หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


การซื้อ รถถัง หลักของไทย

โดยคุณ : drakland01 เมื่อวันที่ : 03/01/2013 09:43:07

พอดี เห็นกระทู้นี้ เลย มาให้

พิพิธภัณฑ์รถถัง T-34

มนุษย์เราทำสงครามกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ และก็คงจะยังทำกันไปอีกนานแสนนาน ซึ่งในบางครั้ง เมื่อเราไม่มีศัตรู เราก็หันมาสู้รบกันเองก็ยังได้

 

มนุษย์เราทำสงครามกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ และก็คงจะยังทำกันไปอีกนานแสนนาน ซึ่งในบางครั้ง เมื่อเราไม่มีศัตรู เราก็หันมาสู้รบกันเองก็ยังได้



สมัยก่อน การสู้รบเป็นเรื่องของชายชาตรี พวกเขาจะจับอาวุธฟาดฟันกันซึ่งๆหน้า แม้มีปืนใช้ การสู้รบก็ยังเป็นแบบซึ่งๆหน้าเหมือนเดิม คือเดินหน้ายิงกันลูกเดียว ไม่มีหลบไม่มีซ่อน ดังเช่นที่เคยเห็นในหนังสงครามฝรั่งโบราณหลายเรื่อง

จนกระทั่งมีใครบางคนคิดเอาปืนขนาดใหญ่มาติดบนรถที่หุ้มเกราะ และเรียกมันว่ารถถัง โลกจึงค่อยมีความคิดแบบใหม่ในการทำสงคราม



แต่ในเบื้องแรก พวกเขาก็ยังใช้รถถังกันไม่เป็น รถถังนั้นวิ่งเร็วกว่า ยิงหนักกว่า และหนังเหนียวกว่าทหารราบมาก แต่ในการรบจริง รถถังกลับไปอยู่ข้างหลังทหารราบ เพราะทหารในยุคคาบเกี่ยวนี้ยังคงยึดมั่นในธรรมเนียมการรบแบบเก่า คือในสงคราม ต้องเป็นการสู้กันอย่างลูกผู้ชาย



แต่ต่อมาก็ค่อยๆนำรถถังออกหน้า และให้ทหารราบตามหลัง จากเหตุผล 3 อย่าง ดังที่บอกไปแล้ว ประเทศที่นำยุทธวิธีนี้มาใช้อย่างเป็นจริงเป็นจังรายแรก เห็นจะเป็นเยอรมนี วิธีนี้ ทำให้การบุกของพวกเขาทำได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อใช้ร่วมกับกำลังทางอากาศ และนี่ก็คือที่มาของคำว่า “ สงครามสายฟ้าแล่บ “ ของเยอรมันอันโด่งดัง



กำเนิดแนวคิดสร้างรถถัง

สำหรับรถถังนั้น ก็พัฒนากันมาเรื่อยแหละครับ ก็มีหลากรุ่นหลายแบบ ซึ่งก็ดีกว่ารุ่นเก่าก่อนเป็นลำดับ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังทำสงครามสายฟ้าแล่บ จนยึดไปค่อนยุโรป เยอรมันก็ได้ใจ และนำสงครามสายฟ้าแล่บมาสู่สหภาพโซเวียต และที่นี่เองที่ทหารรถถังเยอรมันได้พบเห็นรถถัง T-34 อาวุธลับสุดยอดของฝ่ายโซเวียตเป็นครั้งแรก และพวกเขาก็ประทับใจกับพวกมันมาก ถึงมากที่สุด ทั้งเรื่องการออกแบบที่ถือว่าล้ำยุค เกินหน้ารถถังรุ่นราวคราวเดียวกัน รวมถึงอำนาจการยิง ความเร็ว และประสิทธิภาพของเกราะเหล็ก



รถถังประเทศสหรัฐ ฝรั่งเศส และเยอรมัน

ในตอนเริ่มต้นของสงคราม โซเวียตยังผลิตรถถังรุ่นนี้ออกมาแค่ไม่กี่คัน และหลังจากเห็นว่าประสิทธิภาพของมันมีเหนือกว่าของข้าศึกมาก พวกเขาก็เลยเร่งผลิตกันเป็นการใหญ่ จนบางครั้งยังไม่ได้ทาสีก็ถูกส่งเข้าสงครามแล้ว



กว่าจะมาเป็น T-34

ตอนแรก การสู้รบดูจะออกไปทางฝ่ายเยอรมันเสียมากกว่า แต่รบไปรบมา และด้วยความช่วยเหลือบางส่วนของ T-34 โซเวียตก็กลับมาตั้งหลักได้ การรบก็เลยยืดเยื้อ จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง นายทหารเยอรมัน ได้ไปสอบถามทหารในแนวหน้าว่าอยากได้อะไร ขอให้บอก คำตอบที่นายทหารได้รับก็คือ ให้เอา T-34 ไปแกะ เพื่อดูว่ามันถูกสร้างมาอย่างไร แล้วก็ให้เยอรมันสร้างรถถังแบบนี้มาใช้บ้าง
แต่เยอรมันเป็นชาติที่มีศักดิ์ศรี พวกเขาไม่มีวันยอมทำเช่นนั้นแน่ พวกเขาเดินหน้าไปไกลกว่านั้น โดยการสร้างรถถังที่ใหญ่กว่า หนักกว่า T-34 แต่ผลการรบปรากฏว่าแป้กครับ เพราะทั้งใหญ่ทั้งหนักขนาดนั้น วิ่งไปที่ไหนในรัสเซียก็พากันจมโคลนติดหล่ม ไม่เป็นอันทำมาหากิน เพราะในสมัยนั้น ถนนหนทางส่วนมากในโซเวียต เป็นถนนลูกรัง เวลาฝนตกก็ไม่ต้องพูดถึง แม้แต่คนจะเดินยังยาก นับประสาอะไรกับรถถังใหญ่ยักษ์



เครื่องสำหรับฝึกขับรถถัง

เรื่องนี้ทำให้ T-34 กลายเป็นรถถังที่มีการผลิตออกมามากที่สุดในช่วงสงคราม และหลังสงครามก็มีการผลิตเพื่อส่งออกอีกมากมาย รวมแล้วมันถูกผลิตออกมาราว 84,000 คัน และส่งออกไปยัง 40 ประเทศทั่วโลก



ภาพวาดการรบที่กรุงมอสโก

ผมเคยเห็นสารคดีเกี่ยวกับรถถัง T-34 มาหลายเรื่องแล้ว และหลายคนก็จัดให้ T-34 เป็นรถถังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ดีที่สุด

ข้อมูลในวิกีพีเดียบอกว่า มันเป็นรถถังขนาดกลาง ที่มีการผลิตออกมาในช่วงปี 1940-1958 และหลายคนถือว่ามันเป็นรถถังที่มีความสามารถ มีประสิทธิภาพ และมีอิทธิพลต่อการออก แบบรถถังมากที่สุด



นสพ.ตีข่าว แผนปิดล้อมมอสโกของเยอรมันพัง

รวมแล้ว T-34 ถูกผลิตออกมามากเป็นอันดับ 2  รองจากรถถังรุ่น T -54/55 และผมก็เชื่อว่าแม้กระทั่งในปัจจุบัน หลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศจนๆ ก็ยังมีการใช้มันอยู่

เอาภาพพิพิธภัณฑ์รถถัง T-34 ที่รัสเซียมาให้ดูกันครับ คนที่ถ่ายภาพและบอกเล่าเรื่องราวของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นผู้หญิง เธอออกตัวว่าไม่ค่อยรู้เรื่องรถถังมากสักเท่าไหร่ แต่ก็บอกว่าการที่ T-34 เป็นรถถังแห่งตำนาน อย่างน้อยๆสักครั้งหนึ่งในชีวิต คนรัสเซียก็คงจะได้ยินชื่อของมันมาบ้าง 



รถถังรุ่นนี้ ออกแบบและพัฒนากันที่เมืองคาร์คอฟ ปัจจุบันอยู่ในยูเครน แต่สายพานการผลิตไปอยู่ที่โรงงานในเขตเทือกเขาอูราล และไซบีเรีย 

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดเมื่อ 6 ธันวาคม 2001 มันตั้งอยู่ที่หมู่บ้านชาลาโคว่า ไม่ไกลจากถนนสายวงแหวนของกรุงมอสโก สถานที่ตั้ง และวันเปิดพิพิธภัณฑ์ก็มีความหมาย เพราะบริเวณนี้ ใน ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รถถัง T-34 ได้เข้าร่วมในศึกปกป้องกรุงมอสโก โดยหลังจากที่ถูกบุกมาตลอด ในวันที่ 6 ธันวาคม 1941 ฝ่ายโซเวียตก็เปิดฉากตอบโต้เป็นครั้งแรก



กูเดเรียน จ้าวทฤษฎีสงครามรถถังคนสำคัญของเยอรมัน

ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ก็เป็นผู้หญิง โดยเป็นบุตรสาวของนิคาลัย กูเชเรนโก้ หนึ่งในผู้ร่วมสร้างรถถัง T-34 นั่นเอง

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มี 2 ชั้น เป็นอาคารเล็กๆ แต่สิ่งที่นำมาจัดแสดง บอกเล่าเรื่องราวของรถถัง T-34 ได้ดี 





ข้าวของเครื่องใช้ของนายทหารรถถังคนดังของโซเวียต













ส่งไปขายหลายประเทศ






ความคิดเห็นที่ 1


กำลังรอฟังอยู่ครับว่า รถถัง T-34 เกี่ยวข้องกับหัวข้อกระทู้"การซื้อรถถังหลักของไทยอย่างไร?" 

โดยคุณ chaisoi3 เมื่อวันที่ 31/12/2012 15:52:36


ความคิดเห็นที่ 2


ประเด็นหลุดไปจากหัวข้อกระทู้โดยสิ้นเชิง ??

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 31/12/2012 17:08:56


ความคิดเห็นที่ 3


ที่แท้ T34 ออกแบบและพัฒนาที่ยูเครน แสดงว่าเรามาถึงแหล่งที่มาของรถถังชั้นเยี่ยมแล้วครับ 

นอกจากนี้ยูเครนยังเป็นประเทศที่ไม่ใหญ่มาก น่าจะทำให้เราคุยกันได้ง่ายกว่าประเทศใหญ่ๆที่เป็นเจ้าโลก ใหญ่คับโลก

ถ้าไทยกับยูเครนร่วมมือกันผลิตรถถังได้ จะทำให้ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย 

โดยคุณ zakuIII เมื่อวันที่ 03/01/2013 09:43:07