วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมบุญชูโรจนเสถียร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ดร.แดนทอง บรีน ประธานสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมตัวแทนจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน อาทิ เวียดนาม สิงคโปร์ ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาอาชญาวิทยา และกระบวนการยุติธรรม คณะสังคมศาสตร์ จัดสัมมนาเรื่องสถานการณ์การยุติโทษประหารชีวิตในประเทศไทยและอาเซียน
ดร.แดนทอง กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเข้าใกล้การยกเลิกโทษประหารชีวิต ทั้งนี้ทัณฑสถานจะต้องเป็นสถานที่บำบัดฟื้นฟูและเป็นที่นักโทษสามารถใช้ชีวิตในสภาพที่มีมนุษยธรรม และที่สำคัญกระบวนการนี้คือความห่วงไยจากญาติพี่น้อง เพื่อน ซึ่งจะก่อให้เกิดแรงสนับสนุนให้นักโทษพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
ขณะที่ตัวแทนจากประเทศเวียดนาม กล่าวว่า ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามพยายามที่จะปฏิรูปกฎหมายอาญา และกฎหมายที่เกี่ยวกับหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อเปลี่ยนโทษจากประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ในประเทศไทย มีกลุ่มคนที่มีความเชื่อว่าโทษประหารยังมีความจำเป็นอยู่ โดยเชื่อว่าความรุนแรงของการลงโทษจะทำให้กลุ่มอาชญากร ยับยั้งชั่งใจในการก่ออาชญากรรม ทั้งนี้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะได้วางแนวทางเพื่อนำไปสู่การยุติโทษประหารในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก จะศึกษาความเป็นไปได้ ดูข้อดี ข้อเสีย คาดว่าจะดำเนินการได้ในปีนี้ ต่อเนื่องจนถึงปี 2556 รวมทั้งต้องทบทวนกฎหมายภายในประเทศไทย ส่วนระยะที่ 2 คาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 2557 การดำเนินการจะขึ้นอยู่กับผลของระยะแรกว่าไปในทิศทางใด
ถ้ามีคนไปฆ่าลูกหลานไอ้คนคิดยกเลิก ก็คงอยากให้ประหารมันเหมือนกันแหละ มีไว้น่ะดีแล้ว ถ้า ไม่อยากโดนประหาร ก็อย่าทำผิดกฏหมายซิ่
วันๆ คิดแต่ปกป้อง สิทธิโจร
ขอต่อนะครับ เกลียดจริงๆ ทุกวันนี้มีโทษประหาร ก็ยังฆ่าฟันกันง่ายๆ รายวัน แล้วถ้าไม่มีล่ะ คิดดู
เรื่องนี้ เป็นประเด็นกฎหมายที่ถกเถียงกันมานานแล้ว ในบ้านเราก็น่าจะพูดถึงกันมาไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้วครับ แต่ยังไม่มีข้อสรุป
คือเรื่องของเรื่องมันมาจากแนวความคิดที่ว่า "ถ้าการทำลายชีวิต คือความชั่วร้าย ใครจะทำก็เลวร้ายเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ รัฐ" เพราะฉะนั้น จึงไม่มีความแตกต่างกันเลย ระหว่างคนร้ายที่เอาปืนยิงคน กับรัฐที่ประหารชีวิตคนร้าย (อันนี้ ว่ากันตายทฤษฎีนะครับ ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็อีกเรื่องหนึ่ง)
อีกแนวคิดหนึ่ง เขาก็บอกว่า กระบวนการยุติธรรมของเราทุกวันนี้ ("เรา" นี้ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยนะครับ หมายถึง รวมๆ ทั้งโลก) เราไม่มีเครื่องมือวิเศษอะไร ที่จะสามารถใช้ดูได้ว่า ตกลงแล้ว เรื่องจริงๆ มันเป็นอย่างไร เราใช้การดูจากพยานหลักฐาน เป็นคนมั่ง เป็นเอกสารมั่ง ซึ่ง บางที คนก็จำผิด เอกสารคลาดเคลื่อน หรือไม่ก็หาย บางเรื่องหาพยานไม่ได้ ฯลฯ ทำให้ เรื่องราวที่เราได้รับจากกระบวนการยุติธรรม มันเป็นแค่ "เรื่องคาดเดา" ไม่ใช่เรื่องจริง 100% ถ้าเราเอาเรื่องเดา ไปประหารชีวิตคน ฟังดูแล้ว มันไม่เป็นเหตุเป็นผลเลย ยิ่งไปกว่านั้นการประหารชีวิต เป็นโทษที่ลงแล้ว "แก้ไขไม่ได้" ถ้าต่อมาภายหลัง มีหลักฐานอื่นมาเพิ่มเติมว่า เขาไม่ได้กระทำผิด แล้วจะแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรที่จะลงโทษคนถึงขั้น ประหารชีวิต
ผู้ที่เชื่อในแนวความคิดอย่างนี้ ก็จะเรียกร้องให้ ยกเลิกโทษประหารชีวิต ซึ่งในหลายๆประเทศ ก็มีการยกเลิกไปแล้วจริงๆ แต่ผมจำไม่ได้ว่า มีประเทศใดบ้าง
ส่วนฝ่ายที่เห็นด้วยให้คงโทษประหาร อันนี้ ก็อย่างที่เราๆ ท่านๆ คิดแหละครับ แบบที่แต่ละท่านให้ความเห็นไว้ใน Reply ก่อนหน้าผมนี่แหละ มีอีกข้อหนึ่ง ที่ยังไม่ได้มีท่านใดกล่าวถึง คือเรื่อง ภาระงบประมาณ คือ ถ้าไม่มีโทษประหาร โทษสูงสุด ที่มนุษย์จะลงกับมนุษย์ด้วยกันได้ ก็จะเหลือเพียง "จำคุกตลอดชีวิต" หมายความว่า รัฐ ต้องเอาเงินภาษี ของประชาชนผู้ประกอบสัมมาชีพ ไปเลี้ยงดู "คนร้าย" ไปตลอดชีวิตของเขา หรือมองจากอีกด้านหนึ่ง คนร้าย ได้รับการเลี้ยงดูจากรัฐไปตลอดชีวิต เจ็บป่วยรักษาฟรี สวัสดิการดีกว่าข้าราชการบางประเภทซะอีก มันจะถูกเรื่องหรือ
จะเห็นว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีเหตุผลสนับสนุน/คัดค้านกันอยู่ ผมว่า เรื่องนี้ คงต้องมีการคุยกันอีกนาน ไม่ได้ข้อสรุปง่ายๆหรอกครับ
ไม่เหมาะกับประเทศไทยด้วยประการทั้งปวงครับเพราะเรามีการลดโทษการกุศลเยอะครับ(ปล่อยนักโทษนะครับไม่ใช่ปล่อยนกปล่อยปลา)จริงๆควรเพิ่มโทษด้วยซ้ำ
ออกมาทีไรไม่เคยดีขึ้นเลยครับเลวลงเกือบ100% ดูได้จากข่าวแท็กซี่ข่มขืนผู้โดยสารถูกจับมาโชกโชนออกมามันก็มาข่มขืนอีก(มันสำนึกกันที่ไหน)
เด็กแว้นโดยจับออกมากลายเป็นพวกขโมยรถโดนอีกครั้งออกมากลายเป็นพวกปล้น ฆ่า ข่มขืน ค้ายา กลยาเป็นว่าคุกเป็นที่ฝึกวิชามันแถมออกมาเลวกว่าเก่า
ฆ่าคนตายเดี๋ยวนี้ไม่น่าเชื่อว่าติดจริงไม่เกิน10ปี ข่มขืน2-3ปีก็ออก(แต่ผู้หญิงตายทั้งเป็นทั้งชีวิต) จะเลิกประหารก็ได้แต่ต้องเพิ่มโทษและห้ามมีการอภัยโทษเอาบุญอีกเลยเอามั้ยล่ะ(บอกแล้วนะว่าปล่อยคนเลวไม่ใช่ปล่อยนกปล่อยปลา)
จำข่าวฆาตกรชาวนอร์เวย์ฆ่าหมู่ไล่กราดยิงประชาชน 69 ศพโดยไม่มีความโกรธเคืองกันมาก่อนเมื่อประมาณปีที่แล้วได้มั้ยครับ ... ผมไม่รู้คนนอร์เวย์รู้สึกอย่างไรเพราะนอร์เวย์ไม่มีโทษประหารชีวิตนานแล้ว เท่าที่ทราบคงได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี