ข่าวเพิ่มเติม ครับ
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ทหารไทย ชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่งไปยังหน่วยทหารพรานฐานปฎิบัติการไทยชนะ ชุดปฎิบัติการที่ 52 ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ อ.กาบเชิง ไม่อนุญาตให้ประชาชนชาวไทย และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวช่องปลดต่าง หลังพึ่งเปิดให้มีการท่องเที่ยวได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลถึงความปลอดภัย ของประชาชนที่จะเดินทางเข้าไปยังช่องปลดต่าง ซึ่งจะทำให้การปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหาร ไม่สะดวก เกรงประชาชนจะได้รับอันตราย
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณใกล้กับจุดชมวิวช่องปลดต่าง พบว่า ทหารกัมพูชา ได้นำครอบครัว มาปักหลักสร้างบ้านพัก ใกล้แนวชายแดน เพื่อเป็นโล่มนุษย์ และชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้มีการทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังฝ่ายทหารกัมพูชา แต่ยังไม่มีการดำเนินการรื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายออกไปอย่างไรก็ตามสถานการณ์ชายแดนโดยทั่วไปยังคงเป็นปรกติ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทตาควาย ต.บักได และปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรักฯได้ตามปรกติ แม้จะพบว่าขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวลดลงมากก็ตาม หลังเกิดกระแสข่าวชายแดนขึ้นมาอีกครั้ง
ด้าน นายดอก ยั่วยวนดี อายุ 44 ปี ผญบ.ไทยนิยมพัฒนา ต.บักได อ.พนมดงรัก ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาควายประมาณ 7 กิโลเมตร กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่หลังได้ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชาที่มีการจุดชนวนขึ้นมาอีกครั้ง ตามสื่อทีวีและสื่อต่างๆ ชาวบ้านต่างก็รู้สึกหวั่นวิตกพอสมควร เพราะภาพสงครามและเสียงลูกระเบิดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมายังติดตาอยู่ แต่ก็ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติและรอดูสถานการณ์ก่อน โดยตนได้ประกาศผ่านหอกระจายข่าวแจ้งให้ชาวบ้านทราบ และไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งหากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจทางการก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งในหมู่บ้านไทยนิยมพัฒนา เรามีชุด ชรบ.รวม 15 นาย รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยและอบต.ที่จะทำหน้าที่ประสานงานกันและหากเกิด เหตุการณ์ไม่สงบก็พร้อมทำหน้าที่แจ้งเตือนและทำการอพยพชาวบ้านออกนอกพื้นที่ ได้อย่างรวดเร็ว เพราะทางอำเภอกับทหารได้มีการซ้อมแผนอพยพมาโดยตลอด พร้อมจะแจ้งให้ชาวบ้านดูแลและซ่อมแซมหลุมหลบภัยเพื่อเตรียมพร้อมถึงแม้ สถานการณ์ในพื้นที่ยังปกติอยู่ก็ตาม.
ที่มา http://www.dailynews.co.th/thailand/177087