เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เว็บไซต์ theblaze.com รายงานว่า ผ้าคลุมล่องหน หนึ่งในเครื่องรางยมทูตสามชิ้นจากนิยายที่สร้างชื่อก้องโลก "แฮร์รี่ พอตเตอร์" จะไม่ได้มีอยู่แค่ในโลกแห่งจินตนาการอีกต่อไป แต่มันกำลังจะถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ทางการทหาร โดยเรียกว่า ควันตัม สตีลธ์
รายงานระบุว่า บริษัทผู้ผลิตผ้าคลุมล่องหนนี้ก็คือ ไฮเปอร์สตีลธ์ โดยผ้าคลุมดังกล่าวสามารถล่องหนได้เนื่องจากการปล่อยคลื่นอ่อน ๆ โค้งรอบตัวผู้สวมเพื่อให้ไม่มีใครมองเห็น อย่างไรก็ตาม ทางผู้ผลิตปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเทคโนโลยีการผลิตไปมากกว่านี้ มีเพียงแต่เสนอผ่านภาพจำลองบนเว็บไซต์เท่านั้น
ทางด้าน นายกาย เครเมอร์ ซีอีโอของบริษัท ไฮเปอร์สตีลธ์ ไบโอเทคโนโลยี เปิดเผยว่า เขาไม่สนใจที่หลายคนมองว่าน่าสงสัยและพูดว่าประชาชนจำเป็นต้องได้เห็นว่ามันทำงานอย่างไร เพราะขณะนี้กองทัพสหรัฐฯ และกองทัพของแคนานา ได้เห็นการทำงานจากของจริงแล้วและสามารถพิสูจน์ได้ว่าผ้าคลุมล่องหนนี้สามารถทำงานได้จริงโดยปราศจากกล้อง แบตเตอรี่ แสงไฟ หรือกระจก โดยมันมีน้ำหนักเบา และไม่แพง ที่สำคัญยังสามารถป้องกันการมองเห็นจากกล้องอินฟาเรดและกล้องจับความร้อนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ นายกาย เครเมอร์ ยังระบุด้วยว่า ผ้าคลุมนี้จะช่วยให้นักบินรบสามารถดีดตัวออกจากเครื่องโดยไม่ถูกจับกุม และช่วยให้กองกำลังพิเศษจู่โจมในเวลากลางวันได้โดยไม่ถูกตรวจพบ อีกทั้งช่วยสร้างเครื่องบินล่องหนซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า หรือเรดาร์ รวมถึงปกปิดเรือดำน้ำซึ่งโผล่ขึ้นมาใกล้ ๆ กองเรือรบของศัตรูอีกด้วย
ที่มา - http://hilight.kapook.com/view/79464
ถ้าไม่ใช่การเต้าข่าว ไม่ต้องใช้กล้อง ไม่มีแบตตารี่ ไม่มีกระจก แสดงว่าคนละเทคโนโลยีกับที่ญี่ปุ่นผลิตได้ และชื่อบริษัท บอกว่าเป็นบริษัททางด้าน "ไบโอเทคโนโลยี" เป็นเทคโนโลยีทางด้านชีวะภาพ หรือว่าสามารถเข้าใจหลักการทั้งหมดของกิ้งก่าหรือสัตว์ที่สามารถเปลี่ยนสีกลมกลืนเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ งั้นต้องรู้ว่าเม็ดสีของสัตว์เหล่านั้นทำงานยังไง เม็ดสีทำจากอะไร และสามารถกระตุ้นการเปลี่ยนให้ตรงกับภาพสีวัตถุข้างๆรอบตัวได้อย่างไร และสามารถผลิตออกมาได้ด้วยคุณภาพที่สูงกว่าธรรมชาติได้ด้วย
เม็ดสีในผิวหนังสัตว์ ไม่ต้องใช้แบตตารี่ ไม่มีกระจก แต่ต้องรับข้อมูลภาพจากตาและแปรสัญญาณภาพโดยสมองอีกที อย่างนั้นมันก็ต้องมีคอมพิวเตอร์สิ ต้องมีกล้อง ซึ่งต้องใช้กระแสไฟฟ้า มันทำได้อย่างไร
แต่ถ้ามันจริงและไม่ใช่การเต้าข่าวแล้ว มันจะเป็นการพลิกโฉมหน้าชุดรบทหารราบสมัยใหม่กันทีเดียวไม่ใช่แค่ที่ข่าวพูดถึง
ช่วยแปะคลิปให้หน่อยครับ ทำไม่เป็น
https://www.youtube.com/watch?v=IwWsxxh1FKs
ระบบ Active camouflage ที่สัตว์ใช้กัน ดูในวิกิพีเดียครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Active_camouflage#In_animals
แนวทางเทคโนโลยีน่าจะออกมาทางแนวนี้นะครับ แต่ว่าถ้าทำได้จริง สุดยอดอะ ใช้ในการชุดของทหารลาดตระเวนใน 3 จังหวัดได้สบาย ติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบพรางตัวได้ UAV แบบพรางตัว รถ first win รุ่นพรางตัว
สัตว์ไม่มีแบตเตอร์รี่ก็จริง แต่มันก็ใช้พลังงานนะครับ
ภาพผู้หญิง 2รูปนั้น ถ้าเป็นจริงมันก้าวล้ำสุดบรรยายครับ ถ้าเป็นแค่ผ้าผืนเดียวที่เป็นฉากหน้า แล้วไม่หุ้มรอบต้วผู้หญิง แล้วทำไมมันไม่สร้างภาพผู้หญิงออกมาข้างหน้าด้วยละ มันจะสร้างภาพที่ตัวผู้หญิงบังไว้ได้ยังไง
อีกอย่าง ต้องคิดคำนึงถึงมุมมองที่แตกต่างของผู้ที่มองจากหลายๆคนด้วย
ส่วนรูปปลาหมึกคืออการสร้างสีสรรให้ดูกลมกลืน แต่ไม่ได้สร้างภาพที่อยู่ข้างหลังมัน เหมือนอย่างภาพผู้หญิง
โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะทำได้ครับในยุคนี้ เพราะ ถ้าทำได้จริงมันบอกว่าจะกระจายคลื่นออกด้านข้างซึ่งดูจากความหนาของผ้าแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือถ้าทำได้จริง จะเอาความ กว้าง-ยาว ของผ้ามากระจาย ก็น่าจะ ออกมาเป็นรูปตัวคนที่คลุมข้างล่างมากกว่าที่จะออกเป็นรูปพื้นดิน ใบหญ้า ยกเว้นมันจะมีปุ่มกดให้ copy ภาพด้านข้างให้แสดงผลทับๆกันออกมา ในรูปแบบที่เหมือนๆกัน
ส่วนกระผมขออนุญาตนอกเรื่องครับ จากคลิปข้างบน http://www.youtube.com/watch?v=IwWsxxh1FKs&feature=player_embedded
นาทีที่ 11.50 ดูน่าจะเป็น AK-...แบบ Bullpup นะ เออ..ดูแปลกดี
จากหลัก วิทยาศาสตร์ครับ ที่ผมเรียนมา หัวแทบแตกนะครับ
การมองเห็นของตามนุษย์ ( อาจฟังดูเข้าใจยากหน่อยนะครับ )
สีที่เราเห็นอยู่นี่ เป็นสีต่างต่าง เป็นแค่ แสดงที่ตกกระทบ วัตถุ แล้ว สะท้อนเข้าตาเราในความถี่แสง ต่างกันไป
ทำให้เห็นเป็นแสงที่ต่างกันไป แล้วแต่ สเปคตั่ม นะครับ
และถ้าไม่มีแสง เราก็ไม่สารถมองเห็นได้ เพราะ ไม่มีอะไรมาตกกระทบเข้าตาเรา เลยมองไม่เห็น
การล่องหนเราทำได้ทุกคน โดยไปอยู่ในที่มืด แค่นี้ก็ไม่มีใครมองเห็นแล้ว เพราะไม่มีแสง
ดีงนั้น ผ้าคลุม ล่องหน ผมคิดว่า สามารถทำได้ แต่ไม่ใช้เดี๋ยวนี้ครับ เพราะ วิทยาการ ของโลกเรายังไม่
ก้าวหน้าขณะนั้นครับ อาจใช้หลักการ เบี่ยงแบน เสียง นะครับ
และ อย่าลืมว่า อาจตลกแบบนี้มีมาตลอด เช่นตอนสงครามโลกครั้งที่ สอง อเมริกา เอาเครื่องบิน กระดาษ
การกาง เต็มสนาม เพื่อให้เครื่องบินข้าศึกที่มองจาก ท้องฟ้าเข้าใจผิดว่า มีเครื่องบิน จอดอยู่และทิ้ง
ระเบิด ใส่ อะไรแบบนี้นะครับ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องขำขำมากกว่าครับ
ไม่น่าเป็นจริง แต่ขอบคุณสำหรับข้อมูลน่าสนใจครับ ^^
ของจริงเคยอ่านในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐหลายปีแล้วนี่ครับ ที่ศาตราจารย์มหาวิทยาลัยโตเกียววิจัยสร้างต้นแบบขึ้นมา ลองหาอ่านในเน็ตน่าจะมีอยู่นะครับ ผมยังเซฟรูปเก็บไว้ในเครื่องเลย นานแล้ว
วัสดุพื้นผิวล่องหนมันก็มีแหละครับ แต่ที่อันนี้อ้างว่าไม่ต้องใช้แหล่งพลังงานเลยแล้วทำได้ขนาดนี้นี่มันฟังยังไงๆ อยู่
รูปคนญี่ปุ่นนั้นรู้สึกเทคโนฯ นั้นจะใช้กล้องถ่ายพื้นหลังแล้วฉายด้านหน้าเอา
ส่วนตามข่าวที่ว่านั้น อ้างว้าใช้เทคโนหักเหเหนี่ยวนำคลื่นแสงจากด้านหลังมาแสดงด้านหน้า ซึ่งปัจจุบันทำได้กับวัสดุที่โคตะระเล็ก หรือไม่ก็ทำได้เฉพาะมิติเดียว คือมองด้านข้างเห็นหมด และที่ผมงงอีกอย่างคือทำไมมันไม่แสดงคลื่นแสงของตัวคนที่อยู่หลังผ้าล่องหน
ถ้าใครเคนดูหนังเรื่อง มิสชั่นอิมพอสสิเบิล ตอน ปฏิบัติการไร้เงา คงพอเทียบเคียงออกตอนที่พระเอกของเรื่องลอบเข้าไปที่พระราชวังเคลมลินแล้วพยายามที่จะเข้าไปล่วงข้อมูลบางอย่าง เขาใช้เทคนิคคือการสร้างภาพเลียนแบบเพื่อลวงตา คือใช้กล้องถ่ายภาพมาฉายที่ด้านหน้าของจออีกด้านเพื่อพลางตา ผมว่าถาพที่บริษัทเอามาอ้างมันคล้ายๆเทคนิคตัวที่ผมกล่าวไว้ครับ แค่ตั้งข้อสังเกตครับ