ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพราะอยากลองเปรียบเทียบกันระหว่างอาหารสนามของทหารแต่ละประเทศ ซึ่งในกระทู้นี้จะยกตัวอย่างอาหารสนามของ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน ซึ่งผมพอจะหาข้อมูลได้ครับ อยากให้สมาชิกทุกท่านลองดูครับว่า แต่ละประเทศมีการพัฒนาด้านนี้กันมากน้อยเพียงใด เพราะว่าการสนับสนุนด้านอาหารนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อทหารเข้าสู่การรบ หรือ ฝึกภาคสนาม พวกเขาเหล่านั้นอาจจะหาเวลาประกอบอาหารเองได้ยาก และวัตถุดิบที่ต้องใช้ในการประกอบอาหารอาจหาได้ไม่มากหรือได้สารอาหารที่น้อย หรือพกพาไปได้น้อยก็ตามแต่ และอาจเสียได้หากผ่านไปเป็นเวลานาน ดังนั้น อาหารสนามที่เก็บได้เป็นเวลานาน สารอาหารครบถ้วน และกินได้ง่าย จึงเป็นคำตอบที่น่าจะเหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ที่พวกเขาต้องเจอ คำว่า "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง" ยังใช้ได้เสมอ และเมื่อทหารมีอาหารการกินที่สมบูรณ์ ก็จะทำให้พวกเขามีขวัญกำลังใจที่ดี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงต่อไป .
1. อาหารสนามของไทยครับ เป็นล๊อตที่เพิ่งได้รับเมื่อปีที่ผ่านมา มีหลากหลายเมนูครับ เช่น มัสมั่นไก่ กระเพรา แกงพแนงเนื้อ ฯลฯ รสชาติถือว่าใช้ได้ แต่คิดว่าควรปรับปรุงให้มีเนื้อเยอะขึ้นหน่อยครับ ข้าวเยอะมาก แต่กับน้อย ปล.ยืมภาพจากเว็บไซต์เว็บนึงครับ
2. อาหารสนามของสิงคโปร์ครับ ได้มาช่วงที่สิงคโปร์มาฝึกคชสีห์กับกองทัพไทย ของสิงคโปร์นี่ครบเครื่องสุดๆ ครับ รสชาติอร่อย มี2 ชุด คือชุดอาหารและชุดเครื่องดื่มทั่วไป และของใช้เล็กน้อย นอกจากนั้นยังมีเชื้อเพลิงแข็งเอาไว้อุ่นอาหารด้วยครับ
หลากหลายมากครับ
ภาพต่อครับ
3. อาหารสนามทหารจีนครับ ดุจากภาพแล้วก็ครบเครื่องเหมือนกัน แต่ของทหารจีนนี้ผมยังไม่เคยลองชิมครับ
มีทั้งอาหารมื้อหลัก และของว่างต่างๆ ครับ
น้ำชาก็มีมาในรูปก้อนละลายน้ำครับ
4. อาหารสนามมาเลเซียครับ จากทางประเทศเพื่อนบ้านทางใต้เรานี่เองครับ
มีขนมปังแคร๊กเกอร์ น้ำตาล เกลือ พวกเครื่องปรุงรส และเชื้อเพลิงแข็งไว้อุ่นอาหารเช่นเดียวกันครับ
ส่วนตัวผมว่าอาหารสนามของไทย ควรมีการเพิ่มปริมาณกับข้าวอีกหน่อยครับ และควรเพิ่มพวกเครื่องดื่มอื่นๆ และขนมเล็กๆน้อยๆ ให้หลากหลายกว่าเดิมครับ นอกจากผลไม้อบแห้ง ทั้งนี้เชื่อว่ากองพลาธิการคงกำลังพัฒนาด้านนี้อยู่เรื่อยๆ ขอให้พัฒนาต่อไปครับ เพื่อลูกหลานของเราที่จะมาเป็นทหารในอนาคต ให้กินดีอยู่ดี มีวขวัญกำลังใจเมื่อต้องออกภาคสนามกันครับ :)
ควรมีการพัฒนาร่วมเอกชนครับโดยภาครัฐเข้าไปถือหุ้นบางส่วน ราคาต่อหน่วยอาจแพงขึ้น แต่เงินก็จะกลับคืนภาครัฐในรูปแบบของภาษ๊หรือหุ้นที่ภาครัฐถือครอง
เคยอ่านเรื่องของ กองพลาธิการ กองทัพสหรัฐในสงครามอ่าวเปอร์เซีย...ทำให้เห็นความสำคัญอย่างมาก เวลาเกิดสงครามจริง ๆ...
สิ่งเหล่านี้ มีความสำคัญต่อขวัญและกำลังใจของ กำลังพล มาก...ยกตัวอย่างเช่น กองพลาธิการ จะจัดทำ แฮมเบอร์เกอร์ ให้กำลังพล ในสนามรบทุกอาทิตย์ ต้องมีการคำนวณ และวางรูปแบบการผลิต และการส่งกำลัง ไม่ใช่เรื่องง่าย จริง ๆ...รวมถึง เรื่องจดหมายต่าง ๆ ด้วย...
แล้วไม่ทราบว่ามี เมนู พวกข้าวเหนี่ยว เนื้อเต็ม บ้างหรือเปล่า ? เวลาออกภาระกิจลาดตระเวณระยะไกล....ดูแล้ว ข้าวเหนียวจะหนักท้องดี บูดยาก ให้กำลังงานสูง และคงต้องอาศัยเทคโนโลยี่การผลิตด้วย เพื่อให้ยังความนุ่มเป็นระยะเวลานาน...กรณีเกิดบรรจุภัณฑ์เสียหาย...ก็ยังสามารถเก็บไว้ได้ต่ออีกระยะหนึ่ง...ไม่ส่งกลิ่นแปลกปลอม...
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้ความเห็นครับ ผมเห็นด้วยที่ควรให้เอกชนพัฒนาร่วมด้วย เพราะทุกวันนี้กองทัพก็มีหน้าที่อยู่หลายด้านอยู่แล้ว บางหน้าที่ ที่แบ่งได้ก็น่าจะแบ่งให้เอกชนเข้าร่วมพัฒนา เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น เนื่่องจากเอกชนต้องแข่งขันกันประมูลรับงานและต้องผลิตให้ได้ตามสเปคของกองทัพ
ส่วนเรื่องขวัญกำลังใจนั้นเห็นด้วยจริงๆ ครับ ถ้าเปรียบเป็นตัวเราเอง การได้กินอาหารอิ่มทุกมื้อในสนามรบ ก็ต้องเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน
แต่เรื่องข้าวเหนียวนั้น ผมไม่ทราบจริงๆ ครับว่ามีหรือไม่ แต่ทราบมาว่าเมื่อก่อนกองพลาธิการเคยผลิตเนื้อเค็มนะครับ ส่วนข้าวเหนียว เมื่อก่อนคงมีการเตรียมไปและจัดการทำกันเองครับ
ผมเคยเห็นผ่านๆนะครับ ว่าของไทยมีวิจัยเกี่ยวกับซองอุ่นอาหาร โดยนำซองอาหารใส่ลงไปในซองอุ่นอาหาร ที่มีสารอะไรซักอย่าง จากนั้นก็ตบเบาๆซองอุ่นอาหารก็จะให้ความร้อน เคยมีภาพด้วยแต่หายไปพร้อมกับโน๊ตบุ๊กตัวเก่า รบกวนพวกพี่ๆที่ทราบเรื่องช่วยแถลงไขให้หน่อยครับว่ายังมีอยู่ไหมครับ
ตอบคุณ tuggy ครับ ถุงอุ่นของอาหารสนามของไทยนั้นมีครับ แต่ใช้วิธีการเทน้ำเข้าไปผสมกับสารอุ่น แต่มีปัญหาคือถุงอุ่นนั้นมีขนาดใหญ่และไม่ได้ใส่รวมลงไปกับซองอาหารสนาม
มีรูปภาพและวิธีการใช้มาให้ดูครับ Credit : คุณ FW190 จากกระทู้ใน thaiarmedforce ครับ
" อันนี้เป็นถุงสำหรับใช้อุ่นเจ้า MRE ครับ
ภายในถุงใหญ่จะมีซองสารอุ่นอยู่(ในรูป ห่อตรงกลาง) วิธีการก็แกะซองสารอุ่นแล้วใส่เข้าไปในถุงอุ่น แล้วเทน้ำตามระดับสเกลแล้วเอาซองอาหารที่ต้องการอุ่นใส่เข้าไป ใช้น้ำตามธรรมชาติ เช่น ลำธาร ห้วย หนอง คลอง บึงได้ แต่น้ำทะเล หรือ น้ำเย็นไม่เวิร์ค ครับ
สำหรับถุงอุ่น ส่วนตัวว่ามันยังใหญ่ไปหน่อยครับ ถ้าปรับให้เล็กลงกว่านี้ได้ หรืออยู่ในซองเดียวกับ MRE เลยก็น่าจะดีไม่น้อย "
สุดยอดเลยครับ
จริงๆให้เอกชนทำแล้วให้ทำขายทั่วไปผมว่าน่าจะขายได้อยู่นะ
ขอบคุณมากครับ คุณatith27009
ด้วยความยินดีครับคุณ tuggy ^^
ส่วนเรื่องให้เอกชนทำและขายทั่วไปตามที่คุณ seekman บอก ผมว่าก็เข้าท่าดีนะครับ อย่างเว็บขายอุปกรณ์เดินป่าบางเว็บ ก็เห็นนำมาขายกัน เป็นเสบียงง่ายๆ ในการเดินป่า 1 - 2 วันแล้วแต่ น่าจะสะดวกดีครับผม นอกจากจะขายให้กองทัพแล้ว ยังขายให้ประชาชนทั่วไปได้อีก ส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้ายิ่งขึ้นไปอีกครับ
ใช้เป็นอาหารเพื่อแจกจ่ายกับผู้ประสบภัยพิบัติได้ด้วยนะครับ