โดยบทความนี้เขียนโดยผู้ใช้นามปากกาว่า rungsira : รุ่งศิลา
ยานยนต์เคลื่อนที่เร็วทางยุทธวิธี
รถบัคกี้ (Buggy) เป็นยานยนต์ที่มีความคล่องตัวสูง สร้างทดแทนง่าย คือสามารถพัฒนาและผลิตได้จากวัสดุที่จัดหาจากท้องตลาด และดำเนินการผลิตโดยสรรพาวุธ ทบ. ร่วมกับบริษัทผลิตรถยนต์ภายในประเทศเราเอง เดือนหนึ่งสามารถสร้างได้เป็น 100 คัน ซึ่งราคารถเปล่าไม่รวมเครื่องมือสื่อสารและระบบอาวุธที่ติดตั้งทั้งหลาย เบ็ดเสร็จงบประมาณต่อคันไม่เกิน 500,000 บาท ราคาขั้นต่ำสุด 200,000 บาท ก็สามารถสร้างได้
รายละเอียดรถลาดตระเวนโจมตีเคลื่อนที่เร็ว
พลประจำรถ : จำนวน 2 นาย (พลขับ, พลปืนกล)
โครงรถ : เหล็กเหนียว หรืออลูมิเนียมอัลลอย
ระบบขับเคลื่อน : 2 ล้อหลัง เครื่องยนต์ท้าย
เครื่องยนต์ : เบนซิน ขนาดความจุ 1300-1500 ซีซี.
ล้อรถ : ยางตันหล่อดอก 4 ล้อ
ระบบไฟ : แบตเตอรี่แห้ง 12 โวลต์
ไฟส่อง : ไฟหน้า4ดวง ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ตามมาตราฐานรถยนต์ สามารถเพิ่มไฟสปอร์ตไลต์ได้ตามภารกิจ
ระบบสื่อสาร : ติดวิทยุสื่อสารตามแบบมาตราฐานของทบ. พร้อมชุดปากพูดหูฟังประกอบศรีษะ
อาวุธ : ติดปืนกลเบาเนเกฟขนาด 5.56 มม. จำนวน 2 กระบอก บนช่องพลยิงบนหลังคารถ และบริเวณกระโปรงหน้าที่นั่งด้านข้างพลขับ อาวุธอาจเปลี่ยนเป็นปืนกลเอ็ม-60 เครื่องยิงลูกระเบิด 40 มม. ยิงเป็นชุด และปืนกลหนัก M2 Browning .50Cal
อาวุธประจำกายพลประจำรถ : ปืนพกสั้น 9 มม. ซองหน้าอก และปืนไรเฟิลพับฐานขนาด 5.56 มม
สามารถจัดรูปแบบปฏิบัติการในลักษณะ หมู่ลาดตระเวนยานยนต์ระยะไกล ใช้ยานยนต์บัคกี้ 3 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน จัดขบวนเป็น 1 หมู่ลาดตระเวนไกล เสริมด้วยฮ.บินคุ้มกันและกู้ภัยปฏิบัติภารกิจ
และจัด หมู่ย่อยลาดตระเวนคุ้มกัน ใช้ยานยนต์บัคกี้ 2 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน ในภารกิจแบบเดียวกับกรณีโจรใต้ขับรถปิคอัพประกบยิงรถจักรยานยนต์ทหารชุดลาดตระเวน สังกัดร้อย.ร.15321 ฉก.ปัตตานี 25 ในเช้าวันที่ 28 ก.ค. 55 เวลา 06.50 น. จนเป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย และบาดเจ็บ 2 นาย ที่อ.มายอ จ.ปัตตานี ซึ่งมีปรากฏภาพคลิปวิดิโอ
ผมนำเสนอยานยนต์ "บัคกี้" ชนิดนี้เพื่อนำมาเสริมข้อจำกัดการใช้รถจักรยานยนต์ 2 ล้อ เพื่อภารกิจลาดตระเวนคุ้มครองและโจมตีตอบโต้ของเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม ดังตัวอย่างภาพ
กรณีล่าสุดจากคลิปวิดีโอที่ทหารชุดคุ้มครองครูถูกลอบโจมตี ในภาพนั้นจะเห็นได้ว่ายุทธวิธีของผู้ก่อความไม่สงบได้ขับรถเข้าเทียบจากด้านหลังมุมมองตรวจการของทหาร และลงมือปฏิบัติยิงด้วยความรวดเร็วหนาแน่น กระนั้นถึงแม้ว่าพลขับและพลปืนซ้อนท้ายจะเห็น ก็ยากที่จะทำการต่อสู้ป้องกันตัวได้ในลักษณะการถูกโจมตีจากทางด้านหลัง
การใช้ยานพาหนะเคลื่อนที่เร็ว คล่องตัว ขนาดปานกลาง ติดอาวุธปืนกลและอาวุธหนัก (เครื่องยิงลูกระเบิด 40 มม.) มีทัศนะวิสัยในการใช้อาวุธเข้าป้องกันต่อตีได้รอบทิศทาง 360 องศา สามารถวิ่งลัดเลาะนอกพื้นผิวถนน บนทางวิบาก ทุรกันดาร ในเรือกสวนไร่นา สวนยาง จึงมีความจำเป็นในการเสริมข้อจำกัดของการใช้รถจักรยานยนต์เพียงชนิดเดียวในการปฏิบัติภารกิจ
มิใช่การนำมาทดแทนยานยนต์หุ้มเกราะชนิดต่างๆที่มีใช้กันอยู่ ซึ่งมีความแตกต่างกันมากในข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าสึกหรอของชิ้นส่วนอะไหล่ และด้านจำนวนที่มีใช้อย่างพอเพียง
เป็นการจัดหาได้อย่างเร่งด่วนจากภูมิปัญญาและทักษะ รวมถึงความรู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการผลิตของยานยนต์ "บัคกี้" นี้ภายในประเทศแทบทุกชิ้นส่วน และช่างฝีมือผู้ชำนาญมิต้องใช้งบประมาณและทรัพยากร หรือโนว์ฮาวจากต่างประเทศใดๆทั้งสิ้น
ท่านผู้ใหญ่ผู้โตทั้งหลายโดยเฉพาะในกองทัพ ลองใจกว้างเจียดค่าคอมมิชชั่นฟันตามน้ำ โยนเศษสตางค์ซัก 50 ล้านบาท ก็จะได้ "รถบัคกี้" ยานยนต์เคลื่อนที่เร็วทางยุทธวิธีชนิดนี้กว่า 100 คัน ดีกว่าให้ลูกน้องเณร ลูกอีสาน มาเสี่ยงตายแบบไร้ทางสู้บนอานรถจักรยานยนต์ ซึ่งวิ่งไวแต่ไร้พิษสง
สรุปข้อดี
ประหยัดงบประมาณ : สามารถสร้างทดแทนได้ในระยะเวลาสั้นจำนวนมาก ในราคาถูก
ค่าใช้จ่ายถูก : ในปฏิบัติการ, บำรุงรักษา, ค่าเชื้อเพลิง (ถูกกว่าพาหนะอื่น Reva 4x4, Humvee, V-150)
ความคล่องตัวสูง : เป็นยานยนต์ที่สามารถวิ่งได้ในแทบทุกภูมิประเทศ
เสริมศักยภาพการพึ่งพาตนเอง : ส่งเสริมพัฒนาการผลิต มิต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ (ยกเว้นระบบอาวุธ)
เสริมสร้างขวัญกำลังใจของกำลังพล : ด้วยศักยภาพในการต่อสู้ ลดทอนอันตราย ลดความเหนื่อยล้าจากการเดินลาดตระเวน
ข้อจำกัด
ไม่มีเกราะหุ้ม : ชดเชยด้วยความเร็ว ความคล่องตัว ระบบสื่อสาร กล้องมองในความมืด
กับระเบิด : จัดรูปขบวนทิ้งระยะห่าง ให้สามารถเสริมกำลังทดแทน ช่วยเหลือกันได้
ตะปูเรือใบ : ปรับเปลี่ยนยางเป็นยางตัน
กรณีฉุกเฉิน : สามารถร้องขอชุดฮ.บินสนับสนุน คุ้มกัน และกู้ภัย
ดูรายละเอียดบทความฉบับเต็มได้ในเวบไซด์ของผู้เขียน http://rungsira.blogspot.com/2012/08/blog-post_3.html และขอความกรุณาจากเพื่อนสมาชิกครับ โปรดแสดงความคิดเห็นเฉพาะในส่วนของเนื้อหาสาระในบทความเท่านั้นครับ งดวิพากษ์วิจารณ์เรื่องส่วนตัวของผู้เขียน ถ้าต้องการคุยเรื่องทัศนคติ ความคิดเห็นทางการเมือง สามารถไปคุยได้ในเวบไซด์ของผู้เขียนครับ ส่วนตัวของจขกท.เองไม่สนใจเรื่องนี้ครับ และไม่อยากให้กระทู้บิดเบือนไป
โอ้ว...พระเจ้า อย่างเเรก ต้องเเสดงความขอบคุณในความคิดที่หลากหลาย
แต่ผมว่า มันจะช่วยป้องกันปัญหาที่เรากำลังเจอยังไงเนี่ย
ไหนจะระเบิด ไหนจะโดนซุ่มโจมตี รถแบบนี้ผมว่ามันมีประโยชน์
ในทะเลทราย หรือ ที่หล่มดินโคลนมากกว่า เพราะมันเบา ความคล่องตัวจึงไม่เถียง
แต่ในบ้านเรา คนร้ายวิ่งเข้าสวนยาง.....ทำไงต่อล่ะครับเนี่ย
จะใช้ลาดตละเวร เกราะจะให้ทหารกำบังก็ไม่มี มันต่างกันยังไงกับมอเตอร์ไซต์
ผมขอเสนอด้วยก็เเล้วกัน ผมขอเสนอให้เอาเจ้านี่มันตัดหญ้า
ริมถนนให้สั้นเตียน เข้าไว้ก่อน เผื่อคนลาดตระเวร จะเห็น
สิ่งผิดปกติ หรือ รอยขุด การที่จะให้คนเเบกเครื่องตัดหญ้า
ก็จะเป็นการเสี่ยงเกินไป
รถลาดตระเวณโจมตีเคลื่อนที่เร็ว โครงการนี้กองโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธได้วิจัยพัฒนาตั้งแต่ปี 2545 แล้ว
ผมมองว่า มันก็โล่ง เกินอยู่ดี ไม่มีไรบังเลย ไม่ต่างไรกับ นั่งมอไซย์ที่ทหารโดนกระบะประกบยิงเลย ถ้ามีประตูเหล็กปิดข้าง+กระจกกันกระสุน ก็คงช่วยได้หน่อย ส่วนพลปืนอาจโดนเก็บได้เหมือนกัน โล่งไม่ต่างกันเลย
จริงอยู่ที่ว่าคันนี้มันโล่งโจ้งเหมือนมอไซค์ แต่ข้อดีที่มีคือ เนื่องจากมีสี่ล้อ ทำให้หากคนขับถูกยิง รถก็จะยังไม่ล้ม แต่ข้อเสียคือ ground clearance น้อยมาก แทบจะสปอร์ต ติดดิน หากจะเอามาวิ่งบนถนน ผมก็ไม่ว่าน่าจะเป็นรถจี๊บดีกว่า
สรุปว่าเหมือนคนทำจะเอามาใช้เป็นมอไซค์ติดปืนกลมากกว่า
ที่จริงรถแบบนี้ออกแบบมาให้ใช้ได้ในทุกภูมิประเทศนะครับ แต่บางแบบออกแบบมาแก้ใขการคว่ำโดยการลดความสูงลง ตัวรถสามารถติดเกราะกระสุนปืนเล็กยาวได้ แต่ระเบิดไม่ได้แน่ ถ้าจะเอามาแทนรถมอไซด์แม่บ้านผมว่าโอเคเลยครับ และชอบมากกับความคิดของคุณ oasis_king คิดแบบเดียวกับผมเลย
เราน่าจะมีกฏในพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงหรือนอกเขตเมืองประมานว่า ห้ามแซงรถทหาร ถ้าจะแซงต้องทำการส่งสัญญานบางอย่างเช่น บีบแตร 3 ครั้ง พอจะเป็นไปได้ไหมครับ
ผมว่ารถบัคกี้เนี้ย ออกแนวตลกร้ายมาก มันเป็นรถที่ออกแบบไห้นั่งแบบขำๆ มันต่างจากมอเตร์ไซด์ตรงไหน โดนซุ่มโป่งจากรอบด้านนี่ไม่อยากจะจินตนาการ โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยอย่างแรง ถ้าผมเป็นทหารในพื้นที่ก็คงจะคิด "อะไรฟระให้มาไช้เพราะมันราคาประหยัดดีนี่นะ" โดยส่วนตัวขอเป้นรถหุ้มเกราะแบบ ชัยเสรี ดีกว่า