เพื่อนๆคิดว่าพอจะเป็นไปได้ไหมครับ
กองเชียร์แบบเราๆ ยังร้องยี้กันเต็มเว็บ ฮาฮ่า
http://www.thairath.co.th/content/eco/304236
ถ้าตั้ง งบประมาณ 15,000 ล้านบาท ต่อ ลำ แล้วไม่ลดไปกว่านี้...
แล้วเอาข้าว ไปแลก เฉพาะ ตัวเรือ มา...โดยระบบอาวุธ และ ระบบอำนวยการรบ ยังเป็นแบบระบบตะวันตก...
ผมว่า ยังพอ อนุโลม...สาธารณะชน บางส่วนคงจะสนับสนุน...
แต่ถ้า แลกข้าว ครึ่งหนึ่ง คือ 7,500 ล้านบาท...แล้วต้องจ่ายเงินอีกครึ่งหนึ่ง คือ 7,500 ล้านบาท แล้วได้เรือรบจีน พร้อมระบบอาวุธจีนมา จำนวน 1 ลำ...
รับรองว่า รัฐบาล ผูกเชือก แขวนคอตัวเอง ดับอนาถ แน่ครับ...
เพราะ ราคาเรือรบจีน ก็ลำละประมาณ 200 ล้านเหรียญ ต่อลำ อยู่แล้ว คือประมาณ 7,000 ล้านบาท...
ก็เหมือนกับว่า รัฐบาล จ่ายเงินเต็ม แถม ข้าวให้เขาฟรี อีกต่างหาก...
แม้ผมจะซีกข้างรัฐบาล....งานนี้ ก็ เข้าข้าง ไม่ไหว ครับ...
แล้วถ้า ทร. ยังยอมอีก...ก็ เอวัง ล่ะครับ...
ขอให้เป็นแค่บั้งไฟ กับเรดาห์แล้วกัน
งานนี้ต้องดูว่าคุณภาพเรือจีนเป็นอย่างไร คุฒค่าไหม ถ้าเอาตัวเรือมาประกอบอาวุธในไทย งานนี้ฝรั่งคงได้รู้ไส้รู้พุงมาตรฐานการต่อเรือจีนแน่
อีกอย่างถ้าจะทำอย่างนี้ ตั่งโครงการใหม่ไปเลยดีกว่า อย่ามาโยงกับโครงการเรือพรีเกตที่กำลังจัดหาเลย
ยกตัวอย่างครับ...
แต่ไม่อยากให้เกิด กรณีใด กรณีหนึ่ง ในนี้ เกิดขึ้นเลยครับ...
รัฐบาลนี้จะออกแนวยุโรปเมกามากกว่าโดยเฉพาะเรื่องนี้ถ้าเป็นจีนก็ขุดหลุมฝังตัวเองโดนกระทืบซ้ำอีก น่าจะไปเยอรมันนะดูรถนายกฯสิ แต่ก็มีหลายปัจจัย ถ้าเอาข้าวไปแลกนี่ขอเป็น"อะไรอะไร"จากรัสเซียดีก่าแต่สื่อบ้านเรานี่ชอบเอานั่นมาชนนี่กันดีจังนะ
30,000ล้านบาท นี่ซื้อเรือดำน้ำจบข่าวเลยใช่ไม๊ครับป๋า
ในข่าว ไม่ได้บอกว่าเป็นเรือรบน่ะครับ ผมแค่เดาเอา เพราะประเทศเรามีโครงการใหญ่ๆ ก็ รถไฟความเร็วสูง, การป้องกันน้่ำท่วม และเรือฟริเกต อย่างใดอย่างหนึ่งต้องซื้อจากประเทศจีนแน่นอนครับ บางทีอาจจะทั้ง 3 เลย :)P
บอกจีน ขอแค่โครงได้ไหม เดี๋ยวเติมไส้เอง
ถ้าจะ G2G ทั้งทีก็พืชพลเกษตร ไม่ก็ยางพารา รับซื้อมา G2G เพื่อพยุงราคาก็ได้
ลองไปมอง G2G กับ russia ดูก็ดีนะ ถ้าข้อตกลงดีอาจได้ G2G only เลยนะครับ แลก kilo มาซักสองตัวก็ยังดี
(ฝันกลางวัน ) เจริญสัมพันธไมตรีกับ รัสเซีย ไปด้วยเลยครับ
ขอโทษด้วยนะครับ ลงรูปไม่ได้แปลงขนาดก่อน เละเลย ทีหลังจะรอบคอบกว่านี้ครับ sorry
สำหรับโครงการแลกสำหรับกองทัพ ที่เป็นไปได้ที่มาจากจีน น่าจะเป็น อาวุธปล่อยนำวิถีป้องกันชายฝั่ง และ อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ สำหรับ สอ.รฟ. ครับ
เรือแลกข้าวหรือข้าวแลกอะไรทั้งหมดทั้งมวล ยังไงก็ไม่คุ้ม ผมจะตัดประเด็นเรื่องคอรัปชั่นออก(มันการเมืองเกินไป) ก็คงเหลือแต่ประเด็นราคา โครงการนี้อายุตั่ง สามปี
ถ้าเกิดปีหน้า เกิดภัยแล้ง(แล้งแน่ๆ)ขึ้นมาซวยสิครับ จากที่คิดว่าจะได่กำลัยจากโครงการนี้ เลยการเป็นว่า ประเทศผู้ผลิตข่าว ต้องนำเข้่าข้าวจากต่างประเทศมาบริโภคซะเองมองยังๆก็ไม่เห็นอนาคต
หวยอาจไปออกที่กองทัพอากาศ C-295 ก็ได้
ขอโทษที ต้องลิ้งก์อันนี้ครับ
http://www.thaiarmedforce.com/distribution/viewtopic.php?f=7&t=3218
กำลังกลัวว่า ทร.จะไม่ทันได้ซื้อครับ เพราะห็นรัฐบาลไม่ว่ายุคไหน จะแลกสินค้าการเกษตรกับอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่ไร รัฐบาลนั้นๆมีอันเป็นไป ทุกรัฐบาล เพราะมันจะเข้าแบบเดิมครับ เหมือนสมัยประมาณ ปี 48 จะแลกแล้วไม่ได้แลก เพราะมีคนบางกลุ่มไม่อยากให้แลก ....................เสียวครับ
พอมีเรื่องการแลกอาวุธกับสินค้าทางการเกษตรทีไรเหมือนมันเป็นอาถรรพ์ยังไงไม่รู้
ถ้าเป็นการแลกในวงเงินอย่างที่ท่าน จูลดาส ว่าไว้ในแบบที่ 1 ก็น่าจะพอรับได้ล่ะครับ แต่ถ้าราคาเรือจีนรวมอาวุธแล้วราคา 15000 ล้านคงเป็นเรื่องแน่นอนเพราะราคา 30000 ล้านถ้าเป็นเรือจีนต้องได้ 3-4ลำแบบฟูลออ็ฟชั่นด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลประการใดก็ตามผมยังไม่ชอบเรือจีนอยู่ดี เพราะมันจะทำให้ความเป็นกลางของเรามันหายไปอีกเล็กน้อย และถ้ามีเหตุการณ์พลิกผันเกิดขึ้น ทร.อดได้ทั้งดีลเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงขึ้นมาทีนี้ล่ะ วงแตกแน่
พอผมมานั่งคิดอีกที...
ผมว่า เป็นไปด้ยากนะครับ...ที่ ตัวเรือ จะเป็น จีน...ส่วนระบบอาวุธ จะเป็นตะวันตก...
เพราะ ถ้าใช้วิธีนั้น..การออกแบบพื้นที่ในตัวเรือ จะต้องออกแบบใหม่หมด เพราะต้อง เว้นพื้นที่ รวมถึง ต้องวางระบบท่อสายไฟ สำหรับ รองรับระบบอาวุธต่าง ๆ...ที่จะต้องมาติดตั้งเองในภายหลัง...
ซึ่ง มันจะเหมือนกับ โครงการ เรือชั้น นเรศวร...ซึ่งถ้า ไม่ใช่แบบเรือที่ ทร. ออกแบบเอง...แต่เป็นการนำแบบเรือของ จีน. มาใช้..ทร. จะต้องนำแบบเรือดังกล่าว มาวางระบบอ ออกแบบวางอาวุธเองอีกชั้นหนึ่ง...ถึงจะทำการสร้างได้...
ดังนั้น ถ้าจะ มีการบาร์เตอร์เทรด เรือรบจากจีน...คงจะต้อง มาทั้งตัวเรือ และ ระบบอาวุธ ของ จีน ทั้งหมด ครับ...
ซึ่งผมว่า มันยากมาก ที่ คณะกรรมการพิจาณาของกองทัพเรือ จะยอมรับ เรือรบจากจีน มูลค่า 15,000 ล้านบาท โดยเน้น ภาระกิจปราบเรือดำน้ำ...
ซึ่งประเทศจีน ไม่ได้มีระบบอาวุธต่อต้านเรือดำน้ำ ชั้นนำ แต่อย่างใด...และคงถูก โจมตี อย่างหนัก ซึ่งมันจะเข้า กรณีที่ 2 ตามที่ผมยกตัวอย่างว่า...ซื้อเรือจีน ราคาเต็ม..แถม ข้าว ให้ฟรี ๆ อีก เท่าตัว...
แต่ถ้า มันเข้า กรณีที่ 3 คือ ชำระเงินจริงเพียง 30-40% ส่วนที่เหลือ เป็น บาร์เตอร์เทรด ทั้งหมด...
ก็อาจจะพอมีเหตุผล...(จำใจ)
ซึ่ง ทร. ก็ต้องสร้างเงื่อนไข เพื่อขอซื้อเรือปราบเรือดำน้ำ มือสอง สหรัฐ เพิ่มเติม อีก จำนวนอย่างน้อย 2 ลำ...(ถ้าไม่ได้ ก็คงไม่สามารถ ยอมรับได้เช่นกัน เพราะด้วยคุณภาพเรือรบที่มีความสามารถปราบเรือดำน้ำของจีน ก็ไม่ตรงความต้องการเท่าไหร่อยู่แล้ว)
เพราะ จำนวนเงินที่จ่ายจริงและออกนอกประเทศไปจริง จะมีเพียง 9,000 - 10,000 ล้านบาท...
ด้วย ไทย จะได้มูลค่าสินค้าการส่งออก จำนวน 20,000 ล้านบาท กลับเข้าประเทศคืนมา....
ทร. ก็ควรจะได้เรือเพิ่มขึ้น อย่างต่ำ 2 ลำ...จากการที่ รัฐ จะได้เงินหมุนเวียนเศรษฐกิจกลับเข้ามา และจะจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากยอดเงิน จำนวน 20,000 ล้านบาทนั้น...
โดยอย่างช้า ในปี 2563 ควรเป็นเรื่อง งบประมาณของ เรือดำน้ำ เป็นงบประมาณหลัก ต่อไป...
แต่ผม ก็ไม่อยากจะเห็นเหตุผมของผมแบบนี้ เกิดขึ้นเลย...จริง ๆ
ความเห็นของผมก็ไม่อยากได้เรือรบจีนที่ต่อสำเร็จจากจีน ครับ แต่ถ้ารัฐบาลบังคับให้เลือกจะเอาข้าวแลกเรือจีนหรือไม่เอาก็อดเพราะรัฐไม่ให้เงิน ผมเป็นทัพเรือก็ต้องตอบเอาไว้ก่อนครับ แต่ขอต่อรองเป็นว่าจีนต่อโครงเรือเป็นชิ้นส่วนมาประกอบในไทย ส่วนอาวุธ เครื่องยนตร์กลไก ก็ของยุโรป อเมริกา ส่วนราคาจะแพงขึ้นจากลำล่ะ 8000 ล้านกลายเป็น 10,000 ล้านก็พอทำใจได้ แถมยิงปืนตัวเดียวได้นกหลายตัว คือ
1.ระบายสินค้าเกษตรค้างสต๊อก เช่น ข้าว ยางพารา ผลไม้อบแห้ง
2.ในวงเงิน 30,000 ล้าน จะได้เรือมาถึง 3 ลำ ที่สมรรถนะถูกใจพอสมควร (แต่ต้องยอมรับว่าวัสดุที่ทำตัวเรือจากจีนที่เกรดเดียวกันสู้ของยุโรป เกาหลีไม่ได้)
3.ไทยจะได้ต่อเรือรบฟรีเกตเองเป็นครั้งแรก แม้จะไม่ทุกชิ้นก็ตาม (ถึงอยากจะทำเองทุกชิ้นก็ไม่มีโรงงานผลิตวัสดุที่ใช้ทำตัวเรืออยู่ดี)
4.ได้สร้างความสัมพันธ์อันดีกับจีน ส่วนสหรัฐจะมีงอนบ้างแต่ก็น้อยกว่าไทยซื้อเรือจีนมาทั้งลำ
5.ลดความหวาดระแวงจากจีนและสหรัฐในเรื่องการรั่วไหลของเทคโนโลยี เพราะทุกอย่างประกอบในไทย
ความเห็นผมก้ประมารนี้ ครับ
เรือฟรีเกต ลำแรกต่อในไทยค่อนข้างแน่ครับ ผมให้เปอร์เซนต์โอกาสไว้ถึง 90% ครับ
เผื่อมือลึกลับมาบีบให้ไปต่อในต่างประเทศไว้ที่ 10% เท่านั้นครับ
รอดูต่อไปครับ....ว่าจะเป็นแบบ อังกฤต เยอรมัน ฝรั่งเศษ หรือเนเธอแลนด์ เท่านั้นเองครับ
ถ้าเป็น จีน หรือเกาหลี ละก็ โดนมือดี เอาไปแดก แล้วครับ.....(ซวยแน่.... มึ๋ง)
ประเด็นนี้จบ ปิดกระทู้ได้ เพราะโดนศาลรัฐธรรมนูญสอยร่วงตกไปแล้ว
จะทำอะไรก็ทำเถิด เพราะข้าวที่ซื้อเก็บไว้ มีอายุการเก็บนะครับ
ถ้ารัฐบาลทำเรื่องบ้องตื้นปืนนั้นกับโครงการเรือฟรีเกต เดี๋ยวก็รักษาเก้าอี้ไม่รอดหรอกครับ เพราะถ้าเอาเรื่องนี้ไปแลกเรือจีน รับรองว่าถูกสื่อและฝ่ายตรงข้ามสับไม่เลี้ยง แถมคนที่มีแนวโน้มจะเออ ออ ห่อ หมก ด้วย อาจจะสบัดตูดไปจูบปากอีกฝ่ายแบบทุ่มเทแล้วจะมีหนาว
คาดว่าปีหน้าแล้งหนักมากๆ ก็หวังว่าจะขายข้าวได้หมดสต๊อคนะครับ จะได้ไม่ต้องวุ่นวาย
ถ้าจะ G2G ก็อย่าเป็นเรือฟรีเกตทุกแบบบ เรือดำน้ำ เครื่องบินรบ ไปเอาอย่างอื่นๆแทนก็ได้ ทั้งรถไฟความเร็วสูง หรือ tablet PC หรือ โครงการส่งจรวดไปเลยดีไหม ไปแลกของกับรัสเซียยังจะดีกว่า
ทำไมคิดกันไปก่อน ว่านำข้าวไปแลกอาวุธยุทโธปกรณ์ ต้องแลกกับจีนประเทศเดียวครับ แล้วไม่จำเป็นต้องแลก 100% การใช้สินค้าการเกษตรไปแลกเป็นเพียงส่วนหนึ่งของราคายุทโธปกรณ์
ผมว่า คงไม่ใช้เรือฟริเกต ล้าน%ครับ น่าจะเป็นโครงการ รถไฟฟ้าความเร็วสูงมากกว่า เพราะผมได้ข่าวมาว่า ลาวก็จะเริ่มโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงแล้วเช่นกัน
ความเห็นของผมการใช้สินค้าแลกกับอาวุธมือสอง สำหรับกองทัพไทย ผมว่าเป็นโอกาสมากกว่าผลเสีย ถามว่าทำไมเป็นอย่างนั้น กล่าวคืองปประมาณประจำปีของกองทัพในการจัดหามีน้อยไม่เพียงพอจะจัดซื้ออาวุธได้เพียงพอ ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ไม่มีเงินเหลือมากพอจะแบ่งให้กองทัพเพิ่ม แต่ในแต่ล่ะปีรัฐต้องนำเงินไปแทรกแซงสินค้าเกษตรปีนึงๆร่วมแสนล้านบาท และระบายออกไม่ได้เน่าเสียไปเปล่าๆ และนี่คือโอกาสที่ผมเห็น ถ้ากองทัพขอสินค้าเกษตรเหล่านั้น(ปกติก็เน่าเสียไปเปล่าๆหรือขายขาดทุนมากๆ) มาใช้ขอแลกเปลี่ยนกับอาวุธที่เหลือจากมิตรประเทศ โดยเป็นสินค้าที่มิตรประเทศต้องซื้ออยู่แล้วจากประเทศอื่นๆ เช่น ข้าว ยางพารา ไก่แล่แข็ง ผลไม้กระป๋อง มันเส้น หรือแม้แต่ เอทานอล น้ำมันกลั่นสำเร็จ ก็จะทำให้กองทัพมีอาวุธมาเสริมเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องไปเบียดงปประจำปี ตัวอย่างเช่น
ขอซื้อ U209 เกาหลี มือสอง 2 ลำ กับ สินค้าเกษตร 50% เงินสดจากงปประจำปีอีก 50 %
ขอซื้อ เรือ OHP สหรัฐ 2 ลำ กับ ยุทธปัจจัยต่างๆ การใช้สถานที่ฝึก ส่งกำลังบำรุงในไทย และ เงินสดจากงปประจำปี อีก 50%
ขอซื้อ Jas 39 A/B upgrade สวีเดน แลกกับ สินค้าเกษตรอุตสาหกรรม 50% งปประจำปีอีก 50 %
ขอซื้อจรวดหลายลำกล้อง WS1B จากจีน และสินค้าเกษตร และเงินสดอีก 50 %
เหล่านี้เท่ากับว่ากองทัพได้งปจัดหาเพิ่มจากรัฐบาล 50 % จากงปปกติ ครับ แถมได้อาวุธครบตามจำนวน และทุกมิติ และลดกระแสต่อต้านจากสังคมสื่อด้วย ครับ