หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


มาพิสูจน์ทราบความเป็น "Fighter" กันเถอะ

โดยคุณ : Jetta เมื่อวันที่ : 07/01/2013 23:06:23

มาพิสูจน์ทราบความเป็น “Fighter” กันเถอะ

 

คำจำกัดความ :

ทหารหาญ/นักการทหาร/นักรบ คนเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นคนที่มีความพิเศษแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปทางด้านขีดความสามารถทางด้าน (ก) จิตวิญญาณแห่งความเป็นทหารของชาติกล่าวคือ  เป็นผู้มีปัญญามีเจตนารมณ์ทางด้านองค์ความรู้ภูมิปัญญาทางการทหาร   (ข) มีความกล้าหาญ มีความเสียสละ  และ (ค) มีร่างกายที่ต้องแข็งแรงทรหดอดทนกว่าประชาชนคนทั่วไป 

ทหารหาญ          คือ        คนกลุ่มพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเสนาธิการ(ที่ดี)ของชาติด้านความความปลอดภัย-ในการพิทักษ์แหล่งผลประโยชน์และการป้องกันประเทศ-ในการขจัดภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์/ดินแดน/เขตอาณาในความครอบครอง (Security & Defense) ทั้งนี้ “ทหารหาญ” ทุกคนต้องมีความเป็น “นักการทหาร” อยู่ในสายเลือดเสมอ

นักการทหาร        คือ        ผู้มี/ผู้คิดค้นองค์ความรู้ภูมิปัญญาด้านการทหาร(ด้านความปลอดภัย/การป้องกันประเทศ-การป้องกันกลุ่มประเทศ) โดยนักการทหารอาจเป็นทหารหาญและ/หรือพลเรือนก็ได้

นักรบ                คือ        ผู้ทำการรบเพื่อชัยชนะ

ทหาร                 คือ        ผู้ที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบทหาร

Fighter          คือ        นักต่อสู้เพื่อพัฒนาบทบาทหน้าที่ของตนเองและองค์การ

ทั้งนี้       ทหารหาญ/นักการทหาร/นักรบถือว่าเป็นส่วนหลักของกำลังอำนาจของชาติด้านการทหารทั้งสิ้น

 

เกณฑ์ของความเป็น Fighter 

          ทหารกองประจำการ

                   ต้องมีจิตวิญญาณในความรักชาติ รับผิดชอบต่อหน้าที่ กล้าหาญ ยอมพลีชีพเพื่อชาติ  ปฏิบัติตามและเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา มีความรู้พื้นฐานทางการทหาร จึงจะถือว่าเป็น “นักรบ”  และนั่นหมายถึงเป็น Fighter  โดยปริยาย

          นายทหารชั้นประทวน/พลเรือนต่ำกว่าสัญญาบัตร

                        ๑.         ชั้นยศนายสิบ/จ่า/จ่าอากาศถึงจ่า/พันจ่า/พันจ่าอากาศ-ข้าราชการพลเรือนกลาโหม

                        ๒.         อายุ ๑๘-๖๐ ปี

                        ๓.         สายงานทางการทหาร

                                    ๓.๑      สายกำลังรบ       ต้องมีความรู้/ทักษะ/ประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญยุทโธปกรณ์  เข้าใจกลยุทธ์/เทคนิคการรบเป็นอย่างดี  มีไหวพริบปฏิภาณในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า  มีสำนึกในความสำเร็จตาม “ภารกิจ/หน้าที่” ที่ได้รับมอบ  มีขีดความสามารถในการตัดสินใจระดับยุทธวิธี  มีความรู้ทางการทหารระดับประยุกต์ มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูจึงจะถือว่าเป็น “นักรบ” ชั้นเยี่ยม และนั่นหมายถึงเป็น Fighter  โดยปริยาย

                                    ๓.๒      สายเทคนิค        ต้องมีความรู้/ทักษะ/ประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีเฉพาะด้านของยุทโธปกรณ์เป็นอย่างดี  มีความสามารถในการดัดแปลง/วิจัย/พัฒนา มีขีดความสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาด้านเทคโนโลยีทางทหาร  แม้จะมิได้ทำการรบแต่ก็ถือเป็น Fighter โดยจิตวิญญาณก็ได้

                                    ๓.๓      สายสนับสนุน     ต้องมีความรู้/ทักษะ/ประสบการณ์ด้านแบบธรรมเนียม/พิธีการทางทหาร  มีความสามารถในการพัฒนาประยุกต์วิธีปฏิบัติทางทหารให้สอดรับทันการเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัตน์ มีขีดความสามารถในการถ่ายทอดแบบฉบับทางทหารแม้จะมิได้ทำการรบแต่ก็ถือเป็น Fighter โดยจิตวิญญาณได้เช่นกัน

          นายทหารสัญญาบัตร

            (ก)        นายทหารสัญญาบัตรชั้นต้น

                        (ก-๑)    ระดับชั้นยศร้อยตรี/เรือตรี/เรืออากาศตรีถึงพันตรี/นาวาตรี/นาวาอากาศตรี

                        (ก-๒)    อายุ ๒๑-๒๓ ถึง ๓๑-๓๓ ปี

                        (ก-๓)    ต้องมีความรู้/ความชำนาญในการปฏิบัติการระดับยุทธวิธีของแต่ละมิติ-การรบทางบก-เหล่าราบ/ม้า/ปืน...../การรบทางเรือ/เรือดำน้ำ..../การปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี.....ทั้งนี้ ในฐานะที่ต้องรับผิดชอบทำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยกำลังแต่ละขนาด/มิติ จึงจะถือว่าเป็น “นักรบ” ชั้นเยี่ยมและนั่นหมายถึงสุดยอดของการเป็น Fighter 

(ข)        นายทหารสัญญาบัตรชั้นกลาง

            (ข-๑)    ระดับชั้นยศพันโท/นาวาโท/นาวาอากาศโทถึงพันเอก(พิเศษ)/นาวาเอก(พิเศษ)/นาวาอากาศเอก(พิเศษ) ผู้ซึ่งเติบโตมาจาก “นักรบ”

            (ข-๒)    อายุ ๓๒-๓๔ ถึง ๔๕-๔๘ ปี

            (ข-๓)    ต้องมีความรู้ความสามารถทางด้านฝ่ายเสนาธิการ (กำลังพล-ข่าว-ยุทธการ-ส่งกำลังบำรุง) ความสามารถทางด้านฝ่ายอำนวยการ (กิจการพลเรือน-เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร-การงบประมาณ-การตรวจสอบควบคุมทางการทหาร)  การวิจัยพัฒนากลยุทธ์การรบ/ยุทธวิธีการรบ-การพัฒนาหน่วยกำลังทางยุทธวิธีใน ๓/๔ มิติ การกำหนดขีดความสามารถหน่วยกำลัง/ระดับความพร้อมรบของหน่วยกำลังภายใต้ภัยคุกคาม/ความท้าท้ายที่เป็นปัจจุบันและอนาคต การสถาปนาองค์ความรู้ภูมิปัญญาทางการทหาร (หลักนิยมทางทหาร/ประวัติศาสตร์ทหาร/กลไกทางทหาร(กฎหมายทหาร-ระเบียบ/คำสั่ง-ระบบบัญชาการและควบคุม)/ยุทธศาสตร์ทหาร)/การวิจัยทางการทหาร การเตรียมกำลัง(คิดค้นพัฒนากำลังรบ/แผนพัฒนาระยะสั้น/๔ปี-แผนระยะกลาง๘ปี-แผนพัฒนาระยะยาว๑๒ปี-แผนอนาคต/๓๐ปีเพื่อให้ได้มาซึ่งขีดความสามารถและความพร้อมรบที่ต้องการอย่างสอดรับกับสภาพภูมิยุทธศาสตร์ของประเทศ) การวางแผน/การสร้างกระบวนการตัดสินใจในการใช้กำลัง(การวางแผนการรบ/การปฏิบัติการระดับยุทธการ/ยุทธศาสตร์-การสร้าง/พัฒนาระบบออกคำสั่ง/คำสั่งปฏิบัติการ/C4ISTAR-Network Centric) การผนึกกำลังรบในทุกมิติจากศักย์สงครามของประเทศ/การระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนของประเทศ  รวมทั้งการทำหน้าที่เป็นครู/อาจารย์/ศาสตราจารย์ให้ความรู้ทางด้านการทหารในกระบวนการสืบทอดทายาท/คนรุ่นหลัง  จึงจะได้รับการยอมรับว่าเป็น “นักการทหาร”

(ค)       นายทหารสัญญาบัตรระดับชั้นสูง ผู้ซึ่งเติบโตมาจาก “นักการทหาร”

            (ค-๑) ระดับชั้นยศพันเอก(พิเศษ-รองนายพล)/นาวาเอก(พิเศษ-รองนายพล)/นาวาอากาศ(พิเศษ-รองนายพล)ถึงพลเอก(จอมพล)/พลเรือเอก(จอมพล)พลอากาศเอก(จอมพล)

            (ค-๒)    อายุ ๔๖-๔๙ ถึง ๖๐(-๖๕) ปี

            (ค-๓)    ต้องมีขีดสมรรถนะ/มีเจตนารมณ์มุ่งมั่น/มีองค์ความรู้เชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์เหล่าทัพ/ยุทธศาสตร์กองทัพ (ขีดความสามารถ-ความพร้อมรบของกองทัพในแต่ละมิติ- การสนธบูรณาการกำลังรบทั้ง ๓/๔ มิติ มิติที่ ๔ คือมิติอวกาศ)  การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทหาร(การสถาปนาศักยภาพทางการทหารภายใต้การสนธิบูรณาการกำลังอำนาจของชาติด้านการทหารเข้ากับกำลังอำนาจของชาติด้านอื่นๆเพื่อสถาปนาองค์ความรู้ภูมิปัญญาทางการทหาร-การสร้างกำลังรบ-การสร้างศักย์สงครามของประเทศ รวมทั้งการสร้างทายาททางการทหาร) การปฏิบัติภารกิจทางการทหารให้ตอบสนองต่อหน้าที่ของทหารตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด การตอบสนองต่อผลประโยชน์สูงสุดของชาติ(กำลังอำนาจของชาติด้านการทหารเป็นเครื่องมือนำมาซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติ)(ตามยุทธศาสตร์ชาติในการแสวงผลประโยชน์ของชาติตามลักษณะภูมิศาสตร์/ภูมิยุทธศาสตร์/ภูมิรัฐศาสตร์ - การแสดงท่าทีในบทบาทระหว่างประเทศตอบสนองการก้าวเดินของประเทศชาติสู่สังคมโลก)/ ทั้งนี้ นายทหารสัญญาบัตรระดับชั้นสูงนี้ต้องเป็นผู้นำที่ “กล้า” นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสถาปนา(สร้างฐานราก)กำลังอำนาจของชาติด้านการทหารให้มีศักยภาพ/มีขีดความสามารถพร้อมเผชิญและ/หรือมีความล้ำหน้ากว่าสภาพภัยคุกคาม/ความท้าทายที่มีพัฒนาการไปตามเทคโนโลยีขั้นสูงและพัฒนาการของสังคมโลก สู่เป้าหมายสูงสุดทางการทหารที่ว่า “ชนะโดยไม่ต้องรบ” จึงจะถือว่าเป็น “ทหารหาญ” อย่างแท้จริง

(ง)        วิศวกร/เจ้าหน้าที่เทคนิคผู้ซึ่งดำรงสถานะเป็น

            (ง-๑)    ทหาร-พลเรือน(กลาโหม) พลเรือน(ภาคเอกชน-บริษัท)

            (ง-๒)    ทุกระดับอายุตั้งแต่ ๑๘-๖๐ ปี  (พลเรือนไม่จำกัดอายุ)

            (ง-๓)    ผู้มีความรู้ความสามารถด้านวิศวกรรม-เทคนิคโดยทำหน้าที่ออกแบบ-วิจัย-ผลิตสร้าง-ใช้งาน-ซ่อมบำรุง-การวิจัยพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ ฯลฯ ตอบสนองความต้องการหน่วยกำลังเพื่อบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์เหล่าทัพ/กองทัพ-ยุทธศาสตร์ทหาร การทำหน้าที่เป็นนักวิชาการ/อาจารย์/ศาสตราจารย์-นักคิดค้นวิจัยด้านวิศวกรรมชั้นสูงทางทหาร แม้จะมิได้มีพื้นฐานของความนักรบแต่ก็ถือเป็น Fighter โดยจิตวิญญาณโดยจะได้รับการยกย่องว่าเป็น “นักการทหาร” กิตติมศักดิ์อย่างสมภาคภูมิ

(จ)        เจ้าหน้าที่สนับสนุนผู้ซึ่งดำรงสถานะเป็น

            (จ-๑)    ทหาร-พลเรือน(กลาโหม) -พลเรือน

            (จ-๒)    ทุกระดับอายุตั้งแต่ ๑๘-๖๐ ปี (พลเรือนไม่จำกัดอายุ)

            (จ-๓)    ผู้มีความรู้ความสามารถทางด้าน

                        (จ-๓-๑)                        แบบธรรมเนียม/วิธีปฏิบัติทางการทหาร/ประวัติศาสตร์ทหาร/กฎหมายทหาร/องค์ความรู้ภูมิปัญญา-วิชาการทางด้านการทหาร  การวิจัยค้นคว้าทางการทหาร แม้จะมิได้มีพื้นฐานของความนักรบแต่ก็ถือเป็น Fighter โดยจิตวิญญาณก็ได้ อาจจะได้รับการยอมรับให้เป็น “นักการทหาร” ก็ได้เช่นกัน

                        (จ-๓-๒)                        งานธุรการ/งานพิธีการ/สายวิทยาการ-การจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามความต้องการทางด้านการทหาร แม้จะมิได้มีพื้นฐานของความนักรบ  มิได้เป็นนักการทหาร แต่ก็ถือเป็น Fighter ได้โดยจิตวิญญาณเช่นเดียวกัน

(ฉ)       ผู้เกี่ยวข้องกับกำลังอำนาจของชาติด้านการทหาร

            (ฉ-๑)    สมาชิกรัฐสภา-สมาชิกสภาความมั่นคงแห่งชาติ-คณะรัฐบาล-คณาจารย์ของสถาบันการศึกษาสาขาวิชารัฐศาสตร์ความมั่นคง-ผู้รักษาความมั่นคงภายใน/ตำรวจ-สมาคม/มูลนิธิ/บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและป้องกันประเทศ

(ฉ-๒)    ทุกวัย

            (ฉ-๓)    มีจิตวิญาณความเป็นทหาร มีความรู้เชิงยุทธศาสตร์ทหาร มิต้องเป็นนักรบ มิต้องเป็นนักการทหาร และมิต้องเป็นทหารหาญ เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ ทำหน้าที่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามบทบาทในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบกิจการด้านความปลอดภัยและการป้องกันประเทศ ก็ (อาจ)ถือเป็น Fighter โดยจิตวิญญาณก็ได้

(ช)        แฟนพันธ์แท้ทางด้านการทหาร

            (ช-๑)    บุคคลทั่วไป (อาจรวมถึงคนในเครื่องแบบด้วยก็ได้)

            (ช-๒)    ทุกวัย

            (ช-๓)    มีพรสวรรค์สามารถรู้ลึกเกี่ยวกับข้อมูลอาวุธยุทโธปกรณ์/ประวัติศาสตร์การทหาร โดยมิจำเป็นต้องมีความรู้เชิงยุทธศาสตร์ทหาร มิต้องเป็นนักรบ มิต้องเป็นนักการทหาร มิต้องเป็นทหารหาญ เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ พร้อมทำหน้าที่ยามวิกฤติในภาคส่วนของศักย์สงครามของประเทศตามปรัชญาที่ว่า “ประชาชนทุกคนคือทหาร” ก็ถือเป็น Fighter โดยจิตวิญญาณเช่นเดียวกัน

 

ทั้งนี้      เงื่อนไขที่จะต้องยอมรับกันในวงการทหาร (คนแต่งกายเครื่องแบบทหาร” ก็คือ

            (๑)       มีการจัดระเบียบ “คน” ในวงการทหาร (ประทวน-สัญญาบัตร) อันนำมาซึ่งการจัดลำดับอาวุโสทางทหาร (ชั้นสัญญาบัตร) โดยปริยาย โดยสมควรพิจารณา/ยึดถือหลักการทางด้านขีดความสามารถ/ขีดสมรรถนะบุคคลตามเกณฑ์ ก-ข-ค-ง-จ   ที่ระบุไว้ข้างต้น  มิจำเป็นต้องยึดถือ “วัยวุฒิ” หรือยึดถือการแต่งตั้งยศ (เฉพาะผู้ที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารและได้รับการประดับยศ) ในลำดับ “ก่อน-หลัง”  แต่ประการใด

            (๒)       ผู้ที่เป็นหัวกะทิของรุ่นทหาร (ประทวน-สัญญาบัตร) ในอันดับ Top Ten, Top Twenty, Top ....  (ตามคะแนนสะสมต่อเนื่อง) มีสิทธิในเส้นทางสู่การเป็นผู้นำทางทหารตามลำดับความเฉลียวฉลาดเป็นอันดับแรก  นัยสำคัญที่ต้องการเน้นย้ำคือมิใช่ว่าทุกคนที่แต่งเครื่องแบบทหารจะมีสิทธิเท่าเทียมกันสู่ความเป็นผู้นำทางทหารเหมือนกันทุกคน การที่คนในวงการทหารไม่ได้ยึดเกณฑ์ข้างต้นจึงเป็นสาเหตุนำมาซึ่งแก่งแย่ง(ตำแหน่ง)เนื่องจากต่างมิคำนึงถึงกำเนิดและพื้นฐานของตน  กองทัพและประเทศชาติก็อาจจะเกิดความเสียหาย/หรือเสียโอกาสได้

การประเมิน/พิสูจน์ทราบตนเองเป็นเรื่องที่ดี การพิจารณาตนเองตามเกณฑ์ข้างต้นจะทำให้รู้ว่าตนสมควรถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเภทใดใน “กลุ่ม ก-ข-ค-ง-จ-(ฉ-ช)”    





ความคิดเห็นที่ 1


ไฟแรงสุดๆ

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 07/01/2013 23:06:23