หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


รมว.คลังญี่ปุ่นเยือนพม่า ย้ำเรื่องยกหนี้ 180,000 ล้านบาท -พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทิลาวา 1200ล้านดอลลาร์

โดยคุณ : neosiamese2 เมื่อวันที่ : 04/01/2013 15:43:11

เนปิดอว์ 3 ม.ค.-นายทาโร อาโซะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ย้ำระหว่างการเยือนพม่า เรื่องเจตนารมณ์ของญี่ปุ่นที่จะยกหนี้และช่วยพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทิลาวา ของพม่า

นายอาโซะกำหนดเยือนพม่าตั้งแต่ยังไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีคลัง เพราะเขาเป็นสมาชิกอาวุโสในสมาคมญี่ปุ่น-พม่า ซึ่งเป็นกลุ่มส่งเสริมผลประโยชน์ทางธุรกิจของญี่ปุ่นในพม่า และมีความสัมพันธ์กับพม่าตั้งแต่สมัยรัฐบาลทหาร กลุ่มนี้พยายามวิ่งเต้นเรื่องการยกหนี้ให้แก่พม่า และปล่อยเงินกู้งวดใหม่ให้แก่เขตเศรษฐกิจพิเศษทิวาลา ห่างจากนครย่างกุ้งไปทางใต้เพียง 25 กิโลเมตร

นายอาเบะเผยหลังเข้าพบประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่า ว่ารัฐบาลใหม่ญี่ปุ่นต้องการสานสัมพันธ์ที่ดีกับพม่าต่อไปเช่นเดียวกับ รัฐบาลที่ผ่านมา โดยจะยกหนี้ 300,000 ล้านเยน (ราว 108,000 ล้านบาท) จากทั้งหมด 500,000 ล้านเยน (ราว 180,000 ล้านบาท) ให้ในปีนี้ ขณะที่กลุ่มธนาคารเอกชนญี่ปุ่นกำลังจัดทำแผนเงินกู้ระยะสั้นสำหรับหนี้ที่ เหลืออีก 200,000 ล้านเยน (ราว 72,000 ล้านบาท) นอกจากนี้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศของรัฐจะจัดสรรเงินกู้ระยะ สั้นให้พม่านำไปชำระหนี้ที่ค้างธนาคารโลกเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (12,400 ล้านบาท) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เกือบ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (15,500 ล้านบาท) เพื่อให้พม่าสามารถกู้จากธนาคารเหล่านี้ได้อีกครั้ง

ปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของพม่า รัฐบาลญี่ปุ่นต้องยกหนี้ 300,000 ล้านเยน ก่อนจึงจะให้เงินกู้งวดใหม่ 50,000 ล้านเยน  (ราว 18,000 ล้านบาท) เพื่อใช้ในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทิวาลา 15,000 ไร่ ประกอบด้วยท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรม โครงการนี้จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดบริษัทญี่ปุ่นที่คิดย้ายฐานการผลิตจากจีน หลังจากทั้งสองประเทศเกิดข้อพิพาทเรื่องการอ้างสิทธิทับซ้อนเหนือหมู่เกาะใน ทะเลจีนตะวันออก.-สำนักข่าวไทย

 

เครดิตเวป  http://pantip.com/topic/30011823

 

เขตเศรษฐกิจพิเศษที่ผมเคยกล่าวถึงแต่จำชื่อไม่ได้   นั่นคือ  ทิวาลา ครับ   ห่างจากร่างกุ้งเพียงนิดเดียว   และนิคมอุตสาหกรรมนี้จะเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของพม่าตอนกลางทั้งหมด  ส่งผลโดยตรงต่อชาวพม่าแท้ครับ   ในขณะที่ ทวาย และมะละแหม่งจะส่งผลต่อไทยมากกว่า    เพราะอยู่ใกล้ไทยมาก   แต่ห่างจากศูนย์กลางการปกครองของพม่าเยอะ    

   นิคมอุตสาหกรรมทิวาลา  จึงเป็นพื้นที่การันตีความรุ่งเรื่องของพม่าได้จริงจังมากกว่าครับ   โดยเฉพาะกรณีที่เกิดปัหากับเรารุนแรง   ทวายและมะละแหม่งจะมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก