจับตามองกันเป็นแถว มิตรจีนคนใหม่
ขอให้เป็นเพียงแค่ข่าวโคมลอยนะ สาธุ สาธุ โอม...เรือยุโรป เรือยุโรป เรือยุโรป
ยังไม่มีข้อความใดที่บอกว่าไทยเราจะซื้อ Type054 เลยครับ ขอให้ดูไปก่อนคิดว่ายังอยู่ในขั้นตอนเจรจาหาตัวเลือกที่ดีที่สุดของทร.ครับ เจ้าอื่นคิดว่าทางทร.ก็คงต้องเข้าไปพุดคุยดูข้อเสนอเหมือนกัน เพื่อที่จะเอามาเปรียบเทียบไว้คัดเลือกอีกที ตามระเบียบและขั้นตอนต่อ ยังงัยก็ดูไปก่อนครับ
เอาเลย ครับ ดูจาก สเป็ก ก็ไม่เลว ครับ เราเอามาป้องปราม อยู่แล้ว... หลายลำ หลายลูก มี missile ก็คุ้ม ครับ...จำนวนน้อย เห็นชนะ ก็มีแต่ในหนัง เท่านั้นแหละ....ของจีนก็ดี ครับ อยู่ที่เราเลือก เราใช้ ครับ...ของฝรั่ง ใช่ว่าดี ครับ...ดูตอนนี้ ปิดกิจการ กันเป็นแถว...เรือจากที่ไหน ไม่สำคัญ สำคัญ สามารถ จม คู่ต่อสู้ ได้รึเปล่า...
5 5 5 5 มาฟอร์มเดียว กับ กรีพเพน...
ทำเป็น แถม...แต่ก็ไม่ได้แถม หรอกครับ...มันต้องเรียกว่า ขายเป็น แพคเกจ...แต่ราคาเท่าเดิม...แถม ล็อคสเปค บังคับต้องซื้อจากจีน เท่านั้น...
แต่ตามข่าว...เป็นเพียงแค่การเจรจา...ยังไม่มีรายละเอียด...หรือ มีว่าจะซื้อครับ...คงรอดู ทีท่า อีกที...
เรือ ปากีสถาน ชั้น F-22 ราคาเต็มสเปค ราคาลำละ 200 ล้านเหรียญ...(หกพันล้านบาท)
ซึ่งตามข่าว คือ Type-054T (ไม่ใช่ A) พร้อม ฮ. 2 ลำ ต่อเรือ 1 ลำ...ตกลำละ ประมาณ 330 ล้านเหรียญต่อลำ...แพงกว่า เรือชั้น F-22 ของปากีสถาน ถึงลำละ 130 ล้านเหรียญ...(แพงกว่า MEKO-A 200 ของ แอฟริกาใต้ อีกครับ ประมาณลำละ 270 ล้านเหรียญ)
ดูแล้ว คงไม่ใช่ ออฟชั่น หรอกครับ...ก็ราคาปกติ แหล่ะครับ...
แต่ซื้อ 3 ลำ ลำละ 10,000 ล้านบาท...ไม่ได้ซื้อ 2 ลำ แค่นั้นเอง...
ดีลนี้...ถ้ารายละเอียด ไม่ชัดเจน...เตรียม เละ...
สวัสดีครับสมาชิกใหม่ครับเข้ามาอ่านแทบทุกวัน ถ้าดีลนี้ได้เรือจีนจริงขอให้งานประกอบแข็งแรงและทนทานพร้อมอาวุธครบเครื่องหน่อยละกันถ้าคราวหน้าจะอัพเกรดใหม่ขอเป็นระบบของไทยนะทั้งระบบและอาวุธหวังว่างานวิจัยต่างๆคงจะเสร็จแล้วล่ะถ้าถึงเวลานั้น
เป็นแค่ข้อเสนอจากทางจีน เท่านั้นไม่ใช่หรือครับ ยังไม่มีข่าวทางไทยตกลงซื้อเลยนี่ครับ
ขอออกความเห็นแบบกลางๆน่ะครับ ดูจากสเปคอาวุธ เทคโนโลยีต่างๆ รูปร่างหน้าตา จำนวนเรือที่ได้ และของแถมที่ได้ เรือจีนชุดนี้ก็ถือว่าคุ้มค่า แถมอาจมีเงินเหลือไปซื้ออะไรเพิ่มได้อีกนิดหน่อย สำหรับที่ห่วงคือเรือชุดนี้จะสามารถปรับปรุงให้ link กับระบบของ Jas39 ได้หรือไม่เท่านั้นเอง ตรงนี้คืองานวิจัยที่ไทยต้องทำให้ได้ เพราะถ้าทำได้ไทยก็จะเป็นเจ้าของเทคโนโลยีสำหรับระบบการเชื่อมโยงระหว่างระบบจีนกับระบบยุโรป ซึ่งผมว่าทำได้แน่นอน อีกเรื่องไหนๆก็ยังมีข้าวเหลือจากการรับจำนำเป็นแสนล้าน ผมอยากให้ ทร. ขอข้าวมาอีกสัก 20,000 ล้าน ไปแลกเรือเพิ่มอีกสัก 2 ลำ จะได้มี 5 ลำ ไว้ฝั่งอ่าวไทย 3 อันดามัน 2 จะดีมากๆ
แน่นอนคุณภาพมาตามราคา ยุโรปย่อมดีกว่า แต่ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าเราเหมาะกับอะไรที่สุด ในสถารการณ์ปัจจุบันครับ
เรื่อง เทคโนโลยี่...ก็ขอ ยกตัวอย่าง ง่าย ๆ ก่อนรึกันครับ...
ตามภาพครับ...เรือที่มีระวางใหญ่ กว่า มาตรฐานยูโรป...เพราะถ้า จะแบบ อาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยาน สัก 32 ลูก ต้องแบกระวางเรือไปเท่าไหร่ครับ...
ถ้าเทียบกับ ระบบของ ฝั่งตะวันตก...
แต่ใจผมอยากได้แบบLCSน่ะขอแบบสุดๆที่จะใส่ได้สัก2ลำก็พอที่เหลือก็หัดออกแบบสร้างเอาเองคงพอไหวนะครับ
ผมว่าดูข้อเสนอก่อนดีกว่านะครับ ตอนนี้ยังไม่มีข่าวว่าทางเราจะตกลงเลย
อำนาจยังอยู่ที่คนถือเงินอยู่ครับ ก็เหมือนการประมูลต่างๆ นั้นละครับ
ผู้ที่ต้องการได้งานประมูล จะต้อง bid ราคาออกพร้อมเงื่อนไข
ตอนนี้แค่ผู้เสนอรายแรกเสนอมา อย่าเพิ่งตื่นเต้นครับ รอก่อน
เดี๋ยวซักพักจะมีรายที่ 2 หรือ 3 bid ต่อ แล้วเราค่อยมาพิจารณาข้อเสนอต่างๆ แบบนี้จะดูดีกว่า
ขอย้ำครับ ตอนนี้อำนาจยังอยู่ที่ผู้ถือเงินอยู่ครับ
เห็นว่า เป็นเพียงแค่ดีล ที่ทางจีนเสนอให้แก่เรา รอดูดีลจากค่ายฝั่งยุโรปดูก่อนครับ เขาจะเสนออะไรให้เราบ้าง
ไม่ทราบว่า ระหว่างรุ่น Type 054A กะ Type 054T มันรุ่นเดียวกันเปล่าครับนิ
เรือจีน ซื้อมาได้เยอะ แต่เชื่อเลยว่า เราก็ต้องมาเสียตังอับเกรดระบบต่างๆ อีก ก็น่าจะเหมือนกะเรือจีนหลายๆ ลำ ที่เรามีอยู่
อยากได้ลำไหนหว่า Frigate 10 ลำนี้
แต่ใจจริง ก็อยากได้ฝั่งยุโรป อะนะ ไม่ต้องอับเกรดให้เปลืองเงินเปลืองทองอีก เอาเงินที่จะอับเกรด ไปทำอย่างอื่นดีกว่า
คงเป็นแค่ขั้นตอนเจรจา แหล่ะครับ...ยังไม่ ฟันธง หรอกครับ...
ผมก็อยากจะรู้รายละเอียดเหมือนกันครับ...เรื่อง ของแถม หรือ ออฟชั่น พิเศษ ก็อยากจะรู้ว่า จริง หรือไม่...คงต้องรอดู สเปคเรือ ครับ...
แต่ตอนนี้ ผมขอตั้งจุดสังเกตุว่า ไม่ใช่ ของแถม...เป็นราคาเรือ พร้อม ฮ. มากกว่าครับ...
กรุณาระมัดระวังเรื่องการแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ /ADMIN
ถ้าข่าวนี้เป็นจริงล่ะก็... OH NOOOOOOOO!!!!!!
สวัสดีปีใหม่ ครับ อิอิ (หลังจากอ่านๆๆ ไม่โฟส ความเห้นมานาน)
1. มันเป้นเพียงข้อเสนอ ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ อย่าพึ่งตีโพยตีพาย
2.ถ้าว่าดีล แบบเพคเกจ ของจีน น่าสน งั้น สมมุติ ผม จะขายเรือ จากสวีเดนบาง ผมจะเสนอ แบบนี้นะครับ
-เสนอ เรือ 2 ลำ ต่อในไทย อาวุธของ สวีเดน(แบบเรือ ก็สวีเดน เอาแบบทำนอง เหมือนที่เคยซื้อ แบบเรือ ชุด กระบี่ ไง
-ในแพคเกจ มีการสร้าง สิ่งก่อสร้างด้วย ซื้อนั้นก็ คือ อู่ต่อเรือ ไง ครับ พวก รายละเอียด รุ่น และระบบ อาวุธ รบกวน ป๋า judas เทียบให้ด้วยนะครับ(อิอิ หางานให้ ป๋า ซะแล้ว)
ปล.ไหนๆ ต่อไปเราจะไม่พูดกันตรงๆ ว่าซื้ออะไร เท่าไหร่ ชอบ แบบแพคเกจ ก็ จัดให้ครับ
ต่อ ครับ
เมื่อเป็น ของสวีเดน ทีนี้ ก็ ไม่ต้องกลัวมัน จะ คุย กับ ทอ. และเรือ ลำ อื่น ที่ อัพเกจมา ว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง อ่อ แถมท้าย ตั้งงบเอา 911 เราไป อัพด้วย จะดีมากๆ
ขอบพระคุณอย่างสูงครับผม
ไชน่าเดลลี่เป็นสื่อขอรัฐบาลจีนออกข่าวมาแบบนี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อบวกกดดันทานเราไปในตัวด้วยรึปล่าวครับ แต่ผมคิดว่ายังไงโอกาสที่เราจะได้เรือจากฝั่งยุโรปแบบที่หวังกันคงยากเต็มที่คงได้แค่ระบบอาวุธบางอย่าง ไม่รู้ ทร จะเลือก กำอุจจาระดีกว่ากำตดหรือเปล่า ยังไงความมั่นคงกับการเมืองบ้านเรามันก็ยังแยกกันไม่ค่อยจะออก ขอผมทำใจล่วงหน้าละกันT T
ใด้ทั้งคุณภาพและปริมาณ แถมราคาถูกใจ ...ใน Type 054 a
แต่ถ้าไต่ไปใด้ถึงระดับ เรือพิฆาต อย่าง Type 052D ที่กำลังง่วนต่อกันออกมาอยู่ในขณะนี้ก็น่าเป็นปลื้ม
เพราะข่าวว่าญี่ปุ่นเองยังต้องรีบอัพเกรด AESA ของตนเอง...
ขออนุญาต ขยายความตัวเอง ครับผม
1.แบบเรือ ก็ เป็นลักษณ เรือ Visby ขยายแบบ ออกแบบและปรับเพื่อให้ เข้ากับ ทร.ไทย จำนวน การซื้อ ดีล นี้ ทั้งหมด 2 ลำ ระบบอาวุธ พร้อม สิ่งปลูกสร้าง นั้นก็ คือ อู่ต่อเรือ พร้อม อุปกรณ์ และสิ่ง อำนวยความสะดวก
2.แบบเรือนี้ถือเป้น สิทธ ของ ทร.ไทย สามารถ สร้องเรือเพิ่ม และ ต่อขายได้ ในอนาคต
การสร้าง เฟส แรก เรือ ลำที่ 1 ต่อ ที่สวีเดน พร้อม การก่อสร้าง อู่ต่อเรือใน ไทย ... เฟส 2 เรือลำ ที่ 2 ต่อที่อู่ในไทย และติดตั้ง อุปกรณ์ ระบบ ต่างๆ ในไทย ทั้งหมด
ปล. แบบนี้ จะน่าสนใจไหม ครับ อิอิ
ตามข่าว คือ Type-54T ครับ...ไม่ใช่ A...
ดังนั้น สเปค A...ผมว่า ไม่เกิด ครับ...และ จีน จะไม่ขายระบบอาวุธ เท่าเทียม หรือ เหมือนกับ จีน ที่ประจำการอยู่ครับ...
เหมือนกับที่ จีน เสนอเรือดำน้ำ ชั้น Song แบบ Down Grade
เรือ Type-54T...ผมก้วิเคราะห์ว่า...จีน ก็คงขายให้แบบ Down Grade ครับ...
แต่อาจจะเพิ่ม เนื้อที่ท้ายเรือ ให้สามาารถ บรรทุก ฮ. ไปได้ จำนวน 2 ลำ...แบบ Type-54C
ระบบ VLS...ผมว่า ไม่มี มาให้ ระบบต่อสู้อากาศยาน น่าจะเป็นเพียง แท่นยิง HQ-7 แบบ 8 ลูก...และ จีน ก็ไม่เคยระบบ VLS ให้ใคร...
ผมถึงมองว่า...ดูเหมือน ถูก...แต่ ไม่ถูกครับ...ออกจะแพงกว่า เรือยุโรป...เมื่อราคาเทียบ ลำ ต่อ ลำ...
ซึ่งตามข่าว ก็ระบุว่า เป็น รุ่น Anti Submarine...
ผม คาดคะเนว่า สเปค เรือ คือ
1.Type-54 (ไม่มี A)
2.เพิ่มเนื้อที่ ท้ายเรือ สำหรับ ฮ.ZE-9 ASW จำนวน 2 ลำ...แบ่งเป็น ติดตั้ง โซนาร์แบบชักหย่อน จำนวน 1 ลำ...และแบบมาตรฐาน จำนวน 1 ลำ
3.เพิ่มระบบโซนาร์ DE-1160 กับ DE-1163
ผม ก็ว่าแหละครับ ชาติมหาอำนาจจีน จะไม่ยอมขายเรือรบเต็มสูบ-ที่มีเทคโนโลยีของตัวเอง ให้ใครง่ายๆ หรอกครับ คงจะขายเฉพาะในส่วนที่เอาไว้ขายเท่านั้น
ถ้าเราซื้อมา เรา ก็ต้องไปซื้อระบบนั่นระบบนี่ เพิ่มเติมขึ้นอีก
ส่วน Type 052D ผมว่า จีน คงไม่ขายให้ใครหรอกนะ คงเป็นเรือพิฆาตของจีน ที่เอาไว้คุ้มกันเรือบรรทุกเครื่องบินของตัวเองมากกว่า จีน คงไม่ขายไม้เด็ดให้ใครง่ายๆ
มันลอกแบบมาคล้ายๆ กะ Aegis เลยแฮ่ะ
แต่ถ้าเงินเหลือพอ ก็อยากจะให้ทัพเรือ เจียดเงินมาสร้างอู่ราชานาวีเฟส2 ด้วยก็ดีครับ อู่อาคารแห้ง รองรับการสร้างเรือได้ 100,000 ตัน ถ้าสร้างเส็จได้นิ คงแจ่มมากๆ
ตานี้ จะสร้างเองหรือซื้อของเขาบ้าง-ต่อที่อู่ของเราบ้าง คงจะทำได้ง่ายขึ้น เทคโนโลยีการสร้างเรือรบของเรา-คงพัฒนาเร็วขึ้นมาก
ขอโทษทีนะครับ อู่ราชนาวีเฟส2 พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก ก็ขออภัยด้วยครับ เว็บน่าจะมีระบบ Edit แก้ไขข้อความของตัวเองด้วยนะครับ Admin มันจะได้กลับไปแก้ไขข้อความของตัวเองที่เขียนผิดเขียนตกหรือเพิ่มเติมบทความข้อความได้
ถึงจะเป็น 054T ยังไงมันก็ไม่น่าเอาอยู่ดีและครับ เอามาคงไม่มีประโยชน์ มันคงไม่สามารถสื่อสาร กับ Saab340 หรือกริฟเพนได้เลย ถ้าอยากให้สื่อสารได้ก็คงต้องรอ ไปอีก 15-20 กว่าเรือจะได้ทำการ mid life upgrade Thailinkคงจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าเรือ ระดับ ฟริเกต Hi endของตนเอง ไม่สามารถสื่อสารกับระบบของกองทัพได้
สู้ไปเล่นของ ยุโรป เมกา ไปเลยดีกว่า
ไม่ได้ดูถูกว่าของจีนไม่ดี แต่ที่ผมอยากจะบอกคือว่ามันไม่เข้ากันกับ ระบบ ที่เรากำลังสร้าง
ถ้าเป็นเรือจีนจริง ก็น่าผิดหวังครับ
สร้างอู่ต่อเรือเองดีกว่ามั้ย เรื่องเทคโนโลยีก็ไปดีลกับประเทศไหนก็ได้ที่มีเทคโนโลยีและอยากขาย
เผลอๆก็จ้างฝรั่งที่เป็นกูรูหรือระดับเทพของด้านนี้มาคุมงานก็พอ
เทคโนโลยีด้านต่อเรือมันเก่ามากแล้ว เราจะยังตั้งหน้าตั้งตาซื้อเขาต่อไปอีกหรือ
ประเทศไทยคงไม่มีทางเป็นประเทศพัฒนาแล้วถ้ายังไม่ลงมือสร้างอาวุธเอง
ต่อให้มีเงินซื้อ เขมรหรือประเทศไหนๆก็มีเงินซื้อ แถมประเทศที่ขายอาวุธให้เราก็ขายอาวุธให้ทั้งสองทาง
สรุปประเทศแถวนี้แข่งกันสะสมอาวุธเพื่อทำลายล้างกัน แต่ประเทศพ่อค้าอาวุธรวยเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆมันจะดีเหรอครับ
ขอให้เป้นแค่ข่าวลือนะครับ ต่อให้แถมอะไรมากมาย ก็อย่าเอาเลย เน้นของคุณภาพสูงสุดดีกว่าครับต่อให้ได้น้อยชิ้นก็เถอะ
วิวสวย
กาารคาดคะเน...แบบเรือ Type-054T
ตามเนื่อข่าว คือ เรือ จำนวน 3 ลำ + 6 Z-9EC ASW เน้นการ Anti Submarine
จีนขายอะไรก็ดาวน์เกรดทั้งนั้นนะเท่าที่จำได้ จรวด DTI ก็ตกรุ่น
แหม่ นึกว่าเราจะเข็ดกับเรือจีนไปแล้ว ฮา สามหมื่นล้าน (เรือดำน้ำเจ็ดพันล้านหายไปไหน?)
ไอ้มุกแพ็คเก็จแล้วบอกแถมนี่ก็จริงๆ เลย มีถ่ายทอดเทคโนมั้ย ถ้ามีก็ค่อยหน้าสนหน่อย (เอ หรือไปซื้อสิทธิ์ต่อเรือจากอังกฤษหรือเยอรมัน สเปน จะดีกว่าหรือเปล่า)
ถ้าจะว่ากันแบบที่เล่นทีจริง จีนนี่ขายอาวุธให้ไทยกับเขมรมาตีกัน เข้าประโยคที่ว่านั่งบนภูดูเสือกัดกัน ฮา
^
^
^
^
^
ถูกต้องน๊ะคร๊าบบบบบ
คู่เทียบ อันดับแรกมาแล้ว และถ้าจะต้องมีเสนออีก 2-3 ประเทศ ควรเป็นประเทศอะไรบ้างครับ และสเป็กอะไร ส่วนตัวผมก็ไม่ได้มีปัญหากับเรือจีน แต่ราคาต้องสมเหตุผล คือได้อาวุธที่ดีไม่ใช้ได้แต่จำนวน แต่ไม่มีคุณภาพเชื่อมต่อระบบที่มีไม่ได้ รัฐบาลประชาธิปไตยก็ไม่ควรแทรกแซงทหารนะครับ
http://www.strategypage.com/htmw/htada/articles/20110517.aspx
Next Article → INTELLIGENCE: We
e Only In It For The Money The HQ-16 naval version has the missiles fired out of a vertical storage/launch cell that is flush with the deck of the ship. This is a system pioneered by the United States. This is one reason China has developed new ship designs to replace the Russian ones it has been using for over half a century. The first of these is the 4,300 ton Type 54 frigate. This ship is based on Western, not Russian, design concepts. Twelve of these have been built so far, plus ten to the more advanced Type 054A standard (each of which has 32 VLS cells for HQ-16 missiles.) MK41 8ท่อ สามารถยิง ESSM ได้ 32นัด เพราะ MK25 ต่างหากหละครับ ถ้าเอามาปราบเรือดำน้ำก็จะยิงVL ASROCแค่8นัด ต่างกับของจีนที่ยิงได้32นัด หรือจะแบ่งครึ่งๆกับHQ16ก้ได้ ในแข็งมีอ่อน ในอ่อนมีแข็ง ดีลนี้ผมว่าเฮลิคอปเตอร์เป็นของที่จีนแถมมานะ Type-54T ลงท้านด้วยTมันก็เสป๊กของเมืองไทยหละครับ ส่วนตัวผมอยากได้เรือแบบสิงคโปร์ติด ASTER30 ยิงได้ไกล120กม. แต่เราเน้นปราบเรือดำน้ำเป็นหลักก็เอวัง เอารุ่นไหนก็ได้ไม่ว่ากัน เพราะยังไงก็ติดจรวอที่ยิงได้ไกลไม่เกิน50กม.อยู่แล้ว
May 17, 2011: China recently began offering its HQ-16 VLS (Vertical Launch System) anti-aircraft missile for export. This system is a license built (or using stolen tech) version of the Russian Buk M2 anti-aircraft missile systems. These are the latest version of the SAM-6 class missiles, that proved so effective in the 1973 Arab Israeli war. The M2E missiles weigh 328 kg (720 pounds) and have a max range of 50 kilometers. The land based version has four missiles carried on a tracked vehicle. The target acquisition radar has a range of over 150 kilometers. The export version is called the LY-80.
มันก็เป็นเพียงข้อเสนอ แล้วจะไปตำหนิอะไรทำไมหล่ะครับ
ดูสิครับเป็นขอเสนอจากทางจีนเท่านั้น ไม่ได้มีการตกลงเซ็นต์สัญญาซักหน่อย
จะว่าหรือตำหนิอะไรก็ระวังกันนิดนึงนะคับเดี๋ยวจะยาวดราม่ากันอีก
ซื้อเรือจีน.....เยี่ยมครับ ราคา 30000 ล้าน นี่ถ้าให้ตั้งฐานทัพด้วย ไม่อยากจะคิด หัวเราะทั้งน้ำตาเลย หวังท่าน judas ออกมาให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ด้วยนะครับ หากไม่สมควรจริงๆ
ขอต่อเรื่อง VLS นิดเดียว จากข่าวจีนขาย VLS แล้วนะครับ ถ้าไทยซื้อเรือแแต่ไม่ได้ติดมาก็คงต้องโทษตัวเองแล้วหละ
มาเรื่อง MK41 8ทอ่ยิง ESSM ได้ 32นัดเพราะกล่อง MK25 อีกครั้ง
ข้อดีของกล่งบรรจุ4 MK25 คือบรรจุจวรด ESSM ได้4ลูกต่อ1กล่อง
ข้อด้วยก็คือถ้าเกิดกล่องไหนมันใช้งานไม่ได้ จะเพราะหนูกัดสายไฟหรืออะไรก็ตาม เราก็จะเสียจรวดไปทันที4ลูกเช่นกัน
เทคโนโลยีทุกชนิดมีดีมีด้อยครับ
ให้ดูภาพ เปรียบเทียบ นะครับ...
โอกาส ความผิดพลาด ของ มนุษย์...ระยะเวลาในการ ดูแล รักษา ซ่อมบำรุง...
และ ภาระการซ่อมบำรุง รวมถึง กำลังคน...ที่จะทำให้เรือ 1 ลำ สำหรับ Missile จำนวน 32 ลูก ที่เท่ากัน...มีความพร้อมรบ...
HQ-16 ต้องใช้เวลา บรรจุ จำนวน 32 ครั้ง
ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในการทดสอบว่า กล่อง จำนวน 32 กล่อง มีความพร้อมยิง
ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในระหว่างเดินเรือ ในการทดสอบว่า กล่อง จำนวน 32 กล่อง ไม่มีความผิดพลาด
MK-41 ใช้เวลา บรรจุ จำนวน 8 ครั้ง
ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในการทดสอบวา กล่อง จำนวน 8 กล่อง มีความพร้อมยิง
ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในระหว่างเดินเรือ ในการทดสอบว่า กล่อง จำนวน 8 กล่อง ไม่มีความผิดพลาด
ผมว่า ระบบ MK-41 ทำให้ กำลังพล มีเวลาเหลือมากกว่า HQ-16 ที่จะทำให้ความพร้อมรบของระบบพ ร้อม 100%
คิดดูอีกที
ถ้าหากเงิน 30,000 ล้านบาทได้
เรือรบจีน 2 ลำ และ ฮ.ปราบเรือดำน้ำ 6 เครื่อง
น่าจะเหลือเงินพอมาอัพเกรดและปรับปรุง OHP อีก 2 ลำ
น่าจะดีกว่าและคุ้มค่ากว่าครับ
และถ้าสามารถมาต่อที่ประเทศไทยซัก 2 ลำ จะดีที่สุดเลย
ตามความเห็นท่าน riskspec...ครับ...
ที่ผมมองว่า เป็นอีก แนวทางหนึ่ง...ครับ...
คือ ตอนนี้ ผมมองเหมือนกับว่า...
เราเอา สเปคเรือฟริเกต สมรรถนะสูง จำนวน 2 ลำ...มา เทียบ เรือฟริเกต ที่เป็นสเปค ขนาดกลาง จำนวน 3 ลำ...
คือ สินค้า มันมีสเปคที่ไม่เท่ากัน...ดังนั้น จะเอา ปริมาณ มาใช้การพิจารณาเพื่อตัดสินใจ...มันก็จะดู ไม่เข้าใจกันเท่าไหร่ครับ...
ซึ่ง ถ้าบอกว่า ดีล ของ จีน คือ เรือรบ 3 ลำ + ฮ. จำนวน 6 ลำ เท่ากับ 1,000 ล้านเหรียญ...คือ ตกลำละ 333 ล้านเหรียญ...
สิ่งที่จะเปรียบเทียบกับ ดีล นี้ คือ...ทร. ก็ต้องดู สเปค เรือ ที่อยู่ระหว่าง ลำละ 333 ล้านเหรียญ ที่รวม ฮ.ปด. ด้วย...ซึ่ง ทร. ก็จะได้เรือที่จำนวนเท่ากัน...
แล้วถึงจะมา เปรียบเทียบว่า ของ จีน มันดีกว่า เจ้าอื่น อย่างไร...
อาจจะเป็นแบบ จีทูจีก็ได้นะครับ
โดยเอาข้าวไปแลกแล้วเพิ่มเงินอีกหน่อย
ถ้าเป็นเรือจีนจริงขอแบบเต็มๆหน่อยต่อจีน1ลำ
อีก2ขอมาต่อที่ไทยได้ไหม
กระทู้ร้อนๆ แป๊ปๆ 62แล้วสิครับ
หนักไปทางคิดเองแล้วก็อือออเองซะแล้ว
ใจจริงๆอยากใด้ของราคาแพงๆทันสมัยๆสไตล์ยุโรปนั่นล่ะครับ
แต่ต้องมองกระเป๋าตัวเองมีเท่าไหร่และจะคุ้มค่าที่สุดแค่ใหน..?
สำหรับเรื่อง VLS ที่ลงข้อมูลแท้ๆ ขอบคุณท่าน superboy
ใช่ว่าผมอคติกับเรือจีนนะครับ ถ้าตัวเรือจีนระบบตะวันตกนี่โอเคเลย พอรับได้
แต่ที่เจ็บใจก็คือผมเชียร์เจ้าไหนเจ๊งทุกเจ้า ถุย!!ชีวิต
ตามที่อ่าน...ผมมีความเข้าใจว่า
จีน ขาย LY-80 นะครับ...ตามข้อมูล ไม่ได้บอกว่า รวมถึง VLS ของระบบเรือ...
Next Article → INTELLIGENCE: We e Only In It For The Money
May 17, 2011: China recently began offering its HQ-16 VLS (Vertical Launch System) anti-aircraft missile for export. This system is a license built (or using stolen tech) version of the Russian Buk M2 anti-aircraft missile systems. These are the latest version of the SAM-6 class missiles, that proved so effective in the 1973 Arab Israeli war. The M2E missiles weigh 328 kg (720 pounds) and have a max range of 50 kilometers. The land based version has four missiles carried on a tracked vehicle. The target acquisition radar has a range of over 150 kilometers. The export version is called the LY-80.
The HQ-16 naval version has the missiles fired out of a vertical storage/launch cell that is flush with the deck of the ship. This is a system pioneered by the United States. This is one reason China has developed new ship designs to replace the Russian ones it has been using for over half a century. The first of these is the 4,300 ton Type 54 frigate. This ship is based on Western, not Russian, design concepts. Twelve of these have been built so far, plus ten to the more advanced Type 054A standard (each of which has 32 VLS cells for HQ-16 missiles.)
HQ-16 VLS รุ่นส่งออก คือ LY-80 ตามภาพครับ...
ฮาพวกแขกมันแซว LY-80 ของจีนว่า ขนาดเท่า SM-2 สมรรถนะพอๆกับ ESSM
ใจคอคุณจูดาสจะไม่ยอมให้ใส่VLSในเรือเราจริงๆเหรอครับเนี่ย ใจร้ายมาก
ผมเอาข่าวมาให้ดูว่าจีนขายVLSแล้ว ทีนี้ถ้าไทยจะซื้อเรือลำนี้จริงๆแล้วดันไม่ต่อรองให้ติดมาให้ได้ ผมว่ามันก็น่าเตะตัวเองนะครับ ฉะนั้นช่วยใส่ฝห้ผมหน่อยสิ เล่นติดท่อแป้ปอะไรมาให้ก้ไม่รู้เห็นแล้วอายเรือหลวงนเรศวรเลย
ส่วนเรื่อง MK25 แพค4 หนะผมไม่ได้พูดถึงเรื่องการซ่อมบำรุงการติดตั้ง(ทำรูปสวยมากคอมบ้านๆของผมกระจอกโคตรเลย)มันแหงอยู่แล้ว8กับ32 แต่ผมพูดถึงจำนวนจรวดที่มันจะหายไปถ้ากล่องพังไป1จรวดหายไป4 ต่างจากจรวดแบบอื่นที่กล่องพังไป1จรวดก็หายไป1 มันเป็นข้อดีข้อด้อยหนะ สิงค์โปรก็มี32ท่อ32นัดเหมือนกัน
ผมไม่สนตอนซ่อมบำรุงหรอกจะใส่จรวดกันสองอาทิตย์ก็ว่าไป ผมสนตอบรบมากกว่า
ตกไปคำเดียวแต่สำคัญมาก
จีนขายVLSแล้วแม้จะเป็นระบบบนฝั่งก็เถอะมันก็จรวดแบบเดียวกัน แล้วไอ้จรวดHQ-16 มันเป็นระยะปานกลางยิงได้ไกลแค่50กม พอๆกับ ESSM จีนไม่น่าจะกั๊กนะถ้าอยากขายเรือเรา ไม่ใช่ HQ-9ที่ยิงได้200กม.ซักหน่อยแบบนี้ค่อยน่ากั๊ก
คือถ้าเรือลำนี้ไม่มีไอ้32ท่อมาใครซื้อก็บ้าแล้วผมว่านะ เพราะมันได้มาตราฐานยุโรปสามารถเอาจรวดVLSทุกชนิดที่ใส่ได้ยิงได้ แต่ยิงเข้าเป้าหรือเปล่าอยู่ที่ระบบในเรือหละ
ถ้าทร.จะจัดหาจากจีนจริงๆ ผมก้อว่าไม่น่าเกลียดหรอกครับ
ที่สำคัญทำให้มัน Link กับ ทอ. ได้ก็พอแล้ว
จะได้ประหยัดงบซื้อ ฮ.ปราบเรือดำน้ำ ไปหลายเครื่อง
รวมกับ OHP ที่จะมี (ถ้าเอา) ก็ได้กองเรือปราบเรือดำน้ำชั้นดีแล้วครับ
แถวนี้คงเกรงใจกันบ้าง
ทร.จะได้สะสมเงินไว้ถอยเรือ ส. ซึ่งจำเป็นมากกว่า
ปล. ทร. หรือต้องการเงินเหลือไป Upgrade OHP แบบจัดเต็มครับ อิอิ
แหมม...แหมมม...ท่าน superboy...ผมก็แค่แสดงเปรียบเทียบให้เห็นว่า...ก็ในเมื่อจะมี VLS แล้ว...ทำไม ต้องวุ่นวาย การซ่อมบำรุงมากมาย...ในเมื่อ ปัจจุบัน ทร. ก็มี VLS ที่เท่าเทียมกัน แลเะจัดหามาใช้งานอยู่แล้ว...(ความเห็นนี้ไม่ได้ ซีเรียส นะครับ)
และที่ผมให้ความเห็น ก็คือว่า ระบบ LY-80 เป็นระบบบนบก สำหรับติดตั้งบนยานพาหนะ...ซึ่ง มันคนละระบบกับ VLS บนเรือรบ ครับ...
มันก็เหมือนกับ F-16A กับ F-16C ครับ...แม้มันจะเป็น F-16 เหมือนกัน แต่มันก็คนละระบบกันครับ...และตามข้อมูล คือ การที่จีนยอมจะขาย VLS แบบ LY-80
ซึ่งมันคนละระบบกับ VLS ที่ติดตั้งบนเรือครับ...
ก็เป็นในสิ่งที่ ชี้จุดสังเกตุว่า...แล้ว จีน จะยอมขายเหรอ...VLS ที่ติดตั้งบนเรือ...
ในเมื่อ ระบบ VLS บนเรือนี้...เป็น ระบบอาวุธหลัก บนเรือรบ ของ จีน ในปัจจุบัน ไม่ต่ำก่า 20 ลำ และเป็นระบบเชิงรุก (เพราะเรือรบต้องรุกไปคุมน่านน้ำข้อพิพาท)..ซึ่งไม่เหมือนกับ HQ-16 (LY-80) ซึ่งเป็นระบบตั้งรับ ที่ยังไม่รู้ว่า จีน จัดหาเข้าประจำการเป็นระบบหลักของจีนหรือเปล่า ?
ซึ่งถ้า สหรัฐ สามารถรู้จุดอ่อน ของ ระบบนี้ ได้...ก็เท่ากับ สหรัฐ และพันธมิตร เช่น ญี่ปุ่น...จะสามารถ แก้เกมส์ กองเรือจีน ได้ทั้งกองเรือเลย...จีน จะกล้าเสี่ยง เพียงใด...
เว๊ป ข้อมุล HQ-16 (LY-80)
ก็นั่นซิครับ ท่าน FatBoy...ก็ถ้า ทร. โดยรูปแบบ จัดหาอาวุธ ไม่เต็ม แม๊ก แล้ว...
ทร.จะแบกเรือ 4000 - 5000 ตัน ไปใช้งานทำไม น่ะครับ...
จัดหาเรือประมาณ 3000 - 3500 ตัน...ก็คงน่าจะเพียงพอ...แล้วก็ให้มันเต็มประสิทธิภาพ...ซึ่งระดับราคาต่อลำ 500 ล้านเหรียญ คงไม่ใช่เรื่องยาก น่ะครับ...
กับการจัดหาเรือมา 3 ลำ ขนาด 4000 ตัน...สุดท้ายระบบ ก็ไม่เต็ม แม็ก เหมือนเดิม...
สรรพาวุธ เอง...ก็จะได้ไม่ต้องดูแล VLS จำนวน 12 แท่นยิง (ถ้าเขาขายให้)...แต่ใช้งานจริง แค่ 4-6 แท่นยิง...แล้ว แท่นยิง ที่ไม่ใช้นั้น...ยังจะต้อง ซ่อมบำรุง อยู่หรือเปล่า...
แต่ถ้าจัดหา Mk-41...ก็ดูแล แค่ 2 แท่นยิง เท่านั้น...เมื่อรวมกับ เรือชั้น นเรศวร ก็เป็น 4 แท่นยิง...และ กล่อง MK-25 ก็จะเป็นแบบเดียวกัน...สามารถ สลับ สับเปลี่ยน กันได้ ทั้ง ชั้น นเรศวร และ เรือฟริเกต ใหม่..รวมถึง ลูกจรวด ESSM...
ไม่ต้อง วุ่นวาย ทั้งระบบ HQ-16 และ Mk-41...
ผมชักจะงง แล้วนะครับ ว่ามันจะเป็น เรือฟริเกตสมรรถนะสูง เน้นทางด้านต่อต้าน อากาศหรือเรือดำน้ำกันแน่นิครับ จีนก็ออกมาแนวต่อต้านเรือดำน้ำ รัฐมนตรีกลาโหมก็บอกว่าต่อต้านเรือดำน้ำ ถ้าต่อต้านเรือดำน้ำ จริง OHP ก็คงไม่ได้เกิดหรอกครับ
จัดหาเรือ Frigate สมรรถนะสูงทั้งที จะเอาแค่ต่อต้านเรือดำน้ำแค่นั้นหรอครับ ภัยคุกคามของเรือรบทุกวันนี้ คงไม่ได้มีแค่เรือดำน้ำแน่
แค่ฝันเล็กๆน้อยๆ ของผม อิอิ อย่าคิดไรมากครับ จีน เสนอขาย Type 052D 3 ลำ รุ่นเต็มสูบเต็มแม็ก ให้ อิอิ
สุดท้าย เราเลือกซื้อเรือชั้นนี้ พร้อมกะให้งบซื้อเต็มสูบ 3 ลำ De Zeven Provincien Class Klasse Frigate
หรือ จะเลือกสาวเยอรมันก็ได้ จัดเต็ม 3 ลำ อิอิ = แค่ฝันเล่นๆ คร๊าบป๋ม....
555+ ก็ฝันกันไปครับ อย่าซีเรียส เดี๋ยวผมซื้อให้ อิอิ
ขอขอบคุณมากนะครับท่านเชลซี ฝุ่นตลบทั้งเวปเลย
ใจเย็นๆครับป๋าจูล ผมรู้ว่าผิดหวังอย่างแรง ผมก็อึ้งเหมือนกัน น้ำลายเหนียวคอ.......ดูจากข้อความนะครับ
Type 054T frigate may be an improved version of the Type 054A frigate, possibly designated F40T, for which discussions have been held between Thailand and China.
เป็น type 054 ที่ยอมให้ทางไทยมีส่วนร่วมในการปรับปรุงแบบเพื่อให้ได้สเปกตามความต้องการของไทย จะกำหนดชื่อว่า F-40T
ผมว่าทางจีนพยายามแย่งดีลกับเยอรมันโดยพยายามเสนอแนวคิด "เรือชั้นนเรศวร"
ที่ตัวเรือร่วมกันออกแบบโดยใช้พื้นฐานจากแบบเรือของจีน แล้วเลือกระบบอาวุธและระบบตรวจจับจากตะวันตก โดยส่วนตัวผมกำลังคิดว่า จีนคงพยายามยัดเยียดระบบอาวุธบางแบบที่ทร.มองว่าไม่ซีเรียสนักให้ เช่น ปืนใหญ่เรือขนาด 100 มม. หรือระบบอื่นใดที่ไม่ใช่ระบบตรวจจับและอาวุธหลักเพื่อให้ราคาของโครงการถูกลงเพื่อให้ทร.สามารถจัดหาได้ 3 ลำ โดยที่ทร.ไทยยังสามารถจัดหาระบบอาวุธและระบบตรวจจับจากชาติตะวันตกมาเป็นระบบหลักของเรือ
ก็ตามประเมินราคาค่าต่อเรือเปล่าที่พวกเราทำกัน ตกประมาณ 7,000 ล้านสำหรับเรือ 1 ลำ ตันละ 2 ล้าน ถ้าต่อจากจีนอาจจะตันละไม่ถึง 1 ล้าน ประมาณ 8 แสนบาท 4,000 ตันก็ประมาณ 3,200 ล้านบาท 3 ลำก็ประมาณ 10,000 ล้าน ผิดกับที่ต่อจากเยอรมัน 2 ลำเรือเปล่า 14,000 ล้าน ไม่นับรวมระบบอาวุธ แล้วทร.ประหยัดได้สัก 4,000 ล้านบาท เสนออาวุธบางแบบที่ไม่สำคัญเพื่อให้ราคาระบบอาวุธถูกลงสัก 1,000 ล้านต่อลำโดยเสนออาวุธจีนให้ในส่วนนี้ เท่านี้ก็จะสามารถต่อได้ 3 ลำ โดยอาวุธหลักเป็นของตะวันตก อาวุธรองและตัวเรือต่อจากจีน
อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ทร.แล้วละครับว่าจะเอาไง............. กะแล้วถ้าจีนจะสู้กับเยอรมันที่นอนมา(มีลุ้นดีลเรือฟรีเกตพ่วงเรือดำน้ำฝึก) แบบนี้จีนคงเอาดีลที่เคยประสบความสำเร็จมาลองสู้กับเยอรมัน นั่นคือ ดีลเรือ F-25T หรือเรือชั้นนเรศวรนั่นเอง แบบว่าไทยและจีนมีประสบการณ์ในการปวดหัวกับเรือชั้นนี้มาก่อน อะไรที่เคยปวดหัวกับมันลองมาคุยกับอั๊วดูถ้าอั๊วแก้ให้ได้ตามที่ลื้อต้องการ ก็เอาไป 3 ลำ หรือลื้อจะเอาของหรูก็ตามใจ
ต่อต้านเรือดำน้ำ แหล่ะครับ...ท่าน kok129...
เพียงแต่ ประเด็น ที่คุยกัน คือ...เรือ type-054T นี้ จำนวน 3 ลำ จะมี VLS ติดมาด้วยหรือไม่...ในราคาต่อลำ 333 ล้านเหรียญ...ที่ตามข่าวที่อ้างถึงว่า...เป็น ดีล ที่ ไทย ไม่อาจจะปฏิเสธ ได้...ก็เลยคาดว่า จะมี VLS ติดมาด้วย...แต่ ผม วิเคราะห์ว่า ไม่น่าจะติดมาด้วย น่าจะเป็นราคาเรือ + ฮ.ปด....และว่า จีน คงไม่น่าจะขาย VLS รวมมาให้...
แล้วก็ไปคุยใน ประเด็น เปรียบเทียบระบบ VLS ของ จีน กับ MK-41...ที่ว่า มีข้อด้อย ข้อเสีย อย่างไร...ซึ่ง ผมก็ให้ข้อมูลเปรียบเทียบให้ครับ...
แต่ ถ้าจัดหาเรือ จำนวน 2 ลำ ที่ราคาต่อลำ 500 ล้านเหรยญ...มันคงต้องมี VLS ติดมาด้วยครับ...
ส่วนเรื่องระบบโซนาร์ และระบบ ต่อต้านเรือดำน้ำ...ในประเด็นนี้...ผมว่าระบบของ ฝั่งตะวันตก คงจะเหนือกว่าอยู่ครับ...ซึ่ง จีน คงจะลดข้อด้อยในเรื่องนี้ ด้วย ฮ.ปด.
ถ้าระบบเครื่องยนต์หลักเป็น CODLAG หรือ CODAG ระบบอำนวยการรบของและระบบตรวจจับของ Thales ทั้งชุดมา เช่น SMARTS-mk-2 STIR 1.2EO LW-08 หรือ DA-08 ก็ได้ ระบบโซน่าร์หัวเรือและระบบโซน่าร์ลากท้ายเป็นของ Thales เช่นกัน ระบบสื่อสารและโมเด็มเป็นของสวีเดน
ระบบอาวุธหลัก ก็ VLS mk-41 16 cell เหมือนเดิมืืื จะยัดทั้ง ESSM ASROC ก็ได้ ส่วนฮาร์พูนหรือ RBS-15 ก็ว่ากันไป
ส่วนระบบรอง เช่น ปืนใหญ่ ก็อาจจะ 76 มม หรือ 100 มม. จากจีน เรด้าณ์ควบคุมการยิงของมันก็จากจีน ปืนรองขนาด 37 มม. คู่จากจีน เรด้าร์ตรวจการณ์พื้นน้ำจากจีน ระบบจรวดต่อต้านเรือดำน้ำจากจีน เป็นต้น
ส่วนประสบการณืที่ไม่ดีในครั้งแรกกับเรือชั้นนเรศวรนั้น มาคราวนี้จีนเปิดทางกว้างให้มีส่วนในการออกแบบเรือทั้งลำด้วย จะได้จบปัญหาเดิมๆ แต่การจะ Upgrade เรือให้กลายเป็นเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศระดับหรูๆ คงต้องเลิกฝัน หรือไม่ทร.ก็ต้องออกแบบเผื่อไว้เลย
"ผมว่าทร.ไม่เอาระบบอาวุธและระบบตรวจจับหลักจากจีนเด็ดขาด" ถ้าต้องรับดีลนี้
ถ้าจีนเสนอดีลแบบที่ว่ามา แบบนี้สู้กันสนุก ถามว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่จะยอมรับได้ไหมกับดีลที่คล้ายๆเรือชั้นนเรศวร
โอ๊ะ......ลืม.....! ต้องได้ระบบป้องกันระยะประชิดมาด้วย 2 ระบบต่อเรือ 1 ลำด้วย ไม่ว่าจะเป็น แท่นยิง RAM 21 นัดพร้อมลูกจรวด หรือ Sea RAM หรือ ฟาลังก์ จะติดตำแหน่งเดียวกันกับเรือจีน หรือ ตำแหน่ง หัวเรือ ท้ายเรือก็แล้วแต่ครับ
ส่วน ESSM อาจจะติดตั้งแค่ 8 ลูกก่อน แล้วค่อยๆจัดหาจนครบ 32 ลูกต่อเรือ 1 ลำในภายหลังได้
สำหรับผม ถ้าได้สเปกระบบบอาวุธและระบบตรวจจับอย่างที่ผมบอกถึงขนาดนี้จริง และการมีส่วนในการออกแบบครั้งนี้ เราได้สิทธิ์ในการนำแบบเรือมาต่อเองและสามารถส่งขายได้ด้วย เออแบบนี้ผมยอมรับได้ครับ เพราะเราสามารถต่อเรือฟรีเกตเองได้ทันทีโดยใช้แบบเรือ "F-40T" แต่เราก็จะเสียโอกาสการเรียนรู้การต่อเรือชั้นเยี่ยมอย่างเยอรมันไปด้วย แล้วแต่มุมมองครับ
สำหรับมุมมองจีน นี่เป็นการเสี่ยงพอดูที่ปล่อยให้เราสามารถรับรู้แผนแบบของเรือฟรีเกตหลักสำคัญที่สุดของจีนเลยทีเดียวครับ ซึ่งมีโอกาสที่จะหลุดไปถึงมือชาติตะวันตกเป็นอย่างมาก และผมรับประกันว่าระบบอาวุธหลัก จีนไม่ขายให้เราเด็ดขาดเช่นกันครับ แค่นี้สำหรับเขาก็เสี่ยงพอควรแล้ว
ตอนนี้เรือนเรศวรยังจอดในอุ่หวังว่า ทร. คงทำการศึกษาปัญหาของเรือจีนก่อนตัดสินใจนะครับ ส่วนเรื่องการ Link เข้ากับ Jas39 และ Erieye เรือฟรีเกตของเราสามารถเชื่อมต่อได้แต่มันก็ต้องเสียงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์และค่าติดตัง
ถ้า ทร เลือกของจีน และได้ปรับปรุงออกแบบเองใหม่ ช่วยทำให้มัน สเตล ขึ่นเยอะๆหน่อยนะครับ มุมตัดด้านหน้าเรือมันไม่ค่อยเท่เลย ผมชอบแบบเหลือหลวงกระบี่ ด้านหน้า คร้ายๆ F125 ของเยอรมัน ฝันไปไหมหนอ 55+
สำหรับผมดีลเรือจีนจะถือว่าคุ้มต้อง
1. สเปกระบบอาวุธหลักและระบบตรวจจับหลัก ระบบอำนวยการรบ CIWs ต้องได้สเปกแบบที่ผมบอก
2. ข้อนี้สำคัญที่สุด คือ ต้องได้สิทธิ์ในการต่อเรือ F-40T เอง อีกกี่ลำก็ได้ และควรได้สิทธิ์ในการต่อขายด้วยก็จะยิ่งดี เพราะเรือ type 054A นั้นก็ถือเป็นเรือฟรีเกตหลักของจีนด้วย น่าจะทำตลาดง่ายขึ้น
เ
เหตุผลอีกข้อที่ทำให้ข้อ 2. สำคัญที่สุด คือ แบบเรือฟรีเกตชั้นดีที่แก้แผนแบบให้เหมาะสมกับเรานั้นมีอยู่ในมือแล้ว ถ้าทำเรื่องขอซื้อเรือดำน้ำอีกรอบไม่ผ่านอีก ก็ของบอีก 30,000 ล้าน ทำการต่อเรือ F-40T ลำที่ 4 5 6 ได้ในทันทีโดยอู่ต่อเรือในประเทศไทย...........ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อแบบจากใครอีกครับ ถ้าเป็นแบบนี้ได้ F-122 ก็คงไม่ต้องการอีก แม้แต่เรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศที่จะต่อภายหลัง
เพราะถ้าการ โมดิฟายด์แบบเรือ type 054A ครั้งนี้มีการเผื่อการปรับแบบให้เป็นเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศเอาไว้แต่ต้น เช่น โรงเก็บฮ.ด้านท้าย ถ้าเป็นรุ่นป้องกันภัยทางอากาศ ก็ตัดโรงเก็บออกหนึ่งโรงไปเป็นที่ติดตั้งแท่นยิง VLS mk-41 16-32 cell ได้ทันที เสาสำหรับระบบเรดาร์ทั้งสองจุด สามารถปรับเปลี่ยนไปรองรับระบบเรด้าร์แบบ I-MAST-500 และ SMART-L ได้ในทันที เป็นต้น ออกแบบระบบไฟฟ้าเผื่อเอาไว้ด้วยเลย เพราะต้องกินไฟเยอะขึ้น
ถ้าจะต้องทำภาระกิจ Land attack ก็เผื่อพื้นที่ติดตั้ง harpoon หรือ RBS-15 mk-4 ได้เลย 16 นัด เป็นต้น
ต้องได้อย่างนี้ครับถึงจะคุ้ม เฉพาะข้อแรกก็คุ้มแล้ว เพราะราคา 10,000 ล้านบาทต่อลำ สเปกอาวุธจะดีกว่าเรือ Gowind class แล้ว เพราะรองรับฮ. 2 เครื่อง และรองรับระบบ ASROC ด้วย ESSM 32 ราคาตั้ง 1,000 ล้าน เอามาตอนแรกลำละ 8 นัดไปก่อนก็ได้ เพื่อให้ราคารวมถูกลง แล้วค่อยหาตั้งซื้อจนครบ 32 นัดสำหรับทุกลำก็ได้
ส่วน OHP 2 ลำ ก็บีบรัฐบาลไปเลยว่า ถ้าคุณจะให้ผมเปลี่ยนไปเลือกแบบของจีน งั้นผมของการปรับปรุง OHP 2 ลำแบบเต็มสเปกด้วย ผมถึงจะตอบรับดีลนี้.........ไม่งั้นเยอรมันก็จะมาเช่นเดิม................ทุบโต๊ะไปเลยครับ
อ้าว......เวลาส่งข้อความทำไมมีข้อความบางส่วนตกหาย ส่วนที่ตกหายคือ
เหตุผลที่ทำให้ข้อที่ 2 สำคัญที่สุด เพราะแผนแบบ F-40T นั้นคนของทร.ช่วยจีนในการแก้แบบครับ จะทำให้แบบของเรือจีนเดิมที่ใช้ได้แต่ระบบอาวุธของจีนและรัสเซีย จะสามารถไปใช้ระบบอาวุธและระบบตรวจจับของตะวันตกได้ทันที นอกจากนี้ถ้าเราออกแบบเผื่อไว้สำหรับ
ภาระกิจป้องกันภัยทางอากาศ
ภาระกิจ Land attack
ASW
แบบนี้ก็หวานหมูจีนสิครับ เพราะเขาจะสามารถต่อเรือ F-40T ไปขายชาติที่ใช้ระบบอาวุธตะวันตกได้ทันที ด้วยความสามารถจากมันสมองคนไทย แต่จีนหาเงินได้อีกมากมายกว่านั้นเยอะ ดังนั้น ต้องได้สิทธิ์ในการต่อใช้เองไม่จำกัดจำนวน และต้องได้สิทธิ์ในการขายให้แก่ตลาดต่างประเทศด้วยครับ ต้องเคี้ยวให้สุดๆถ้าจะเอาดีลนี้
สำหรับผม พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โอกาสแบบนี้หาไม่ง่ายถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง
อยากให้พวกผมเปลี่ยนดีลเป็นเรือจีนใช่ไหม ได้เลย แต่รัฐบาลต้องจัดหา OHP 2 ลำนี้โดยการ Upgrade เต็มสเปก ก็แค่ประมาณลำละ 3000 ล้านบาทเท่านั้น เพราะพวกผมตอบสื่อมวลชนยาก มีสิทธิ์ถูกสับเป็นชิ้นๆเยอะ และสเปกระบบอาวุธรวมทั้งเงื่อนไขกับจีน ต้องเอาตามที่ผมบอก เอาไม่เอา ...... ทุบโต๊ะเปรี้ยงไปเล้ย........
อู่เรือภายในประเทศที่อ้างว่ารองรับการต่อเรือขนาด 4000 ตันเศษ เท่าที่รู้นะครับ
อู่ราชนาวี
อู่ต่อเรือกรุงเทพ(ที่กรุงเทพ)
อู่อิตัลไทยมารีน
อู่ยูนิไทย
อู่มาซัน อ้างในเวปว่ามีสลิปเวย์และพื้นที่ต่อสำหรับเรือขนาด 4000 ตันด้วย แต่อู่แห้งยังเล็กเกินไป
ดีครับ ถ้าได้แบบที่ผมว่า เรือดำน้ำไม่ได้อีก ก็ขอไปอีก 30,000 - 40,000 ล้าน ต่อลำที่ 4 5 6 7 ไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด หลากภาระกิจ สักวันก็ต้องได้เรือดำน้ำเองแหล่ะครับ วันข้างหน้าค่อยนึกถึงเรือเบิ้มกว่านี้ อย่างในรูป ถ้าจีนเกิดเฮี้ยนแบบนี้อีกรอบ
อ้าว.....ไหงรูป type 052C ไม่มา ลองอีกที
จากกระทู้ของป๋าจูลที่ผมเคยลงราคาประมาณการของระบบอาวุธและระบบตรวจจับแบบหยาบๆนะครับ
http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=17262&topic=%C1%D2%C3%D9%E9%A8%D1%A1%20%E0%C3%D7%CD%BF%C3%D4%E0%A1%B5%20Meko-D%20%A1%D1%B9%A4%C3%D1%BA
ส่วนราคาเรือใหม่ ให้ผมเดาเอานะครับ..... ถ้าทร.ต้องการจรวดต่อต้ายอากาศยานแค่ป้องกันเฉพาะจุด คงต้องจัดหา ESSM และ ถ้าต้องการจรวดต่อต้านเรือดำน้ำด้วยคงต้องจัดหา ASROC คงต้องใช้ VLS Mk-41 16 cell ส่วนจรวดต่อต้านเรือรบก็คงเป็น Harpoon เช่นเดิม และถ้าต้องการระบบ CIWs โดยดูจากการติดตั้งของทร.เยอรมันเป็นหลัก ก็ต้องจัดหา RAM แท่นยิง 21 นัด และ ฟาลังก์ อย่างละ 1 ระบบ ส่วนปืนใหญ่ก็อาจจะเลือก 76 SR ก็เป็นได้(รุ่นใหม่สามารถทำหน้าที่เป็น CIWs ได้ และตอร์ปิโดพร้อมท่อยิงแฝด 3
VLS Mk-41 16 cell ราคาประมาณหยาบๆราวๆ 20 กว่าล้านเหรียญ หรือ ประมาณ 700 ล้านบาท
ESSM 32 ลูก ราคาประมาณ 1,000 ล้านบาท
ASROC 8 นัด Harpoon 8 นัด รวมกันน่าจะประมาณ 650 ล้านบาท
RAM + ฟาลังก์ พร้อมลูกจรวดครบ น่าจะประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาท
ตอร์ปิโดและปืนใหญ่ 76 SR รวมเป้าลวง segem และเป้าลวงตอร์ปิโด น่าจะอีกราวๆ 1,000 ล้านบาท
ดังนั้น ระบบอาวุธและเป้าลวงก็ต้องใช้เงินกว่า 4600 ล้านบาทแล้วครับ
ถ้าคำนึงถึงระบบตรวจจับด้วย
ใช้ SMART-S mk-2 เป็นเรด้าร์อำนวยการรบ
STIR 1.2EQ สองตัวหน้าหลัง
เฉพาะเรด้าร์ 3 ตัวนี้ก็น่าจะราวๆ 1,000 ล้านบาท
เรด้าร์ตรวจการณ์อากาศ 2D LW-08 และระบบอำนวยการรบ TACTICOS ราคาก็อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท
ระบบโซน่าร์หัวเรือ และ โซน่าร์ ลากท้าย ราคาอีก ประมาณ 1,000 ล้านบาท
รวมระบบตรวจจับก็อีกประมาณ 3,000 ล้าน
ดังนั้นราคาระบบอาวุธและระบบตรวจจับ ระบบอำนวยการรบ ก็ประมาณ 7,600 ล้านบาทแล้วครับ ไม่นับ ESM ECM ECCM
ราคาเรือน่าจะตกตันละ 2 ล้านบาทแล้วละครับป๋าจูล คือ ประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับระบบอาวุธและระบบตรวจจับแล้วก็ประมาณ 15,000 ล้านบาทพอดี
เรือเปล่าต่อจากเยอรมันนี่แพงได้ใจ จริงๆนะครับ แพงมาก ถ้าต่อที่สิงคโปร์หรือจากเกาหลี คงถูกลงไปสัก 2500-3000 ล้านบาทได้สำหรับเรือระวาง 3500-4000 ตัน แต่ต้องยอมรับครับว่า ของเยอรฒันมันสุดยอดจริงๆ
จะเห็นว่าถ้าเราต่อเรือจากจีนแล้วได้ตันละประมาณ 8 แสนบาท ราคาเรือเปล่าจะตกลำละ 3200-3300 ล้านบาท 3 ลำก็ประมาณ 10,000 ล้าน ส่วนเรือจากเยอรมัน 2 ลำ สำหรับเรือเปล่าจะตกประมาณ 14,000 ล้านบาท
ถ้าเราจัดหา ESSM มาแค่ 8 นัดสำหรับเรือ 1 ลำ จะประหยัดเงินไปอีกประมาณ 800 ล้านบาทต่อลำ 2 ลำก็ประมาณ 1600 ล้านบาท และถ้าจัดหาอาวุธรองเป็นของจีน ก็น่าจะประหยัดเงินรวมกันได้เป็นประมาณ 2000 ล้านบาท
เมื่อรวมการประหยัดทั้งหมด น่าจะประหยัดได้ประมาณ 6000 ล้านบาท ซึ่งจะมาเป็นค่าอาวุธและระบบตรวจจับสำหรับเรือลำที่ 3 ครับ
ถ้าได้สเปกตามที่ผมเขียน เรือจีนลำละ 10,000 ล้านก็ถือว่าคุ้ม เพราะระบบอาวุธระบบตรวจจับตะวันตก
สรุปว่าดีลนี้ของจีนก็พอรับได้ แต่มันคงต้องสู้กันอีกหลายยก เผื่อเยอรมันจะมีแถมอะไรมาหรือลดราคาลงมาสู้ หรือฝรั่งเศสมาร่วมวงด้วย เมกาอีก อังกฤษอีก ตอนนี้เรียกว่าต้องการรายได้เข้าประเทศกันทั้งนั้นมัวเรื่องมาก อด จะมากจะน้อยก็ต้องเอาไว้ก่อน
ผมว่า ในวงเงินงบประมาณ 30,000 ล้านบาท (โครงการเต็ม 33,000 ล้านบาท)
ทร.สามารถจัดหา เรือฟริเกตสมรรถนะสูง ได้...หรือถ้า จัดหาสัก 3 ลำ โดยระบบสามารถสนับสนุน เข้ากับ กองเรือปัจจุบัน ของ กองทัพเรือ ก็น่าจะสามารถทำได้...ถ้าเกิด ข้อพิจารณา เปลี่ยนแปลงไป ในเรื่องจำนวน...
ซึ่ง ดีล ของ จีน...ก็คงจะไม่มีใครปฎิเสธ...ถ้า ดีล จาก ประเทศจีน สามารถจะตอบในเรื่อง ประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับ ประเทศอื่น ๆ ได้ ครับ...
เพียงแต่...ก็ต้อง ดักคอ กันไว้ก่อน...ผมกลัวจะใช้ ปริมาณ มาใช้ในการพิจารณาหาเรือที่มีประสิทธิภาพ...
เพราะ ประวัติในอดีต มันเคยมี...ในโครงการเรือ OPV ในลักษณะการดำเนินการโครงการแบบเนรือชั้น กระบี่...ควรจะเกิดมาตั้งแต่เมื่อเกือบ 10 ปี ที่แล้ว...เรือชั้น ปัตตานี (ซึ่งไม่ใช่ในรูปแบบปัจจุบัน) ควรจะเป้นเรือชั้นแรกในระวาง ฟริเกต ที่เกิดจากอุตสากรรมในประทเศไทย เมื่อเกือบ 10 ปี ที่แล้ว...ถ้าไม่โดน กำลังภายใน ยกเลิก...แล้วไปใช้การต่อเรือ ปัตตานี จากประเทศจีน แทน...
ซึ่ง ผมก็กลัวว่า...โครงการนี้ มันจะซ้ำรอย โครงการเรือชั้นปัตตานี...เจอ กำลังภายใน เป็นเหตุการณ์ซ้ำซาก อีกครับ...
แผ่นภาพ ให้เห็น ครับ...
สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน....ผมชอบเข้ามาอ่านกระทู้ในเวปไซด์ประจำแต่ไม่ค่อยจะแสดงความเห็นมากเท่าไหร
แต่เรื่องเรือฟริเกตชุดใหม่เนี้ยขอสักหน่อยเถอะ...เพราะว่ามันใกล้กับตัวผมมาก ผมเป็นคนนึงซึ่งเคยทำงานอยู่บนเรือราชนาวีที่ต่อจากจีนลำนึง(422)
และได้เคยไปออกช่วยปฏิับัติราชการทางฝั่งอันดามันกับอีกลำนึง (456) จากประสบการณ์นะครับ เรือจีนผมคิดว่าไม่น่าจะเหมาะสมที่่สุดกับการที่จะจัดหา
ในครั้งนี้เพราะจากประสบการโดยตรงเรือจีนทั้งสองลำที่เคยสัมพัสมา พูดถึงตัวเรือก่อน ตัวนั้นเป็นเหล็กที่ค่อนข้างจะเกรดต่ำถึงต่ำ่มากถ้าเทียบกับเรือที่จัดหา
มาจาก ยุโรบ (433) หรือ มะกัน (461,462) เพราะการบำรุงรักษาค่อนข้างจะยากตัวเรือมีมีความเสียหายง่ายแค่โดนน้ำทะเลไม่ถึงอาทิตย์ก็เหลืองเกือบทั้งลำแล้ว
ผมเคยเคาะจนเหล็กขาดติดมือมาแล้วด้วย (เคาะสนิมนะครับชาวเรือรู้ดี) ใต้ป้อมปืน 37 ทะลุเป็นรูใหญ่มาก ส่วนลำที่ออกอันดามันนั้นสภาพก็ไม่ได้ต่างกัน
เพราะบริษัทเดียวกันต่อเรือลำนี้มา แต่ที่น่ากังวลคือ แท่นยิงจรวด ซึ่งที่เป็นจรวดของฝั่งตะวันตกเค้าไม่ใ้ห้ไปยุ่มย่ามกับมันเลย สำหรับลำนี้ประจำเรือเคาะกัน
สนุกสนานมือแตกกันไปตามกัน ระบบศูนย์ยุทธการก็เป็นของจีนทั้งหมด เรดาร์ก็มีเฉพาะเรดาร์เดินเรือที่ฝั่งยุโรบหนำซ้ำระบบเรดาร์บางครั้งก็ยังใช่การได้บ้าง
ไม่ได้บางเคยฝึกยิงจรวด (c-801) แล้วเรดาร์ควบคุมการยิงไม่สามารถเทคเป้าได้(ตอนที่ยิงเพควันนะครับเรือหลักยิงไปแล้วแต่เรือรองยิงไม่ออก
สุดท้ายต้องให้ชุดเรือเร็วโจมตี อวป.จัดการต่อ) ถามว่ามันมีความแม่นยำในการยิงไหม ตอบว่าแม่นครับแต่เรดาร์ไม่แน่นอนว่าใช่ได้หรือไม่ได้ ส่วน 37mm แท่นคู่ ไม่ต้องพูดถึงระบบควบคุมพังตั้งแ่ต่รับมาปีแรกยิงไม่ได้ถ้าจะยิงก็ต้องใช้ JM ที่อยู่บนโรงเก็บ ฮ.เป็นตัวเล็งและยิง
ต่อครับ
โซนาร์อย่าได้พูดถึงมันจับเรือพวกเดียวกันเองได้ก็ดีเ่ท่าไหรแล้ว ระบบป้องกันความเสียหายก็ดีในระดับนึงแต่ภายในตัวเรือเป็นฝ้าที่เป็นเชื้อไฟล้วนๆ ที่โฟสนี้แค่อยากใ้ห้ลองคิดเล่นว่าถ้าจีนเค้าจะขายให้เราอีกเค้าจะทำแบบนี้กับเราอีกหรือเปล่า (แบบอีกอย่างแต่
เรือเป็นอีกอย่าง) ไม่ใช่ว่าเรือจีนไม่ดีนะครับ(แต่ 456,457,467,468 ไม่ดีเอาซะเลยไปเมืองท่าไหนเค้าก็ยิ้ิมใส่) ระบบเดินเรือ
ระบบเครื่องจักใหญ่ ระบบสื่อสาร ระบบอาวุธหลักนี้สุดยอดมาก (ที่พูดมาเนี้ยมีของจีนมั้งป่าววะ ออ มี ๆ )กว้านสมอดีมาก ห้องนอนกว้าง แอร์เย็นสบาย แล้วถ้า ทร.ยังจะกลับไปเอาแบบนี้มาอีกก็แล้วแต่เค้าละครับผมก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานไปต่อได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น (แต่มักจะโดนด่าว่าอย่าเอาความไม่พร้อมของอุปกรณ์มาเป็นอุสรรคในการทำงาน ก็มันไม่ดีแล้วก็ไม่มีอะให้ทำงั้ย)
ตอนที่เรือชุด นราธิวาสต่ออยู่ ยังตัวแดง ๆ อยู่ (สนิมทั้งลำยังคิดว่ามันจะออกทะเลได้กี่รอบตัวเรือแดงขนาดนี้แต่ก็ไปโซมาเลียได้)
ผมยังคุยกับพี่ ๆ ที่เป็นประจำเรือด้วยกันว่ามันจะผุซะก่อนถึงไทยหรือเปล่าเนี้ย
แต่ที่อ่าน ๆ จากกระทู้ข้างบน มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเรือจีน ลองอ่านกระทู้ที่ผมจิ่มดีดเนี้ยครับแล้วลองเปรียบเทียบว่าเรือ
จีนหรือ เรือจากฝั่งตะวันออกดีกว่ากันนะครับ (ขอจบฮ้วน ๆ แบบนี้แหละครับ ขอบคุณโชคดี สวัสดีครับ)
ขอบคุณครับ ท่าน jingking13...สำหรับ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กันครับ...
นี่มันหมัดน็อกชัดๆ
เรือชุดเจ้าพระยา นี้ประสบการณ์โชบโชนมามากเลยนะครับ ตั้งแต่ลุงผมแล้วครับ ชนหินที จอดในอู่เป็นเดือนเพื่อซ่อม ไปไหนไกลๆ ไปชนไรทีก็เข้าอู่เพราะเหล็กนี้มันบางมาก ลุงของผมเข้าก็บ่นให้ประจำ ตอนเรือหลวงกระบุรี ออกทะเลไปไหนที มีแต่เรื่องแต่ลุงเค้าก็บอกว่า ดีอย่างนึง สามารถฝึกให้ช่าง เป็นคนที่เก่งกว่าประเทศอื่นได้เยอะ
รูปที่มีบางรูปเป็นชั้นความลับค่อนข้างลับมากครับถึงลับที่สุดครับ เพราะตอนอยู่เรือผมเป็นตากล้องประจำเรือครับ
ความจริงแล้ว แบบ ร.ล.กระบี่ ที่เราไปซื้อมานั้น ก็เป็นแบบเรือที่ดีมากแบบหนึ่งเลยนะครับ
จากที่ดูคลิปแล้ว จะเห็นว่าเค้าออกแบบไว้สำหรับหลากหลายภารกิจเลยทีเดียว ติดตั้งอุปกรณ์ได้หลากหลาย
ถ้าเรานำแบบมาขยายแล้วติดตั้งอุปกรณ์ตามที่เราต้องการ ก็อาจเป็นเรือฟริเกตประสิทธิภาพสูงได้เลยทีเดียว
เพียงแต่ตอนนี้เราคงต้องสะสมประสบการณ์การต่อเรือและเทคนิคการต่อเรือตามมาตราฐานทางทหารให้มากๆ ก่อนนะครับ
เพราะตอนนี้ผมว่าเรายังต่อเรือมาตราฐานทางทหารแท้ๆ ยังไม่ดีเท่าที่ควรนะครับ
จากที่อ่านใน TAF แล้ว เค้าบอกว่า ร.ล.กระบี่ ที่ต่อนั้นใช้มาตราฐานเรือพาณิชย์ชั้นสูง ยังไม่ถึงขั้นมาตราฐานทางทหาร
ถ้าเราสะสมประสบการณ์ได้เพียงพอ หวังว่าวันหนึ่งประเทศเราคงต่อเรือฟริเกตได้ด้วยตนเองนะครับ
จริงๆก็อยากตอบอย่างที่ท่าน jingking13 เหมือนกันครับแต่ไม่ทราบว่าอุปกรณ์ที่ใช้ไม่ได้นี่เอามาเปิดเผยจะกระทบกับความมั่นคงหรือเปล่าครับ
การเอาอุปกรณ์ที่ใช้ไม่ได้มาเปิดเผยก็กระทบความมั่นคงได้เยอะครับ ทำให้คนอื่นรู้หมดว่าไอ้นี่ใช่้ไม่ได้ จ่กที่ยังเอาไว้หลอกให้กลัวก็ไม่กลัว
คือแค่ออกมาแฉก็อาจกระทบในระดับนึง แต่ก็อาจไม่มีผลเพราะหน่วยงานประเทศอื่นๆเขาอาจจะรู้อยู่แล้ว อย่างที่เราๆรู้กันว่าบางประเทศของพังๆมีไว้โชว์ หรือของต้องซ่อมเวียนเทียน หรือความพร้อมรบของบางหน่วยบางประเทศต่ำ
คนใช้มาเอง แบบนี้
ทำเอาขยาดไปพอสมควร ??
เนื่องจาก อันตรายต่อกำลังพล เหมือนกันนะครับ
กับ ความพร้อมในการรบ ซึ่งเป็นหัวใจของกำลังรบ
เรดาร์ ใช้ได้มั่งไม่ได้มั่ง นี่
จบเห่ เอาเลย
ก็ยัง "ว้า" อยู่นะครับ
แต่ถ้าได้เรือจีนมาจริงๆ QC ฝ่ายเรา จะมีอำนาจการตรวจสอบ ต่อรอง ได้มากน้อยประการใด ???
เพราะยังไง เราก็ "ผู้ซื้อ และ ผู้ใช้" ครับ
ยังไม่นับจะโดนทอนสเป็คอีก ???
หึ หึ
ในความเห็นส่วนตัวของผมว่า...ไม่ต้องเปิดเผย ภาพ หรอกครับ...
เป็นการแสดงความคิดเห็น...ผมว่า มันจะเพียงพอครับ...
ให้เป็นเรื่อง วิจารณญาณ ของแต่ละท่าน ที่จะวิเคราะห์ ดีกว่าครับ...คงไมต้องถึงกับการพิสูจน์ขนาดนั้นครับ...
เอาไว้เป็นเรื่องใน เวลาที่ เหมาะสม...น่าจะดีกว่าครับ...
ตอนนี้ ก็เพียงเรื่องข่าว...ที่เราใช้ในการ วิเคราะห์ วิจารณ์...
การจัดหา ก็ยังไม่เกิดขึ้น...วิธีการจัดหา ก็ยังไม่เกิด ครับ...
ผมเกรงว่า...จะทำให้เว๊ป ถูกเข้มงวด เกินไป...ผมว่า เป็นเว๊ป เปิด แบบนี้ ค่อนข้างดีอยู่แล้วครับ...
มีความเสรี ในความคิด...ใครจะเกิน ใครจะขาด..ก็ เคารพ ซึ่งกันและกัน ครับ...
มาแนวเดียวกับType85เลย ในโบรชัวร์อย่างหล่อพอถึงไทยอย่ากาก บอกว่ายน้ำได้พอลงน้ำจริงดำไม่โผล่ซะงั้น
เห็นด้วยกับความเห็นของป๋า Judas ครับ เคารพในความเห็นซึ่งกันและกัน วิจารณ์กันในข้อมูลที่ถูกต้องครับ /ADMIN
จากที่พบว่าก็จริงที่ว่าโลหะทุกชนิดจากจีนหรือแม้แต่ของไตหวันคุณภาพต่ำกว่าสเปคที่กำหนดตลอดใช้ไม่นาน ยังไม่พ้นช่วงรับประกันก็ออกอาการผุกร่อน วิธีแก้ที่เคยทำคือใช้เครื่องวิเคราะห์องค์ประกอบของโลหะซึ่งเครื่องไม่ใหญ่สามารถหิ้วได้ ใช้คนทำ 2 คน วิเคราะห์ว่าตรงสเปคหรือเปล่า ต้องทำ 100% กับโลหะทุกแผ่นแล้วตีตราก่อนส่งไปขึ้นรูปทำชิ้นงานครับ ถึงอย่างนั้นก็แปลกตรงที่โลหะสเปคเดียวกันจากจีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เมื่อเทียบกัน ของจีนจะออกด่างๆไม่เงาเท่าของ ญี่ปุ่น เยอรมัน ออกเตรเลีย จึงไม่แน่ใจว่าของประเทสเหล่านั้นมีส่วนผสมอะไรพิเศษหรือเปล่า ครับ
เราต้อง มองเรื่อง relative ด้วย ครับ วันทีเราลำบาก ช่วงภาวะสงคราม...ใครที่ช่วยเหลือเราจริง... เขาไม่เคยกีดกัน...ผมว่าของจีนก็ไม่เลว ครับ มองหลาย ๆ มิติ...ค่อย ๆ up กัน ไป ของพวกนี้ จริง ๆ คือ การป้องปราม...
ฟังจากผู้มีประสบการณ์ตรงแล้วผมว่า "น่าจะ"จอด มันเป็นการdown grade กันชัดๆ เลย เอาเป็นว่า เรือขอผ่านไปเจ้าอื่นดีกว่า อาวุธแบบอื่นเราค่อยมาคุยกัน ยังมีเยอรมันกับฝรั่งเศส(มาด้วยหรือเปล่าครับเดาเอา)
ถ้ากองทัพเรือเอาเรือจีนจริง ทีนี้กองเชียร์กองทัพเรือก็อย่าโวยกองทัพบกกองทัพอากาศว่าเขาอยากได้อะไรก็ได้นะครับ
เพราะกองทัพเรือไม่หนักแน่นเอง ก็ประกาศเองว่าจะเอาเรือเยอรมัน ถ้าท่านเอาเรือจีนท่านก็ปล่อยให้การเมืองแทรกแซงเอง
เลิกลุ้นแล้วครับกับการจัดหาอาวุธของกองทัพเรือ ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็แทรกแซงตลอดกับกองทัพเรือ
ขอบคุณมากนะครับสำหรับข้อมูล
ฟังแล้วอึ้ง...................คุณภาพตามราคาจริงๆ...............มิน่าทำไมมันถูกจัง ถ้าลำแรกต่อในจีน ลำที่เหลือต่อในไทยจะดีซะกว่าอีก........
เชื่อว่ารัฐบาลคงต้องพิจารณาและถามความต้องการของ ทร. ก่อนถ้า ทร.ยืนยัน ก็จบ ขืนรัฐบาลดื้อด้านรัฐบาลก็จบ ตอนคงมีคนของรัฐบาลมาติดตามกันตลอดมั้ง ในเวปนี้ อิอิ แต่ความรู้สึกส่วนตัวนะครับผมว่ารัฐบาลนี้เรื่องอาวุธนี่จะเอนไปทางยุโรปนะครับ เป็นความรู้สึกส่วนตัว เหตุผลไม่มี
ถึงท่าน jingking13 55555 นึกภาพออกเลยครับ ตอนผมไปฝึกงานบนเรือสินค้าก็ต้องมานั่งเคาะสนิมเเบบนี้เเหละครับ เคาะกันหัวค้อนหลุดก้อมี.................................ถึงนี่จะเป็นเเค่ข้อเสนอก้อจริงเเต่เเหม ยังไงก็อยากได้ของดีๆไว้ใช้งานนานๆนะครับ จะได้ไม่ต้องซ่อมบำรุงบ่อย ประหยัดงบประมาณด้วย
เรือชุดเจ้าพระยานั่น อายุมันก็ร่วม20ปีแล้วนะครับ ในตอนนั้นจีนอาจจะยังไม่มีเทคโนโลยีที่เพียงพอ นี่ก็ล่วงมาเกือบ20ปีและ เทคโนโลยีการต่อเรือผมว่าน่าจะไปไกลมากแล้วนะครับ ซึ่งเท่าที่ดูสเปคจากที่คุยกันในนี้ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ดีลนี้ของจีนผมเห้นด้วยนะ จะซื้อเรือเลือกสเปคอย่างเดียวก็คงไม่ได้เพราะมันมีเรื่องการเมืองระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ด้านการค้าขาย ไหนจะรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไหนจะต้องมาตั้งฐานทัพเรือในประเทศเราอิก ไหนจะต้องหาทางระบายข้าวเปลือกที่มีอยู่เต็มสต๊อกอีก ซึ่งผมมองว่าเราจะได้ประโยชน์ในระยะยาวในด้านทางเศรฐกิจและความมั่นคง ทร.อาจอยากได้สเปคยุโรป แต่รัฐบาลเป็นคนจ่ายตังค์น่ะนะ ท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลน่ะแหละครับที่จะตัดสินใจเลือกเรือประเทศไหนเข้าประจำการ
จงเป็นเรือเยอรมัน เพี้ยง พร้อม เรือดำน้ำ4ลำ ปรับปรุงแล้ว รวมในแพคเกค
ถ้าออกแนวว่าพัฒนาแบบเรือ F-40T ร่วมกัน จีนก็ได้ประโยชน์ตามที่ผมบอกกล่าว ส่วนเราก็ขอสิทธิ์การต่อแล้วนำเรือทั้ง 3 ลำตามแบบ F-40T มาต่อในประเทศไทยล่ะครับ(อาจจะต่อในจีน 1 ลำ 2 ลำที่เหลือต่อในไทย) แต่ยอมรับว่าต้นทุนอาจจะไม่ใช่ 30,000 ล้าน แต่อาจจะเป็น 35,000 ล้านบาทแทน เพราะผมสนใจในเรื่องที่เราจะสามารถต่อเรือฟรีเกตขนาด 4,000 ตันเองได้ทันทีและเป็นเจ้าของแบบเรือฟรีเกตเป็นของตนเองสักที
แต่ยังไงดีลนี้คงต้องทำให้เยอรมันและชาติอื่นๆลองขยับดูบ้างล่ะ ไม่รู้สิงคโปร์จะว่าไง............เกาหลีว่าไง.............
ชอบรูปทรงแนวนี้จัง
ปรับปรุงเรือจีน ด้านหน้าให้สเตล แนวนี้ได้ไหมครับ มุมหักสวยดี
เรื่องการต่อเรือฟริเกต ในประเทศ...ผมว่า...ตอนนี้คงยังไม่ถึงเวลาหรอกครับ....
ดูอย่าง อินโดนีเซีย หรือ มาเลเซีย...เขาก็เริ่มจากการต่อเรือ OPV ก่อน ครับ....จนเขามีประสบการณ์เพียงพอ ถึง เริ่มการต่อเรือที่มีสมรรถนะสูงขึ้น...
เช่น มาเลเซีย หลังจากต่อเรือ OPV มาได้ 4 ลำ..เมื่ออู่เรือ คิดว่ามีความพร้อมเพียงพอ...ก็ถึงทำการต่อเรือชั้น Gowind...
อินโดนีเซีย ก็ต่อเรือ OPV มาได้ 4 ลำ เช่นกัน...และถึงเริ่มโครงการต่อเรือ OPV ชุดที่ 2 ที่มีระวางใหญ่ขึ้น ติดระบบอาวุธ เทียบขั้นเรือฟริเกต คือ มีการติดตั้ง VLS...
ของไทย...เราเพิ่งจะเริ่มต่อ OPV ลำแรก...ยังไม่ได้รับการเข้าประจำการเลย...
ส่วน สิงคโปร์ ที่เขาต่อเรือชั้น Formidable ได้เลย...เพราะเขามีประสบการณ์ ต่อเรือ คอร์เวต ชั้น Victory มากว่า 6 ลำ ที่มีระบบอาวุธเทียบเคียงเรือฟริเกต...และเรือชั้น Fearless และเรือเร็วโจมตี อื่น ๆ อีกมากมาย ครับ...
และในการจัดหาเรือครั้งนี้...
ในเมื่อ รัฐบาล ตั้งวงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อจัดหาเรือรบสมรรถนะสูง จำนวน 2 ลำ...
ซึ่งไม่ใช่ วงเงินเรือรบ แบบอัตคัด ในอดีต...
แล้วทำไม...เราต้องมองหา เรือรบ ที่มีสมรรถนะ คัตคัท แบบในอดีต...
สำหรับ ความสัมพันธ์ ไทย กับ จีน...ควรมีความสัมพันธ์ ในเรื่องการค้า เท่านั้น...ไม่ควรเอา ความมั่นคง มาเกี่ยวข้อง...ครับ...
เพราะ เป้าประสงค์จีน คือ ความเป็นผู้นำใน ภูมิภาค นี้...
สิ่งที่เขายื่นความสัมพันธ์กับไทย...ก็เพื่อ ผลประโยชน์ และความมั่งคง ของ จีน...เหมือนกับในอดีต มีสนับสนุนการตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง เช่นกัน...
แต่ด้วย จีน ก็มีปัญหากับเวียดนาม ในการทำสงครามระหว่างกัน...การที่ จีน จะมีการทำสงคราม ไทย อีก...คงไม่ใช่ เรื่องฉลาด...และ ลาว ก็เป็นสังคมนิยม ฟาก รัสเซีย ในขณะนั้น...
การที่ จีน จะมีสงคราม ไทย คงเป็นยุทธศาสตร์ที่ผิด...รูปแบบ ระหว่าง ไทย ก้บ จีน...จึงต้องเปลี่ยนเป็นใช้ ความสัมพันธ์ที่ดี แทน...เหมือนกับที่ จีน เริ่มทำกับ เวียดนาม และ มาเลเซีย ในขณะนั้น...
การที่ จีน เสนอช่วย ไทย...ก็เพื่อ ยืมมือ ในการ บีบ เวียดนาม ที่จะมี ศึก 2 ข้าง คือ เหนือ กับ ใต้...
เวียดนาม ในช่วงนั้น...ถึงได้กล่าวว่า...ไทย อย่าเลือกข้าง ผิด...
การที ไทย จะฝากความมั่นคงกับ จีน...เป็นเรื่อง ผมคิดวา...เป็นความผิดพลาด มากกว่า ความเป็นประโยชน์ต่อ ไทย...
และ สิ่งที่ เรือชั้นเจ้าพระยา มีคุณภาพตามความเห็นข้างต้นนั้น...
ผมไม่ได้มองว่า เทคโนโลยี่ จีน จะแย่ขนาดนั้น...
แต่เป็นสิ่งที่ แสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่า...จีน ก็ต่อเรือให้ ไทย คนละคุณภาพ กับของ จีน...
ซึ่งมองได้จากว่า พม่า จัดหาเรือฟริเกตมือสอง จาก จีน...ซึ่งมีความเก่า กว่าของ ไทย อยู่หลายปี...
แต่ก็ยังอยู่ใช้งานได้อีกนาน...และ พม่า ก็ยอมรับที่จะจัดหาเข้าประจำการ รวมถึง บังคลาเทศ...
หรือมองได้ง่าย ๆ ว่า คนละเกรด นั่นเอง...ดังนั้น เรือจีน ที่จะได้มา...ก็จะเป็นคนละ คุณภาพ กับของ จีน ที่เห็น ๆ กันอยู่...
ตามที่ท่าน jingking13 ให้ความเห็นไว้ครับว่า...
ทำไม เรือมาไม่เหมือนในแบบที่เสนอ...
แล้ว เรายังจะสนใจ ของถูก กันอยู่อีกหรือ ? ในเมื่องบประมาณออกมาเพื่อ ของ มีคุณภาพ ? ทำไมถึง ดิ้นรน จะไปเอ่า ของถูก กันอีก ?
ขอแก้ไข ข้อความครับ...ผิดพิมพ์
จากประโยค..เหมือนกับที่ จีน เริ่มทำกับ เวียดนาม และ มาเลเซีย ในขณะนั้น...
เป็น...เหมือนกับที่ จีน เริ่มทำกับ พม่า และ มาเลเซีย ในขณะนั้น...
และเรื่องการต่อเรือ ที่เรา ล่าช้า กว่า อินโดนีเซีย หรือ มาเลเซีย...
ก็เพราะมาจาก จีน ไม่ใช่เหรอครับ ?
ที่มาล้ม โครงการเรือชั้น ปัตตานี ที่เราจะต่อในประเทศ โดย อู่กรุงเทพ ร่วมกับบริษัทของ เนเธอร์แลนด์...เป็นแบบเรือของ เนเธอร์แลนด์...
สุดท้าย ก็ต้องไปจ้างจีนต่อเรือในประเทศ จีน ทั้งหมด...
ทั้ง ๆ ที่ โครงการที่ออกแบบตอนนั้น...ก็มีข้อกำหนดทางเลือกกว่า...ให้ต่อในประเทศที่เสนอประมูล จำนวน 1 ลำ...และต่อในประเทศ จำนวน 1 ลำ...
ถ้า จีน...จริงใจ..จริง...
ทำไม ไม่ใช่ ข้อกำหนดนี้ ทำกับไทย...ทำไม..ต่อเรือจาก จีน ทั้ง 2 ลำ...
ไทย กับ จีน...โลกไม่ได้ สวยงาม มากมาย หรอกรับ...ก็เป็น เรื่องผลประโยชน์ ทั่งนั้น ครับ...
ถ้าเปรียบเทียบ แบบประชดประชัน...สำหรับ คุณภาพเรือจีน ที่ขายในราคาถูก...ก็คือ...
ถ้ามองภาพ เรือรบจีน คือ เรือรบ ก๊อปปี้ มาจากเรือรบตะวันตก...
การซื้อ เรือรบจีน ราคาถูก...ก็คือ การซื้อเรือรบ ที่ ก๊อปปี้ มาจากเรือรบจีน มาอีกที...ล่ะมั๊งครับ...(ความเห็นแบบ ประชดประชัน ครับ)
หลายท่านอาจจะบอกมันคงไม่เหมือน 20 ปีที่แล้วหรอกเพราะเขาก็พัฒนามากขึ้น แต่ในความเห็นของผมของจีนยังไงก็เป็นของจีนวันยังค่ำ ยิ่งเป็นสินค้าจำพวกอาวุธแล้วด้วย ดาวเกรดประสิทธิภาพยังไมพอดาวเกรดวัสดุที่ใช้ทำด้วยละมั้ง เห็นเรือใหม่ล่าสุดเรือชุดเรือหลวงปัตตานีนั่นล่ะชัดเจนเลยสนิมเกาะล่ะ
ถ้าดีลนี้ออกที่เรือจีนอีกล่ะตัวใครตัวมันทั้ง ทร. และ รัฐบาลเตรียมรับมือให้ดีก็แล้วกันนักข่าวกับฝ่ายแค้นสับท่านแน่ งบ 30000 ล้าน ก็ให้กองทัพเรือของประเทศไทยมีเรือรบดีๆใช้บ้างเถอะครับ อย่าเห็นแก่ประโยชน์ที่บังตาเลยและอย่ายอมตกเป็นเครื่องมือการแสวงหาอำนาจของใครเลย เป็นตัวของตัวเองบ้างที่จีนเสนอแบบนี้เพื่ออะรคนทั่วไปก็น่าจะมองออกว่าเขาต้องการอะไร ง่ายๆ ถ้าลื้ออยากให้รถไฟความเร็วสูงมาถึงประเทศลื้อ ลื้อก็ต้องเอาเรือของอั้วไม่งั้นรถไฟ ข้าว ลำไย อั้วยกเลิก มันเป็นการบีบไปในตัว แล้วพอเราได้เรือเขามาแล้วแผนต่อไป ลื้อต้องโน้มน้าวให้อาเชียนไม่ให้ยุ่งเรื่องหมู่เกาะ นำส้ม เพื่ออั้วจะได้สิทธิอย่างเต็มที่และถ้าอั้วมีเรื่องกับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อั้วขอตั้งฐานทัพที่บ้านลื้อได้ไหม ลองปฏเสธสิครับ รถไฟฟ้าความเร็มสูงก็ได้มาแล้ว ข้าวเขาก็รับแล้ว ลำไยอบแห้งเขาก็รับแล้ว เรือก็ได้ของเขามาแล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้น อยู่ระบบอาวุธที่ใช้เกิดยิงไม่ออกเรดาห์ไม่ทำงาน ระบบปฏิบัติการง่อยหมดทำไงล่ะ....ไม่ได้อคติหรือมองในแง่ร้ายเพราะทุกอย่างที่จีนทำก็เพื่อประโยชน์สูงสุดของจีนเอง
กองทัพเรือเองต้องหนักแน่นและกล้าที่จะทุบโต๊ะ ถ้าทุบโต๊ะแล้วมันไม่ได้ก็แสดงว่านักการเมืองเขาเห็นแต่ประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องที่ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ เมื่อนั้นคนที่สนับสนุนท่านเขาจะช่วยท่านเอง
คุณ fatboy ทหารเรือไม่ฆ่าทหารเรือหรอกครับ แต่ตอนนี้เรือฟริเกตชุดเจ้าพระยาและชุดนเรศวร(ที่ช่วยให้กองทัพเรือไทยก้าวไปสู่ทะเลลึกได้หลังจากมีแค่เรือเก่าๆสมัยสงครามโลกและเรือเล็กๆวิ่งได้รอบๆประเทศเท่านั้น) โดนเผาผีไปเรียบร้อย
กรณีนี้เหมือนกับเรือชั้นน๊อคของเราทั้งสองลำ ที่ผู้คนทั่วไปแม้แต่คนในเวปนี้ก็บอกว่าออกปฏิบัติการน้อยมากเพราะเรือเก่ากินน้ำมันเยอะ ทั้งๆที่ผมว่าเรือก็ออกวิ่งมากพอๆกับเรือฟริเกตุลำอื่นๆนะ เรือเลยโดนน๊อคไปเรียบร้อยตามชื่อ
อย่างที่ผมเคยบอกว่าทหารเรือสื่อสารกับคนทั่วไปน้อยไปหน่อย
เรื่องระบบอาวุธที่ไม่ค่อยพร้อมรบของประเทศเราไม่ได้มีแค่เรือหรอกครับ อ่านความเห็นของคนที่ทำงานเกี่ยวความลับยิ่งกว่าลับแล้วใจหาย
ผมคิดว่า เป็นการแสดงความคิดเห็น ในฐานะคนทำงาน มากกว่า การฆ่า ครับ...
ถ้ามองในลักษณะความคิดเห็น มันก็เป็นความคิดเห็น...ก็อย่าไปมองว่ามันเป็น ความจริง ครับ...
ผมก็เชื่อว่า ทหารเรือไทย ไม่ฆ่า ทหารเรือไทย หรอกครับ...
ก็คงเหมือน ข่าวช่วงจัดหา เรือ Type-206A มือสอง...ตามข่าวในช่วงนั้น ที่มีข่าวทหารเรือไทยบางท่าน ว่า กังวล กลัวดำแล้วไม่โผล่..น่ะครับ...
คงเป็น ข้อกังวล...เช่นเดียวกับ
ก็ควรจะมองในลักษณะ การแสดงความเห็น ว่า เป็นข้อกังวล กับการจัดหาเรือจากจีน...น่ะครับ....
อ่านแล้ว ฮา..
เรือจีนใช้มา20กว่าปี น่าจะละลายกลายเป็นเศษเหล็กไปนานแล้วนะครับ ถ้าเป็นจริงอย่างสมาชิกบางท่านกล่าวมา
อุตสาหกรรมต่อเรือของจีนอยู่ระดับใหนของโลกหลายๆท่านทราบดีอยู่ และไม่ว่าทัพเรือจะเลือกแบบใด
ผมว่าทัพเรือจะคัดสรรค์สิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ไม่ต่างจากทัพอื่นๆ
โทษทีครับลืมย่อรูป
ที่มา: pk df
ท่าน Alpha 001 ครับ ช่วยอธิบายเรื่อง รถไฟความเร็วสูง มันเกี่ยวข้องยังไงกับเรื่อง เรือของทร. จะได้ไหมครับ
เพราะผมไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกันแบบมีนัยเท่าไหร่ ผมจะได้ทราบเป็นความรู้ด้วย
ในเรื่องรถไฟ ผมคิดว่าเราแทบไม่จำเป็นต้องพึ่งพาจีนเลย หากเราจะทำ
ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี่ หรือ เรื่องการเงิน มีหลายประเทศสนใจที่จะลงทุนอยู่แล้ว
แต่จีนต่างหากที่ต้องการให้รถไฟเกิดเร็วที่สุด เพราะเป็นประโยขน์แก่จีนมากที่สุดในทุกด้าน
ถ้าเรื่องเรือผมคิดว่ามีประเด็นเดียว คือ เรื่องข้าว อันนี้จะมีผลมากกว่า
เพราะรัฐบาลต้องการระบายข้าวอย่างเร็วที่สุดแน่นอน ก่อนที่ข้าวใหม่จะออกมา
ถ้ารัฐบาลไม่มีเงิน แล้ว ทร.จะเอาจากไหนล่ะครับ?
อย่างที่ท่านจูลดาสว่า ในเมื่องบได้มาเพื่อของแพง จะกระเสือกระสนเอาของถูกและห่วยทำไม (โอกาสที่จะต้องซื้อของถูกเพราะไม่มีงบ ในอนาคตเดี๋ยวมีแน่ ไม่ต้องห่วง)ุ
(นอกเรื่องตามท่านอื่น ฮา) รถไฟความเร็วสูง ก็เห็นด้วยกับ คุณ riskspec เหมือนกัน ส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยอยากจะได้ของจีนเท่าไร จีนยังถือว่าใหม่ในเรื่องนี้ แถมตอนเกิดอุบัตเหตุก็งุบงิบๆ
อุตสาหกรรมต่อเรือของโลก ตอนนี้ต้องเกาหลีครับ เรือที่เป็นเทคโนโลยี่สูงๆ เกือบจะเกาหลีหมดละ ของจีนต่อเยอะ แต่ส่วนมากเป็นเรือระดับเทคโนและขนาดต่ำๆ ลงมา และสู้ด้วยราคาถูก
ความคิดผมนะจะดีลไหนก็ได้ขอให้รูปทรงทันสมัยแบบเรือรบยุคใหม่แข็งแรง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย และใช้ได้จริงรบได้จริงที่สำคัญเทคโนโลยีต่างๆต้องได้มาด้วย คราวหน้าเวลาจัดหาจะได้ไม่ต้องมากังวลว่าจะเอาจากฝั่งไหนดี แต่ถ้าใจถึงหน่อยก็ลงทุนซื้อเครื่องจักรเครื่องมือสร้างอู่ต่อใหม่จ้างวิศวกรจากฝั่งยุโรปหรืออเมริกามาเป็นที่ปรึกษาหรือควบคุมการผลิต เหนืออื่นใดทัพเรือไม่ว่าจะเอาดีลไหนจะต้องชี้แจงให้รัฐและประชาชนเข้าใจถึงความคุ้มค่าในการตัดสินใจที่จะมีผลต่อการพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต ส่วน สทป.ก็พัฒนาให้ทันโลกด้วยล่ะถ้าคิดวิจัยไม่ทันก็หัดก๊อปเขาไปเลยเรื่องก๊อปเราคงไม่แพ้ใครมั้งทีจีนเขายังทำได้จัดการเรื่องกฎหมายด้วยล่ะ อนาคตเราจะได้คิดว่าเราจะออกแบบยังไง ขนาดเท่าไหร่ จำนวนเท่าไหร่ อาวุธประมาณไหน ถ้าไม่ลงมือทำไอเดียและประสปการณ์ต่างๆมันจะเกิดได้ไง(ยานใต้น้ำทัพเรือเสร็จยังเนี่ยเงียบไปเลยช่วงนี้)
เหล็กของประเทศจีน ห่วยแตกขนาดนั้นเลยหรอครับ(จริงปล่าวเนี่ย)ถ้าห่วยขนาดนั้นเรือคงไม่ขายดี เป็นเทน้ำเทท่าอย่างงี้มั้ง ส่วนรถไฟใครอยากขาดทุน เชิญมารวมลงทุนครับ(มีแต่เจ๊ง)
เหล็ก มีเกรดต่ำ และ เหล็กเกรดสูง ครับ ในจีน ก็มีทั้งสูงและต่ำครับ
ถ้า รัฐบาลจีน สั่งต่อเรือรบของตนเอง รัฐบาล ย่อมที่จะคุมเข้มพิเศษในการนำเหล็กมาหลอมต่อเรือและก็ย่อมที่จะเป็นเหล็กเกรดสูงอยู่แล้ว
แต่ปัญหาที่เราพบคือ เรือที่จีนต่อขายให้กะต่างประเทศ อาจจะไม่ได้คุมเข้มกะการนำเหล็กเกรดสูงมาต่อเรือ ทำเพื่อขาย-ไม่ใช่ทำเพื่อใช้เอง
เรา สั่งว่า เกรดนี้ๆ นะ แต่เวลาจีนต่อส่งมาให้เรา มันกลับดันเป็นคนละเกรดกัน = แต่เรา กลับต้องจ่ายเงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย และเหล็กเกรดต่ำ มันไม่ทนต่อน้ำทะเล สนิมจับง่าย ชนนิดชนหน่อย ก็พัง วิ่งออกทะเลแปปเดียว ก็เข้าอู่ซ่อมเป็นเดือนๆ กว่าจะได้วิ่งออกทะเลอีก (ค่าซ่อมบำรุงรักษา บานตะไทหละพี่น้อง)
เงิน 30,000 กว่าล้านบาท เขาให้มาเพื่อซื้อเรือฟริเกตสมรรถนะสูง-แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซื้อที ต้องใช้งานมันไปอีก 30-40 ปี กว่าจะได้ซื้อลำใหม่อีก
ถ้าได้เรือชั้นนี้ ซัก 2 ลำ กะ ฮ. ลำนี้ ประจำเรือ ท่าจะแจ่ม อิอิ
หวังว่า ฝันผม คงเป็นจริง อิอิ
อืมม...ตามความเห็นของ ท่าน seetha456...
นั่นแหล่ะครับ...ที่ผมคิด...
ว่า มาตรฐานเหล็กที่ส่งมานั้น...มันเป็นมาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า ครับ...
ถ้า จีน รับรอง และ กองทัพเรือ สามารถตรวจสอบ และรับรองร่วมกัน...หรือ กองทัพเรือ กำหนดคุณสมบัติเรือ เรื่องคุณภาพเหล็ก...
และ เรือมันมาตามมาตรฐาน ตามที่กำหนด...ก็คงเป็นสิ่งที่จะสร้างความเชื่อถือ ได้...
ซึ่งก็หวังว่า คงไม่ใช่ การเกรงใจ หรือ ความจำเป็น ต้องรับมอบน่ะครับ...ถ้าตรวจสอบแล้ว มันไม่ได้เป็นตามนั้น ครับ...
เหมือน บรูไน หรือ ทรินิแดดแอนด์โทเบโก...ที่ ปฎิเสธ การรับเรือ...ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน น่ะครับ...
สมัยนี้เป็นยุคเริ่มต้นการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์กันเเล้วใช้การรบเเบบรวมการสั่งการที่ศูนย์บัญชาการ กำลังรบก็ใช้เเบบทวีกำลังคือใช้กำลังน้อยเเต่ประสิทธิภาพสูงเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย เรือที่จะต่อใหม่อย่างน้อยใช้ไปอีก25+ปี ซึ่งจำเป็นต้องอัพเกรดอย่างน้อย 2 ครั้งตลอดช่วงอายุการประจำการ เเละอาจมีการติดจรวดที่มีอานุภาพสูงตัวเรือจึงต้องเเข็งเเรงเเละต้องเผื่อการดัดเเปลงติดตั้งระบบในอนาคตเป็นสำคัญ
เรื่องเรือจีนนั้นจีนมีเเนวคิดทางอุตสาหกรรมเเบบสังคมนิยมเดิมคือ คุณภาพต่ำเเต่ผลิตใด้จำนวนมาก ส่วนต่างของราคาที่ถูกก็จะทำให็ซื้อของได้มากเช่นกัน ก็ให้ท่านทั้งหลายพิจารณาดูจากสินค้าจีนทั้ง อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องยนต์ เเละอุปกรณ์ต่างๆ ว่าชำรุดง่าย อายุสั้น ไม่คงทน เเต่ถ้าเป็นในประเทศจีนนั้นซ่อมได้เกือบ100% เพราะเขารู้จุดอ่อนเลยผลิตอุปกรณ์สิ้นเปลืองไว้สำรองเสียก็เปลี่ยน ฉะนั้นราคาที่ถูกจะมาชดเชยส่วนที่ต้องซ่อมบำรุงที่วงรอบการซ่อม/เปลี่ยน มาเร็วกว่าสินค้าของประเทศตะวันตกเเละประเทศที่ใช้มาตรฐานตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด
ข้อดีข้อเสีย เรือจีนกับเรือมาตรฐานตะวันตก
เรือจีน ข้อดี ราคาถูก ซื้อได้หลายลำ
ข้อเสีย ไม่คงทน อายุการใช้งานต่ำ มีปัญหาทางเทคนิคบ่อย
ค่าซ่อมบำรุงสูง
เรือมาตรฐานตะวันตก
ข้อดี คุณภาพดี การซ่อมบำรุงต่ำ สามารถอัพเกรดระบบได้หลากหลาย
อาวุธหลากหลาย
ข้อเสีย ราคาเเพง ได้จำนวนน้อย
ขอยกตัวอย่างอีกตัวอย่างว่าถ้าท่านจะซื้อลูกหมามาสำหรับเฝ้าบ้านเพราะเพื่อนบ้านไว้ใจไม่ได้ เเต่ตอนนี้ลูกหมายังไม่เกิดถ้าให้ท่านเลือกจองตอนนี้ระหว่างลูกอันเซเชี่ยล 2 ตัว กับ ลูกหมาพันธุ์ทาง 3 ตัว ราคาเท่ากันท่านจะเลือกอย่างไหน...มาไว้เฝ้าบ้าน
ส่วนเรื่องที่ว่าทหารเรือไม่ฆ่าทหารเรือกันเองนั้นผมเชื่อนะเเต่กลัวว่าคนที่ไม่ใช่ทหารหรือทหารที่ไม่ใช่ทหารเรือจะมาฆ่าทหารเรือนี่สิผมกลังจังเลย..
ประเด็นไม่ใช่ว่ากลัวทร.เลือกของห่วยครับ ทร.ไว้ใจได้อยู่แล้ว กลัวคนอื่นเลือกให้ครับ กลัวมากด้วย
ผมอ่านดูไม่เห็นมีตรงไหน ว่าทางเราจะซื้อนะครับเพียงแค่เปิดการเจรจาเพื่อดูออฟชั่นที่ทางจีนจะให้มากกว่านะครับ จีนแค่ใช้สื่อในทางการตลาดเท่านั้น อย่าเพิ่งตกใจกันครับ รอดูดีลของชาติตะวันตกบ้าง อาจจะช้าแต่ชัวร์ก็ได้ครับ โอมเพี้ยง 5555
แค่เข้า เสนอมาให้นะครับ มาแนวเดี๋ยวกับน้องJAS-39 รอใกล้ๆเดือนกุมภา ก่อนนะครับ ผมว่า คงมีข่าวจากฝั่งยุโรปมาฝาก ทุกท่าน เชื่อผมดิครับ อาจจะได้ของพี่ฝรั่ง ก็ได้ตอนนี้เขามือขึ้นอยู่ด้วยซ้ำ
ว่าแต่เห็นท่านseetha456 ลงคริป NH-90 เนี้ย มีแวว จะเกิดในกองทัพเรือหรือปล่าวอ่ะครับ ผมว่ามันทำอะไรได้เยอะกว่า MH-60R S-70B อีกด้วยนะครับ แถมเปิดท้ายได้ด้วย มีโซน่าชักหย่อน เรด้าผิวน้ำ แต่ลำจะใหญ่ไปหน่อย แต่น่าจะนำไปประจำการบน 911จะได้มีความอ่อนตัวเยอะมากขึ้น แล้วโยกS-70Bมาประจำการ บนเรือฟริเกตลำใหม่2ลำ แบบนี้ คงจะดี มิใช่ย่อยเลยนะครับ
การแสดงความคิดกัน โดยใช้หลักเหตุผล มีความเห็นต่างกันเป็นเรื่องปกติครับ แต่ส่วนตัว เห็นว่าบางครั้งการเติมแต่งเกินความเป็นจริง โดยเฉพาะบางท่าน เช่น กล่าวว่าระบบควบคุมการยิง ปืน 37 มม. พังตั้งแต่ปีแรก มันออกจะเกินไปครับ
ส่วนกรณีเรื่องคุณภาพ ( เกรด ) ของเหล็กที่ใช้ในการต่อเรือฟริเกตชุดเจ้าพระยาและชุดนเรศวร แย่ขนาดแท่นรองปืน 37 มม. เคาะเหล็กผุขนาดทะลุ มันใส่สีกันเกินไปครับ เรื่องสนิมเป็นเรื่องปกติของเรืออยู่แล้ว แม้คุณภาพเหล็กของจีน จะไม่เทียบเท่าตะวันตก แต่มันไม่แย่โอเวอร์ขนาดนั้นครับ การเขียนเล่าอะไร ไม่ควรใส่สีใส่ไข่มากเกินไปครับ และที่สำคัญการเข้าซ่อมบำรุงตามวงรอบในอู่แห้ง ของเรือฟริเกตชุดเจ้าพระยาและชุดนเรศวรก็ไม่ได้สูงกว่าเรือชุดอื่นๆ ทั้งระยะเวลาการซ่อมทำและความถี่ในการเข้าซ่อมทำครับ
ระบบควบคุมการยิง 37 mm มันพังก่อนผมจะไปทำงานที่เรืออีกครับ ช่างเค้าบอกว่าใช้ได้แค่กล้อง ตอนเรือไปที่ ชางไฮ้ ไชนา
ช่างเค้าบอกว่าอยากให้หน่วยเรือหาอะไหล่มาให้แต่คำตอบที่ได้คือระบบนี้ไม่มีอะไหล่ให้ครับ (ช่างปืน 37 mm น้าติ๋ง บอกมา)
ระบบอาวุธระบบตรวจจับและระบบอำนวยการรบที่ผมเสนอความเห็นไปก็ไม่น่าจะแตกต่างและประสิทธิภาพก็ไม่น่าจะแตกต่างจากที่จะติดตั้งในเรือเยอรมันถ้าทร.ตัดสินใจเลือกต่อเรือจากเยอรมันเพราะเป็นของจากยุโรปและอเมริกา และบริษัทน่าจะแทบบริษัทเดียวกัน ปัญหาอยู่ที่คุณภาพงานต่อเรือเปล่าที่จีนต่อให้ต่างประเทศครับ
เรือที่ทร.จีนต่อใช้เองก็น่าจะมีคุณภาพที่ดี ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าจีนต่อให้เราใช้งาน คุณภาพจะแย่มากเหมือนเมื่อก่อนอีกหรือไม่ ถ้ามันน่าจะแย่ขนาดนั้นก็คงไม่เอาเช่นกัน
แต่ถ้าจีนเปิดการเจรจาคราวนี้ ถ้าทร.และรัฐบาลสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ผมก็เลยว่าต่อมันในประเทศเลยดีกว่าจะดีไหม ดูไปเลยว่าจีนมันจะจริงใจแค่ไหน ถ้าจริงใจจริงๆ ก็น่าจะให้เราทำการต่อเองในประเทศจะดีกว่าที่จีนจะเหมาหมดทั้ง 3 ลำ อันนี้ต้องต่อรองและตกลงกันแบบจริงจัง บอกกับทางจีนไปเลยว่างานต่อเรือที่ทำให้เราที่ผ่านมามันแย่ขนาดไหน ตำหนิไปเลย ถ้าจะให้ต่อตัวเรือเปล่าจากคุณนั้น ถ้าคุณภาพงานของคุณไม่มีปัญหาเราก็ไม่มีปัญหา แต่ที่ผ่านมารับไม่ได้จริงๆ ดังนั้นเมื่อปรับปรุงแบบกันแล้ว ขอสิทธิ์การต่อในบ้านของเราไปเลยจะดีที่สุด
ผมยังเชื่อใจอู่ต่อเรือในประเทศทั้งอู่ราชนาวีและอู่เอกชนชั้นนำในประเทศว่าจะสามารถต่อตัวเรือฟรีเกตเปล่าคุณภาพดีได้ และถ้าติดตั้งระบบอาวุธและระบบตรวจจับต่างๆที่ดีเยี่ยมจากยุโรปอเมริกาื เรือที่ออกมาก็ไม่ได้อัตคัทแต่อย่างไรนี่ครับ แต่จะทำให้ทร.สามารถจัดหาเรือชั้นดีเยียมถึง 3 ลำ แทนที่จะเป็น 2 ลำ จะว่าผมชาตินิยมเกินไปก็ได้ แต่ผมมั่นใจคนในชาติของผมว่าทำได้
เรื่องคุณภาพและความสามารถในการต่อเรือภายในประเทศของอู่ราชนาวีและอู่เอกชนในประเทศนั้น ถ้าจะยืนยัน ก็คงต้องให้คนจากอู่ราชนาวีและอู่ชั้นนำมาบอกกล่าวยืนยันกันจริงๆจังๆ เหมือนกับการบอกกล่าวข้อปัญหาในการซ่อมบำรุงเรือต่อจากจีนเช่นกัน จึงจะรู้ว่าอู่ในประเทศเจ๋งพอจริงไหมถ้ามีแบบเรือฟรีเกตดีๆมาให้ต่อเอง ผมว่าประเทศไทยเราผ่านการต่อเรือมามากกว่าประเทศแถบนี้พอควร ยกเว้นสิงคโปร์ เพราะเราเริ่มกิจการด้านนี้มาก่อนใครภูมิภาค ผมว่าคุณภาพบุคคลากรในประเทศเราสะสมมาพอแล้ว แต่ไม่มีใครส่งเสริมจริงจังมากกว่า
ถ้าจำไม่ผิด ทร.เคยให้อู่ในประเทศต่อเรือรบขนาด 4,000 กว่าตันมาแล้ว และไม่เคยได้ยินปัญหาตามมาภายหลังจากการใช้งานเรือ รู้สึกจะเป็นเรือระบายพลขนาดใหญ่ คือ รล.สีชัง รล.สุรินทร์ ซึ่งทั้งสองสองลำต่อจากอู่อิตัลไทยมารีน กับ อู่ต่อเรือกรุงเทพ ตามลำดับ
เรือหลวงสีชัง เป็น เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ หมายเลขเรือ 721 สร้างโดย บริษัท อิตัลไทยมารีน จำกัด วางกระดูกงูเมื่อ 22 ก.ค.2528 ปล่อยเรือลงน้ำเมื่อ 24 เม.ย.2530 รับมอบเมื่อ 9 ต.ค.2530 ขึ้นระวางประจำการเมื่อ 9 ต.ค.2531 เรือประเภท เดียวกันได้แก่ เรือหลวงสุรินทร์ วัสดุตัวเรือสร้างด้วยเหล็ก ความเร็วสูงสุด 16 นอต ความเร็วมัธยัสถ์ 12 นอต ระวางขับน้ำปกติ 3,540 ตัน เต็มที่ 4,235 ตัน มีขนาดยาว 103 เมตร กว้าง 15.650 เมตร และสูงถึงยอดเสา 29 เมตร กินน้ำลึกปกติ หัวเรือ 2.25 เมตร ท้ายเรือ 3.83 เมตร
รือหลวงสุรินทร์ เป็น เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ หมายเลขเรือ 722 สร้างโดย บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด วางกระดูกงูเมื่อ 30 ต.ค.2529 ปล่อยเรือลงน้ำเมื่อ 25 ธ.ค.2530 รับมอบเมื่อ 16 ธ.ค.2531 ขึ้นระวางประจำการเมื่อ 20 มี.ค.2532 เรือประเภทเดียวกันได้แก่ เรือหลวงสีชัง วัสดุตัวเรือสร้างด้วยเหล็ก ความเร็วสูงสุด 16 นอต ความเร็วมัธยัสถ์ 12 นอต ระวางขับน้ำปกติ 2,982 ตัน เต็มที่ 4,245 ตัน รัศมีทำการที่ความเร็วสูงสุด 5,800 ไมล์ทะเล ที่ความเร็วมัธยัสถ์ 7,000 ไมล์ทะเล ตัวเรือมีขนาดยาว 112.48 เมตร กว้าง 15.40 เมตร และสูงถึงยอดเสา 21.20 เมตร กินน้ำลึกปกติ หัวเรือ 1.35 เมตร ท้ายเรือ 1.42 เมตร เต็มที่ หัวเรือ 2.06 เมตร ท้ายเรือ 4.14 เมตร
ขอบคุณเวปกองเรือยกพลสำหรับทั้งข้อมูลและภาพครับ
http://www.koryorpor.com/?p=392
http://www.koryorpor.com/?p=380
ถ้าการต่อตัวเรือเปล่าจากจีนมีความเสี่ยงขนาดที่ว่านั้นจริง พัฒนาแบบร่วมกันแล้วนำมาต่อเองในประเทศน่าจะสร้างความสบายใจให้กว่าและสามารถมีเรือจำนวนมากขึ้นจากเดิมถึง 50% โดยสเปกไม่ตกลงไปมากมาย (ตัวเรือที่เราต่อเองก็คงสู้ต่อเรือจากเยอรมันไม่ได้) ผมว่าจีนน่าจะยอมถ้าคิดจะดึงเราเป็นพวกกันจริงๆ
มูลค่าการจัดหาเรือฟรีเกตคราวนี้สูงถึง 30,000 ล้านบาท ถ้าต่อจากเยอรมัน ก็ตามที่เคยวิเคราะห์กัน มีราคาค่าต่อเรือเปล่าสูงถึงราวๆครึ่งหนึ่งของเงินในการนี้ทั้งหมด อีกครึ่งหนึ่งเป็นระบบอาวุธและระบบตรวจจับ ระบบอำนวยการรบ
แต่ถ้าต่อจากจีน ตามที่วิเคราะห์กัน จีนจะได้เงินจากการต่อคราวนี้แค่ประมาณ 10,000 ล้านบาท จาก วงเงิน 30,000 ล้าน หรือแค่ประมาณ 1ใน3 เท่านั้น เงินที่เหลืออีก 2 ใน 3 ก็ต้องไปเป็นค่าระบบอาวุธ ระบบตรวจจับที่จัดหาจากตะวันตกอยู่ดี
ด้วยเหตุนี้ผมว่าเหตุผลที่จีนเสนอแบบนี้ไม่น่ามีจุดประสงค์ที่รายได้จากการต่อตัวเรือเปล่า แต่น่ามาจากการ
1. ดึงเราให้เป็นพวกด้วยราคามิตรภาพ
2. ต้องการให้เราพึ่งพาจีนทางด้านความมั่นคงให้มากที่สุด โดยลดการพึ่งพาชาติตะวันตกให้มากที่สุด
เพราะถ้าจะหวังรายได้ ไปลุ้นโครงการรถไฟความเร็วสูงที่มีมูลค่าสูงถึง 3 แสนล้าน สูงกว่ากัน 10 เท่าและมีความเสียงที่จะโดนขวางน้อยกว่าโครงการจากการจัดหาทางทหารมาก
ดังนั้น ถ้าสามารถต่อรองกับจีนได้และสามารถพัฒนาแบบร่วมกันได้ ก็ต่างได้ประโยชน์อยู่แล้ว และเพื่อความสบายใจในเรื่องคุณภาพ ก็ต่อในประเทศเองเลยสิครับ อาจจะต้องเพิ่มวงเงินอีก 5,000-6,000 ล้านบาท หรือราวๆ 20% แต่ก็เป็นการต่อภายในประเทศ น่าจะตอบข้อสงสัยจากสื่อมวลชนได้มากทีเดียว เพราะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในและเป็นการพึ่งพาตนเองด้วย แต่ถ้าจีนขอให้ต่อในจีน 1 ลำ ต่อในไทย 2 ลำ ผมก็ OK. แต่คงต้องส่งคนไปตรวจสอบคุณภาพงานและวัสดุต้องระบุและควบคุมกันจริงจังกว่าที่ผ่านมา
ผมว่าลองให้โอกาสอู่ภายในประเทศดูบ้างจะดีไหม
คือคุณ neosiamese2 ครับ การต่อเรือใหญ่ๆ ชุดเรือหลวงสีชัง นั้น เมื่อก่อนเราต่อแบบวางกระดูกงูนะครับ
ตอนนี้เรากำลังเรียนรู้การต่อเรือแบบใหม่ คือ แบบบล๊อค ซึ่งลำแรกที่เราต่อแบบใหม่ คือ ชุดเรือหลวงกระบี่
แล้วอุปกรณ์การต่อเรือตอนนี้ของอู่ราชนาวีต้องยอมรับว่ายังไม่พร้อมดีนัก เครนรับน้ำหนักได้เพียง 75 ตัน
แบบเรือ OPV ชุดกระบี่ เดิมมี 17 บล๊อค แต่เครนเรารับไม่ไหวต้องซอยบล๊อคย่อยเป็น 34 บล๊อค จึงจะต่อได้
ส่วนฝีมือช่างต่อเรือเรา ผมก็คิดเหมือนคุณ neosiamese2 ครับว่า ผมมั่นใจในฝีมือช่างไทยครับ
และการที่รัฐบาลตอบรับจีนถึงขนาดที่ว่ามีการตั้งทีมขึ้นมาเพื่อปรึกษาหารือกันกับจีน แสดงว่าเกรงใจกันมาก ทร.ก็คงต้องส่งคนไปแจมอยู่แล้วเพราะเป็นไฟร์ทบังคับกัน ถ้าทร.อึดอัดใจกับตัวเรือเปล่าถ้าต้องต่อจากจีน ก็เสนอกลางวงไปเลยว่าถ้าต้องการให้ทร.ร่วมแจมกับจีนในเรื่องนี้ ทร.อยากให้ต่อในประเทศเองมากกว่า หรืออย่างเก่งต่อในจีน 1 ลำ ต่อในไทย 2 ลำ เพื่อความสบายใจของทร.และเพื่อตอบคำถามสื่อมวลชนและประชาชนได้มากกว่า และน่าตอบได้ดีกว่าการจัดหาจากเยอรมันทั้งดุ้น เพราะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศครับ
ใจเย็นๆครับ ลองวิเคราะห์ความเหมาะสมตามเงื่อนไข ที่คนขายเขาเสนอมา
โอกาสเป็นเรือที่มาจากจีนสำเร็จรูปทั้งลำคงน้อย ยกเว้นเงื่อนไขเดียว
คือ รัฐบาลสามารถทำบาร์เตอร์เทรดข้าวกับอาวุธได้ แล้วแจ้งกับกองทัพเรือว่า งบประมาณสำหรับเรือใหม่
ถ้าจะรับงบเพิ่มต้องเป็นเรือจีน ถ้าเป็นเรือประเทศอื่นต้องใช้งบประจำปีเดิมและผูกผันไปในอนาคต
แบบนี้คณะกรรมการคนตัดสินใจอาจคิดหนัก อาจจะมารูปแบบคล้ายๆเรือชุดนเรศวร
รับเรือมาก่อน อีก สิบถึงยี่สิบปี ค่อยอัพระบบเป็นตะวันตก แล้วเอาเงินเดินโครงเดิมต่อ
ถ้าเป็นอย่างนี้กองทัพเรือ อาจจะมีลุ้นทั้ง โครงการ OHP อีกสองลำและโครงการเรือดำน้ำ ซึ่งถ้ามาแบบนี้จริง อาจจะเลือกยาก
เห็นใจทั้งสองฝ่าย ทั้งรัฐบาลและกองทัพเรือ
ข้าวก็อยากระบาย อาวุธก็ต้องจัดหา แต่โดยส่วนตัวแล้วก็อยากให้มาจากตะวันตกมากกว่า หรือก็บาร์เตอร์เทรดกับเกาหลีก็ยังดี
จริงๆผมเองก็คาดว่าสเปกตัวเรือฟรีเกตสมรรถนะสูง(เฉพาะตัวเรือ)อาจจะไม่หรูมาก แล้วเอาเงินไปลงกับอาวุธประจำเรือมากกว่า
ซึ่งคาดว่าคงคล้ายกับเรือชุดนเรศวร เป็น ESSM, Harpoon, light weight torpedo,(ส่วนตัวแอบหวังถึง VL-ASROC) โดยเน้นจำนวนมาครบหรือเกินนิดๆ
เผื่อว่าเรือชุดอื่นจะได้ขอหยิบยืมเอามาโหลดตอนออกปฏิบัติการ แอบฝันว่าเรือจักรีอาจจะมี ESSM ในอนาคตถ้าแกะphalanxชุดเรือพุทธมาอัพเกรดเป็น1B แล้วติดให้เรือจักรีจะสุดยอดมาก
แต่หากได้ตัวลำเรือเป็นแบบ MEKO-D หรือ NANSEN นี่ก็อย่างหรูเลย แต่ถ้าจะเป็นเรือจีนก็ขอให้มาแต่ตัวเรือเถอะครับ
อาวุธเอาแบบเรือชุดนเรศวรก็คงพอแล้ว จะได้มีสำรองไว้ในอนาคตเผื่อเรือชุดนเรศวรด้วย (ตอนนี้แต่ละลำมี MK25 แค่ 1 cell =ESSM4ลูก)
เรียนถามท่าน Fatboy ครับว่า มีโอกาสซื้อแบบเรือฟรีเกตตะวันตก แล้วมาต่อเองในประเทศไหมครับ
เรียนท่าน FatBoy ครับผมว่าท่าน jingking 13 ไม่ได้ใส่สีตีไข่หรอกครับเพราะอดีตผมเคยอยู่ในโครงการปรับปรุงเรือของจีนมาก็ได้เห็นความจริงหลายอย่าง แต่ด้วยความเหมาะสมที่จะออกความคิดเห็นเลยไม่สามารถเล่าให้ฟังได้ แต่ที่ออกมาพูดแบบอ้อมๆก็เพราะผมเป็นประชาชนผู้เสียภาษีคนหนึ่งเลยหวังว่า ทร. ควรตัดสินใจให้ดีในการเลือกซื้อเรือในครั้งนี้เท่านั้นเองครับ
จริงๆถ้าโครงการนี้มาช้ากว่านี้ซัก 5-6ปีจะเชียร์ให้เลือกแบบเป็น type 26 Global Combat Ship ไปเลย
โดยระหว่างนี้ก็ต่อopv class กระบี่ให้ครบ6ลำต่อให้โปรไปเลยจนมีความพร้อมระดับต่อขายต่างประเทศได้
โดยอังกฤษเองก็หาคนมาร่วมโครงการนี้ด้วยอยู่แล้วและยังพร้อมให้การถ่ายทอดเทคโนโลยีอีกด้วย
โดย type 26เองมี3ขนาด คือ
C1(6,000 t.) -ASW
C2(4-5,000 t.)-general purpose
C3(2-3,000t.)-Corvette
ซึ่งหากเราซื้อสิทธิ์มาต่อเองแบบชุดกระบี่ โดยเริ่มจากแบบc3แล้วอาจต่อไปถึงระดับc1เลยก็ได้ ซึ่งจะพัฒนาขีดความสามารถ
ในการออกแบบและต่อเรือของไทยได้อยางก้าวกระโดด อนาคตหลังจากต่อเรือชุดนี้ได้การออกแบบและต่อเรือรบผิวน้ำระดับสูงเองในไทย100%
ไม่ใช่เรื่องในฝันอีก หากทำได้ต่อไปเราก็จะเหมือนเกาหลีใต้ที่ค่อยๆเริ่มจนมาเข้มแข็งมากทางการต่อเรือเหมือนทุกวันนี้
ฉะนั้นทร.เองรัฐให้เงินมาหมาศาลในโครงการนี้เพือซื้อHi-end frigate ก็หวังว่าจะซื้อของHi-endตามชื่อโครงการนะครับ
ถ้าจะบาร์เตอร์เทรดกันจริงๆ กับจีน
ควรจะมาแต่ตัวเรือหรือไม่ก็เทรดซื้อสิทธิ์และแบบมาต่อในประเทศเอง น่าจะดีกว่านะครับ
ระบบการเชื่อมต่อทั้งกับ ทอ. และ ฮ.ปด. มันจะได้ไม่ยุ่งยาก ไม่งั้นต้องมาเรือใหม่หมด
อีกอย่างต่อเรือในประเทศก็สร้างงานและกระจายรายได้ให้คนงานไทย QCก็ง่ายและทั่วถึงกว่า
จากคลิปเก่าที่ทร.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มาทำรายการเรื่องเรือชั้นกระบี่ที่ทำการต่อเองในประเทศ เพื่อนในเวปนำมาลงไว้ ทร.ได้ให้บุคคลากรจากภายนอกมาเรียนรู้ระบบการต่อแบบใหม่ด้วย เพื่อวันข้างหน้า ดังนั้นตอนนี้บุคคลากรจากอู่ต่อเรือในประเทศนั้นน่าจะรับรู้ระบบวิธีการไปแล้ว เพราะมีผลต่อขีดความสามารถของอู่ตนเอง ทั้งอิตัลไทยและอู่กรุงเทพก็เป็นรัฐวิสาหกิจในการดูแลของทร.ด้วยครับ
เครนที่อู่ราชนาวีมันมีกำลังน้อยไปหน่อย แต่ก็ทำงานได้ครับ อาจจะต้องช้าไปหน่อยเพราะต้องซอยย่อยหลายบล็อคมากขึ้น แต่ก็สามารถทำงานได้ครับ
ส่วนอู่เอกชนภายนอกนั้น ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีการพัฒนาในเรื่องเครื่องมือไปได้แค่ไหนแล้ว เพราะมันผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว เท่าที่รู้อู่ยูนิไทยเคยคุยว่าสามารถรับงานต่อเรือได้ขนาดเกิน 10,000 ตัน และคุยว่าตนเป็นอู่เอกชนที่มีความพร้อมสูงสุดในประเทศ ดังนั้นผมว่าทั้งอู่ราชนาวี อู่ยูนิไทย อู่อิตัลไทย น่าจะพร้อมสำหรับงานนี้ ส่วนอู่กรุงเทพนั้นไม่แน่ใจว่าเครื่องไม้เครื่องมือจะเปลียนไปขนาดไหน เนื่องจากระยะหลังพึ่งพาอู่ราชนาวีมากทีเดียว
ที่ผ่านมาอู่ในประเทศมักจะแห้วก็ด้วยเหตุผลว่า ต่อจากต่างประเทศงานดีกว่ามาก ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้โชว์ฝีมือให้คนไทยเห็น ผมว่าเรื่องนี้ ทร.น่าจะรู้ดีที่สุดว่าจริงไหมครับ................
อยากได้ทางฝั่งอเมริกาหรือยุโยปมากก่วา ถ้าเป็นไปได้ก็จัดเรือaegisไปเลยแต่คงไม่มีหวัง
แต่ถ้าได้เรือจีน ก็ขออาวุธที่ยิงไกลๆอย่างc803 ที่ยิงได้300km มาด้วย
เอาเป็นว่า เรือจากฝั่งยุโรป (เยอรมันจัดเต็ม) พ่วงU206 A 4 ลำ กับถ่ายทอดเทคโนโลยีการต่อเรือ(ร่วมทุน)และดีลF122 2ลำถ้า ทร สนใจ ส่วนรถไฟความเร็วสูง japan only
ฝ่ายการเมืองทำแบบนี้ไม่ถูกต้องแล้วครับ เหมือนจะแทรกแซงการจัดซื้อไปแล้ว
ตามปกติต้องรอให้แต่ละประเทศที่ต้องการขายมาเสนอราคาและ option แข่งกันก่อน แล้วถึงผ่านไปแต่ละขั้นตอนตามกระบวนการของทร.ก่อนไม่ใช่เหรอครับ นี่รีบตั้งกรรมการเข้าไปเจรจาเลยนทำให้มันมีนัยสำคัญแสดงว่าต้องการของจีนแล้ว แบบนี้ประเทศอื่นถ้าเขาเกรงว่าจีนจะลอยลำมาอยู่แล้ว อาจจะไม่ส่งเรือของเขาเข้าสู้ในการคัดเลือกก็ได้
ทีเรือดำน้ำขนาดว่าต้องตีกลับไปกลับมาเพื่อให้ทร.ทบทวนใหม่ กว่าจะผ่านไปรมต. เสร็จแล้วไปสู้กันในสภาอีก แต่เรือจีนนี่ลัดขึ้นตอนไปเลย
เมื่อการซื้อเรือซักลำ แล้วมีผมประโยชน์ของชาติและประชาชนมาเกี่ยวข้องแบบนี้ ณ.ตอนนี้ ก็ต้องขึ้นอยุ่กับคนที่ถือเงินแล้วครับว่าจะเอาแบบไหนกันแน่
เรื่อง แพ็คเกจที่จะบวก +U-206 A ลืมไปได้เลยครับ ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ
ใช่ครับ ทร. ก็เหมือนทุกท่านๆที่ อยากต่อเรือฟริเกตในประเทศ แต่อย่าลืมครับว่า ปัจจุบัน อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดชและอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า ต้องรับภาระการซ่อมทำตามวงรอบปกติ จนงานล้นมืออยู่แล้วครับ ไม่งานเพิ่ม เช่นโครงการปรับปรุงเรือต่างๆ และเรือของเอกชน ที่มาใช้บริการอู่กรุงเทพ และทร.ยังมีโครงการเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งอีก 3 ลำ ครับ
สำหรับผม อยากให้มีการพิจารณาอนุมัติโครงการก่อสร้างอู่แห้งเพิ่ม ที่อู่ราชนาวีมหิดลฯ ครับ เมื่อสร้างเสร็จ อะไรๆก็จะดีขึ้นเองครับ สำหรับอุสหกรรมการต่อเรือของไทย รวมถึงทร. ด้วยครับ
สำหรับเรื่องเรือฟริเกตใหม่ 2 ลำ โอกาส เกิน 70% จะต่อจากประเทศในเอเซียครับ ซึ่งมีไม่กี่ประเทศ ใกล้เราก็สิงคโปร์ ไกลออกไปก็เกาหลีใต้ และจีน สำหรับเรือจีนโอกาสน่าจะยากที่สุด ยกเว้น ทร.ว่าจ้างต่อเฉพาะตัวเรือ แล้วติดตั้งระบบตะวันตกแบบ ชุด ร.ล.นเรศวร ซึ่งจีนก็ไม่อยากต่อให้เท่าไรครับ แต่ใช่ว่าจะไม่เกิด เพราะยังมีขั้นตอนอีกมากครับ กว่าที่จะเซ็นสัญญากัน หลายท่านอยากให้จัดหาเรือจากยุโรป โดยเฉพาะจากเยอรมัน ใครๆก็อยากครับ แต่อย่างที่ผมกล่าวไปก่อนหน้านี้ เงิน 30,000 ล้านบาท หรือประมาณ 1,000 US$ ไม่ได้มากเลยครับ สำหรับการต่อเรือฟริเกตขนาดประมาณ 4,000 - 5,000 ตัน จากยุโรป วงเงินที่ได้มากว่าครึ่งหมดไปกับค่าแรง ค่าต่อเฉพาะตัวเรือ แล้วครับ
ผมว่า กองทัพเรือ น่าจะกลับไปเริ่มต้นใหม่นะครับ สำหรับ อุปกรณ์พื้นฐาน ในการซ่อมบำรุง แต่ต่อเรือ เพราะจำนวนเรือของกองทัพเรือก็เยอะแล้วแถมเก่าด้วย อีกอย่างเมื่อไหร่ จะมีโครงการ สร้างอู่ราชนาวีมหิดลฯ เพิ่ม ในส่วนที่เหลือนะครับ จะได้มีความพร้อมมากกว่านี้ แต่อู่ของเอกชน ที่ใหญ่สุดก็อู่เอเชียนมารีน ก็น่าจะลองรับตรงนี้ได้ด้วยนะครับ ท่านFatBoy ไม่ลองไปหาเอกชนดูมั้งครับ แต่ถ้าต่อนอกประเทศ เรือยุโรปผมก็ไม่ค่อยสนมากเท่าไหร่อ่ะครับ ค่าแรงคงจะแพงมากเอาการ คงจะไปจบที่เรือเกาหลีอ่ะครับ คิดแบบตื้นๆ นะครับ
ฝันร้ายจากเรือชุดเจ้าพระยาและนเรศวรยังตามมาหลอกหลอนอยู่อีกหรือครับ ?
ด้วยว่าคุณภาพการต่อและวัสดุที่ใช้มันผิดไปจากสเปคที่ตกลงกันอย่างที่สมาชิกบางท่านว่าไว้ อันนี้ส่วนตัวผมค่อยข้างจะเชื่อนะครับ
ถึงแม้ว่า ทร. จะมีกรรมการควบคุมการต่อและการรับมอบเรือก็ตาม (มีทุกชุด)
ภายหลังเมื่อถึงเรือชุดปัตตานี ทร. ส่งทีมประกบทุกขั้นตอนการต่อ แถมเหล็กทุกแผ่นต้องถูก certify ก่อน ไม่ให้มีการเอาของต่ำเกรดมามั่ว
คุณภาพดีขั้น แต่ไม่ทราบว่าถูกใจ ทร. หรือเปล่า
สำหรับโครงการเรือใหม่ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ ทร. เดินตามแบบโครงการเรือกระบี่ คือเลือกซื้อหาแบบเรือที่ตรงกับความต้องการ จะจากประเทศไหนก็แล้วแต่
บวกกับแพคเก็จถ่ายทอดองค์ความรู้พร้อมที่ปรึกษาจากอู่เรือเจ้าของแบบ จากนั้นก็ต่อในประเทศกันเลย ลงทุนสร้างอู่แห้งเฟส 2 ของ อรม. หรือจะเป็นสลิปเวย์ก็ได้ แป๊บเดียงก็คุ่มทุนครับ เพราะมัโอกาสได้ต่อเรือทั้งชุดและเรือแบบอื่นๆ อีกได้ ที่มีอยู่แค่ซ่อมเรือในฟลีตก็แทบจะเกยกันอยู่แล้ว
วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ติดตั้งในประเทศทั้งหมด เหล็กจะจัดหาจากยุโรปตะวันออก อิตาลี หรือจีนก็ได้ ส่งมาแล้วหลุดสเปคก็ตีคืน เอาแบบที่ต่อเรือกระบี่อยู่นี่แหละครับ เช็คแล้วเช็คอีก ตรวจสอบจนแน่ใจจึงเอาเข้าเครื่องตัดเลเซอร์ คณะกรรมการตรวจรับก็ละเอียดเหลือเกิน เนื่องด้วยเป็นเรือใหม่ขนาดใหญ่ ต่อเป็นบล๊อค กำหนดเข้าประจำการจึงล่าช้าไปค่อนปี นัยว่าจะพยายามนำเข้าประจำการให้ได้ภายในไม่เกิน เม.ย. นี้ เอาหลักๆ ให้ทำงานได้ เดินเรือได้ปลอดภัย อุปกรณ์ปลีกย่อยอื่นๆ เข้าทยอยติดตั้งเป็นระยะๆ ภายหลังได้
ช้าเพราะเป็นลำแรก แต่ลำต่อๆ ไป รับรองเร็วกว่านี้แน่ครับ ยกเว้นว่าเราจะไปม๊อดอะไรเพิ่มเติมจากเรือกระบี่อีก ซึ่งแนวโน้มจะเป็นอย่างนั้น อันนี้ก็อาจทำให้เรือลำที่สองในชุดกระบี่ใช้เวลาต่อนานเมื่อลำแรกก็เป็นได้
สรุปแนวทางจัดหาเรือฟรีเกตชุดใหม่ที่ควรจะเป็น
1. สั่งต่อจากต่างประเทศที่ไม่ใช่จีน
2. ต่อเองในประเทศ ซื้อหาแบบมาดัดแปลงแก้ไขบ้างให้ตรงกับความต้องการของ ทร. มีอู่เจ้าของแบบเป็นพี่เลี้ยงเหมือนโครงการเรือกระบี่
ขอแชร์ความเห็นแบบนี้แหละครับ...
ผมแค่ขอให้ ทร ตัดสินใจให้ดีดีนะครับ ถ้าเปนผมขอ 2 ลำก็ได้แต่ขอเป็นเรือแบบยุโรบ เช่นเรือ MekoA-200 หรือ Meko-D ดีกว่า ในโครงการให้ 30000 ล้าน ผมว่าพออยู่และ ดูยังไง ทางจีนต้องการขายอาวุธให้กับ ไทย กับ กัมพูชา รบกันแน่ๆ z-9 ทางกัมพูชาก้ซื้อมา 12 ลำ จากจีน เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผม ไทยเราไม่เหมาะใช้ของจีนหรอก ใช้ว่าจะไม่มีคุณภาพ แต่ที่ผ่านมานั้น ทางเราต้องเสียค่าอับบเกตมากมาย ทางที่ดี ซื้อเรือแบบดีๆ ของทางยุโรบ ไปเลยดีกว่า เงินเราพออยู่แล้ว ขอให้ ทร. เลือกให้ดี สาธุ สาธุ ขออย่าให้เป็นเรือจีนเลยยยย
งานนี้ทั้งรัฐบาลและกองทัพคงต้องมีการลงทุนกันบ้างล่ะคงต้องมีการปรึกษากับอู่ต่อเรือเอกชนสอบถามถึงความพร้อมต่างๆกันก่อน เอาไว้เตรียมรับมือกับข้อเสนอต่างๆจากทั้งทางจีน,ยุโรป,อเมริกา,เอเชียแถวบ้านเราและอาจจะมีรัสเซียด้วยเผื่อไว้ก่อน ถ้าฝั่งยุโรปเสนอมาพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีแต่ราคามหาโหดเราจะหาทางออกยังไงให้เหมาะสมเพราะดีลนี้คุ้มตรงเทคโนโลยีในการต่อเรือที่มีประสิทธิภาพสูง ส่วนจีนเสนอพร้อมถ่ายทอดเหมือนกันแต่ราคาที่ต่ำกว่าคุ้มตรงจำนวนเรือที่อาจจะได้เพิ่มอีกลำแต่ความน่าไว้ใจต่ำเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ ส่วนอเมริกานั้นยากมากยกเว้นว่าเราจะให้ตั้งฐานทัพในประเทศเราได้เขาถึงจะเล่นด้วยอันนี้เลิกคิดได้เลยเรือLCS ส่วนทางรัสเซียถ้ามีเสนอมาProject 22350Admiral Gorshkov ความดุดันน้องๆเรือพิฆาตพร้อมถ่ายทอดเหมือนกันแต่ระบบเราไม่คุ้นเคย ส่วนเกาหลีกับสิงคโปร์ขอข้ามไปก่อนเพราะการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เราเขาคงไม่พร้อม สุดท้ายเราพัฒนาแบบเองก็แบบเรือหลวงกระบี่นั่นแหละปรับขนาดสเกล จัดวางตำแหน่งเรดาร์ จุดติดตั้งอาวุธต่างๆส่วนที่ปรึกษาเราคงต้องคุยกับทางสวีเดนอีกล่ะมั้งเพราะเขาวิ่งเต้นเก่งกว่าเราในการหาสิ่งที่เราต้องการที่เหลือคือความพร้อมของอู่ต่อเรือเราเองล่ะนะไหวมั้ย
ขอโทษทีครับลืมย่อภาพ
ตามความเห็นท่าน FatBoy....
สงสัย งานนี้ Formidable น่าจะมี คะแนนนำ...
อาจจะเป็น Formidable สเปค นเรศวร + โซนาร์ลากท้าย...
คงอยู่ที่ เยอรมัน จะยอมลดราคาค่าต่อเรือลงมาหรือไม่...
ซึ่งผมคิดว่า...เรือแบบ Meko ใส่ สเปค เรือชั้น นเรศวร ลงไป + โซนาร์ ลากท้าย...
น่าจะอยู่ในส่วนที่ ทร. รับได้...
และน่าจะมี คะแนนนำ เพราะมีข้อได้เปรียบในเรื่อง คุณภาพเรือ และ เครื่องยนต์ (ซึ่งเยอรมัน น่าจะได้เปรียบในส่วนนี้ เพราะ ถึง ทร.จะเลือกแบบเรือไหน ก็คงต้อง สเปค เครื่องยนต์ดีเซล เยอรมัน เป็นหลัก + Gas turbine LM2500)
ส่วนเรื่อง อู่เรือแห้ง เพิ่มเติม...
ผมว่า ทร. น่าจะรอไปใส่ใน งบประมาณ เรือชั้น กระบี่ ลำที่ 2-4
เพราะดูแล้ว งบประมาณการปรับปรุง สนามบินอู่ตะเภา กับ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า...น่าจะเสร็จในอีกปี หรือ 2 ปี นี้...
เป็นแผนพัฒนา ควบคู่ การสร้างเสริม สนามบินอู่ตะเภา คือ เป็นโครงการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ ของประเทศ...ที่จะมีผลตอบแทน กลับมาในรูป การต่อเรือเพื่อขายในอนาคต
เหมือนกับตั้ง โครงการ เรือชั้น กระบี่ ลำที่ 2-4 + อู่เรือแห้ง แห่งใหม่...
เป็น โครงการสร้างอุตสาหกรรมต่อเรือรบ เพื่อขายในอนาคต...ที่น่าจะเป็นเหตุ-ผล สนับสนุน ในงบประมาณของ กลาโหม ที่จะเพิ่มขึ้น...
เพราะ เรือชั้น กระบี่ ก็จะเข้าประจำการและแสดงผลงาน ประชาสัมพันธ์ ในปีนี้...
ส่วนปีหน้า หรือ + 1 ปี...เอาโครงการนี้ เข้าไป...เพื่อให้ผ่านพ้น โครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ไปก่อน...
ผมว่า ดูแนวโน้ม โครงการ เรือดำน้ำ...อาจจะต้องรออีกนานทีเดียว...อาจจะต้องรอเสร็จสิ้น โครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูง เสร็จไปก่อน...
แล้ว ถึงต่อด้วย โครงการ เรือดำน้ำ...จะได้ไม่กระทบกับ โครงการเรือชั้น กระบี่...เพราะ ยังไง ก็ต้องมีเรือ OPV ให้ทัน การปลดประจำการของ เรือชั้น ตาปี กับ ร.ล.มกุฎฯ ในอีก 9 - 10 ปี ข้างหน้า (โครงการเรือฟริเกต สมรรถนะสูง ก็ ใช้เวลากว่า 6 ปีแล้ว)
ดูแล้ว โครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ใหม่ จำนวน 2 ลำ + เรือมือสอง อีก 2 ลำ...น่าจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สำหรับสงครามใต้น้ำ ในระยะอีก 10 ปี ข้างหน้า...ที่จะทำให้ได้ ทันใช้ หรือ พอดีกับ ความรุนแรงในทะเลจีนใต้ ที่อาจจะเกิดขึ้น...(เรือดำน้ำ น่าจะมาไม่ทันกับเหตุการณ์...แต่คงต้องให้เหตุการณ์ดังกล่าว มาเป็นแรงสนับสนุนการจัดหา เรือดำน้ำ แทน)
และ เรือจาก สิงคโปร์ จะมีข้อได้เปรียบประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม...
น่าจะเป็นเรื่อง การเป็น AEC ของกลุ่มอาเซียน...
ซึ่ง เงินที่ ไทย ชำระค่าเรือไป...กำไรในส่วนหนึ่งของ สิงคโปร์...ก็คงต้องย้อนกลับมาใน ไทย อีก...
เพราะ สิงคโปร์ ก็เตรียมการลงทุนใน ไทย เพิ่มอีก..เมื่อกลุ่มอาเซียน เป็น AEC เปิดเสรี การลงทุนมากขึ้น...
ไม่แน่...อาจจะมี ออฟเซ็ต ของการลงทุนต่างตอบแทน ของ สิงคโปร์ เป็นข้อเสนอเพิ่มเติมขึ้นมาก็ได้...
ถ้าเป็นอย่างที่คุณFatboyบอก และคุณJudasคาดการณ์ว่าสิงคโปรน่าจะได้เปรียบ กฏ้พอยอมรับได้นะครับดีกว่าเรือจีน คุณJudasคิดว่าทร.จะใช้Modelเรือนเรศวรทั้งหมด (9LV+sea giraffและคณะ) หรือว่าอาจจะมีการปรับเลี่ยนเป็นThalesบางส่วน เช่น ระบบเรดาร์ Smart-S , seafire ครับ
ถ้าให้ เดา นะครับ ท่าน RAF...
ผมคงให้ระบบเดิมของ Saab มีคะแนนนำ ครับ...
เพราะ เป้าหมาย คือ ความสามารถปราบเรือดำน้ำ เป็นหลัก...
ผมว่า น่าจะมีการเน้น อุปกรณ์ และความสามารถในเรื่องพวกนี้ มากกว่า ครับ...
ซึ่งใน ข้อหลัก ของการจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ในครั้งนี้...มี สงครามเชื่อมโยงข้อมูลเครือข่าย เป็น 1 ใน 5 ของ สเปคเรือ ด้วยแล้ว...
ดังนั้น ในมูลค่าระบบเดิม ของ Saab หรือขั้นต่ำสเปค เรือชั้น นเรศวร มูลค่าระบบอาวุธ สำหรับ 2 ลำ อย่างสูง คงไม่เกิน 7,000 ล้านบาท...(ซึ่งน่าจะได้ระบบ Sagam มาด้วย)
ในมูลค่าตัวเรือ + ระบบอาวุธพื้นฐาน (ปืนหลัก + SSM + ท่อยิงตอร์ปิโด) จะยังคงเหลือเงินถึง 23,000 ล้านบาท (ประมาณ 766 ล้านเหรียญ)..และบวก ระบบโซนาร์ลากท้าย เข้าไป...
ในขณะนี้ โครงการเดิมชั้น Formidable ของ สิงคโปร์ มูลค่าตัวเรือ + ระบบอาวุธทั้งหมด ตามที่เห็นกัน ถัวเฉลี่ยลำละ 350 ล้านเหรียญ (ถ้าจำไม่ผิด)...
จะเห็นว่า ยังมีผลต่างอีกมาก...ที่ สิงคโปร์ จะเสนอเงื่อนไขพิเศษ หรือ ทร. น่าจะสามารถเลือกระบบอาวุธ ที่มีความพิเศษ เพิ่มเติม ได้...
แต่ถ้าใช้ระบบของSaab โอกาสที่อนาคตจะปรับปรุงเพื่อให้มีความสามารถเป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศ (ถ้าอีก10ปีข้างหน้าได้ซื้อเรือดำนำ้) ก็ทำไม่ได้สิครับ เพราะไม่สามารถใช้กับSM2ได้ ต้องต่อเรือป้องกันภัยทางอากาศเฉพาะอีก
ถ้าผมจะประเมิน คร่าว ๆ คือ
สมมติ...เป็น ตัว สมมติ ที่ประเมินเอง ครับ...
ถ้าเลือกแบบเรือ Formidable ของ สิงคโปร์...
วงเงินงบประมาณ ควรจะแบ่งเป้น
1. ระบบอาวุธ + ระบบมาตรฐาน อัพเกรดเรือชั้น นเรศวร + โซนาร์ ลากท้าย = 300 ล้านเหรียญ ( 9,000 ล้านบาท ประเมินตัวเลข มากกว่า เรือชั้น นเรศวร 3,000 ล้านบาท )
2. ตัวเรือ + ระบบขับเคลื่อน + ส่วนประกอบเรือมาตรฐาน = 600 ล้านเหรียญ ( 18,000 ล้านบาท )
3. ฮ.ประจำเรือ หรือ ฮ.ปด. = 100 ล้านเหรียญ ( 3,000 ล้านบาท )
เป็น เพคเกจ Formidable + Helicopter ASW = FFG (ASW)
ผมว่า เรือป้องภันภัยทางอากาศ แบบพื้นที่ เหมือนกับ สหรัฐ หรือ เกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น...
ผมว่า ประเทศไทย ยังไม่มีความจำเป็น หรือ ภัยคุกคามขนาดนั้น ครับ...
เราเป็นการป้องกัน ภายในน่านน้ำ หรือ อาณาเขต ประเทศเรา เท่านั้น ครับ...
ไม่เหมือนกับ สหรัฐ หรือ ญี่ปุ่น ที่เขามองภัยคุกคามในทะเลเปิด คือ มหาสมุทรแปซิฟิค...
ที่ไม่มี กองทัพอากาศ จะสนับสนุนในการป้องกันตนเองได้...จึงต้องมีระบบอาวุธป้องกันระยะไกล...
หรือ เกาหลีใต้...ที่มองภัยคุกคามจาก จีน และ เกาหลีเหนือ...เป็นหลัก ซึ่งมี ภัยคุกคามทางอากาศ สุง..
ประเทศไทย เป็นเพียงการ สมดุลย์ กับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เท่านั้นครับ...และ กองเรือ ปฏิบัติการไม่เกินระยะของ กองทัพอากาศ อยู่แล้ว ครับ...
เหมือน ออสเตรเลีย ครับ...เขาก็มี กองเรือประมาณนี้ ครับ...
แต่ ออสเตรเลีย...คงจะเริ่ม เข้ามามีบทบาท ในทะเลจีนใต้ มากขึ้น...และ เมื่อ จีน จัดหาเรือบรรทุกเครื่องบิน...
ออสเตรเลีย จึงมองภัยคุกคามทางอากาศจาก จีน เป็นสำคัญ...
ออสเตรเลีย ถึงจัดหา เรือป้องกันภัยทางอากาศ ทดแทนเรือ OHP...ซึ่ง คงมอง ภาระกิจในอนาคต คือ การปฏิบัติรักษาสันติภาพ หรือ การควบคุมการเดินทะเล ในระยะไกล...
ถ้า ประเทศไทย...มองยุทธศาสตร์ว่า ในอนาคตจะต้องไป ปฏิบัติการแถว ทะเลจีนใต้ หรือ แถวบริเวณความขัดแย้ง หมู่เกาะ สแปชรี่ย์...
ตรงนั้น น่าจะเป็นความจำเป็น ที่ ทร. จะต้องมี เรือป้องกันภัยทางอากาศ...เพราะ กองทัพอากาศ ไม่สามารถสนับสนุนได้ถึง ครับ...
ตามความเห็นของป๋า จูล Formidable ของ สิงคโปร์ มูลค่าตัวเรือ + ระบบอาวุธทั้งหมด ตามที่เห็นกัน ถัวเฉลี่ยลำละ 350 ล้านเหรียญ
ขอบคุณครับ
เป้นการประเมินแบบคร่าว ๆ ครับ คุณ kaewmusik...
ซึ่งผมก็ สงสัย เหมือนกันว่า...ทำไม วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึงจะจัดหาเรือฟริเกต สมรรถนะสูง ได้ไม่เต็มความต้องการน่ะครับ...
ซึ่งโดยทั่วไป เวลาประเมินโครงการคร่าว ๆ เขาก็จะเอา ระวางเรือ คูณ อัตรา/ตัน...เช่น เรือรบ จะคูณประมาณ 100,000 เหรียญต่อตัน...
เช่น เรือระวาง 5,000 ตัน...มูลค่าเรือพร้อมระบบอาวุธ ก็จะประมาณ 500 ล้านเหรียญ...
เรือระวาง 4,000 ตัน...มูลค่าเรือพร้อมระบบอาวุธ ก็จะประมาณ 400 ล้านเหรียญ...ประมาณนี้ครับ...
ดังนั้น ถ้าเราลดระวางเรือลง เป็นเหลือประมาณ 3500 ตัน...มูลค่าเรือพร้อมระบบอาวุธ ก็จะประมาณ 350 ล้านเหรียญ...ประมาณนี้ครับ...
ส่วนที่เหลือ อีก 150 ล้านเหรียญ...ถึงจะเป็น มูลค่าอัพเกรด ระบบ เทพ ๆ เพิ่มเติม เข้าไป...
ขอบคุณมากนะครับท่าน FatBoy
นี่แหล่ะครับเหตุผลที่เรือเยอรมันไม่ได้เกิดสักที มันแพงหูดับตับไหม้จริงๆ ราคาระบบอาวุธประเมินว่าใช้เงินครึ่งหนึ่งของโครงการ ถ้าค่าต่อเรือเปล่ามันเกินครึ่ง งานนี้ก็ยากจริงๆ ยกเว้นลดสเปกเรือลง ซึ่งผมไม่เห็นด้วย
ส่วนต่อในประเทศนั้น สำหรับอู่ราชนาวีคงจะสามารถต่อได้จริงแบบไม่ต้องสงสัย ขอให้ได้แบบดีๆมา แต่ปัญหากลับกลายเป็นงานล้นมือไป อาจจะเพราะอู่ทันสมัยที่สุดและราคาราชการ ไม่แพง และงานซ่อมบำรุงเรือของทร.ก็เยอะ
มิน่าทำไมท่านรองนายกและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังมาเยือนฐานทัพเรือ ถ้ารู้ว่าอู่ราชนาวีงานล้นมือขนาดนี้ ไม่กี่ปีข้างหน้าถ้ารัฐบาลหางบได้ ทร.คงได้ขยายอู่แน่ครับ ถ้าเป็นกิจการเอกชนนี่คงรีบเพิ่มทุนขยายอู่ เสียดายจริงๆที่อู่ราชนาวีขยายอู่ต่างๆไม่ทันรองรับการต่อเรือฟรีเกตใหม่ทั้งสอง-สามลำนี้
ส่วนอู่เอกชน ผมว่าทร.น่าจะทราบขีดความสามารถของแต่ละอู่ดีนะครับ มีความเป็นไปได้ที่ OPV ลำต่อไๆปอาจจะมีการกระจายงานไปยังอู่เอกชน ทางสมาชิก TFC จะรู้ได้ว่าอู่ไหนพร้อมก็คงจะมาจากที่อู่นั้นๆได้งานการต่อเรือขนาดใหญ่จากทร.นี่แหล่ะครับ
ถ้าทร.ไม่ต้องการลดสเปกเรือ และให้อยู่ในงบ และถ้าไม่ถูกบีบเกินไปจากจีน งานนี้ไม่สิงคโปร์ก็เกาหลีใต้แหง๋ๆ จึงจะได้สเปกเต็มตามที่ต้องและอยู่ในงบประมาณ สิงคโปร์ก็น่าจะเป็นแบบของ formindable ปรับแบบตามที่เราต้องการ ส่วนเกาหลี เดาเอาว่า KDX-2 ปรับแบบตามความต้องการของทร. ถ้าต่อจากสองประเทศนี้ OK.ครับงานดี ราคาน่าคบหาและน่าจะทำให้ทร.สามารถติดตั้งระบบตรวจจับและอาวุธได้เต็ม ซึ่งสเปกก็ไม่น่าจะหนีจากที่สมาชิก TFC เดาๆและคาดการกันเอาไว้ สำหรับผมถ้าได้ประมาณ F-123 ของทร.เยอรมัน (แต่ควรเป็น mk-41 16cell พร้อม ASROC) ก็ถือได้ว่าประเทศเราได้เรือดีกว่าทร.มาเลย์แล้วครับ
เสียดายจริงๆครับที่เรือชุดนี้ไม่สามารถต่อที่อู่ภายในประเทศได้ เพราะปัญหางานล้นมือ ขยายอู่ไม่ทัน
ขอบคุณครับ ป๋าจูล
เรือขนาด 4000 - 5000 ตัน จากชาติเอเชียตามที่ท่าน FatBoy บอก
ถ้ามาจากสิงคโปร์ ก็ คง formidable ขยายแบบ
ถ้าจากเกาหลี คงเป็น KDX-2 ลดขนาดลง
ถ้าต่อจากชาติเอเชีย คงได้ VLS ขั้นต่ำ 16 cell และคงสามารถมีระบบ CIWs ได้ 2 ระบบ มาพร้อมกับโซน่าร์ลากท้ายชั้นดี ฮ.ประจำเรือ ถ้าไม่ S-70B ก็ Lynx 300 ระบบตรวจจับอื่นๆก็น่าจะดีไม่น้อยเพราะค่าต่อตัวเรือถูกกว่าจากเยอรมันมาก เครื่องยนต์คงไม่พ้นเยอรมัน MTU และ LM2500 หวังว่าน่าจะได้ CODLAG นะครับ เหมาะสมกับสงครามต่อต้านเรือดำน้ำมากกว่า
ถ้าดูตามราคาที่เคยเกือบจัดหา KDX-2 เมื่อ 6-7 ปีก่อน 32,000 ล้านบาท สเปกเรือสูงมากทีเดียว แต่เน้นภาระกิจป้องกันภัยทางอากาศเป็นหลัก มีถึง 64 cell แต่เท่าที่ทราบ ทร.ไทยตอนนั้นต้องการอย่างเก่งแค่ 32 cell เท่านั้น CMS ก็รุ่นที่ใช้กับ type-23 หรือ NTU ของอเมริกาก็ได้ รองรับ SM-2
ถ้าลดขนาดลงมาราวๆ 4000 กว่าตัน และราคา 30,000 ล้าน เกือบเท่าเดิม น่าจะได้อะไรดีๆมาอีกเยอะเลยครับ
ส่วน Formidable ราคาที่สิงคโปร์จัดหามานั้นไม่มี CIWs และมีขนาดแค่ 3200 ตัน ถ้าต้องขยายแบบเป็นขนาด 4000 ตัและจัดหา CIWs 2 ระบบ พร้อมโซน่าร์ลากท้าย ก็น่าจะอยู่ในงบสบายๆเช่นกัน
แต่ผมประทับใจเรือเกาหลี อำนาจการยิงสะใจมาก.........เรือจากสิงคโปร์ดูจะเน้นความเป็นสเตลธ์มากกว่า
ข้อมูล KDX-2 ครับ จากวิกิพีเดีย
The ship has a 32-cell strike-length Mk 41 VLS for SM-2 Block IIIA area-air defence missiles, one 21-round RAM inner-layer defence missile launcher, one 30 mm Goalkeeper close-in weapon system, one Mk 45 Mod 4 127 mm gun, eight Harpoon anti-ship missiles and two triple 324 mm anti-submarine torpedo tubes.
Electronics suite includes one Raytheon AN/SPS-49(V)5 2D long-range radar (LRR), one Thales Nederland MW08 3D target indication radar (TIR), two Thales Nederland STIR240 fire-control radars with OT-134A Continuous Wave Illumination (CWI) transmitters, an SLQ-200(V)K SONATA electronic warfare system and a KDCOM-II combat management system which is derived from the Royal Navy Type 23 frigates SSCS combat management system. BAE Systems WDS Mk 14 originally developed for the US Navys New Threat Upgrade evaluates threats, prioritizes them, and engages them in order with SM-2.
On the 4th unit, ROKS Wang Geon, the 32-cell Mk 41 VLS is moved to the left and an indigenous VLS named K-VLS is installed on the right. The ships forward part is spacious enough to take a 64-cell Mk 41 VLS
เรือเปล่า 3000 ตัน ถ้าต่อจากเกาหลีใต้หรือสิงคโปร ผมว่าราคาไม่น่าจะเกิน 5000 ล้านสำหรับ 1 ลำ 2 ลำก็น่าจะอยู่
ราวๆ 10,000 ล้านบาท และถ้าจะจัดหาระบบอาวุธและตรวจจับประมาณเรือชั้นนเรศวร แถมด้วยโซน่าร์ลากท้าย รองรับ
ASROC ไม่มี CIWs ถ้าดูตามราคาการปรับปรุงเรือชั้นนเรศวร 7000 กว่าล้านสำหรับ 2 ลำ ดังนั้นเรือขนาดระวางเท่านี้และระบบอาวุธเพียงเท่านี้ ราคาสำหรับเรือ 2 ลำ ราคาก็น่าจะอยู่ในช่วง 17,000-18,000 ล้านบาทเท่านั้น เพิ่มโซน่าร์ลากท้ายไปอีก1000 กว่าล้านสำหรับ 2 ลำ ยังไงก็ไม่เกิน 20,000 ล้านบาทหรอกครับ
ถ้าจะต่อเรือขนาดเท่านี้ สเปกประมาณเรือนเรศวร 30,000 ล้านนี่สามารถจัดหาได้ 3 ลำสบายๆครับ แต่ต้องแยกโครงการจัด ฮ.ประจำเรืออกไปนะครับ
ราคาลำละ 15,000 ล้านบาท แถมต่อในชาติเอเซียอย่างเกาหลีหรือสิงคโปร์นี่ ต้องได้เรือขนาด 4500 ตัน สเปกอย่างดีแบบ KDX-2 เลยครับ ราคาคาดการณืสำหรับ KDX-2A ขนาด 5500-6000 ตัน ยังอยู่ราวๆ 500-700 ล้านเหรียญเลยครับ
หรือว่า 4500 ตัน เอาสเปกระบบตรวจจับเหมือนเรือชั้นนเรศวร แต่เพิ่มโซน่าร์ลากท้ายเข้าไป VLS 16 cell พอแล้ว ผมว่าราคา 400 ล้านเหรียญ นี่น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับเรือ 1 ลำ หรือลำละ 12,000 ล้านบาท เงินที่เหลือโยกงบไป Upgrade OHP ได้ลำละ 100 ล้านเหรียญ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพ OHP 2 ลำนี้น่าสนใจมากทีเดียว
แต่ ความเห็นส่วนตัว ผมว่า
ราคาตัวเรือเปล่า...เรือเยอรมัน กับ สิงคโปร์ หรือ เกาหลีใต้...ถ้าเอาราคาตลาด หรือ ราคาพื้นฐานจริง ๆ...
ผมว่า ไม่น่าจะ ถูก หรือ แตกต่าง กันมาก เท่าไหร่ครับ...
เพราะไม่ว่าจะ สิงคโปร์ หรือ เกาหลีใต้ หรือ จีน...ก็ต้องไปซื้อ เครื่องยนต์จากเยอรมัน...
รวมถึงต้องไปจัดหาเทคโนโลยี่จากประเทศต่าง ๆ...รวมถึง การต้องมีค่าใช้จ่ายจัดการ เพื่อให้ระบบเข้ากันได้อีก...
ทั้งค่าขนส่ง ค่าประกันความเสียหาย ต่าง ๆ...
ในขณะที่ เยอรมัน ใช้เทคโนโลยี่ภายในประเทศของ ตัวเอง ล้วน ๆ...ประหยัดค่าขนส่ง หรือ โสหุ้ย ก็คงน้อยกว่า เกาหลี หรือ สิงคโปร์ หรือ จีน...
ในระดับเรือ 3000 - 3500 ตัน...ผมว่า งบประมาณ 1,000 ล้านเหรียญ...สามารถเลือกได้ทุกชาติผลิตครับ...
ถ้าไม่จำกัดว่าต้องเป็น ระวาง 4000 - 5000 ตัน...(แต่ตามโครงการ ก็กำหนดที่ 2000 - 4000 ตัน เอง ไม่ใช่ หรือครับ)
ถ้าให้เลือกสิงคโปร์กับเกาหลีใต้ ผมว่าเลือกเกาหลีใต้น่าจะดีกว่านะครับ
ลองคิดจากประสบการณ์การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของประเทศอื่นที่ซื้อจากเกาหลีใต้แล้ว รู้ว่าจะเรียกร้อง Offset ได้มากนะครับ
ตุรกี ซื้อรถถัง K1 แล้วเรียกร้อง Offset ร่วมพัฒนารถถังของตัวเองจนได้รถถัง Altay
อินโดนีเซีย ซื้อเรือดำน้ำ U-209 3 ลำ ต่อที่เกาหลี 2 ลำ ที่อินโดนีเซีย 1 ลำ
ผมว่าถ้าเราเลือกเกาหลีอาจยื่นข้อเสนอต่อที่เกาหลี 1 ลำ ที่เรา 1 ลำ น่าจะได้นะครับ
แต่ต้องดูความพร้อมของอู่เราด้วยเหมือนกันนะครับ
อันนี้ผมก็ดูตามราคาและสเปกเรือ formidable ล่ะครับ 350 ล้านเหรียญ โดยต่อในสิงคโปร์ 5 ลำและต่อจากฝรั่งเศส 1 ลำ ระบบอาวุธต่างๆของมันก็สูงทีเดียว
ข้อมูลจากวิกิพีเดียครับ
ype: | Frigate |
Displacement: | 3,200 tonnes (3,150 long tons; 3,530 short tons) |
Length: | 114.8 m (376 ft 8 in) |
Beam: | 16.3 m (53 ft 6 in) |
Draught: | 6.0 m (19 ft 8 in) |
Installed power: | 4× ISM V1708 diesel generators, each producing 800 kilowatts (1,070 shp)[1] Total output: 3,200 kW (4,290 shp) |
Propulsion: | 4× MTU 20V 8000 M90, each rated at 8,200 kW (11,000 shp)[2] (CODAD) Total output: 32,800 kW (44,000 shp) |
Speed: | Maximum: 27 knots (50.0 km/h; 31.1 mph) Cruising: 18 kn (33.3 km/h; 20.7 mph) |
Range: | 4,200 nautical miles (7,780 km) |
Complement: | 71, excluding air crew detachment of approx. 19 |
Sensors and processing systems: |
Search radar: Thales Herakles multi-function radar Navigation radar: Terma Electronic Scanter 2001 Sonar: EDO Model 980 active low frequency towed sonar (ALOFTS) |
Electronic warfare & decoys: |
ESM: RAFAEL C-PEARL-M Decoys: Sagem Défense Sécurité New Generation Dagaie System, 2× forward & 1× aft. |
Armament: | Anti-ship: 8× RGM-84C Harpoon SSM Anti-air: MBDA Aster 15/30[3] launched from 4× Sylver A50 8-cell VLS Anti-submarine: EuroTorp A244/S Mod 3 torpedoes launched from 2× B515 triple tubes with reloads Guns: Oto Melara 76mm Super Rapid gun (mounted in stealth cupola), 4× CIS 50MG 12.7 mm (0.50 in) HMG |
สเปกเรือดีกว่าเรือชั้นนเรศวรอยู่พอควร ไม่ว่าจะเป็นสลิปเวอร์ 32 cell ระบบเรด้าร์อย่าง Heracles แม้ว่าระบบอำนวยการรบสิงคโปร์สร้างเอง และราคาสลิปเวอร์นี่ถ้าจำไม่ผิดจะสูงกว่า Mk-41 ด้วยซ้ำ เพราะมีผู้ใช้น้อยกว่าจำนวนการผลิตสู้ของอเมริกาไม่ได้
ดังนั้นถ้าเราตัดลงเหลือแค่ 8 cell แล้วเอาราคาที่ลดลงจาก 32 cell ไปเป็น 8 cell และลดเกรดเรด้าร์จาก Heracls ไปเหลือแค่ sea giraff ไปชดเชยกับ CIWs 1 ระบบ และโซน่าร์ลากท้าย ดังนั้น ราคาวนๆแถว 10,000 ล้าน หรือ 330-350 ล้านเหรียญ นี่เพียงพอแล้วสำหรับเรือที่มีขนาดระวางเพียงเท่านี้ สเปกไม่ได้ดีกว่านี้ครับ
500 ล้านเหรียญต่อลำ ขนาด 4000 กว่าตัน ต่อในเกาหลีหรือสิงคโปร์ ควรต้องได้สเปกเยี่ยมๆแบบ KDX-2 ถึงจะคุ้มค่าเงินครับ
ขนาดของเรือนี่เห็นท่าน FatBoy พูดวนๆอยู่แถว 4000 ตันนี่ครับ เรือที่จีนเสนอก็ 4000 ตันเศษ MEKO-A ก็อยู่แถวๆ 4000 ตัน มี MEKO-D ที่ลงมาหน่อยแถวๆ 3500 ตัน และดีลที่เคยเกือบลงนามกับเกาหลี (ถ้าไม่มีปัญหากันก่อนเรืองเงื่อนไข barter tradeก็คงได้จัดหา) ก็ถึงขนาด 5000 ตันขึ้นเลยครับ
ดังนั้นระวาง 4000 กว่าตันก็น่าจะเป็นช่วงระวางที่ได้รับการพิจารณาด้วย
และเนื่องจากระบบอาวุธและระบบตรวจจับก็คงหนีไม่พ้นจาก ยุโรปและอเมริกา ดังนั้นราคาการต่อเรือจากฝั่งยุโรปและเอเซียน่าจะต่างกันพอควรทีเดียว เพราะดูจากการชี้แจงของท่าน FatBoy ก็บอกเองเลยว่าเรือที่ต่อจากเยอรมันนั้นในช่วงระวาง 3500-4000 ตัน ราคาต่อเรือเปล่าสูงมากเสียจนอาจจะต้องลดสเปกเรือลง และเป็นเหตุผลให้ทร.ต้องหันมาสนใจเรือที่ต่อจากชาติเอเซีย ทั้งสิงคโปร และ เกาหลี จีนขอตัดออกไปแล้วกัน ซึ่งราคาเป็นมิตรกว่า
ยังไงค่าแรงและต้นทุนการผลิตของยุโรปกับเอเชียก็ยังต่างกันอยุ่มากครับ
ถ้าสเปกและระวางขนาด formidable เป็นที่พึงพอใจสำหรับทร.ไทยแล้ว ราคา 350 ล้านเหรียญต่อลำ ทร.อาจจะไม่ติดตั้ง
VLS mk-41 32 cell ก็ได้ เอาแค่ 8-16 cell ก็เพียงพอแล้ว เอาเงินส่วนที่เหลือไปติดตั้งโซน่าร์ลากท้ายและ CIWs 1
ระบบ ถ้างั้นผมสนับสนุน Formidable ครับ เพราะราคา 350 ล้านเหรียญ ตอนนี้ค่าเงินอยู่แถว 29 บาทกว่าๆต่อดอลล์
ราคาก็แถวๆ 10,000 ล้านบาท ต่อมาเลยครับ 3 ลำรวด เพราะยิง ASROC ได้ มีโซน่าร์ลากท้าย จรวดต่อสู้
อากาศยานแค่ป้องกันตัว มี CIWs 1 ระบบ เรด้าร์ระดับ Heracle เลยทีเดียว ก็พอๆกับ SMART-S mk-2 ถ้ามองว่ามัน
เกินความจำเป็นสำหรับภาระกิจต่อต้านเรือดำน้ำและตัวมันก็มีเทคโนโลยีเสตลธ์อยู่แล้ว ก็อาจจะไปใช้ระบบตรวจจับแบบเรือชั้น
นเรศวรทั้งชุดเลยก็ได้ เท่านี้ขีดความสามารถในด้านการต่อต้านเรือดำน้ำก็สูงกว่าเรือชั้นนเรศวรแล้ว แม้ว่าขีดความสามารถใน
ด้านต่อต้านอากาศยานจะเท่าๆกัน แต่ก็ได้สเตลธ์มาด้วย ยังไงก็ดีกว่าเรือชั้นนเรศวรอยู่พอควร
ราคา 350 ล้านเหรียญ 29 บาทต่อดอลล์ ก็ประมาณ 10,000 ล้าน 3 ลำเลยครับพี่น้อง ครึ่งหนึ่งของทร.สิงคโปร์จัดหามาทีเดียว รวมกับของเก่าที่เรามี ยังไงก็ทัดเทียมสิงคโปร์ในด้านเรือรบผิวน้ำทันที (เรายังเหนือกว่าในเรื่องเรือบรรทุกบ.ด้วย)
สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ ที่ติดตาม TFC มาก็ 2 ปีกว่าๆแล้วและดีใจมากเลยที่วันนี้
สามารถสมัครสมาชิกได้(หลังจากที่พยายามมาแล้วหลายครั้ง
จนแถบจะใจออก) ในประเด็นนี้ผมสนับสนุนแนวคิดของท่าน neosiamese2 เพราะถ้า
หากมองในด้านเศรษกิจแล้วการต่อเรือในประเทศเราจะได้ประโยชน์มากเลยทีเดียว
และในอนาคตเราอาจจะมีอุตสาหกรรมถลุงเหล็กที่มีคุณภาพและสามารถที่จะนำไปใช้
อุตสาหกรรมด้านอื่นๆได้โดยไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติอีกต่อไป
เพราะถ้าหากเราต้องการเหล็กที่จะใช้ในการต่อเรือเพื่อใช้ในประเทศและส่งออกใน
อนาคตแล้ว ผมคิดว่าเราต้องใช้เหล็กเพิ่มขึ้นในแต่ละปีหลานแสนตันเลยที
เดียวและเงินตราก็จะไหลออกจำนวนมาก ดังนั้นถ้าหากเราผลักดันให้มีการต่อเรือในประเทศ
ได้และมีคุณภาพมากพอที่จะส่งออก ก็อาจเป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่ง
ที่จะก่อให้เกิดอุสาหกรรมถลุงเหล็ก ถ้าถึงเวลานั้นเราก็จะสามารถผลิตรถถังหรือยานเกราะได้
เองอีกด้วย
ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องอภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ พึ่งโพสเป็นครั้งแรก
Formidable Class ของสิงคโปร์ ระบบต่างๆ จะเหนือกว่า ต้นแบบ La Fayette Class จากฝรั่งเศส มากครับ ระบบเรดาร์ Thales Herakles ที่จับเป้าหมายในอากาศได้ไกลถึง 250 กิโลเมตร แถมยังนำมาใช้ร่วมกับ ASTER-15 และ ASTER-30 (พิสัยยิงไกล 120 กิโลเมตร) เป็นเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศ ได้เลยทีเดียว
เรือฟริเกตรุ่นใหม่ล่าสุด ของ ทร.ฝรั่งเศส อย่าง FREMM Frigate ก็ใช้ Herakles เรดาร์อยู่ด้วยครับ
ส่วน La Fayette Class จะใช้เรดาร์ SEA TIGER MK2 (DBRV-15C) มีพิสัยตรวจจับเป้าหมายในอากาศ เป้าหมายขนาดเครื่องบินรบได้เพียง 100 กิโลเมตร และ มิสไซล์ ได้ 50 กิโลเมตร ประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะพอๆ หรือด้อยกว่า Sea Giraffe ของ สวีเดน หรือเปล่า
แต่ถ้าได้ La Fayette ติด Herakles เรดาร์ นี่ก็ดีเลยครับ อนาคตค่อยอัพเกรด หา ASTER มาติดตั้งเป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมได้
เรื่องระวางขับน้ำ 3000 หรือ 4000 ตัน ผมมองว่าไม่เป็นประเด็นเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเงิน 1000 ล้าน US แล้วได้ 3 ลำ และติดอุปกรณ์ไม่แตกต่างกัน ประสิทธิภาพพอๆกัน ผมต้องเลือกเรือขนาด 3000 ตันก็เพราะความประหยัดในการใช้งานและการดูแลรักษา ครับ งานนี้ผมยกมือให้สิงค์โปร ครับ ส่วนจีนถ้าไม่ติดเรื่องว่ามีสินค้าต่างตอบแทนได้ ก็คงไม่เลือก ครับ
ยินดีต้อนรับครับท่าน Ghoster
ขอบคุณมากครับท่าน Ghoster ผมไม่แม่นในเรื่องเทคนิคอะไรมากครับ แต่ผมจะมองจากสายตานักลงทุนแบบพ่อค้าว่าง่ายๆ
ข้อดีของ TFC คือ สมาชิกมาจากทุกสาขาอาชีพไม่ใช่เพียงข้าราชการทหารและตำรวจเท่านั้น ดังนั้นความเห็นของทุกๆท่าน
ที่แสดงออกมาในแต่ละเรื่องจึงทำให้การมองเรื่องใดเรื่องหนึ่งครอบคลุมได้กว่ามุมมองจากเชิงทางทหารเท่านั้น ซึ่งทหารก็มักจะ
คิดแบบสไตล์ทหารๆ บางทีก็เลยเกิดความขัดแย้งและไม่เข้าในกับภาคสื่อมวลชน เอกชน และประชาชนทั่วไป
ในดีลนี้ จากที่ท่าน FatBoy บอกกล่าว ราคาเรือที่ต่อจากเยอรมันไม่นับรวมอาวุธและระบบตรวจจับต่างๆ สูงเกินครึ่งหนึ่งของเงินตั้งต้นของโครงการ แสดว่าเรือเปล่าไม่ต่ำกว่า 7500 ล้านบาทต่อตัน เอาจำนวนตันหาร ได้ออกมากว่า 2 ล้านบาทต่อตันทีเดียว "แพงได้ใจ" แต่รถกับเรือเยอรมันต้องขอบอกว่าสุดยอด
ผมอยากให้ทร.เลือก MEKO-A-200 ใจจะขาด เรือในฝันผม หรู เล็ก เริ่ด ระดับเรือพิฆาต แต่พิฆาตเงินในกระเป๋าทร.ซะ....จุกเลย 6-7 ปีก่อนเกือบได้แล้วววๆ......ในภาระกิจป้องกันภัยทางอากาศ
เอาล่ะ ถ้าทร. พอใจสเปกแค่ มี VLS-mk-41 8 cell มีระบบตรวจจับและต่อตีอากาศยานระดับเรือชั้นนเรศวร ซึ่งราคาตามโครงการปรับปรุง 2 ลำ 7000 กว่าล้านบาท ตกลำละกว่า 3500 ล้าน แต่ทร.คงต้องการโซน่าร์หัวเรือกำลังสูงกว่านี้และต้องการโซน่าร์ลากท้ายด้วย CIWs อย่างน้อย 1 ระบบ ดังนั้น คงต้องเพิ่มอีกลำละประมาณ 1500 ล้านบาท รวมราคาระบบอาวุธและตรวจจับตามแบบเรือชั้นนเรศวร ก็ 3500+ 1500 = 5000 ล้านเศษ
คราวนี้พิจารณาการต่อเรือเปล่า ถ้ายึดราคาที่แพงที่สุดให้เป็นเยอรมัน ผมว่าราคาต่อจากสิงคโปร์น่าจะถูกกว่า และเกาหลีใต้น่าจะถูกกว่าสิงคโปร์อีก และราคาเรือชั้น อ่างทอง ที่เราเพิ่งต่อมาหมาด 5000 กว่าล้าน ขนาด 8000 ตัน น่าจะเป็นข้อยืนยันที่ดีว่า ราคาต่อตันจากสิงคโปร์และเกาหลีน่าจะต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อตัน
ถ้าตั้งราคาให้เท่ากัน 3200 ตัน คูณตันละ 2 ล้าน ก็กว่า 6400 ล้านบาททีเดียว ดังนั้นเรือขนาด 3200 ตันต่อจากเยอรมัน ราคารวมอาวุธแบบเรือชั้นนเรศวร ก็ 6400+5000 ล้านเศษ = 11,400 ล้านบาทต่อลำ แพงอ่ะ........ มิน่าเรือ Gowind ของมาเลย์ ติดตั้งแค่ Mk-48/56 24 cell ถึงล่อซะเกือบ 14,000 ล้าน เรือจากยุโรปนี่แพงมากๆ
ถ้าราคาต่อจากสิงโปร์หย่อนมาเป็น 1.5 ล้านบาทต่อตัน 3200 ตันคูณ 1.5 ล้านบาท ดังนั้นราคาต่อที่ตันละ 1.5 ล้านบาทจะได้ราวๆ 4800 ล้านบาท ถ้าราคารวมอาวุธระดับเดียวกัยเรือชั้นนเรศวร ก็ 4800+5,000 ล้านบาท = 9800 ล้านบาทต่อเรือ 1 ลำ 30,000 ล้านจึงเพียงพอสำหรับ 3 ลำครับ แต่ ฮ.ประจำเรือต้องจัดแยกโครงการกันนะครับ
ถ้าใช้ราคา 1 ล้านบาทต่อตัน 3200 ตันก็ 3200 ล้านบาท รวมราคาระบบอาวุธและตรวจจับ ก็ 3200+5000 = 8200 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย ถ้าเรือจากเกาหลีสามารถจัดให้ได้ที่ราคานี้ ก็สามารถต่อได้เกือบ 4 ลำ ทีเดียว
จริงๆเกาหลีมี FFX อยู่นะครับ 2200 ตัน แต่จริงแบบแรกน่ะอยู่แถวๆ 3000 ตัน แต่รัฐบาลเกาหลีต้องการให้ราคาอยู่ในงบและมีจำนวนมากพอ จึงตัดแหลกทั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศประจำเรือและระวางขับน้ำและระบบตรวจจับ แถมยังใช้ของในประเทศอีก เท่าที่ทราบ ราคาต่อลำไม่ถึง 4000 ล้านบาท ถูกโคตร
สเปก FFX ครับ จากวิกิพีเดีย ผมเคยลงเอาไว้เรื่องการปล่อยลงน้ำของเรือชั้นนี้กับราคาสำหรับต่อลำสำหรับ batch แรกครับ ถูกเหลือเชื่อเลย ต้องไปค้นใหม่อยู่ในกระทู้ TFC นี่แหล่ะครับ ใช้เรด้าร์ SMART-S mk2 ด้วย
ncheon Class Frigate | |
Type: | Frigate |
Displacement: | Batch I - 2,300 tons (empty) |
Length: | 114 m (374 ft) |
Beam: | 14 m (46 ft) |
Propulsion: | 1 x Rolls-Royce MT30[1] CODOG |
Speed: | 30 knots (56 km/h; 35 mph) (max) 18 knots (33 km/h; 21 mph) (cruising) |
Range: | 8,000 km (5,000 mi) |
Complement: | 140 |
Sensors and processing systems: |
SMART-S Mk2 search radar[citation needed] Samsung Thales Naval Shield Integrated Combat Management System[2] |
Electronic warfare & decoys: |
|
Armament: |
|
Aircraft carried: | Super Lynx or SH-60 Seahawk |
Aviation facilities: | Flight deck and enclosed hangar for up to two medium-lift helicopters |
ไม่มีโซน่าร์ลากท้าย เรด้าร์หัวเรือผมจำรุ่นไม่ได้แล้ว แต่รู้สึกว่าไม่ได้เริ่ดอะไร บอกเลยว่าสเปกแบบ FFX คงไปใช้ไล่ล่าแมงป่องทะเลกับกิโลไม่ไหวครับ เป็นเป้าล่อให้เขาฝึกยิงมากกว่า แต่ดันติดตั้งเรด้าร์ซะเว่อร์
ดังนั้น ถ้าเลือกขยายแบบ FFX ให้เป็นขนาด 3000 ตันและติดตั้งระบบแบบเรือชั้นนเรศวร+ โซน่าร์ลากท้าย CIWs โซน่าร์หัวเรือกำลังสูง ราคาอาจจะอยู่ในช่วง 7000-8000 ล้านบาทต่อลำ ซึ่งเงิน 30,000 ล้านบาทน่ะ ต่อได้เกือบ 4 ลำเลยทีเดียว แต่ถ้าเลือกระบบของ SUMSUNG - Thales ที่ผลิตในเกาหลีใต้ เช่น ระบบอำนวยการบ NI ICMS หรือระบบตรวจจับของ Thales ที่มีฐานการผลิตในเกาหลีใต้ ราคาน่าจะถูกกว่านี้อีก
แต่โครงการนี้เน้นเรือสมรรถนะสูง ดังนั้นขั้นต่ำก็ควรจะต้องไม่น้อยกว่า Formidable ครับ และถ้าจัดได้เต็มที่ ควรมีสเปกขนาด KDX-2 ในระวางประมาณ 4000 กว่าตัน ซึ่งมีทั้งขีดความสามารถในด้านต่อต้านอากาศยานและ Land attck เพิ่มเข้ามาให้ด้วยนอกเหนือจาก ASW
ดังนั้นถ้าต่อจากเกาหลี KDX-2 ครับ เป็นอะไรที่ผมชอบที่สุด
ถึงมันไม่หรูแบบเรือเยอรมัน แต่มันคุ้มค่าครับ และไม่กระป๋องแบบเรือที่ต่อจากจีน (ถึงอาวุธที่ติดตั้งจะหรูขนาดไหน ถ้าเรือคุณภาพแย่ขนาดที่บอกเล่ากัน ผมก็ไม่เอาด้วย)
KDX-2A ราคาคาดการณ์ จะอยู่ในช่วง 500-700 ล้านเหรียญ มีให้เลือกหลากรุ่น ทั้งติดตั้ง AEGIS + SPY-1F ติดตั้ง APAR + SMART-L หรือระบบของเกาหลีเองก็มีให้เลือก แพงสุดน่าจะเป็น AEGIS + SPY-1F ก็ 20000 ล้านเศษต่อลำ ขนาด 5500-6000 ตันครับ
แต่ผมชอบ IMAST-500+ SMART-L มากกว่า
500 ล้านเหรียญต่อลำสำหรับเรือชุดนี้ จะสเปกแค่ระบบอาวุธคล้ายๆเรือชั้นเรศวร......ผมว่าแพงโคตรๆ ต่อเรือเยอรมันไปเลยดีกว่าแบบนั้นแล้ว upgrade ระบบอาวุธเพิ่มภายหลัง ถ้าจะเลือกหรูสุดๆก่อน
พูดเรื่อง ราคา ต่อหน่วย จากเรือ ที่ต่อ จากเอเชีย(ไม่นับ จีน) เทียบ กับ เรือที่ต่อจาก เยอรมัน ผมกลับคิดเห็นตรงกัน หรือเหมือนๆ กับ คุณ judas นะครับ ว่า เบ็ดเสร็จ แล้ว เรือ สเปค เหมือนๆ กัน ราคา ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เพราะ ถ้าว่า ของเยอรมัน ค่าแรงแพง แต่ต้นทุนเกี่ยวกับ อุปกรณ์ อื่นๆไม่ว่าจะเป้น เครื่องยนต์ ระบบ อำนวยการรบ และ อาวุธ ของเยอรมันต้องถูกว่า เมื่อ รวมเป็น เรือ 1 ลำ รับรอง ว่าราคา ไม่หนีกัน ราคาสู้กันได้แน่ๆ ครับ
ปล.แถมกับที่ว่า ออกแบบและสรเางอย่างเชี่ยวชาญกับ อุปกรณ์ ส่วนควบต่างๆ ของ ตัวเอง ย่อมดีกว่าและเหนือกว่าเป็นแน่แท้
อีกอย่าง เรื่อง ดีลนี้ ยังไง ผมยัง ยื่นยันแนวคิดนะครับ ว่า ควร ต่อ ลำแรก จาก ต่างประเทศ ขณะ รอสร้าง อู่ต่อเรือ แห่งใหม่ ของ ทร. พอดี เสร๊จ ลำแรก อู่ก็ พร้อม จะต่อ เอง ลำ ที่ 2 โครงการ ลำ แรก ซึ่งยังไง ก็ ตั้ง 3 ปี สร้าง อู่ ต่อ เรือ ทัน โครงการ ลำ ที่ 2 แน่ๆ ครับ
ปล. อันนี้ขอนอกเรื่อง นะครับยังไง ก็มา ทร.แล้ว ฝาก ทร. จัดหารถถัง ให้ นาวิกด้วยนะครับ เอา ลีโอ หรือ เอม1 ของ มะกันเลย จะได้ มาเปรียบมวยกับ ทบ.ได้ ว่าอันไหน ดีกว่ากัน แล้ว จะได้ เลิก พูดเรื่อง ดิน อ่อน สักที เห็น หลายกระทู้แล้ว(ที่นอกเรื่อง นี้ พอดี ผมเป้นคนประเภท คิดได้ หลายๆเรื่อง พร้อม กัน ครับ ...อิอิ ขอบคุณครับผม)
จะอะไรก็ดีครับยกเว้น จีน เกาหลี สิงคโปร ยุโรปขอแบบเต็มๆ ยิ่งได้ 3 ลำแจ๋วมาก อาวุธครบ ทั้ง 3 มิติ ถ้ามาได้มันต้อง 4 5 6 ตามมาแน่ๆ แต่ต้องดูรัฐบาลด้วยว่าหน้าไหน
จริงๆแล้วทัพเรือเราคงต้องการเรือที่ลักษณะการรบได้ทั้งสามมิติเอาไว้คุ้มกันกองเรือและเรือจักรี และเรือยกพลขึ้นบก ขนาดคงไม่น้อยกว่าสี่พันตันละมั้งครับ ถึงจะยังไม่ได้รบกับใครๆแถวนี้แต่ก็ขอให้มีไว้ก่อน ส่วนอาวุธที่ติดมากับตัวเรือคงยังจะยังไม่เต็มแม๊กแต่คงจะติดตั้งแท่นยิงต่างๆมาไว้แล้วหละ ส่วนอาวุธในสัญญาคงจะมีการตกลงกันไว้ว่าถ้ามีเรื่องเราจ่ายคุณพร้อมจัดส่งงบสำรองเราพอมีอยู่ล่ะนะใครจะว่าอะไรได้ก็ของมันต้องใช้ แล้วเทคโนโลยีการผลิตต่างๆต้องมีการถ่ายทอดมาด้วย ใจจริงแล้วทัพเรือยังต้องการเรือประสิทธิภาพสูงอีกหลายลำคงไม่อยากต้องมาไล่ตามใคร ทั้งเรือดำน้ำ เครื่องบินประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน ถ้าได้ข้อเสนอที่ทำให้ทัพเรือสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคตเพื่อจะได้จัดสรรงบประมาณไปทางด้านที่ยังเป็นช่องโหว่ของทัพเรือเอง เราไม่ควรคิดว่าจัดหามาเพียงพอต่อภัยคุกคามที่อาจจะเกิดดูมันจะเสี่ยงไปเอาแบบข่มไอ้พวกที่มันจะเป็นภัยคุกคามดีกว่า ถ้ายังสูสีเวลามีเรื่องก็อยู่ที่คนแล้วล่ะว่าประสิทธิภาพในการใช้ใครจะเก่งกว่า ใจผมอยากจะให้ได้อาวุธที่มีอานุภาพแบบProject22350 Admiral Groshkov ซะด้วยซ้ำดูดุดีต่อให้เรือLCSของอเมริกาก็เถอะนะคงจะคิดนักเหมือนกัน ส่วน สทป. น่าจะลองศึกษาอาวุธทางฝั่งรัสเซียดูบ้างนะ ยังไงงานนี้รัฐบาลและกองทัพก็ต้องลงทุนกันบ้างล่ะ อยากให้เรามีอู่ต่อเรือที่มีศักยภาพสูงที่รองรับการสร้างเรือขนาดใหญ่อย่างประเทศแถบทางยุโรป อเมริกาบ้างท่าจะดีนะอะไรๆมันจะได้ง่ายขึ้น
Formidable ของพี่สิง เขาเป็นเจ้าของหรือปล่าวอ่ะครับ หรือซื้อมาจากฝรั่งเศษอีกที เพราะ ในใจตอนนี้ไปเจ้าFormidable แล้วอ่ะครับ เพระาถ้าเป็นของ สิงคโปร์จริงๆ เราก็จะสามารถแก้ไขแบบเรือได้นะครับ ส่วนเจ้า ASTER นั้นผมว่า น่าจะเกิดในกองทัพเรือยากหน่อย เพราะESSM ก็น่าจะกินขาดอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นรุ่น ASTER ที่ยิงได้ 120กิโล นั้น ผมว่าก็น่าสนนะครับ ขยายแบบเรือ ติดโซน่า หัวและลากท้าย ส่วนVLS ก็ 32Cell ผสมกับ ESSM,ASTER,ASROCK เป็นแบบลูกผสม และก็ติดCIWS 2ระบบ เป็นเรือรบ3มิติ เลยนะครับเนี้ย ขนาดตัวเรือก็ ราว4พันตัน
งบประมาณ 3 หมื่นล้านบาท แล้วถ้ามีตัวเลือกอยู่ในแถบเอเซียด้วยล่ะก็ ผมก็เชียร์ KDX ล่ะครับ สเปคเทพสุดแล้วในงบประมาณที่เรามี
แต่ถ้าใช้ระบบย่อมเยาว์ลงมาอีกสักหน่อย ถ้ามีเงินเหลือสัก 2-3 พันล้าน อยากให้จัด ฮ. ประจำเรือมาด้วยเลย จะเป็น super lynx หรืออะไรที่ ทร.เห็นสมควรก็จัดหามาใช้งานเถอะครับ งาน ASW จะได้สมบูรณ์ขึ้น
แต่ในใจลึก ๆ มีข้อแม้ข้อหนึ่ง อยากให้ต่อในประเทศสักลำนึงครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นไปได้ยากก็ตาม เพราะต้องรอจัดสรรงบประมาณอัพเกรดอู๋ อรม. ก่อน
200ความเห็นแล้วครับ^^
Lockheed Martin is considering offering its Littoral Combat Ship (LCS) in response to a request for proposals (RfP) from the Royal Thai Navy (RTN) for a frigate, the US-headquarted group confirmed on 25 January.
The Thai government finally approved funding of up to USD1 billion in September 2012 to procure two modern frigates over the coming years. The requirement had previously been put on hold for more than a decade due to funding issues. Government support finally came as a result of economic expansion and the need to enhance the combat capability of the RTN.
Confirmation of Lockheed Martins interest in the programme came from Doug Laurendeau, business development director of the companys ship and aviation systems unit. It is one of a number of opportunities that Lockheed Martin is pursuing in the Asia-Pacific region, he said.
Lockheed Martin would be likely to face competition to meet the Thai frigate requirement from South Korea and Germany. Platforms known to be under consideration include the DW3000H frigate design from South Koreas Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering (DSME) and the MEKO platform of Germanys ThyssenKrupp Marine Systems.
อ้างอิงhttp://www.janes.com/products/janes/defence-security-report.aspx?id=1065975680#.UQgVcjgvP4Y.blogger
และhttp://www.thaidefense-news.blogspot.com/2013/01/lockheed-martin-lcs.html
จากความเห็นของคุณ kok 129 นี้มีทั้งจากเกาหลีใต้และเยอรมันเลยน่ะครับ ผมว่างานนี้เริ่มจะสนุกขึ้นมาแล้วละครับ
แต่ผมสงสัยว่า Lockheed Martin นี้เค้าเอาหมดทุกอย่างเลยเหรอครับ บนบก บนฟ้า ในน้ำ ใต้น้ำ แต่ยังไม่เห็นราคาที่เสนอนะครับ
เห็นแต่เสนอแบบเรือ DW3000H และ MEKO แต่เจ้า MEKO ที่เสนอมานี้จะเป็นตัวไหนหนออยากรู้จริงๆ
ขอลงเพิ่มเติมน่ะครับ
Lockheed Martin จะพิจารณานำเสนอแบบเรือ Littoral Combat Ship (LCS) ในการตอบสนองต่อการร้องขอสำหรับข้อเสนอ (RfP) จากกองทัพเรือไทย (RTN) ในโครงการจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูงของไทย ซึ่งได้รับการยืนยันจากทาง the US-headquarted group เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2556
โครงการจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูงของกองทัพเรือไทย จำนวน 2 ลำ มีมูลค่าของโครงการถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
โครงการนี้เป็นหนึ่งในโอกาสที่ทาง Lockheed Martin จะดำเนินการผลักดันการหาตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
อย่างไรก็ดีทาง Lockheed Martin มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการแข่งขันที่จะตอบสนองความต้องการเรือรบของไทยจากประเทศเกาหลีใต้และเยอรมนี โดยมีแบบเรือรบที่จะอยู่ในการพิจารณา.. ได้แก่ แบบเรือฟริเกต DW3000H จาก Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering (DSME) ประเทศเกาหลีใต้ และ แบบเรือฟริเกต MEKO จาก ThyssenKrupp Marine Systems ประเทศเยอรมนี
จาก http://www.thaidefense-news.blogspot.com/2013/01/lockheed-martin-lcs.html ที่ท่าน kok 129 อ้างอิงน่ะครับ
ลืมรูปครับ ขออภัย
จากทางฝั่งของ Lockheed Martin ที่เสนอมา
ขออภัยอีกรอบครับลืมแปลงนามสกุลไฟล์รูป รูปเลยไม่ขึ้น
ยังไงราคาเรือจากยุโรปก้แพงกว่ามากพอควรครับ ปัจจุบันที่ยุโรปย่ำแย่ก็เพราะต้นทุนการผลิตที่แพงแสนแพง จนไม่สามารถขายแข่งในตลาดโลกได้และเสียตลาดให้กับชาติเอเชีย โดยเฉพาะเกาหลีใต้ SUMSUNG นี่ล่อซะ โนเกีย และ โมโตโลล่า หมดสภาพ
ข้างล่างนี้เป็นราคาเปรียบเทียบสเปกเรือของทางยุโรปกับเกาหลีใต้นะครับ อัตราแลกเปลี่ยน 29 บาทกว่าๆต่อดอลล่าร์ และ 40.4 บาทต่อ 1 ยูโร
F-124 3 ลำ 2.1 พันล้านยูโร หรือเฉลี่ยลำละ 700 ล้านยูโร = 28,280 ล้านบาทต่อลำ ซึ่งระวางพอๆกับ KDX-2A มีระบบ APAR และ SMART-L และจำนวนระบบอาวุธใกล้เคียงกันมาก
F-125 ตกลำละ 650 ล้านยูโร หรือลำละ 26,260 ล้านบาทต่อลำ ระวางมากกว่า คือ ประมาณ 7000 ตัน แต่ไม่ได้ติดตั้งระบบ APAR น่าจะเป็นระบบของเยอรมันเอง
De Zeven Provinciën-class frigates ตกลำละ 816 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 24,400 ล้านบาทต่อลำ ระวางพอๆกับ KDX-2A มากๆ ติดตั้งระบบ APAR เช่นกัน
KDX-2A ราคาประมาณ 500-700 ล้านเหรียญ ซึ่งมี 3 ระบบ
1. ระบบของเกาหลีเอง คือ cherlomae 2 ติดตั้งเต็ม K-VLS 64 cell ราคาประมาณ 500 ล้านเหรียญ หรือ 15,000 ล้านบาทต่อลำโดยประมาณ
2. แพงสุด ติดตั้ง AEGIS + SPY 1F ราคาน่าจะแพงสุด 700 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 21,000 ล้านบาทเท่านั้น ถูกแอะ
3. ราคาตรงกลาง ประมาณ 600 ล้านเหรียญ ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นระบบ APAR เพราะศักดิ์ศรีด้อยกว่า AEGIS อยู่ ดังนั้นราคาประมาณ 18,000 ล้านบาทครับ
ราคาLCS Freedom $670.4 ล้าน(จากWikipedia) ราคานี้ไม่ใช่เรดาร์SPY1Kนะครับ ต่อให้ลดoptionลงมา แต่งบ$1000 ล้าน ของเราจะไหวเหรอครับ
ราคา F-124 28,000 กว่าล้านกับระบบ APAR
KDX-2A ราคาประมาณ 18,000 บาท ราคาต่างกัน 10,000 ล้านบาททีเดียว
De Zeven ราคา 24,000 ล้าน ราคาต่างกัน 6,000 กว่าล้านบาท
เพียงเท่านี้ยืนยันเรื่องราคาได้นะครับ
ใจผมชอบเกาหลีใต้ครับ ถ้าต้องต่อจากเอเชีย KDX-2 ลดขนาดลงมา 4500 ตัน ติดตั้ง I-MAST 500 + SMART-L
STIR 2.4 HP หรือ 1.8 HP VLS Mk-41 32 cell และมีพื้นที่ติดตั้ง Harpoon หรือ RBS-15 F ได้ 16 ลูก เพื่อให้สามารถติดตั้ง SLAM-ER หรือ RBS-15 mk4 ได้ด้วย สำหรับภาระกิจ Land attck เพราะ KDX-2 แบบเดิมๆ ใช้ K-VLS 32 cell ในการยิง ฮุนมู 3 หรือ โทมาฮอคเวอรชั่นเกาหลี
ถ้าได้ตามนี้ Gowind 6 ลำ ก็ไม่อาจต่อกรกับ KDX-2T จำนวน 2 ลำได้ 555555 กำหนดรหัสชื่อเอาเองเลยวุ้ย เรา...... เพราะถ้าวัดกัน ทร.เกิดจัดหา CN-235 + กระเปาะเรด้าร์ Vigilant มาใช้งาน สามารถส่องเรือฝ่ายตรงข้ามได้ไกลมากถึงราว 600-700 กิโลเมตรด้วย RBS-15 Mk4 ได้ครับ และอยู่กลางอ่าวไทย ยิงได้ถึงเชียงใหม่เลย......สุดยอดแล้วในราคานี้
และถ้าจัดหามาจริง น่าจะขอแบบเอาไว้ในการต่อเองด้วยนะครับ รุ่นป้องกันภัยทางอากาศนั้น KDX-2A เหมาสมที่สุดเลย เล่น AEGIS ไปเลย
คงเสนอแนวๆเรือชั้น MILGEM ของ ทร.ตุรกีครับท่าน RAF
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย
lass & type: | Patrol and Anti-Submarine Warfare[1] |
Type: | Corvette / Frigate |
Displacement: | 2,300 tonnes |
Length: | 99.56 m |
Beam: | 14.40 m |
Draft: | 3.89 m |
Installed power: | Main: 31,640 kW CODAG Aux: 4 x 588 kW |
Propulsion: | 1 gas turbine, 2 diesels, 2 shafts |
Speed: | Economy: 15 knots Maximum: 30 knots |
Range: | 3,500 nautical miles (6,480 km) @ 15 knots |
Endurance: | 21 days with logistic support 10 days autonomous |
Boats & landing craft carried: |
2 Rhib |
Complement: | 93 including aviation officers, with accommodation for up to 106 |
Sensors and processing systems: |
Combat Management System: G-MSYS (GENESIS MİLGEM Savaş Yönetim Sistemi) |
Electronic warfare & decoys: |
SIGINT: ARES-2N[3] Others: Laser/RF systems, ASW jammers, DG, SSTD |
Armament: |
Guns:
Anti-surface missiles:
Anti-aircraft missiles:
Torpedoes:
|
Aircraft carried: |
Hangar and platform for: |
Aviation facilities: | Capability of storing armaments, 20 tons of JP-5 aircraft fuel, aerial refueling (HIRF) and maintenance systems |
ตรงภาระกิจเผง ASW ครับ น่าจะอยู่ในงบประมาณ ได้อย่างเก่ง 2 ลำ แต่ถ้าจะเน้นสเตลธ์แบบนี้ ผมว่า Formidable จากสิงคโปร์ดีกว่า ถ้าติดตั้งระบบอาวุธเพียงเท่าานี้ ระวางขับน้ำ 3000 ตันเท่านั้น เพราะอาจจะจัดหาได้ถึง 3 ลำ สเตลธ์พอๆกัน
formidable เป็นการแก้แบบของฝรั่งเศสพัฒนาให้ตรงความต้องการของทร.สิงคโปร์ครับ
ก็เพราะสเปคระดับนี้นี่ล่ะครับ ผมถึงได้ชอบ หากไม่มีหวังในซีรีส์ MEKO แล้วล่ะก็ ในเอเชียด้วยกัน น้องแดจังกึม นี่เวิร์คสุดในราคาที่เราจ่ายได้
เพราะนอกจากจะได้เรือตามจำนวนที่ต้องการถึง 2 ลำ ในแบบ Full Option แล้ว ยังได้ระบบอาวุธเต็มพิกัดแบบไม่ต้องมาใช้เวลาอัพเกรดเติมทีหลังแบบ 421/422 อีกด้วย
โอกาสมาแล้ว เหลือแต่ ทร.ล่ะครับงานนี้ เรามีโอกาศได้เรือที่มีสมรรถนะเต็มที่ทั้ง 3 มิติ
ส่วนเรือ LCS โดยส่วนตัวยังไม่เห็นด้วยกับเรือชุดนี้ครับ เพราะขนาด Lockheed เอง ยังมีปัญหากับเรือ Freedom ของตัวเอง ยังต้องแก้บั๊กอีกหลายจุด และเรือประเภทนี้ ผมว่าค่าบำรุงรักษาไม่ถูกนะครับ มันอาจจะลดกำลังพลลงก็จริง แต่ก็นั่นต้องหมายถึงสายการสนับสนุน ซ่อมบำรุง ของเราทำได้เกินร้อยเหมือนของ us.navy ด้วยนะครับ
ไหนๆก็พูดถึงกระเปาะ Vigilant แล้ว ไม่รู้สะกดถูกหรือเปล่า กระเปาะนี้พัฒนามาจากเรด้าร์ APG 80/81 ที่ใช้บน F-35 เพื่อสนองความต้องการของทร.อังกฤษในการจัดหา AEW ทดแทน sea king AEW ซึ่งมันสามารถทำการตรวจจับเป้าอากาศยานได้ไกลถึง 300-350 กิโลเมตร 360 องศา ด้วยการติดตั้งกระเปาะด้านข้างลำตัวฮ.แบบ EH 101 หรือชื่อใหม่คือ AW 101 และสามารถใช้โหมด SAR ในการแสกนพื้นน้ำพื้นดินได้ด้วย ดังนั้นนอกจากเฝ้าตรวจแล้วยังสามารถส่องเป้าหมายให้แก่ระบบจรวดระยะไกลมากๆ แบบ RBS 15 mk4 ได้ด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งไดทั้ง ฮ. H-60 ซึ่งฮ.ตระกูลนี้มีทั้งใช้งานทางทะเลและทางบกครับ CN-235 C-130 ก็ได้ด้วย
ถ้าทร.สนใจมันและติดตั้งบน MH-60 หรือ S-70B ในภาระกิจ AEW สัก 3 ลำ จักกรีก็ไม่ต้องพึ่งพา AEW&C จากทอ อีกต่อไปครับ
ถ้าได้ KDX-2T 55555 เรียกตามใจตัวเองอีกแล้ว MH-60 + vigilant AEW และ Harrier 2+ ทร.ไทย คงดูน่าเกรงข้ามขึ้นจมเลย......555555 .......
จากรูป จะเป็นกระเปาะติดตด้านข้างทั้งสองฝั่งตรงตำแหน่งแท่นปล่อยตอร์ปิโดครับ ในรูปเป็น AW-101
คห.213 แล้วครับ ขอเชิญไว้บนหิ้งดีกว่าครับพี่
ด้วยความเคารพ ผมไม่เคยกล่าวถึง เรือฟริเกตชั้น Formidable ครับ ผมกล่าวเพียง มีเปอร์เซนต์สูงที่จะมีการต่อเรือจากประเทศในเอเซีย หลักๆในเอเซียก็มี 3 ประเทศ คือสิงคโปร์ เกาหลีใต้และจีน ครับ
ผมได้ดูข่าว ผ่านทางFacebook ของ uddthailand นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสและคณะ จะมาเยือนประเทศไทยเราวันที่ 4-5 ก.พ. และก็มีการ ลงนามความตกลงด้านการป้องกันประเทศ ด้วย ซึ่งเขาอาจจะมาประซิบนายก ของเราก๋็ได้นะครับ คาดเดาเอา เพราะช่วงนี้ ก็มีประเทศใหญ่ๆ เข้ามาประเทศเรา
ท่าน kok129 ประเทศฝรั่งเศส ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่สร้างเรือฟริเกต ขายอันดับต้นๆของโลกนะครับ ผมก็คิดว่าเขาก็ต้องเสนอ แน่นอนละครับ
ตอนนี้ ทร.ไทย กำลังเนื้อหอม ใครๆก็อยากได้ดีล ตอนนี้มีแค่จีน กับ อเมริกา ที่เสนอแบบเรือรบมาให้ ทร.ไทย ตัดสินใจ ส่วนชาติอื่นๆ อย่าง ฝรั่งเศส , เยอรมัน , อังกฤษ และ เกาหลีใต้ ยังนิ่งๆ
หรือว่า ทร. ไม่ได้ร้องขอ แบบประเมิน หรือ RFI ให้กับบริษัทต่อเรือรบ จากหลายๆชาติข้างต้น
ผมอยากให้ ทร. ร้องขอแบบประเมินอ่ะครับ เราจะได้มีอะไรเปรียบเทียบกัน หลายๆรุ่น และการเสนอแพ็คเก็จ ของแถม ราคา และอื่นๆ อีกครับ จะได้เลือก เรือแบบที่คิดว่าดีที่สุด คุ้มค่ากับงบประมาณของ ทร.ไทย มากที่สุดครับ
แปลกส่งมาแค่ นายกรัฐมนตรี เองหรือครับ สงสัยไม่ใช่ ดีลใหญ่ ปกติเห็นท่านประธาณาธิบดี จะบินไปเยือน/เจรจา เอง สำหรับ ดีลใหญ่ๆ เหมือนตอนขาย Rafale ตั้งแต่ยุค ท่าน นิโกลาส์ ซาร์โกซี่ จนมาถึงยุคท่าน ฟร็องซัวส์ โอล็องด์ ก็เพิ่งบินไปเยือน UAE มาหมาดๆแต่ปิดดีล ไม่ได้ และเดือนหน้าจะบินไปเยือนอินเดีย เพื่อที่จะปิดดีล Rafale (ชนะในโครงการ แต่ยังไม่เซ็นสัญญาซื้อ)
ถ้า ฝรั่งเศส และอู่ต่อเรือ DCNs จะเสนอเรือเข้าประมูลแข่งขัน ผมขอเป็นชั้น FM-400 (FREMM ย่อส่วน เหลือ 4,000 ตัน) FM-400 จะนำมาทดแทน La Fayette Class Frigate ของฝรั่งเศส ครับ ซึ่งไม่อยากได้ La Fayette เพราะมันเป็นเทคโนโลยีเก่า ของฝรั่งเศส ไปแล้ว หรือไม่ก็เอา Gowind Class รุ่น Combattant ขยายส่วนเป็น 3,500 ตัน เป็นอย่างน้อยครับ
ความมันส์เกิดขี้นแล้ว เมกา เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลี สิงคโปร์ ใครเก็บดีลนี้ได้งานนี้มียาวๆ ว่าแต่บอกว่า 2 ลำ แต่ถ้าได้มา3 จะโดนเล่นไม๊เนื่่ย โทษฐานรายงานจำนวนไม่ตรงกับความเป็นจริง
ในที่สุดก็มาจนได้ดีลมหาหินจากอเมริกา เรือLCSถ้าเป็นversionของอเมริกาตัวเต็มคงน่าจะยากเกินงบแน่นอนแต่อเมริกาซะอย่างคงจะมีการปรับเปลี่ยนให้ตรงกับคุณลักษณะที่ไทยกำหนดได้ไม่ยากล่ะนะของๆเขามันเยอะ อยากรู้จังว่าจะมีข้อเสนอพิเศษอะไรมาให้ที่จะต้องทำให้ทัพเรือเราเป่าปากอีกแหงๆ อย่างว่าล่ะนะต้องพยายามรักษาตลาดกันสุดๆเครื่องบินก็โดนสวีเดนไปแล้วทีนึง หรือว่าจะเสนอ เอวี-8 แฮริเออร์มือสองสัก8ลำในราคามิตรภาพ ดักทางsaabของสวีเดนไว้ก่อนเพื่อปูทางให้กับf35bในอนาคต กันเรือหลวงจักรีกลายร่างเป็น light stobar เดื๋ยวจะยุ่งเสร็จทางสวีเดนที่จ้องจะเอา gripen sea มาจอดบนเรือจักรีเรางานนี้มีกุมขมับแหงๆ ช่วงหลังเรารถถังก็เอายูเครน เครื่องบินก็ชองสวีเดน แถมมีออฟชั่นเด็ดๆอีก ต่อไปในอนาคตอเมริกาอาจจะต้องเข้าออกแถวภูมิภาคนี้บ่อยๆและยิ่งอ่าวไทยเป็นจุดพักเรือรบที่ปลอดภัยที่สุด(ป่านนี้เรือดำน้ำอเมริกาคงมุดดูอ่าวเราจนทั่วแล้วมั้ง)เวลามาซ้อมรบทีไม่รู้แอบเอาอะไรมามั่ง งานนี้อเมริกาต้องให้เราบ้างล่ะไม่งั้นจะโดนทางสวีเดนอีกแน่ๆ เมื่อไหร่ทางสวีเดนจะจัดมาให้ดูบ้างนะ อยากเห็นดีลจากสวีเดนจริงๆ ถ้าสวีเดนเล่นร่วมลงทุนสร้างอู่ต่อเรือในไทยแบบเมกะโปรเจคแถมเสนอแบบเรือฟริเกตงามๆให้ไทยล่ะก็ งานนี้ทั้งเรือฟริเกตจะได้ต่อในไทย ทั้งปูทางให้gripen sea และเรือดำน้ำสวีเดนอาจจะได้ประจำการในกองทัพไทยเราก็ได้ งานนี้ได้ทั้งไทยและสวีเดน ดีลแบบนี้อาจจะได้เห็นจากสวีเดนก็ได้นะการตลาดเขาค่อนข้างจะเซียนพอตัว เอาล่ะช่วงนี้ เยรอมัน ฝรั่งเศส อังกฤษ และสวีเดน เร่งทำงานกันหน่อย มีอะไรจะเสนอก็ว่ามากองเชียร์ทั้งหลายเขารออยู่ เกือบลืมรัสเซียจะลงแข่งกับเขาไหมเนี่ยน่าจะลองจัดมาให้ดูบ้างนะ
เห็นความคิดเห็นด้านบน อยากให้มีการร่วมทุนสร้างอู่ต่อเรือในไทยด้วย หาข้อมูลไปๆมาๆ บังเอิญเจอของ DCNs โฆษณาแบบนี้ เหมือนจะรับจ้างสร้างอู่ต่อเรือ หลายขนาดหลายไซส์ เหมือนกัน
อุตสาหกรรมการต่อเรือทางฝั่งยุโรปประสบปัญหาเรื่องต้นทุนที่สูง จึงทำให้การการแข่งขันทางการตลาดเสร็จทางฝั่งเอเชียแบบจนแทบจะต้านไม่อยู่หากไม่มองหาฐานการผลิตใหม่คงจะอยู่กันยาก หากจะมองกันจริงๆไทยทั้งทำเลที่ตั้ง ฝีมือแรงงานนั้นถือว่ามีความพร้อมอยู่มากพอสมควรถ้ามีเครื่องจักรเครื่องมือที่ทันสมัยล่ะนะ ขาดก็แต่วัตถุดิบ อืมอยากให้มีโรงถลุงเหล็กกับเขาบ้างจัง ดีไม่ดีอาจจะได้ตั้งโรงงานผลิตเครื่องบินในไทยบ้างก็ได้นะ สาธุ^_^
ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
A deal to procure the Type 054-class vessel would include technology transfer to enable maintenance, repair, and overhaul and to locally produce unspecified components under licence from Type 054-class designer and constructor Hudong-Zhonghua Shipbuilding.
ref @ http://www.janes.com/products/janes/defence-security-report.aspx?ID=1065975734&channel=defence
ข้อเสนอของจีนใช้ได้เลยนะครับ เรือ 3 ลำ + technology transfer to enable maintenance, repair, and overhaul and to locally produce unspecified components under licence from Type 054-class designer and constructor Hudong-Zhonghua Shipbuilding.
แต่ที่น่าสนใจ คือระบบมันจะ Link กับ ทอ.ได้หรือไม่ ถ้าทำได้ สนับสนุนครับ เรือฟริเกตใหม่ 3 ลำ ชั้นเดียวกัน เข้าสูตรมาตราฐาน ทร. เลย " ออกทะเล เทียบท่า ซ่อมบำรุง "
China has offered Thailand its Type 054-class Jiangkai frigate to meet a requirement to procure multipurpose frigates for the Royal Thai Navy (RTN), thus potentially putting Beijing and Washington head to head in a large-scale international procurement programme.
Sources have confirmed to IHS Jane’s that preliminary discussions between Thailand and China have commenced over the potential deal, in which China has said it is prepared to sell to the RTN three Type 054-class vessels at a cost that will meet the programme’s budget of USD1 billion.
While the RTN is said to favour a purchase of a US, European, or South Korean platform, the potential deal to procure from China is being led by the government, which views the Type 054-class as a cost-effective alternative to Western vessels.
T 054
โห.......จีนมันจะเอาให้ได้เลยแฮะ.............ทั้งถ่ายทอกเทคโนโลยี ทั้งการซ่อมบำรุง การเมนแทนแน้นซ์ และแม้แต่ให้สิทธิ์ในการต่อตัวเรือในประเทศไทยเองด้วย ไม่ได้สนใจว่ากำไรอะไรจากเราเลยนี่น่า ใจกว้างแบบสุดๆ ดูท่าทางรัฐบาลจะชอบใจมากๆด้วย เหมือนเป็นการแย่งชิงพันธมิตรในภูมิภาคกันมากกว่า
จากข่าวของท่านคนไทยรักชาติ ดูท่าทร.สนใจเรือยุโรป และเกาหลีใต้มากกว่า จากดีลเมื่อ 6-7 ปีก่อนในการจัดหาฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ 2 ลำ งบ 32,000 ล้านบาท ตอนแรกเกาหลีใต้มา KDX-2 เต็มสเปก 5200 ตัน ทุกอย่างแบบทร.เกาหลีใต้ใช้งาน แต่พอมีปัญหาเรื่อง barter trade ข้าว 3 ล้านตัน ปั๊บกำลังจะจรดปากกาเลยต้องจบดีล ลงนามกันไม่ได้
จึงย้ายมาจัดหา MEKO-A200 จำนวน 2 ลำ แต่งบบานปลายออกมาเป็นลำละ 18,000 ล้านบาท แต่ได้ระบบ AEGIS + SPY-1K มันขายระบบนี้ให้ ตอนนั้นเลยมั่นใจว่าอเมริกายอมขาย SM-2 block3 ให้เราแน่ๆ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเสียก่อน
ดีลคราวนี้ เรือเยอรมันราคาเกินเอื้อม แบบนี้ถ้าคิดว่า ทร.ไทยเคยทำการบ้านทิ้งเอาไว้ ดังนั้น KDX-2 ต้องได้รับการพิจารณาปัดฝุ่นดูก่อยเพื่อนแล้วล่ะครับ แต่อาจจะลดขนาดและแก้ไขแบบจากแต่ก่อนที่เอาแบบนี้ทั้งดุ้น
งานนี้สนุกครับ ................ อเมริกาเองก็ถึงขนาดยกเรือ OHP ให้เราฟรี และเสนอเรือรุ่นใหม่ล่าสุดให้เรา ถ้าเลือกจีน อเมริกาอาจมีงอน ถ้ารับ OHP โดยไม่รับดีลเรือฟรีเกต Hi-end จากจีน จีนอาจมีงอน ถ้ารับ OHP 2 ลำจากอเมริกา คงต้องรับดีลจากจีน...........
ดูท่าทางเกาหลีอาจมาแรงในทร. จริงๆในตอนนี้ 55555555 เข้าทางผม แต่การจัดหาคราวนี้ชักจะกลายเป็นเกมส์การเมืองระหว่างประเทศไปซะแล้ว
รอดูดีลจากสิงคโปร์อยู่ครับว่าเป็นไง KDX-2T ดูมาเต็งเลยนะนี่ ถ้าเรือเยอรมันสุดมือเอื้อม แต่จีนให้เงื่อนไขดีโคตรๆเลย
ถ้าตามใจรัฐบาล ทร.ก็ต้องกลืนน้ำลายเพราะไม่ชอบเรือจากจีน ของบอย่างอื่นในภายหน้า โดยเฉพาะเรือดำน้ำ อาจแป๊กอีกก็ได้ เอาไงดีครับ หรือว่าจะตั้งแง่กับรัฐบาลไปเลยว่า ถ้าให้ ทร. รับดีลจากจีน ก็ต่อรองไปเลยว่ารขอต่อในประเทศได้หรือเปล่า เพิ่มงบให้อีกสัก 5000 ล้านเพื่อให้สามารถต่อในประเทศได้ทั้ง 3 ลำ ของบเพิ่มสำหรับการพัฒนาอู่ราชนาวีให้สมบูรณ์แบบ และของบสำหรับการปรับปรุง OHP 2 ลำแบบเต็มที่ ถ้าจะให้พวกผมรับดีลจีน
พิมพ์ตกหล่นครับ ต้องบอกว่า
" ถ้าขัดใจรัฐบาล เมื่อทร.จะของบอย่างอื่นในภายหน้า โดยเฉพาะเรือดำน้ำ อาจแป๊กอีกก็ได้ "
แต่ถ้าต้องตามใจรัฐบาล ทร.ควรออกอาการอึดอัดใจ และ ทร.ควรต่อรองให้มีการต่อในประเทศทั้ง 3 ลำจริงๆ ถ้าไม่ชอบเรือจากจีนมากๆ และไม่ไว้ในงานต่อจากจีน และแบบเรือต้องให้ทร.พัฒนาแบบด้วยตามที่จีนเสนอ F-40T โดยใช้การอ้างอิงจาก F-25T
หาเรื่องของบพัฒนาอู่ราชนาวีเลยครับ อ้างดีลนี้ไปเลย และยังไงรัฐบาลซีกนี้ก็บ้าพลังอุตสาหกรรมอยู่ด้วย น่าจะไม่ปฎิเสธ
และน่าจะหาเรื่องของบปรับปรุง OHP 2 ลำให้มันกลายเป็นเรือที่เจ๋ง โดยอ้างเกมส์การเมืองระหว่างประเทศด้วย ยังไงรัฐบาลนี้ต้องรักษาน้ำใจอเมริกาด้วยเช่นกัน
ดูๆแล้ว น่าจะเป็นจีนแล้วล่ะครับ ถ้าข้อเสนอเป้นไปตามข้างบน ผมมองว่าเราได้ผมประโยชน์สูงสุดคุ้มค่าที่สุด 3ลำ+สเปค โหดพอตัวและอีกเยอะแยะ วินวินทั่งรัฐบาลและทร.
แบบเรือ Type 054-class Jiangkai
คือ เรือรุ่นนี้ ครับ
ตามรูปของ ท่าน คนไทยรักชาติ...คือ Type-054A Jiangkai II
มันคนละรุ่น คนละแบบ กันครับ...
ซึ่ง Type-054 เป็นแบบเรือที่ พัฒนา ต่อจาก Type-053H3 หรือ F-22P ของ ปากีสถาน ที่ จีน ให้ ไลเซนต์ การผลิตแก่ ปากีสถาน และ ถ่ายทอดเทคโนโลยี่...
ส่วน Type-054A ก็เป็นแบบเรือที่พัฒนาต่อจาก Type-054 อีกที...
คงรอความชัดเจน ครับ...ว่าเป็นแบบเรือไหนกันแน่ ครับ...
ซึ่ง เงื่อนไข ที่ จีน เสนอ...ทั้ง เกาหลีใต้ เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน และ เนเธอร์แลนด์ ก็ทำให้ในหลายประเทศครับ...แล้วแต่จะ ตกลง หรือ เป็นข้อกำหนดในการจัดหา ของแต่ละประเทศ ครับ...
งานนี้ ออกจีนแน่เลย ให้เต็ม จัดเต็ม ซะขนาดนี้ จะป๋าไปไหน ใจ ผมอยากได้ เยอรมัน ไม่ก็ฝรั่งเศสที่มัน สเตลเหลี่ยมเยอะๆ เซงเลย จีนจัดเต็มดึงไทยไปเป็นพวก ละมั้งงานนี้ คราวต่อไป กลัวซื้อเรือดำ น้ำ ไม่ก็ ฟรีเกตป้องกันทางอากาศอีก กลัวจะเป็นจีนอีกตามเคย ทหารไทยสงสัยจะแพ้ของแถม
ของฟรีไม่มีในโลกครับ มีเเต่ของเเถม หรือ เฮอะ เป็นเเพ็คเกต เฮอะของเเถม หรือว่าเเพ็คเกต
งืม น่าจะเเพ็คเกต กะมั้งเนี่ย... :) ว่ากันไป
4
5
Thailand is to negotiate a Chinese proposal of 3 Type 054A class frigates for the Royal Thai Navy, which has budgeted 30 billion Thai Baht or roughly $1 billion for 2 frigates.
The Thai government last year approved the purchase of 2 frigates after a previous attempt to purchase 6 used Type U-206 submarines from Germany was unsuccessful.
Instead of the 2 frigates budgeted, Thailand would receive 3 Type 054T frigates, build according to Thai specifications, and which could come with offsets for local component production and up to 6 Z-9C Anti-Submarine Warfare helicopters.
The Thai Navy already operates 4 Type 053 frigates, which were build by China for Thailand during the nineties and fitted with various western systems and weapons.
The Type 054A frigates are upgraded versions of the 2 earlier Type 054 frigates, which in the past have been reported to cost the Chinese Navy around $250 million each. So far, 16 Type 054A hulls have been either launched or commissioned with several more under contruction.
Each Combined Diesel And Diesel (CODAD) Type054A frigate has a length of 134 m, a beam of 16m, a maximum displacement of 4053 tons and is armed with:
The Type 054A ships have also been designed with reduction of their Radar Cross Section in mind.
http://www.janes.com/products/janes/defence-security-report.aspx?ID=1065975734
ดีลนี้มีโอกาสลงจีนสูงมากเพราะให้สะขนาดนี้ ใครๆก็ชอบ แต่คนในกองทัพจะชอบหรือป่าวก็คิดเอาเองละกัน อดีตที่ผ่านมา คือ ตัวเรือผุเร็วกว่าปกติ ต้องมานั่งทำระบบไฟใหม่หมด ต้องเอาอุปกรณ์ของจีนออกเกือบหมดและติดตั้งอุปกรณ์ของฝั่งยุโรปใหม่เกือบหมด ต้องเสียค่าปรับปรุงทีหลังเยอะมาก (ทำให้ ทร. เกลียดเรือจีน)
ผมว่าเป็นเรืองแปลก ทำไมอยากขายให้ไทยนัก ๓ ลำ option เพียบ 1000ล้าน us dollar ผมคิดว่าในระดับการซือขายเรือรบแบบนี้มันไม่ใช่เงินก้อนใหญ่ ถ้าได้ตามที่คาดทำใจเถอะครับดีกว่าไม่ได้อะไร ขออย่างเดียวต้องพูดภาษาเดียวกับgripenได้ครับขอเท่านี้พอ
ท่าน Ricebeanoil....
เนื้อข่าว กับ ลิงค์ ไม่ตรงกัน น่ะครับ...
จะเป็น ลิงค์อื่น หรือเปล่า ครับ...
China has offered Thailand its Type 054-class Jiangkai frigate to meet a requirement to procure multipurpose frigates for the Royal Thai Navy (RTN), thus potentially putting Beijing and Washington head to head in a large-scale international procurement programme.
Sources have confirmed to IHS Janes that preliminary discussions between Thailand and China have commenced over the potential deal, in which China has said it is prepared to sell to the RTN three Type 054-class vessels at a cost that will meet the programmes budget of USD1 billion.
While the RTN is said to favour a purchase of a US, European, or South Korean platform, the potential deal to procure from China is being led by the government, which views the Type 054-class as a cost-effective alternative to Western vessels. Additionally, logistical arrangements would favour China given that Thailand already operates a number of Chinese naval platforms.
Lockheed Martin of the US has already confirmed that it is considering offering its Littoral Combat Ship (LCS) as a solution.
A deal to procure the Type 054-class vessel would include technology transfer to enable maintenance, repair, and overhaul and to locally produce unspecified components under licence from Type 054-class designer and constructor Hudong-Zhonghua Shipbuilding.
ขอโทษครับคุณ judas ผมลืมตรวจสอบครับ
พอดีเอามาจากที่นี่นะครับ
http://defenseupdates.blogspot.com/2013/02/thailand-to-negotiate-purchase-of-3.html
แสดงว่าทางต้นทางอ้างผิด ผมไม่ได้ตรวจสอบซ้ำ ต้องขอโทษสมาชิกคนอื่นด้วยนะครับ
ขอบคุณคุณ judas ที่ช่วยตรวจสอบอีกทีนะครับ
มือใหม่สงสัยครับ คือไปอ่านสเปกของเรือ Type 054-class Jiangkai frigate ใน wiki พบว่าเรดาห์ที่ใช้คือ Type 363S (Thomson-CSF DRBV-15 Sea Tiger) 2D air/surface search radar, E/F band ต่ามไปอ่านต่อ ดูๆไปแล้วมันจะประมาณเรดาห์ยุค 1990 หรือเปล่า อย่างนี้มันจะไม่ด้อยกว่า เรือชั้นนเรศวรที่upgrade เรดาห์เป็น saab sea giraffe 3d แล้วอย่างนี้จะเป็นเรือฟริเกตสมรรถนะสูงได้อย่างไร
ถ้าจะเสนอมาแข่งในแบบเรือฟิเกตสมรรถนะสูงมันต้อง Type054A ที่ติดตั้งเรดาห์ตัวใหม่Type 382 Radar (Upgraded from Type 381 Radar "Sea Eagle S/C") 3D air/surface search radar + VLS SAM launcher แต่ก็อย่างที่หลายๆคนสงสัย จีนจะกล้าขายรุ่นนี้ที่เป็นเรือรบหลักออกมาหรือ เพราะมันมีเทคโนโลยี่หลายๆอย่างที่ชาติตะวันตกสงสัยในประสิทธิภาพ ถ้าไทยได้มาแล้วชาติตะวันตกมาแฮกหรือฝากไทยพิสูจน์ประสิทธิภาพให้ อย่างนี้จีนไม่จุกอกตายหรือ
แต่ถ้าจะขาย Type 054-class Jiangkai frigate จริงแต่ให้ไทยสามารถเอาระบบตะวันตกมาใส่ได้ แล้วจีนจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะอยู่ในงบ 30,000ล้าน
รุ่นของเรือจีน นี้มันช่วนสับสนจริง ต่างกันแค่มี A กับไม่มี แต่สเปกมันคนละเรื่องเลย สงสัยคงต้องรอสเปกจริงๆว่า Tpye054Tของไทย มันมาจาก 054 หรือ 054A
เรือชั้น type 054 มีเป้าประสงค์หลัก คือ การออกแบบเรือเพื่อลดการตรวจจับด้วยเรดาห์ ครับ...
โดยระบบอาวุธยังเป็นแบบเดียวกับเรือ Type 053H3 jiangwei II อยู่...
เรือชั้น Type 054 จึงผลิตออกมาเพียง 2 ลำ เท่านั้น....น่าจะเป็น ลำต้นแบบ...
หลังจากนั้น จึงออกมาเป็น เรือชั้น Type 054A ที่มีการติดตั้งระบบอาวุธ ระบบตรวจจับใหม่ ที่มีระยะไกล
และระบบอำนวยการรบ ที่ลอกแบบจาก ฝรั่งเศส และถึงเป็น กำลังรบหลัก ของ กองทัพเรือจีน มีกำหนดสร้างเข้าประจำการ จำนวน 20 ลำ...
ในความเห็นผม จึงให้ น้ำหนักว่า เรือที่ เสนอแบบให้ไทย น่าจะเป็น เรือชั้น 054 ที่มีการปรับแบบเรือ ให้มีลักษณะเด่น คือ การปราบเรือดำน้ำ....
ซึ่ง ผมก็คาดหมายว่า น่าจะปรับปรุงให้ เรือบรรทุก ฮ.ปด.Z-9 ไปได้ 2 ลำ...ตามแบบเรือ Type 054C...
ระบบอาวุธหลัก น่าจะยัง คงเหมือนกับเรือ Type 054...ซึ่งเรือชัึ้นนี้ จีนได้พิจารณา อาจจะให้ ปากีสถาน เช่า (ไม่ขาย)...
ซึ่งใน สเปค ดังกล่าว จำนวน 3 ลำ รวมกับ Z-9 จำนวน 6 ลำ...ก็ควรจะอยู่ในราคา 1.000 ล้านเหรียญ อยู่แล้ว...เหมือนเป็น ราคาปกติ...
ฮ.z-9EC คือ Z-9C ของจีน แต่ใช้ มาตรฐานการส่งออก จึงเติม E เข้าไปหน้าตัวอักษร C (ซึ่งคงเป็นรุ่น ลดเกรด ไม่เท่ากับของ จีน แน่นอน)...ลำละประมาณ 11 ล้านเหรียญ รวมจำนวน 6 ลำ เป็น 66 ล้านเหรียญ
ส่วนที่เหลือ คือ มูลค่าตัวเรือ 934 ล้านเหรียญ...ถ้าหัก จรวด C-802A อีกจำนวน 24 ลูก จำนวนลูกขั้นต่ำ ประมาณ 80 ล้านเหรียญ (โครงการของเรือชั้น กระบุรี ประมาณ 53 ล้านเหรียญ สำหรับจรวด 16 ลูก)...มูลค่าในส่วนเรือ จะเหลือ ประมาณ 854 ล้านเหรียญ หรือ ถัวเฉลี่ย ลำละ 285 ล้านเหรียญ...ซึ่ง ราคาสูงกว่า F-22P เล็กน้อย...ผมจึงมองว่า ในราคาดังกล่าว ไม่น่าจะมีระบบ VLS ติดมาด้วย...เพราะต้องคำนึงถึงมูลค่า ตัวลูกจรวดแนวดิ่งอีก อย่างน้อยสุด 24 ลูก (25% ของประสิทธิภาพตัวเรือ)...จากเรือ 3 ลำ...แต่ถ้าติดตั้ง HQ-7 ก็จะเป็น 100% ของประสิทธิภาพตัวเรือ ในจำนวน 24 ลูก จากเรือ 3 ลำ...
และเรื่อง Down grade ของเรือ ผมเชื่อว่า ม่ีแน่นอน ครับ...ขนาด ฮ. Z-9 ยังมีรุ่นส่งออก คือ EC ไม่ใช่ C ตัวเดียวแบบของจีนที่มีประจำการอยู่...
ส่วนในเรื่องที่ จีน อาจจะไม่อยากขายเฉพาะตัวเรือ แล้ว ไทย นำมาติดตั้งระบบอาวุธเอง ภายหลัง...
ผมมองว่า...จีน คงมอง ความยุ่งยากที่มากขึ้น และ ต้นทุนที่สุงขึ้น เพราะต้องออกแบบภายในใหม่ วางโครงสร้างใหม่รองรับระบบที่จะมาติดตั้งในไทย...การต้องเปลี่ยนขั้นตอนการผลิตใหม่...ซึ่งอาจจะประสบปัญหา กับ แรงงานมีฝีมือ ที่จะต้องมาใช้ในเรือที่ต้องรับจ้างต่อ...ซึ่งจะส่งผลกระทบกับ จีน เอง...สำหรับเรือที่กำลังสร้างเข้าประจำการอยู่....
ซึ่ง ถ้าสร้างตามแบบเดิมของจีน...มันจะง่ายกว่า เพราะมีขั้นตอนการผลิตที่มีอยู่แล้ว...และกำไรจากการต่อเรืออย่างเดียว อาจจะไม่มาก ซึ่งกำไร ที่จะมีอัตราส่วนมาก อาจจะเป็น ระบบอาวุธต่าง ๆ รวมถึงระบบอำนวยการรบ...ที่มันไม่มีอะไร เปรียบเทียบ ได้ ว่า ถูก หรือ แพง...แต่ การต่อเฉพาะตัวเรือ มันมีอัตราเปรียบเทียบอยู่...แถม เครื่องยนต์ คงต้องซื้อจาก เยอรมัน อีก...คือ จีนจะขายได้ เฉพาะแบบ กับ ตัวเรือ เท่านั้น และคงมีกำไร ในเฉพาะส่วนนี้ เท่านั้น..
เห็นคลอยตามที่ท่านJuldasวิเคราะห์ครับ ว่าจีนน่าจะเสนอรุ่น Type054(ไม่มีA) ให้เรา เพราะจะคุมงบได้อยู่ใน 30,000 ล้านบาทในจำนวน3ลำ
เพียงแต่ปรับแบบเล็กน้อยให้ตรงความต้องการของเรา ซึ่งดูไปแล้วไม่น่าสนใจเลย ถึงจะให้สิทธิเอามาสร้างในไทย ก็ยังไม่น่าสนใจอยู่ดี เพราะระบบอิเล็กโทรนิค ระบบอาวุธดูไปแล้วน่าจะด้อยกว่าเรือชั้นนเรศวรที่upgradeแล้วอยู่ค่อนข้างมาก
ถ้าจะให้กองทัพมีขนาดเล็ก ก็น่าจะให้ใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพสูงดีกว่า สรุปว่าเรือประสิทธิภาพสูง 2 ลำจากที่อื่น น่าจะดีกว่าเรือประสิทธิภาพกลางๆจาก3ลำจีนครับ
งานนี้จีนกับอเมริกาคงไม่ยอมกันง่ายๆแน่นอน เพราะสองประเทศนี้พยายามอย่างมากในการเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคแถบนี้ ถึงไทยจะไม่ได้มีเอี่ยวในหมู่เกาะเจ้าปัญหาก็เถอะนะ อยากให้ทางกองทัพเราพยายามออกแนวแข็งๆไว้ก่อนบอกไปเลยว่าปัญหาที่แล้วมาเวลาจัดหาจากทั้งจีนและอเมริกาเราเจอปัญหาอะไรบ้าง อย่างจีนก็บอกไปเลยคุณภาพต่ำเกรดตัวเรือเนี่ยบอบบางไม่ทนทะเลว่าง่ายๆโดนยิงทีคงต้องเตรียมสละเรือกันแหงๆ ส่วนระบบอาวุธ ระบบตรวจจับต่างๆความน่าเชื่อถือมันต่างกับทางประเทศตะวันตกยังไง จากปัญหาที่แล้วมาก็บอกทางจีนเขาไปเลย ถ้าเขาอยากขายให้เราจริงๆเราก็คอยดูว่าเขาจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงจะแก้ยังไง ส่วนอเมริกาทั้งหวงทั้งกั๊กข้ออ้างก็เยอะได้ไม่เต็ม เวลาจะอัพเกรดปรับปรุงก็ยุ่งยากหลายขั้นตอน กลัวปัญหาเทคโนโลยีรั่วไหล ชอบอ้างการช่วยเหลือทางด้านการทหารแต่ไม่ช่วยพัฒนาขนาดขอซื้อยังไม่ให้ ถ้าเราจะเอาของอเมริกาจะจัดการข้อกำหนดในลักษณะอย่างนี้ยังไงเผื่อไว้ด้วยล่ะ และไอ้สองประเทศนี้ชอบกดดันทางการเมืองจริงๆ ตอนนี้ทางกองทัพคงประเมิณในแต่ละดีลที่เสนอมาของแต่ละประเทศอยู่นะว่าอันไหนสอดคล้องกับความต้องการของเรา รวมทั้งราคาและผลตอบแทนต่างๆที่จะได้ นี่ล่ะนะเราทำเองไม่ได้การสนับสนุนก็ไม่เต็มที่ต้องซื้อตลอดงบก็ไม่ค่อยจะให้(ไม่ใช่ว่าไม่มีนะ)นี่แหล่ะคือปัญหาจริงๆของเราหล่ะ
ตอนนี้กระทู้นี้กำลังร้อน ทั้งความเห็นแนววิชาการ ความเห็นส่วนตัว เพื่อเป็นการผ่อนคลาย ผมเลยขออณุญาต นำเสนอเพลงเพราะๆ กับภาพสวยๆ แต่ภาพวสยๆนั้นเราเห็นอะใรกันบ้าง แต่ผมเห็น ปืนเรือ,ปืน HK G36,จรวด และเฮลิคอปเตอร์ super lynx นั้นไทยเรามีแล้ว แต่อยากให้เรือฟริเกต กับเรือดำน้ำใด้ติดธงราชนาวีบ้าง...
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/km72ubrgkXc?list=FLpzu6UXFInfbweTVqedGf5g" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
ขออภัยด้วยครับ ที่คลิปไม่ยอมมา ทั้งๆที่ทำตามหัวข้อ การลงคลิปจาก ยูทูปโดยละเอียดแล้ว เลยขอลงเป็นลิ้งค์แทน
พร้อมกันนี้ผมขอออกความเห็นเรื่องการจัดซื้อเรือ นอกจากจะตัดสินด้วยคุณภาพของสินค้าแล้ว ยังมีข้อปลีกย่อยและองค์ประกอบต่างๆอีกมาก เช่นการดูแลหลังการขาย สิ่งที่จะใด้จากการจัดหา เช่นการถ่านทอดเทคโนโลยี และทำสำคัญ ยังมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งผมหมายถึง ความสัมพันธ์ว่างประเทศ และด้านการค้าตอบแทนระหว่างประเทศ ขนาดสหรัฐทรี่เราทราบกันดีว่า ขนาดลูกค้ามีเงิน แต่หากเขาไม่ขายให้ ก็ใด้แต่มอง ยังเข้ามานำเสนอเรือรุ่นล่าสุด และนอกจากนี้ผมคิด(เอาเอง)ว่าหากทาง EU เขาจะเอาข้อต่อตอบแทนมาเป็นเงือนไขบ้างหล่ะ... กรณีนี้เคยเกิดนานมาแล้ว ที่การบินไทยซื้อเครื่องบิน แอร์บัส เพราะเงื่อข้าอาหารทะเลแช่แข็งเป็นต้น
ในมุมมองของป๋าจูล มองว่าจีนคงจะขายระบบอาวุธและระบบตรวจจับของจีนรัสเซียให้ทร.ไทยโดยอาจมีการปรับแก้แบบเพียงเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับภาระกิจต่อต้านเรือดำน้ำ ซึ่งจะทำให้ราคานั้นไม่สูงเกิน 30,000 ล้านบาท และอาจจะเสนอรุ่น type 054 ให้เรามากกว่า type 054A มาแทนเพราะเกรงว่าแผนแบบอาจจะตกถึงมือฝ่ายตะวันตก
ผมว่าถ้าจีนทำแบบนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการขายเรือเอากำไร ซึ่งราคา 30,000 ล้านบาท กับเรือสเปกนี้ จัดว่าแพง แม้ว่าจะแถมฮ.ใ้หอีก 6 ลำ ผมว่า ทร. ไม่โง่ขนาดนั้นหรอกครับที่จะรับดีลแบบนี้ และอีกอย่างระบบของจีนกับของที่เราใช้นั้นจะสร้างภาระให้ทร.ในการบำรุงรักษามากๆ เพราะแตกต่างกันมาก และระบบสื่อสารและถ่ายโอนข้อมูลก็แตกต่างกันมาก
ถ้าจีนเสนอแค่นี้ แห้วแน่นอนครับ เพราะถ้าแบบนี้ KDX-2 มาวินแน่นอน
และจากข้อความนี้ของเจ้าของกระทู้ไปเอาลงมาให้อ่าน
Type 054T frigate may be an improved version of the Type 054A frigate, possibly designated F40T, for which discussions have been held between Thailand and China.
เป็นข้อเสนอแรกตอนที่มีข่าวเรื่องนี้ เป็นการยืนยันว่าจีนคงจะใช้ดีลรูปแบบที่เคยประสบความสำเร็จในทร.ไทยมาแล้ว นั่นคือ F-25T หรือเรือชั้นนเรศวร ที่ตัวเรือจีน ร่วมกันแก้แบบกับไทย แล้วนำเรือมาติดตั้งระบบอาวุธและระบบตรวจจับจากตะวันตก แต่ข่าวนี้ยังไม่ได้บอกว่าจะถ่ายทอดเทคโนโลยีและให้สิทธิ์ในการต่อเรือเองแก่ไทย
และจากข้อความของท่าน Kookai01 ที่เอาข่าวมาลง
A deal to procure the Type 054-class vessel would include technology transfer to enable maintenance, repair, and overhaul and to locally produce unspecified components under licence from Type 054-class designer and constructor Hudong-Zhonghua Shipbuilding.
จีนเองก็เสนอเพิ่มเติมที่จะถ่ายทอกเทคโนโลยีและให้สิทธิ์การต่อเรือตามแบบที่แก้ F-40T นี้ในประเทศด้วย โดยอยู่ภายใต้ไลเซ่น type 054 class
ดังนั้นจากข่าวต่างประเทศทั้งสองส่วนนี้ ผมเชื่อว่า จีนจะเสนอให้เราร่วมทำการพัฒนาแบบให้ตรงกับความต้องการของเราเอง โดยใช้แนวคิดเรือชั้นนเรศวร F-25T ในโครงการนี้จะใช้ชื่อว่า F-40T และเมื่อทำการพัฒนาแบบเสร็จแล้ว ก็อนุญาติให้นำแบบมาทำการต่อเองในประเทศไทย ส่วนระบบอาวุธระบบตรวจจับและระบบอำนวยการรบก็คงจะเป็นของตะวันตกตามแบบที่ไทยต้องการเช่นเดิมครับ
นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของผม ที่ได้จากการวิเคราะห์ตัวเนื้อข่าวที่เพื่อนๆนำมาลงให้อ่านครับ
ถ้าดีลเป็นแบบที่ผมวิเคราะห์ข่าวที่เพื่อนๆนำลงมาให้อ่าน จึงจะสร้างความสนใจและดึงดูดใจทร.ไทยได้ ยังไงก็ชนะใจรัฐบาลไปแล้วล่ะ ถือว่าชนะมาครึ่งทางแล้ว ถ้าเสนอแบบนี้ ทร.ไทยมีข้อขัดข้องใจอย่างมากในเรื่องผลงานการต่อเรือจากจีน ซึ่งที่ผ่านมา "แย่" ดังนั้นถ้าเสนอแบบนี้ เมื่อแก้แบบแล้ว ทร.นำแบบมาต่อเองในประเทศไทยเท่ากับว่าทร.ไทยจะสบายใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถควบคุมการผลิตเองได้ทุกขั้นตอน
จะเหลือปัญหาให้คิดอีกแค่ 2 ข้อ คือ
1. ถ้ามีการปรับแบบแล้วนำมาต่อในประเทศไทย เงิน 30,000 ล้านมันจะพอหรือ
จากการประเมินราคาที่ผ่านมาข้างต้นของผม ถ้าทร.ติดตั้ง VLS mk-41 16 cell แก่ขุดนี้ เพื่อติดตั้งทั้ง ASROC และ ESSM ส่วระบบอื่นๆก็ตามข้างบนที่พูดไป ราคาระบบอาวุธ ระบบตรวจจับและระบบอำนวยการรบ จะตกราวๆ 7,600 ล้านบาทต่อลำทีเดียว ถ้าต้องต่อ 3 ลำ โดยระบบอาวุธเป็นของตะวันตกทั้งหมด จะจ้องใช้เงินในส่วนระบบอาวุธ ระบบตรวจจับและระบบอำนวยการรบถึง เกือบ 23,000 ล้านบาททีเดียว จะเหลือเงินสำหรับการต่อเรือเปล่าไม่มาก แค่ประมาณ 7,000 ล้านบาทเท่านั้น
ทางแก้ก็คือ ทร. ยังไม่จัดซื้อจรวด ESSM มาติดตั้งก่อนในเวลานี้ แต่ระบบอื่นอาจจะนำมาติดตั้งจนครบ ซึ่งจะประหยัดเงินไปได้อีก 1000 ล้านบาทต่อเรือ 1 ลำ ( ESSM 32 ลูก ราคาประมาณ 1000 ล้านบาท)
ถ้าแบบนี้ ค่าระบบอาวุธระบบตรวจจับและระบบอำนวยการรบจะลดลงมาที่ 20,000 ล้านบาทได้ครับ
จะมีเงินสำหรับการต่อเรือเป็น 10,000 ล้านบาท
ถ้าค่าการต่อเรือในประเทศ ดูจากเรือกระบี่ ประมาณ 900,000 บาทต่อตัน 4,000 ตัน ก็ตกประมาณ 3600 ล้านบาท 3 ลำก็ประมาณ 10,800 ล้านบาทเท่านั้น แต่ถ้าตกตันละ 1 ล้านบาท ก็จะมีราคาประมาณ 12,000 ล้านบาท
ซึ่งแบบนี้จะเกินงบไปไม่มากครับ ทร.อาจจะทำการต่อรองกับรัฐบาลได้ในเรื่องนี้
2. ปัญหาเรื่องความพร้อมของอู่ที่จะรับงานต่อ
ต้องยอมรับว่านี่เป็นปัญหาใหญ่กว่าเรื่องเงิน เพราะสภาพปั๗จุบันของอู่ราชนาวีที่จัดว่าพร้อมที่สุด อยู่ในสภาพงานล้นมือ ส่วนอู่เอกชนนั้น ทราบมาแค่ว่าอู่อิตัลำทยบอกว่าตนเองพร้อมสำหรับการต่อเรือฟรีเกตได้ถึงขนาด 4000 ตัน แต่ไม่ได้บอกว่าต่อเรือด้วยระบบแบบเก่าหรือแบบใหม่ อู่ยูนิไทยเองผมก็ไม่ทราบเช่นกัน รู้มาแค่ว่าทางอู่คุยว่าสามารถต่อเรือขนาดเกิน 10,000 ตันได้ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าต่อด้วยเทคนิคเก่าหรือเทคนิคใหม่ที่ต่อเป็นบล็อคๆ
ผมถึงเสนอทร. ว่า ถ้าทร.จะต้องจำใจรับดีลนี้ ก็ควรอย่างยิ่งที่จะใช้การรับดีลนี้ให้เป็นประโยชน์แก่ทร.เอง ด้วยการเสนอรัฐบาไปเลยว่า ให้ทำโครงการเรือ F-40T นี่ไปเป็นโปรเจคทางอุตสาหกรรมต่อเรือไปเลย เพื่อโชว์เพาเวอร์และขีดความสามารถของประเทศ แบบที่เกาหลีต่อเรือชุด KDX-1 โดยทร.ต้องเสนอรัฐบาลให้รัฐบาลทำการลงทุนในอู่เฟส 2 และอาจจะเพิ่มโรงต่อและสลิปเวย์ด้วยนอกจากอู่แห้งหมายเลข 2 แต่ไอ้ที่แก้ได้โดยใช้เวลาไม่มากนั้นคือ เปลี่ยนเครนจาก 75 ตันให้ใหญ่ขึ้นเป็น 200 - 300 ตัน เพื่อให้อู่หมายเลขหนึ่งสามารถทำงานได้เร็วขึ้น
ถ้าทร. เสนอแนวๆแบบนี้ รัฐบาลน่าจะไม่ขัดข้อง เพราะรัฐบาลนี้บ้าแนวคิดพลังทางอุตสาหกรรมแบบจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อยูแล้วครับ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้แก่อุตสาหกรรมต่อเรือไทยให้อยู่ในระดับแนวหน้าของอาเซี่ยน
ส่วนจะจัดสรรอย่างไรในการต่อลำแรก เพราะอู่ราชนาวีนั้นต่อให้ได้งบในการขยายอู่ ก็ต้องใช้เวลาในการก่อสร้างอยู่ดี อันนี้ก็ต้องขึ้นกับทร. แล้วครับ เพราะรู้ข้อมูลของอู่ภายในประเทศทุกอู่เป็นอย่างดีทีเดียว
ต้องทำแบบนี้ครับจึงจะตอบประชาชนได้ว่าทำไมถึงไปรับดีลจากจีน และทร.จึงจะสบายใจได้ว่าเรือทุกลำได้คุณภาพ เพราะสร้างมากับมือ
ผมว่าเรื่องเงินไม่หนักเท่าข้อที่ 2 นี้ล่ะครับ
ส่วนจีนจะได้ประโยชน์อะไรเล่าถ้าเสนอแบบนี้ เพราะได้อย่างเก่งก็ค่าแบบเรือ เผลอๆผู้ใหญ่ฝ่ายจีนอาจจะให้แบบเรือเราฟรีอีกด้วยซ้ำ สรุปไม่ได้เงินจากเราแม้แต่บาทเดียว จะทำไปทำไม
ผมว่าจีนได้ประโยชน์เต็มๆ 2 ข้อครับ และผลประโยชน์ 2 ข้อนี้มันมากมายกว่าราคาเรือ 30,000 ล้านแบบนับค่ากันไม่ได้
1. เสนอขนาดนี้เป็นการซื้อน้ำใจครับ ต้องยอมรับความจริงในแง่การเมืองว่า " จีนมีบุญคุณกับรัฐบาลชุดนี้เป็นอย่างมาก มากกว่าอเมริกาเยอะ" ซึ่งถ้าจีนเสนอผลประโยชน์ทางความมั่นคงและอุตสาหกรรมแบบนี้แก่ฝ่ายเรา ถ้าฝ่ายเรารับ จะเป็นการบอกทุกชาติทั่วโลกไปในตัวว่าความสัมพันธ์ ไทย-จีน แนบแน่นขนาดไหน ถือแม้เรือจะต่อในประเทศไทย ระบบอาวุธตะวันตก แต่ยังไงก็แบบเรือของจีนที่อนุเคราะห์ให้แก่เรา สภาพชิงอำนาจกับอเมริกาแบบนี้ ฝ่ายตะวันตกจะเต้นพอควร
นอกจากนี้ทำให้ไทยลดการพึ่งพาตะวันตกลงไปเรื่อยๆ
DTI-1 G ร่วมมือออกแบบกับจีน MLRs จากอเมริกาและยุโรปเจาะตลาดไม่เข้า
เรือฟรีเกตต่อในไทย LCS MEKO และแบบอื่นๆจากยุโรปก็หมดสิทธิ์สำหรับทร.ไทย เพราะถ้าจะสร้างเรือใหม่ ทางเราก็พร้อมที่จะทำเอง ด้วยแบบเรือจากจีน
จีนทำแบบนี้ เพื่อให้เราลดการพึ่งพาตะวันตกน้อยลงๆๆๆ และเพิ่มระยะห่างมากขึ้นๆๆๆๆ และจะส่งผลต่อผลประโยชน์และอำนาจของจีนที่มีต่อภูมิภาคนี้
ต้องอยมรับข้อหนึ่งว่า ในภูมิภาคนี้ เราสำคัญติดอันดับแรกเหนือสิงคโปร์ ดูจากการทีผู้นำทั้งจีนและอเมริกามาเยือนเราก่อนชาติอื่นๆด้วยเวลาเกือบพร้อมกันครับ
หรือแม้แต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยังโจมตีเราเกือบจะพร้อมๆสิงคโปรืเลยทีเดียว
ท่าน neosiamese2 ครับ ผมก็ยังมีข้อสงสัยในข้อ1 อยู่ดีครับ
"1. ถ้ามีการปรับแบบแล้วนำมาต่อในประเทศไทย เงิน 30,000 ล้านมันจะพอหรือ "
ถ้าเราทั้งปรับแบบ ทั้งต่อในเมืองไทย ทั้งไปเอาอาวุธจากฝากยุโรปมาใช้ แล้วจีนจะได้อะไรจากดีลนี้ครับ ถ้าผมเป็นจีนแล้วมาเจอต่อรองแบบนี้ ผมว่าอยู่เฉยๆจะดีกว่าอีก
จะมีข้อดีข้อเดียวที่จีนจะได้ในกรณีนี้ ถ้าการปรับแบบจากประเทศไทย ทำให้เรือนี้ดูโปรมากขึ้น ดูเป็นมาตราฐานตะวันตกมากขึ้น แล้วจีนเอาแบบใหม่นี้ไปเสนอขายชาติอื่นได้หรือเอาไปปรับปรุงเรือจีนรุ่นใหม่
ส่วนข้อที่ 2
สมาชิกใหม่บางท่านอาจจะไม่ทราบ จีนกำลังออกแบบเรือ type 054C ออกมาด้วย โดยเน้นภาระกิจต่อต้านเรือดำน้ำเป็นหลัก เสียดายไม่ได้ save แบบเรือเอาไว้ จะมีการติดตั้ง VLS เพิ่มเติมสำหรับระบบ ASROC เวอร์ชั่นจีน และมีการเพิ่มขีดความสามารถในด้านการต่อต้านเรือดำน้ำแก่เรือชั้นนี้ ดูแล้วเหมือนเอาแนวคิดของเรือชั้น OHP มาใช้กับเรือชั้นนี้ครับ เป็นเรือฉากให้กองเรือบรรทุกบ.และทำภาระกิจต่อต้านเรือดำน้ำ
แล้วแบบเรือ F-40T ที่จีนพยายามเสนอให้เราเข้ามามีส่วนในการแก้แบบหล่ะครับ ภาระกิจอะไร
ASW หรือ ภาระกิจต่อต้านเรือดำน้ำ
สำหรับจีน จะถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาในเรื่องการแผนแบบเรือสงครามต่อต้านเรือดำน้ำในแบบตะวันตก โดยเราเป็นฝ่ายแก้ไขแบบให้มาอยู่ในแบบตะวันตกให้ได้
ยังไง จีนก็สนใจจะสร้างเวรอ์ชั่น ASW อยู่แล้วนี่ครับ ขอดูแนวคิดจากไทยที่มีความใกล้ชิดกับอเมริกาหน่อยแล้วกัน ว่า ASW แบบตะวนัตกมันมีแผนแบบออกแนวๆไหน
ดีลนี้ผมรับรองว่ามันกำลังจะกลายเป็นดีลเพื่อหวังผลทางการเมืองระหว่างประเทศไปแล้ว ถึงฝ่ายทร.ไทยและรัฐบาลไทยไม่คิด แต่อเมริกากับจีน คิดแน่ครับ
ดีลนี้ผมจะสนับสนุนก็ต่อเมื่อต้องได้ตามที่บอกครับ เพราะผลประโยชน์จะตกแก่ประเทศไทยและทร.เองโดยตรงถ้าสามารถต่อรองกับรัฐฐาลได้ตามที่บอก
การพัฒนาอู่ราชนาวีให้มีขีดความสามารถระดับอู่ต่อเรือสิงคโปรืและเวียตนามนั้น สำคัญกว่าเรือประสิทธิภาพสูงเพียง 2-3 ลำ เพราะส่งผลต่อขีดความสามารถในอุตสาหกรรมต่อเรือของเราแบบก้าวกระโดด
ผมไม่ได้สนใจที่ตัวเรือครับ ....... สิ่งที่ผมสนใจคือ ดีลนี้ ถ้ามีการต่อรองพูดคุยกันดีๆแล้วและใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะส่งผลต่อขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมเป็นอย่างมากครับ ซึ่งสำคัญกว่าเรือเยอะ.......
งบน่าจะเกิน 30,000 ล้านบาทครับ น่าจะอยู่ราวๆ 32,000 - 33,000 ล้านบาทครับ ถ้ารับมาต่อในประเทศทั้งหมด ราคาจะสูงกว่าต่อในจีนประมาณ 10% - 15% ครับ
ผมเหตุผลที่จีนได้ผลประโยชน์ยัง ได้ตอบไปแล้วครับ 2 ข้อ คงเผอิญส่งข้อความไปเกือบๆพร้อมันน่ะครับ
ขอโทษครับท่าน neosiamese2 ที่ได้ถามไปว่า แล้วจีนจะได้อะไร
พอดีไม่ได้ดูเวลา เลยไม่นึกว่าท่าน neosiamese2 กำลังโพสต่อเนื่องอยู่ ตอนที่ผมถามไปท่าน neosiamese2 ก็กำลังพิมพ์ต่อเนื่องซึ่งเป็นคำตอบที่ผมถามอยู่พอดี เหมือนจะดักทาง เดาคำถามได้ถูก
ขอบคุณครับ ที่มาแบ่งปันแนวคิด
ผมอยากให้เราช่วยกันหาทางนำกระทู้นี้ส่งให้ผู้ใหญ่ในกองทัพเรือและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมช่วยอ่านและเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาจริงๆเลยครับ
อยากทราบว่านอกจากดีลของจีนและดีลของอเมริกา ดีลจากเกาหลี สิงคโปร์ เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน มีออกมาหรือยังครับลองอ่านวนไปวนมายังไม่เห็น หรือผมไม่เห็นเอง นะ
ผมว่า จีนก็ยังพยายามออกข่าวมาเลื่อยๆให้พวกเราปวดหัวนะครับ เพราะเจ้าแบบเรือลำนั้น มันมีการดาวเกรด100% เพราะเราไม่ใช่เกาหลีเหนือ กลัวความลับของตนเองจะรั่วไหล ในใจก็อยากได้Meko อยู่ตลอดแหละครับ แต่งานนี้ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้าอู่เอกชนในประเทศเรา ในจะมาอาสาต่อแบบเรือMekoหรือไม่ ถ้าได้งานนี้ละก็อนาคตของกองทัพเรือจะสดไสขึ้นมาทันทีนะครับ หรือในแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนี้ยแหละครับ เพราะถ้าต่อที่แถวฝั่งยุโรปค่าแรงแพงเวอร์ ส่วนตอนนี้ให้ผมเดา ก็อาจจะมีอีกหลายบริษัทยักใหญ่ในการต่อเรือ กำลังจะวางแผนที่เสนอกองทัพเรืออยู่แหละครับ ข่าวมันก็จะออกมาอาทิตย์ละ1บริษัทก็ยังจะได้ แต่พอใกล้วันใกล้ตัดสินก็อาจจะมีม้ามืดมาก็นะครับ ผมว่า
ขอเสริมครับ หากรับดีลจากจีน ให้ขอแบบ ฮ.Z-9 มาด้วยเลย ในอนาคตไทยเราจะทําได้ทั้ง เรือฟริเกต และเฮลิคอปเตอร์ เป็นของตัวเองครับ
จากข่าวที่ท่าน Ricebeanoil แป๊ะให้อ่านจาก Jane
The Type 054A frigates are upgraded versions of the 2 earlier Type 054 frigates, which in the past have been reported to cost the Chinese Navy around $250 million each. So far, 16 Type 054A hulls have been either launched or commissioned with several more under contruction.
เป็นราคาเรือชั้น " type 054A" คือ 250 ล้านเหรียญสหรัฐนะครับ แสดงว่างบ 1000 ล้านเหรียญต้องได้เรือชั้นนี้ถึง 4 ลำ! จึงจะเรียกได้ว่าคุ้มค่าเงิน จัดหามาในราคาไม่แพง
ดังนั้น " type 054" 3 ลำ + Z-9ec อีก 6 เครื่อง จัดว่าแพงมากครับ เพราะเรือสเปกต่ำกว่าซะอีก
ถ้าจีนเสนอแบบนี้ รับรองว่าไม่ชนะในศึกการจัดหาเรือของไทยคราวนี้หรอกครับ เพราะว่า "แพงมาก" สู้ไปต่อ FFX ขนาด 3000 ตันยังจะดีซะกว่า
สำหรับผม ทำใจแต่แรกแล้วว่าอาจจะไม่ได้ MEKO เพราะคราวจัดหาเมื่อ 6-7 ปีก่อน ราคา MEKO-A200 AEGIS + SPY-1K ก็ปาไปลำละ 18,000 ล้านบาทแล้ว หรือ 36,000 ล้านบาทสำหรับทั้งโครงการ
นี่ก็ผ่านมานาน 6-7 ปีแล้ว ราคาย่อมไม่ใช่ราคานี้แน่นอนครับ น่าจะเกิน 20,000 ล้านขึ้นไปแล้ว ดูจาก F-124 ถ้าลดขนาดระวางเรือลงมา น่าจะถึง 22,000 -24,000 ล้านบาทต่อลำสำหรับเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ
ส่วนถ้าเป็นเรือฟรีเกตต่อต้านเรือดำน้ำสเปกต่ำกว่า ราคาน่าจะถูกกว่านี้ แต่ 15,000 ล้านบาทอาจจะน้อยไปซะแล้วครับ ควรจะต้องประมาณ 16,000-17,000 ล้านบาทต่อลำขึ้นไปซะแล้ว
ผมรอว่าเกาหลีจะเสนอตัว KDX-2 ปรับแบบมาให้เป็นตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นมาจาก DW-3000H ของแดวู และดูข้อเสนอที่เกาหลีจัดมาสำหรับเรือ 2 ลำ มีการเสนอให้ทำการแก้แบบร่วมกัน ให้สิทธิ์การต่อแก่ไทย หรือว่าเสนอขาย K-VLS พร้อม K-ASROC ในราคามิตรภาพหรือไม่ เพื่อแข่งขันกับจีนที่กำลังมาแรงแซงโค้ง
และรอว่า สิงคโปร์จะเสนอแบบอะไรให้เรา แต่ก็เดากันได้ว่าน่าจะเป็น Formidable และเงื่อนไขในเรื่องแบบเรือ และสิทธิ์ในการต่อที่จีนเสนอแข่งด้วย ยังไง จำนวนเรือ ต้องบอกว่า 350 ล้านเหรียญ สำหรับสเปกขนาด formidable ในภาระกิจป้องกันภัยทางอากาศนี่น่าสนใจมากๆเลยครับ
ส่วน Z-9 EC ผมว่ายังไงเราก็ต้องจัดหาอย่างน้อย 2 ลำ สำหรับเรือกระบุรี 2 ลำ
แต่จะจัดหามาอีก 2 ลำสหรับเรือชั้นปัตตานี นั้นไม่รู้ครับ เพราะทร.ดูพอใจจะใช้งาน Lynx 300 กับมัน แต่ถ้าทร. ต้องรับดีลจีนในการจัดหาเรือ F-40T 3 ลำ ทร.ก็ต้องจัดหา ฮ. ประจำเรือ ถ้าเรือฟรีเกตต่อใหม่ F-40T ใช้ระบบตะวันตกทั้งหมดแบบที่ F-25T ใช้อยู่ ฮ.ประจำเรือก็น่าจะต้องเป็น Lynx 300 เช่นเดิมครับ 6 เครื่อง ต้องเป็นเงินกว่า 6,000 ล้านบาท
เอาไงดีครับ ค่าฮ. ไม่ถูกเลย มีทางเลือก คือ เอา Lynx 300 บนเรือชั้นปัตตานีไปใช้งาน 2 เครื่อง ซื้อใหม่ 4 เครื่อง แล้วรับ Z-9 ไปใช้ในเรือชั้นปัตตานี จะได้ประหยัดงบลงไปอีกหน่อย
เรือจีนก็เหมาะสมกับ ฮ. จีนดีนะครับ
ส่วนโครงสร้างทางอุตสาหกรรมอากาศยาน คงต้องดูความคืบหน้าในโครงการนิคมอุตสาหกรรมอากาศยานที่โคราชว่าดำเนินคืบหน้าดีหรือเปล่า และโครงการที่จะดึงญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนผลิตอากาศยานในไทย ยังได้รับการสานต่ออีกหรือไม่ แต่ผมก็ยังไม่ได้ข่าวว่าญี่ปุ่นตอบรับข้อเสนอของเวียตนามนะครับ ก็แค่ "ให้ความสนใจ" เท่านั้น แสดงว่าญี่ปุ่นยังพึงใจในประเทศไทยมากกว่า
ถ้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมอากาศยาน และการลงทุนผลิตเครื่องบินในไทยของญี่ปุ่นทำการก่อตั้งเมื่อไหร่ นั่นละครับ อุตสาหกรรมอากาศยานทหารที่จะต้องผลิตเอง น่าจะคาดหวังได้สูง แต่ตอนนี้ "ยังก่อน" ได้แต่ฝันครับ
โห type 054 series มีการพัฒนาเร็วมากจนตามไม่ทันจริงๆ ไม่ได้ติดตามแค่ 4-5 ปี มีการพัฒนาแตกรุ่นอีกเพียบเลย ทั้ง B C D ในหลากหลายภาระกิจมากๆครับ ปวดหัว
2008-02-02
525 526 054-type Jiang Kai-class frigates have been in service for several years, ship equipment HHQ7 missile frigate generation Jiangwei standard equipment, the missile appeared in HHQ16 indeed slightly less than after the performance. Although alterations requires a lot of money and manpower, but in order to ensure the safety of personnel on ships, this work is absolutely necessary.
529 530 568 569 570 571 054A type Jiang Kai-class frigate in early 2008, entered active duty, equipped with a total of six. 32 units HHQ16 missile silos and four vertical mask M before the fire control radar, to 054A with strong multi-target attack capability, the fire control radar reportedly adopted a new phased array radar antenna, the performance level and 052B on more modern equipment to a certain extent by the improvement in appearance is also slightly different.
572 573 574 054B type Jiang Kai-class frigate entered service in 2009, hull structure, the same basic and A-type, improved power system, using a combined diesel and gas power systems, with two plus two 12,000 horsepower gas turbine 8000 horsepower diesel engine as the driving force, the maximum power of 40,000 horsepower. The use of gas turbines and new hovercraft on the host is the same model, engine size than the original equipment smaller, and more horsepower, faster reaction, and the only drawback is 054B needed carry two different host fuel. To enhance long-range anti-ship capabilities, the original equipment from the YJ62 YJ83 missiles instead of long-range anti-ship missiles, long-range anti-ship missile destroyers to supplement the insufficient number of issues, 054B on the ship-borne helicopters and fire control radar are fully capable of providing long-range goals for the YJ62 data.
531 532 533 534 054C type Jiang Kai-class frigate commissioned in 2010, 054 series anti-submarine frigate As the major surface warships offshore, its potential attack is still inadequate, so in order to B-C-based strengthen the ability of anti-ship attack submarine, equipped with a 16-cell vertical launch missile system Club series. As equipment weight increases, C-type hull longer than the B type 2 meters installed in the hangar after the Club missile system, capable of firing up to 300 km range anti-ship missiles with a range of 50 km of the anti-submarine missiles, if necessary under the bridge before the missiles are still equipped with 8 YJ83 space. that the development of equipment to meet the hostile , which piece together to strengthen their own warships, weapons and equipment could lead to the density of ships too large, but shes fighting is still very substantial.
575 576 577 578 054D type Jiang Kai-class frigate commissioned in 2012. With the rising cost of large destroyers, frigates, the European Community has requested a new model equipped with the active phased array radar and regional air defense missiles to air defense capability to reduce the dependence on destroyers. 054D model is the first area air defense capability has frigate, ship equipment, phased array radar is 052C destroyers of phased array radar developed from every form of radar equipment used back to back two Department of Antenna Array, the search range of 120 degrees, the radar front hood protection with 30 r / min speed of operation. The radar a few years ago in a Y-8 on the test device, each equipped with a radar on both sides of the fuselage front, in the tail position is equipped with another smaller, front, forming a 360-degree search, the type of aircraft appeared rarely, and only a few pictures on the network, but national leaders have a certain inspected the aircraft. matching is HHQ9M missile, using 8-mounted launcher, the launch of a square box, 054D on 3 sets of 24 units were equipped with the launch units. in the hangar after the location of the missile can be equipped with eight YJ62 or 16 units of the Club missile, ships air defense capabilities have greatly improved, large area air defense missiles, radar and accounted for most of the space ship so expensive system equipment in the frigate aiming a little overkill.
เครดิตเวป
http://rewreward.blogspot.com/2010/09/pride-of-chinese-people-054-type.html
ดังนั้น จากข้อความที่ท่าน Ricebeanoil นำมาแป๊ะ ซึ่งมาจาก Jane ที่มีความน่าเชื่อถือข้อมูลสูง เป็นการยืนยันว่า
Type 054A ราคาลำละ 250 ล้านเหรียญเท่านั้น 1000 ล้านเหรียญ ต้องได้ 4 ลำ...!
ถ้าจีนเสนอ type 054 เฉยๆ 3 ลำ พร้อม Z-9 EC 6 เครื่อง เท่ากับว่าจีนขุดหลุมฝังตัวเองแน่นอน แพ้ชัวร์ เพราะ ทร. สามารถนำเอาข้อมูลราคาเรือไปบอกรัฐบาลได้ "คุณน่ะ ... โดนแหกเนตรแล้ว" เพราะสเปกสูงกว่านี้ ต่อตามมาตรฐานทร.จีน ไม่มีดาวน์เกรด ยังได้ 4 ลำเลย ชาวบ้านธรรมดามันยังรู้เลย
ดังนั้นผมจึงไม่เชื่อว่าจีนจะเสนอข้อเสนอที่ไม่มีทางชนะแบบนี้แน่นอน......... ต้องเป็นข้อเสนอตามที่ผมคาดการณ์ นั่นคือ ใช้โมเดล F-25T ที่แบบเรือร่วมกันแก้ไขในเวอร์ชั่นไทย อาวุธและระบบตรวจจับตะวันตก แถมต่อในไทยภายใต้ลิขสิทธิ์ type 045 จากจีน
จากนี้ เรือ type 054T ผมจะขอเรียกชื่อรหัสการพัฒนาว่า F-40T ที่จีนเสนอมาเอง เพื่อให้แตกต่างจาก type 054 หรือ type 054A หรือ type 054T เพื่อแสดงว่า F-40T จะเป็นแบบเรือจีนที่โมดิฟายด์โดยทร.ไทย และใช้ระบบอาวุธตะวันตกนะครับ
เอ้ามาดูกันต่อใน Type 054 C ที่เป็นเวอร์ชั่น ASW สำหรับจีน
จากรูปนี้ ไล่จากล่างขึ้นบนนะครับ
ล่างสุด type 054 เฉยๆ หมายเลข 525
ขึ้นมาเป็นลำที่สอง Type 054A (หมายเลข 530) ตัวที่เสนอแบบให้เรามาลองโมดิฟายด์
ลำที่สามจากล่าง Type 054B (572) ทุกอย่างเหมือน A แต่ระบบพลังงานและรายละเอียดภายในมีการแก้ไขเล็กน้อย
ลำที่ 4 Type 054C (532) สำหรับภาระกิจ ASW
ลำบนสุด Type 054 D ( 575 และ 578) สำหรับ area airdefence หรือ ภาระกิจป้องกันภัยทางอากาศ
สำหรับเราต้องมาดู Type 054C จากแบบจะเห็นว่ามีการเพิ่มความยาวขึ้นอีก 2 เมตร เพื่อทำการติดตั้ง VLS 16 cell สำหรับ CLUB ทั้งภาระกิจต่อตีเรือระยะ 300 กิโล และ ภาระกิจต่อต้านเรือดำน้ำ ASROC รัสเซีย ระยะยิง 50 กิโล
แต่เท่าที่รู้ จีนออกแบบ ASROC เองอยู่ ดังนั้นน่าจะเป็น ASROC เวอร์ชั่นจีน และย้าย Yj-83 มาวางที่ดาดฟ้าด้านหน้าแทน
สำหรับ F-40T นั้น เนื่องจากจะต้องติดตั้งระบบอาวุธตะวันตก ดังนั้น แค่ดาดฟ้าเรือด้านหน้าที่ติดตั้ง VLS 32 cell ของจีน เราจะติดตั้งแค่ VLS mk-41 16 cell เท่านั้น ก็จะได้ระบบอาวุธหลักเท่ากันกับ Type 054C แล้ว เพราะ ESSM 32 ลูกของอเมริกานั้นใช้พื้นที่น้อยกว่ามาก แค่ 8 cell ของ MK-41 ก็สามารถติดตั้งได้แล้ว และอีก 8 cell ที่เหลือก็ติดตั้ง ASROC ไป ดังนั้นพื้นที่ดาดาฟ้าด้านจึงเหลือพื้นที่ติดตั้งได้อีก 16 cell สามารถทำดาดฟ้ายกเพื่อติดตั้งระบบ CIWs ตรงนี้ได้ 1 ระบบ ทำเลดี
โธ่เอ้ยยย.......พิมพ์ไปตั้งเยอะ พอส่ง หายหมด ..........................
ข้อความที่เขียนแล้วส่งไปหายหมด เป็นการเปรียบเทียบระหว่างการติดตั้งระบบตรวจจับและอาวูะของตะวันตกใน F-40T กับ Type 054C น่าจะกินพื้นที่และน้ำหนัก ต่างกันขนาดไหนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเท่ากัน พิมพ์อธิบายตั้งนาน หายหมด
ไว้ไปเขียนใหม่ใน word แล้วมาต่อกันวันอื่นครับ
ลืมรูปอีกต่างหาก
รูปภาพ Type 054C
ขอโทษ ลืมลดขนาดภาพ ครับ
คิดเล่นๆนะครับ แล้วถ้าเราซื้อไม่ต้องให้เหมือนกันทั้ง2ลำ เช่น จากจีน 1 ลำ อเมริกา 1 ลำ จะได้เปล่าครับ
Type 054C สวยมากถ้าเป็น Type 054C ผมว่าหน้าสน กว่า รุ่นธรรมดาที่ขายให้ไทยอีก ตัวเรือดู สเตล กว่าเยอะเลย หน้าจะขายรุ่นนี้ให้เนอะ2ลำก็ได้ ปรับเปลี่ยนนิดหน่อย เรด้า ไอแมท500 ก็ได้55+
ผมว่า ท่าน neosiamese2
ลองกด ที่ไป ลิงค์ ของ Jane....ดูก่อนครับ...
หรือ อ่านในคอมเม้นท์ ผมก็ได้ครับ...
ว่า ไม่มี ส่วนไหน บอกว่า เป็น Type 054A เลยครับ...
มีแต่ Type 054 class ครับ...
และ ประเทศ จีน ก็เหมือน ประเทศอื่น ๆ ครับ...มีการจัดทำ งบประมาณ...มีการแยกส่วนของ ธุรกิจ กับ รัฐบาล ออกจากกัน ครับ...
การค้าใน ดีล ของ จีน...ก็คือ การจ้าง อู่ต่อเรือ ให้ต่อเรือกับ ลูกค้า ครับ...มันต่อมี ผลกำไร ในส่วนของ ธุรกิจ ครับ...รัฐบาล คงมีหน้าที่ สนับสนุน ในบางส่วนเท่านั้นครับ...
หรือ ถ้าการขายนั้น เกิดมีผลขาดทุน...รัฐบาลจีน ก็คงต้องรับผิดชอบในส่วนนั้นไป...
ตามเท่าที่ผมเข้าใจ....รัฐบาล มีหน้าที่ประสานงานให้เท่านั้น โดยมอบหน้าที่ให้ กองทัพเรือ กับ Hudong-Zhonghua Shipbuilding จะเป็นผู้ดำเนินการในการแก้ไขแบบ หรือ ข้อตกลงต่าง ๆ...
ซึ่ง ผมก็ยัง สงสัย อยู่ว่า...เทคนิค และ เทคโนโลยี่ การต่อเรือของจีน...กับ ไทย...ใครจะมีความสามารถมากกว่ากัน น่ะครับ...
เรือชั้้น นเรศวร ก็เป็น ไทย ที่ออกแบบ แล้วให้ จีน สร้าง...
เรือชั้น เจ้าพระยา ก็เป็น ไทย ที่แก้ไข สเปค ให้มันดีกว่าเดิม...
เรือชั้น ปัตตานี แม้จะเป็นแบบเรือของจีน...ก็เชื่อกันว่า เป็นผลสืบเนื่องมาจาก การต่อเรือชั้น นเรศวร ของไทย...
ในปัจจุบัน ไทย ก็กำลังต่อเรือ OPV ชั้น กระบี่...ซึ่งก็ใช้ เทคโนโลยี่ การต่อเรือแบบใหม่...
ผมว่า ไทย ดูจะมีแนวคิด ในเทคโนโลยี่ เรือรบ มากกว่า จีน นะครับ...เพียงแต่ ไทย ยังไม่มี อู่เรือ สำหรับการสร้างเรือเท่านั้น ครับ...
ผมถึงยังคงให้ น้ำหนัก ในแนวคิดที่ว่า...ตอนนี้ มันเป็นข้อเปรียบเทียบ ระหว่าง การซื้อเรือ 3 ลำ กับ ซื้อเรือ 2 ลำ...มากกว่า ออฟชั่น ครับ...
เห็นด้วยกับคุณจูลดาสครับว่าการออกแบบและต่อเรือเราเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าจีนเท่าไหร่แค่ติดปัญหาตรงที่่ยังขาดอู่ต่อเรือที่มีความพร้อมตามที่ต้องการเท่านั้นเองและทางทร.เองตามความเข้าใจของผมก็น่าจะมองเห็นปัญหาตรงจุดนี้ แนวคิดที่จะปรับปรุงอู่ให็สามารถดำเนินการและต่อเรือเองได้(ซึ่งคิดว่าทางทร.เองก็น่าจะมีแนวคิดนี้อยู่แล้ว)ก็ใช้เวลานานเรือเก่าปลดระวางแล้วเรือใหม่ยังไม่เสร้จอาจไม่ทันกับภัยคุกคามที่จะเกิดในอนาคต โครงการเรือฟริเกตใหม่จึงน่าจะอุดช่องโหว่ตรงจุดนี้คือได้เรือใหม่+เทคโนโลยีบนเรือที่ไม่ต้องอินทิเกรตระบบใหม่+อาวุธ สามารถใช้งานได้ทันทีนั่นน่าจะตรงตามวัตถุประสงค์หลักของทางทร.มากกว่า
ใช่ครับท่าน 9-o-6 ผมเชื่อมั่นว่าขีดความสามารถบุคลากรไทยเรานั้นไม่น่าด้อยกว่า จีน เกาหลี แน่นอนครับ มันติดที่ขาดการสนับสนุน ถ้าได้การสนับสนุนจากรัฐบาลและผู้มีอำนาจ อุตสาหกรรมต่อเรือเราไม่น้อยหน้าจีน เกาหลีหรอกครับ
ดังนั้น ผมจึงเสนอแนวคิดนี้ออกไปไงครับ ผมไม่เห็นด้วยที่ทร.จะขัดใจกับรัฐบาลในเรื่องเรือจีนคราวนี้นัก เพราะสามารถเปลี่ยนสถานะการให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่าซื้อเรือซะอีก โอกาสแบบนี้ก็หาไม่ได้ง่ายๆด้วย ถ้าต้องรับข้อเสนอจีนในเรื่องร่วมกันแก้แบบและให้สิทธิการต่อเรือในไทย และได้เรือ 3 ลำ ซึ่งรัฐบาลชอบ แบบนี้ก็เข้าทางทัพเรือในการอ้างได้ว่า อู่ราชนาวีขาดแคลนอุปกรณ์หลายรายการ และอู่แห้ง โรงต่อ สลิปเวย์ไม่พอ งานก็ล้นมือ ถ้ารัฐบาลต้องการดีลแบบนี้ รัฐบาลก็ควรต้องทุ่มทุนในการขยายอู่ราชนาวีให้ผมด้วยสิ
เพราะถ้าดีลนี้กลายเป็นการต่อเรือจีนในประเทศไทย ติดตั้งระบบอาวุธตะวันตกประสิทธิภาพสูง ดีกว่าต้นฉบับของจีนซะอีก และได้ 3 ลำแทนที่จะเป็น 2 ลำ แบบนี้อย่าว่าแต่ตอบสื่อมวลชนและประชาชนได้ด้วย ยังสามารถอวดชาวโลกได้ว่า โปรเจคทางอุตสาหกรรมคราวนี้ ไทยโชว์ขีดความสามารถไปให้ทั่วโลกได้เห็น ได้หน้าทั้งรัฐบาลและทัพเรือครับ
สิ่งที่น่าจะเปลี่ยนแปลงได้เร็วโดยใช้เวลาน้อยสำหรับอู่ราชนาวียังมีครับ เช่น เปลี่ยนเครนของอู่หมายเลขหนึ่งให้ใหญ่ขึ้นเป็น 200-300 ตัน เครื่องมือในโรงงานตัวไหนขาดแคลนไม่เหมาะสม ก็ร้องขอเลย น่าจะจัดให้ได้ในเวลาไม่กี่เดือน
ส่วนอู่แห้งหมายเลข 2 ที่มีขนาดใหญ่มาก ติดอันดับต้นๆในอาเซี่ยนนั้น คงต้องใช้เวลา 2-3 ปี กว่าจะแล้วเสร็จ
ดังนั้น ผมว่าโรงต่อเรือ และสลิปเวย์ น่าจะเป็นอะไรที่จัดหาและก่อสร้างได้เร็วกว่าอู่แห้ง น่าจะสามารถก่อสร้างได้เสร็จก่อนอู่แห้ง และน่าจะพร้อมรับงานได้เร็วกว่าอู่แห้ง
กว่าทร.จะประกาศ RIP กว่าจะประกาศว่าใครชนะ กว่าจะจรดปากกาลงนาม และกว่าจะตัดเหล็กชิ้นแรก ก็น่าจะถึงปลายปี หรือ ไม่ก็ต้นปีหน้าโน่น ดังนั้นถ้าคิดล่วงหน้าไว้ก่อน วางแผนให้ดี อุปกรณ์สำหรับปรับปรุงอู่ราชนาวีหลายรายการ น่าจะทำไปได้พอควรแล้ว
อันนี้ทร. ต้องคุยกับรัฐบาลจริงๆจังกันแล้วครับ
ผมคิดว่าจีนกำลังใช้ไทยเป็นทางเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของตะวันตกเพราะเสนอดีลนแบบว่าอยากขายจนเกินไป มีการอออกแบบและแก้ไขร่วมกัน ชื่อโครงการก็บอกว่าสมรรถนะสูงสิ่งที่เอาใส่เรือมาย่อมต้องระดับสูงมันเป็นช่องทางที่จีนจะเรียนรู้ได้สบายๆเดี๋ยวก็ขอมาเยี่ยมชมเรือ อ้างว่าตรวจดูคุณภาพอะไร ๆ ก็ว่าไป จีนก็มีความรู้แต่นึกภาพไม่ออกต้องอาศัยจากประเทศที่รับได้จากทั้งจีนและตะวันตก ไทยนี่ไงแจ๋วเลย ครึ่งๆกลางๆแบบนี้ ผมว่าผมคิดมากไปนะ ถ้ามันไม่ได้ยุโรปก็เอาเกาหลีหรือสิงคโปร์ก็ได้2ลำก็ได้ ยังไงลำที่3 4 5 6 มันก็ต้องมีมาอยู่ดีจะช้าเร็วแค่นั้น
ปล.อะไรที่จีนทำส่งออกมักจะมีจุดที่ทำให้เกิดปัญหาตลอดไม่รู้ว่าเป็นความจงใจหรือเปล่า ประมาณว่า "Black door"อะไรแบบนั้น
ท่าน cananac11 ครับ ผมว่าถ้ามีการร่วมกันแก้แผนแบบ รูปแบบเรือไม่น่าจะหนี Type 054C ที่ท่าน Bigman 2539 ลงเอาไว้สักเท่าไรครับ จะต่างกันตรงที่ F-40T ไม่มี HY-3 VLS 16 cell ติดตรงโรงเก็บฮ. และระบบ CIWs น่าจะติดตั้งแค่หัวเรือและท้ายเรือ (บนสะพานเดินเรือที่ติดตั้งเรด้าร Band stand ทรงกระบอกใหญ่ๆ ด้านท้ายก็โรงเก็บฮ.) 2 ระบบ มากกว่า 3 ระบบของ Type 054C ที่มีด้านข้าง 2 ระบบ ด้านท้ายเรืออีก 1 ระบบ เพราะทางนั้นเงินเขาถึง
ส่วน VLS 32 cell ด้านหน้า ผมว่า F-40T น่าจะมีแค่ 16 cell เท่านั้น แต่คงมีพื้นที่สำหรับติดตั้งเพิ่มอีก 16 cell ให้กลายเป็น 32 cell ได้เมื่อต้องการน่ะครับ และเสาเรด้าร์ คงจะไม่ใช่โดมเฟสอะเรย์สวยขนาดนี้ เพราะเงินที่ให้มามันไม่พอแน่นอน อย่างเก่งก็ SMART-S mk2 กับ LW-08 เท่านั้น แต่คงมีการเผื่อเอาไว้สำหรับการ Upgrade ให้สามารถใช้ในภารกิจป้องกันภัยทางอากาศได้ในภายหน้าครับ คือ สามารถเปลี่ยนเป็นโดมเฟสอะเรย์สวยๆแบบ I-MAST-500 หรือ APAR หรือ SPY-1K/F ได้เมื่อต้องการ ถ้าเงินถึงแบบทางจีนเขา ก็คงสร้างให้เป็นแบบในรูปได้
ส่วนตำแหน่งติดตั้ง YJ-90 นั้น ในรูป Type 054C มีแค่ 8 ท่อยิง แต่ทร.ไทยคงจะเตรียมพื้นที่สำหรับ RBS-15 หรือ Harpoon จำนวน 16 ท่อยิงมากกว่า เพื่อรองรับภารกิจ Land attack เพราะสามารถทำการติดตั้งแบบ ปลั๊ก แอนด์ ไฟลท์ ได้ทันทีที่ต้องการ ส่วนทางจีนนั้น ภารกิจ Land attack คงจะสามารถยิงได้จาก VLS 16 cell หลังโรงเก็บ ฮ.
และจากการที่ต้องเพิ่มความยาว 2-3 เมตร ความกว้างน่าจะถึง 17 เมตรขึ้นไป น่าจะทำให้ระวางเรือ Type 054C น่าจะมีขนาด 4200-4300 ตัน ซึ่งคงจะมีเครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบท์มาด้วย F-40T ก็น่าจะติดตั้ง LM-2500 ที่เป็นเครื่องยนต์ก๊าซเทอร์ไบท์มาด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วน F-40T ก็น่าจะต้องขยายแบบ Type 054A อีกเล็กน้อย เพื่อทำการติดตั้งท่อยิง Harpoon หรือ RBS-15 จำนวน 16 ท่อยิง และความยาวลานจอดท้ายเรืออาจจะยาวกว่านี้ เผื่อ S-70B ด้วย ก็น่าจะทำให้มันมีขนาดพอๆกับ Type 054C ได้
ถ้า F-40T มีสเปกและรูปร่างใกล้เคียงแบบ Type 054C ที่ท่าน Bigman 2539 ลงเอาไว้ เพื่อนๆชาว TFC คิดว่าคุ้มไหมถ้าเรารับดีลจีน และได้แบบมาทำการต่อเองในประเทศ
ขอบคุณท่าน Bigman 2539 มากนะครับ สำหรับภาพ Type 054C เวอร์ชั่นใหม่ มันทำให้ผมอธิบายถึง F-40T ได้ง่ายขึ้นมากกว่า ถ้าแก้ไขแบบแล้วมันควรมีหน้าตาและประสิทธิภาพแบบไหน
จีนทำการ redesign ใหม่หมด จากแบบที่เคยเห็นบนอินเตอร์เน็ต (จะเหมือนรูปที่ผมลงไว้) โดยตัดระบบตรวจจับของรัสเซียออกทั้งหมด ซึ่งบทความที่ผมส่งแล้วหายเมื่อคืน เป็นการบอกถึงข้อเสียของระบบรัสเซียซึ่งกินพื้นที่เยอะมากและมีน้ำหนักมาก แสดงว่าทางจีนรู้ปัญหาเรื่องนี้ดี และทำการแก้ไขโดยการพัฒนาเรื่องระบบตรวจจับใหม่ในแบบแผนของตนเอง ซึ่งเหมาะสมกว่า ดีกว่า ประสิทธิภาพมากกว่าแบบเดิมๆจากรัสเซียด้วยครับ
เรด้าร์แบบเดิมของรัสเซียใน Type 054A/B นั้น จะมีเรด้าร์ 7 ตัว ทำงานร่วมกัน ในการสแกน แทรคกิ้ง และ Lock-on หรือติดตามเป้า
โดยมี Top plate เป็นเรด้าร์แผ่นแบนๆสองหน้าบนเสาเรด้าร์หลัก เป็นเรด้าร์ 3D สำหรับ สแกน
Band stand จะเป็นชุดเรด้าร์ที่เป็นทรงกระบอกมนๆเหนือสะพานเดินเรือ ถ้าจำไม่ผิดจะมีอีกตัวอยู่เหนือปล่องควันมั๊ง จะเป็น Active อันหนึ่ง อีกอันจะเป็น Passive ต้องทำงานร่วมกับ Top plate แล้วสามารถให้ประสิทธิภาพการตรวจจับดีมากทีเดียว
Front Dome เป็นเรด้าร์ควบคุมการยิง ข้อมูลเก่าที่ผมจำได้ เป็นเรด้าร์เฟสอะเรย์ ควบคุมลูกอาวุธนำวิถีได้แค่ 2 ลูกเท่านั้น เรือชั้น Type 054A/B ติดตั้งเรด้าร์นี้ 4 ตัว บนสะพานเดินเรือ ติดกับ Band stand และตรงโรงเก็บฮ. 2 ตัว ทำให้สามารถควบคุมลูก HQ-16 ได้ 8 นัดพร้อมกัน
ด้วยระบบเรด้าร์แบบนี้จากรัสเซีย ทำให้อำนาจการยิง Type 054A/B สูงมากทีเดียวครับ แต่มีข้อเสียมากคือ กินพื้นที่หมาศาล น้ำหนักมาก และกินพลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก เลยทำให้ทร.จีนต้องปรับปรุงในรุ่น Type 054B ที่เพิ่มพลังงานไฟฟ้าในเรือให้เพียงพอ
ส่วน F-40T ตามที่ผมคาดการ ทร.น่าจะติดตั้งเรด้าร์หลักๆแค่ 4-5 ตัว เท่านั้น แบะแต่ละตัวก็น้ำหนักเบา ขนาดเล็ก กินพื้นที่น้อย นั่นคือ
SMART-S mk2 ตรงตำแหน่งเรด้าร์ Top plate เป้นเรด้าร์ 3D สำหรับเป็นเรด้าร์อำนวยการรบเช่นกัน
LW-08 2D สำหรับตรวจการณ์อากาศระ ยะไกล
STIR 1.2 EO ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า front Dome เล็กน้อย ติดตั้ง 2 ตัวหน้าและท้ายเรือ เพื่อควบคุมการยิง ESSM และ CIWs อย่าง RAM 21 นัดได้
จะเห็นว่าระบบตรวจจับตะวันตกมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา กินพื้นที่และพลังงานไฟฟ้าน้อยกว่ามาก ดังนั้น พื้นที่ตรงตำแหน่ง Band stand จึงสามารถติดตั้ง CIWs ได้ 1 ระบบ รวมถึง SEGEM decoy ได้ด้วย
ส่วน CIWs ทั้งสองตัว ผมสนับสนุนระบบที่เป็น Stand alone แบบ Sea RAM มากที่สุดครับ หรือ Goal Keeper หรือ ฟาลังก์ น่าจะเป็นปืนระบบหนึ่ง และ จรวด RAM ระบบหนึ่งครับ
รูปปลากรอบ
รูปแรก Top plate
รูปสอง Band stand
รูปสาม front dome
เอ้า รูปมาแค่ front dome
รูปแนก top plate
รูปสอง Band stand
ป๋าจุลครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่การคาดคะเนของเราสองคนแตกต่างกันเท่านั้นครับ ไม่ซีเรียส
แนวคิดของท่าน คือ จีนเสนอดีลเพื่อหวังผลกำไรทางการค้าเป็นหลัก ซึ่งบอกเลยว่าถ้าเสนอแบบนี้ เอากำไรเกินไป
ส่วนแนวคิดของผม คาดว่าจีนเสนอแบบนี้เพื่อหวังผลทางการเมืองระหว่างประเทศเป็นหลักครับ
ดังนั้นไม่มีอะไรครับ อย่าไปซีเรียสเลย
ผมรอดูดีลของเกาหลีใต้ ซึ่งน่าเป็นตัวเต็ง 1 จากชาติในเอเชียด้วยกันอยู่ครับ ว่าจะตอบโต้จีนอย่างไร DW-3000H นี่บอกตรงๆ ไม่ work นะในสายตาผม KDX-2 เข้าตาจะแจ้งกว่ามากครับ อยากรู้ว่าเกาหลีจะเสนอให้เรามีส่วนแก้แบบ และอาจจะให้สิทธิ์เราต่อ 1 ลำ ส่วนอีกลำต่อในเกาหลีหรือไม่
และรอดีลสิงคโปร์ด้วยครับ ว่าจะเสนอแบบ Formidable ตามคาดไหม จะเสนอเงื่อนไขแข่งขันกับจีนอย่างไรครับ
เอ้ารูปไม่มาอีกแล้ว ลองลงรูป Band stand อีกทีแล้วกัน เป็นทรงกระบอกขนาดใหญ่เหนือสะพานเดินเรือ
ช่วงนี้ทัพเรือคงจะเริ่มมีการประเมิณศักยภาพของเรือหลวงกระบี่เห็นว่าจะมีการออกทดลองในทะเล อาจจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจบางอย่างของทัพเรือเอง ว่าความสามารถในการต่อเรือ การจัดวางโครงสร้างทั้งภายในและภายนอกของตัวเรือที่เราได้มีการปรับปรุงแก้ไขตัวเรือเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจ ว่าผลงานของเราอยู่ในระดับไหน จะสามารถขยับขึ้นไปสู่เรือที่มีระวางที่ใหญ่กว่านี้ได้หรือไม่ อุปสรรคและปัญหาในการต่อเรือของเรามีอะไร และคงจะมีการศึกษาการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้เหมาะสมกับการปฏิบัติงาน ถ้าผลงานในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจจะช่วยให้ทัพเรือสามารถตัดสินใจในการจัดหาเรือในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี
ไม่ได้ ซีเรียส ครับท่าน neosiamese2...พอดี พิมพ์ เป็นตัวอักษร มันไม่มีเสียง...เวลาอ่าน อาจจะเข้าใจว่า ผมเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง...
ซึ่งผมก็คิดว่า ดีล นี้...คงไม่แตกต่างอะไรกับ ดีล เรือชั้น ปัตตานี ครับ...เป็น ดีล ที่ จีน มองเพื่อการค้า เป็นหลัก...ส่วนเรื่อง การเมือง จะเป็นประเด็นรอง...ครับ...
แต่ จีน เอง อาจจะมองว่า ตัวเองได้เปรียบกว่าประเทศอื่น ในแง่ การเมือง มากกว่าครับ...อาจจะใช้วิธีทางการเมือง บีบ ของประเทศอื่นให้ ตก ไป...เป็นประวัติศาสตร์ ซ้ำรอย โครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง รุ่นแรก (ปัตตานี)...ลองหาข่าวเก่า ๆ ศึกษากันดูครับ...
ซึ่ง ผมกลัว ประเด็นนี้ มากกว่าครับ...แล้ว ไทย ก็จะได้ของ ไม่สมราคา เหมือนเดิม...ก็ไม่อยากให้ หาเรื่องใส่ตัว ครับ...
และตามข่าว ก็เป็นเงื่อนไข เสนอต่อจากประเทศจีน...เพียงแต่ จีน ถ่ายทอดการซ่อมบำรุง และ ซ่อมทำใหญ่ หรือดัดแปลงตัวเรือ...
จากประโยคนี้
include technology transfer to enable maintenance, repair, and overhaul and to locally produce unspecified components under licence from Type 054-class designer
แปลจาก กูเกิ้ล ได้ว่า
รวมการถ่ายโอนเทคโนโลยี เพื่อให้การบำรุงรักษาซ่อมแซมและปรับปรุงพื้นที่และผลิตชิ้นส่วนที่ไม่ได้ระบุภายใต้ใบอนุญาตจาก แบบเรือ Type 054
ไม่ได้มีเงื่อนไขในการ ให้ไลเซ่นส์ สร้างเรือเอง ครับ...
และผมก็เห็นว่า ถ้า ทร. ต้องการเทคโนโลยี่ต่อเรือเอง...ทุกประเทศ สามารถมีข้อเสนอ นี้ ได้หมด ครับ...
และถ้า เราเอาเรือจีน มาประกอบที่ ประเทศไทย ทั้งหมด...มัน ก็เหมือนกับ ที่เรา ซื้อแบบ เรือจีน แล้วมาประกอบเองมากกว่าครับ...ไม่ใช่ การซื้อเรือจากจีน...ไม่ได้แตกต่างกับโครงการ เรือชั้น กระบี่ ครับ...
แค่อยากรู้ เลยอยากถาม
เรียนถาม ท่าน ADMIN ครับ (หากท่านผ่านมา)
ข้อมูลที่เหล่า User ทั้งหลาย ได้อธิบาย ขยายความ คอมเม้นท์
ถึงข้อดีข้อเสียในประสิทธิภาพของเหล่าอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ ทร. ทบ. ทอ.
จะจัดหามา ไม่ทราบว่าข้อมูลเหล่านี้ส่งถึงหรือเข้าไปมีบทบาทในการตัดสินใจ
ต่อการจัดซื้อ อาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ หรือไม่ครับ
(หรือเพียงเเค่เเลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นเฉยๆ ครับ)
เรียนคุณคนไทยรักชาติ เว็ปนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ของเรื่องเทคโนโลยี่ทางการทหารครับ เรื่องอื่นๆ ทางทีมงานไม่เกี่ยวข้องครับ แต่ถ้ามีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาจะเข้ามาดูเพื่อเอาข้อมูลไปพิจารณาหรือเปล่านั้น ผมไม่ทราบครับ/ADMIN
การสั่งต่อเรือรบในปัจจุบัน แต่ละประเทศสามารถต่อรองเพื่อทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนำแผนแบบเรือมาทำการต่อเองในประเทศได้ครับ เช่น สิงคโปร์สั่งต่อ Formidable 6 ลำ ทำการแก้แบบ ลาฟาแยปต์ โดยต่อลำแรกจากฝรั่งเศส ที่เหลือต่อในสิงคโปร์
กรณีมาเลเซีย จัดหา Gowind 6 ลำ โดยมีข้อตกลงในเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและสิทธิบัตรในการนำแบบเรือมาต่อเองในประเทศ โดยจะต่อจากฝรั่งเศส 1 ลำ ที่เหลือจะต่อในมาเลย์เอง ซึ่งมาเลย์ก็เคยทำการร้องขอแบบนี้กับทางเยอรมันในการจัดหา MEKO-A-100 เช่นกันครับ
แต่ส่วนมากที่เจอแบบนี้ จะเป็นดีลขนาดใหญ่มาก ต่อกันทั้งชุดหลายลำ จึงสามารถขอแผนแบบและเรียนรู้งานต่อจากประเทศผู้ผลิตได้ครับ
สำหรับ 2 ลำ อย่างเราก็มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถขอแบบนั้นได้ คือ ต่อจากประเทศผู้ผลิต 1 ลำ และอีกลำนำมาต่อเองในประเทสไทย ได้ครับขึ้นอยู่กับว่าเราจะร้องขอหรือไม่ แต่จำนวนเพียง 2-3 ลำ และมูลค่าเท่านี้ น่าจะเป็นเรื่องยากขึ้นครับ ถ้าต่อ 6-7 ลำแบบเพื่อนบ้าน อันนี้ต่อรองง่ายหน่อย
ดังนั้นจีนเสนอแบบออกตัวแรงอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะร้องขอแบบเดียวกัน อาจจะต่อจากจีน 1 ลำ อีก 2 ลำที่เหลือต่อในไทยเป้นต้น
ผมถึงบอกว่า โครงการนี้ถ้าทำดีๆแล้ว มีผลประโยชน์ต่อประเทศมากกว่าการซื้อเรือครับ
เราสามารถร้องขอแบบนี้กับประเทศผุ้ผลิตทุกรายได้ครับ แต่จะได้รับการตอบรับแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของโครงการใหญ่แค่ไหน และในทางการเมืองนั้นประเทศเราสำคัญต่อเขาขนาดไหนด้วย ความใกล้ชิดกันระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ
ดังนั้นดีลของจีนน่าจะสามารถร้องขอแทบทุกอย่างที่เราต้องการได้ ด้วยโครงการจัดหาเรือแค่ 3 ลำ เท่านั้นครับ
รูปจาก sinodefense ครับ ของ Type 054C เห็นว่าแผนแบบได้รับอิทธิพลจาก Formidable
F-40T รูปร่างหน้าตาน่าจะไม่หนีกันมากนัก ถ้าทร.ไทยมีส่วนในการพัฒนาแบบเรือครับ
สงสัยรูปใหญ่เกินไป เอาเป็นว่าดูตามลิ้งค์นี้แล้วกันครับ จาก sinodefense สวยหยดเลย สเปกดูดีกว่า type 054A ที่ว่าดีแล้วเยอะเลย
http://www.sinodefenceforum.com/navy/054-series-frigate-thread-2-a-81-4149.html
แหม....ถ้า F-40T ได้แบบนี้ เอาใจผมไปเลยครับ
ในการจัดหาเรือฟริเกตคราวนี้ ทัพเรือเราก็เล่นบทเชิดแกมหยิ่งไว้บ้างไม่ว่าประเทศไหนจะเสนอมาก็เถอะ จัดข้อเสนอข้อเรียกร้องเข้าไปจนกว่าจะได้สิ่งที่ทัพเรือเห็นว่าคุ้มที่สุด เจ้าไหนไม่ไหวก็ถอยไปส่วนที่ไหวก็คุยกันต่อ ถ้าเขาต้องการเราเป็นลูกค้าจริงๆแน่นอนถึงเขาจะขาดทุนในตอนนี้ แต่ก็เป็นการสร้างตลาดไว้ก่อนยังมีอย่างอื่นให้ซื้อขายกันอีกเยอะ อย่างมากเขาก็ยอมขาดทุนกำไรก็เท่านั้น ช่วงนี้ก็พิจารณาคัดเลือกกันสุดๆเน้นๆหน่อยละกัน
ผมคิดแบบนี้นะครับ คือว่า ถ้าเรา ดูจาก ข้อเสนอ ก็อย่าง ว่า ดีลจากจีนไม่มีตรงไหนเลย ที่บอก จะถ่ายทอดเทคโนโลยี่ และ ให้ ทำการต่อเรือเองในประเทศเรา แล้วถ้ามองในแง่ ว่า มันสามารถต่อรองได้ ให้เป็น แบบนี้แบบนั้น งั้นผมว่า เราต่อรองกับประเทศอื่นจะไม่ดีกว่าจีนหรอ ครับ เพราะก็รู้ๆ กันอยู่ว่าประเทศ อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เยอรมัน หรือฝรั่งเศษ สวีเดน อเมริกา และประเทศในเอเซีย บ้างประเทศ มีเทศในโลยีสูงกว่าจีน (เรียนกับสุดยอด ปรมาจาร์ย ผมว่ามันย่อมต้องดีกว่าแน่ๆ) แล้ว อีกอย่างจีนก็ยังมีปัญหาเยอะในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป้นเรื่อง วัสดุ การจัดการโครงการ ระบบ โรงงาน(ในที่นี้คือ ระบบ ของ อู่เรือ) และ อื่นๆ อีก
---ถ้า ทร.จะตั้งธง แบบนั้น แบบที่ ว่า ถ่ายเทดเทคโน สร้าง เองในไทย ผม ว่าก็อย่าไปต่อรอง กับจีน ดีกว่าไหมครับ
ปล. ไม่เอาจีน ง่า แต่ สาวจีน เอานะครับ 555.. ด้วยความเคารพครับผม
ผมขอมองในอีกแง่มุมน่ะครับ ไทยอยู่ตรงกลางต้องเกรงใจ จีนและสหรัฐ จะซื้อเรือของใครก็ลำบากใจ อีกอย่างเรื่องระวางขับน้ำมากกว่า 4000 ตัน เกินความต้องการอีก
เกาหลีก็มีความเป็นไปได้สูงและมีเรือดำน้ำอีกรายการที่น่าสนใจแต่ผมติดที่หากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้เกาหลีอาจไม่สามารถส่งมอบเรือฟรีเกตและเรือดำน้ำให้ไทยได้
สิงค์โปรมีเรือฟริเกตแต่ไม่มีอุตสาหกรรมต่อเรือดำน้ำแต่มีฝรั่งเศสหนุนอยู่แถมอยู่ไกลความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ และมีความใกล้ชิดกับไทยมากซึ่งผมมองว่า ทร. น่าจะเลือกมากที่สุด
อันดับสองที่ผมคิด (แต่ที่อ่านในกะทู้ยังไม่เห็นเสนอเข้ามา)คือ อังกฤษ ที่ไทยต่อเรือชั้นกระบี่อยู่แล้วหากเค้าเสนอแบบเรือที่ขยายแบบขนาด 2500-3500 ตัน เข้ามาก็อาจมีสิทธิ์ที่ ทร. จะเลือกเพราะไม่มีผลต่อจีนและสหรัฐ แถมไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งใดๆในทะเลจีนใต้ด้วย ไม่มีปัญหาการส่งมอบ ขาดอย่างเดียวคือไม่มีเรือดำน้ำขนาดที่ไทยต้องการ แต่ก็สามารถหาจากเจ้าอื่นๆได้
ส่วนของเยอรมันถึงแม้ชอบที่สุดมีทุกอย่างที่เราต้องการ แต่ถ้าเป็นผมคงไม่เลือกเพราะราคาแพงและเพื่อความเหมาะสม
เราสามารถทำการร้องขอแบบที่สิงคโปร์และมาเลย์ทำกับผู้ผลิตทุกรายที่มาเสนอตัวคราวนี้ได้ครับ และผมสนับสนุนว่าการประกาศกลางปีนี้ กองทัพเรือควรมีเรื่องนี้ในข้อกำหนดการเลือกแบบด้วย
ดังนั้นถ้าการ RIP คราวนี้มีการกำหนดแบบนี้ด้วย อู่ต่อเรือผู้ผลิตก็ต้องแข่งขันกันเสนอทั้งแบบและเงื่อนไขว่า อาจจะมีการต่อที่ประเทศผู้ผลิต 1 ลำ ที่เหลืออาจจะต่อในเมืองไทยพร้อมกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี แล้วต้องมาพิจารณาว่าใครให้เงื่อนไขดีที่สุด
แต่ที่ผมสนับสนุนจีนคราวนี้ ไม่ใช่เพราะชอบเรือจีนนะ จริงๆก็มีหวาดเสียวไม่น่าไว้ใจมากกว่า แต่เผอิญทางรัฐบาลตอนนี้เกิดหลงคารมจีนเต็มเปา ดังนั้นถ้าทร.ต้องตามใจรัฐบาล อาจจะสามารถต่อรองรัฐบาลในเรื่องการให้งบลงทุนอู่ราชนาวีแบบทุ่มเทสุดๆได้ครับ และถ้าต้องใช้งบประมาณเกินกว่า 30,000 บาทไปไม่มาก ทร.อาจร้องขอให้รัฐบาลสนับสนุนได้ง่ายกว่ามากด้วย แม้ว่าเรือจากจีนจะดูหวาดเสียวดีก็ตาม แต่งานต่อเรือน่าจะย้ายมาในไทยเกือบทั้งหมดเพื่อลดปัญหา
แต่ถ้าเป็นจ้าวอื่น ผมว่าโอกาสที่จะต่อรองกับรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลทุ่มเทเงินในการลงทุนอู่ราชนาวีก็จะน้อยลงไปมากๆ และอาจจะได้แค่เรือเท่านั้น
สำหรับผม ผมสนใจอู่ราชนาวีเพื่อขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมมากกว่าเรือชุดนี้ครับ แค่เอาเรือชุดนี้มาเป็นตัวต่อรองกับรัฐบาลเพื่อให้อู่ราชนาวีสมบูรณ์แบบก็เท่านั้นเอง
สำหรับการต่อเรือในประเทศเป็นสิ่งที่ต้องทำ (ไม่ใช่ควรทำ) ครับเพื่อพัฒนาการพึ่งตนเองและลดความเสี่ยงที่อาจคาดไม่ถึง
ส่วนถ้าเอาเรือจีนแต่ใส่เทคโนโลยีตะวันตก ถ้าการที่ทำในไทยและเราสามารถเจรจาให้เกิดความไว้ใจและตกลงกันได้ระหว่างสหรัฐกับจีนก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด(ผมว่าจีนน่ะยอมแต่สหรัฐจะยอมหรือเปล่า)
ส่วนเรื่องขนาดที่ใหญ่ที่มาพร้อมกับความสิ้นเปลืองนั้นถ้ารัฐยอมสนับสนุนงบประมาณในการดำรงความพร้อมรบของเรือก็ถือว่าดีมากครับ
มุมมองของผมในอดีตเรือชั้นนเรศวรที่สหรัฐยอมให้ต่อเรือในจีนแล้วมาติดตั้งอาวุธในไทย แม้สหรัฐจะกลัวการรั่วไหลของเทคโนโลยี แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้ล้ำสมัยอะไรมากนัก ประกอบกับตอนนั้นสถานการณ์สหรัฐ จีน ไทย มีเป้าหมายร่วมกันคือสกัดเวียดนามและโซเวียต ทำให้สหรัฐยอมรับเงื่อนไขของไทยได้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันมันต่างกันมาก สหรัฐกำลังล้อมกรอบจีน ดังนั้นความเสี่ยงในเรื่องการรั่วไหลของเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่สหรัฐระวังมาก ทำให้โอกาสสร้างเรือจีนในไทยแล้วใส่เทคโนโลยีสหรัฐทำได้ยาก ครับ
งานนี้ถ้าข้อเสนอไม่ถูกใจทัพเรือแถมมีกั๊กล่ะก็โดนเขี่ยทิ้งแน่ ต่อให้เรือดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่สอดคล้องกับคุณลักษณะที่ทัพเรือกำหนด+ราคา+ออฟชั่น ก็คงต้องดูข้อเสนอเจ้าอื่นต่อไปล่ะนะ เดี๋ยวปีหน้าขอรัฐบาลจัดหาเรือดำน้ำไปเลยขอกันแบบดื้อๆนี่ล่ะ บอกไปเลยว่าจะเตรียมเอาไปรบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีน่านน้ำติดกัน(เวลามีเรื่อง) เพราะ ซื้อมากว่าจะใช้เป็น ไม่แน่นะอาจจะได้รับการอนุมัติก็ได้ คิดเล่นสนุกๆน่ะครับ ช่วงนี้ก็จินตนารอต่อไป
ขอบคุณครับท่าน : qwertyuiop
หลุดไปหนึ่งล่ะ แถม OHP หลุดไปด้วย ไม่เอาเรือเก่า ตัดเยื่อใยกันเลย
เยอรมันก็มีแนวโน้มจะหลุดเพราะแพงเกิน
ก็เหลือชาติในเอเซียจริงๆแล้วล่ะ 3 ประเทศหลัก จีน เกาหลี สิงคโปร์ ขอบคุณสำหรับข่าววงในนะครับท่าน Fatboy ทร.คงกำหนดอะไรใน TOR ที่น่าสนใจมากๆแล้วล่ะ อาจจะไม่ใช่แค่เรือเท่านั้น น่าลุ้นแฮะ
เกาหลีเสนอคราวนี้ DW-3000H สเปกเดิมต่ำไปหน่อย ออกแนวๆเรือฟรีเกตอเนกประสงค์ คงต้องปรับปรุงแบบกันใหม่ ราคาลุ้นได้ 3 ลำถ้าจะสู้กับจีน
เกาหลีอีกแหล่ะ KDX-2 คงต้องลดขนาดลดสเปกลงมา ให้อยู่ในงบ 30,000 ล้าน
จีน เสนอ 4000 ตัน 3 ลำ ร่วมโมดิฟายด์แบบ และอาจร้องขอเรื่องอื่นได้
สิงคโปร์ น่าลุ้นนะครับสำหรับ Formidable อาจจะมีการปรับแบบสำหรับเราโดยเฉพาะ 3000 กว่าตัน ถ้าจะสู้กับจีนสงสัยต้องทำราคาสำหรับ 3 ลำ ให้ได้
TOR ออกไปแล้วและเร็วกว่าที่ทราบกัน เอาเป็นว่าคงรู้ภายในปีนี้แน่ๆ และโครงการเรือฟรีเกต Hi-end 2-3 ลำ ไม่น่าจะโดนควำ่แต่อย่างใดเพื่อเอาเงินไปจัดหาเรือดำน้ำ
ดูท่าจะ 3 ลำ มากกว่า 2 ลำแล้วงานนี้ และคงมีเงื่อนไขที่อาจจะทำให้ผมหัวใจพองโตก็ได้ 55555 ต่อเองในประเทศบางส่วน ลุ้นขยายอู่ราชนาวีล่ะเว้ยเฮ้ย.....
OHP หลุด เสียดายจัง แต่แบบนี้แสดงว่าทร.น่าจะมีการเตรียมดันเรื่องเรือดำน้ำใน 1-3 ปีที่จะถึงแน่นอน ถ้าได้เรือดำน้ำ ฟรีเกตต่อต้านเรือดำน้ำเท่านี้น่าจะพอ และอาจจะปรับเรือฟรีเกตเป็นภาระกิจอื่นได้ในภายหลัง
ข่าวจากวาสนา นาน่วม ฟังหูไว้หูนะครับ พลาดมาหลายครั้งแล้ว
ถ้าเป็นของเกาหลี เรือฟริเกตใหม่ 2 เรือดำน้ำ U209 เก่า 1 ในราคา 30000 ล้านบาทพอไหวไหม ครับ ยิงปืนนัดเดียวได้ทั้ง 2 อย่าง แล้วขอแถมสิทธิบัตรต่อเรือในประเทศได้และช่วยพัฒนาอู่ต่อเรือให้รองรับการซ่อม ประกอบ เรือดำน้ำ ในอนาคต
ผบ.ทร. ก็พูดตรงประเด็น ครับ...ว่า ยังไม่ได้มีแผนซื้อเรือจากสหรัฐ แต่อย่างใด...เพราะ เพิ่งจะ ยื่น TOR ให้แต่ละประเทศเสนอมาครับ...ต้องรอดูสิ้นเดือน มี.ค. ครับ...ว่ามีประเทศไหน เสนอมาบ้างครับ...คือตอนนี้ ยังไม่ได้ตัดสินใจใด ๆ ทั้งสิ้นในขณะนี้ครับ..แม้แต่ เรือจีน ก็ตาม ครับ...ตามข่าว jane ที่ความหมายว่า ทร. ได้เลือกเรือ LCS นั้น ยังไม่ใช่ครับ...
และ ทร. ไม่ได้จัดหา LCS เพราะ ทร. ต้องการเรือตามที่กำหนดความต้องการไว้ครับ...ซึ่ง ผบ.ทร. ก็บอกกว่า ถ้าเป็นเรือฟริเกต ที่อยู่ระหว่าง 3-4 พันตัน แล้วสหรัฐ เสนอมาแล้วคุณสมบัติตรง ก็จะพิจารณา...
ส่วน OHP ที่เสนอขายก่อนหน้านี้...น่าจะหมายถึง ก่อนหน้านี้ หลายปี ครับ...ที่ สหรัฐ เสนอขายเรือ OHP ให้ไทย...น่าจะช่วงปี 2548 - 2549 ช่วงนั้น มากกว่า ครับ...ช่วงที่ สหรัฐ ขายให้ ตุรกี บาร์เรน ช่วงนั้น ครับ...แล้ว ทร. ปฏิเสธ ไป...น่าจะคนละ โครงการ กับ FFG-46 กับ FFG-48 ครับ...
ดูแล้ว น่าจะเป็น สงครามข่าวสาร ทั้งจาก ของจีน และจากของสหรัฐ...ว่า ไทย ได้คัดเลือกแบบของตนเอง เพื่อ ตัดคู่แข่ง และตัดข้อเสนอของคู่แข่ง มากกว่าครับ...
เห็นอย่างนี้แล้ว...ชักหวั่นใจ...ของซีก เยอรมัน ซะแล้ว...5 5 5 5 5
อาจจะมีอะไร เซอร์ไพรส์ อึ้ง ทีง ว๊าว...แบบ อินโดนีเซีย จัดหารถถังจากเยอรมัน ก็ได้นะครับ...5 5 5 5 5
ทัพเรือได้เสนอTORให้สวีเดนบ้างรึเปล่านะอยากรู้จริงๆ ในใจผมชอบแนวคิดทางด้านการทหารของเขาเป็นพิเศษ ถึงจะไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟคหรือยิ่งใหญ่เท่าประเทศมหาอำนาจทางการทหารก็เถอะนะ เป็นรูปแบบที่ดูแลง่าย ใส่ใจในพื้นที่ของเขาเองทุกอย่าง มีขั้นตอนการปฏิบัติที่ชัดเจน มีความพร้อมสูง และการพัฒนาของเขาก็เป็นไปอย่างต่อเนื่อง อยากให้กองทัพเราสร้างโครงสร้างทางการทหารแบบเขาบ้างจัง อยากให้สวีเดนมีแบบเรือฟริเกตมาเสนอเราจริงๆพร้อมกับการลงทุนในด้านอุตสาหกรรมต่อเรือด้วยในประเทศเราด้วย วิศวกรรมในด้านการต่อเรือของเขาก็จัดได้ว่าชั้นแนวหน้าเหมือนกัน มันจะได้เป็นการช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมการต่อเรือของเราให้ทัดเทียมเขาได้บ้าง อุตส่าห์อุดหนุนซื้อเครื่องบิน คราวนี้ขอเป็นเรือฟริเกตบ้างละกัน ถ้าถูกใจคราวหน้าทั้งเรือดำน้ำทั้งGripen sea ทางกองทัพก็คงจะจัดหามาประจำการก็ได้นะ
สมมุติUSA เสนอ เรือให้ 2 ลำตาม TOR +ขยายผลให้ แฮลิเออร์ มือสอง ครบฝูงแบบนี้น่าสนไหมครับ
ผมว่าเป็นไปไม่ได้ครับอเมริกาคงไม่ใจดีขนาดนั้นเพราะลำพังอากาศยานขึ้นลงทางดิ่งที่สหรัฐฯทีในปัจจุบันยังไม่เพียงพอจากความต้องการเลยครับจนถึงขนาดต้องไปเหมาแฮริเออร์จีอาร์จากอังกฤษแต่ถ้าเป็นหลังจากที่กองทัพเรือสหรัฐรับมอบF-35Bเต็มตามความต้องการแล้วนั่นก็อีกเรื่องนึงครับอีกอย่างการที่สหรัฐฯจะให้อาวุธชนิดไหนกับใครต้องผ่านรัฐสภาครับส่วนเรือชั้นOHPนั้นถ้าจำไม่ผิดผมว่ารัฐสภาสหรัฐฯอนุมัติยกให้ไทยแล้วนะครับตอนนี้ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่าจะรับมั้ยและจะรับแบบไหน(ปรับปรุงบางส่วนหรือปรับเปลี่ยนระบบทั้งหมด)
แฮริเออร์สำหรับทัพเรือไทยผมว่าต้องรอไม่ต่ำกว่า3-5ปีจากนี้ครับ และผมคาดการว่าถ้าภายใน5ปีนับจากนี้ถ้าไม่สามารถจัดหาแฮริเออร์ได้เรือจักรกรีฯน่าจะเปลี่ยนเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์เต็มตัวโดยไม่จัดหาอากาศยานปีกตรึงมาประจำการอีกครับแต่อาจเป็นฐานปฏิบัติการของUAVที่ทัพเรือพัฒนาขึ้นเองครับ
โครงการฟริเกตไทย hi-end ก็ไม่ใช่ได้ปีหรือสองปีนี่ยัน 60 และผมเห็นเข้าก็เร่งทยอยประจำการ F-35 B-Cอยู่แล้วทำไมมันจะหลุดมาไม่ได้เหรอสัก 5-6 -7-8-9ลำผมสมมุตินะครับถ้ามาพร้อมแฮริเออร์จะเบนมาให้ความสนใจ usa ไหม ถ้าเอาไปเทียบกับ ดีลอื่นๆ
๏ จีนยื่นข้อเสนอขายเรือ Frigate ชั้น Type 054 ให้ไทย - จีนยื่นข้อเสนอขายเรือ Jiangkai Frigate ชั้น Type 054 ตามความต้องการของกองทัพเรือไทย ซึ่งมีส่วนทำให้จีนและอเมริกาต้องเผชิญหน้ากัน ในการยื่นข้อข้อเสนอเพื่อจัดหาเรือขนาดใหญ่ให้กับไทย โดยจีนได้มีการเจรจาในเบื้องต้นกับไทย และจัดเตรียมเรือ 3 ลำ ไว้ให้กับกองทัพเรือไทย มีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่กองทัพเรือไทยกล่าวว่าไทยสามารถเลือกซื้อเรือจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือเกาหลีใต้ก็ได้ ซึ่งบริษัท Lockheed Martin ของสหรัฐอเมริกาได้ยืนยันที่จะเสนอขายเรือ Littoral Combat Ship (LCS) เป็นทางเลือกให้กับไทย สำหรับจีนนั้นเห็นว่า เรือชั้น Type 054 ของจีนมีราคาที่เหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับเรือของชาติตะวันตก รวมทั้งความสะดวกในการจัดส่งเรือมายังไทย ส่วนไทยเองก็มีเรือของจีนอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง
ในการทำสัญญาจัดซื้อเรือชั้น Type 054 จะรวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการบำรุงรักษา การซ่อม และตรวจเช็คเครื่องยนต์ รวมทั้งการต่อเรือในไทย หากมีส่วนประกอบที่ผลิตในไทยให้เป็นลิขสิทธิ์ของเรือชั้น Type 054 ซึ่งออกแบบและต่อเรือโดยบริษัท Hudong-Zhonghua Shipbuilding ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท China State Shipbuilding Corporation
เจ้าหน้าที่จากจีนได้เจรจาข้อตกลงกับไทย เมื่อครั้งที่ประธานาธิบดี Wen Jiabao เยี่ยมเยียนไทยที่กรุงเทพ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา โดยเรือ Frigate ชั้น Type 054 มีระวางขับน้ำ 4,000 ตัน ยาว 135 ม. ซึ่งเข้าประจำการที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLAN) เมื่อช่วงกลางทศวรรษที่ 2000/ Jane’s
ที่มา
http://dtad.dti.or.th/index.php?option= ... s&Itemid=3
สรุปในเบื้องต้น แบบเรือที่ปรากฎเป็นข่าว เสนอแบบให้ ทร. สำหรับโครงการ เรือฟริเกตสมรรถนะสูง
เรียงตามลำดับ ก่อน - หลัง
ขอบคุณมากครับท่าน qwertyuiop สำหรับข่าวสาร
ก็เป็นอันว่าจีนเสนอการต่อเรือในประเทศไทยด้วยนะครับ ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมท่าน Fatboy ถึงบอกว่า OHP นั้นชักไม่มีอะไรแน่นอนซะแล้ว และมีแนวโน้มการจัดหาเรือจะมาจากฝั่งเอเชีย
อันนี้เป็นการวิเคราะห์ของผมนะครับ
ถ้าจัดหาจากฝั่งเอเชีย ด้วยต้นทุนการผลิตของฝั่งนี้และจากการไปขุดหาราคาเรือกันมาของชาว TFC เรา เงินขนาด 1000 ล้านเหรียญ อาจจะสามารถจัดหา DW-3000H หรอื formidable หรือ F-40T ได้ถึง 3 ลำ
ซึ่งถ้าทร.สามารถจัดหาได้ 3 ลำจริง 1 ลำที่เกินก็น่าจะเอาทดแทนการใช้งาน OHP 2 ลำ เพราะอายุการใช้งานเรือยาวนานได้ถึง 40 ปี และสามารถ upgrade ได้ในภายหลัง
และถ้ารับ OHP มาใช้งาน ต้องทำการปรับปรุงเรือไม่น้อยกว่า 100 ล้านเหรียญ หรือกว่า 3000 ล้านบาทต่อลำแน่ๆ ก็กว่า 6000 ล้านสำหรับ 2 ลำ
นอกจากนี้ต้องจัดหา ฮ. ประจำเรืออีก 4 เครื่อง ถ้าเป็น S-70B 4 เครื่องพร้อมระบบ LAMP 3 อาจจะต้องลงทุนถึง 8000 ล้านบาททีเดียว ดังนั้นเมื่อรวมค่าการปรับปรุงเรือแล้ว ก็น่าจะจ่ายไม่น้อยกว่า 12,000 -14,000 ล้านบาทสำหรับเรือชุดนี้ ซึ่งเงินขนาดนี้สามารถจัดหาเรือดำน้ำดีๆได้ 1 ลำครับ
พูดง่ายๆ OHP 2 ลำ ปิ๋วเพราะทร.คงต้องการเรือดำน้ำก่อนครับ ดังนั้นมีความเป็นไปได้แล้วว่าทร.จะดันโครงการเรือดำน้ำอีกรอบภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ ก่อนปี 60 ตามที่ท่าน Fatboy บอกไว้ ทร.คงตัดรายการอื่นๆออกหมด เพื่อเรือฟรีเกตและเรือดำน้ำก่อนเพื่อนเลย
ด้วยเหตุนี้ harrier 2+ อาจจะต้องรอหลังปี 61 ครับ ยกเว้นงบประมาณในส่วนของทร.มีอัตราการเพิ่มในระดับสูงขึ้นมาพ้น 50,000-60,000 ล้านบาทค่อปีในระยะเวลาสั้นๆไม่กี่ปีที่จะถึงนี้ครับ แต่ผมว่าน่าพ้นปี 61 ไปนะครับถึงจะำได้ระดับขนาดนั้น
คาดว่าถ้าเลือกในเอเชีย มีความเป็นไปได้สูงที่ลำแรกจะต่อที่ประเทศผุ้ผลิต ที่เหลือต่อในประเทศไทย แต่อู่ราชนาวีไม่น่าจะรับงานเพิ่มไหว ยกเว้นได้รับงบประมาณสำหรับการขยายอู่ใน 2-3 ปีนี้ และทำการขยายอู่ให้แล้วเสร็จก่อนที่เรือฟรีเกตลำแรกได้รับมอบ เพื่อสามารถดำเนินงานต่อลำที่ 2 3 ได้ไปพร้อมๆกับ OPV ลำที่ 2 3 4
มิน่าผู้ใหญ่ฝ่ายการเงินการคลังของรัฐบาลจึงไปปล่อยปลา ปล่อยเต่า ดำน้ำเล่นที่ฐบานทัพเรือสัตหีบ
ผมมั่นใจว่างบประมาณในส่วนของทร.ภายใน 5 ปีที่จะถึงนี้ น่าจะไม่ใช่กรอบงบประมาณตามซีกรัฐบาลอีกฝั่ง น่าจะเพิ่มเป็น% ที่สูงขึ้นพอสมควรทีเดียว เพราะในอดีตสมัยรัฐบาลซีกนี้มีอำนาจ ทร.เคยมีแผนจะจัดหาทั้งเรือดำน้ำ เรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศ LPD เรือบรรทุกบ.เบาลำที่สอง ซึ่งโครงการพวกนี้จะต้องใช้เงินมหาศาลและต้องทำการเพิ่มงบประมาณในส่วนทร.เป็น% ที่สูงขึ้น
และตอนนี้รัฐบาลกลุ่มนี้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง จึงมีความเป็นไปได้สูงที่งบประมาณในส่วนทร.จะได้รับเป็น % ที่สูงขึ้นพอควรทีเดียวภายใน 5 ปีที่จะถึงครับ
ผมมองว่า ทร. ควรถ่ายงานของอู่เรือราชนาวีไปให้เอกชนทำบ้าง เพื่อให้อู่ว่างพอที่จะรับงานแบบใหม่ๆ เช่น เรือชั้นกระบี่ลำที่ 1 , 2 ต่อที่อู่ราชนาวี ลำที่ 3 4 5 6 ต่อที่อู่เอกชน รวมถึงงานซ่อมบำรุงเรือเก่าด้วย ส่วนอู่ราชนาวีก็จะว่างสำหรับต่อเรือขนาดใหญ่ขึ้น เช่น เรือฟริเกต หรือเรือชั้นอ่างทอง หรืออาจรวมถึงการประกอบชิ้นส่วนเรือดำน้ำด้วย แต่อู่ราชนาวีต้องมีการปรับปรุงขยายขนาดอู่และอุปกรณ์ให้เพียงพอด้วยครับ
ขออนุญาติแตกประเด็นนิดหน่อยนะครับ
บนพื้นฐานความคิดของผมซึ่งก็อยากให้เราต่อเรือเองในประเทศอยู่แล้ว ก็เห็นเหมือนกับคุณ rayong เพราะว่า ลำพังถ้าขยาดอู่เรือที่ ทร.เองอย่างเดียว องค์ความรู้ ไปสู่เอกชนจะน้อยไป ถ้ามองถึงขั้นเราจะต่อ ขาย คงต้องเอกชน สัก 2 ราย เป็นคู่ค้า ทร.แล้วหล่ะครับ ห่วงที่สุดก็ เรื่อง คนนี้แหละ ไม่ว่าจะระดับ ช่างเทคนิค หรือ วิศวกร แม้กระทั้งโปรเจคเมเนเจอร์เก่งๆ อีก คลต้อง รีบ จ่าย งานให้ เอกชน ต่อ เรือ ลำ 3-6 แล้ว .... จ้างเอกชน 2 รายที่มีความพร้อม ต่อ ต่อเรือ เจ้าละ 2 ลำ ไปพร้อมที่ อู่ ทร. สร้าง เรือตรวจการไกลฝั่ง ลำ ที่ 2 เมื่อเสร็จโครงการ เรือไกลฝั่ง เราจะมี ทีม ที่พร้อม ต่อเรือ ถึง 3 เจ้า คือ อู่ทร. เอกชน1/เอกชน2 ที่นี้ก็สามารถต่ิอเรือ ตรวจการ ชั้นนี้ขายใน อาเซียน สบายเลย(ทางเจ้าของ แบบเรือเอากับเราด้วยแน่นอนครับ) แล้วอาเซียนเราก็จะมี เรือ ตรวจการไกลฝั่ง เหมือนๆกัน ที่ต่อโดยประเทศไทย
ปล.ถึงตอนโน้น ฝีมือ ก็พร้องสำหรับต่อเรือฟริเกต แล้วเป็นแน่แท้ ครับผม / ส่วนประเด็นอื่นเห็นเหมือน ป๋า ว่านั้นแหละ แนวคุณ นีโอ ผมชอบเรื่องต่อเรือครับ...แต่ก็มาห่วงเรืองคนแทน
TAF Editorial #1 - โครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูงของกองทัพเรือไทย สนามแข่งขันของผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก
(แหล่งที่มา:http://www.thaiarmedforce.com/taf-editorial/563-tafeditorial1.html)
หลังจากรอคอยมากว่าสิบปี เมื่อเดือนกันยายน 2555 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติงบประมาณให้กองทัพเรือจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูงจำนวน 2 ลำ มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท หลังจากกองทัพเรือไม่สามารถผลักดันโครงการจัดหาเรือดำน้ำ Type-206A ได้สำเร็จ
เรือฟริเกตจากโครงการนี้น่าจะเป็นเรือที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพเรือ และน่าจะเป็นเรือที่ทันสมัยที่สุดแบบหนึ่งของภูมิภาคแถบนี้ ถ้ากองทัพเรือสามารถใช้งบประมาณเต็มจำนวนที่ได้รับการอนุมัติไว้ และแน่นอนว่าโครงการนี้ดึงดูดความสนใจจากอู่ต่อเรือและผู้ผลิตระบบอิเล็กทรอนิกส์ทางทะเลชั้นนำจากหลายประเทศ ซึ่งจะต้องแข่งขันกันเพื่อให้ได้สัญญามูลค่าราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐด้วยเวลาอันจำกัด
TAF Editorial ฉบับแรกวันนี้ ขอเสนอการวิเคราะห์ถึงที่มาที่ไปของโครงการ ตัวเลือกที่อาจได้รับการพิจารณา รวมถึงความเป็นไปได้สำหรับผลลัพธ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นถ้าแบบเรือใดได้รับการคัดเลือก
หลังจากความพยายามในการผลักดันโครงการมากว่า 1 ปี ผ่านการตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมถึง 3 คน ในที่สุดกองทัพเรือก็ประสบกับความล้มเหลวในการผลักดันโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำชั้น Type-206A จากประเทศเยอรมันนี เนื่องจากคณะรัฐมนตรีไม่สามารถพิจารณาอนุมัติได้ทันตามกำหนดเส้นตายของประเทศเยอรมันนี และทำให้การนำเรือดำน้ำกลับเข้ามาประจำการในกองทัพเรือไทยอีกครั้งต้องกลายเป็นความฝันต่อไป
แต่หลังจากความวุ่นวายและความสับสนภายในกระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือเองเริ่มหมดไป ในเดือนกันยายน 2555 กองทัพเรือได้รับอนุมัติงบประมาณจำนวน 3 หมื่นล้านบาท หรือ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อจัดหาเรือฟริเกตจำนวน 2 ลำ ตามโครงการจัดหาเรือฟริเกตุสมรรถนะสูงของกองทัพเรือที่ถูกเลื่อนโครงการมากกว่า 10 ปี เนื่องจากปัญหางบประมาณ ภายหลังจากได้รับการอนุมัติงบประมาณไม่นาน กองทัพเรือก็ออกคำขอข้อมูล (Request For Information: RFI) เพื่อขอข้อมูลเบื้องต้นของแบบเรือฟริเกตุต่าง ๆ ตามความต้องการ ซึ่งตามมาด้วยการออกคำร้องขอข้อเสนอ (Request For Proposal: RFP) ในเดือนพฤจิกายน 2555 ซึ่งหลังจากนั้น กองทัพเรือและรัฐบาลจะต้องทำการเจรจากับผู้ผลิตจากประเทศต่าง ๆ ที่ตอบรับ RFP มา เพื่อลงรายละเอียดถึงข้อเสนอ ระบบอาวุธ แผนการทางการเงิน และสิ่งที่กองทัพเรือและประเทศจะได้รับ โดยตามแผนงานของกองทัพเรือนั้น คาดว่ากองทัพเรือน่าจะพร้อมที่จะส่งคำแนะนำให้คณะรัฐมนตรีตัดสินใจเลือกแบบเรือผู้ชนะได้ภายในเดือนมีนาคม 2556 ซึ่งกองทัพเรือและรัฐบาลจะต้องทำการเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้กองทัพเรือลงนามในสัญญาต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2556 นี้
ดังนั้น ณ ตอนนี้เราจึงอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายที่ประเทศผู้ผลิตแต่ละประเทศจะต้องแข่งขันกันเสนอข้อเสนอเพื่อที่จะชนะสัญญานี้ให้ได้ภายในกลางปีนี้ ซึ่งนำมาสู่ข้อสังเกตุแรกของ TAF ที่ว่า ระยะเวลานับจากการออก RFI ในราวเดือนตุลาคม 2555 จนถึงการลงนามในสัญญาในเดือนพฤษภาคม 2556 หรือเพียงราว 7 เดือนเท่านั้น ถือว่าใช้เวลาค่อนข้างสั้นและกระชั้นชิดมาก เทียบกับการจัดหาเรือในลักษณะนี้ทั่วไปซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาตั้งแต่การออก RFI จนถึงการลงนามในสัญญาถึงราว 2 - 3 ปี ตรงนี้อาจจะอนุมานได้ว่า กองทัพเรือเตรียมตัวสำหรับโครงการนี้มาช่วงหนึ่งแล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่งก็แปลว่า อู่ผู้ต่อเรือไม่น่าจะมีเวลามากพอที่จะออกแบบและนำเสนอแบบเรือแบบใหม่ให้กับกองทัพเรือ ด้วยเวลานับจาก RFI จนถึงการต้องส่งข้อเสนอตาม RFP เพียง 2 - 3 เดือนเท่านั้น ดังนั้น แบบของเรือและแผนแบบของระบบอาวุธและระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ จึงน่าจะมาจากแผนแบบที่แต่และอู่มีอยู่ในปัจจุบัน
เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า ความต้องการของกองทัพเรือใน RFP นั้นมีรายละเอียดอะไรบ้าง แต่จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า กองทัพเรือมีความต้องการเรือฟริเกตุขนาดระหว่าง 2,000 - 3,000 ตัน จำนวนสองลำ โดยอาจจะแบ่งจัดหาครั้งและ 1 ลำ (แบ่งโครงการเป็นสองระยะ) คุณลักษณะก็คือ ต้องสามารถรองรับการปฏิบัติการของเฮลิคอปเตอร์ขนาด 10 ตันได้ ต้องใช้เครื่องยนต์ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และ/หรือเครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ ต้องสามารถทำความเร็วได้สูงกว่า 25 น็อต โดยจะต้องมีระบบอาวุธคือ ปืนเรือขนาด 76 มิลลเมตร จรวดนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ จรวจนำวิถีต่อสู้อากาศยาน ปืนกล และระบบป้องกันตนเองระยะประชิดหรือ CIWS
ยังไม่มีข้อมูลมากนักว่าบริษัทใดบ้างได้ตอบรับ RFP ของกองทัพเรือไทย แต่ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ปรากฏพบว่า บริษัทเหล่านี้น่าจะตอบรับ RFP ของกองทัพเรือ
1. Lockheed Martin จากสหรัฐอเมริกา เสนอแบบเรือ Littoral-combat ship (LCS) ชั้น Freedom
2. Blohm + Voss จากเยอรมันนี เสนอแบบเรือ MEKO A-200
3. Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering (DSME) จากเกาหลีใต้ เสนอแบบเรือ DW3000H
4. Hudong-Zhonghua Shipbuilding จากประเทศจีน เสนอแบบเรือ Type-054T
Type-054A ซึ่งน่าจะเป็นพื้นฐานของ Type-054T ที่จีนเสนอให้ไทย (ภาพจาก chinesemilitaryreview.blogspot.com)
USS Freedom ในตระกูลเรือ LCs (ภาพจากกองทัพเรือสหรัฐ)ตัวเลือกของกองทัพเรือไทย ตัวเลือกทั้ง 4 คือเรือในตระกูล MEKO จากเยอรมัน DW3000H จากเกาหลีใต้ Type-054T จากจีน และ Littoral-Combat Ship ในชุด USS Freedom จากสหรัฐอเมริกาต่างมีจุดเด่นจุดด้อยที่ต่างกันออกไ
โมเดลของ DW3000H ในงาน Defense & Security 2012 ที่กรุงเทพ (ภาพโดย DSME)อีกด้านหนึ่ง ในงาน Defense & Security 2012 ที่ผ่านมา อู่ Daewoo Shipbuilding and Marine Engineering หรือ DSME ของเกาหลีใต้ได้แสดงแบบเรือชั้น DW3000H ซึ่งเสนอให้กองทัพเรือไทยพิจารณา และ
ANZAC (ภาพจาก Thales)Offset และข้อเสนอพิเศษ ตัวแปรที่ไม่อาจมองข้าม แต่นอกจากประสิทธิภาพของตัวเรือที่ต้องพิจารณาแล้ว ข้อมูลบางส่วนยังระบุว่า กองทัพเรือจะใช้ข้อเสนอด้านการชดเชยย้อนกลับและตอบแทนทางอุตสาหกรรม (Offset and Industrial Cooperation) เป็นข้อกำหนดห
รือชั้น Valour (ภาพจากกองทัพเรือแอฟริกาใต้)คงอีกไม่นานนักเราจึงจะทราบว่า แบบแผนเรือแบบใด ของบริษัทใด และประเทศไทย ที่จะได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันในครั้งนี้ และเราจะได้ทราบว่า นอกจากการที่กองทัพเรือจะได้เรือรบแบบใหม่แล้ว อุตสาหกรรมในประเทศของไ
คงต้องตามดูกันต่อไปว่า เรือชุดใดจะชนะสัญญาการจัดหาของกองทัพเรือไทยในครั้งนี้ และข้อเสนอที่ให้กับประเทศไทยนั้นมีอะไรบ้าง อีกไม่นานเราน่าจะได้ทราบกัน Reference Hodge, Nathan (30 December 2010). "Lockheed, Austal Unit Win Navy Bid". The Wall Street Journal
แต่นอกจากประสิทธิภาพของตัวเรือที่ต้องพิจารณาแล้ว ข้อมูลบางส่วนยังระบุว่า กองทัพเรือจะใช้ข้อเสนอด้านการชดเชยย้อนกลับและตอบแทนทางอุตสาหกรรม (Offset and Industrial Cooperation) เป็นข้อกำหนดหลักข้ดหนึ่งในการพิจารณา
ทั้งนี้ ประเทศไทยยังไม่มีนโยบาย Offset แห่งชาติ ซึ่งกำหนดสัดส่วนที่ชัดเจนของ Offset ที่จะต้องได้รับถ้ามีการจัดซื้อจัดหายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศถึงมูลค่าที่กำหนดไว้ ดังนั้น ที่ผ่านมา การรับ Offset และ Industrial Cooperation ของแต่ละโครงการจัดหาในแต่ละเหล่าทัพจึงค่อนข้างกระจัดกระจายและขาดการจัดการที่ชัดเจน ขาดความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น ๆ ในภาครัฐ รวมถึงขาดการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนที่เพียงพอ ดังเช่นที่ปรากฏในโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen และโครงการจัดหารถเกราะล้อยาง BTR-3E1
สำหรับในกรณีของกองทัพเรือนั้น ที่ผ่านมามีหลายโครงการที่กองทัพเรือได้รับ Offset และ Industrial Cooperation กลับมา แต่ก็ด้วยข้อจำกัดเดียวกันจากการที่ไม่มีนโยบาย Offset นั่นก็คือการไม่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนว่ากองทัพเรือ และอุตสาหกรรมในประเทศไทยจะได้รับเทคโนโลยีอะไร หรือได้รับการลงทุนเท่าไหร่เมื่อคุณกับตัวคุณทางเศรษฐศาสตร์แล้ว ทำให้ประโยชน์ที่ชัดเจนและจับต้องได้เพียงอย่างเดียวจากโครงการที่ผ่าน ๆ มาก็คือการเปิดโอกาสให้อู่ในประเทศได้รับเทคโนโลยีการต่อเรือ ได้งานจากกองทัพเรือ และได้รับงานในการบูรณาการณ์ระบบบนเรือบางระบบ โดยมูลค่าของ Offset และ Industrial Cooperation ที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับข้อเสนอของผู้ผลิตเท่านั้น แต่ก็นับว่าโครงการของกองทัพเรือหลายโครงการมีการจัดการที่ดีกว่าโครงการอื่น ๆ ของแต่ละเหล่าทัพ
สำหรับโครงการจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูงในครั้งนี้ มีข้อมูลจากหลายแหล่งระบุว่า กองทัพเรือและรัฐบาลต้องการได้รับ Offset และ Industrial Cooperation ซึ่งข้อเสนอ Offset ของผู้ผลิตจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกแบบเรือผู้ชนะ ซึ่งถือว่าเป็นการก้าวไปอีกขั้นในการยกระดับความสำคัญของ Offset และ Industrial Cooperation จึงทำให้มีความเป็นไปได้ว่า อาจมีข้อเสนอที่เปิดโอกาสให้อู่ในประเทศเช่น อู่กรุงเทพ ทำการต่อเรือฟริเกตชั้นนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่จะทำให้อู่ในประเทศได้พัฒนาทักษะในการต่อเรือฟริเกต จากที่ผ่านมาเคยทำการต่อเรือขนาดเล็กและเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเท่านั้น และทำให้เกิดการจ้างงานในประเทศ รวมถึงเป็นประสบการณ์ที่อู่ในประเทศสามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของตนและสร้างโอกาสในการรับงานจากทั้งในและต่างประเทศได้ในอนาคต
แต่ทั้งนี้ อุปสรรคที่สำคัญก็คือความพร้อมของอู่ในประเทศเอง โดยอู่เอกชนส่วนใหญ่นั้นมีขนาดเล็กเกินกว่าจะที่ต่อเรือขนาด 2 - 3 พันตันได้ ส่วนอู่กรุงเทพซึ่งเช่าอู่ราชนาวีมหิดลอดุลเดชในการต่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งนั้นก็ยังประสบปัญหาความไม่พร้อมของอุปกรณ์และเครื่องมือในการต่อเรือในระดับนี้ การลงทุนจัดซื้อเครื่องมืออาจทำให้ราคาค่าต่อสูงขึ้นจนกดดันการจัดสรรงบประมาณได้ รวมถึงความไม่พร้อมด้านสถานที่ ที่อู่ราชนาวีมหิดลอดุลเดชมีอู่ขนาดใหญ่เพียงอู่เดียว เนื่องจากการสร้างอู่แห่งที่สองด้านข้างอู่แห่งแรกนั้นยังไม่ได้รับการอนุมัติ การต่อเรือฟริเกตอาจต้องใช้เวลาหลายปี ซึ่งอาจส่งผลประทบต่อการซ่อมบำรุงเรือต่าง ๆ ที่กองทัพเรือมีใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรือหลวงจักรีนฤเบศรและเรือหลวงสิมิลันที่จำเป็นต้องใช้อู่ราชนาวีมหิดลอดุลเดชในการซ่อมทำใต้แนวน้ำเท่านั้น เพราะตัวเรือมีขนาดใหญ่มากจนอู่อื่นไม่สามารถรับงานได้
การต่อเรือในประเทศจึงมีโอกาสไม่มากนักที่จะเกิดขึ้น เว้นแต่ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมในการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือ และอาจจะต้องจัดสรรงบประมาณในการสร้างอู่แห่งที่สองเพิ่มเติม
ความเป็นไปได้สำหรับ Offset และ Industrial Cooperation ในโครงการนี้จึงอาจจะอยู่ที่การเปิดโอกาสให้บริษัทไทยทำการบูรณาการณ์ระบบอาวุธและระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเรือในชุดนี้ ในลักษณะเดียวกับที่กองทัพเรือได้ให้ Saab ร่วมมือกับ Avia Satcom ในการบูรณาการณ์ระบบอำนวยการรบ 9LV เข้ากับระบบตรวจจับและระบบอาวุธของเรือชุดเรือหลวงนเรศวรที่กำลังทำการปรับปรุงอยู่ในขณะนี้ นอกจากนั้น ประเทศผู้ผลิตอาจถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่วนบางชิ้นที่ไทยมีความสามารถในการผลิตได้ เพื่อทำการผลิตสนับสนุนการต่อเรือชั้นนี้ ซึ่งถ้ากองทัพเรือและรัฐบาลทำการเจรจาให้บริษัทผู้ผลิตซื้อชิ้นส่วนเหล่านั้นไปเป็นชิ้นส่วนและอะไหล่มาตราฐานของอุปกรณ์นั้นที่ผลิตจากประเทศผู้ผลิตได้ ก็จะทำให้บริษัทไทยสามารถเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตระดับโลก ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสและผลักดันให้อุตสาหกรรมทางทหารของไทยสามารถเติบโตได้ ดังเช่นที่ไทยใช้โมเดลนี้ได้อย่างประสบความสำเร็จยิ่งกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย
คงอีกไม่นานนักเราจึงจะทราบว่า แบบแผนเรือแบบใด ของบริษัทใด และประเทศไทย ที่จะได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันในครั้งนี้ และเราจะได้ทราบว่า นอกจากการที่กองทัพเรือจะได้เรือรบแบบใหม่แล้ว อุตสาหกรรมในประเทศของไทยจะได้รับประโยชน์อะไรจากการจัดหาในครั้งนี้บ้าง
ตัวเลือกที่น่าจะเป็นไปได้น้อยที่สุดก็คือเรือชั้น USS Freedom ของตระกูล LCS ของสหรัฐ เนื่องจากมีการออกแบบระบบอาวุธและระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ต่างจากมาตราฐานของกองทัพเรือไทยค่อนข้างมาก ตัวเลือกจึงน่าจะเหลืออยู่ที่สามประเทศที่เหลือ ซึ่งน่าจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป เช่นเรือชุด MEKO จากเยอรมันจะมีจุดเด่นที่การออกแบบที่ทันสมัยและคุณภาพของตัวเรือที่เป็นที่ยอมรับ DW3000H น่าจะมีจุดเด่นที่การที่กองทัพเรือไทยสามารถได้เรือมาตราฐานตะวันตกในราคาที่ไม่แพงนัก ส่วน Type-054T มีจุดเด่นที่ราคาซึ่งทางจีนเสนอเรือให้ถึง 3 ลำ พร้อมข่าวที่ว่าทางจีนจะแถมเฮลิคอปเตอร์ Z-9 อีก 6 ลำ ทั้งหมดภายในวงเงินเดิมที่รัฐบาลอนุมัติให้กองทัพเรือไทย
เราไม่มีข้อมูลว่าประเทศแต่ละประเทศเสนอ Offset และ Industrial Cooperation ใดบ้างให้กับไทย แต่คาดว่าผู้ผลิตจากสหรัฐน่าจะมีข้อจำกัดด้านการเสนอ Offset มากที่สุดเนื่องจากกฏระเบียบที่เข้มงวดของทางสหรัฐเอง รองลงมาน่าจะเป็๋นผู้ผลิตจากเยอรมัน ส่วนประเทศที่น่าจะมีปัญหาน้อยที่สุดก็คือเกาหลีใต้และจีนที่พร้อมจะใช้ Offset เป็นตัวนำในการขายและแสวงหาความร่วมมือในการพัฒนาทางด้านการทหารใหม่ ๆ จากต่างประเทศ
TAF จึงขอให้คะแนนเรือแต่ละชุดคร่าว ๆ ตามความเห็นของเราดังนี้
คงต้องตามดูกันต่อไปว่า เรือชุดใดจะชนะสัญญาการจัดหาของกองทัพเรือไทยในครั้งนี้ และข้อเสนอที่ให้กับประเทศไทยนั้นมีอะไรบ้าง อีกไม่นานเราน่าจะได้ทราบกัน
ขอบคุณมากนะครับท่านคนไทยรักชาติ และขอขอบคุณเวป TAF เพื่อนบ้านที่แสนสนิทกันกับชาว TFC
หวังว่าเสียงสะท้อนจากทั้ง TFC TAF จะดังไปถึงรัฐบาลและกองทัพเรือนะครับ Offset ทางอุตสาหกรรมน่าจะทำให้การต่อต้านการจัดหาอาวุธในโครงการใหญ่ๆลดลงไปเป็นอย่างมากทีเดียว เพราะรัฐบาลและกองทัพสามารถตอบข้อสงสัยต่างๆจากนักข่าวและประชาชนได้เต็มปากเต็มคำ และถ้ารัฐบาลสนองแนวคิดนี้ อยากให้รัฐบาลหางบลงทุนอู่ราชนาวีโดยด่วนครับ เอาให้ทัดเทียม สิงคโปร์และเวียตนามเลย
ถ้าดีลนี้ใช้ Offset เป็นตัวตัดสินหลักตัวหนึ่ง และให้ผลตอบแทนทางอุตสาหกรรมสูงและได้รับการยอมรับจากสังคมเป็นอย่างมาก เพราะผลักดันขีดความสามารถทางอุตสาหกรรม เมื่อดีลนี้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการจัดหาอาวุธมูลค่าสูงๆของเหล่าทัพต่างๆในกาลต่อไปแน่นอนครับ
ปล. ถ้าทร.ดันโครงการเรือดำน้ำได้สำเร็จจริง สัก 3-4 ลำ น่าจะขอ offset แบบนี้เช่นกัน เช่น ต่อเรือดำน้ำในประเทศเอง 2 ลำ จาก 4 ลำพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการต่อเรือดำน้ำเป็นต้น
ผมพยายามจะ เอารูปตางเปรียบเทียบ ค่าคะเเนน ลง นี้ครั้งที่ 3 เเละ ไม่รู้ได้หรือป่าว..
TAF จึงขอให้คะแนนเรือแต่ละชุดคร่าว ๆ ตามความเห็นของเราดังนี้
121
รวบรวมข้อมูล ความเป็นไปได้ในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการปราบเรือดำน้ำ ให้เรือฟริเกต ชุดเจ้าพระยา ทั้ง 4 ลำ ครับ
เมื่อวันที่
๑๒ ก.พ.๕๖ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล อิเล็คทรอนิกส์ แอนด์ ดีเฟ้นซ์ นำเจ้าหน้าที่ของบริษัท J+S Limited สหราชอาณาจักร
มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Torpedo Launch Systems ระหว่างเวลา ๑๐๓๐ - ๑๑๓๐ ณ ห้องประชุม สยป.ทร.
จากเว็บ http://www.navy.mi.th/namo/index.php?option=com_content&view=article&id=324:torpedo-launch-systems&catid=44:front-page&Itemid=95
ซึ่งมีตัวอย่างแบบเรือฟริเกตกับเรือดำน้ำด้วยเช่นกันนะครับ อยากทราบว่า ประเทศอังกฤษ ได้ทำการส่งแบบเรือในการแข่งขันคราวนี้หรือปล่าว อ่ะครับ
ไม่มีใครพูดถึงตัวนี้เลย ของฝรั่งเศษ FREMM ถ้าเทียบกันแล้วก็ไม่เลวนะครับ
FREMM
fremm นี่ไม่เลวเลยครับ โคตรดีเลยแหละครับระดับต้นๆของโลกเลย
ที่ไม่พูดถึงเพราะ เขาไม่ได้เสนอขายเราก็ไม่มีตังซื้อหรอกครับ ลำใหญ่คนละคลาสกับที่เราเล็งไว้ครับ คงไม่อาจเอื้อม
เพิ่งประจำการได้ลำเดียว
เรือฟริเกต ชุดเจ้าพระยา ทั้ง4ลำ แล้วผมสงสัยอยู่อย่างนึงนะครับ ทำไมเขาถึงไม่มีการปรับปรุง ระบบ อาวุธปืนหลักและลอง ให้เหมือนกันอ่ะครับ ทำไมถึงมีการปรับปรุงเฉพาะ ร.ล.กระบุรี และ ร.ล.สายบุรี
กระทู้เงียบมานานเลยครับ มีท่านใดพอจะมีข่าวคราวบ้างไหมครับ?
จากข่าวสถานการณ์เกาหลีเหนือ และสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ ผมขอเดาเอาว่า เรือเกาหลี เรือจีน คงได้ดีลนี้ยาก ยกเว้นมาต่อในไทยทั้งหมด (ก็ยังเสี่ยงนิดๆเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องสั่งจากเกาหลี จีน โดยตรง) ดังนั้นตัวเลือกน่าจะเป็นสิงค์โปร์ โดยในงบประมาณ 30,000 ล้านน่าจะได้เรือฟริเกต 2 ลำ (ปรับปรุงใช้ระบบอาวุธสหรัฐ) แถมเรือชั้นอ่างทองอีก 1 ลำ และอาจมีเศษงบประมาณเหลือไปจัดหาอาวุธอื่นๆ เช่น ฮ.ปราบเรือดำน้ำสัก 1-2 เครื่องก็ได้ แต่จะมี option ต่อในไทยด้วยหรือเปล่าก็อยู่ที่การต่อรอง หรืออาจมีแถมเรือดำน้ำฝึกที่จะปลดประจำการ 1 ลำด้วยก็เป็นได้ครับ (ผมเดาล้วนๆ ครับ) ส่วนของเยอรมันถึงอยากได้แต่แพงมากเกินไป ครับ
สุดท้ายขอเชียร์ ทร. ให้ได้ของเต็มเม็ดเต็มหน่วยสักที ครับ
มาตรฐานต่อเรือของสิงคโปร์กับเกาหลีถ้าเทียบกันไม่ทราบว่าของที่ไหนเกรดดีกว่ากันครับ? ท่านใดพอมีข้อมูลบ้างไหมครับ?
ที่ปรับปรุงเฉพาะกระบุรีกับสายบุรีน่าจะเป็นเพราะงบฯน้อยต้องเจียดก็เลยเลือกสองลำนี้ เพราะมีดาดฟ้าเอาฮ.ลงได้ ขณะที่เจ้าพระยากับบางปะกงมีปืนหลังแทน
สรุปคือชั้นกระบุรีมีคุณค่าทางยุทธวิธีมากกว่า
ซึ่งผมว่าดีไซนแบบมีปืนทั้งหน้าและหลังไม่ค่อยจะเป็นแนวคิดที่ดีเท่าไหร่ เพราะสงครามทางเรือสมัยนี้ปืนเป็นอาวุธรองหรือใช้ยิงสนับสนุนโจมตีชายฝั่ง ส่วนใหญ่จึงติดปืนเรือไว้แค่ทางด้านหน้าเท่านั้น การติดปืนใหญ่ทั้งหน้าทั้งหลังเรือมันเกินจำเป็นถ้าต้องแลกกับการสูญเสียความสามารถเอาฮ.ขึ้นลง
ได้ อ่านไปทุกเว็บ เกี่ยวกับทางทหาร เห็นเขาบอกกันว่า ทร.จะเชิญชวนบริษัทอู่เรือ จำนวน 13 บริษัทมาเสนอแบบเรือ ใครพอจะทราบมั้งว่า มีเรือแบบ จากที่ไหนมั้งอ่ะครับ
Chinese new high Performance Frigate Export pakitan
พอดีไปเจอเรือจีนออกใหม่ไม่ทราบรุ่น หน้าตาคล้าย Freedom
ยาว 135 เมตร
กว้าง 15.3 เมตร
หนัก 3700 ตัน
ความเร็ม 28 น็อต
ขีปนาวุธ FL-3000N
http://3.bp.blogspot.com/-jiM6Hdf2u-k/UVJfJFbTaqI/AAAAAAAAZH0/uQ2XUpA32DY/s1600/Chinese+New+High+Performance+Frigate+export+pakistaChinese+New+High+Performance+Frigate+(1).jpg
Special Soccer Offers
Kate Spade Shoulder Bags
Palace Jackets Outlet UK
Pandora Necklaces Cheap For Sale
Shop Ralph Lauren Winter Clothes
New Ed Hardy Products
Fashion Air Max 97 Store
Official Adidas Yeezy Boost Online Website
Kate Spade New York
Golden Goose High Tops
Ed Hardy Reliable Quality
Salomon Speedcross GTX for men
ED Hardy Shop Online
Christian Audigier Online
Pandora Gifts Amazing Selection
Salomon Shop
Polo Ralph Lauren UK Outlet
Coach Tote Outlet Online Europe
Slim Fit Adidas Shoes
Ed Hardy Love Kill Slowly
Adidas Shoes USA Factory Outlet
Nike Air Max 90 For Women
Newest Adidas Ultra Boost
Cheapest Polo Ralph Lauren Price
Soccer Jersey Outlet
Ralph Lauren Polo outfit for women
Cheap Pandora Earrings
Exclusive Range Air Jordan
Nike Air Max US In Store
Coach Wallets Outlet USA
Large Discount Nike Air Jordan 1 High
Adidas Yeezy Boost Sale
Air Jordan Low For Cheap
coach crossbody designer
Cheap Clothes Women Ralph Lauren
Coach Handbags UK Shop
Kate Spade Crossbody
Nike Blazer Ship Japan
Adidas Yeezy Boost Sale
Pandora Earrings Sale
Adidas Ultra Fabric
Coach Clutches Projects Sale
Off White Factory Store
us Coach leathers
Air Jordan 1 High New Style
Pandora Necklaces Free Shipping
Outlet Adidas NMD Online
Golden Goose High Tops
49ers NFL Jerseys
Nike Air Max US Top For Women
NFL Jerseys Players Number
Pandora Charms 14K
Kate Spade Carry On Sale
Ed Hardy For Women
cheap big coach
New York Nike Blazer On Sale
USA Adidas NMD Boost For Women
Nike Blazer USA Factory
Nike Blazer Buy White
Nike Air Shoes Outlet
USA Ralph Lauren Vest Men
Shop Ralph Lauren Polos Best Sellers
Nike Air Jordan New York
Nike Air Max Shoes Big Size
Ed Hardy Jeans outlet shop online
Ralph Lauren Body Warmer Vest
PRL Jackets Outlet Locations
Reasonable Price Ralph Lauren
USA Adidas Ultra Boost UK
discountable price Coach
Nike Air Jordan USA
Nike Blazer Top Designer Collections
Ralph Lauren Jackets
Ralph Lauren USA UK
OFF White USA Top Brand Wholesale Online
Salomon Speedcross Plus
Adidas Boost Outlet Sale
Golden Goose Sneakers White
Large Discount Golden Goose Francy
ED Hardy Cheapest Online Price
Supreme Sweatshirts Europe
Hogan Sneakers Reasonable Sale Price
Air Jordan Black And Yellow
Sale Adidas Yeezy Online
Ralph Lauren Cheap Prices
Mens Supreme Clothing
Soccer Jerseys Online Shop
Polo Ralph Lauren Jackets
Coach handbags new york
Pandora Earrings
Home Pandora Necklaces UK
Champion Factory Outlet Price
Polo Ralph Lauren Mens Clothing
US Mens Nike Kobe Shoes
Red And Black Nike Air Jordan
Golden Goose $150
Aherf Code www.DIYHomeImprovements.us www.AboutBusiness.us www.AboutEducation.net www.AboutFinancing.net www.AboutHealthConditions.com www.AboutLaw.net www.AboutrealEstate.us www.AboutSports.net www.AboutStateLaw.com www.AboutTraveling.net www.AutoMotiveDemand.us www.AutoMotiveDesign.us www.AutoMotiveMarkets.us www.AutoMotiveTrends.net www.BabyCareCenter.us www.BabyItem.us www.BasicHealthCare.net www.BasicsSeo.com www.BusinessAdvantages.net www.BusinessEducationSkills.com www.BusinessesTypes.net www.BusinessExpertise.us www.BusinessHelps.us www.BusinessPoints.us www.BusinessProject.us www.BusinessSteps.us www.BusinessTracks.net www.BuyingAutoMotive.com www.ChooseBusinessIdea.com www.CitizenInsurance.us www.CulturalEducation.us www.CurrentBusiness.us www.CurrentServices.us www.CurrentTechnologies.us www.CustomHomeDesigns.us www.EducationalEvents.us www.EducationCenters.net www.EducationPlatform.us www.EducationSupport.us www.ExpertTravelAdvice.us www.FashionExpert.us www.FashionsTrend.net www.FinanceDeposit.com www.FinanceInvest.us www.FinanceLoans.us www.FinanceOffers.us www.FinancePolicy.us www.FinanceTerms.net www.FinanceTrack.net www.FinanceType.us www.FinanceVolume.com www.FindTopRealEstate.com www.FoodsBlogs.com www.FoodTaste.us www.GeneralAdviser.us www.GeneralBlog.us www.GeneralForums.net www.GeneralHealthCare.net www.GeneralLaws.us www.GeneralListed.com www.GeneralServicePoint.com www.GeneralSkill.net www.GeneralSurvey.us www.GeneralTask.us www.GetBusinessServices.com www.GetHealthTips.net www.GetServices.us www.GroupTravelTours.us www.HealthCareNeeds.net www.HealthCaresCenter.com www.HealthChart.us www.HealthControl.us www.HealthFactors.us www.HealthGoals.us www.HealthTopics.us www.HealthyLifeCycle.us www.HealthyLivingGuide.net www.HealthyPlan.us www.HealthyTask.us www.HomeChoices.us www.HomeItem.us www.HomesBuild.net www.HomesExpert.net www.HomesExpo.us www.HomesInspiration.net www.HomesPatio.com www.HomesRenovations.net www.HomesSafety.net www.HomesTrend.us www.ImproveBusinesses.com www.InsuranceContract.net www.InsurancePolicies.us www.InsuranceProvider.us www.InsuranceRules.net www.InsuranceTypes.net www.JobsSectors.us www.LatestBusiness.net www.LatestTechnology.us www.LawAct.us www.LawAdvising.net www.LawCourses.us www.LawExpert.us www.LawOrders.net www.LawProject.us www.LawSkilled.com www.LawTraining.us www.LuxuryAutoIndustry.com www.LuxuryWedding.us www.ModernFashion.us www.ModernFashionIdeas.com www.ModernFashionStyle.net www.NewsArticles.us www.NewsData.us www.OnlineFinancing.us www.OnlineShoppingIdeas.com www.ParentingBlogs.us www.ParentingCareTips.com www.ParentingSkills.us www.PetsBenefit.us www.PetsExpert.net www.PetsSafety.net www.PetsSkills.com www.PetsTrend.us www.PlanDreamWedding.com www.PropertyKey.us www.RealEstateCenters.us www.RealEstateDemands.com www.RealEstateExpert.us www.RealEstateImpact.net www.RealEstatePoint.us www.RealEstateProjects.us www.RealEstateTypes.net www.SafelyTravel.us www.SelectProperty.net www.SelfInsurance.us www.SeoTypes.us www.ServicesAgency.net www.ServicesCenter.net www.ServicesDemand.com www.ServicesSupport.us www.ShoppingBrands.us www.ShoppingCoupon.us www.ShoppingItems.net www.ShoppingOutlets.net www.ShopppingMarket.us www.SmartAutoMotive.us www.SmartHomeTips.us www.SocialHealthServices.com www.SportsExpert.us www.SportsFitness.us www.SportsHighlight.net www.StylishHomes.us www.StylishWedding.net www.SupportingInsurance.com www.TechFactor.us www.TechnologyBenefit.net www.TechnologyGadget.net www.TechnologyRole.com www.TechUpdates.us www.TopTravellingPoints.com www.TravelCruise.net www.TravelerService.us www.TravelHabits.us www.TravelPlannings.com www.TravelPrograms.net www.TravelRules.us www.TrendyHomeIdeas.com www.TypesofEducation.com www.TypesOfSports.com www.UniqueBusiness.us www.UniqueBusinessIdea.net www.UniqueHomesDecor.com www.UsingSmartTechnology.com www.VehicleExpert.net www.VirtualJobsNews.com www.WeddingEvents.us www.WeddingGiftIdea.net www.WeddingServices.us
ralph lauren outlet online
Jimmy Choo Slingbacks
Ecco Shoes
Golden Goose Size
Tory Burch Purse
New York Men's Ralph Lauren Polos
Ed Hardy Shopping
Air Jordan Low For Cheap
Ed Hardy USA
Cheap Jordan Shoes
ralph lauren polo
Cheap Nike Jordan
Fjallraven Canada
Jimmy Choo Slingbacks
Nike Blazer Buy White
Cheap Snapbacks
Tods Moccasins
Pandora Gifts Amazing Selection
Asics Onitsuka Mexico Shoes
Oakley Sunglasses Wholesale
Pandora Best Sellers
Swarovski Jewelry
Ecco Sneakers
Fashion Air Max 97 Store
Newest Adidas Ultra Boost
Sale Birkenstock USA
MontBlanc Meisterstuck
Juicy Couture
Asics Onitsuka Tiger
Pandora Bracelets Sale
Golden Goose Sneakers
Birkenstock Vaduz
Salomon Speedcross GTX for men
Nike Air Jordan 4 Internship
Ferragamo Shoes
Adidas Yeezy Boost Sale
Golden Goose Shoes
Tory Burch Outlet
Pandora Jewelry Official Site
Toms Sandals
Tods Loafers
Large Discount Nike Air Jordan 1 High
Fitflop Summer
Jersey Soccer
Salvatore Ferragamo Outlet
Swarovski Pens
Nike Blazer USA Factory
Discount Adidas NMD Outlet
Skechers Walking Shoes
NFL Jerseys Dallas Cowboys
Online Adidas Ultra Store
adidas neo shoes
Nike Blazer Top Designer Collections
Adidas Soccer Shoes Outlet
Save Up Pandora Bracelets
Puma Fluxion
Buy Snapbacks Caps
Fitflop Rokkit
Golden Goose Francy
ECCO Collection
Nike Air Max 97 Outlet
Huge Ed Hardy Discount
Ed Hardy Tank authentic quality
Wholesale Ed Hardy T-Shirts
Pandora Outlet Online
Polo Ralph Lauren
Ralph Lauren Polo Exclusive Deals
New York Nike Blazer On Sale
Christian Louboutin Red Bottoms
Fitflop Sling
Balenciaga Sneakers
Buy Snapback
Longchamp Backpack
cheap prices Ed Hardy UK
New Jimmy Choo
USA Adidas NMD Boost For Women
Puma Michael Schumacher
Fjallraven Classic
Birkenstock Sandals
Ed Hardy Hoodies
Bape Hoodies
Ralph Lauren Cheap Prices
Skechers Sandals
Adidas Shoes USA Factory Outlet
Salvatore Ferragamo Outlet
Polo Ralph Lauren Hot Sale
Fjallraven Classic
Adidas Online Shop
Jimmy Choo Boots
Nike Air Max US Top For Women
Balenciaga Sneakers
Longchamp Le Pliage
polo ralph lauren outlet
Nike Air Max Shoes Big Size
Adidas Boost Outlet Sale
Cheapest Soccer Jersey Price
Toms April Fools
Cheap Country Jerseys
Juicy Couture Wallets
ralph lauren polo shirts
Mulberry Handbags
Salomon Boots
Longchamp Handbags
Oakley Eyeglasses
Balenciaga Sale
Denmark Adidas NMD Boost
adidas outlet
Asics Gel Nimbus
Oakley Sunglasses
Snapbacks Hats
Polo Ralph Lauren Black White
Nike Air Max 90 For Women
Adidas Yeezy Boost
Ralph Lauren Dress For Women
Longchamp Tote
Air Jordan High USA Sale
adidas nmd boost
Large Discount Golden Goose Francy
Pandora Rings
Converse Outlet
Bape Jackets
Salomon Running Shoes
Pandora Charms Sale Clearance
US Mens Nike Kobe Shoes
Mulberry Satchel Bag
Ralph Lauren Jackets
Spain Football Jerseys Low Price
Polo Ralph Lauren USA Factory Outlet
Polo Ralph Lauren Authentic
Pandora Rings Jewelry
Adidas Football Jerseys
Nike Soccer Shoes
Nike Air Max
Polo Ralph Lauren Save up to
Exclusive Range Air Jordan
Nike Air Max US In Store
Stores Oakley Sunglasses
True Religion Straight Leg Jeans
Discount Oakley Sunglasses
Nike Air Shoes Outlet
Polo Ralph Lauren
Bape Clothing
Special Soccer Offers
Ferragamo Handbags
Genuine Ed Hardy T Shirts
Slim Fit Adidas Shoes
Cheap NFL Jerseys From China
Fjallraven Outlet
Nike Indoor Soccer Shoes
Salomon Speedcross Plus
Christian Louboutin Sneakers
Fitflop Outlet
Men's True Religion
Christian Louboutin Platforms
Longchamp Large Pliage
Ed Hardy T Shirts USA
salomon shoes
Official Nike Soccer Jerseys Online
USA Adidas Ultra Boost UK
Womens Fitflop
Pandora Gift Official Site
Fila Jackets
Onitsuka Tiger Mexico 66
NFL Jerseys Wholesale
Salomon Speedcross Pro
Nike Kobe Factory Wholesale Prices
Air Jordan 1 High New Style
Montblanc
Polo Ralph Lauren Competitive Price
Balenciaga Speed Trainer
Birkenstock Riva
Nike Soccer Shoes Outlet
Converse Unisex All Star
Polo Ralph Lauren New York Discount
Salomon Snowcross
Bape Jackets
Nike Blazer Ship Japan
Pandora Rings
Longchamp Bags