ปืนโตกว่าตัว จึงมีปัญหาเกราะร้าวตั้งแต่แรก จึงต้องมาซ่อมทีหลัง กล้องเล็งก็มีปัญหา จนต้องมาซ่อม/เปลี่ยนภายหลังเช่นกัน คนออกแบบน่าจะดี"ซน์เอาใจความต้องการของเราหรือเปล่า ประเทศอื่นเขาคงเห็นว่าปืนขนาดนี้ตัวรถน่าจะหนัก /ใหญ่กว่านี้ ใช่หรือเปล่า รอผู้รู้จริงมาตอบ แต่อะไรที่เป็นรายแรก ไม่ค่อยดีทั้งนั้น เท่าที่เห็น
เอาเท่าที่จำได้นะครับท่าน M107 เพราะดีลเรื่องนี้ผมสนใจเป็นอย่างมาก แต่ยุคนั้นไม่มีอินเตอร์เน็ต จึงต้องติดตามจาหนังสือพิมพ์ และนิตยสารสมรภูมิและสงคราม
เริ่มแรกโครงการนี้ทางผู้ผลิต คาร์ดิแลก ต้องการสร้างรถถังเบาเพื่อสนองตอบตามความต้องการที่รัฐบาลอเมริกาต้องการระบ Armore Gun system (AGS) โดยแข่งกับอีกจ้าว จำชื่อไม่ได้แล้วซึ่งเจ้านั้นผลิต M-8 ทางรัฐบาลอเมริกันเลือก M-8 มาใช้งานเพราะสเปกได้ตามความต้องการครับ ใช้เกราะไทเทเนี่ยม ระบบต่างไฮเทคมาก สามารถขนถ่ายทางอากาศโดยทิ้งทางอากาศยานได้เพื่อเพิ่มอำนาจการยิงให้หน่วยเคลื่อนที่เร็ว
แต่ต่อมาอเมริกันยกเลิกโครงการ AGS เพราะหันไปใช้แนวคิดอื่นแทนครับ อันนี้ผมจำไม่ได้จริงๆว่าทำไมแนวคิดนี้ถึงต้องตกไป ทางผู้ผลิต stingray แม้ว่าจะแป๊กจากโครงการ AGS แต่ไม่ย่อท้อก้เลยลดเกรดของรถถังลงมาเพื่อหาตลาดประเทศที่ต้องการรถถังเบาราคาไม่แพงมาใช้งานแทน
ก็พอดียุคท่านชวลิต เห็นว่าแม้จะลดเกรดลงมา แต่สเปกนั้นเหมาะสมกับพื้นที่ประเทศไทย โดยเฉพาะฤดูฝนที่รถถังหนักจะปฎิบัติการได้ลำบากกว่าในพื้นที่บางจุดของประเทศ จึงตัดสินใจสั่งซื้อ เพราะตรงตามความต้องการของเราแป๊ะๆเลยทีเดียวครับ
เดิมโครงการนี้ต้องการราว 4 กองพัน หรือ ระดับกรม Stingray 1 ถูกจัดหามา 106 คันปั๊บใช้ไม่นานมีอาการเกราะร้าว ถ้าจำไม่ผิดมาจากการออกแบบตำแหน่งล้อกดสายพานไม่เหมาะเลยเกิดแรงเค้นที่จุดนั้นทำให้เกราะร้าว (มั๊ง) เรื่องนี้ก็โดนตียับจากสื่อมวลชนและนักวิชาการว่าของห่วยทันที
พอ stingray 1 ได้เกิด ผู้ผลิตก็พัฒนา stingray 2 ตามมาทันทีเพื่อแก้ปัญหาที่ฝ่ายเราเคลมไป เช่น เกราะบางสนิท พื้นที่รับน้ำหนักกว่านี้ได้ขอเกราะดีกว่านี้ พัฒนาล้อกดสายพานใหม่และกระจายน้ำหนักการกดที่ดีกว่านี้ stingray 2 ที่เจ๋วกว่าเยอะจึงถูกเข็นออกมาทันทีตามความต้องการของลูกค้า
และเมื่อทบ.สนใจจะซื้อจัดหา stingray2 เท่านั้นครับ แบบเดิมๆ นักวิชาการและสื่อก็รุมสับไม่เลี้ยงเช่นเดิม ดิสเครดิตท่านชวลิตและกองทัพเต็มที่ เอาปัญหาเก่าของ stingray 1 มาสับต่อต่อ แถมยังบอกว่าไม่มีประเทศไหนเขาใช้กันหรอกไอ้รถถังเบาประภทนี้ สาระพัดข้ออ้างร้อยแปด อ้างการตัดสินใจของชาติสำคัญอื่นๆทั่วโลก แล้วมาบอกว่ามันไม่เหมาะสมกับประเทศไทยเช่นกันแน่นอน ผมยังงงตอนนั้นว่า ไม่มันเหมาะกับไทยตรงไหนฟร๊ะ ..... ประเทศที่พวกเอ็งอ้างนะ เขาไม่สนใจเพราะ MBT ขนาดหนักตอบโจทย์เขาได้ดีกว่ามาก แต่พื้นที่ของเรา Light tank ชั้นเยี่ยมต่างหากที่ตอบโจทย์เราได้เฟ้ยยยย
สุดท้ายโครงการจึงพับพาบในบัดดล เอวังด้วยประการฉะนี้ครับ
เหตุผลผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ตอนซื้อมาผมคงเป็นวุ้นอยู่หรือเปล่า >< อิอิ
รถถังเบา Stingray เป็นระบบที่ประสบความสำเร็จในการส่งออกในประเทศไทยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น
ซึ่งเดิมทีนั้นบริษัทผู้ผลิตสตริงเรย์ ได้พัฒนาระบบป้อมปืนใหญ่เบา เพื่อใช้ในโครงการจัดหา ถ.เบา ส่งทาง
อากาศแทน M551 Sheridan แต่แบบที่ถูกเลือกคือ M8 AGS ภายหลังสหรัฐฯเปลี่ยนหลักนิยมในการ
ใช้ ถ.หลักในการรบ รวมถึงการตัดลดงบประมาณหลังสงครามเย็นสิ้นสุด ทำให้โครงการจัดหาถูกยกเลิกไป
ราวๆกลางปี 1990 ซึ่งก็มีความพยายาม ในการพัฒนาต้นแบบใหม่เพื่อเสนอขายแก่กองทัพสหรัฐฯ และ
ประเทศต่างๆ เช่นระบบที่ใช้ป้อมปืนใหญ่เบาอัตโนมัติ 120 มม. เป็นต้น แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความสนใจนัก
แต่จะอย่าไปคิดมากเลยครับ สำหรับผมมันเป็นรถถังเบาที่เหมาะกับประเทศไทยดีครับ ศักยภาพของรถถังแต่ละแบบจะมีความสามารถในการปฏิบัติงานได้ดีหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับภูมิประเทศของแต่ล่ะประเทศที่ต่างกันออกไป ซึ่งประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนชื้น มีดินที่อ่อน จำต้องมีรถถังเบาที่วิ่งไปในภูมิประเทศได้ดี
แต่บางข่าวก็บอกว่าถูกลอกขายมั่ง โดนพิษการเมืองช่วงสงครามเย็นมั่ง ฯลฯ เยอะแยะไปหมด แต่อย่าไปมองอดีตเลยครับมามองปัจจุบันนี้ดีกว่าว่า รถถัง Stingray ที่เราใช้อยู่ประเทศเดียวทำไมตอนนี้มันถึงยังวิ่งได้อยู่ ทำไมมันถึงยิงได้แม่นอยู่ ประเทศเรามีของดีอะไรถึงยังบำรุงรักษาให้ใช้การได้ดีเยี่ยมอยู่อ่ะครับ ลองดูบ้างประเทศอื่นสิครับ ถ้ายุทโธปกรณ์ไหนไม่รับการสนับสนุนเรื่องอะไหล่หรือชิ้นส่วนเป็นเวลานานยุทโธปกรณ์นั้นก็จะใช้การไม่ได้ตามเวลา แต่ไทยเราสามารถทำให้รถถัง Stingray ที่เรามีเพียงประเทศเดียวยังคงวิ่งและใช้งานอยู่ได้มันเจ๋งมากใช่มั้ยล่ะครับ อิอิ
ท่าน sboot ครับ stingray 1 นี่ไม่กิ๊กก๊อกตามที่สื่อมวลชนและนักวิชาการในยุคนั้นประโคมข่าวเลยครับ แม้ว่าจะมีปัญหามาบ้างสุดท้ายก็แก้ไจผ่านไปได้ด้วยดี และมีการพัฒนาในระดับที่ดีขึ้นมากในรุ่น stingray 2 การจัดซื้อตอนนั้นของเรานี่เวียตนามจับตามองรถถังเบารุ่นใหม่นี้เป็นอย่างมาก เพราะพัฒนามาจากแนวคิด AGS ที่ถือว่าทันสมัยโดดเด่น เบา คล่องตัวมากๆเมื่อเทียบกับรถถังรัสเซียที่เวียตนามใช้ และอำนาจการยิงที่สูง ขาดไปก็แค่เกราะที่บางเกินไป เครื่องยนต์แรง เนียบ ประหยัดกว่าเพราะเบากว่า
ขนาดซ้อมร่วมระหว่าง M-60 กับ stingray 1 มันยังทำให้หน่วยที่ใช้ M-60 ต้องยอมรับในประสิทธิภาพของมันมากครับ ผมเสียดาย stingray 2 เป็นที่สุด เพราะแก้จุดอ่อนในเรื่องเกราะของรุ่นก่อนได้ดีขึ้นทีเดียว แต่ตอนนั้นผมเชียร์ในใจว่า ไหนๆก็ไหนๆ ใช้เกราะไทเทเนี่ยมแบบ M-8 ไปเลยดีกว่าไหม สู้ T-84 ได้สบายๆเลย
ราคาสมัยที่ซื้อ 70 กว่าล้านบาทเท่านั้น ( 25 bath/doll ) ราคาน่าเล่นมากๆครับ เพราะทางผู้ผลิตเน้นหาลูกค้้าให้ได้ก่อน
ปัจจุบันรู้สึกว่าอเมริกาไปเน้นโครงการ mobile Gun system แทน ไม่รู้พับไปหรือยังไอ้โครงการนี้ ไปติดปืนใหญ่รถถังบนยานเกราะ LAV3 แทน ขนส่งทางอากาศได้
ผมบอกตรงๆว่า ผมยังชื่นชอบ stingray 2 มากๆครับ ถ้ามีการปรับปรุงระบบอิเลคทรอนิค พวกเครื่อง com เพื่อคำนวณการยิง ระบบตรวจจับ ระบบอำนวยการยิง และเปลี่ยนเป็นปืน 120 mm. แทน 105 และเกราะช๊อปแฮม แม้จะต้องหนัก 25-30 ตันก็ยังถือว่าเหมาะสมกับพื้นที่ประเทศเราอย่างยิ่งครับ และน่าจะเหมาะกับหน่วยนาวิกโยธินด้วย
เราควรมีระบบอาวุธที่เหมาะสมกับเรามากกว่าไปซื้อตามผู้อื่น เพราะเขาบอกว่ามันดีครับ
รูปเก่าๆของ stingray 2
รูปเก่าๆของ M-8 จะเห็นเว่าเกราะ level 3 ของมันโหดน่าดูทีเดียว แบบว่าเคยดูคลิปการทดสอบเกราะระดับนี้แล้ว ถูกยิงด้วยปืนใหญ่ 105 มม. แม้เกราะจะพัง แต่ตัวรถยังทนได้สบายๆครับ แค่ level 2 นี่ก็แกร่งพอชกข้ามรุ่นได้สบายๆ
อ้าว stingray 2 หายไปหนึ่งภาพ แสนเสียดายไม่แพ้ A-17 submarine และ SAC-220 เลย
กระบอกเสียงเหอะๆกองทัพบกซื้อของห่วยตลอดแหละอย่างว่าศัตรูของรถถังพวกนี้คือคนไทยด้วยกันนี่เนอะ
ข้อเสียของมันคือเกราะที่บางไปหน่อย สมรรถนะภาพถือว่าเยี่ยมดีเดียวเคยคุยกับพี่ที่เป็นทหารม้าเขาบอกว่าสติงเรย์เร็วและแม่นมาก ถือเป็นรถถังที่คุ้มค่าคุ้มภาษีแบบหนึ่ง ผมภูมิใจนะที่เป็นเจ้าของรถถังรุ่นนี้เพียงประเทศเดียวในโลก ล่าสุดได้มีการซ่อมบำรุงระบบควบคุมการยิงโดยบริษัทคนไทย
ขอถามต่อเลยละกันนะครับ ในเมื่อเราคิดว่ามันดีกับเราแล้ว แต่ยังข้อด้อยอยู่นิดนึง ซึ่งผมว่าเราควรจะแก้ไขให้ได้นะครับ เจ้าstingray เนี้ย ถามจริงนะครับ ว่าทำไมกองทัพบกไม่คิดที่จะติดเกราะเสริมให้กับมันแหละครับ ผมสงสัยมานานและตั้งแต่ที่เค้าบอกว่าเกราะของมันบาง แต่ถ้าเราติดเกราะเสริมเข้าไป มันจะกลายเป็นรถถังที่ดุดันเลยนะครับ
เห็นด้วยกับคุณkok129 1000%ซื้อมาแล้ว คุณภาพใช้ได้(รุ่นเดียวกันT69-2กลายเป็นประการังไปแล้ว) แค่เกราะบางก็เสริมเข้าไป ถ้าตังเป็นโครงการยิวรับอาสาทำอยู่แล้วครับ
ท่านKok129 มีครับ ใช่ว่า ทบ.ไม่สนใจข้อด้อยนี้ มีการใช้ไม้ไผ่ไม้ลวก มาเสริมตัวป้อมและตัวรถ ป้องกัน RPG ให้กับถ. สติงเรย์ เหมือนสมัยก่อน ที่รบกับผกค. ก็มีการใช้ทำโครงไม้ ใส่ทรายใส่กระสอบทราย เสริมกับรถสายพาน รถถัง รสมถึงรถหุ้มเกราะล้อยาง
ขอบคุณท่าน FatBoy นะครับๆ แต่มีในความคิดของผมในการที่ใส่ไม้และใส่ทรายเสริมเข้าไปนั้น มันเป็นแบบชั่วคราวหรือแบบเฉพาะกิจหรือปล่าว แต่ผมอยากให้มันออกมาเป็นแบบถาวรครับ โดยการติดเกราะเบลเซอร์หรือพวกเกราะเสริมอ่ะครับ ที่มันดูเป็นถาวรมากกว่านี้อ่ะครับ หรือว่ามันไม่คุ้มกันหรือปล่าว ผมละสงสัยนิดนึง
ไม้ไผ่ไม้รวกอย่าเลยครับผมว่ามันเหมือนกับขัดแตะที่ทหารสยามใช้ในอานามสยามยุทธ ทั้งทรายซีเมนท์มันต้านกระสุนรุ่นใหม่ไม่ได้แน่ ทำโครงการทั้งทีขอเป็นเกราะเบลเซอร์เถอะครับ ค่อยชัวร์หน่อย
สมัยที่หนังสือสมรถูมิเล่มล่ะ15บาทมีเรื่องราวของรถถังรุ่นนี้มากมาย โดยเฉพาะรุ่น สตริงเรย์2 เห็นรูปทรงแล้วดูทันสมัยมากและน้ำหนักก็อยู่ราว25-30ตัน
ผมยังคิดเลยว่าจะเราไม่เจอปัญหาในรุ่น สตริงเรย์1ล่ะก็ รุ่น2คงได้เข้าประจำการเป็นแน่แท้
ผมเคยอ่านสมรภูมิ ทบ.เคยให้เหตุผลประมาณว่าต้องการความคล่องตัวของรถถังชนิดนี้ ไปในประเภทยิงแล้วย้ายครับ.. ด้วยน้ำหนักที่เบาแต่ติดปืนใหญ่ขนาด 105 มม. จึงถือว่าหมัดหนักแต่น้ำหนักตัวเบาสไตล์ มูฮัมหมัด อาลี นั่นแหละครับ ทำให้ไมกลายเป็นเป้านิ่งได้โดยง่าย เคยดูในวีดีโอออนแนนซ์ vol.6 กล่าวว่ารถถังสตริงเรย์ ย่อส่วนมาจากอะบราม เอ็ม 1 เอ 1 (ผิดถูกไปว่าในวิดีโอนะครับ) เป็นไปทำนองเดียวกับรถถังตระกูลวิคเกอร์ส์ของอังกฤษ
ไปเจอมาจากพันทิพครับ ใส่ไม่ยั้ง ตั่งแต่ v150 BTR3e1 แล้วก็สุดที่รัก คอมมานโดสติงเรย์ อยากรู้จริงๆใครเป็นคนเขียน ทุกวันนี้คงต้องเอาปี๊บคลุมหัวก่อนออกจากบ้าน
ฮ่าๆๆ เพราะที่พี่แก่ไล่มาแต่ละอย่างยังใช้ได้อยู่จนถึงทุกวันนี้
^
ความน่าเชื่อถือของบทความนี้อย่าไปเอาอะไรมากครับ (เพราะยังเขียนว่าพม่ามี T-80 เลย) บทความนี้อ่านเล่นเอามันได้อย่างเดียว...ครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ส่วนคนเขียนบทความนี้เสียชีวิตไปแล้วครับ
ท่าน ALPHA001 ท่าทางสนใจเรื่องนี้มานานนับสิบๆปีเหมือนกันะครับ นับถืออ่ะ
รถถัง stingray 2 หนัก 28 ตัน เกราะด้านหน้าและด้านข้างปรับปรุงให้ทนปืนขนาด 20-25 มม. ได้ ทน RPG ได้ ปรับปรุงระยะตำแหน่งล้อกดสายพานให้ดีมากขึ้น ปรับปรุงระบบควบคุมการยิงใหม่ให้ดียิ่งขึ้น กล้องมองกลางคืนดีขึ้น ราคาแพงขึ้นด้วย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะแถวๆ 90 ล้านบาท M1 ในสมัยนั้นราคาประมาณ 160-180 ล้านบาท นั่นคือ ราคาแค่ครึ่งเดียวของรถถังหลักครับ
ผมว่าเทคโนโลยีของ stingray 2 และ M-8 ยังน่าสนใจสำหรับเรามากแม้แต่ในขณะนี้ด้วยครับ
ภาพนี้เป็นการเปรียบเทียบขนาดของ stingray กับรถถังรุ่น M60 , M551Sheridan และ M1 Abrams ตอนแรกนึกว่าจะใหญ่ M60 ซะอีกแต่พอเห็นสเกลแล้ว
คนละเรื่องเลยนะเนี่ย
ผมว่าตัวรถมันก็ธรรมดาๆอะครับ ไม่ได้มีอะไร ดีไม่ดีเป็นพิเศษ ส่วนปัญหาก็น่าจะมีเยอะสุดในบรรดารถถังที่เรามีอะนะ(ที่ยังคงสภาพได้อยู่จนปัจจุบันนี้ ต้องชมโรงซ่อมบำรุงบ้านเราครับ ที่มีความสามารถสนับสนุนอะไหล่ต่างๆได้) เพราะรถถังส่วนใหญ่ของเราเป็นรุ่นยอดนิยมอะ ส่วนเรื่องเหมาะกับบ้านเราก็มีรถอีกหลายๆแบบที่เหมาะสมครับ ส่วนที่ว่ารถถังรุ่นเฮฟวี่เวทไม่เหมาะกับบ้านเรา ถามจริงๆว่าเราเคยซื้อมาใช้กันยังอะครับ เห็นมีเต็มที่ก็รถถังรุ่นมิดเดิ้ลเวท มินิฟลายเวทอะนะ
คิดในอีกแง่หนึ่ง กองทัพไทยเราก็ใจดีตามประสาชาวไทยจริงๆนะครับ ซื้อรถรุ่นแรก(รุ่นทดสอบเลยมั่ง) รายแรก และรายเดียว ให้บริษัทผู้ผลิตเค้าทดสอบองค์ความรู้ของเค้า ไปต่อยอดในโครงการของเค้าได้ ใจดีขนาดพี่กันเรายังชิดซ้ายเลยครับ(พี่แกสนับสนุนบริษัทในประเทศเท่านั้น แต่เราสนับสนุนบริษัทประเทศอื่นอะนะ ใจปะ) ถ้าจะใจกันแบบนี้ สู้ให้บริษัทในไทยทำไม่ดีกว่าเหรอ พังไป ซ่อมไป แบบสติงเรย์ อย่างน้อยๆคนไทยก็ได้ทำเอง
ขอบคุณครับท่าน นีโอสยาม
ตอนนั้นตัวผมยังละอ่อนอยู่แล้วผมก็สนใจเรื่องเครื่องบินรบกับรถถังมากจนเพื่อนๆบอกว่าผมบ้าอาวุธสงคราม แต่พอทำงานแล้วก้ไม่ค่อยมีเวลาไปสนใจก็เลยไม่มีความรู้เพิ่มเติมอีกเลย
ตอนนั้นที่ผมสนคือทางบริษัทคาดิแลคเกจเสนอซ่อมและปรับปรุงรถถังสตริงเรย์1 ให้เป็นมาตราฐานเดียวกันกับสตริงเรย์2 และจะทำการซ่อมในส่วนของตัวป้อมปืนที่ร้าวให้ และเสนอขายสตริงเรย์2ให้ในอ็อฟชั่นแบเกือบเต็มหรือเต็มที่นี่ล่ะจำไม่ค่อยได้(2534 หรือ2535ไม่แน่ใจ) ในส่วนตัวผมชอบเรื่องลักษณะรูปทรงที่กระทัดรัดของมันและอำนาจการยิงที่รุนแรงเกินขนาดตัว สตริงเรย์2ไม่แน่ใจว่าติดตั้งปืนขนาด 120 มม.หรือเปล่า ข้อมูลของสตริงเรย์2ที่ผมมีตอนนี้มันหายไปกับน้ำฝนและปลวก ถ้าสมันนั้นอินเทอร์เน็ตมันมีครอบคลุมคงจะดี ส่วนมากข้อมูลก็จะมาจากหนังสือสมรภูมิ หรือพวกสารนุกรม หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์
ส่วนที่ว่าเหมาะสมกับเราหรือไม่นั้น รถถังหลักที่มีน้ำหนักมากขนาด 45-65ตัน นั้นถ้าพื้นที่ทางภาคหนือ หรืออิสานไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ความต้องการ ณ ตอนนั้นน่าจะเป็นเพราะต้องการเอามาสนับสนุนทหารราบกรือพวกหน่วยเคลื่อนที่เร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Stingray® II is a light tank that features the firepower of a main battle tank. Equipped with a 105-mm low-recoil force gun/turret, Stingray II fires all standard rounds, including 105-mm NATO rounds. Known for its superior agility, Stingray II provides the lethality of a main battle tank at less cost. Development Late in 1996, Textron Marine & Land Systems completed the first preproduction example of the Stingray II light tank which has been developed by the company as a private venture specifically for the export market. Stingray II is a further evolutionary development of the Stingray I light tank (covered in detail in a separate entry) which is currently in service with the Royal Thai Army (RTA) which took delivery of 106 vehicles between 1986 and 1990. Like the earlier vehicle, the Stingray II uses proven and in production subsystems wherever possible to reduce procurement and total life-cycle costs. Description The overall layout of the Stingray II is identical to the Stingray I with driver in the front, three-man power-operated turret in the centre and power pack at the rear. For improved battlefield survivability, over the frontal arc, Stingray II is provided with the recently developed 2001 special high-hardness steel armour which provides protection against small arms fire up to 23 mm calibre. To protect the upper part of the suspension, side skirts with a similar level of protection are fitted. These can be quickly removed allowing access to the suspension for maintenance purposes. With this armour package fitted. Stingray II weighs 22,220 kg. If the user requires a higher layer of protection then an enhanced applique armour kit can be provided. This can be fitted by the user using standard tools in between 2 and 4 hours. When fitted with the enhanced armour package Stingray II weighs 26,308 kg, with protection over the frontal arc being provided against RPG-7-type hand-held anti-tank weapons. To provide a high degree of hit probability against stationary and moving targets the latest M1A1 digital fire-control system is fitted to the Stingray II. At present the stabilised gun control system is of the electrohydraulic type but if required by the user an allelectric system can be provided. An automatic deck clearance system is fitted as standard on the Stingray II. The gunner has the latest proven stabilised Raytheon Systems Company HIRE day/thermal night sight with integrated laser range-finder which is currently in volume production for a number of other applications. The gunner also has an auxiliary day telescope as a back-up with a magnification of x 6.2. The commander has an M36E1 day/image intensification night sight and is provided with a monitor which enables him to have the same thermal picture of the target as the gunner. The commander also has seven periscopes for all round observation. The upgraded independent trailing arm suspension either side consists of six dual rubber-tyred roadwheels with the idler at the front, drive sprocket at the rear and three track-return rollers. The standard tracks are 380 mm wide but these can be replaced by 460 mm wide tracks when the applique armour package is fitted to enable ground pressure to be maintained. The main armament of the Stingray II is still the stabilised Royal Ordnance 105 mm Low-Recoil Force (LRF) gun with a 7.62 mm M240 coaxial machine gun and a 12.7 mm M2 anti-aircraft machine gun. Optional equipment includes various radio and communications systems, a drivers night viewer, a GPS navigation system and a ventilated face mask NBC system. It can also be fitted with a laser warning system and a system that enables Stingray II to lay its own smoke screen by injecting diesel fuel into the exhaust outlet. Variants
Studies by Textron Marine & Land Systems have shown that the Stingray II can be fitted with the complete turret of the LAV-105 (8x8) assault gun covered in the following section. The LAV-105 turret was developed by Textron Marine & Land Systems and is armed with a 105 mm M35 gun fed by an automatic loader developed by FHL of the UK. This version of Stingray II would have a crew of three consisting of commander, gunner and driver and have a combat weight of 21,100 kg. To improve battlefield survivability, the Stingray II with the LAV-105 turret can also be fitted with a laminate armour package that covers the frontal arc of the hull and turret. This increases the combat weight of the vehicle to 25,500 kg. Status Development complete. Ready for production.
|
***ขอโทษครับที่ไม่ได้แปล พอดีผมก็ใช้ Google.com แปลอ่านเอาครับ
อีกอัน คือเรื่องเกราะเสริมอะครับ รถถัง รถเกราะ ทุกประเภทก็ติดกันได้หมดแหละครับ(รถกระบะก็ติดได้) ต่างกันที่ว่าตัวรถมันได้ออกแบบมารองรับตัวเกราะหรือเปล่า(ถ้าออกแบบมาติด เกราะเสริมเลย มันก็จะมีพื้นที่ติดเยอะกว่าและติดได้สวยงามกว่า และไม่ไปลดประสิทธิภาพตัวรถ) ซึ่งจริงๆปัญหามันก็อยู่ที่เราไม่มีเกราะจะไป ติดให้มันได้ครับ เพราะเราเชื่อ และมีค่านิยม ตามประเทศที่ดูไฮโซทั้งหลาย และไม่คิดพัฒนาตัวเองด้วยความสามารถที่เรามีครับ ยกตัวอย่าง รถถังสติงเรย์ที่เค้าว่ากันว่าเกราะมันบางๆเนี้ย ถ้า ทบ.เราจะเสริมเกราะให้มันจริงๆก็ไม่พ้นเกราะเสริมพวก era ซีรี่ย์(ประเภทเกราะระเบิดปฏิกิริยาเคมี) ที่บ้านเราไม่มีความสามารถผลิตเองอะครับแถมแพงอีก(ฟันธงได้เลยว่าไม่คิดทำเองอะ) ก็เข้าสูตรขายตรงประเทศไฮโซ คือ สินค้ามีการใช้แล้วหมดไป(หรือหมดอายุ อย่างเกราะ era อายุใช้งานได้ประมาณไม่ถึง 5 ปีอะ) มีการกลับมาซื้อซ้ำ ลงทุนสูง(จริงๆต้องลงทุนต่ำ) ผู้ใช้บอกกันต่อๆ ซึ่ง ทบ.เรารับหลักนิยมชาวบ้านเค้ามาตลอดอะครับ แถมจนด้วยครับ ไม่มีงบมารองรับอยู่แล้วก็ต้องปล่อยให้เกราะมันบางๆต่อไป ซึ่งเชื่อได้เลยว่าปัญหาแบบนี้อาจเกิดกับรถถัง oplot m ของเราเหมือนกัน ที่ติดเกราะเสริม era เกือบทั้งคัน(oplot m ตัวรถ 4 ล้าน บวก era ตลอด 40-50 ปี อาจแพงมากกว่า leopard 2a6 ที่ใช้เกราะขนมชั้นแบบถาวรซะ อีก) ที่ยามปกติรถถังเราก็ขาดงบจนดำรงความพร้อมรบไม่ค่อยจะได้กันอยู่แล้ว ยังต้องมาซื้อเกราะ era ติดตลอดอายุการใช้งานอีก คิดว่าไม่เหมาะกับประเทศไทย หรือประเทศจนๆซักเท่าไรอะครับ อีกอัน เห็นข้อความบนๆพูดถึง เกราะไม้ไผ่ไม้ลวกกับถุงทรายสมัยยุคคอมมิวนิสต์บุก ผมคิดว่าของพวกนี้เป็นการเอาตัวรอดมากกว่าอะครับ(คือถ้าตัวทหารเองไม่ทำก็มี โอกาศตายสูงกว่าอะ) ไม่ได้เป็นการเตรียมพร้อมของเหล่าทัพหรือกองทัพที่มีให้กับตัวทหารผู้ปฎิบัติงาน แต่เป็นตัวทหารที่แก้สถานการณ์ด้วยตัวเองตามกำลังที่ทำได้อะครับ ฟิวเดียวกับเหล็กก่อสร้างแหล่มๆที่ใช้ในการตรวจระเบิดใน 3 จ.ใต้ หรือ ไม้มะขามหลังรถกระบะของทหาร(เมื่อก่อนที่บ้านมีต้นมะขามล้มแล้วได้แผ่นไม้มา มีคนรู้จักที่เป็นทหารมาขอไปครับ บอกว่าเอาไปว่างทิ้งไว้หลังกระบะรถ ผมก็ถามว่าไอ้ซากไม้ของผมมันจะกันอะไรได้เหรอเพราะมันไม่ได้หนาอะไร(เค้าบอก หนาไปก็เกะกะอีก) เค้าบอกว่าถ้าโดนยิงไล่หลัง ก็ช่วยให้ไปตายที่โรงบาลได้ครับ ไม่อยากตายตามข้างทางว่างั้น) หรือเกราะภูมิปัญญาชาวบ้านของรถกระบะทหารพราน 3จ.ใต้ พวกนี้เป็นการพึ่งตนเองทั้งนั้นแหละครับ และประสิทธิภาพถึงจะไม่ดีเลิศแต่ก็ใช้งานได้ครับ ไม่รู้เมื่อไรกองทัพบ้านเราจะทำในจุดที่ควรทำและรู้จักพอเพียงกันซักทีนะครับ
ช่วงปิดเทอมนี่ มันคันไม้คันมือดีจริงๆ ....
ขอแสดงตัวอย่างประเทศต่างๆ กับแนวความคิดการผลิตรถถังเอง(หรืออาวุธที่ซับซ้อนอื่นๆ )
1.การพัฒนารถถังจากประเทศที่ประสบการณ์การพัฒนารถถัง(และรถสายพานหุ้มเกราะอื่นๆ) จาก 0 แบบไทยเป็นไปได้หรือ ?
ขอยกตัวอย่าง
ประเทศอินเดีย เป็นประเทศหนึ่ง ที่มีอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศที่แข็งแกร่ง(มาก)ประเทศหนึ่งของโลก มีประสบการณ์การซื้อลิขสิทธิ์รถถังแบบต่างๆมาประกอบในประเทศเป็นอย่างดี ทั้งรถถังวิชัย(Vijayanta -วิคเกอรส์ มาร์ค1) อาเชยา (Ajeya -T-72M ) และภีษมะ (Bishma -T-90) แต่ไม่เคยพัฒนารถถังเอง
เมื่อมีโครงการณ์พัฒนารถถังเอง โดยอาศัยพื้นฐานที่เคยประกอบเองมาก่อน เรื่องเหมือนจะง่าย เพราะอินเดียมีทั้งอุตสาหกรรมพื้นฐาน และนักวิทยาศาสตร์ดีๆในประเทศ (ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้) แต่โครงการณ์ที่เริ่มขึ้น ในปี1972 กลับยาวนานถึงปี1995 แบบเริ่มต้นก็ยังไม่เสร์จ ค่าใช้จ่ายบานถึง 1500ล้านบาท (เมื่อ17ปีก่อน) รถถังคันแรกออกมา ในปี2001 ในงานวันชาติ ประจำการ16คันปี2004 ประจำการครบปี 2011 !!! สิริรวมทั้งโครงการ 39ปี !!! แถมยังมีปัญหาสารพัด จนอินเดียต้องซื้อT-90เพิ่ม ราคาปี2000 เฉลี่ย 2ล้านกว่าดอลล่ารืต่อคัน (แต่บานอีกเท่าไหร่ไม่มีข้อมูล)
อินเดีย ผลิตมิก-27เองได้ อินทิเกรตระบบซู-30MKI เองได้ แต่โครงการณ์พัฒนาLCA (เดชา-TEJAS ) เริ่มตั้งแต่ปี1983 จนบัดนี้ ยังไม่มีวี่แววจะเข้าประจำการ
อินเดียต่อเรือพิฆาตเองได้ เรือดำน้ำชั้นกิโลบางลำได้ยินว่าอินเดียต่อเอง แต่โครงการณ์เรือดำน้ำนิวเคลียรืที่พัฒนาเอง ยังไม่โผล่จากน้ำ
ขนาดประเทศอินเดียที่อุตสาหกรรมภายในประเทศแข็งแกร่งมายาวนาน (เหนือกว่าจีนในยุคนั้น) ยังล้มไม่เป็นท่ากับโปรเจ้คท์ที่คิดพัฒนาเอง แล้วไทยเป็นใคร? กล้าที่จะทำเอง ? (อย่าเอาชาตินิยมขึ้นมาก่อนแล้วกัน)
2.กรณีศึกษา : อินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย เป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศไทยที่น่าทำตาม
อินโดนีเซียเคยเป็นประเทศที่ซื้ออย่างเดียว แบบประเทศไทย
แต่แนวความคิดด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เริ่มต้นมานานแล้ว เริ่มต้นจากบริษัทIPTN ที่เริ่มต้นจากหน่วยนึงในกองทัพอากาศที่วิจัยกิ๊กๆก๊อกๆตามประสา แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนแนวด้วยการซื้อลิขสิทธิ์เครื่องบินเล็ก และกลายร่างมาเป็นบริษัทของรัฐ(รัฐวิสาหกิจ) แล้วมีการร่วมมือกัน แบบหุ้นส่วนทางธุรกิจกับบ.CASA ซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตในประเทศ ที่ดังๆก็คือ CN-212 ภายหลังได้มาเป็นหุ้นส่วนในบริษัทEADS ตามCASAไปด้วย ปัจจุบันอินโดนีเซียผลิตทั้งCN-235 C-295(ในอนาคต)
ทางเลือกของอินโดนีเซีย คือซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตเอง และกลายการเป็นหุ้นส่วน(จนไม่ต้องซื้อลิขสิทธิ์มาผลิต)
การที่กองทัพบกไทย เลือกที่จะร่วมมือกับอูเครน นับเป็นนิมิตหมายที่ดี หากทบ.สามารถนำรถถังมาผลิตเองโดยไม่ต้องรับความเสี่ยงจากการพัฒนาเอง (การก็อปปี้ ไม่ใช่ทางเลือก เปรียบเทียบว่า หากคุณจะถ่ายเอกสาร แต่คุณไม่รู้ว่าปุ่มไหนจะถ่ายเอกสาร จะถ่ายเอกสารได้อย่างไร?)
อาจจะนอกเรื่อง แต่มันเกี่ยวการที่ว่า ทำไม ทบ.ไม่ซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตเอง อาจจะเป็นเพราะ การที่เค้าไม่ขายมากกว่า เท่านั้นเอง (และปัญหาอื่นๆ เช่น ทบ.ไม่มีโรงงานที่พร้อม ประสบการณ์ในอุตสาหรกรรมป้องกันประเทศยังไม่มากพอ เป็นต้น )
เรื่องเกราะERAเมื่อเทียบกับเกราะคอมโพสิตนั้น เกราะERA เนื้อแท้ก็คือระเบิดพลาสติค ในกรณีของออปลอต คือRDX ใส้นในนั้น ราคาถูกมาก แต่ที่แพงคือกล่องที่ติดบนรถสำหรับใส่ไส้ระเบิดพลาสติค เพราะมันเป็นเกราะคอมโพสิต ที่ใส้ในเป็นERAต่างหาก
ส่วนเกราะคอมโพสิตอาจจะดีกว่าในแง่การเก็บรักษานานๆ แต่ไม่สามารถอัพเกรดไส้ในเพิ่มได้ ผิดกับเกราะERA ที่สามารถอัพเดทให้ทันกับภัยต่างๆได้ง่ายกว่า(เปลี่ยนไส้ใน จบ)
บทความของใครนะจำไม่ได้ขอนำมาใช้หน่อยนะครับประมาณว่า
จะทำกับข้าวกินเองมันได้ถูกใจตามความต้องการของคนในบ้านแต่ก็แพงกว่าซื้อเขามากินฮ่าๆ(อันนี้เพิ่มเติมแล้วยิ่งทำกินเองในบ้านที่คนในบ้านไม่ค่อยจะลงรอยกันทำที่ไรยังไม่ทันได้ขึ้นโต๊ะก็เตะกะทะเตะหม้อคว้ำซะก่อนมักจะจบลงแบบว่าลงทุนซื้อกับข้าวซื้อสูตรมาแล้วทำออกมารสชาติไม่ถูกปากก็โยนทิ้งไม่เสียดายที่ลงทุนมาไอ้คนในบ้านที่รอแต่จะซื้อกินก็คอยจ้องแต่จะสมน้ำหน้าไอ้คนอยากจะทำก็หมดกำลังใจเงินก็หมดขาดการสนับสนุน อนิจจาประเทศไทย
ผมว่ากองทัพก็เริ่มที่จะพึ่งพาตัวเองมากขึ้นแล้วนะครับจากหลายๆโครงการ
เราต้องเอาอย่างอินโดนีเซียหาเพื่อนที่ทำกับข้าวเป็นมาช่วย แล้วเราก็แค่ช่วยออกค่ากับข้าวบางส่วนกับเพื่อนโดยช่วยเพื่อนทำไปก่อนไม่นานก็ทำกับข้าวกินเองได้ดีไม่ดีขายได้อีกตั้งหาก ค่าใช้จ่ายก็มีเพื่อนช่วยหาร
ตอนนั้นผมเชียร์ TH 301 มากกว่า ลองดูกระทู้เก่าครับ
http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=8186&topic=%C1%D5%E3%AA%E9%AA%D2%B5%D4%E0%B4%D5%C2%C7%E3%B9%E2%C5%A1
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลจากท่าน biguvix และท่าน kaewmusik โดยเฉพาะขอ้มูลที่ยังแจ้งว่าได้มีการพัฒนา stingray 2 มาต่อเนื่องโดยเฉพาะกับการติดตั้งปืน LAV 105 ที่ติดตั้งระบบออโต้โหลดเกอร์มาด้วย แถมน้ำหนักลดลงเหลือแค่ 21.1 ตัน จาก 22.2 ตัน ในเกราะ level 1 และ 25.5 จาก 26.3 ตัน (แต่สมรภูมิบอกว่า 28) เกราะ Level 2 ยังด้อยกว่า M-8 อยู่แต่เพราะขานั้นเกราะ level 2 เป็นเกราะไทเทเนี่ยม แต่ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาการที่น่าสนใจมากๆ ดูท่าทางเรืองเกราะนี่ยังสามารถพัฒนาต่อได้อีกด้วย แถมยังอยู่ในสถานะพัฒนาแล้วเสร็จ พร้อมเริ่มสายการผลิตส่งมอบแกลูกค้าได้
ผมว่าการที่บริษัทผู้ผลิตยังทำการปรับปรุง stingray 2 เป็นการต่อเนื่อง น่าจะบ่งบอกได้ว่ายังมีความต้องการของลูกค้าต่างประเทศที่ต้องใช้รถถังเบาอยู่ แต่มันติดตรงที่ว่าพอมหาอำนาจไม่ใช้มัน ชาติอื่นๆก็ไม่กล้าใช้ตาม แปลกมากๆ
ถ้าเมื่อไหร่ที่โครงการร่วมทุนรับผลิต OPLOT-M กับ BTR-3E1 เริ่มต้น หวังว่าเมื่อทบ.กลับมาให้ความสนใจรถถังเบาอีกครั้งเพื่อทดแทน stingray 1 แล้ว ควรจะเริ่มการซื้อสิทธิบัตรมาผลิต stingray 2 เพื่อใช้งานนะครับ คราวนี้ขอให้ครบตามความต้องการทั้งหมดด้วย แต่พัฒนาดีขึ้นมากจนน่าตกใจทีเดียว
พูดถึง M-8 และ stingray ทำให้นึกถึงรถถังเบาของอังกฤษที่พัฒนาจากแนวคิดของ M-8 เช่นกันคือ VFM-5 หนักราวๆ 20 ตัน
http://www.youtube.com/watch?v=V4ikd62dy24&feature=related
แต่ผมว่าพัฒนาการของ stingray 2 ก้าวไปไกลกว่าแล้ว
ดูจากคอมเมนท์แล้วท่าทาง potmon จะเป็นเด็กวัยรุ่นใน 3 จังหวัดแดนใต้สิท่า ......
อ่านไปก็ขำครับ มาเจอมุขใหม่ๆต้อนรับปิดเทอมนี้ฮาได้เหมือนกัน มีคนบอกว่า เกราะเสริมอย่าง ERA ไส้ในที่เป็นตัวระเบิดปฏิกิริยาเคมีนั้นราคาถูกมากๆครับ(3 ก้อนยี่สิบมั่ง) แต่ดันไปแพงมากๆที่ตัวกล่องบรรจุ(era ส่วนใหญ่ และรุ่นแรกๆ กล้องมันทำจากเหล็กแผ่นพับอะนะ ต่อมาก็แผ่นเหล็กเชื่อม ถ้าเป็นจริงอย่างว่า กล้องมันแพงกว่ามากๆ ไส้ในคง 3 ตัวร้อยได้อะมั่ง) ตัวผมเองก็ไม่มีข้อมูลนะครับไอ้เรื่องราคา era เนี้ย ได้แต่ประมาณจากรถที่ติดมันมีอยู่จำนวนน้อยครับ(ขนาดในกองทัพที่บ้านรวยนะ) และเฉพาะทางมากๆ เดาว่ามันต้องแพงแน่นอน(ถ้ามันถูกเวอร์อย่างฝันจริง ว่อนติดรถถังทุกคันในไทยให้ดูที่แถอะ) ผู้รู้ท่านใดคิดว่าไอ้ era มันถูกมากๆ หรือไส้มันถูกมากๆเนี้ย ก็เอาราคามาโชว์ให้ผมดูประดับความรู้หน่อยเถอะครับ อยากรู้จริงๆว่าตัวกล่องบรรจุ มันแพงได้อีท่าไหนกันอะ(รู้ได้ขนาด กล่องมันแพง ไส้มันถูก ก็ต้องมีข้อมูลอยู่อะจริงไหม) ส่วนเรื่องแนวทางพัฒนากองทัพ(ตัวผมเชียร์พึ่งตนเอง แบบพวกประเทศที่เค้าพัฒนาแล้วอะ จากพื้นฐานไปหาใหญ่ มองตัวอย่างจากประเทศที่เค้าประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ครับ ไม่ใช่ไปดูประเทศที่ล้มเหลวแล้วเอามาเป็นบรรทัดฐานซะเอง) จะเป็นในทางใดก็แล้วแต่บุคคลนะครับ จะพึ่งตัวเองหมดแบบใจสู้ได้เท่าไรก็เท่านั้น หรือร่วมทุนพัฒนาตัวตามชาวบ้านเค้า(มั่ง)แบบสบายๆสมอง หรือซื้อมันตลอดกาลเลย ก็ได้ทั้งนั้น แต่ต่างกันแค่ห้วงความคิดบุคคลนั้นๆที่จะคิดวิเคราะห์ได้ครับ
ปล.ไม่ได้เป็นวัยรุ่น 3จ.ใต้อะครับ แต่ตอนวัยรุ่นดันไปเรียนอยู่ในเขต 4จ.ใต้ ซะหลายปี
รูปเกราะครับ
หลวงพี่โดนเล่นแล้ว ฮ่าๆ
จากภาพ ใส้ในของเกราะERA ของออปลอตคือระเบิดพลาสติกพื้นฐานจากRDX
ราคาของวัตถุระเบิดต่างๆ ดูได้ที่เว็บนี้ http://www.pmulcahy.com/explosives/explosives.html
ดูที่DEMEX-400 และ KZ-2 ซึ่งเป็นShaped Charge
KZ-2 18Kg. ราคา400ดอลล่าร์ หรือราวๆ 12000บาท หรือกก.ละ 666บาท จากการคำนวณเล่นๆ หากออปลอต1คัน ใช้วัตถุระเบิด 1ตัน ก็ราวๆ 6แสนบาท
ออปลอตมีถังน้ำมัน 1200ลิตร ออปลอตวิ่งหมดถังใช้เงิน 3.6หมื่นบาท (คำนวณจากดีเซลลิตรละ30บาท) ราคาของERAออปลอต เท่ากับ ออปลอตวิ่ง 19ครั้ง
ใส้ในของออปลอตสามารถถอดเก็บไว้ในคลัง มีอายุ10ปี เท่ากับ ปีหนึ่งวิ่ง2ครั้ง
ที่ยกมานี้ คือ ราคาเกราะใส้ในของออปลอต มีค่าเท่ากับค่าน้ำมันออปลอตวิ่งปีละ2ครั้ง 10ปี เท่านั้นเอง
แล้วทำไม รถถังทั่วโลกถึงไม่ติดกันจนทั่วไป ? จริงหริงหรือ??? ปัจจุบัน เกราะERA ได้รับความนิยมจากรถถังหลักชั้นนำทั้งหลาย เนื่องจากภัยคุกคามของอาวุธต่อต้านรถถังแบบRPG และ แบบนำวิถีอื่นๆ
หลักนิยมช่วงแรก ที่รถถังไม่ได้ต่อสู้ในเมือง จึงเน้นการป้องกันกรสุนเจาเกราะ มากกว่ากระสุนHEAT แต่ภายหลังเมื่อมีเหตุการณ์911 กองทัพทั่วโลกจึงตระหนักถึงความสำคัญและอันตรายของกระสุนHEAT จึงมีมาตราการต่างป้องกัน ทั้งกรงนก เกราะเสริมคอมโพสิต และERA รถถังChallenger 2 ของอังกฤษ เคยโดนIED ท่่ที่ำจากRPGยิงเข้าส่วนใต้ที่นั่งคนขับ เเละเจาเกราะนั้นจนคนขับขาขาด ภายหลังChallenger 2 ที่ปฏิบัติภารกิจในอิรัคจึงได้ติดตั้งโมดูลERA ตรงตำแหน่งนั้น ในรถถังTier1 ภายหลังจึงค่อยเปลี่ยนมาติดDorchester โมดูล แทนในTier2 และในTier 3 ก็ได้ติดERAโมดูลที่ด้านข้าง http://www.tanknutdave.com/component/content/article/47
M1A2 TUSK ก็ติดERA http://www.tanknutdave.com/component/content/article/54
K2 ก็ติดERA http://www.tanknutdave.com/component/content/article/237
และLeopard2 PSO ก็ติดERA http://www.tanknutdave.com/component/content/article/63
ERA ออกแบบให้เป็นเกราะพลีชีพแต่ต้นอยู่แล้ว และราคาถูกกว่าเกราะคอมโพสิต และเมื่อถูกยิงสามารถเปลี่ยนได้ง่ายกว่า
หรือประเทศเจ้าตำรับป้องกันทหารของตนนั้น ก็ยังติดERA บนM-113 เวอร์ชั่นZelda2 และ L-VAS http://www.tanknutdave.com/component/content/article/301#zelda
แม้กระทั่งจอร์แดน ยังเลือกที่จะติดERA ให้กับM60 phoenixของตน แม้จะมีเกราะคอมโพสิทแล้วก็ตาม
ราคาของระเบิดพลาสติกแบบสำเร็จเมืองนอกขายกันเป็นปอนด์บ้าง ขายเป็นแท่ง ขายเป็นก้อน บางเจ้าขายยกถังก็มี(ควบคุมพิเศษ)
ราคาถูกมากกิโลนึงราว ๆ 8-20 ดอลล่าห์เท่านั้นเอง(ในสหรัฐ) - - ใช้ในอุตสากรรมเหมือง รื้อตึก
ดินปืนสำหรับบรรจุกับกระสุนยิ่งถูกลงไปอีก
เกราะคอมโพสิตนั้นหากถูกยิง การเปลี่ยนจะมีราคาแพงมาก และ ตัวอย่างจากสงคราเลบานอนปี2006 รถถังอิสราเอล52คันโดนยิงจากจรวดแบบRPG-29 Metis Kornet 18คันนั้นเป็นเมอร์คาว่าMk4 รุ่นล่าสุด เสียหาย 5คันเกราะโดนเจาะ เสียหายเกินซ่อม2คัน ลูกเรือเสียชีวิต10นาย เมอร์คาว่ามาร์ค4นั้น เป็นเกราะคอมโพสิต เซรามิค-พลาสติค-ไททาเนี่ยม เรียกได้ว่าไม่แพ้ดอร์เชสเตอร์ ของแชลเลนเจอร์2เลย หมายความว่า เกราะคอมโพสิตนั้น ให้การป้องกันกระสุนแบบHEAT แบบแทนเด็มได้ไม่คุ้มราคาคุย ราคาแพงกว่าเกราะERA แต่ป้องกันกระสุนHEATได้ไม่สมราคา
การที่ยกอินเดียมาเป็นกรณีศึกษาที่ล้มเหลวนั้น เพราะ ต้องการให้รู้ว่า การพัฒนาอะไรเองนั้น หากไม่มีประสบการณ์ลองผิดลองถูกมานาน (การลองผิดลองถูกในปัจจุบัน นั่นคือการสูญเงินจำนวนมหาศาล) ข้ามขั้นพื้นฐานต่างๆ จนทำให้เกิดการพึ่งตนเองที่ไม่พอเพียง (หมายถึงแพงกว่าซื้อเขา หรือ แพงกว่าซื้อลิขสิทธิ์มาประกอบ)
อีกตัวอย่างหนึ่งที่อยากจะยก (ขอให้อ่าน ตีความประเด็นให้แตกก่อน) คือตุรกี
ตุรกีนั้น เป็นประเทศเกทเวย์ของเอเชียและยุโรป ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของโลก การพึ่งพาตนเองของตุรกีจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะไม้ให้ขั้วอำนาจใดมามีอิทธิพลมากเกินไป การพึ่งตนเองของตุรกีเริ่มจากการซื้อลิขสิทธิืมาทำ เช่น รถเกราะสายพาน AIFV ซึ่งภายหลังได้ปรับปรุงจนกลายเป็นของตนในชื่อ ACV-300 การซื้อลิขสิทธิ์มาประกอบ(อัพเกรด)รถถังM60ของตน เป็นSABRA Mk2 การร่วมมือกับบ.เยอรมัน ในการอัพเกรดรถถังลีโอพาร์ด2เอ4 เป็นลีโอพาร์ด2NG (เกราะMEXAS) และจนร่วมมือกันกับเกาหลีใต้ เพื่อพัฒนารถถังAltay (ซื้งมีพื้นฐานจากK2 ) เป็นของตนเอง
นี่คือตัวอย่างของการประสบความสำเร็จในการพึ่งตนเองของประเทศ ที่เริ่มจากการซื้อ มาซื้อลิขสิทธิ์ จนกลายเป็นร่วมมือระะหว่างประเทศในแบบหุ้นส่วนทางธุรกิจ
ส่วนอินเดียนั้น ซื้อ ซื้อลิขสิทธิ์ แล้วมาผลิตเองเลย จนทำให้หลายๆโครงการแป้กจนถึงบัดนี้
เกาหลีก็ในลักษณะเดียวกัน หากดูจากการพัฒนารถถังของเกาหลี M48A3 ซื้อ -----M48A3 ประกอบเอง --------ร่วมมือกับอเมริกา สร้างK1-------แบบของตนเอง K2
ชอบกระทู้นี้จัง ไม่ทราบว่าหลวงพี่ icy_cmu สึกหรือยังครับ
แต่ที่น่าเสียดายคือ ไทยพลาดโอกาสในการก้าวสู่ขั้นแรกในการพึ่งตนเอง นั่นคือการไม่นำรถถังTAM เข้าประจำการ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ไทยมีความสามารถในการประกอบยานยนต์ทางทหารครั้งแรก มิเช่นนั้นแล้ว ป่านนี้ไทยอาจจะร่วมสร้างรถถังกับประเทศอาเซียนด้วยกันแล้วก็ได้
ถ้าเอาใกล้ๆบ้านเรา ประเทศสิงคโปร์ก็เป็นตัวอย่างที่ดีในการพึ่งตนเอง เริ่มจากการประกอบM-113เอง การอัพเกรดM-113 จนกลายมาเป็นBionix ในปัจจุบัน หรือ อุตสหากรรมต่อเรือ ที่เริ่มจากซื้อลิขสิทธิ์ เรือเร็วโจมตีจากเยอรมันนี มาร่วมมือกับอิสราเอลในชั้นVictory จนกลายมาเป็นเรือLPD แบบEndurance และฟรีเกตแบบFormidableในปัจจุบัน
ทำไมอะ
ง่ะๆ
ผมก็ไม่รู้อะ แต่ผมก็จะเถียงอะ ไม่ใช่ไม่รู้แล้วก็เชื่อๆไปหมด เดีี๋ยวสติปัญญาไม่พัฒนา ผมไม่รู้แต่ผมจะเถียง จะได้ฉลาด(?)
หลวงพี่เอาข้อมูลมาโชว์สิ อย่าพูดลอยๆผมไม่เชื่อหรอก (เอ๊ะแต่ทำไมทีตูพูดไม่ต้องมีข้อมูลมาสนับสนุนวะ ผมเดาเอา ผมเปรียบเทียบกับเรื่องที่บ้านเอา)
หลวงพี่ลากข้อมูลมาเป็นกระบุง ผมก็ทำเนียนๆ
สุดท้ายขอบคุณที่ร่วมแบ่งปันความคิดเห็นกันครับ
ฮ่าๆคุณ toeytei จะเอาฮาไปไหนครับ ระวังโดนพาดพิงถึงสติปัญญานะท่าน คนนี้ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นยังไงเขาโพสข้อมูลให้ดีๆพี่แกก็ตอบกลับแบบประชดแรงๆประมาณว่า ก็กูถูกอ่ะ ทำไมอ่ะ? มีไรป่ะ? ไม่เชื่อไปถามหมวดบอมดูโดนมาแล้ว ขนาดพี่แกเป็นทหารอยู่อาชีพ 3 จชต.นะนั่น
ปล.ไม่ได้เอ่ยชื่อ ใครร้อนก็รับๆไปเด้อ ฮ่าๆ
เข้าประเด็นสติงเรย์นิดนึง ในเรื่องการอัพเกรดโดยส่วนตัวคิดว่าทำได้ แต่คุ้มหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่ง
การเสริมเกราะทำให้นน.เพิ่มขึ้น ถ้าอยากได้ความเร็วเท่าเดิม ต้องอัพเกรดเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง------อัพเกรดมากกว่าเกราะ เพิ่มค่าใช้จ่าย (ขึ้นอยู่กับว่าระบบขับเคลื่อนเดิมมีheadroomมากแค่ไหน)
การเสริมเกราะ ทำให้นน.เพิ่มขึ้น นน.เพิ่มขึ้น อัตราส่วนนน./พื่้นที่สายพาน หรือที่เราเรียกกันว่า Ground pressure เพิ่มขัึ้น -------ลดความอ่อนตัวในการใช้งานบางพื้นที่
การเสริมเกราะ นน.เพิ่มขึ้น โมเมนตัมของรถเปลี่ยน ความคล่องแคล่วก็เปลี่ยน ------------อาจจะเลี้ยวยากขึ้น หรือ ลดอัตราการหมุนของป้อม(หากไม่ได้อัพเกรดมอเตอรืหมุนป้อม)
การเพิ่มเกราะ อาจจะทำให้ป้องกันกระสุนคาลิเบอร์กลางต่างๆได้ดีขึ้น (25-30มม. ของIFVสมัยใหม่) -----------------------แต่เจอกระสุนรถถังหลัก ยังไงก็ม่อง
หากคิดสะระตะแล้วคุ้มค่าก็น่าทำ แต่หากไม่คุ้ม ขอแค่อัพเกรดระบบควบคุมการยิงให้ทันสมัยมากขึ้น อาจจะรวมถึงการปรับปรุงปืนให้มีความสามารถในการยิงอวป.นำวิถีได้ (แบบเดียวกับป้อมCV-CT บนรถเกราะPatria ของฟินแลนด์ และ Anders ของโปแลนด์ สามารถยิงอวป.ได้ไกล 5กม.) แค่นี้รถถังรอบๆบ้านเราก็หนาวๆร้อนๆแล้ว
แต่หากทบ.จริงจังกับความร่วมมือกับอูเครน
อาจจะได้เห็น สติงเรย์ติดเครื่อง 3TD 500แรงม้า พร้อมเกราะNozh และ ระบบควบคุมการยิงเทียบเท่าT-64E ก็ได้ หรือหากคิดไกลกว่านั้น M60 ยังอาจจะได้อัพเกรดด้วย เครื่อง6TD 1200ม้า ปืน125พร้อมออโต้โหลดเดอร์ และระบบควบคุมการยิงของออปลอต
T-64E
มาถึงเรื่องTAM หากทบ.เลือกTAM จะทำให้ไทยมีความสามารถในการผลิต
1.รถถังหลัก TAM (ปืน105 เครื่องยนต์720ม้าMTU ระบบภายในคล้ายLeo 1A5 ) ซึ่งอาจจะได้สิทธิ์ในการผลิตปืน105 L7 เองด้วย
2.รถรบทหารราบ VCTP (ปืน20มม. น่าจะของOerlikon บรรทุก10นาย ) สำหรับพล.ม. เบา
3.ปืนใหญ่อัตตาจร VCA (155มม. 39คาลิเบอร์ จากOto Melara แบบเดียวกับ Palmaria ที่ติดบนรถถังOF-40 ระยะยิงไกลสุด30กม. ) สำหรับพล.ป. หรือพันป.ในพล.ม.
และอื่นๆอีกเช่นรถกู้ซ่อม รถวางสะพาน
และหากจะอัพเกรด Elbit ได้เสนออัพเกรด TAM จนออกมาดูน่าใช้กว่าเดิมเป็นกองอีกด้วย (เพิ่มCIS ระบบNetwork เกราะคอมโพสิตโมดูลน่าจะMEXAS และ ปืน120 light weight แบบเดียวกับCV90120 )
VCTP
VCA
TAM upgrade
TAM กับ Marder ต่างกันมากไหมครับ อิจฉาอินโดนีเซีย Marder 1 A3 ออฟชั่นพิเศษ ที่จะให้สิทธิอินโดนีเซีย ผลิตในประเทศ
ขอบพระคุณครับหลวงพี่ ท่านเปิดผมจะได้ตาม พักหลังนี่แก่แล้ว กระแสแรงสวนกระแสเด็กมันสวนเอา สู้ไม่ไหว แทม ถ้าใครติดตามหนังสือสงครา สมรภูมิเมื่อเกือบสามสิบปีก่อน ยุคนั้นจะทราบว่า แทม มาแรงจริง มีการมั่นหมายว่าจัเป็นว่าที่รถถังใหม่ของเรา เยอรมันก็ใจปล้ำเตรียมถ่ายทอดเทคโนโลยี่ เชื่อไม่เชื่อ รถรบทหารราบ รถรสพ ที่ ศูนย์สร้างอาวุธ วิจัยพัฒนา ตัวรถด้านล่างมันก็เป็นของแทม ชัดๆ (ซากความหลังที่คนอกหักทิ้งไสว้ให้) หลังจากพบตามหน้านิตยสารอยู่นานในฐานะว่าที่รถถัง ปรากกูุว่าหลังจากทัพบกแห่ ที จากจีนมาสามโหล ทบ ก็ประกาศชื่อรถถังเบาที่เลือก เป็นม้ามืดที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ไม่เคยมีชาติไหลเลือกประจำการ แม้ไอ้กันก็ปฏิเสธ ข้ออ้างเพียงข้อเดียวที่ย้ำนักย้ำหนาคือเป็นรถถังที่มีน้ำหนักเบา(ยีบเอ็ดตัน แทมสามสิบ) หลังจากนั้น วาทกรรมเป่าหูก็ได้ยินมาตลอด ประเทศไทยดินอ่อน เหมาะกับถังเบา ถังหนักติดหล่ม แต่ แม้ งงงงงงงงง ไม่ว่า เอ็ม หกสิบทั้งสองอะแด้ป ไท้ปหกแปดสวิสที่เกือบลงล็อก เคหนึ่ง หรือแม้แต่อ้อปหล็อต พวกนี้มันหนักหรือเบากันแน่ฟะ
สังเกตเถอะ ทัพไทยโดยทัพเรือ เป็นทัพเดียวที่การวิจัยพัฒนามีแนวทางที่สามารถสัมผัสได้ ถ้าเดาะประกิตเค้าว่า อิมพลีเมนต์ สังเกตได้ว่ามีการสร้างใช้เองโดยกน่วยงานภายในคือกรมอู่ทหารเรือ เริ่มตั้งแต่เรือ ตอ เรือชุดสัตหีบ ชุดคำรณสินธุ์ และอีกหลายๆชุด ทัพอื่นดีแต่ปาก ตั้งหน่วยงานวิจัยมาเป็นล่ำสัน ที่สิ่งที่ได้มาแทบไม่คุ้ม ทัพบกเป็นกอบกำก็คงแค่ทำกระสุน อย่างอื่นเค้าเรียกพอติดเป็นกัณฑ์เทศ ทัพฟ้า ทอออหกนี่มันกี่ปีแล้ว ช้ามาก เคยจะรุ่งตอนแฟนเจ็ต ตกติดต่อสามสี่ลำ วิ่งแจ้นหาซื้อ(ไม่อยากคิดอกุศลวางยา) แต่ถ้ามีใจจริง บอกว่าเครื่องยนต์ไม่เหมาะเมืองไทย มันร้อน ก็วิจัยปรับแรุงสิฟะ เรื่องสวัสดิภาพนักบินเรื่องหนึ่ง แต่การพัฒนาต่ออีกเรื่องหนึ่ง อันนี้มันวัดหัวใจของผู้ใหญ่ในกองทัพ สรุป ม่านบังตา ท้ายนี้มีข้อสัเกต โครงการดีๆส่วนใหญ่ใาจากเยอรมัน แต่ก็มีอันคว่ำหมด ที่รอดหูตามาได้มีเพียง ปืนเอชเค (ไม่นับอัลฟ่าเจต อันนั้นซื้อขาด) กรือกองทัพนี่ นายพลสายอ้มริกาคือตัวถ่วงเจริญ
ขออภัยผิดเยอะ พิมพ์จากทอศัพท์
ขอใช้สิทธิพาดพิง นอกเรื่องนิดหนึ่งนะครับ นานๆทีจะได้เห็นคนแก่กะโหลกกะลาในเว็บบอร์ดนี้ ซักครั้งอะครับ(ผมเขียนว่าใครก็รู้ๆกันนะ) ทั้งที่เห็นชอบเขียนกันบ่อยๆว่าอย่าแสดงความเห็นอะไรในบอร์ดที่ไม่เกี่ยวกับ การทหารและเทคโนโลยีแท้ๆ แต่ก็กลับมาทำซะเอง ทำให้ผมได้รู้เลยว่าอายุมันไม่ได้เกี่ยวกับ สติ ปัญญา ความเป็นสุภาพชน หรือวุฒิภาวะทางอารมณ์ เลยซักนิดครับ สไตท์การเขียนของผมก็ประชดประชันแดกดันตามที่เห็นๆกันนั้นแหละ แต่ก็อยู่ในสิ่งที่เกี่ยวเนื่องจากหัวข้อกระทู้ครับ ไม่เคยใช้อารมณ์เขียนล่อเลียนใครนอกเรื่อง หรือมุ่งโจมตีตัวบุคคล จะขัดแย้งกันก็เฉพาะในส่วน เนื้อหา หลักคิด กระทู้นั้นๆเท่านั้นเอง จบกระทู้นั้นๆก็เป็นอันจบครับ ไม่มีคิดแค้นเคืองโกธรใครครับ เพราะขัดแย้งกันในหลักคิดของเรื่องนั้นๆเท่านั้นเอง เจอกันกระทู้ใหม่ก็คุยกันปกติครับเพราะมันเป็นคนละหัวข้อกันแล้ว(คนในบอร์ด นี้ส่วนใหญ่เค้าก็คิดกันแบบนี้แหละครับ แต่วันนี้โชคดีเจอของหายากเข้า มาในรูปแบบกะทับถมเต็มทีเลย เด็กไทยอนาถใจคนแก่กลุ่มนี้มากๆครับ เด็กๆแบบผมเลยมาเล่าให้คนปกติฟันว่าอย่าไปทำตัวแบบนี้ในตอนแก่ๆนะ ลูกหลานเค้าอายแทน) ผมเองก็ไม่รู้จะเขียนไปทำไม ไม้แก่ๆคงดัดไม่ได้แล้วอะนะ อีกอันคือผมไม่ได้เฝ้าจอทั้งวันนะครับ จะทับถมกันก็รอดูจังหวะนิดหนึ่งครับ รอผมมาตอบก่อนก็ได้
เข้า เรื่อง era ต่อนะครับ ที่แรกเลยผมคาดไม่ถึงว่าจะดูกันง่ายๆแค่ในด้านมูลค่าวัสดุอย่างเดียวอะครับ ระหว่าง ไส้กับกล่อง ของ era แต่ถ้ามองแบบนั้น DEMEX-400 และ KZ-2 ก.ก.ละ 666 บ. กล่องเหล็กผมก็ ก.ก.ละ 25-30 บ. ครับ(ไม่ต้องขึ้นเว็บให้ดูราคามั่ง ที่จำได้ปีนี้แผ่นเหล็กรีดร้อนตันละ 710 usd อะ) แล้วกล่องจะไปแพงกว่าไส้ได้ไงอะครับ(ตัวอย่าง มือถือไอโฟน กับ เคสของมัน ถ้ามีคนมาบอกคุณว่า เคสมันแพงกว่าตัวเครื่อง ด้วยเหตุผลที่ว่า ราคาซิลิโคน ที่ทำเคส ก.ก.หนึ่ง หลายพัน บ. แพงกว่า วัสดุที่ทำตัวเครื่อง อย่าง พลาสติก ซิลิคอน เหล็ก ก.ก.หนึ่งไม่กี่สิบ บ. คุณจะเชื่อเค้าไหมอะครับ) เห็นไหมอะครับว่าดูแง่วัสดุอย่างเดียวมันแปลกสุดๆไปเลย ในความหมายที่ผมถาม ไส้ era (เอาของ oplot m แล้วกัน) มันก็ คือ ทรงไอ้ก้ามปูนั้นแหละครับ กับชนวนตรงกลาง ชุดลองล็อคกามปูอีก ทั้งหมดนี้คือ ไส้ ในความหมายผม(คืออุปกรณ์ทั้งหมดที่ต้องเปลี่ยนเมื่อ rdx ทำงาน หรือหมดอายุลง จริงไหมครับ ไอ้ไส้เนี้ย) ไม่ได้ตั้งใจจะถามราคา rdx นะครับ(แน่ใจว่า rdx คือ DEMEX-400 หรือ KZ-2 แล้วเหรอครับ หรือประมาณช่วงราคาเอาอะ เชื่อได้เลยว่าความลับ ส่วนผสม หรือสารที่เจื่อลงไป มันเป็นมูลค่าของผลิตภัณฑ์นี้ครับ ไม่มีใครเค้ามาบอกกันหลอก) เมื่อเทียบกับการขึ้นรูปเหล็กให้เป็นกล่องแล้วยึดติดเป็นเกราะรถถัง ยังไงผมก็คิดว่า ไส้ era แพงกว่ากล่องแน่นอนอะครับ ผมจะหายสงสัยทันที่เลยครับถ้ามีใคร เอาราคา era ทั้ง cell กับ ราคาไส้ ที่ต้องเปลี่ยนทุกๆ 5 ปี มาเทียบกันได้ ประเด็นนี้ก็จะเคลียร์ทันที ช่วยหามาที่เถอะครับ (ส่วนตัวไม่คิดว่าเกราะ era มันจะทำกันได้ง่ายๆเหมือนทำขนมปังทาเนยหลอกนะครับ)
มา อีกอันคือ เกราะขนมชั้น เกราะคอมโพสิต หรือเกราะถาวร รวมๆขอเรียกว่าเกราะคอมโพสิตแล้วกัน ตามความเข้าใจผมมันคือ เกราะที่มีระนาบผิวกระทบกับกระสุนในแนววิถี หลายๆระนาบด้วยกัน(ในทางลึก เพื่อไม่ให้ ความร้อน แพร่ หรือ แรงปะทะ ถ่ายเท ไปสู้ระนาบอื่นได้โดยตรง) ซึ่งแต่ละระนาบอาจทำจากวัสดุชนิดเดียวกัน หรือหลายชนิด เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การออกแบบการป้องกัน (จะว่าไปกว้างเป็นทะเลเลยนิยามของผม) จะว่าไป เกราะไม้ไผ่ไม้ลวกกับถุงทรายสมัยยุคคอมมิวนิสต์บุกก็เป็นเกราะ คอมโพสิตนะ หรือไม้มะขามหลังรถกระบะก็เป็นนะ หรือผมทำกล่องเหล็กใส่หินใช้ยางใช้เหล็กใช้ยันต์ใช้แฟนลงไปแล้วเทปูนทับ แล้วเอาไปแปะรถถังก็เรียกได้ว่าเกราะคอมโพสิตนะ หรือ ใส่ เซรามิค-พลาสติค-ไททาเนี่ยม แทนก็เรียกเกราะคอมโพสิตนะ ส่วนคุณภาพการป้องกันก็เป็นไปตามแต่ละ วัสดุที่ทำ ลำดับระนาบ ของเกราะทั้งหมด เขียนมาตั้งยืดยาวทั้งหมด อยากจะบอกว่าเราสามารถทำอะไรให้มันดีขึ้นได้ก็ทำไปเถอะ จะเป็นเกราะ era ถ้าทำได้ทำง่ายทำถูกก็ทำไปเถอะ(แต่ไม่คิดว่ามันจะถูกอะ และไม่คิดว่าตอนนี้เราทำได้ด้วย) เกราะคอมโพสิต ถ้าทำได้ทำง่ายทำถูกก็ทำไปเถอะ(คิดว่าเราทำได้อะ ถึงจะไม่ไฮโซ ถึงไม่ดีเลิศแต่ก็ทำได้แน่นอนครับ) หรือถ้าจนจริงๆทำจุดลองรับเกราะเสริมต่างๆไว้ก็ยังดี(รูน๊อตอะว่างั้น จุดรองรับ era คิดว่าทำรอได้อยากครับ เพราะมันถี่แถมต้องแม่นยำอีก) แต่เท่าที่รู้มากองทัพบ้านเราไม่คิดจะทำกันครับ ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ(จริงๆรถถังมันก็มีบทบาทที่ไม่ต้องใช้ความเร็วความคล่อง อยู่เยอะเหมือนกันนะ แล้วเกราะมันก็ถอดออกหรือติดเสริมได้นะ ผมว่าทหารเค้าวิเคราะห์ได้อยู่แล้ว) สุดท้าย สมมุติถ้าพรุ่งนี้เพื่อนบ้านเราใช้รถถังบุกเราแบบสายฟ้าแลบ ฟันธงได้เลยว่าสติงเรย์ของเราได้ติดเกราะคอมโพสิตไม้ไผ่ไม้ลวกกับถุงทรายสมัยยุคคอมมิวนิสต์บุกโดยใช้เชือกผูกแน่นอน ฟังธงฮาๆๆๆ
ในปัจจุบันนี้ มีรถถังเบาที่ดัดแปลงมาจากIFV เข้ามาแทนรถถังมิดไซส์(30-35ตัน)จำนวนมาก ทั้ง Anders -105 CV-CT/120 RAUG lightweight CV90120-120 RAUG ASCOD-105 ZBD-2000 -105mm L7 copy ซึ่งให้อำนาจการยิงที่เท่ากัน และความอ่อนตัวในเรื่องของการส่งกำลังบำรุง (หากมีIFV พื้นฐานเดียวกันประจำการอยู่แล้ว)
อันนี้ทำให้น่าคิดว่า ปัจจุบัน รถถังมิดไซส์ ก็จะโดนแทนที่ไปด้วยIFV ติดปืนใหญ่ๆ อีกหรือเปล่า? (เพราะ รถถังขนาด30-35ตันนั้น นอกจากที่พัฒนาในสงครามเย็นแล้ว ยังไม่เห็นรุ่นใหม่อีกเลย)
การที่ทบ. จะอัพเกรดสติงเรย์หรือไม่นั้น ปัจจัยของเทรนด์ของโลกจะมาเกี่ยวหรือไม่ ? อันนี้ไม่ทราบเช่นกัน
ในเรื่องความน่าเสียดายกับการจัดซื้อของกองทัพไทยนั้น 3อันดับแรก น่าจะได้แก่
1.เรือดำน้ำU-206 ที่โดนการเมืองภายในเล่นงาน
2.TAM พร้อมลิขสิทธิ์ที่ไปพร้อมกับมัน
3.อัลฟ่าเจ๊ต ที่น่าจะซื้อครบฝูง
น่าแปลกที่ทั้ง3อย่าง มาจากเยอรมัน !
ผมติดFภาษาอังกฤษIIใครแปลได้ช่วยแปลให้หน่อยนะครับ รู้แค่ว่าเวียดนามสามารถผลิตเกราะ ERA ใช้ขึ้นเองภายในประเทศโดยใช้วัสดุภายในประเทศโดยมีคุณภาพเทียบเท่าซื้อจากต่างประเทศแต่มีราคาถูกกว่ามาก แล้วประเทศไทยทำไมจะทำไม่ได้
ต่อด้วยเรื่องสติงเรย์ ในส่วนที่พอจะทราบ ตอนที่สิตงเรย์ออกนำเสนอนั้น ทั่วโลกเริ่มหันไปใช้รถถังมิดไซส์ ไปจนถึงขนาดหนัก ส่วนรถถังเบา หรือ รถถังลาดตระเวณ/เบานั้น โดนIFV ติดปืนคาลิเบอร์กลาง+จรวดนำวิถี มากลบไปหมด ยกตัวอย่างเช่น ในมว.ลว. ของทหารม้าอเมริก ใช้M3 CFV Bradley แทนภารกิจของรถถังเบาประจำหน่วยทหารม้า หรือ ในอังกฤษ มีการใช้รถเกราะ warriror แทน รถถังเบาในยุคนั้นเลยพากันล้มหายตายจากกันหมด ทั้งวิคเกอร์ส M-8 expeditionary tank และสติงเรย์
ราคาเหล็กRHA http://www.alibaba.com/product-free/100642633/Rha_Rolled_Homogeneous_Armor.html
ราคาแผ่นละ 240เหรียญ
1แผ่นหนัก 5.165 Kg . (คำนวณจาก ปริมาตรของแผ่นเหล็ก/ความหนาแน่นของRHA )
เพราะฉะนั้น ตก กก.ละ46 ดอลล่าร์ หรือ 1380 บาท
และขนาดบางแค่ .375นิ้ว กล่องบนออปลอตนั้น หนาไม่ต่ำกว่า 1นิ้ว ราคาจะแพงอีกมาก
กล่องที่ว่า กับไส้
ลักษณะของกล่องบรรจุ บนT-84
และ ระเบิดพลาสติคบนERA ทุกประเภทไม่ต้องการชนวน เพราะความร้อนมหาศาล และแรงอัด ของกระสุนHEAT และ APFSDS จะทำหน้าที่ของมันเอง
ส่วนประกอบของไส้ในERAบนออปลอตนั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า ระเบิดพลาสติค ที่ห่อด้วยวัสดุโพลิเมอร์(พลาสติคอีกนั่นแหละ)เพื่อให้คงรูป แล้วใส่ในแพ็คเกจสำหรับถอดเปลี่ยน แค่นั้น
กล่อง RHA บนออปลอต
ลองไปดูกระทู้เก่าๆที่เคยตอบมั่งนะครับ กับไอ้การที่ท่านกระทบกระแทกแดกดันชาวบ้านเวลาที่เขาคิดต่างกับคุณแล้วเขารู้สึกอย่างไร พอท่านโดนบ้างถึงกับร้อนอยู่ไม่สุขเลยหรือ จะบอกว่านี่เป็นสันดานท่านผมก็เข้าใจ แต่ท่านก็น่าจะแสดงความคิดเห็นที่ดีๆให้เกียรติ ต่อท่านสมาชิกผู้อื่นบ้าง ตอนท่านแสดงความคิดเห็นแบบดีๆมันก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ ท่าน icy_CMU ท่านก็เป็นพระภิกษุ ถ้าท่านคิดว่าการพูดประชดประชันต่อผู้อื่นโดยไม่สนคุณวุฒิ วัยวุฒิก็ตามแต่ท่านเถอะครับ ในเมื่อท่านไม่เกรงใจที่จะพาดพิงผู้อื่นไม่ให้เกียรติผู้อื่น จะให้ผู้อื่นวิจารณ์ท่านไม่ได้ใช่ไหมครับ
หยุดทะเลาะกันแล้วเอาเรื่องวิชาการมาถกกันดีกว่า
ERA บนออปลอตนั้น มีเอกลักษาณ์คือ ไม่ได้เป็นกล่องแปะไว้เฉยๆ แต่เป็นกล่องเหล็ก ที่สามารถเปลี่ยนใส้ในได้ โดยปกติERAทั่วไป หากหมดอายุ จะต้องเปลี่ยนยกบรรจุภัณฑ์ แต่ออปลอตแค่เปลี่ยนไส้ที่เป็นระเบิดพลาสติกออก ก็เป็นอันจบ
ERA บนออปลอต มีอายุใช้งาน 10ปี หากถอดเก็บไว้ในที่ๆเหมาะสม ไปดูที่เว็บผู้ผลิตได้ หากสงสัย
แล้วทำไมเกราะERA ถึงไม่ทำกันทั่วโลก ?
ก็เพราะERA นั้นออกแบบต่างกันในแต่ละประเทศ จึงมีสูตรลับต่างๆกันไป และ การที่จะให้จุดระเบิดโดยสถานการณ์ต่างๆนั้น ต้องอาศัยประสบการณ์ในการทำ แต่ไม่ได้ยากมากขนาดนั้น ข่าวด้านบนก้เป็นที่พิสูจน์ว่า หากจะทำก็ทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะทำหรือเปล่า ?
เอาง่ายๆERA นั้น มีลักษณะการทำงานต่างๆกัน เช่นแบบThrow plate บนM1Tusk ซึ่งใช้บรรจุภัณฑ์เป็นเหล็กหนา เพื่อไปชนลูกกรุนHEAT ที่กำลังเจาเกราะอยู่
แบบShaped Charge ก็คือแบบเดียวกับออปลอตคือใช้ลำของแรงระเบิด (Munroe Effect )ส่งLiner ของตัวERA ไปตัดลำของHEAT หรือกระสุนAPFSDS
และแบบที่เป็นคล้ายๆ EFP (explosively formed projectile) ในการยิงแผ่นเหล็กที่ขึ้นรูปด้วยแรงระเบิด (DYNA บนT-72M ของเช็ค)
การR&DของเกราะERA นั้น ยากกว่า แต่ผลที่ออกมาจากการวิจัยนั้นๆดูแล้วง่ายอย่างไม่น่าเชื่อทีเดียว
เหมือนการทำก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ สูตรต่างๆก็มีมากมาย แต่สุดท้ายแล้ว ก๋วยเตี๋ยวมันก็คือ เส้น+น้ำซุป+เครื่องต่างๆเท่านั้นเอง
อย่าเอาเรื่องพระมาเกี่ยวข้องเลย icy_CMU มันเป็นชื่อในอินเตอร์เน็ต ......ทุกคนมีสิทธิจะวิจารณ์หากการวิจารณ์นั้น มีเหตุผลพอ
ในที่นี้ไม่มีใครรู้ว่า ใครเป็นใคร ไม่มีประโยชน์ที่จะพาดพิงถึงตัวบุคคลกัน
คุณpotmon อาจจะไม่ใช่เกรียน อย่างใครๆคิด อาจจะเป็นคนที่สงสัย และต้องการหลักฐาน
โดยส่วนตัวกลับคิดว่า หากไม่นับสำนวนการเขียนแล้ว เป็นคนที่น่ามีในเมืองไทย คือ สงสัยจนกว่าจะถึงที่สุด เค้าเรียกว่า มีIQ สูง แต่EQไม่ทราบขอไม่วิจารณ์
ประเด็นออกทะเลเพราะเราพาออกทะเลเอง เลยเกิดประเด้นข้อสงสัยขึ้น
แต่หากการคุยกันอยู่ในกรอบแห่งความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นใคร การถกกันด้วยเหตุและผลย่อมเป็นที่น่าชื่นชมเสมอ
ขอให้การใช้อารมณ์หยุดกันอยู่แค่นี้ ก่อนที่กระทู้ดีๆ ที่มีการถกเถียงกันแบบนี้ จะกร่อย
พอออกความเห็นแทงใจดำ ก็หิ้วกันซะงั้น(ทั้งที่มันเป็นเรื่องจริงแท้ๆ) มันเสรีภาพทางความคิดตรงไหน ผมไม่เข้าใจ ผิดถูกสมาชิกจะเป็นผู้ตัดสินหาข้อมูลมาหักล้างกันมิไช่หรือ!!(โดนหิ้วไปหลายความเห็นแล้วนะ)
ผมขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ได้กลับไปถกกันเรื่องเรือดำน้ำอีก เพราะนี่มันเรื่องรถถัง เพียงเทียบเคียงในเรื่องการซื้ออาวุธว่า บางทีคนที่จะใช้ไม่ได้อยากได้แบบนี้หรอก แต่ที่อยากได้นั้นมันซื้อไม่ได้ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ผมเห็นบทความเรื่องการสร้างคนในกองทัพ ในหนังสือนาวิกศาสตร์เล่มใหม่นี้เอง เขียนโดยนายทหารเรือผู้ใหญ่ที่เกษียณไปแล้ว เคยเป็น ผชท.ทร.ในเยอรมัน ตอนท้ายเขียนไปถึงเรื่องเรือดำน้ำจากประสบการณ์ที่พบเห็นเอง ผมชอบตอนท้ายเลยตัดมาให้อ่านที่ว่า ทร.จะซื้อ 206 แต่ไม่ได้ ท่านกลัวว่าสักวันจะมีงป.โยนมาให้แบบตั้งตัวไม่ติดแต่ขอให้ซื้อแบบที่บอกนะ รถถังก็คงไม่ต่างกัน คนพิจารณาอาจจะเห็นว่าแบบนี้ดีกว่า คุ้มค่ากว่า แต่ข้างบนจะเอาอีกแบบ ก็ว่ากันไป (บทความย่อจะขึ้นหรือเปล่าไม่รู้ ดูลิงก์ก็ได้)
บทความไม่ขึ้น แต่ไม่เป็นไร มีเกี่ยวข้องอยู่แค่ย่อหน้าท้ายๆของบทความ เรื่อง "สร้างคน"ก่อนจบเท่านั้นครับ
เออแล้วเถียงกันไปก็ไม่ค่อยได้ประโยชน์นัก ผมทราบแต่ว่านอกจากเกราะจะร้าวแล้วกล้องเล็ง กล้องวัดระยะของสติงเรย์นับร้อยคัน เมื่อ10 กว่าปีที่แล้วเสียทั้งหมด เวลานี้พูดได้เพราะเห็นว่าซ่อม ปรับปรุงกันแล้ว คงไม่เสียหายอะไรที่จะบอกตอนนี้ แต่ตอนนั้นทำอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้แฮะ
ไม่รู้ตัวอีกหรือครับคุณ yukikaze ที่ผมลบ ความเห็นไปเพราะอะไร เรื่องความคิดเห็นนะมันไม่ใช่ประเด็นที่ถูกลบหรอกครับ แต่คุณลองกลับไปดู ภาษาที่คุณพิมพ์ออกมา
ว่ามันเพี้ยนหรือเปล่าครับ ผมลองลบซึ่งจะเป็นการเตือนคุณอ้อมมา 2-3ความเห็นแล้ว แต่ดูเหมือนคุณไม่รู้ตัว จะว่าพิมพ์ผิดก็ไม่ใช่ แต่ดูแล้วเป็นการตั้งใจพิมพ์ ซึ่งที่ผ่านมามีสมาชิกหลายท่านได้ บอกกล่าวแล้ว แต่ดูเหมือนคุณจะไม่รับทราบครับ /ADMIN
ขอโทษนะครับ ไม่รู้ว่าท่านครองสมนะเพศอยู่นะครับ แต่ก็ขอแย้งนิดหนึ่งนะครับ คือ เว็บข้อมูลมันมาตรฐานแล้วแน่เหรอครับ(คือเว็บฝากขายของมันไม่ค่อยน่าเชื่อถืออะครับ) เว็บฝากขายของก็ให้ข้อมูลได้ครับ แต่มันมีโอกาสผิดพลาดเยอะอะครับ ผมเคยเห็นแผ่นซีดีเปล่าราคา 9999999 usd มาบ่อยๆไปแล้วอะครับ เว็บของบริษัทผู้ผลิตเหล็กเกราะหรือเหล็กเกรดพิเศษมีออกหลายแห่งอะครับ น่าจะให้ข้อมูลที่เที่ยงตรงกว่านี้ไม่ใช้เหรอครับ หรือเป็นข้อมูลจากเว็บตัวเจ้าของรถเลยอย่าง Ukrspecexport ไม่ดีกว่าเหรอ หรือเว็บของบริษัทผลิตอาวุธหลักๆอะครับ(คือถ้าเกิดผมคิดว่าผู้ผลิตเค้าใช้เหล็กเกราะเกรดนี้จากเว็บฝากขายเดียวกัน http://www.alibaba.com/product-gs/538618498/Armor_Ballistic_Steel_Plate.html ซึ้ง ก.ก.หนึ่งราคา 0.5-5 usd หรือ 16-160 บ. ที่หนาได้ถึง 6 ซม. จะเห็นได้ว่าข้อมูลของท่านและของผม มันเป็นข้อมูลที่ไม่มีความเที่ยวตรงอะครับ จริงๆน่าจะต้องดูมาตรฐาน ดูเกรดของเหล็กด้วย) คือจริงๆถ้ารู้ราคาทั้ง cell แล้วรู้ราคา ไส้ ก็สามารถเปรียบเทียบได้ชัดเจนแล้วอะครับ ซึ่งมันออกแบบมาให้ถอดเปลี่ยน หรือมีสำลองใช้งานอยู่แล้ว เรื่องราคาก็น่าจะมีคนรู้ๆกันอยู่บ้าง ถ้าไส้มันเกิดถูกกว่าตัวกล่องจริงๆแล้ว ผมก็ยอมรับครับว่าผมคิดผิดครับในเรื่องนี้ อีกอัน คือ ตามที่ผมเข้าใจจากในภาพ หมายเลข 15 อะครับ(ไม่แน่ใจเท่าไรอะครับ ถูกผิดยังไงก็ช่วยแก้ไข อธิบายต่อด้วยนะครับ) ผมเรียกมันว่าชนวนอะครับ มันมีประโยชน์คือเมื่อกระสุนฮีดยิงโหละเหลวออกมาเป็นเส้นๆจนเหล็กเป็นรูมา ถึงไส้มันจะรอดไปโดนชนวนจุดก้ามปูอันอื่นๆให้ระเบิดออกแบบไล่ๆกัน ผลักดัน หรือตัด เส้นๆโลหะเหลวที่เกิดจากระเบิดประเภทฮีดออกหรือลดประสิทธิภาพลงครับ สุดท้ายก็ขอบคุณทุกคนที่มาแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ
กรรมแล้วรูปใหญ่อะ
สงสัยจะยาวๆ ไงก็รออ่านข้อมูลจากพวกท่านอยู่นะครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลชั้นเยี่ยมนะครับหลวงพี่ บวชก็นานพอดูแล้วนะครับ ใน TFC เรานี่ระดับเซียนเรื่องทางทหารนี่หลวงพี่เป็นหนึ่งในจอมยุทธของแท้มี่อยู่คู่เวปมานานมากตั้งแต่ wing21 ก่อนผมนานทีเดียวเลย สุดยอดเช่นเคยครับ ทำให้แตกฉานในเรื่องเกราะ ERA ขึ้นเยอะเลย ผมไม่ถนัดอาวุธของทัพบกเท่าไร
ท่าน Akula ท่าน กบ ใจเย็นๆครับ ผมเข้าใจดีเพราะโดนด้วยตนเองเลย ท่าน potmon ท่านเองพูดเองไม่ใช่หรือว่าเกลียดคำพูดผมที่ประชดแดกดันและไม่ให้เกียรติตัวท่าน แต่ท่านกลับมาบอกสมาชิกท่านอื่นว่าก็เป็นคนชอบพูดประชดแดกดันเป็นแบบนี้เองจะทำไมซะงั้น เวลาโดนผมส่าท่านโกรธ แต่ท่านกลับไม่นึกว่าตนเองด่าคนอื่นแล้วคนอื่นจะไม่โกรธหรือ ผมว่าไอ้ที่กะโหลกกะลาน่ะ ท่านเองซะมากกว่านะ
ผมสงสัยในตัวท่านนะ ข้อความของท่านบ่งบอกว่าท่านยังเป็นวัยรุ่น และเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนนี่เพิ่งเกิดเรื่องมาประมาณ 6 ปี แต่ท่านกลับบอกว่าท่านไปเรียนที่ 4 จังหวัดมานานแล้วสมัยวัยรุ่น ดูท่าทางท่านจะชื่นชอบมาเลย์พอดูนะ คงจะไม่ชอบผมทีเดียว เพราะผมเขียนคอมเม้นท์โจมตีมาเลย์ตรงๆ
แค่ท่าน YAKIKAZE นี่ก็ชวนเวียนหัวแล้ว ยังต้องท่านอีกคนหรือ
ถ้าจะด่าคนแก่กะโหลกกะลา ระหว่างผมกับทั่น คงเป็นทั่นละครับ เพราะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผมเด็กกว่าทั่นแน่นอน หุๆ (ตกใจละสิ)
ก็ไม่มีอะไรมากครับ แหย่เล่น เห็นเวลาโพสต์กระแทกแดกดันมาก ถึงมากที่สุด คุณอาจบอกเป็นภาษาธรรมดาทั่วไปของคุณ แต่คนส่วนใหญ่คงไม่ชอบหรอกครับเวลาโดน ถึงจะเกี่ยวพันกับหัวข้อกระทู้ก็เถอะ ไม่ได้มีขันติหนักแน่นเช่นท่าน icy_cmu กันทุกคน
ถ้าทั่นโกรธจากการโนผมกระแนะกระแหน ก็เห็นใจคนอื่นบ้าง เวลาโดนทั่น
ถ้าทั่นมีความสุขจากการโดนกระแนะกระแหน ผมก็ยินดีครับ
(แต่ดูแล้วทั่นคงมาประเภทว่าสงสารผม อเนถอนาถ ห่วงลูกหลานผมแทน ก็ใช่ว่าทั่นมีจิตใจกว้างขวางฝ่ายเดียว คนอื่นก็เผื่อแผ่ลูกหลานทั่นเหมือนกัน ผมว่ามีหลายคนที่อ่านแล้วฮาล่ะ เวลาคุณเขียนประเภทว่า อายลูกหลาน ห่วงลูกหลานจะโตไปเหมือนคนนู้นคนนี้ เหมือนประชดตัวเองมากกว่า)
สุดท้าย กระทู้นี้ผมจบดราม่านี้นะครับ ทั่นตอบมาผมไม่ตอบกลับแล้ว เดี๋ยวนอกเรื่องยาว แหะๆ
ขออธิบายหลักการทำงานของระเบิดพลาสติกให้ฟังก่อนเพื่อที่จะได้เข้าใจถึงหลักการทำงานของERA
ระเบิดพลาสติกจเป็นระเบิดที่เสถียร และไม่ระเบิดง่ายๆเมื่อโดนไฟ ความร้อน ไมโครเวฟ หรือกระสุนปืนเล็ก
การจุดระเบิดของระเบิดพลาสติกจะต้องใช้การระเบิดขั้นต้น(primary explosive)ก่อน ไม่ว่าจะเป็น บลาสต์แคป หรือ เดทคอร์ด ระเบิดพวกนี้จะทำให้เกิดแรงดันหรือความร้อนมหาศาลเพื่อไปจุดระเบิดพลาสติก
ทีนี้ERA ทำจากระเบิดพลาสติก จะต้องอาศัยความร้อนหรือแรงกดดันมหาศาลเพื่อจุดระเบิด ความร้อนและแรงดันมหาศาลนั้น ก็มาจาก หัวรบShaped Charge ของกระสุนHEAT ที่ใช้หลักการของMunroe Effect ในการส่งทองแดงความร้อนสูงและความเร็วสูงเพื่อเจาเกราะ
ทองแดงของกระสุนHEAT อาจเร็วได้ถึง 5กม./วินาที และร้อนถึงหลายพันองศา สามารถให้แรงดันถึง 1เทร่าปาสคาล หรือ 1ล้านล้านปาสคาล (145ล้านปอนด์/ตารางนิ้ว) http://en.wikipedia.org/wiki/Shaped_charge#Liner จึงทำให้สามารถจุดระเบิดพลาสติกในERAได้โดยไม่ต้องใช้ชนวนใดๆ
และในกรณีของAPFSDS ก็คล้ายๆกัน ด้วยความเร็วต้นที่สูงถึง 1.6กม./วินาที http://en.wikipedia.org/wiki/M829#M829A2 สามารถให้พลังได้หลายล้านจูลส์ ซึ่งสร้างแรงดันได้หลายร้อยล้านปาสคาล (จากการคำนวณโดยใช้หลักเทอร์โมไดนามิกส์คร่าวๆ) การจุดระเบิดERAจึงไม่ใช่เรื่องยาก
ลักษณะการระเบิดแบบต่อเนื่องของERAแบบNozh บนออปลอตนั้น เกิดจากการจุดชนวนโดยช็อคเวฟ ของกระสุนHEAT หรือAPFSDS ซึ่งสะท้อนกันในกล่องบรรจุ ไม่ใช่ใช้การระเบิดจากชนวนหน่วงเวลาแต่อย่างใด (ช็อคเวฟ หรือ คลื่นเสียง สามารถก่อให้เกิดแรงดันได้ จากการที่โมเลกุลอากาศภายในเกิดการอัดเนื่องจากคลื่นเสียง/คลื่นแรงระเบิด )
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องเกราะ หากจะนับวัสดุที่ทำเกราะ ไม่ว่าจะลามิเนต(เกราะซ้อน1-3ชั้น) คอมโพสิต(มีวัสดุผสม พร้อมกับวางหลายชั้น) เกราะช่องว่าง(Spaced Armor) เกราะแสตนด์ออฟ (กรงนก/ตาข่าย/โซ่/แผ่นเหล็ก ที่วางห่างจากเกราะหลัก) เกราะเหล็กกล้าแบบRHA เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังว่า ต่างกันอย่างไร หลักการทำงานอย่างไร ขอตัวไปทำธุระก่อน เย็นๆจะมาเล่าให้ฟัง
กระทู้นี้ได้ความรู้ดีจัง มาขอรับความรู้ด้วยอีกคนครับ
ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว หลวงพี่มาตอบกระทู้นี้บวกกับข้อมูลเยอะ เลยขอถามในกระทู้นี้หละกัน
เกราะ Reflecting Plates ของ T-72 มันทำงานยังไงครับ หรือมันเป็นโมดูลเกราะคอมโพสิด ที่เอาไว้ใส่ใน T-72 เพื่อง่ายในการผลิต
ไม่ใช่เด็กแน่ครับ ดูจากความรู้และข้อมูลแล้วไม่ธรรมดาครับ
รออ่านข้อมูลหลวงพี่ครับ กระผมความรู้น้อย :)
จากกระทู้ธรรมดากลายเป็นกระทู้ที่ฮ็อตจนไปลุกเลย 55+
ได้ความรู้มากเลยครับโดยเฉพาะเรื่องเกราะ ERA ผมไม่มีความรู้เลยแม้แต่น้อยรออ่านเก็บเกี่ยวความรู้อย่างเดียว
ขอถามบ้างครับ เกราะแบบ ช็อฟแฮม ของ M-1 มีวัสดุใดบ้างครับเป็นส่วนประกอบแล้วเกราะชนิดนี้ถ้าถูกยิงด้วยกระสุนเจาะเกราะแบบพลังงานจล ที่ระยะ1000เมตรจะเป็นอย่างไร เพราะที่เห็นตามยูทูปจะเป็นโดนพวก RPG
เรื่องการใช้ภาษาเขียนบางครั้งการใช้คำพูดมาเขียนเป็นภาษาเขียนทำให้การสื่อความหมายมันไม่เป็นตามจุดประสงค์อาจทำให้เกิดการเข้าใจที่ผิดเพี้ยนไปได้ ผมเชื่อในเรื่องการให้เกียรติกันเพราะเราอยู่ในสังคมที่เราไม่รู้ว่าคนที่ใช้นามปากกาต่างๆในนี้เป็นใคร มาจากไหน ตำแหน่งหน้าที่อะไร วัยวุฒิเท่าได คุณวุฒิเท่าได เราไม่รู้ เพราะฉะนั้นการให้เกียรติกันคือส่งที่ต้องทำ การพูดด้วยเหตุผลสู้กันด้วยข้อมูลเป็นเรื่องที่ดี.....แต่สุดท้ายการให้เกียติกันคือสิ่งที่ควรทำ.....
........................ไม่มีคนโง่หรือคนฉลาดมีเพียงคนที่รู้ก่อนกับคนที่รู้ทีหลังเท่านั้น............................................
............ตอบคำถามคุณ markura .......
รูปไม่ขึ้น .............
ตอบคุณAlpha ........หากรู้ว่าชอบแฮมมีอะไรบ้าง คงโดนCIAหิ้วไปแล้ว 5555
บ้างก็ว่า เป็นการซ้อนกันของ DU+RHA/High hardness Steel+Ceramics (Alumina /Boron Cabide) +Polymer +ช่องว่าง +แผ่นKevlar สำหรับกันการกระเทาะของเปลือก (Sprall Liner)
หากโดนยิงที่1000เมตร ด้านหน้า น่าจะเข้าแต่ไม่ทะลุ (มีเหตุการณ์ยิงพวกเดียวกันเองตอนDesert Storm 50เมตร ก็ไม่ทะลุ )
ขออธิบายหน้าที่ของเจ้าคอมโบที่ว่าอีกทีแล้วกัน
จริงๆแล้วด้านบนนี้พิมพ์ตกไปนิด เซรามิคนั้นผลิตให้โค้งงอได้ไม่มากนักในแผ่นขนาดใหญ่ๆ แต่หากขนาดเล็กๆ เช่น เสื้อเกราะกันกระสุน หรือ แผ่นเซรามิคเสริมของM1Tusk ซึ่งเป็นแผ่นขนาดเล็ก นั้นสามารถทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของเซรามิคอีกด้วย (อย่านับเครื่องปั้นดินเผาเป็นเซรามิคแบบสำหรับใช้งานทางทหาร หรืออวกาศล่ะ)
ขอบคุณครับท่าน ไอซ์ซี่ ซีเอ็มยู เดี๋ยวผมจะตามไปอ่านกระทู้ข้างบน
........ไม่มีคนโง่หรือคนฉลาดมีเพียงคนที่รู้ก่อนกับคนที่รู้ทีหลังเท่านั้น......
เออ...อันนี้มันคุ้นๆ นะท่าน ALPHA001 555
ขอใช้สิทธิพาดพิง ชี้แจงนิดหนึ่งนะครับ จริงๆก็กะจะไม่ตอบโต้อะไรแล้วคุยกับท่าน icy_CMU ต่อไปเลื่อยๆอะครับ แต่เหมือน ถ้าผมไม่ทำอะไร คนไม่รู้จักคิดในบอร์ดนี้จะมีเพิ่มขึ้นครับ แล้วมันจะมีค่านิยมแปลกๆตามมาอีก คือผมจะเริ่มด้วยข้อความนี้ครับ "" นานๆทีจะได้เห็นคนแก่กะโหลกกะลาในเว็บ บอร์ดนี้ ซักครั้งอะครับ(ผมเขียนว่าใครก็รู้ๆกันนะ) ทั้งที่เห็นชอบเขียนกันบ่อยๆว่าอย่าแสดงความเห็นอะไรในบอร์ดที่ไม่เกี่ยวกับ การทหารและเทคโนโลยีแท้ๆ แต่ก็กลับมาทำซะเอง ทำให้ผมได้รู้เลยว่าอายุมันไม่ได้เกี่ยวกับ สติ ปัญญา ความเป็นสุภาพชน หรือวุฒิภาวะทางอารมณ์ เลยซักนิดครับ สไตท์การเขียนของผมก็ประชดประชันแดกดันตามที่เห็นๆกันนั้นแหละ แต่ก็อยู่ในสิ่งที่เกี่ยวเนื่องจากหัวข้อกระทู้ครับ ไม่เคยใช้อารมณ์เขียนล่อเลียนใครนอกเรื่อง หรือมุ่งโจมตีตัวบุคคล จะขัดแย้งกันก็เฉพาะในส่วน เนื้อหา หลักคิด กระทู้นั้นๆเท่านั้นเอง จบกระทู้นั้นๆก็เป็นอันจบครับ ไม่มีคิดแค้นเคืองโกธรใครครับ เพราะขัดแย้งกันในหลักคิดของเรื่องนั้นๆเท่านั้นเอง เจอกันกระทู้ใหม่ก็คุยกันปกติครับเพราะมันเป็นคนละหัวข้อกันแล้ว(คนในบอร์ด นี้ส่วนใหญ่เค้าก็คิดกันแบบนี้แหละครับ แต่วันนี้โชคดีเจอของหายากเข้า มาในรูปแบบกะทับถมเต็มทีเลย เด็กไทยอนาถใจคนแก่กลุ่มนี้มากๆครับ เด็กๆแบบผมเลยมาเล่าให้คนปกติฟันว่าอย่าไปทำตัวแบบนี้ในตอนแก่ๆนะ ลูกหลานเค้าอายแทน) ผมเองก็ไม่รู้จะเขียนไปทำไม ไม้แก่ๆคงดัดไม่ได้แล้วอะนะ อีกอันคือผมไม่ได้เฝ้าจอทั้งวันนะครับ จะทับถมกันก็รอดูจังหวะนิดหนึ่งครับ รอผมมาตอบก่อนก็ได้ "" อาจดูแรงไปบ้างแต่มันคือเรื่องจริงครับ(วันนี้ผมก็โชคดีอีกแล้วฮาๆๆๆ)
ถึง neosiamese2 นะครับ
ก็ไม่อยากจะว่าท่านหลอกนะครับว่าแค่อ่านจับใจความ ไม่กี่หัวข้อนี้ก็ยังทำไม่ได้ ผมไม่เคยมีประเด็นใดขัดแย้งกับ ท่าน กบ นะครับ(ท่านเป็นไอดอลของผมเลย ผมชอบท่านพูดตรงดีอะครับ) จริงๆ ที่ผมขัดแย้งเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็มีกับ Akula toeytei สองท่านนี้ครับ ผมอยากให้ท่านลองไปอ่านดูดีๆใหม่นะครับ ใจเย็นๆค่อยๆอ่านมาตั้งแต่ต้น ผมไม่หนีไปไหนหลอกครับ จะมาว่ากล่าวอะไรผมไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น(ท่าน neosiamese2 เล่นไปพาดพิง ท่านอื่นๆแบบไม่ยั่งคิด แบบไม่มีเหตุผล ท่านอื่นๆเค้าอาจต้องมาเดือดร้อนเพราะท่านนะครับนะครับ) อีกอันคือ ผมไม่ใช่พวกมาโซนะครับ โดนประชดประชันแดกดันก็ต้องขัดใจแน่นอนอยู่แล้ว ต่างกันที่ว่า ขัดใจแบบยอมรับได้ กับ ขัดใจแบบยอดรับไม่ได้ ถ้าขัดใจในตัว เนื้อหาข้อมูล หลักคิด ถาษาที่ใช้ในการเขียน หรือความเป็นไปได้ต่างๆ ในสาระของหัวข้อนั้นๆ อันนี้ผมยอมรับได้ครับ(อย่าง จะว่ากล่าว ประชดประชัน ผมว่าหลักคิดของผมมันไม่มีเหตุผล หรือเป็นอุดมคติเกินไปไม่สามารถเกิดได้จริง พร้อมเหตุผลประกอบ แบบนี้ ผมยอมรับได้ครับ หรือ ว่ากล่าว ประชดประชัน ผมว่าใช้อารมณ์รุนแรงในการเขียน มุ่งโจมตีตัวบุคคลโดนไม่เกี่ยวข้องกับสาระในหัวข้อ แบบนี้ ผมยอมรับได้ครับ และแบบที่ผมยอมรับไม่ได้เลยก็ ประเภทที่ ท่าน Akula toeytei neosiamese2 กำลังทำกันอยู่ตอนนี้ในกระทู้นี้อะครับ นอกจากจะไม่มีสาระใดๆร่วมในการสนทนาแล้ว ยังเอาอคติของตัวเองที่มีต่อผม ในหัวข้ออื่นๆ มาแสดงอารมณ์เขียน ต่อว่า ใส่สี เสียดสี ประชดประชัน ลงในกระทู้นี้อีก แบบนี้ ผมยอมรับไม่ได้อะครับ(เลยต้องมาชี้แจ้งอยู่นี้อะ) ตัวอย่างนะครับ "ผมจะไม่เขียนว่า ท่าน neosiamese2 ว่าเป็นคนอ่านหนังสือจับสาระอะไรไม่ค่อยจะได้อะ(แถมตอบกลับมาแบบไมู่รู้เรื่องอีก) ทั้งที่เป็นมานาน และหลายครั้งแหละ จะไม่ซ้ำเติมว่าข้อความที่ท่านเขียนส่วนใหญ่ก็หาสาระให้จับต้องไม่ค่อยจะได้(คิดว่ามีคนว่าไปหลายๆคนแหละ) แถมชอบคิดเองเออเองแบบไร้สาระ(นอกจากจะฝันว่าผมชอบมาเลย์แล้ว ยังฝันว่าผมไปเกลียดท่านอีก ดีนะไม่ฝันว่าผมเป็นโจรใต้ไปซะเลย) แถมมีนิสัยเมื่อมีใคร มีความคิดขัดแย้งเมื่อไม่มีเหตุผลมาหักล้างได้ ก็กลับมาประชดประชัดเสียดสีอีก ทั้งหมดนี้ตัวอย่างนะครับไม่ใช่ เรื่องจริงๆๆๆ แต่ถ้าผมเขียนย้อนๆซ้ำๆแบบนี้ทุกๆกระทู้ที่เจอท่าน(แบบนี้เกรียนครับ จะทำให้กระทู้อื่นๆเค้าเดือดร้อนอะจริงไหมครับ) ท่านคิดว่าคนที่ทำในลักษณะนี้ สมเหตุสมผลแล้วหรือครับ)อีกอัน จริงๆไม่อยากจะเขียนถึงตัวตนซักเท่าไรนะครับ แต่สงสารท่าน neosiamese2 กลัวจะไปคิดอะไรแปลกๆอีก เลยเล่าซักนิดแล้วกัน ผมเกิดในจังหวัดทางภาคเหนือครับ ผมตอนนี้อายุ 25 ครับ เรียนจบมา 2-3 ปีแหละ เรียนที่ มหาวิทยาลัยใหญ่ ใน จ.สงขลา อ.หาดใหญ่ ส่วนท่านจะมองผมในลักษณะใดนั้นก็สุดแล้วแต่ทัศนะของท่านครับ แต่ถ้าผมจะไม่ชอบใจในพฤติกรรมของท่านก็ตรงที่ ผมได้เขียนอธิบายไปข้างบน ไม่ใช่ที่ท่าน "คอมเม้นท์โจมตีมาเลย์ตรงๆ" ครับ ขอโทษที่ทำให้ต้องผิดหวัง นะครับ
ถึง toeytei นะครับ
สำหรับท่านผมขอชี้แจ้งนิดเดียวครับ ปกติผมไม่ อวดอ้าง หรือแสดงตนแบบยกตนข่มท่าน หรือโอ้อวดตัว โดยใช้ คุณวุฒิ หรือวัยวุฒิ ประกอบความคิดเห็นอยู่แล้วอะครับ ผมหรือท่านจะอายุมากน้อยยังไงนั้นไม่สำคัญครับ ในบอร์ดนี้เราว่ากันด้วยการเปรียบเทียบเหตุผลและข้อมูลกันครับจริงไหมครับ ส่วนที่ผมเรียกตัวเองว่าวัยรุ่น ก็เพราะมีหลายๆท่าน ยกตำแหน่งนี้ให้กับผม ผมเลยจำต้องรับมา(เรียกผมว่า หนูบ้าง เด็กบ้าง เหมือนลูกๆท่านบ้าง เด็กเกรียนบ้างๆ ทำให้ผมคิดไปว่าท่านๆคงสูงอายุกันแล้วอะครับ) ท่านเหล่านี้ที่คิดว่า การโอ้อวดวัยวุฒิของตนเองเพื่อดูถูกผู้อื่น หรือมันเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างบารมีให้กับตัวท่านหรือข้อความของพวกท่าน ผมว่า่พวกท่านคิดผิดกันแล้วนะครับ ส่วนเรื่องท่าน toeytei จะฮาไม่ฮาผมก็ไม่รู้หลอก แต่ผมไม่ดราม่าอยู่แล้วอะครับ เจอกันกระทู้ใหม่ เรื่องใหม่ก็ว่ากันใหม่อะจริงไหม
ถึง คุณ Maxna นะครับ
จำได้ๆ ครับ รู้สึกจะถกเถียงกันเรื่อง ที่คุณคิดว่า เมกากำลังกลายเป็นประเทศด้อยพัฒนา อะไรประมาณนี้แหละ ก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว เมกาก็ยังปกติดีอยู่อะครับ ใครสนใจก็ย้อนกับไปอ่านได้นะครับ ดูว่าเป็นจริงอย่างที่ ท่าน Maxna ว่าไว้หรือเปล่า
http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=15481&topic=%C0%D2%BE%E0%C3%D7%CD%BA%C3%C3%B7%D8%A1%E0%A4%C3%D7%E8%CD%A7%BA%D4%B9%A8%D5%B9%E3%B9%B7%D0%E0%C5%A8%D2%A1%B4%D2%C7%E0%B7%D5%C2%C1%E0%CD%A1%AA%B9
ผมก็งงๆนะครับ ที่คุณเบื่อที่จะถกเถียงกันด้วยเหตุผลของแต่ละคนกับผม แต่กลับเอ็นจอย กับการร่วมวงเสียดสีคนอื่นๆแบบนี้ ถ้าท่านมีรสนิยมแบบนี้ผมคงห้ามไม่ได้อะครับ
ยังไม่รู้ตัวอีกหรือท่าน potmon ท่านเป็นประเภทเถียงไม่ยอมแพ้และไม่ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นนะครับ คำพูดที่สาดแบบรุนแรงแบบข้าใหญ่ไม่เกรงใจใคร ข้ารู้ข้าเก่ง ข้าถูกตลอด
ผมเป็นคนใจร้อนนะขอบอกไว้ก่อน แรงมาแรงตอบ เถียงมาเถียงกลับ ดีด้วยดีตอบ สุภาพกับผม ผมสุภาพตอบ แรงกับผม ผมก็ไม่ยั้งเช่นกัน ท่านใช้คำพูดแรงแบบไม่เกรงใจใครผมย่อมแรงตอบ จะนักเลงกับผมผมก็นักเลงตอบ นี่คือผม คุณจะพอใจหรือไม่เรื่องของคุณ ผมไม่ใช่แค่บ้าเรียนบ้าหาเงินเลี้ยงลูกนะ เรื่องการใช้กำลังถูกบิดาผมฝึกกล้ำมาตั้งแต่เล็ก
ผมจำได้นะครับคุณpotmonคราวที่แล้วผมเตือนท่านเรื่องการประชดประชันแบบดีๆท่านกลับตอบกลับมาแบบก้าวร้าวแถมเหน็บถึงระดับสติปัญญาของผมอีก ผมจำนะครับแต่ผมไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ท่านบอกไม่ชอบให้ใครมาเสียดสีตัวท่านแต่สิ่งทีท่านพิมพ์ออกมาจากสันดานท่านเพื่อกระทบกระแทกแดกดันผู้อื่นมันไม่ผิดเลยใช่ไหม ในเมื่อท่านไม่เกรงใจสมาชิกท่านอื่นแล้วจะหวังให้ใครมาเกรงใจท่านได้อย่างไร
ถึง ท่าน icy_CMU นะครับ
ผมยังสงสัยต่ออยู่อีกสองประเด็นอะครับ คือ ประเด็นแรก "การระเบิดแบบต่อเนื่องของERAแบบNozh บนออปลอตนั้น เกิดจากการจุดชนวนโดยช็อคเวฟของกระสุนHEAT หรือAPFSDS ซึ่งสะท้อนกันในกล่องบรรจุ" ตามที่ผมเข้าใจนะครับ กระสุนพลังงานจลน์เมื่อกระทบกับก้ามปูมันจะระเบิดออกเฉพาะก้ามปูที่อยู่ใน แนววิถีของกระสุนอะครับ คือ มันจะไม่ลามไปอันอื่นๆที่ไม่ได้กระทบกับตัวกระสุนโดยตรงอะครับ ถ้ากระสุนพลังงานจลน์ทำให้เกิดช็อคเวฟแบบเดียวกับกระสุนฮีท ก้ามปูทั้งหมดก็น่าจะระเบิดออกสิครับ ผมเลยคิดว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวอะ อีกประเด็นหนึ่ง คือ ตรงหมายเลข เบอร์ 15 อะครับ ถ้ามันไม่ใช้ชนวนแล้วมันเป็นอุปกรณ์อะไรหรือครับ เพราะดูจากโครงสร้างการออกแบบแล้วจะเห็นได้ว่า มันต่อเชื่อมหรือสัมผัสโดยตรงกับตัวระเบิดพลาสติก rdx โดยต้องบากเปลือกหุ้มทรงก้ามปูบริเวณตรงกลางอะครับ ผมเดาว่ามันเป็นชนวนที่ใช้ในการจุดระเบิดแบบต่อเนื่องครับ มันจะทำงานต่อเมื่อเกิดปฎิกิริยาเคมีกับไอโลหะ หรือโลหะเหลวที่เกิดจากกระสุนระเบิดฮีท(เป็นของไหลทั้งคู่อะครับสามารถไหลไป สัมผัสกับชนวนได้ และตัวชนวนคงทำปฎิกิริยากับพวกทองแดงหรือสารที่เกิดจากระเบิดฮีดเท่านั้น ครับ จริงๆมันมีในส่วนของเกราะด้วย) ส่วนกระสุนพลังงานจลน์ไม่มีไอโลหะ หรือโลหะเหลว ที่เกิดจากตัวกระสุนครับ แต่จะมีในส่วนของไอโลหะ หรือโลหะเหลว ที่เกิดจากตัวเกราะ ซึ่งผู้ออกแบบไม่ได้ทำชนวนให้ทำปฎิกิริยากับ ไอโลหะ หรือโลหะเหลว ที่เกิดจากตัวเกราะอะครับ ผมวิเคราะห์ได้ประมาณนี้อะครับ จริงๆผมไม่มีข้อมูลอยู่ในมือนะครับ ฟังๆจากคนในบ้านมาก็ไม่รู้ว่าเท็จจริงแค่ไหนครับ
ถึง neosiamese2 Akula นะครับ
ใจเย็นๆก่อนนะครับ เพราะตอนนี้ผมกลัวไปหมดแล้วเนี้ยฮาๆๆๆ ผมอยากบอกว่า นิสัยนักเลงมันไม่ดีต่อสุขภาพหลอกนะครับ ผมเตือนในหลายๆเรื่องก็เพราะหวังดีนะครับ จะว่ากล่าวตักเตือนอะไรผม ก็ใช้หลักเหตุหลักผล ผมก็รับฟังอยู่แล้วอะครับ(เชื่อไม่เชื่อก็อีกเรื่องหนึ่งนะ) แต่หรือมาแนวใช้อารมณ์แบบนี้ก็โดนผมสวนกลับไปทุกดอกตลอดนั้นแหละครับ จะเสียผู้ใหญ่ซะเปล่าๆนะครับ
มันน่าจะมีโหวตให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าสมาชิกคิดว่าใครเป็นคนเกรียนในบอร์ด
อ่า หลังจากแปลคำว่า дополнительный инициирующий ตามคำอธิบายในภาพแล้ว ...........มันคือระเบิดขั้นต้น .....หรือพูดอีกอย่างคือชนวนแบบสาย(เดทคอร์ด) ต้องขออภัยที่เข้าใจผิด แต่การทำงานของERA นั้น ไม่ได้ทำปฏิกิริยากับโลหะเหลวเท่านั้น กระสุนพลังงานจลน์สร้างแรงช็อค/แรงดันมากพอที่จะทำให้ระเบิดพลาสติกทำงานเช่นกัน ชนวนที่ว่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่จุดระเบิดERAในขั้นตอนแรก แต่ทำหน้าที่ส่งแรงระเบิดไประเบิดระเบิดพลาสติกแท่งต่อไป
เปิดลานพะบู๊กันตรงนี้เลยดีไหมเนี่ย
เอาเป็นว่าอย่างนี้ละกันนะครับ
ผมก็ไม่เคยว่าว่าคุณ potmon เกรียนหรือเด็กหรืออะไรอันนั้นเคลียร์กัน
ประเด็นที่ผมคิดว่าสำคัญคือคุณบอกว่าโอเคกับการโดนกระแนะกระแหน แดกดัน หากเป็นเรื่องการถกกันในประเด็น(อาวุธฯลฯ)
แต่ที่อยากให้เข้าใจก็คือท่านๆอื่นๆส่วนมากแม้เป็นเรื่องในประเด็นก็ไม่ชอบให้ถากถางอยู่ดีครับ คือเห็นแย้งก็แย้งดีๆไม่ต้องแดกดันกัน
หากคุณบอกว่าไม่แคร์เพราะทีคุณยังรับได้มันก็เท่ากับว่าเป็นคนไม่สนใจว่าคนอื่นส่วนมากจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งผมว่าถ้าเป็นสิ่งที่เราโอเค แต่คนอื่นไม่โอเค เราก็ไม่ควรทำอยู่ดีครับ เป็นมารยาทของสังคงในการอยู่ร่วมกัน
ประเด็นที่สอง การที่คุณเถียงกับคนที่รู้ในด้านนั้นๆโดยที่คุณก็ยอมรับว่าไม่รู้แต่จะเถียง (ถึงกระทู้นี้คุณจะโดนโจมตีว่าเกรียนก่อน แต่นั่นมันประเด็นหนึ่งอยู่ย่อหน้าบน ผมแยกกัน) อย่างกระทู้ที่คุณลิงค์มาที่ดวลกับคุณ maxna นั้น คุณก็เขียนอยู่หลัดๆว่าประเภทว่าผมก็ไม่รู้หรอกนะ คุณก็คงเชียวชาญจริง ผมไม่ได้เรียนด้านนี้เหมือนคุณ เแต่คุณก็เถียงประเภทว่าผมจะเรียกว่าอย่างนี้ ใครจะทำไมผม คือคุณรู้สึกว่าอเมริกามันพัฒนาแล้วมันจะตกต่ำลงกลับมาได้ยังไง(วะ) คุณก็เหมาเอาว่าเป็นไปไม่ได้ แทนที่จะถามว่าทำไมถึงจะเป็นไปได้มีอะไรมาสนับสนุนเหตนั้น (ในเมื่อเขาเรียนมาด้านนี้การคิดเช่นนั้นย่อมมีเหตุผลอยู่ ไม่ได้คิดขึ้นมาลอยๆ) ไม่รู้ไม่เคยได้ยินไม่ได้แปลว่าไม่มีอยู่จริงหรือเป็นไปไม่ได้
หรือตอนเถียงกับหมวด fw109 ผมอ่านดูก็รู้ว่าคุณไม่เข้าใจในเรื่องหลักนิยมหรือยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ทางทหาร ถ้าคนที่เคยเรียนหรืออ่านเรื่องพวกนี้จะเข้าใจ (ตอนผมเรียนร.ด.ก็มีให้อ่าน ทั้งการเข้าตีระดับกองพัน การใช้ปืนใหญ่สนับสนุน คือการรบไม่ใช่ว่าเอ้าบุกๆมั่วๆ มันมีหลักการ หลักนิยม มีเป้าหมายของปฏิบัติการ ทำเพื่ออะไร แล้วต้องใช้วิธีไหน ใช้อะไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย มีความเป็นไปได้อะไรบ้าง เป็นระดับตั้งแต่ระดับใหญ่ๆครอบคลุมความมั่นคงทั้งประเทศ นโยบายทางงการทหาร กับละเอียดยิบย่อย ว่าทหารเดินเท้าแต่ละนายควรปฏิบัติอย่างไรในสถานการณ์นั้นๆ) ก็เลยไม่เข้าใจประเด็นที่ผู้หมวดพูด คุณก็เข้าใจไปอีกแง่มุมนึง แต่ก็เถียง ซึ่งถ้าทำความเข้าใจหรือถามก็จะเข้าใจ
ดีที่ผู้หมวดไม่ได้ติดใจอะไรคุณ แค่ประมาณว่า มั่วนี่หว่า เถียงไม่มัน เลยไปเถียงกับท่านกบแทน
อีกอย่างเวลาตอบก็ลดขนาดฟอนต์ก็ดีนะครับ นี่ผมไม่ได้จะแดกดัน แต่ว่าฟอนต์ที่คุณชอบใช้มันใหญ่อ่านยากแล้วตาลาย (ไม่แน่ใจว่าคุณสายตาสั้นเวลาอ่านฟอนต์เล็กๆลำบากหรือเปล่านะครับ) ส่วนมากสมาชิกก็ใช้ฟอนต์ตัวเล้กกว่าคุณหมดแหละนะครับ
(เฮ้อ เห็นหลวงพี่โพสต์มาแล้วเกรงใจ จากกระทู้สติงเรย์กลายเป็นกระทู้เกราะรถถังสลับกับดราม่าเป็นระยะๆ)
แรงดันที่ต้องใช้ในการระเบิดC4 (ระเบิดที่มีส่วนผสมRDXอย่างหนึ่ง) https://e-reports-ext.llnl.gov/pdf/337476.pdf
นั่นคือ4.2GPa จากการคำนวณแรงดันของกระสุนAPFSDSที่มีความเร็ว 1550m/s น้ำหนัก7กก. ลงไปบนพื้นที่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 70มม. (คิดเป็นพื้นที่= 3484 ตารางมิลลิเมตร) แล้วหยุดนิ่ง (เพื่อจะได้คิดง่ายๆ) แรงดันที่กระทำต่อพื้นผิวERA =321TPa (เทราปาสคาล) จริงๆแล้วจะน้อยกว่านี้เพราะกระสุนไม่ได้หยุดนิ่งทันที ซึ่งความเร่งจะน้อยกว่านี้และยังรวมถึงการเสียงพลังงานไปเป็นพลังงานความร้อน และแรงต้านของวัสดุก็ไม่ได้นำมาคำนวณ อีกทั้งพื้นที่ที่เจาะนั้นจริงๆแล้วเล็กกว่านี้มาก แต่เพื่อการคิดง่ายๆ (เพราะไม่เก่งฟิสิกส์)จึงไม่นำมาคิด (ชุ่ยไหมล่ะ )เพราะฉะนั้นแรงดันเพียวๆก็จุดระเบิดพลาสติกได้โดยไม่ต้องอาศัยความร้อนหรือชนวนเพียงอย่างเดียว เพียงแต่ชนวนในNozhนั้นมีหน้าที่ทำให้ระเบิดตามช่วงเวลาเท่านั้น(อาจจะหลักไมโครวินาที หรือมิลลิวินาที -ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆแล้ว มันก้แทบจะเรียกว่าระเบิดพร้อมกัน ) ส่วนราคานั้น โดยส่วนตัวยังยืนยันว่าด้านในของERAนั้น ถูกกว่ากล่องที่ติดอยู่ด้านนอกเกราะแน่นอน วัสดุที่ใช้ทำกล่องนั้น เพื่อให้ไม่สามารถจุดได้ด้วย กระสุนขนาด30มม. จะต้องมีความหนา และเป็นเหล็กเกราะเท่านั้น(หากทำมาจากเหล็ก แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าภายนอกอาจจะทำด้วยHigh Hardness Alloy จำพวกไททาเนียม หรือHigh Hardness steel ที่มีความแข็งสูงๆ หรือแม้กระทั่งเซรามิก เพื่อทำให้หัวกระสุนAPFSDS ทู่ลงก่อนที่จะชนERAจริงๆซึ่งจะลดอำนาจในการเจาะเกราะลงไปก่อนที่Nozhจะตัดมันเป็นชิ้นๆอีกที) ซึ่งเกราะเหล่านี้แพงกว่าระเบิดพลาสติกอย่างไม่ต้องสงสัย
กระทู้ฮ็อตคนก็ฮ็อต ^^ ใจร่มๆครับ
ตอบคุณmoonsoon ก็อบเขามาครับจาก TAF 55+
ขออนุญาติเจ้าของกระทู้เพื่อเป็นการลดกระแสขอยกคำพระมาเตือนสติครับ
เมื่ออดีตกาลมีเศรษฐีที่ไม่ค่อยเข้าใจในหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเมื่อพระองค์เดินไปเทศนาที่ก็คอยแต่จะนินทาว่าร้ายท่านเสมอ
อยู่มาวันหนึ่งเศรษฐีคนนั้นได้เจอกับพระพุทธเจ้าก็เลยท่านว่า พระองค์ทำไมเวลาเราว่าร้านนินทาท่าน ใยท่านไม่โกรธเราเลย
เมื่อพระองค์ฟังดังนั้นแล้วก็เลยตอบกลับไปว่า....เมื่อคนให้ของเราแต่เราไม่รับท่านว่าของสิ่งนั้นจะตกอยู่กับใคร....เมื่อเศรษฐีได้ฟัง
ดังนั้นแล้วก็ถึงกับพูดไม่ออก....
ใจเย็นๆคร๊าบบบบบบ อย่าใช้อารมคุยด้วยเหตุผลครับ เราไม่เห็นหน้าไม่เคยคุยกันจริงๆๆ ความหมายที่โพสมันเพี๊ยนไปได้
แต่คุณM107คุณตั้งกระทู้ได้ยอดจริงๆ เป็น talk of the town ไปแล้ว
แต่คิดในอีกแง่ กระเบนธง stringray อยู่ในความสนใจของสมาชิกมากครับ น่าปลื้มแทนกองทัพบก
ถึง toeytei นะครับ
อันแรกเลย คือ ผมใช้ firefox เล่นเว็บอะครับ(บางทีก็เขียนบนมือถืออะครับ) ตัวหนังสือที่ผมเห็นมันเล็กนิดเดียวเอง โดนคุณทักเลยไปลอง Explorer ดูแล้วใหญ่จริงๆด้วย เดียวจะแก้ไขให้นะครับ
อีกอันหนึ่งคือ สไตล์การเขียนของผม ก็จริงอะครับที่ผมเขียนสไตล์กวนเท้าจริงๆ(ดูจากการ กด Like ของคนในบอร์ด) คือ ไม่คิดจริงๆอะครับว่าจะจำกันฝังใจกันทุกคนเลย คือตั้งแต่ดูบอร์ดนี้มาไม่เห็นมีใครเคยขุดเอาเรื่องเก่าๆมา ติ หรือ ล่อเลียนกันเลยอะครับ(พึ่งเจอครั้งแรกนี้แหละครับ ผมคิดจริงๆนะครับว่า จบกระทู้ก็จบความขัดแย้งกันไปอะครับ) ถ้าเทียบกับ กีฬา เมื่อการแข่งขันจบ ทุกคนก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมอะ จริงไหมครับ(สำหรับผมมันแบบนี้อะครับ) เรื่องสไตล์การเขียนของผม ก็จะพยายามแก้ไขนะครับให้ดีขึ้นครับ และให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนะครับ
อีกอัน คือ เรื่อง คุณวุฒิ วัยวุฒิ ในบอร์ดนี้ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญเลยอะครับ(ในชีวิตประจำวันก็มากเกินพออยู่ แล้ว) คิดว่าไม่ใช่สาระในการถกเถียงกันเลยครับ(ยกเว้นระดับการใช้งานอุปกรณ์โดย ทัศนะของบุลคล) แล้วอีกอย่าง คือ ถ้าจะจำกัด การออกความเห็นหรือถกเถียงข้อมูลกันได้ เฉพาะผู้ที่เรียนมาเฉพาะด้าน หรือเฉพาะกลุ่มอาชีพ อย่างที่ท่านว่า ผมคงพูดคุยกันใครๆไม่ได้เลย นอกจากคนในที่ทำงานเท่านั้นอะ และข้อถกเถียงขอผมทุกๆข้อบอกไว้เลยตรงนี้นะครับว่าผมมีความรู้ครับ(ต้องขอบ คุณการศึกษาขั้นพื้นฐานของไทยครับ ส่วนจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับหัวข้อครับ) ไม่ใช่อย่างที่ท่านเข้าใจนะครับ ว่าผมไม่มีความรู้ ก็ยังเถียงๆไปเรื่อยเปื่อย ยกตัวอย่างซักอันหละกัน สมมุติ ผมจบวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์(เครื่องกลไฟฟ้า)มาครับ อยู่ๆผมเดินๆมา บอกว่าปลั๊กไฟนี้ไม่มีกระแสไฟครับ ให้ท่าน toeytei เอานิ้วไปแหย่ปลั๊กไฟได้เลยไม่ตายหลอก ท่านจะเชื่อผมไหมอะครับ(ผมเรียนไฟฟ้ามาตั้ง 5 ตัวนะครับ กว.ไฟฟ้า ก็มี ผมใช่ คุณวัฒิของผมอย่างเดียวเป็นเหตุผล ท่านเชื่อผมไหมอะครับ ถ้าท่านเชื่อเลย บอกได้เลยว่าตายแน่นอนครับ ผมชอบพูดเล่นอะ) แต่ในมุมกลับกัน ถ้าผมเป็นเด็กเกรียนธรรมดาๆ บอกว่า ปลั๊กไม่มีไฟ แล้วเอาไขควงวัดไฟ มัลติมิเตอร์ ตรวจกระแสให้ดู หรือ ยกสะพานไฟให้ดู(ใช้หลักเหตุผลว่างั้น) ท่านจะเชื่อแบบไหนมากกว่ากันครับ ระหว่าง คุณวัฒิ กับ เหตุผลข้อเท็จจริง สุดท้าย ผมเองก็ถือเป็นหน้าใหม่ของบอร์ดนี้อะครับ ไม่ได้รู้ภูมิหลังของแต่ละท่าน(และไม่คิดจะไปรู้ด้วยครับ) ฉนั้นจะเอา คุณวัฒิ วัยวุฒิ มาอ้างกับผมโดยปราศจากเหตุผลที่ยอมรับได้แล้ว ผมไม่มีทางจากเชื่อถืออะครับ ส่วนท่านจะมีทัศนะยังไงกับเรื่องนี้ก็สุดแล้วแต่อะครับ เรื่องนี้ผมไม่คิดจะแก้ไขนะครับ
ถึงท่าน icy_CMU นะครับ
ขอบคุณมากนะครับ ผมเองก็หายสงสัยไปหลายจุดเลยครับกับเรื่อง era เมื่อคุยกับท่านแล้วได้ความรู้ในอีกมุมหนึ่งมากเลยครับ ส่วนเรื่อง กล่องกับไส้ ของ era นั้นถ้าผมมีโอกาศหาข้อมูลมาได้ก็จะเอามาลงให้เปรียบเทียบกันนะครับ ท่าน icy_CMU ก็ช่วยหาด้วยนะครับ เด๋วผมก็จะตามไปดูกระทู้ของท่านต่ิอๆไปครับ
ตอบท่าน tongwarit โหวดให้ yamaha กับ x-1 ครับ ฮ่าๆๆๆๆ
ผมโหวตให้ คุณ potmon ครับ ฮาๆๆๆขำๆนะ
สุดท้าย ก็อยากขอบคุณหลายๆคนที่เขียนตักเตือนดีๆนะครับ และหลายๆคนที่เขียนประมาณให้กำลังใจผม(ที่ไม่ได้ตอบไม่ใช่ไม่อ่านนะครับ ปกติผมถ้าอ่านอะไรแล้วคล่อยตามหรือไม่รู้สึกขัดแย้ง ก็จะไม่ตอบกลับอะครับคืออ่านอย่างเดียวอะครับ)
ขอโทษที่เปี่ยนประเด็นนะครับ คือ มี กระทู้นึงผมเคย "เถียงกับท่าน นีโอสยาม" คือเรืองเรือดำน้ำนิวเคีร์ย ประเด็นมันมีอยู่ว่า ผมเทียงไปว่า เครื่องกังหันก๊฿าส หรือว่า เทอโบไบท์ ที่คุณนีโอสยาม เคย "นิยามชื่อไว้(ซึ่งผม นิยามชื่อมันว่า เครื่องกังหันก๊าส)" บอกตรงๆนะ ผมเถียงไม่ สู้ ทำไมนัั้นเหรอ เพราะว่าผม ไม่มี ข้อมูลเพียงพอ (เพราะว่าทำไมรนั้นเหรอ เพราะว่าผม เข้าเรียนวิชา โรงต้นกำลังน้อยมาก555+ อันนี้ ขายตัวเองอย่าไป บอกต่อนะ) แต่ว่าผมก็ต้อง จำนน ต่อ ข้อมูลที่ท่าน นีโอสยามให้มา เพราะว่ามันเยอะกว่าที่ผมรูั้(แต่ผมก็ยังเชื่อว่า เครื่องกังหั่นก๊่ส สั่น น้อยกว่า)
ปล.
1.ผมใช้คำว่า "ทำไมนั้นเหรอ เยอะเกินไป" หลายท่านอาจจะรำคาญ ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ
2.คือผมเคยอ่าน คห. ท่าน Potmon หลานครั้งแล้ว(ซึ่งมันไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ)เถียงไปเรื่อยๆ เหมือน พยายาม พ่ายเรือให้ออกจากฝั่งโดยเร็ว แต่หลายๆท่านก็ยังพยายามดึงเรือนั้นให้กลับมาที่ ท่าเรือ เหมือนเดิม ยังไงก็ขอโทษท่าน Potmon ด้วยนะครับที่ผม "ใช้สิทธพาษพิง"(เคยอ่าน คห. ท่านมาหลายครั้งแล้ว ความรู้สึงของผมก็เหมือนอย่างที่ผมบอกไป ถึงท่านจะไม่ใช่คนที่ ลาก กระทู้ลง ทะเล แต่ท่านก็เป็นคนต่อยอด กระทู้. ออกมาไกล เหลือเกิน เกินที่กว่า จขกท. จะนำกลับเข้าฝั่งได้)
3. ขอบคุณ จขกท. มากนะครับ ผมก็อย่างถามเหมือนท่าน M107 แต่กลัวจะมีคนต่อยอด กท. ไปไกล เลยไม่กล้า ฮ่าๆๆ
4. ขอบคุน หลายๆท่าน ที่ให้ความรู้เยอะมาก(จนเกินขีดจำกัดของสมองอันน้อยนิดของผม) โดนเฉพาะ "หลวงพี่"
5.ท่าน นีโอสยามไม่ทราบว่าท่านมี e-mail หรือเปล่าวครับ ถ้าท่านมี ส่งมาที่ l-lotdog@hotmail.com คือผมอยากทำ กระทู้ คลองคอดกระ กับ ความมั่นคงของชาติ แล้วนะครับ อยากทราบว่าท่านไปถึงไหนแล้ว แต่ผมยังได้เท่าเดิม 555+ ช่วยมาแชร์ด้วยนะครับท่าน อยากทำให้ กระทู้ ปักมุด บนบอร์ด TFC 555+
(ขออภัยคนแก่กระโหลงกะลา"อย่างมาก"นะครับที่ใช้ ศัพย์วัยรุ่น)
ขอบคุณทุกท่านที่มาพูดคุย และแสดงความคิดเห็นต่างๆ ผมได้ความรู้จากข้อความของพวกท่านทุกคนเป็นอย่างมาก ขอบคุณมากๆครับ
ผมว่าเรื่อง ดราม่าให้จบแค่นี้เถอะครับ ที่จริงกระทู้นี้ดีมากนะครับ ในด้านความรู้อย่าให้อารมณ์ส่วนตัวมาทำลายมันเลยครับ