กองทัพบกลงนาม MOU สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ พุ่งเป้าวิจัยพัฒนาอาวุธ อุดมเดชเป็นปลื้มชี้ประหยัดงบ เตรียมส่งช่วยไฟใต้ พร้อมจ่อซื้อมินิ ยูเอวีเชื้อสายยิว 1,920 ล้านบาท....
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางด้านวิชาการ (MOU) ระหว่าง กองทัพบก กับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาทางการทหารที่จำเป็นต้องใช้ความ รู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรือ วิชาเฉพาะ ซึ่งบันทึกข้อตกลงนี้จะมีระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี
โดย พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า วันนี้เป็นความร่วมมือที่ดีถือเป็นก้าวแรกของกองทัพบก โดยสำนักงานวิจัยและพัฒนาทางทหาร กองทัพบกถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยที่เราไม่ต้องไปจัดซื้อจัดจ้าง ถือเป็นการประหยัดงบประมาณ และตรงต่อความต้องการของเรา สำหรับการประชุมวิจัยและพัฒนา ในส่วนกองทัพบกจะมาดูในแต่ละปีว่า มีความต้องการในอุปกรณ์ใดๆ บ้าง เมื่อถามว่า บางโครงการคนในกองทัพพยายามสนับสนุนการจัดซื้อจากต่างประเทศมากกว่า พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ขณะนี้มีการคิด และวิจัยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ออกมาเข้ามาสู่ขบวนการ และหากสิ่งไหนที่ดีก็จะเข้ามาสู่ขบวนการผลิต และในกรอบงบประมาณแต่ละปีมีงบประมาณตามที่กำหนดไว้ บางอย่างต้องใช้งบประมาณมากยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่าง 2 หน่วยงานในวันนี้สามารถเกื้อกูล งบประมาณ ในส่วนที่วิจัยก็จะได้ประโยชน์ยิ่งขึ้น ส่วนจะนำงานวิจัยที่ได้นำไปใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ เรานำสิ่งที่ลำดับไว้ว่ามีความสำคัญและมีความจำเป็นมาดู เพื่อเข้าสู่คณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งน่าจะได้ผลในเร็ววันนี้ ส่วนความร่วมมือในการสร้างหุ่นยนต์กู้ภัยในการเก็บกู้ระเบิดมาใช้ในพื้นที่ ภาคใต้นั้น ตอนนี้ทหารในพื้นที่ก็ทำอยู่ และอยู่ระหว่างการทดสอบในพื้นที่จริง เมื่อทดสอบแล้วก็จะมาดูว่าจะต้องเพิ่มเติมตรงส่วนไหนบ้าง
ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการวิจัยกองทัพบก ที่มี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานได้สั่งชะลอโครงการวิจัยพัฒนามินิ ยูเอวี ของกองทัพบกจำนวน 6 ระบบ งบประมาณ 60 ล้านบาท ในปี 2557-59 ออกไปก่อน โดยอนุมัติงบประมาณ 10 ล้านบาทให้จัดทำ 1 ระบบ แต่จะให้มีการจัดซื้อมินิ ยูเอวี ยี่ห้อราเวนจากประเทศอิสราเอลจำนวน 120 ระบบ ระบบละ 16 ล้านบาท รวม 1,920 ล้านบาท.
:oohho.com & thairath
เบรค งบพัฒนาของ uavของทัพบก แสดงว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนในการใช้งาน ในส่วนอื่นๆยังคงร่วมพัฒนาสักยภาพกันต่อไป
ขอให้เป็น heron สาธุ
Raven นี่มันสายพันธุ์สหรัฐไม่ใช่เหรอ แถมอิสราเอลไม่มีตัวนี้ใช้อีกต่างหาก - -
ของอิสราเอลต้องพวก Skylark Orabiter Marabu Birdeye
อาจจะเป็น Orbiter
เอเราวิจัยเองผลิตเองนี่มันยุ่งยากขนาดนั้นเลยหรือ ทำไมไม่ระดมมันสมองของกองทัพมาช่วยกันทำมากๆหน่อย ในส่วนของ ทร. ก็น่าจะเร่งวิจัยและผลิตออกมาใช้ได้แล้ว ผมเคยไปเยี่ยมชมฐานทัพเรือชายแดน บนเกาะใกล้ประเทศเพื่อนบ้านทาง จว.ตราด และ สตูล มาแล้ว เราควรที่จะมี UAV ไว้คอยลาดตระเวนแทน ฮ. หรือเรือมากถึงมากที่สุด เพราะรอบๆ ก็มีแต่ทะเล ช่วงกลางคืนก็สามารถลาดตระเวนตรวจตราแทนกำลังคนได้ โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายเลย หากเจอสิ่งผิดปกติก็ค่อยใช้เรือหรือ ฮ. เข้าตรวจสอบอีกที ในช่วงแรกการผลิตอาจจะมีระยะทำการสั้นๆ สัก 10 km. ก็ Ok. นะแต่รุ่นถัดไปก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นได้