ก่อนเริ่มต้นสงครามโลก อิตาลี มหามิตรของเยอรมันต้องการที่จะแผ่ขยายอำนาจเหนือเมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกาเหนือ โดยในปี1935 อิตาลีได้ยาตราทัพยึดครองเอธิโอเปีย และถอนตัวจากสันนิบาติชาติ เข้าร่วมกับกลุ่มภาคีชาติอักษะ เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองระเบิดขึ้น มุสโสลินี ผู้นำอิตาลี ทราบว่าต้องได้เข้าทำสงครามร่วมกับเยอรมันเป็นแน่ แต่ยังไม่ไว้ใจในกำลังทหารของเยอรมัน แต่ในการรุกใหญ่ของเยอรมันต่อกลุ่มประเทศต่ำ(เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก เนเธอแลนด์) และฝรั่งเศส ซึ่งเยอรมันมีชัยอย่างรวดเร็ว ทำให้มุสโสลินีตัดสินใจประกาศสงครามกับอังกฤษและฝรั่งเศสในวันที่10มิถุนายน 1940 และยกทัพเข้าโจมตีภาคใต้ของฝรั่งเศส การกระทำของอิตาลีครั้งนี้ ประธานาธิบดิรุสเวลล์ ถึงกับกล่าวว่า " อิตาลีได้กำมีดสั้นไว้ในมือ และจ้วงแทงเพื่อนบ้านอย่างโหดเหี้ยมที่สุด "
หลังฝรั่งเศสแพ้ ทำให้อังกฤษต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวนอกจากจะต้องรับมือกองทัพเยอรมันในยุโรปแล้ว ยังต้องมารับมือกับอิตาลีในเมดิเตอร์เรเนียนอีก กองทัพเรืออิตาลีนั้น นับว่าเป็นกองทัพเรืออันดับ4ของโลก แต่ก็เป็นกองทัพเรือที่ทรงอานุภาพที่สุดในประเทศภาคพื้นเมดิเตอร์เรเนียน สิ่งหนึ่งที่อังกฤษหวาดกลัวคือ อิตาลีหรือเยอรมันอาจจะยึดเอาเรือรบของฝรั่งเศสที่พ่ายแพ้มาใช้ประโยชน์ จึงต้องเร่งไล่จับกุมหรือจมเรือฝรั่งเศสด้วย
การต่อเรือประจัญบานชั้นวิตตอริโอของอิตาลี ทำให้สมดุลทางทหารในเมดิเตอร์เรเนียนของอิตาลีเทียบเท่ากับอังกฤษทันที อังกฤษ จึงส่งเครื่องบินทะเลเข้าทิ้งตอร์ปิโดโจใตกองเรืออิตาลีที่จอดในท่าเรือเมืองโตรอนโต เมื่อวันที่11พฤศจิกายน 1940 ทำให้อิตาลี สูญเสียกองเรือผิวน้ำเป็นจำนวนมาก
ถึงอิตาลีจะเสียเรือรบจำนวนมากที่โตรอนโต แต่กองเรืออิตาลีที่เกาะซิซิลีและเนเปิลส์ยังเข้มแข็งดีอยู่ แม้ว่าอังกฤษจะส่งกองบินทิ้งตอร์ปิโดโจมตีอย่างหนักก็ตาม
จนกระทั่งปลายเดือนมีนาคม 1941 วันที่29 กองทัพเรืออังกฤษจึงได้ปะทะกองกองทัพเรืออิตาลีที่แหลมมาตาปัน ตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะครีตผลคือ การปะทะครั้งนั้น สมรรถภาพของทหารเรืออิตาลีนั้นด้อยกว่าอังกฤษ จึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ราบคาบ ผลของยุทธนาวีครั้งนี้ทำให้กองทัพเรืออิตาลีอ่อนลงทันที ปฏิบัติการของกองเรือผิวน้ำอิตาลีลดลง เหลือแต่ปฏิบัติการของเรือดำน้ำและเครื่องบินเท่านั้นที่ยังโจมตีอย่างหนักอยู่
แต่ทว่า การส่งกำลังของอังกฤษไปช่วยเหลือกองทัพอังกฤษในแอฟริกาเหนือผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนก็ยังยากลำบากอยู่มาก ถ้าจะส่งกำลังผ่านช่องแคบยิปรัลต้าไปในเมดิเตอร์เรเนียนก็ถูกโจมตีจากเรือรังควานของเยอรมันและอิตาลี ทางที่ปลอดภัยคือยกทัพอ้อมแหลมกู้ดโฮป แอฟริกาใต้ไป ทำให้เสียเวลาอย่างมาก
แต่ความผิดพลาดของเยอรมันและอิตาลีคือ ทั้งสองชาติไม่มีการยกทัพเข้ายึดครองเกาะยิปรัลต้า ฐานทัพเรืออังกฤษ และเกาะมอลต้า ศูนย์กลางการเดินเรือในเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้อังกฤษสามารถเกาะทั้งสองแห่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการรบในเมดิเตอร์เรเนียนได้
อย่างไรก็ตาม ปลายปี1942 เยอรมันและอิตาลีก็ตัดสินใจที่จะโจมตีเกาะมอลต้าอย่างจริงจัง โดยได้ส่งกำลังเข้าโจมตีทางอากาศกว่า3,200ครั้ง แต่เกาะมองต้า ก็ต้านทางอย่างหนัก
ภาพเรือประจัญบาน "วิตตอริโอ เวเนโต" ของกองทัพเรืออิตาลี ในการรบที่แหลมมาตาปัน แม้เรือวิตตอริโอ เวเนโต จะไม่ได้จมในการรบ แต่เรือรบจำนวนมากของกองทัพเรืออิตาลีก็ได้จมและเสียหายอย่างหนักในการรบครั้งนี้ ทำให้สมรรถภาพในการรบทางทะเลของอิตาลี ง่อยเปลี้ยลงไปอย่างถนัดตา
บทความจาก : http://hun-yuri.exteen.com/20070412/entry
คลิปยกพลขึ้นบกเกาะอิโวจิมา
rep. แรก คลิปไม่ขี้นแฮะ
แก้ไข คลิปสมรภูมิมอลต้า
คลิปนี้ที่เกาะอิโวจิมาเหมือนกัน
คลิปวัน D-day
คลิปวัน D-day จาก history channel
คลิปวัน D-day ที่หาดนอร์มังดี ในมุมถ่ายของนาซีเยอรมัน
เท่าที่ดูอีตาลีรบที่ไหนแพ้มันทุกที่จนเยอรมันต้องเข้ามาช่วย จริงๆแล้วน่าจะอยู่เฉยมากกว่าไม่น่าเข้ามาร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองด้วยเลย อยู่ดีไม่ว่าดีแท้ๆ