หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


Demo ของ Grippen NG

โดยคุณ : Ricebeanoil เมื่อวันที่ : 21/11/2012 23:22:05

 

ดูแล้วเจ๋งดี 

ผมว่าประสิทธิภาพน่าจะใกล้เคียงกับ F-15 ที่หลายคนต้องการอยู่ 

ผมว่าตัวนี้มีโอกาสเกิดในประเทศเรามากกว่า F-15 นะครับ





ความคิดเห็นที่ 1


ตอนนี้กำลังทดลองบินเพื่อประเมินประสิทธิภาพกันอยู่ คาดว่าใน 5 ปีข้างหน้า คงเริ่มทำตลาดได้

 

 

โดยคุณ Ricebeanoil เมื่อวันที่ 19/11/2012 01:18:34


ความคิดเห็นที่ 2


โหลดอาวุธได้เยอะขึ้น ถังน้ำมัน 2 ถัง สามารถโจมตีในทางลึกได้ เครื่องยนต์ตัวใหม่แรงกว่าเดิม เรดาห์ตัวใหม่ตรวจจับพวก stealth ต่างๆได้

 

โดยคุณ Ricebeanoil เมื่อวันที่ 19/11/2012 01:21:52


ความคิดเห็นที่ 3


ตำบลติดอาวุธใต้ท้องเครื่อง เพิ่มมาจากหนึ่ง เป็นสอง ผลจากการออกแบบฐานล้อนหลังใหม่

โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 19/11/2012 03:20:03


ความคิดเห็นที่ 4


 เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๕ พลอากาศจัตวา Arne Hedén ที่ปรึกษาอาวุโสประจำผู้อำนวยการสำนักยุทโธปกรณ์ทางทหารสวีเดน  เข้าเยี่ยมคำนับ พลอากาศเอก ประจิน  จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ          เพื่อแสดงความยินดี และให้ข้อมูลทางทหารที่เกี่ยวข้องกับโครงการ GRIPEN 39 C/D โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ของ GRIPEN NG ที่สวีเดน ลงนามขายให้กับ ทอ.สวิสเซอร์แลนด์ เพื่อเป็นข้อมูลให้ ทอ.ไทย

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 19/11/2012 08:35:20


ความคิดเห็นที่ 5


มีแนวโน้มที่น่าสนใจใช่ไหมครับ ท่านท้าวฯ ส่วนตัวในอนาคตถ้าหากกองทัพอากาศเปลี่ยนแปลงความสนใจจาก F-35A ผมมองว่าตัวนี้น่าสนใจกว่า F-15SE มากในแง่ของค่าใช้จ่ายและความคุ้นเคยกับเครื่องชนิดนี้

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 19/11/2012 10:25:44


ความคิดเห็นที่ 6


ทำไมตอนนาทีที่ 2.23 ที่เห็นดาวเทียมโคจรรอบโลก ถึงได้เป็นภูมิภาคอาเซียน เห็นประเทศไทยเต็มๆ เลยหละครับ 

มีนัยอะไรมั๊ยหนอ

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 19/11/2012 13:45:31


ความคิดเห็นที่ 7


   ประสิทธิภาพน่าจะใกล้เคียง F-16 block 60 มากขึ้น   แต่น่าจะยังมีความสามารถบรรทุกได้น้อยกว่า F-16 อยู่ดี    แต่ก็ไปชดเชยที่ RCS ที่ต่ำกว่า F-16  เพราะเป็นเครื่อง Gen 4.5 ในขณะที่ F-16 เป็น GEN 4    และหวังว่าเรด้าร์ Raven น่าจะมีประสิทธิภาพใกล้เคียง APG-80 นะครับ   ส่วนระยะปฏิบัติการนั้นไม่แน่ใจว่าจะเทียมเท่า F-16 + CFT หรือไม่  เพราะ Jas-39 NG ไม่มีถัง CFT แบบ F-16  ถ้าต้องใช้ถังเชื้อเพลิงแบบปลดทิ้งติดตั้งที่ hardpoint ที่ปีก  จะทำให้เสียพื้นที่ติดตั้งระบบอาวุธไป    

   และสุดท้าย   ราคาขาย  หวังว่ามันจะถูกลงมาพอๆกับ  F-16 block 60 ได้    ถ้าทำได้ก็น่าสนใจ   แต่ถ้าทำไม่ได้ และราคาแพงพอๆกับ F-35A  F-35A ก็น่าเล่นกว่าต่อไป     

  ส่วนวีดีโอ presentation   น่าจะแสดงว่า SAAB พุ่งเป้ามาที่ตลาดเอเชียเป็นหลัก   ถ้าแผนงานพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยานที่ถูกหยิบมาปัดฝุ่นใหม่และญี่ปุ่นกลับมาลงทุนต่อ   งานนี้เราน่าจะสานความร่วมมือกับ SAAB มากขึ้นถึงขั้นร่วมผลิตและทำตลาดแบบที่ ทบ.ร่วมมือกับทางยูเครนนะครับ  



โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 19/11/2012 15:51:04


ความคิดเห็นที่ 8


   ถ้าราคาน่าสนใจ  และทำราคาได้ต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญได้(พอๆกับ F-16 block60)   แบบนี้ถ้าซื้อ F-35A จำนวน 2 ฝูง  เราอาจจะซื้อ  Jas-39 NG  ได้ 3 ฝูง   เออแบบนี้ค่อยน่าเล่นมากขึ้นมากครับ   ถึงแม้ผมจะชอบเครื่องแบบ SU-30/34/35 หรือเครื่องอย่าง F-15se    แต่ไหนๆก็ไหนๆ    ถ้าจะ Jas-39  ก็ควรเป็นเครื่องแบบเดียวกันทั้งหมดไปก็ดีแบบว่า 

 ฝูงสกัดกั้น 3 ฝูงเป็น Jas-39 c/d

 ฝูง strike fighter เป็น Jas-39 NG จำนวน 3 ฝูง 

แบบนี้ดูเข้าท่า   แล้วให้ทาง SAAB ย้ายการฐานการผลิตมาที่ไทยด้วย   อย่างนี้จะน่าสนที่สุด

   แต่จากรูป NG เล็กขนาดนี้  จะเอามาเป็น Strike fighter ไหวเหรอ......  F-16 block 60 ดูน่าจะเหมาะกว่า 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 19/11/2012 16:05:08


ความคิดเห็นที่ 9


  และถ้าทอ.เริ่มแบบนี้  ทร.ก็อาจจะเอี่ยวด้วยเพราะ sea gripen ก็พัฒนาจาก NG เช่นกัน   ทร.น่าจะต้องการอย่างน้อยก็ 1 ฝูงล่ะเพื่อทดแทน A-7  และถ้าตามแผนเก่าสิบกว่าปีก่อน  ก็ต้องการ F-18 อีก 1 ฝูง  ดังนั้นถ้าทร.ยังต้องการฝูงขับไล่อยู่อีกตามแผนเดิม   ทร.ก็อาจจะจัดหา 2 ฝูงได้   ถ้าเสนอแบบนี้แล้วขอให้ SAAB ย้ายฐานการผลิต  อย่างนี้รวมยอดความต้องการของทั้ง ไทย  สวีเดน และ สวิส  แบบนี้อาจจะทำให้จำนวนการผลิตมากพอที่จะทำให้ราคา gripen NG ลดลงได้พอๆกับ F-16 block 60  อย่างนี้น่าเล่นสุดขีด    เพราะเราจะสามารถแสดงตนเป็นกลางได้มากขึ้นมากในสถานะการณ์ที่จีนกับอเมริกาจะมาสร้างยุคสงครามเย็นอีกครั้งหนึ่ง   




โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 19/11/2012 16:14:41


ความคิดเห็นที่ 10


  เฉพาะไทย 

ทอ. ต้องการ c/d อีก อย่างน้อย 40 (รวม 3 ฝูง 54 เครื่อง)

ถ้าเลือก NG แทน F-35A และเพิ่มฝูงบินขึ้นอีก 1 ฝูง  ก็ต้องจัดหา NG  54 เครื่อง

ทร. เดิมต้องการ 1 ฝูงโจมตี 1 ฝูงขับไล่ ประจำเรือบรรทุกบ.เบา  ก็ต้องจัดหา sea gripen จำนวน 2 ฝูง 36-40 เครื่อง 

   แค่ไทยก็ปาเข้าไป  54+54+36 = 144 เครื่อง!     เป็น NG + sea gripen ก็ปาไป 90 ตัว

 

  รวมยอดของ ทอ. สวิส 22 เครื่อง   ยอดของสวีเดน 50-60 เครื่อง  เกือบ 200 เครื่องแล้ว    ราคาน่าจะลงมาอีกมากทีเดียว  โดยต้องเสนอให้ย้ายฐานการผลิตมาที่ไทยด้วย    แต่จำนวนขนาดนี้  ทอ.ต้องวางเป็นแผนระยะยาวและต้องการความต่อเนื่องของโครงการอย่างน้อยก็ 10 ปีขึ้นไปเลย  และต้องเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนจริงๆ  ซึ่งซีกนี้ดูจะบ้าพลังอุตสาหกรรมอยู่ 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 19/11/2012 16:25:58


ความคิดเห็นที่ 11


F-16 BLOCK60 ราคาประมาณ 80ล้านดอนล่าร์

F-35A ราคาประมาณ  154 ล้านดอนล่าร์

Grippen C/D  ราคาประมาณ  30 ล้านดอนล่าร์

ไทยมีเครื่องบินขับไล่ 5 ฝูง

F-5 1 ฝูง , Jas C/D 1 ฝูง , F-16 3 ฝูงโดย รอMLU 1 ฝูง

โจมตี 2 ฝูง

L-39 กับ Alpha Jet

คิดซะว่า Grippen NG ราคา เท่า F-16 BLOCK  60

ตามความเห็นท่าน : neosiamese2  เราจะซื้อ  Grippen C/D  40 ลำ  1,200 ล้านดอนล่าร์  36,000 ล้านบาท อันนี้มีความน่าจะเป็นไปได้และราคาที่ซื้อนี้จะทนแทน F-5 และ F-16ได้ 1 ฝูงคราวนี้ก็จะเหลือทนแทนอีก 1 ฝูง

คราวนี้จะซื้อ Grippen NG อีก คือ3 ฝูง 54 เครื่อง 4,320 ล้านดอนล่าร์ถ้าราคาเท่ากับ F-15-60นะโดยทอ ซื้อจริง 2 ฝูงเป็นการเพิ่มเครื่องบินขับไล่จากเดิม 1 ฝูง อีก 2,160 ล้านดอนล่าร์ 64,800 ล้านบาท รวมหมดนี่  100,800 ล้านบาท ทอ แบกรับ 10 ปี 10,080 ล้านบาท+ลบค่าอาวุธด้วยอีก 1,000ล้านบาท

ผมว่า น่าสนครับแต่มาลงทุนในประเทศเรารัฐบาลต้องช่วยค่าลงทุนภาคอุตสาหกรรมด้วยสิถ้าได้ครบเราก็จะมีเครื่องบินขับไล่ 5 ฝูง พร้อมอุปกรณ์เสริมอีรีย์อายและสถานีภาคพื้นอีกเท่านี้ก็น้ำลายไหลแล้ว แต่ NG นี้ทำภาระกิจครองอากาศกับโจมตีเชิงรุกได้ไหมครับ

โดยคุณ lfazuru เมื่อวันที่ 19/11/2012 21:38:05


ความคิดเห็นที่ 12


ชอบตรงที่ว่าเรด้าห์ ตรวจหาพวก สเตล ต่างๆได้นี่ซิ!!!!หมัดเด็ด อย่างอื่นงั้นๆ

โดยคุณ puoka123 เมื่อวันที่ 19/11/2012 21:40:05


ความคิดเห็นที่ 13


โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 20/11/2012 01:34:42


ความคิดเห็นที่ 14


ผมยังไม่เคยอ่านเจอจากไหนว่าเรดาร์เรเวนตัวนี้จับเครื่องบินเสตลธ์ได้ ดีกว่าเรดาร์อื่นๆเป็นพิเศษ

ช่วยแชร์กันหน่อยก็ดีครับ ถ้ามีข้อมูลเรื่องนี้

เพราะข้อมูลเสป็คเรดาร์ตัวนี้ก็ไม่ค่อยจะมีให้เห็น

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 20/11/2012 07:00:23


ความคิดเห็นที่ 15


ที่เคยอ่านที่ลงในหนังสือแทงโก้ ฉบับประมาณเดือน ตุลาคม หรือ พฤศจิกายน นี่ล่ะไม่แน่ใจเดี๋ยวไปค้นก่อน

เป็นคำสัมภาษของเจ้าหน้าที่บริษัทซาบ เขาบอกว่าเรดาห์ตัวนี้(ราเวน)เป็นเรดาห์แบบ EASA มีโหมดการทำงานหลายโหมด คือภาคพื้นดิน พื้นน้ำ อากาศ สร้างภาพแผนที่ความละเอียดสูง แต่ในคำสัมภาษไม่ได้บอกว่าตวจจับพวกสเตลต์ได้และก็ไม่ได้บอกว่าระยะตรวจจับเท่าไหร่แต่ก็น่าจะเกินกว่า 120 ก.ม.อยู่

ขอไปค้าดูก่อนนะครับเดี๋ยวเอามลงประมาณว่าหนังสือแทงโก้จะท่วมห้อง อิอิ

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 20/11/2012 08:52:13


ความคิดเห็นที่ 16


อ้อลืมบอก เดือนตุลาคม ปี 2554 นะครับ ^^

 

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 20/11/2012 08:53:19


ความคิดเห็นที่ 17


   แต่ปัญหามันอยู่ที่ราคา gripen NG นี่แหล่ะครับ   ราคาที่ขายให้สวิสนั้นสูงมหาศาล  กว่า 4000 ล้านบาททีเดียว    แพงกว่า F-35A ซะอีก    ราคา 2 เท่าของ F-16 block60   ซึ่งต้องบอกว่าถ้าทำราคาให้ลงไปต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญไม่ได้  อนาคตของ gripen NG มืดมนเอาเรื่องเลยครับ    จริงๆราคาควรต้องพอๆกับหรือต่ำกว่า F-16 block60  ด้วยซ้ำครับ   นั่นล่ะถึงจะน่าเล่นตามที่บอกเลย   จริง F-16  block 60   เหมาะจะนำมาเป็น strike fighter ได้ครับ    เพราะเป็นเครื่องขนาดกลางแล้ว  หนัก 10 ตัน   สามารถบรรทุกอาวุธได้กว่า 8 ตัน  คือ พอๆกับ  SU-30  และมีกำลังขับสูงถึง 33,000 ปอนด์   ซึ่งแรงขับต่อน้ำหนักจะดีกว่า Gripen NG ด้วยซ้ำ   บรรทุกอาวุธได้ดีกว่า NG   มีถังเชื้อเพลิง CFT จะทำให้สามารถบรรทุกอาวุธและเชื้อเพลิงไปได้ไกลกว่า NG มาก    แม้ว่าจะมี RCS สูงกว่าก็ตาม    เรด้าร์ APG-80 สามารถตรวจจับได้ไกลถึง 300 กม.  ซึ่งเหนือกว่า APG-68 v9  ราวๆ 25%   เกือบเท่าขีดความสามารถเรด้าร์ N011M ของ SU-30 ทีเดียวครับ     ถ้าทำราคาต่ำกว่า F-16 block60 ไม่ได้   ก็ไม่น่าเล่น   ถ้าจะไม่เล่น F-35A  ก็ไปเล่น F-16 block 60 จะดีกว่าด้วยซ้ำ

   ถ้าราคายังแพงขนาดนี้ต่อไป  F-35A  คงเป็นคำตอบต่อไปครับ  

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 20/11/2012 10:39:14


ความคิดเห็นที่ 18


   พิมพ์ไปเยอะหายหมด

เรด้าร์ APG-80 สามารถตรวจจับได้ไกลสุดประมาณ 300 กม.  สำหรับเป้าขนาดใหญ่   ถ้าเป็นเป้าขนาดเล็กแบบเครื่องบินขับไล่  ประมาณ 1 ตารางเมตรนั้น   ผมไม่มีข้อมูลครับ   แต่จากความสามารถการ tracking ของเรด้าร์แบบต่างๆ   และตรวจจับบ.ขับไล่ของเรด้าณืชนิดอื่นๆ    เดาว่า   APG-80  น่าจะตรวจจับเป้าเครื่องขับไล่ได้ที่ระยะประมาณ 150-180 กม.  ครับ  

   และด้วยเทคโนโลยีของอเมริกาด้านเรด้าร์ที่สูงกว่าทางอิตาลี   เดานะครับว่า  Raven น่าจะมีประสิทธิภาพพอๆกับ APG-68V9 เท่านั้น  คือ  ประมาณ 250 กม. สำหรับเป้าขนาดใหญ่ และน่าจะต่ำกว่า APG-80  สำหรับเป้าขนาดเล็กแค่ 1 ตารางเมตร 

  บอกได้คำเดียวว่า  Gripen NG ไม่น่าจะดีไปกว่า F-16 block 60 แต่ประการใดๆ    ถ้าจะเอามาเป็น strike fighter แล้ว F-16 ดูจะเหมาะสมกว่าด้วยซ้ำครับ

   แต่ถ้าเพื่อมุ่งหวังด้านพลังทางอุตสาหกรรมแล้ว   ถึงจะน่าเล่น NG  แต่ต้องราคาพอๆกับ F-16 block60 นะครับ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 20/11/2012 11:45:14


ความคิดเห็นที่ 19


สำหรับผม ถ้าจะหา strike fighter สำหรับ F15SE ถึงอยากได้สหรัฐก็ไม่ขาย อย่างมากก็ F15SG เท่านั้น และมีค่าใช้จ่ายมากเกินไป  ดังนั้นผมมอง 2 ตัว คือ F16 block 60 , block 52 plus ติด data link  อีกตัวคือ Jas39 NG โดยผมจะวิจัยติด CFT ให้ Jas39NG เพื่อให้สามารถติดอาวุธเพิ่มใต้ปีกอีก 2 จุด  จำนวน 3 ฝูง บิน กระจายตามสนาบบินชั้นใน เช่น  โคราช(ดูแลภาคอีสานทั้งหมดอละภาคตะวันออกบางส่วน)   ตาคลี(ดูแลภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันตกตอนบน)  อีกที่ผมเพิ่มเอาเองที่กำแพงแสน (ดูแลภาคตะวันตกตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน ภาคตะวันออกที่ติดทะเล)  และผมจะมีอีก 3 ฝูงอยุ่ตามสนามบินชั้นนอกเป็น Jas39CD   เช่น  ที่เชียงใหม่  สุราษฯ และแถวอุดรหรืออุบล  ส่วน F16 MLU ก็ให้อยู่ที่ตาคลีเหมือนเดิม  F16AB ก็ที่โคราชเหมือนเดิม แบบนี้ใครจะบุกเข้ามาก็คิดหนักแล้วครับ 

แต่ถ้า JAS39NG แพงกว่า F16 block 60 มาก ก็ต้องเอา F16 ไว้ก่อนแต่ต้องมี data link ด้วยเท่านั้น

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 20/11/2012 21:15:17


ความคิดเห็นที่ 20


ในใจลึกแอบเชียร์ตัวนี้  F-16IN ที่สหรัสเสนอในโครงการ Indian MRCA  คุณสมบัติเหนือกว่า F-16C/D Block 52+  เทียบเท่ากับ F-16 Block 60  อยู่ใน Gen 4.5   ถ้าสหรัฐไม่กักเทคโนโลยีก็ดีเลยทีเดียว  ถ้าสหรัฐกักเทคโนโลยีไว้แถมเรื่องมาก aim 120  + data Link  เข้าไปอีก  ถ้าอย่างนั้นเลือก gippen NG ดีกว่า 

 

 

โดยคุณ หลวงอาวุธวิเศษ เมื่อวันที่ 20/11/2012 22:19:44


ความคิดเห็นที่ 21


http://www.saabgroup.com/en/About-Saab/Newsroom/Press-releases--News/2012---7/Gripen-NG-flying-with-Raven-ES-05-AESA-radar/

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 21/11/2012 00:48:12


ความคิดเห็นที่ 22


แนวความคิดท่าน Rayong คล้ายผมเลยครับ

แต่ถุงอย่างไรก็อยากให้ ทอ. มีเครื่องโจมตีทางลึกหรือครองอากาศแบบ 2 เครื่องยนต์อย่างน้อยสัก 1 ฝูงครับเพื่อประกันได้ว่าเราสามารถไปถึงหน้าบ้านท่านได้เหมือนกัน

แล้วถ้ามองกริฟเพ่น NG ถ้าจะเอามาป็นสไตส์ไฟเตอร์ผมดูมันเล็กเกินไปเหมาะที่จะเป็นพวกสวิงโรลตามที่ออกแบบไว้แต่แรกมากกว่า หรือเป็นพวกอินเตอร์เว็ฟเตอร์ทดแทน

ปู่ F-5 ทั้งหมด แต่ถ้าบอกว่าราคามันแพงกว่า F-16 B.60 ก็ถ้าเกิดเราอยากซื้อจริงๆแล้วเราไม่ได้ ดาต้าลิ้งค์+อัมราม มาด้วยมันจะน่าสนตรงไหน ผมยังมองกริฟเพ่นใน

มุมที่ดีในการเป็น อินเตอร์เซ็ฟเตอร์หรือสวิงโรลอยู่ เพราะอถึงจะแพงกว่าแต่เราได้มาครบทั้ง ดาต้าลิ้งค์+ ไอริส-ที เมธิออร์ แล้วลองให้ทางซาบพัฒนาถังน้ำมันแนบข้างลำตัว

เพิ่มอีกนิดมันก็น่าจะเป็นไปได้ เหมือนขับเฟอร์รารี่อย่างเท่แต่เครื่องเสียงดังง้องแง้ง เบาะหนังเทียม ประมาณนั้น

 

ขออภัยครับรูปอวตาลใหญ่ไปกำลังแก้ไข...^^

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 21/11/2012 08:49:17


ความคิดเห็นที่ 23


สวิสรับไปตกลำละเกือบ 150 ล้านเหรียญ

ผมว่าไม่เหมาะหรอก ราคาขนาดนี้ได้ SU-30 2 ลำครึ่ง

เอาส่วนต่างมาจ่ายค่าน้ำมันแพงๆ ค่าโอเวอร์ฮอล สรุป 20 ปีก็ราคาเท่ากัน

เพียงแต่ ซู จะดีกว่าเยอะ

 

หรืออีกช๊อย ทอร์นาโดของเยรมัน เอามาอุดช่องว่าไปก่อน

รอท่าเรือทวาย-รถไฟความเร็วสูง สร้างเสร็จ GDP คงพุ่ง ตอนนั้นค่อย ขยับไปหาอย่างอื่นดีกว่า

โดยคุณ fulcrum37 เมื่อวันที่ 21/11/2012 10:53:27


ความคิดเห็นที่ 24


   F-16 IN เวอร์ชั่นนี้ดุูน่าสนใจมากนะครับ   จ๊าบ.....แต่เคยเห็นแบบจำลองของ IN  ทางเน็ตก็หน้าตาคล้ายๆ F-16 block 60  สงสัยนี่จะเป็นรุ่น upgrade จริงของ F-16   แบบว่าแทบออกแบบใหม่เลยนะนี่   ราคาจะมิแพงลิ่วเลยหรือครับ    ช่องรับอากาศยังกะ J-10 ตัว upgrade ล่าสุด     แต่แผนแบบปีกดูแล้วเหมือนเครื่อง Mirage2000  ซึ่งดูจะไม่เหมาะในการโจมตีภาคพื้นดินเท่าไรครับ   เพราะเครื่องจะเกิดอาการสคอลง่ายขึ้นและสั่นมากขึ้นเมื่อมีความเร็วต่ำลง   ซึ่งเครื่องโจมตีมักจะใช้ความเร็วก่อนการปล่อยอาวุธไม่มากครับ   ปีกลู่หลังแบบเดิมของ  F-16 เหมาะสมสำหรับภาระกิจโจมตีมากกว่าครับ     แจาการปรับปรุงช่องรับอากาศนั้นน่าสนใจมากทีเดียวสำหรับ F-16  

   แต่เพื่อนๆก็กล่าวถูกเรื่องหนึ่งครับ   อเมริกันนี่เรื่องมาก  กั๊กสุดๆ   ถ้าดีลแบบนี้   น่าจะติดต่อทั้ง SAAB และ LOCKHEED มันทั้งคู่ดีที่สุดครับ   ผมว่า SAAB  ทำได้แน่สำหรับถึง CFT  เพราะเครื่อง Rafale ของฝรั่งเศสยังสามารถทำได้เลย    แม้ว่า Jas-39 NG ดูไม่ค่อยเหมาะสำหรับภาระกิจ  strike fighter นัก   แต่มันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพลังทางอุตสาหกรรมและการดำเนินความเป็นกลางของประเทศ  ถ้าทำแบบนี้  ทั้งสองฝ่ายอาจจะเสนออะไรดีๆแบบสุดๆให้เราก็ได้   ยิ่งอเมริกาและยุโรปกำลังถังแตกแบบนี้อยู่ด้วยครับ   รวมยอดกับทร.ด้วย   จำนวนขนาดที่บอก  ผู้ขายแทบฆ่ากันตายแน่ๆครับ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 21/11/2012 22:42:22


ความคิดเห็นที่ 25


   ผมว่า CFT นั้นไม่น่าจะยาก  ถ้าเราพร้อมและซื้อจริงสวรเดนคงจัดสร้างให้ได้ครับ   เพราะ rafale ก็ทำ   typoon ก็ทำ  แม้แต่ J-10 ก็ทำครับ






โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 21/11/2012 23:22:05