ย่างกุ้ง 6 ม.ค. – คณะนักสำรวจที่มีนักธุรกิจอังกฤษเป็นผู้นำทีมเดินทางถึงพม่าแล้วตามแผนขุด เครื่องบินรบรุ่นสปิตไฟร์ที่ถูกฝังไว้ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง
ทีมสำรวจของนายเดวิด คันดาล นักธุรกิจด้านการเกษตรของอังกฤษจะเริ่มการขุดค้นที่บริเวณใกล้สนามบินเมือง ย่างกุ้ง โดยนายคันดาล กล่าวว่า เครื่องบินรบได้ฝังไว้ในลังไม้ลึกลงไปใต้ดินราว 30 ฟุตและโครงการสำรวจเครื่องบินนี้น่าจะเสร็จสิ้นในราว 4-6 สัปดาห์ โดยเขาคาดหวังว่าจะพบเครื่องบินซึ่งเชื่อกันว่าวิศวกรสหรัฐเป็นผู้ฝังไว้ใน ช่วงปลายสงครามในสภาพสมบูรณ์
คณะนักสำรวจเชื่อว่ามีเครื่องบินสปิตไฟร์ถูกฝังอยู่ใกล้สนามบินย่างกุ้ง 36 ลำ ที่เมืองมิตจินาในรัฐกะฉิ่นทางภาคเหนือ 18 ลำ และที่เมืองเมกติลาในภาคกลางอีกหกลำ อย่างไรก็ดีนักโบราณคดีอิสระหนึ่งในคณะสำรวจชี้ว่าอาจเป็นไปได้ที่จะพบ เครื่องบินสปิตไฟร์ในสภาพสนิมเกาะผุพัง
เครื่องบินสปิตไฟร์นับเป็นเครื่องบินรบอันเป็นที่รู้จักมากที่สุดของอังกฤษ โดยมีชื่อเสียงโด่งดังมาจากสมรภูมิเกาะอังกฤษซึ่งเครื่องสปิตไฟร์ใช้ความ ปราดเปรียวเข้าต้านทานฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมนี อังกฤษผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ออกมาทั้งหมดราว 20,000 ลำและต่างปลดประจำการแล้ว.
:- สำนักข่าวไทย
spitfire
http://www.huffingtonpost.co.uk/2013/01/04/spitfires-buried-in-burma-jungle_n_2409581.html?utm_hp_ref=uk
ระยะเวลาผ่านมา 68ปี ไม่ทราบจะสมบูรณ์แค่ใหน
แต่ก็ขอให้ประสพความสำเร็จในการขุดค้นครับ ..
ขอให้โชคดีละกัน ถ้าเปิดตัวแบบนี้น่าจะมีข้อมูลเดิมที่ทางการอังกฤษทำไว้ก่อนฝัง ถ้าอยู่ในสภาพดีคงดีไม่น้อย แต่แปลกทำไมเป็นวิศวกรอเมริกาที่ฝัง ถ้าเป็นวิศวกรอเมริกาน่าจะโดนขุดไปแล้ว ทางอเมริกาไม่น่าปล่อยไว้ ยกเว้นเป็นข่าวลวงเพื่อหาอย่างอื่น แต่อุปกรณ์ต่างแบบต่างวัตถุประสงค์ ทางการพม่าไม่น่าปล่อย เข้ามาได้
ผมว่ามันน่าจะไปขุด สำรวจแร่กันมากกว่า เพราะความสมบูรณ์ของทรัพยากรพม่า ส่วนเรื่องเครื่องบินก็น่าจะเป็นข้ออ้างซะมากกว่า ประมานว่า เจอก็ดีไป ไม่เจอ ก็ยังได้สำรวจแหล่งทำมาหากิน มองแล้วงานนี้ ก็มีแต่ได้กับได้ ด้วยกันทั้งคู่