เวียตนามใช้อินเดียในการต่อรองกับจีนครับ  ให้มีการสำรวจน้ำมันร่วมกับอินเดีย   เป็นทางเลือกที่ฉลาดของเวียตนาม   เพราะจะทำให้จีนไม่กล้าใช้กำลังกับทีมสำรวจร่วมของเวียตนามและอินเดีย   เพราะอินเดียประกาศกร้าวแล้วจะใช้กองเรือตอบโต้ทันที

  อินเดียในขณะนี้มีความพร้อมทางด้านกำลังอากาศนาวีสูงกว่าจีนอยู่  เพราะเรือบรรทุกบ.ลำที่สองใกล้จะส่งมอบแล้ว   ส่วนเรือบรรทุกบ.ลำที่สามกำลังทำการต่ออยู่ในอู่และอีกเพียงไม่กี่ปีจะแล้วเสร็จ   กำลังอากาศนาวีของินเดียตอนนี้ต้องจัดว่าอันดับหนึ่งในเอเซีย     จนกว่าจีนจะทยอยต่อเรือบรรทุกบ.อีก 2-3 ลำตามแผนได้จริง(ตอนนี้เรือยังเป็นพิมพ์เขียวอยู่เลย)      ผมถึงบอกว่าอินเดียน่าสนใจในการผูกมิตรด้วยจนถึงระดับซ้อมรบร่วมกันเพื่อถ่วงดุล จีน  อเมริกา รัสเซีย  ในภูมิภาคนี้ครับ

  และแนวคิดของป๋าจูลเรื่องการมีเรือบรรทุกบ.เบาลำที่สอง  ที่เป็น STOBAR  นั้น   ผมมีความเห็นตรงกันกับป๋าจุลครับ    เพราะผมสนับสนุนมานานมากตั้งแต่สมัยท่านชวลิตแล้ว   ที่เราควรต้องมีเรือบรรทุกบ. ขนาด 30,000 - 50,000 ตัน   เพื่อรองรับการแข่งขันและความขัดแย้งในภูมิภาคนี้แล้วครับ   สำหรับผมจะ STOBAR หรือ CATOBAR ก็ได้ครับ  

   ผู้นำจีนและอเมริกามาเยือนไทยเป็นประเทศแรกในอาเซี่ยนด้วยเวลาแทบจะพร้อมกัน  เป็นการยืนยันความสำคัญระดับแรกสุดในภูมิภาคนี้    มันทำให้เราวางต้วลำบาก   ทางเลือกในการคบอินเดียนั้นจึงเป็นทางเลือกที่ดีมากๆทางหนึ่งครับ  

    เมื่อเรายังมีแผนจะต้องตัดคลองกระในวันข้างหน้า   ด้วยที่ตั้งประเทศที่สะดวกทั้งทางบก ทางทะเล  ทางอากาศ   เส้นทางเดินเรือ  เส้นทางเดินอากาศ  เส้นทางทางบก  และระบบท่อส่งน้ำมันและก๊าซ    มันทำให้เราต้องเลือกข้างเมื่อเกิดความขัดแย้ง   ยกเว้นว่าเราจะแกร่งดุจเดียวกับพวกเขา  มีเรือบรรทุกบ. 2 ลำควบคุมพื้นที่ของเรา   กองเรือดำน้ำ 2 กองเรือเพื่อควบคุมพื้นที่ของเรา    กำลังทางอากาศควรต้องขยายกองบินเพื่อรองรับการแข่งขันสะสมอาวุธอันดุเดือดในอนาคตอันใกล้นี้ของมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชีย   ที่แต่ละประเทศก็พยายมมีกองเรือบรรทุกบ.เพื่อแสดงกำลังข้ามโลกกันแบบมหาอำนาจตะวันตก(ที่กำลังอับแสงลงทุกขณะ)    

    ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดของประเทศเรา   เราต้องพึ่งพาตนเองได้ในเรื่องอุตสาหกรรมทหาร   ต้องมีกองทัพอากาศที่แข็งแกร่งและจำนวนกองบินที่มากกว่านี้   ต้องมีเรือบรรทุกบ. 2 กองเรือ   ต้องมีเรือดำน้ำ 2 กองเรือ   จึงจะรับมือเพื่อนบ้านและมหาอำนาจจากทุกทิศทางที่กำลังหันหัวเรือเข้ามาในพื้นที่นี้    และปกป้องผลประโยชน์ทั้งหมดของเราได้ครับ   

พอเพียงและเพียงพอ ดีกว่าครับ

ประเทศที่กล่าวถึงกันเค้าใหญ่เศรษฐกิจเค้าโต

ทะเลจีนใต้  คงไม่มีน้ำมันมากมายขนาดนั้นแน่  คงพอมีบ้างเท่านั้นเอง.. ครับ

น้ำมันมันคงไม่มีอยู่ตามยอดภูเขาที่โผ่ขึ้นมาจากใต้น้ำทะเลหรอก นะครับ...

ส่วนตัวว่า เราอยู่บนภูดูเสือกัดกันดีกว่า

ภัยคุกคามหรือความกดดันจะสูงแบบเผาขนแน่ ถ้าจีนใช้กัมพูชาเป็นฐานเรือ แน่นอนกระทบทั้งเวียดนาม มาเลเซีย อินโด ออสเตรเลีย เพราะอยู่ใจกลางเลยด้วยซ้ำ

แต่ถ้าเป็นทะเลจีนใต้ก็มีเวียดนาม มาเลเซีย อินโด อินเดีย แห่ไปสนใจมากกว่าจะมากระทบเราโดยตรง ฉะนั้นเราควรเป็นแบบรัีกษาเขตพื้นที่ของเราจะดีกว่า

เพราะหากเทียบงบประมาณและศัีกยภาพทางเรือ มาเลเซีย อินโด เวียดนาม ถือว่าครบแล้วทั้ง3มิติ  ส่วนเราเองทร.ยังมีภาระต้องอัพเกรดเรือที่มีให้เต็มประสิทธิภาพทีล่ะลำสองลำเอง

แต่ จีนเค้ามีเรือดำน้ำมากกว่าอินเดียหนิครับ และทะเลจีนใต้ก็ใกล้ จีนมากกว่าด้วยน่าจะบำรุงได้ดีกว่านะ ไหนจะ DF-21D

มาไกลไปปะบัง

ทะเลจีนใต้กับอินเดียผมว่ามันไกลกันอยู่นะต่อให้กำลังอากาศนาวีเยอะกว่าแต่ปะทะขึ้นมา บ จากเรือจะมีมาสักเท่าไร เรือรบที่จะมามีอีกเท่าไร บ สนับสนุนกว่าจะมาต้องอ้อมไปกี่ประเทศ หรืออินเดียจะมาตั้งฐานบินในเวียดนามก็คงไม่ใช่ที่

ที่อินเดียทำแค่อยากให้จีนลดความแข็งกร้าวลงให้มากกว่านี้  พยักษ์VSมังกรสองตัวนี้ใหญ่ทั้งคู่ เพียงแต่ถิ่นใครคนนั้นใหญ่  ทะเลจีนจีนใหญ่

ถ้ายกทัพมาซะขนาดนั้นผมเกรงว่าไม่แค่อินเดียมั้ง พี่กันแกก็รอโอกาสอยู่ ไหนจะเพื่อนนาโต้อีก ส่วนรัสเสียคงไม่อยากยุ่งหรอกครับ

ทะเลจีนใต้ คือ ทะเลที่จีนกำหนด โดยใช้ใต้หวัน เป็นเขตกำหนดการแบ่งโซน เหนือใต้หวัน ขึ้นไปทางเกาหลีและญี่ปุ่น จีน เรียกว่า ทะเลจีนตะวันออก

ส่วน ทะเลจีนใต้ ลงมาทางใต้ของใต้หวัน มาทางกลุ่มประเทศอาเซี่ยนของเรา จีน เรียกทะเลแถบนี้ว่า ทะเลจีนใต้

เอาแค่พื้นที่ทางทะเลของทั้งหมู่เกาะพาราเซล+หมู่เกาะสแปรตลีย์ ก็มีพื้นที่ มากกว่า 3,000,000 กว่าตารางกิโลเมตร พื้นที่ใหญ่กว่าไทย 5-6 เท่า (พื้นที่ของไทยทั้งประเทศ มีประมาณ 500,00 กว่าตารางกิโลเมตร) และมันเป็นพื้นที่สำคัญของโลก เพราะการเดินเรือสมุทรในพื้นที่นี้ ก็กินเข้าไป 30 กว่าเปอร์เซ็น ของทั้งโลกแล้วครับ ถ้าจีนได้ไป ญี่ปุ่นกะเกาหลีใต้ เดี้ยงแน่ เพราะเอาแค่ปิดการเดินเรือขนส่งน้ำมันของทั้งสองประเทศ โรงงานต่างๆ ของทั้งสองประเทศ ก็เดี้ยงกันหมดแล้วครับ นี่แค่เบาะๆ

ส่วนเรื่องของ น้ำมัน+ก๊าซธรรมชาติและแร่ธาตุต่างๆมากมาย มีปริมาณมากมายมหาศาล มีมากกว่าที่คุณคิดเสียอีก ลองไปศึกษาดูให้ดีครับ ลองไปหาอ่านบทความของ ร.ต.อ. นิติภูมิ นวรัตน์ ที่เขียนเกี่ยวกะเรื่องพวกนี้ไว้ก็ได้ครับ

ที่ อินเดีย ต้องกร้าวและโกรธมาก ก็เพราะจีนเล่นบทแรง จีน เล่นรวมเอา รัฐอรุณาจัลประเทศ ของอินเดีย ไปรวมไว้ในแผนที่ของตัวเองและพิมพ์ไว้ในหนังสือเดินทางของจีน เรื่องนี้ ทำให้อินเดีย โกรธมากครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ากัมบูชา รวม จ.จันทบุรีและตราด ไปพิมพ์ไว้ในแผนที่และหนังสือเดินทางของตัวเอง คนไทย จะคิดยังไงหละครับ (แค่ตัวอย่างอะครับ อย่าคิดมาก) และอินเดีย ก็มีโครงการสำหรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติร่วมกะเวียดนามครับ

การเสียเอกราช ทางการเรียกชื่อ หลายๆ ประเทศ เริ่มตื่นตัวในเรื่องนี้มากครับ โดยเฉพาะพื้นที่ ที่ยังมีความขัดแย้งกันในเรื่องดินแดน ก็เริ่มจะเปลี่ยนชื่อพื้นที่ในที่นั้น เป็นชื่อภาษาของตัวเองหมด ตัวอย่าง กรณีความขัดแย้งเขาพระวิหาร ยังมีหลายพื้นที่ของไทย อำเภอ+หมู่บ้านและพื้นที่ต่างๆ ยังออกเสียงเป็นภาษาเขมรเลยครับ แค่เริ่มต้น เราก็เสียแต้มในการต่อสู้ในเวทีระดับโลกไปแล้วครับ

ทะเลจีนใต้ แค่เรียกชื่อนี้ จีน ก็ชนะไปได้หลายเปอร์เซ็นแล้วครับ