ไม่ทราบว่ามีการทุจริตจริงมั้ยหรือฝ่ายค้านเอาขี้มาโยนใส่กองทัพเรืออีกแล้ว
ไม่รู้เหมือนกัน เห็นฝ่ายค้านบอกเกี่ยวกับโครงการปรับปรุงเรือนเรศวร ว่าทางกลาโหม
สั่งเปลี่ยนแท่นยิงเป้าลวงแบบหมุนของsaab ไปใช้แบบหมุนไม่ได้ของบริษัทอื่น ทั้งๆที่
saabเสนอมาตามสเปคของกองทัพเรือ
ข้อมูลของฝ่ายค้านเเน่นจริงๆครับเเต่ติดคำที่เปรียบเทียบน่าจะเเรงไปหน่อย...........
ถ้าเป็นเรื่องจริงละก็..เย่เลยครับ
เพิ่งได้ดู ประเด็น Sagem ครับ...
ถ้าเปลี่ยน สเปค ก็แย่ ล่ะครับ...
ยังไง Sagem มันน่าจะดีกว่าอยู่แล้ว...
เพียงแต่ TERMA จะใช้รุ่นเดียวกับที่เสนอในสภา หรือเปล่า เท่านั้นครับ...
Integrated Systems - Naval Decoy Systems
(Copenhagen, Denmark, December 4, 2008) -- The Air Warfare Destroyer (AWD) Alliance recently awarded Terma a contract worth approx. USD 5 million for the supply of the Soft Kill Weapon System (SKWS) for the AWDs Anti Ship-Missile Defence System.
The AWD decoy launching system capability includes four deck mounted MK-137 130 mm decoy launchers, launch control computer, and launcher interface unit. The system can be operated from the dedicated control units or via the Australian Tactical Interface (ATI). The system will support both passive and active decoys and is prepared for further DL-6T upgrade if required by the Royal Australian Navy at a later stage.
The SKWS is a key component of the Hobart Class combat system which will make the three AWDs some of the worlds most capable all-purpose warships. The first ship is scheduled to begin entering service with the Royal Australian Navy in 2014.
In 2003, Terma supplied SKWS decoy systems for the Royal Australian Navys Adelaide Class Guided Missile Frigates.
The Terma SKWS Decoy Launching System has proven highly effective through multiple tests performed by the Royal Danish Navy (RDN) for more than 15 years. The system is in continuous development in order to counter the new challenges in modern Electronic Warfare. SKWS is established internationally and is in service in different configurations in numerous countries such as Romania, Australia, Chile, USA, Norway, The Netherlands, and Denmark.
Source : Terma A/S
เรือป้องกันภัยทางอากาศของ ออสเตรเลีย ลำใหม่ ก็ใช้ TERMA เหมือนกัน...
คงต้องดู ข้อมูล กันอีกครั้งครับ...
ผมก็ได้ดูอภิปราย(โดยบังเอิญ)เหมือนกัน พอดีไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องเรือรบ ฟังแล้วก็ไม่ค่อยสบายใจครับ เพราะอยากให้เรามีของทันสมัยใช้
คงต้องรบกวนท่านผู้รู้ช่วยให้ข้อเท็จจริงด้วยครับ ว่าเปลี่ยนระบบเพราะเหตุใด เป็นตามที่ฝ่านค้านให้ข้อมูลหรือเปล่า เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกัน
ถ้า terma แย่กว่าจริงๆ แล้วก็เสียดายแทนกองทัพเรือนะครับ
คุณ Mr. Bean ผมก็หนีการเกณฑ์ทหาร สะเทือนนะครับ....
โดยเรียน ร.ด. 5 ปี (เพราะชุดมันยังไม่ขาดน่อ จะทิ้งก็เสียดาย....)
ฟังหู ไว้หูแล้วกัน
พรรคนี้ตอนนั้นก็วิธีการแบบนี้ทำให้ ทร. ชวดเรือดำน้ำไปแล้วรอบนึง
พอมาเป็นรัฐบาล เจอป่วนบ้างเลยได้ A-Jet มาแค่ 25 ลำ
ธรรมชาตินักการเมืองครับ โกงเอง ขัดกันเอง กรรมตกอยู่กับชาติที่ไม่พัฒนา ....ยามศึกเรารบ ยามสงบ เราก็รบ(กันเอง)
โดยส่วนตัว ผมก็เชียร์ Sagem นะ....
แต่ TERMA ก็ใช้ในเรือรุ่นใหม่ของ ออสเตรเลีย และใช้ในเรือ LCS ของ ทร.สหรัฐ ด้วยเช่นกัน...
คงต้องดูข้อมูลประกอบอีกที...รอดู รมต. ชี้แจง...
แต่ในส่วนตัว ผมว่า Sagem น่าจะเหนือกว่า...ถ้าจะเทียบในแง่ งบประมาณ จัดหา...
ส่วน TERMA อาจจะเด่นกว่าใน อนาคต ก็ได้...ถ้า ทร. จะติดตั้งเพิ่มเติมให้กับ เรือลำอื่น ๆ ของ ทร. ด้วย...
เพราะด้วยรูปแบบแท่นยิง จะยืดหยุ่นกว่า Sagem จะทำให้ ทร. ไม่ต้องจัดหา ตัวลูกเป้าลวง มากแบบ...ช่วยประหยัดงบประมาณไปในส่วนนี้...
นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในญัตติไม่ไว้วางใจพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ต่อประเด็นการเดินหน้าโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ (เรือลาดตระเวน) จำนวน 3 ลำ มูลค่า 553 ล้านบาท ด้วยวิธีการจัดซื้อจัดจ้างวิธีพิเศษ โดยไม่ฟังเสียงท้วงติงของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่มีข้อสรุปในการตรวจสอบว่าการจัดหาเรือลาดตระเวนดังกล่าวมีการแข่งขันไม่เป็นธรรมและอาจมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน โดยกระบวนการจัดหาที่มีการตั้งกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือลาดตระเวนมีพฤติกรรมรวบรัดการประมูล เพราะหลังจากที่ประกาศให้รับทราบแล้ว มีผู้ที่สนใจเข้าฟังรายละเอียดเงื่อนไขพร้อมรับเอกสาร วันที่ 1 - 8 พ.ย. 2555 จากนั้นวันที่ 19 เม.ย. ให้มารับฟังเงื่อนไขต่างๆ ของทีโออาร์ ทั้งนี้ได้กำหนดให้ยื่นเอกสาร ภายใน 2 พ.ค.2554 โดยมีเวลาแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น จึงทำให้ท้ายสุดแล้วทำให้มีเอกชนมายื่นเอกสารเพียง 2 ราย จากผู้ที่มารับฟังจำนวน 7 ราย ซึ่งบริษัททั้ง 2 รายดังกล่าวพบว่าเป็นเอกชนที่ทำธุรกิจในกองทัพและผลัดชนะประมูล โดยมีอดีตผู้บัญชาการทหารเรือ, อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการบริษัท ที่สำคัญหุ้นร้อยละ 25 อยู่ที่เกาะเคย์แมน และมอร์ริสเชียส
นายอลงกรณ์ อภิปรายต่อว่ายังพบการทำผิดเงื่อนไขทีโออาร์ ซึ่งมี 3 ข้อ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์หลักดีเซลเรือ, ระบบควบคุมการขับเคลื่อน ที่ต้องใช้ยี่ห้อเดียวกันกับเครื่องยนต์หลักและระบบควบคุม อีกรายเสนอตามเงื่อนไขทีโออาร์ แต่อีกบริษัทเสนอระบบควบคุมคนละยี่ห้อ โดยประธานคณะกรรมการคัดเลือกแบบเรือ หรือ ประธานคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ระบุว่าไม่มีความชัดเจนในการเชื่อมต่อของระบบ แต่บริษัทที่ร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรม ได้เสนอตามทีโออาร์ทุกประการแต่แพ้ ซึ่งแพ้ไปแค่ 0.7 คะแนนเท่านั้น และสุดท้ายคือ สมรรถนะของเรือ ซึ่งกำหนดให้ฝ่าคลื่นได้ ระดับ 5 หรือ สูง 4 เมตรลงไป แต่การยื่นซองของผู้ชนะประมูล พบว่าไม่มีความชัดเจน นอกจากนั้นแล้วมีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมภายหลังการกำหนดยื่นเอกสาร เช่น ทีโออาร์กำหนดใช้เครื่องยนต์ดีเซลเรือ ระบบขับเคลื่อนและควบคุมเป็นยี่ห้อเดียวกัน หากต่างยี่ห้อต้องได้รับการรับรองจากบริษัทผู้ผลิตเท่านั้น แต่ที่ยอมให้ยื่นเอกสารภายหลัง เนื่องจากการยื่นเอกสารรอบแรกนั้นเป็นการรับรองโดยตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ถือว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
"สตง.ใช้เวลาพิจารณาข้อร้องเรียนนี้เป็นเวลาปีกว่า ไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจน จนสรุปว่าเข้าข่ายการกระทำผิดต่อกฎหมายฮั้วประมูล ทำไมถึงท่านไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริต ทำงานให้มีประสิทธิภาพต่อส่วนราชการ แต่กลับเดินหน้าลงนามให้มีการจัดซื้อโครงการ ผมถึงบอกว่าท่านเป็นรัฐมนตรี ออฟสเปค" นายอลงกรณ์ อภิปราย
พล.อ.อ.สุกำพล ชี้แจงในประเด็นนี้ว่า หลังจากที่ตนเข้ารับตำแหน่ง ตนมีหน้าที่ที่ต้องปลดล็อคคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนเก่า มีคำสั่งชะลอการลงนามจัดซื้อ ไม่ใช่มารีดหาผลประโยชน์ ทั้งนี้การลงนามเดินหน้าโครงการของตนผ่านการพิจารณามาอย่างรอบคอบ โดยเชิญกองทัพบกมาหารือที่ห้องทำงาน ถึง 3 ครั้ง ในประเด็นของการยื่นเอกสารภายหลังที่จริงไม่ใช่สาระสำคัญ เนื่องจากเป็นเอกสารเพื่อยืนยันว่าเครื่องยนต์และเครื่องควบคุมระบบการขับเคลื่อน ที่เป็นคนละยี่ห้อ สามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้ โดยเป็นหนังสือยืนยันของบริษัท คัมมิ่นส์ ดีเซล ประเทศสิงคโปร์เท่านั้นซึ่งไม่มีผลทำให้การพิจารณามีปัญหา สำหรับการปฏิบัติงานในสภาพทะเลต่างๆ นั้น บริษัทซีเครท ได้คะแนนมากกว่าบริษัทมาร์ซัน เนื่องจากเครื่องมีความทนคลื่นได้สูงกว่า จึงทำให้ข้อกำหนดนั้นผ่านทั้งคู่ แต่ผลคะแนนไม่เท่ากัน
"รัฐมนตรีคนเดิมมีมติให้ชะโครงการ เมื่อ 18 ต.ค.2554 เพื่อให้ สตง.ตรวจสอบ จากนั้นกองทัพเรือแจงต่อ สตง.ถึง 6 ครั้ง แต่ไม่ได้ข้อสรุป ทั้งนี้สตง. ได้ทำหนังสือถึง ทร.ระบุว่าแม้มีประเด็นต้องตรวจสอบ แต่ความล่าช้าของการจัดหา เป็นความรับผิดชอบของกองทัพเรือ ในเรื่องกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีต่อไปเอง คือ สตง.ไม่มีส่วนร่วมรับผิดชอบใดๆ ซึ่งเราได้เสนอว่าขั้นตอนได้ทำตามระเบียบแล้ว ทุกอย่าง แต่ สตง.ก็ไม่ตอบว่ายังผิดอยู่ ประเด็นนี้บริษัทผู้ร้องเรียนได้ร้องไปหลายที่ เช่น กรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา โดยกรรมาธิการ ได้มีหนังสือสรุปผลการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2555 ว่าการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฎว่าผลการพิจารณาการชี้แจงทัพเรือ มีพยานบุคคล พยานเอกสารประกอบการชี้แจงถูกต้องกฎหมาย ระเบียบ สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การปฏิบัติของทางราชการ มีความเห็นให้ยุติเรื่องร้องเรียน ส่วนที่ สตง. จะส่งเรื่องไป ป.ป.ช. เป็นเรื่องที่กองทัพเรือชี้แจง" พล.อ.อ.สุกำพล ชี้แจง
พล.อ.อ.สุกำพล ชี้แจงต่อว่า สิ่งที่ตนทำไมได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร อย่างที่ทุกคนทราบว่าตนไม่ทำอย่างที่ใครกล่าวหา แต่ต้องการให้กองทัพเรือมีดีๆ ใช้ หลังจากที่ถูกดึงเรื่องไว้นานมากแล้ว ตนต้องกล้าหาญที่จะลงนามให้จัดซื้อ โดยไม่มีเรื่องของการทุจริต
ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ อภิปรายเพิ่มเติมว่า กรณีที่กองทัพเรือไปชี้แจง สตง. ถึง 6 ครั้ง สตง. ยืนยันว่าไม่ถูกต้อง ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมใช้ความกล้าในทางที่ผิด ทั้งนี้ก่อนที่จะลงนามอนุมัติ วันที่ 10 เม.ย.2555 กรรมการตรวจสอบ ได้รายงานผลการตรวจสอบเอกสารการจัดหาเรือลาดตระเวน ซึ่งสรุปว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสาร ข้อเสนอแบบเรือ และข้อเสนอด้านเทคนิค ของบริษัทมาร์ซัน ไม่มีเอกสารหรือข้อความใดว่าเครื่องจักรใหญ่ ตราอักษร คัมมิ่นส์ รุ่นเค50เอ็น สามารถออกเรือเร่งด่วนฉุกเฉินได้ทันที ตามที่เป็นสาระสำคัญระบุไว้ในทีโออาร์ นอกจากนั้นมีหนังสือ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2555 รายงานการตรวจสอบการยื่นเอกสารหลังการกำหนดให้ยื่นรายละเอียด ระบุว่า คณะกรรมการคัดเลือกแบบเรือไม่ได้รับหนังสือยืนยันอำนาจในการรับรองจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรใหญ่ ส่วนบริษัทคัมมิ่นส์เป็นเพียงตัวแทนผู้จำหน่ายเท่านั้น ทั้งที่เงื่อนไขทีโออาร์ระบุชัดเจนว่าต้องเป็นการยืนยันจากผู้บริษัทใหญ่ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมบกพร่องในหน้าที่ ขอให้แสดงความรับผิดชอบ
********************************************************************************
อีกข่าว...
ชื่อก็บอกแล้วฝ่ายค้าน ก็ต้องค้านทุกเรื่อง ผมไม่เคยเห็น พรรคนี้สนับสนุนรัฐบาลสักอย่าง ทำใจๆ
หลายคนเผยฝ่ายออกมาแล้วครับ ใจเย็นๆ แยกแยะหน่อย
เดี๊ยวบอร์ดเราเสื่อม ^^
ผมว่าบอร์ดนี้ไม่ควรเข้าการเมืองนะครับ
ใครจะถือหางฝั่งไหนก็แอ๊บกันไว้หน่อยก็ดี เดี๋ยวสีลอกเนื้อในกันซะงั้น
ส่วนเรื่องจะยี่ห้อไหนดีกว่ายี่ห้อไหน ก็เอาข้อมูลมากางวัดกันดีกว่า
ส่วนเรื่องการเมือง ใครจะได้เปรียบเสียเปรียบ มาเถียงกันในบอร์ดนี้
ผมว่าเดี๋ยวคงวุ่นวาย MOD เปล่าๆ ต้องมาตามลบ rep กันอีก
มีบางคห.โดนลบไปแล้วรบกวนสมาชิกอย่าหลงประเด็น
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000143835
ไม่เข้าใจคำว่าเป้าลวงแบบหมุน ขยายความให้นิดนึงครับ
คล้ายๆตะไล ที่มันหมุนๆ ใช้ป่าว...
ข้อมูล Sagem NGDS
ข้อมูล Terma SKWS
ก็เห็นใช้กันทั่ว
Terma (ต่อ)
Terma (ต่อ)
สรุปที่ รมต. ตอบคำถาม ก็คือ
1. ในขั้นแรก ต้องการระบบ Sagem
2. ข้อจำกัดของ ตำแหน่งติดตั้ง จะทำให้ไม่ครอบคลุม 360 องศา ทำให้ระบบทำหน้าไม่เต็มประสิทธิภาพ
3. ราคาถูกกว่า ระบบเดิม ประมาณ 100 กว่าล้านบาท ระบบ Sagem ประมาณ 300 ล้านบาท ระบบ Terma ประมาณ 200 ล้านบาท
4. ส่วนผลต่างที่แจงว่า ถูกว่า 1,000 บาท หมายถึง ราคารวมทั้งระบบทั้งหมดของ การปรับปรุงระยะ 2
5. ตัวลูกเป้าลวง ได้ทั้งเป้าลวงทางอากาศ และ เป้าลวง ตอร์ปิโด
ประมาณ วันอังคาร และวันพุธ กองทัพเรือจะทำการชี้แจงสื่อมวลชน
Terma (ต่อ)
Terma (ต่อ)
ระบบ Terma ติดตั้ง จำนวน 4 ตำแหน่ง
น่าจะเป็นรูปแบบ...
Terma (ต่อ)
Terma (ต่อ)
ระบบ เป้าลวง ตอร์ปิโด...ของ Terma
ประสิทธิภาพทั้ง 2 ระบบเป็นอย่างไรไม่ทราบ เดี๋ยว ผบ.ทร. มาชี้แจงอีกครั้ง
แต่จากโบรชัวว์ของทั้ง 2 บริษัท
Sagem NGDS เป็นแท่นหมุนได้ ยิงเป้าลวงได้ทั้งทางอากาศและตอร์ปิโด
Terma SKWS เป็นแท่นตรึง ยิงเป้าลวงได้ทั้งทางอากาศและตอร์ปิโดเหมือนกัน
ตามที่เข้าใจ Sagem NGDS เป็นระบบที่ดีกว่าครับ...เรือที่ติดตั้งระบบนี้ แทบจะไม่มีการติดตั้ง CIWS ร่วมด้วย...เช่น Formidable (ติดตั้ง 3 ตำแหน่ง) และ FREMM (ติดตั้ง 4 ตำแหน่ง)
แต่ติดด้วย ข้อจำกัดในตำแหน่งติดตั้ง ของเรือชั้น นเรศวร (ตามการจัดหา น่าจะได้เพียง 2 ตำแหน่ง)...จะทำให้ Sagem NGDS มีรัศมีไม่ครอบคลุม 360 องศา...
จึงเอา Terma SKWS มาแทน...
ซึง Terma จะต้องมีจุดตำแหน่งติดตั้ง อย่างน้อย 4 ตำแหน่ง...ข้อด้อย คือ การต้องมีคลังเก็บ ลูก Decoy กระจายตามตำแหน่ง ทั้ง 4 ตำแหน่ง เป็นอย่างต่ำ...
และ คิดว่าน่าจะต้องยังคง CIWS ของปืน 37 ม.ม. ไว้เหมือนเดิม...
ตามข้อมูลการปรับปรุงชุด รล.นเรศวร ของ ทร. ก็เป็น sagem
http://fcsorm.dyndns.org/fcsorm/images/jobupdate/550605/laststatus550605.pdf
ใจเย็นๆครับ ผมจะอธิบายว่า สตง.คือเจ้าหน้าที่ที่จบบัญชีและสายศิลปเป็นส่วนใหญ่ เวลาตรวจสอบอะไรจะยึดตัวหนังสือเป็นสรรถนะ ไม่เข้าใจหลักความจริงของ การจัดหาอุปกรณ์นั้น
ผมเคยเจอมาแล้วครับ จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ รพ.รัฐบาล มันเป็นอุปกรณ์ที่จำเพาะมาก มีอยู่ยี่ห้อเดียว รุ่นเดียวในโลก กว่าจะทำสเปคได้ คุยกันไม่รู้เรื่องเลย เจ้าหน้าที่สตง. บอกว่าล๊อกสเปก เพราะไม่มีคู่แข่ง (ก็มันมีอยู่รุ่นเดียวในโลก จะไปหาใครมาแข่งด้วยฟ่ะ)
ยังไม่พอกว่าจะจัดซื้อประกวดราคาได้ผ่านไปปีครึ่งครับ บริษัทที่เราจะซื้อเค้าก็ดีใจหาย ยกเลิกขายรุ่นเก่าเนื่องจากออกรุ่นใหม่มาทำตลาดแทน มีฟังชั่นเพิ่มมาอีกสองสามอย่าง เครื่องรุ่นเดิมเขาเลิกขายไปแล้วเขาขายตัวใหม่ ราคาเท่าเดิม
ปรากฎว่าซื้อไม่ได้ครับ เนื่องจากชื่อรุ่นของเครื่องไม่ตรงสเปคที่ทำไป สตง.ตอบว่าให้ซื้อรุ่นเดิม ไม่งั้นก็ซื้อไม่ได้
สรุปตอนนี้ ไม่ได้ซื้อครับ ตอนนี้เวลาผ่าตัดแบบพิเศษที่ทำหัตการจำเพาะ ก็เลยต้องใช้คนมาต่อสายนั่งกดปุ่มแทน เสียหมอดมยาไปอีกคนแทนที่จะได้ไปดูcaseอื่น
ราคาเครื่องประมาณ สองล้านห้า ครับ ต้องรอคนมาบริจาคอย่างเดียว รพ.เอกชนหรือมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบคงซื้อได้เลย แต่ที่ผมอัตโนมือไปก่อนระบบราชการไทย
ออกกฎมาเยอะมาก กลัวคนโกงหลวง(แต่คอรับชั่นกันเพียบ) แต่จะทำอะไรที่มันจะเจริญบ้างเนี่ย เหนื่อยใจแทน สุดท้ายตอนนี้ก็เลยเลิกพัฒนาหน่วยงานครับ เจ็บตัว เหนื่อยเปล่า เอาเวลาว่างไปทำให้เอกชนดีกว่า ทำดีได้ดีทำมากได้มาก มีอยู่จริงที่เอกชนครับ(ซึ่งก็คือของนักการเมืองและคนรวยทั้งหลายที่ถือหุ้นอยู่นั่นแหละครับ)
เพราะฉะนั้น เวลาจัดซื้อจัดจ้าง ถ้าระบุว่าเป็นของรุ่นไหนแล้ว ต่อให้มันจะไม่มีขาย บริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายมันเจ้งไปแล้ว ก็ต้องซื้อตามที่ขออนุมัติ
ยิ่งซื้อด้วยวิธีตกลงราคาเนี่ยเรื่องใหญ่เลย เพราะระบุว่าจะซื้อรุ่นไหน ไม่ได้เอาสเปคเปิด แล้วตกลงต่อรองราคากัน จึงขออนุมัติจัดซื้อ
แต่โดยทั่วไปจะใช้วิธีเขียนสเปคกว้างประมาณหนึ่ง ไม่จำเพาะมากแล้วให้มา E-auction กัน แต่มันก็มีข้อเสีย เกิดระบุว่าจะเอารถ หนึ่งส่วนสี่ตัน สี่ล้อมีกระบะ
มันจะมาแข่งราคากันตั้งแต่ ซูซูกิ ทาทา โตโยต้า ฮัมวี่ ใครถูกที่สุด คนนั้นได้ โดยไม่คำนึงถึง อย่างอื่น ขอแค่อย่าติดแบ็คลิสต์เป็นใช้ได้ แล้วหลวงเคยนึกถึงใจคนใช้งานไหม
พังขึ้นมาซ่อมไม่ได้ ไม่คุ้ม กว่าจะจำหน่ายได้ต้องส่งเรื่องครึ่งปี แล้วโดนตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่าพังเพราะอะไร ใครผิด ใครรับผิดชอบ ซ่อมแล้วไม่มีอะไหล่(เพราะเลิกจำหน่ายไปสามสิบปีแล้วประมาณนั้น)
ดังนั้นอุปกรณ์ทางราชการที่มันเฉพาะทางมากๆ ส่วนใหญ่จึงซื้อยากมากครับ ไอ้คนที่แพ้ประมูลมันก็ไปโพทนาว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ใครเคยเป็นกรรมการประกวดราคา และกรรมการตรวจรับของคงนึกภาพความปวดหัวออก เงินเดือนเท่าเดิม แต่ต้องเอาคอไปขึ้นเขียง แถมซื้อมาแล้วก็ต้องทำงานเพิ่มขึ้น เหนื่อยมากกว่าเดิม อยู่ดีมีคนมาร้องเรียนอีก ดังนั้นหลายหน่วยงานและยึดหลักพอเพียงดีที่สุด(จบมาใหม่ไฟยังแรงก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ตอนนี้เข้าใจแล้ว)
เมื่อไรเรื่องการเมืองจะจบกันซักที
จะชอบใครไม่ชอบใครไม่ว่ากัน แต่จะกล่าวหาใครอย่างน้อยก็ต้องมีหลักฐาน
ส่วนที่ว่า “ไม่เชื่อ” คำพูดใคร เพราะคนๆ นั้นเป็น “คนไม่ดี” ในสายตาตัวเอง
โดยไม่พิจารณาถึงสาระของข้อความที่เค้าพูด แบบนี้มันก็เกินไปหน่อยนะครับ
มันก็เหมือนกับคำพูดว่า “ไฟมันร้อน” ไม่ว่าคนพูดจะเป็นพระอรหันต์หรือคนโทษในคุก มันก็มีค่าเท่ากัน
เพราะมันคือ “ความจริง” ไม่ว่าใครจะพูด สุดท้ายมันก็ยังเป็นความจริง
ก็เหมือนกับตอนนี้เรื่อง “เป้าลวง” เมื่อมีข้อสงสัย ทุกคนก็ต้องมาพิสูจน์ว่าข้อสงสัยนั้นเป็น “ความจริง” หรือไม่
โดยทุกคนพยายามหาข้อมูลของทั้ง 2 ระบบมาปรียบเทียบกัน
จากข้อมูลที่ยกมาทั้งหมด ดูเหมือนว่า Sagem NGDS จะดีกว่า Terma SKWS ที่ว่า
เป้าลวงแบบหมุน คือ ปรับมุมยิงให้เป้าลวงไประเบิดพอดีกับสัญญาณเรดาห์ที่มากระทบได้ไม่ว่าสัญญาณจะมาในทิศทางใด ความสูงเท่าใด เพื่อการหักเหระบบนำวิถีของหัวรบได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและแท่นยิงเป้าลวงแบบนี้ยังบรรจุลูกจรวดเป้าลวงได้มากๆด้วย
ส่วนแบบยึดติดฐานตายนั้นต้องวางมุมยิงให้ครอบคลุม จะแย่ตรงที่ว่าลูกจรวดเป้าลวงไม่มากเท่าแบบแรกและการวางมุมยิงอาจไม่ทั่วถึง
แต่ที่ว่าทำไม ทร. จึงใช้ Terma SKWS นั้น ก็ต้องมาฟังเหตุผลของ ผบ.ทร. อีกที ถ้าเหตุผลมันเข้าได้
เช่นพื้นที่บนเรือมีจำกัด เมื่อติดตั้ง Sagem NGDS ทำให้ประสิทธิภาพของเป้าลวงไม่เพียงพอ ทำให้ต้องเปลี่ยนเป็น Terma SKWS ผมว่าทุกคนน่าจะยอมรับได้ ถ้าอธิบายให้เข้าใจถึงความจำเป็น
เพิ่มเติมรูป
ส่วนตัวคิดว่าแบบหมุน น่าจะมีจำนวนต่อจุดยิงมากกว่านะครับ
เอ่อ...มาอ่านเว็ปนี้หาความรู้สนุกๆ แอดมินฯพยายามขอร้องไม่ให้ออกความเห็นทางการเมือง แต่อ่านไปอ่านมาสักพัก พบว่า
juldas, batnight,mr.bean,beentuer,น่าคิด, เสื้อแดง(แจ๋)
ดี สนุกดี
ส่งรูปใหม่
ผมก็ว่าแล้ว ว่าไอ่เจ้าSagem NGDS มันจะติดได้เหรอ สุดท้ายเป็นเรื่องราว เพราะตอนนั้นผมก็คิดอยู่ว่า ตามที่รูปของท่าน จูดาส ได้เคยทำมาก่อน มีระบบSagem อยู่เพียงแค่2ระบบก็จริง แต่มันไม่สามารถยิง ได้รอบเรือหลอกครับ เพราะเรือชั้น นเรศวรนั้น มันมีมุมที่ติดได้แบบ360 องศาได้ไม่กี่จุด ซึ่งแต่จะจุดที่จะติดได้แบบ360องศา ก็รองรับน้ำหนักของเจ้า Sagem ไม่ได้อีก ส่วนตรงที่รอบรับได้ก็ยิงได้แค่180 องศาหรือต่ำกว่าอีกด้วยซ้ำ แต่ข้อดีของมันก็คือหมุนได้ และไปตามเป้าหมายได้ ส่วนเจ้าTerma SKWS นั้นก็แบบติดตายหมุนไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าของเก่าอีกนะครับ ผมว่า อย่างงี้ก็ต้องระบบCIWS อยู่ด้วยแหละครับ อยากจะต้องจัดหากันอีก หรืออาจะคงเจ้าType 76A เอาไว้หรือเปลี่ยนเป็นBreda Twin Fast Forty แทน นะครับ
5 5 5 5...ท่าน yam...ถ้าติดตามผมมานาน...ผมก็แสดงตัวมานานแล้วครับ...แต่พยายามจะไม่ วก เข้า...เว้นแต่ บางครั้ง...ถ้าไม่พูดเลย ก็จะเสียประเด็นสำคัญไปครับ...ซึ่งผมคิดว่า...แค่ให้ สะกิด ก็พอครับ...แล้ว Admin ก็ลบไป ก็จบครับ...เพราะผมเชื่อว่า สิ่งที่ผมคิด...สิ่งที่ผมแสดงความเห็น ก็ด้วยความหวังดีทั้งนั้นครับ...และพยายามเขียนเพื่อเข้าเหตุ-ผล...
ส่วนเรื่องระบบ เป้าลวง นี้...ประเด็น ณ เวลานี้...ผมมองว่า...ถ้าพูดถึงคุณลักษณะ มันคือเรื่องเทคนิค...ซึ่ง Sagem มันดีกว่าพอสมควรอยู่แล้ว...แทบจะไม่ต้อง ถกเถียง...
เพียงแต่ว่า มันเป็น เรื่องเทคนิค ของเรือรบสมรรถนะสูงของเราครับ.....ซึ่งผมกลับคิดว่า...เรื่องมันควรจะอยู่ในชั้น กรรมาธิการทหาร หรือ ถ้าสงสัยในเรื่องความโปร่งใส ก็ควรจะเข้าสู่ระบบ ปปช. มากกว่าใน สภา ครับ...เพราะเท่าที่ดู การอภิปราย ก็อภิปรายเรื่อง เทคนิค...ส่วนเรื่องราคาที่ควรจะเป็นประเด็นสำคัญ ไม่ได้มีการชี้แจงว่า ไม่มีความโปร่งใส อย่างไร...
ซึ่งผมก็เชียร์ Sagem อยู่แล้วครับ...ก็อยากฟังชี้แจงของ กองทัพเรือ เหมือนกันครับ...แต่ถ้าโดย เทคนิค ที่ก็ทำได้ แต่จะใช้ไม่ได้ดี เมื่อเทียบกับ TERMA...ซึ่ง TERMA ก็ไม่ได้ขี้เหร่ อะไร...เพราะก็ติดตั้งบนเรือสมรรถนะสูงชุดใหม่ ของ ออสเตรเลีย และเรือ LCS ชั้น Freedom ของ ทร.สหรัฐ...
เรื่องประเด็น มันก็จะต้องไปตกอยู่ที่ งบประมาณโครงการ ที่ควรจะเป็นประเด็นสำคัญ...ซึ่ง การอภิปราย ก็ไม่ได้มีชัดเจนในส่วนนี้ครับ...และกลับมีเรื่อง เทคนิค ซะโจ่งแจ้ง...กลายเป็นคนละประเด็น มากกว่าครับ...
ในตอนนี้ ผมก็เลยคิดว่า เรื่องนี้มันควรจะอยู่ในชั้นกรรมาธิการทหาร หรือ ปปช. หรือ ควรจะอยู่ใน สภา ?
อย่าไปแยกว่าใครเป็นแดงหรือเหลืองเลยครับทุกอย่างกำลังไปด้วยดี......
ส่วนเรื่องในประเด็นของกระทู้นี้ ฝ่ายค้านก็ถามได้ละเอียด และ ฝ่ายรัฐมนตรีว่าการ.... ท่านก็ตอบได้ชัดเจนครบถ้วนในประเด็นที่อีกฝ่ายถามแล้ว
สรุปเรื่องนี้เป็นเรื่องของเทคนิคซึ่งจะติด sagem ก็ได้แต่หากติดแล้วมีการทดสอบระบบแล้วใช้การได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ(ซึ่งเขาก็ทดสอบไปแล้ว)
มันก็จะเป็นประเด็นให้ฝ่ายค้านเค้าเอาเรื่องนี้มาเล่นงานหากเป็นเช่นนั้นคนที่เสียคือ ประชาชนผู้เสียภาษีอย่างเราๆนี่แหละครับ และเจ้าพนักงานของกองทัพ
ก็เสี่ยงโดน ม 157
ท่าน kok129...ผมก็ลืมอธิบายไปว่า...
ตามรูปที่ผมทำนั้น...ต้องมีการต่อส่วนขยาย เพื่อติดตั้ง Sagem บริเวณข้างปืนเรือ 37 ม.ม. เหมือนเรือชั้น ปิ่นเกล้า ที่ต่อขยายเพื่อติดตั้ง ท่อยิงตอร์ปิโด...เพราะก็ไม่แน่ใจว่า ตำแหน่งบนโรงเก็บเรือ จะติดตั้งได้...
ซึ่งการ โหลด ลูก Decoy ผมว่ามันก็ดูแปลก ๆ อยู่เหมือนกันว่า จะเก็บลูก Decoy และบรรจุ อย่างไร...แต่ แท่นยิง Sagem ก็มีหลายแบบ ตามที่ท่าน Ricebeanoil ได้โพสไว้...
เอ๋อ ผมพึ่งจะเข้าใจ นะครับท่านจูดาส เหมือนเราต่อเติมเข้าไปอีก หรือทำที่ยื้นออกมาอีกให้เจ้าSagem มันทำการได้180 องศา ผมว่ามันก็ดีเหมือนกันนะครับ แต่ถ้าเป็นแบบที่ท่านจูดาสว่า ก็คงจะติดตั้งทั้งหมด3จุด อ่ะครับ ผมว่าเรื่องนี้ต้องรอกองทัพเรือ เขามาแถลงข่าวอีกที แหละครับ
พรุ่งนี้มะรืนนี้ก็รู้เรื่อง
กห.+ทร. VS ปชป.+ปปช.
แท่นยิงมันหมุนไม่ได้ แต่ เรือ มันเลี้ยวได้ จะเอากี่องศา ก็ย่อมได้ มุมยิง มันก็ย่อมจะเปลี่ยนตามใช่หรือไม่
คือเรือมันเลี้ยวได้ก็จริง
แต่พวกอาวุธปล่อยเวลายิงแล้ว มันวิ่งเข้าหาเป้าหมายเป็นวินาทีนะครับ
ส่วนเรือโดยเฉพาะเรือใหญ่ๆ กล่าวจะให้ได้มุมจริงๆ ก็ใช้เวลาเป็นนาทีนะ
ดังนั้น rep บนๆ เค้าถึงเห็นว่าแบบหมุนน่าจะดีกว่านะครับ
ขอโทษครับ คุณ yam ผมไม่ใช่เสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้ออะไรทั้งนั้น เพียงถ้าคุณติดตามการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์แต่ละครั้ง ตั้งแต่อดีต คุณจะเข้าใจครับ อย่างกรณีเรือดำน้ำในยุครัฐบาลคุณบรรหาร เกือบ 20ปีที่แล้ว หรือ Alpha Jet ยุคคุณชวน หรือไม่ปีที่ผ่านมา 4 โครงการ เช่น GT-200 , BTR-3E1 , เรือเหาะตรวจการณ์ และฮ.ฝึก Enstrom 480B ซึ่งโครงการหล่านี้ ผมไม่ติดใจเรื่อง เทคนิค หรือคุณภาพใดๆของอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้
แต่ที่ติดใจคือ วิธีการจัดหา การจัดซื้อจัดจ้าง การคัดเลือกบริษัทฯที่ชนะตรงกับกฎเกณฑ์ที่ประกาศในเอกสาร TOR หรือไม่ มากกว่า คุณลองหาอ่านศึกษาดูครับ ว่าขั้นตอนต่างๆมันดำนินการตามระเบียบที่ทางราชการกำหนดหรือไม่
ส่วนรื่องเกณฑ์ทหารหรือไม่เกณฑ์ ผมขอโทษครับ ( ส่วนตัวผมรับไม่ได้ครับ กับคนที่ชอบเอารัดเปรียบคนอื่น ที่ทำงานหลายท่านคงมีคนจำพวกนี้ครับ ท่านคงทราบว่าคนพวกนี้มันเป็นเช่นไร )
ส่วนเรื่อง Sagem หรือ TERMA ที่อภิปรายกันในสภา ควรจะเน้น ที่ประเด็น เรื่องระบียบ วิธีการ ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างมากกว่าครับ เพราะมันมีระเบียบอยู่แล้ว ผือหรือถูกระเบียบ ว่ากันในสภาหรือสตง. ปปช. กันไปครับ แต่พวกข้อมูลเทคนิค ถ้าจะเอามาอภิปรายกันในสภา ควรเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จริงๆ ไม่ใช่อภิปรายเอามันอย่างเดียว ถ้าคุณ Yam อายุทัน การอภิปรายเรื่องการจัดหาเรือดำน้ำยุคคุณบรรหาร คุณจะทราบครับว่าทำไมผมเน้นประเด็นนี้ เล่นการเมืองจนกองทัพสียหายกันมากี่ครั้งแล้ว เท่านั้นครับ