เรื่องราว รถถัง
รถถัง
ข้อมูลจากแหล่งไหนครับ โดยเฉพาะเรื่องไทยซื้อรถถังเก่าจากยูเครน
รถถังเก่าจากยูเครน (มั่วชัดๆ) แค่นี้ข่าวก็ไม่น่าเชื่อถือแล้วว พี่น้อง
ลองไปถามหน่วยในกองทัพเรือดูนะครับ ทำไมเปลี่ยนจาก G36 เป็นปืน CZ ของเยอรมันไม่ใช่ไม่ไดีแต่ชอบมีปัญหา
ขอบคุณครับ
อยากรู้เรื่องราว รถถัง ยูเครน
๑ กด google "ไทยซื้อรถถังจากยูเครน" ข้อมูลมาเพียบ ส่วนจะมีการลงนามแล้วหรือไม่ หรือรับของเมื่อไร ก็หาข่าวกันดูเองครับ ส่วนว่ารถถังที่ซื้อจะเป็นรถถัง "เก่า" หรือ "ใหม่" ก็ว่ากันอีกที แต่ตรงงนี้ไม่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญกว่า คือ ทำไมซื้อจากยูเครนที่ไม่ใช่จ้าวพ่อรถถัง และทำไมคนไทยไม่คิดสร้างรถถังใช้เองเพื่ออนาคตข้างหน้า อยากจะซื้อมาใช้งานอย่างเดียวใช่หรือไม่ ลองถามคนรุ่นหลังดูบ้างว่าเขาอยากมีรถถัง "ไทย" โดยฝีมือคนไทยใช้เองบ้างไหม ซึ่งในข้อเทํจจริงแล้ว คนยูเครนก็ไม่ได้ฉลาดกว่าคนไทยเลย ยูเครนทำได้ ทำไมไม่ให้คนไทยสร้างแล้วซื้อจากคนไทยมาใช่บ้าง ไม่เกิน ๓๐ ปี สำเร็จได้ หากคนไทยช่วยกัน
๒ กด google "ข้อตกลงไทย ยูเครนว่าด้วยความร้วมมือด้านควมมั่นคง (ในการป้องกันประเทศ)" ข้อมูลน่าเชื่อถือได้ครับ ข้อมูลลนี้สามารถตอกย้ำเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดซื้อรถถังจากยูเครนได้มากทีเดียว
เรื่องว่าซื้อรถถังล็อตนี้ใครก็รู้ครับ ไม่ต้องมาสอนกูเกิ้ลหรอกครับ ข่าวเก่างั่ก
เพียงแต่บางคนคิดว่าเอาซากเก่ามาทำใหม่ บางคนคิดว่าทำใหม่หมด คำว่ารถถัง"เก่า"มันเลยสะกิดไงครับ
แล้วการตั้งข้อสงสัยอย่างนี้ก็ต้องเอาข้อมูลที่เชื่อถือได้มาสนับสนุนให้เห็น ถึงจะไปกล่าวหาเขาได้ครับ
ยูเครน เป็นหนึ่งในฐานผลิตรถถังให้กับรัสเซีย มาแต่ก่อนที่รัสเซียจะล่มนะครับ จะบอกว่าเป็นหน้าใหม่ไม่ได้หรอกครับ ในความเห็นผม จากที่ติดตามข่าวสารมาซะพัก t84 ไม่ใช่รถถังที่ดีที่สุดหรอกครับ แต่เป็นหนึ่งในรถถังที่กองทัพไทยมีปัญญาซื้อ คุณจะบอกว่ารถถังเยอรมันดีกว่า ผมไม่เถียงหรอกครับ แต่เปรียบเทียบง่ายๆเหมือนรถบีเอ็ม เอามาเทียบกับโตโยต้า ถ้าเป็นคนมีเงินยังไงก็เลือกบีเอ็มมากกว่าอยู่แล้ว แต่ทำไมคนถึงซื้อโตโยต้ามากกว่าล่ะครับ ก็มันมีเงินไม่พอแค่นั้นเอง เงื่อนไขทบ.อยากได้รถมือหนึ่ง มันตัดตัวเลือกออกไปจำนวนมากแล้ว ปล. ถ้าจะกล่าวหากันว่าเป็นรถห่วยๆ รถเก่ามาหลอกขาย ช่วยหาข้อมูลกันมาหน่อยนะครับ เห็นแต่กล่าวหาข้อมูลแทบจะไม่มี แต่ฝ่ายที่สนับสนุน เขาพยายามหาข้อมูลมาอ้างอิง แปลมาถูกบ้างผิดบ้าง ก็ยังน่าเชื่อถือ ว่าพวกที่ออกมาด่า ด่าเอามันกันอย่างเดียวเลย
ไม่แปลกใจทำไมถึงไม่ให้มีเรื่องการเมือง
เพราะเดี๋ยวนี้การเมืองทำลายทุกอย่างตั้งแต่เรื่องปากท้องการศึกษาแม้แต่การทหาร แทนที่จะทำให้พัฒนา ต่างฝ่ายต่างโจมตีกัน
รถถัง
อันที่จริงก็มิได้คิดอยากเปรียบเทียบมันสมองของคนไทยกับมันสมองของคนยูเครน แต่อยากให้คนไทยทั้งมวลหันกลับมามองคุณค่ามันสมองของคนไทยกันเองมากขึ้นและมากขึ้นมากอย่างเป็นที่สุดด้วย โดยหลักธรรมชาตินั้นมันสมองของมนุษย์ทุกเชื้อชาติสีผิวต่างมีมันสมองในค่าความฉลาดเท่าเทียมกัน (เด็กไทยรับรางวัลโอลิมปิควิชาการทุกปี ปีละจำนวนไม่น้อย มากกว่าชาติใดๆด้วยซ้ำ) เพียงแต่ว่าประเทศใดๆจะฝึก/ใช้ประโยชน์มันสมองของคนในชาติในทิศทางใดเท่านั้น ยูเครนฝึก/ใช้ประโยชน์มันสมองด้วยการคิดค้นผลิตสร้างนวัตกรรมของตนเองและเพียรพยายามอย่างเป็นที่สุด (ในการสร้างรถถัง) ต่อไป (แม้จะยังไม่ถึงขั้นสุดยอดก็ตาม) ส่วนไทยฝึก/ใช้ประโยชน์มันสมองในเชิงจดจำ โดยขาดการฝึก/ใช้ประโยชน์มันสมองคนไทยให้ใช้ความคิดทางวิทยาศาสตร์ (แม้ว่าคนไทยปัจจุบันและอนาคตต้องใช้ชีวิตบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น เช่น สิ่งปลูกสร้าง/สิ่งอำนวยความสะดวก อาหารการแพทย์ เครื่องนุ่งห่ม ยานพาหนะ เครื่องมือสื่อสาร รวมไปถึงเครื่องมืออุปกรณ์วัสดุที่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาความปลอดภัยให้ตนเอง แต่ฝึก/ใช้ประโยชน์มันสมองคนไทยในการซื้อหาของดีชั้นเลิศจากต่างประเทศมาโอ้อวดกันยิ่งใครสามารถเจาะลึกรู้ว่าของใครดีแล้วซื้อหามาครอบครอง/ใช้งานก็จะมีหน้ามีตาในสังคมไทย (แต่เป็นที่ชื่นชอบในผลกำไร) หลายคนทุ่มเทศึกษาอย่างละเอียดว่าอาวุธของใครดีอย่างไรราคาเท่าไร แต่หาได้คิดที่จะผลิตสร้าง/ร่วมคิดผลิตสร้าง/พัฒนาบางส่วนให้มีใช้เป็นของตนเอง (เปรียบเทียบได้ว่าเม็ดเลือดขาวไม่ทำหน้าที่เกราะคุ้มกัน เนื่องจากเคยชินกับการใช้วิธีซื้อวัคซีนมาฉีด วัคซีนมีหลายยี่ห้อ เช่น ยี่ห้อยุโรป ยี่ห้อจีน ยี่ห้อสหรัฐฯ ยี่ห้อรัสเซีย/ประเทศอดีตบริวาร ไม่รู้ว่าร่างกายจะทนวัคซีนได้อีกนานเท่าไร ซึ่งการซื้อวัคซีนมาใช้โดยตลอดนับเป็นเวลานานๆเป็นอันตรายต่อชีวิตอย่างยิ่งนอกจากจะหมดเงินแล้วก็ไม่สามารถเผชิญโรคอื่นๆที่วัคซีนครอบจักรวาลไม่ถึง ฉันใดฉันนั้น การคิดค้นซื้อภูมิคุ้มกันด้านความปลอดภัย/การป้องกันประเทศจากประเทศอื่นมาใช้-ฝากชีวิตไว้กับคนอื่นโดยไม่มีองค์ความรู้ด้านกำลังอำนาจด้านการทหารสมบูรณ์แบบเป็นของตนเองถือว่าเป็นอันตรายยิ่งนัก คนๆนี้อาจไม่ต้องซื้อวัคซีนเลยหรือซื้อบางส่วนเลยหากเม็ดเลือดขาวต้องทำหน้าที่ของตนได้ครบถ้วนบริบูรณ์) ปัจจุบันองค์ความรู้ภูมิปัญญา/นวัตกรรมทางปัญญา/นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางทหารชั้นเลิศของนักรบสยาม/ไทยที่สืบเนื่องมาจากอดีตของไทยนับพันปีเกือบสูญสิ้น ประเทศไทย/คนไทยจึงเกือบไม่มีนวัตกรรมจากองค์ความรู้ภูมิปัญญาของตนเองมากนัก ทำนายไม่ออกเหมือนกันว่าในอนาคตอีก ๓๐ ๕๐ ๑๐๐ ๑,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ...... ปีข้างหน้าประเทศไทยคนไทยจะมีหลักประกันด้านความปลอดภัย/การป้องกันประเทศ-การป้องกันภูมิภาคให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมโลกในลักษณะใดต่อไป ประเทศไทยอาจจะเป็นประเทศเจ้าของยานเกราะ/หรืออากาศยาน-เรือ หรืออื่นๆ ที่ดีที่สุดในโลกที่เหมาะกับสภาพภูมิศาสตร์/ภูมิยุทธศาสตร์ ก็ได้ หากคนไทยจำนวน ๖๐ ล้านคนเศษช่วยกันคิดช่วยกันสร้าง
เด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่จะนำพากองทัพ/ประเทศชาติให้เดินไปในทางใดนี่คือคำถามสำคัญ เด็กเยาวชนที่ทั่วประเทศไทย (รวมเด็กเยาวชนในชนบท) จำนวน-ประมาณการ ๑,๐๐๐,๐๐๐ คนในแต่ละปี ในจำนวนนี้น่าจะมีคนระดับมันสมองสุดยอดไม่น้อยกว่า ๑๐,๐๐๐ คน ใครชอบใครสนใจงานส่วนใดสาขาใดก็ส่งเสริม เข้าใจว่าคงมีเด็กเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่ใคร่จะพัฒนาประเทศชาติให้เป็นเลิศทางเทคโนโลยีทางทหารที่สอดรับกับภูมิศาสตร์(ร้อน/ชื้น)/ภูมิยุทธศาสตร์(ใจกลาง ASEAN) เพียงแต่ต้องมีการฝึก/ใช้ประโยชน์มันสมองคนเหล่านี้เสียตั้งแต่เป็นวัยรุ่นจับคนเหล่านี้เข้าท่อ/เข้าวงการในกิจการทหาร โดยผู้ใหญ่ที่อายุ ๕๙-๖๐ ปี ทำหน้าที่ ๒ ประการคือ (๑) สร้างรากฐานกำลังอำนาจของชาติด้านการทหารในสมัย(เทคโนโลยี)ของตนให้แข็งแกร่งเท่าที่จะกระทำได้ (๒) สร้างทายาทอายุ ๔๙-๕๐ ปีไว้สืบทอดเจตนารมณ์ต่อยอดฐานรากของตนต่อไป ทั้งนี้ คนอายุ ๔๙-๕๐ ปีก็ต้องสร้างฐานรากและสร้างทายาทคนอายุ ๓๙-๔๐ ถัดจากตนต่อไป และเป็นเช่นนี้เรื่อยไปจนถึงเด็กเยาวชนอายุน้อยสุดในวงการการทหาร ขณะเดียวกันผู้ใหญ่อายุ ๕๙-๖๐ ปีก็ต้อง “ส่งไม้” ให้กับคนอายุ ๕๕-๕๘ ปีด้วย และคนอายุ ๕๕-๕๘ ปีก็ใช้วิธีการสร้างทายาทให้เป็นแบบฉบับเดียวกัน ไม่นานกำลังอำนาจด้านการทหารของไทยก็จะยกระดับขึ้นมา