สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เปิดเผยว่า ประชาชนมากกว่า 2 หมื่น 2 พันคน ซึ่งส่วนมากเป็นชาวมุสลิม ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยของตนเองในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของพม่า หลังเกิดกระแสความรุนแรง และการเผาทำลายบ้านเรือนครั้งใหม่ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
นายอาโช๊ค นิกาม หัวหน้าสำนักงานยูเอ็นที่นครย่างกุ้ง เปิดเผยว่า ตัวเลขการประเมินของทางการพม่าที่ออกมาวันนี้ ระบุว่าประชาชน 22,587 คนต้องอพยพหนีภัย ในจำนวนนั้นเป็นมุสลิม 21,700 คน ส่วนบ้านเรือน 4,665 หลังถูกจุดไฟเผาจากเหตุการณ์ความรุนแรงล่าสุด แต่ก็คาดการณ์ว่าตัวเลขน่าจะมากกว่านี้อีก เพราะชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ยังคงปักหลักอยู่ที่เดิม ขณะที่พวกที่อพยพออกมาก่อนหน้าแล้ว ไม่ได้ถูกนับรวมไปด้วย สำหรับยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่มากกว่า 80 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมตั้งแต่เดือนมิถุนายนอยู่ที่ราว 170 คน อย่างที่เมือง มินเบีย 1 ใน 8 เมืองที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างมาก มีประชาชนถึง 4 พันคนไร้ที่อยู่อาศัย เพราะบ้านเรือนหลายร้อยหลังใน 6 หมู่บ้านถูกเผา
ไม่แปลกใจว่าพม่าในอดีตทำไมถึงแข็งแกร่งนัก แม้ว่าจำนวนประชากรจะน้อยกว่าคนไต ไท ลาว อยู่มาก ถึงสามารถเข้าทำลายกลุ่มคนไทยทีละกลุ่มจนบางครั้งสามารถมีชัยเหนือเราได้ แม้บางครั้งก็ต้องเพลี่ยงพล้ำแก่เราบ้าง แต่ถือว่าเป็นคู่กัดที่สมน้ำสมเนื้อจริงๆ พอแนวรบด้านฝั่งเราสงบลงและมีทีท่าจะเป็นมิตรต่อกัน หันกลับไปสนใจด้านนั้นทันที
รัฐยะไข่นี่จะว่าไป มีปัญหาคาราคาซังแบบ 4 จังหวัดชายแดนมานานมากเช่นกัน เรามาดูวิธีทำงานของเขากันดีกว่า แม้ว่าวิธีจะต่างกับเรามากคนละทิศทางเลย แต่ดูแล้วพวกพม่ารีบจัดการทันทีที่โอกาสอำนวย แม้ว่ามันออกแนวโหดและทำให้มุสลิมกลุ่มตัวปัญหาของเขาต้องระเห็จออกไปจากพื้นที่แบบกลับเข้ามาไม่ได้ เห็นว่าพวกโรฮิงญาที่พยายามกลับเข้าบ้านเรือนตนเองนั้นไม่สามารถกลับไปที่อยู่เดิมได้ เพราะทหารพม่าผลักดันออกไปทันที แถมมีชาวพม่าที่เป็นพุทธให้การสนับสนุนทหารพม่าอยู่เป็นหูเป็นตาให้ แม้ว่าตะวันตกจะโวยวาย แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่าโวยวายก็เท่านั้น เพราะต้องการโดดเดี่ยวจีน จึงไม่กล้าทำอะไรพม่ามากกว่าการโวย ยอมรับจริงๆว่านโยบายด้านความมั่นคงและการต่างประเทศของพม่านี่กล้าได้กล้าเสียทีเดียวและอ่านเกมส์ออก ไม่มีใครในประเทศกล้ามาขวาง แม้แต่อ่องซานก็เงียบเฉยไม่สนใจ (หรือว่าอ่องซานก็ไม่ชอบพวกโรฮิงญาเหมือนกันหวา....) ส่วนมาเลย์เห็นเงียบกริบ......พอพม่าเอาจริงสงบปากเรียบร้อย
เอาเป็นว่าเรามาดูพม่าจัดการเรื่องนี้กันดีกว่า ว่าเรากับเขาใครจะสามารถจัดการพวกป่วนนี่ได้ผลมากกว่ากัน
โอ๊ะลืม.......เครดิตเวปเนชั่นออนไลน์ครับ
http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=656010&lang=T&cat=&key=
เรียน คุณneosiamese2
เมือ ๒ ปีที่แล้ว ถ้าเปลี่ยนจากไทยเป็นพม่า นึกไม่ออกเขมรจะเป็นอย่างไร หรืออีกอย่างไม่เกิดอะไรข้นเลยเพราะ บิ๊กฮุน มันพวกรู้แกวคงไม่กล้าแหยม
ผมนับถือพม่าจริงๆครับในเรื่องเอาจริงแบบนี้ อย่างนี้ต้องว่า
จงปล่อยพม่าเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าไปรบกวนให้พม่าฉุนขึ้นมาเลย
จงมีความสุขกายสุขใจรักษาตน ไม่คิดทำให้พม่าโกรธเทอญ
สาธุสาธุ
เมื่อสมัยก่อน ประเทศไทยเราก็เคยทำมาแล้วนะครับในการปราบ คอมมิวนิสต์ ต้องบอกแบบว่า เมื่อ สมัยก่อนนะครับ เพราะสมัยนี้ มันก็ทำอะไรยากเหมือนกัน ถ้าจะทำทีก็คงยากของยากต้องค่อยเป็นค่อยไปเลื่อยๆ เราไม่รีบร้อน
เพื่อความสงบสุขของประชาชนพม่ารัฐบาลเขาก็ต้องยอมเสีย ส่วนเล็กเพื่อส่วนใหญ่ แหละครับ
ผมว่าคงเทียบกับบ้านเราไม่ได้หรอกครับทางฝ่ายพม่านั้นเค้าชัดเจนว่าเค้าสู้อยู่กับอะไรแต่เหตุการณ์บ้านเรามันซับซ้อนกว่ากันเยอะลำพังแค่การพิสูจณ์ฝ่ายก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นใครทหารบางนายที่เสียชีวิตคงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นศตรู เผลอๆฝ่ายรัฐเองก็ยังกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนไม่ได้ด้วยซ้ำแล้วใหนจะพวกกันแทงข้างหลังอะไรอีกสาระพัด
ผมว่าหากกลับกันรัฐบาลพม่ามาแทนรัฐบาลเราคงถกโสล่งหนีแทบไม่ทัน อีกอย่างทางพม่าเค้ายังมีปัณหาเนื่องจากไม่อาจหาจุดร่วมทางประวัติศาสตร์ของกลุ่มชนในประเทศการรวมเป็นเนื้อเดียวกันแบบบ้านเราถึงยังทำไม่ได้เลยเต็มไปด้วยชนกลุ่มน้อยสาระพัดกลุ่มทั้งที่หากนับรวมเรื่องเชื่อชาติเผ่าพันธ์กับบ้านเราคงไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
ที่ข้ามบังกลาเทศไปส่วนมากเป็นมุสลิม แต่โรฮิงยาที่เป็นมุสลิมอีกสายกลับไม่ได้รับอนุญาต
ทางการพม่าปรับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงระลอกใหม่ในรัฐยะไข่ ที่ยืดเยื้อนานกว่า 1 สัปดาห์เพิ่มขึ้นเป็น 88 คนและอีกกว่า 26,000 คนต้องหนีออกจากบ้านเรือน
เจ้าหน้าที่รัฐบาลคนหนึ่งเปิดเผยว่า มีชาย 49 คนและหญิง 39 คนเสียชีวิตจากเหตุปะทะกันระหว่างชาวพุทธและมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ 21 ต.ค. ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตกับเหตุรุนแรงครั้งแรกในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นเป็น เกือบ 180 คน แต่นักสิทธิมนุษยชนเตือนว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้ เจ้าหน้าที่ยังบอกด้วยว่า มีบ้านเรือนถูกเผาเกือบ 300 หลังในเมืองป็อกตอเมื่อวันอาทิตย์แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
โฆษกของ ทางการรัฐยะไข่ แจ้งว่า สถานการณ์ในยะไข่เริ่มสงบตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา และทางการได้เพิ่มกำลังทั้งตำรวจและทหารรักษาความปลอดภัยทั่วทั้งรัฐ ส่วนภารกิจสำคัญอันดับแรกในขณะนี้ คือ เร่งจัดหาที่อยู่อาศัยและอาหารให้กับผู้ที่ต้องสูญเสียบ้านเรือน ขณะที่ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติเตือนว่าจำนวนผู้ไร้ที่อยู่ อาศัยอาจสูงกว่านี้ เพราะบางคนที่อพยพหนีออกจากรัฐโดยทางเรือยังไม่ได้ถูกนับรวมด้วย
ข่าวเพิ่มเติมจากเนชั่นออนไลน์เช่นเดิมครับ ดูท่าทางจะไม่จบง่ายๆ เพราะเหมือนพม่าที่เป็นชาวพุทธเองที่ได้รับการสนับสนุนจากทหารพม่าก็ไม่เลิกราง่ายๆเลย สงสัยงานนี้ได้เห็นโรฮิงญาต้องอพยพออกจากพม่านับแสนคนแน่นอน