|
||
.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - อินโดนีเซียยังทุ่มงบประมาณจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่องอันเป็น ส่วนหนึ่งในการพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันประเทศในระยะ 10 ปี ล่าสุด ไม่นานมานี้ได้ตัดสินใจซื้อเรือคอร์แว็ตอีก 3 ลำ จากอังกฤษเพื่อใช้สำหรับตรวจการณ์ชายฝั่ง ซื้อปืนใหญ่ 155 มม.อัตตาจรจากฝรั่งเศส และจรวดชุดติดตั้งบนรถยนต์จากประเทศบราซิล รวมเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์
เรือรบที่จัดซื้อล่าสุดเป็นชั้นนาโคดา รากัม (Nakhoda Ragam-Class) บริษัท BAE System ต่อให้กองทัพเรือบรูไนแล้วเสร็จทั้งหมดตั้งแต่ปี 2547 แต่เกิดเป็นคดีความกัน พระราชาธิบดีแห่งบรูไนทรงไม่ชอบพระทัยที่ “ไม่ได้ตามพระประสงค์” จึงไม่ยอมรับมอบ
ตามรายงานของบีบีซีกรุงลอนดอนก่อนหน้านี้ การไกล่เกลี่ยยุติลงในปี 2550 บรูไนยอมจ่ายเงินค่าเรือทั้งหมด 600 ล้านปอนด์ แต่ไม่ยอมรับมอบ และให้บริษัทในเยอรมนีแห่งหนึ่งจัดการขยายให้ ซึ่งในที่สุดก็ลงเอยที่อินโดนีเซีย ซึ่งรายงานในเว็บไซต์ข่าวกลาโหมหลายแห่งในสัปดาห์นี้ระบุว่า ซื้อในราคาเพียง 20% เท่านั้น
สำนักข่าวกลาโหมปากีสถานที่ติดตามเรื่องนี้มานานได้รายงานว่า บรูไนตัดสินใจขายให้อินโดนีเซียในราคาลำละ 50 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากกองทัพเรือบรูไน (Kapal Diraja Brunei - KDB) ใช้เรือรบที่ติดเครื่องยนต์ดีเซลทั้งหมด แต่เรือคอร์แว็ตชั้นนี้ใช้เครื่องยนต์เทอร์ไบน์ กลายเป็นสิ่งแปลกปลอมและไม่มีที่ซ่อมบำรุง
ตามรายงานในเว็บไซต์ naval-technology.com บรูไนเซ็นสัญญากับ BAE ในปี 2541 สองลำแรกคือ เรือนาโคดา รากัม (ตั้งชื่อตามนักเดินเรือชาวมาเลย์คนหนึ่ง) กับเรือเบดาฮารา สกัม (KDB Bendahara Skam) ต่อเสร็จในเดือน ม.ค. กับ มิ.ย.2544 ตามลำดับ จอดที่อู่สก็อตสทูน (Scotstoun ) ของบริษัท BAE Systems Marine เมืองกลาสโก ในสกอตแลนด์ตั้งแต่นั้น ลำสุดท้ายคือ เจรัมบัค (KDB Jerambak) เสร็จในเดือน มิ.ย.2545
เรือชั้นนาโคดารากัม มีขนาดเพียง 1,940 ตัน ยาว 95 เมตร ใช้ระบบอัตโนมัติเกือบทั้งหมด ติดระบบอำนวยการ และควบคุมอาวุธนอทิส 2 (Nautis II) ใช้นายทหารกับลูกเรือประจำการเพียง 79 คน เป็นอีกเวอร์ชันหนึ่งของเรือติดอาวุธนำวิถีแบบ F2000 ของกองทัพเรืออังกฤษ
ทั้ง 3 ลำติดจรวดเอ็กโซเซ็ต MM40 Block II ของฝรั่งเศส ระบบจรวดต่อสู้อากาศยานซีวูล์ฟ (Sea Wolf) ของอังกฤษ ปืนใหญ่โอโตเมลารา (Oto Melara) 76 มม. ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี ระบบปืนใหญ่อัตโนมัติ 30 มม.ท่อยิงตอร์ปิโดขนาด 324 มม.อีก 2 ท่อ ติดตั้งระบบเรดาร์ Optoelectronic Ramadec 2500 ที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลก รวมทั้งกองทัพเรือจีนด้วย
เรือชั้นนี้ยังมีลานจอดเฮลิตอปเตอร์อีก 1 ลำ และด้วยราคาดังกล่าวอินโดนีเซียได้ระบบอำนวยการ และควบคุมอาวุธ รวมทั้งอาวุธประจำเรือ กับระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทั้งหมด ยกเว้นเพียง ฮ.เท่านั้น “สหราชอาณาจักรได้ให้คำมั่นจะสนับสนุนอย่างเต็มที่การสร้างความแข็ง แกร่งด้านความมั่นคง และการป้องกันชาติของอินโดนีเซีย” รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซียยุสกิอานโตโร (Yusgiantoro) ให้สัมภาษณ์ระหว่างไปเยือนกรุงลอนดอนปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งได้พบหารือกับฝ่ายอังกฤษ รวมทั้งเข้าเยี่ยมคำนับนายเดวิด คาเมรอน ด้วย ตามรายละเอียดที่เพิ่งจะมีการเปิดเผย อังกฤษได้ตกลงขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่อินโดนีเซียหลายรายการ รวมทั้งระบบจรวดสตาร์เตรค (Starstreak) ปืนสไนเปอร์ เรือรบ และอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ข่าวกลาโหมเจนส์ (Janes) ที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอนรายงานในสัปดาห์นี้ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ อินโดนีเซียได้เซ็นซื้อปืนใหญ่แบบอัตตาจรขนาด 155 มม. แบบซีซาร์ (CAESAR -- CAmion Equipe dun Systeme dARtillerie) จากฝรั่งเศส จำนวน 37 กระบอก มูลค่าประมาณ 240 ล้านดอลลาร์ สำหรับกรมทหารปืนใหญ่ 2 แห่ง โดยเริ่มส่งมอบปี 2556 เป็นต้นไป แต่เว็บไซต์ข่าวกลาโหมอีกแห่งหนึ่งรายงานว่า ปืนใหญ่ล็อตนี้มีมูลค่าเพียง 170 ล้านดอลลาร์ และอินโดนีเซียซื้อเพียง 2 กระบอกก่อน ได้รับมอบในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แต่เว็บไซต์แห่งนี้ไม่ได้อ้างแหล่งที่มาของข่าว ตามรายงานของ Janes กองทัพบกไทยมีปืนใหญ่ฝรั่งเศสแบบเดียวกัน จำนวน 6 กระบอก และได้นำออกปฏิบัติการสนามในช่วงที่เกิดการปะทะที่ชายแดนกัมพูชาในเดือน ก.พ.2554 ซึ่งฝ่ายไทยกล่าวว่า ทำลายรถบรรทุกระบบจรวดชุด BM-21 “กราด” ของกัมพูชาได้อย่างน้อย 4 คัน . |
|||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||
5
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000137515
|
ซื้อเยอะนะ อินโดมีข้อพิพาทกับใครมั่งครับเนี่ย
เห็นแล้วอยากให้ ทบ. เร่งผลิตปืนใหญ่อัตตาจรที่วิจัยไว้ออกมาใช้เร็วๆ ติดระบบควบคุมการยิงของสวีเดน ขั้นต้นสัก 24 ระบบ