หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ตั้งเขตปกครองพิเศษในมินดาเนา ฟิลิปปินส์ กับ มุสลิม

โดยคุณ : tangdi7904 เมื่อวันที่ : 14/10/2012 00:19:12

สำนักข่าวมุสลิมไทย www.muslimthaipost.com ตั้งเขตปกครองพิเศษในมินดาเนา ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์กับกลุ่มมุสลิมโมโร สำนักข่าวอัล-จาซีร่า - รัฐบาลฟิลิปปินส์บรรลุข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มมุสลิมโมโร ซึ่งจะมีผลให้เกิดความสงบขึ้นในพื้นที่ทางตอนใต้บริเวณเกาะมินดาเนา หลังจาก 40 ปีของความขัดแย้งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 100,000 คน การประกาศข้อตกลงกับกลุ่มปลดปล่อยอิสลามโมโร (Moro Islamic Liberation Front - MILF) มีขึ้นโดยมีการกำหนดแผนในการสร้างเขตปกครองตนเองขึ้น ในพื้นที่ที่มีมุสลิมเป็นชนส่วนมากทางตอนใต้ของประเทศ ก่อนสิ้นสุดวาระการเป็นประธานาธิบดีของนายอาคิโน่ในปี 2559 การเจรจาระหว่าง 2 ฝ่ายเกิดขึ้นหลายครั้งโดยมีมาเลเซียเข้ามาเป็นตัวกลางในการประสาน คาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการในกรุงมะนิลา ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยจะมีการกำหนดประเด็นหลักๆ รวมทั้งขอบเขตอำนาจการปกครอง การเสียภาษี และกำหนดอาณาเขตพื้นที่ที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้เป็นเพียงขั้นตอนแรกของข้อตกลงสันติภาพบนโต๊ะ แต่ส่วนที่ยากที่สุดคือการนำข้อตกลงไปสู่การปฏิบัติจริงในพื้นที่ ที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนในท้องถิ่น ซึ่งต้องยอมรับว่า ในพื้นที่นั้นมีกองกำลังติดอาวุธอยู่หลายกลุ่ม ที่ไม่ต้องการจะแบ่งปันอำนาจการปกครองไปสู่กลุ่มอื่นๆ - www.muslimthaipost.com http://hot.muslimthaipost.com/content.php?page=sub&category=92&id=11731 มาเลเซีย....




ความคิดเห็นที่ 1


น่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะมันจะสะท้อนปัญหาที่เกิดกับ 3 จว.ชต. ของเราว่าจะเป็นไปในทิศทางใด

โดยคุณ Borderland เมื่อวันที่ 11/10/2012 15:48:38


ความคิดเห็นที่ 2


หลบไปฟื้นตัวหรือไม่ การที่ใช้อาวุธหรือกำลังทำร้ายและได้สิ่งที่เรียกร้องครั้งต่อไปก็ต้องเรียกร้องเพิ่มขึ้นแน่นอน ไม่รู้ว่าเขาปลดอาวุธหรือไม่ถ้าไม่อีกไม่นานคงกลับมาอีกแถมอาจใช้ ความรุนแรงมากขึ้นแน่นอน เพราะการให้สิทธิ์ปกครอง ครึ่งเดียวไม่ใช่สิ่งที่ต้องการมากที่สุด สิ่งที่ต้องการคือการแบ่งแยก โดยอาจใช้วิธีผสมระหว่างการการใช้กำลังข่มขุ่ กับการขอประชามติแบ่งแยกดินแดน  ถ้าแน่จริงพอได้สิทธิ์ปกครองตนเองระดับนี้แล้ว ต้องสละสิทธิ์การใช้ประชามติแยกตัวเป็นเอกราช ไม่งั้น ต่อไปเจอเรื่องนี้แน่นอน ดูง่ายๆขนาด กทม กับ รัฐบาลยังปวดหัวขนาดนี้ ถ้าพวกนี้ปกครองตนเองจะปวดหัวขนาดไหน

โดยคุณ nok43 เมื่อวันที่ 11/10/2012 17:48:18


ความคิดเห็นที่ 3


   เห็นด้วยกับท่าน nok43 เต็ม 100%   การยินยอมเพราะอีกฝ่ายสร้างความรุนแรงเพื่อการเรียกร้อง   มันจะไม่มีที่สิ้นสุด  เพราะจะเคยตัวและเมื่อต้องการสิ่งใดเพิ่มอีก   ก็จะใช้ความรุนแรงในการเรียกร้องอีก  และจะมีต่อไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุดครับ  

    อเมริืกาถึงไม่มีการยอมความตามข้อตกลงกับผู้ก่อการร้ายใดๆทั้งสิ้น   เช่นเดียวกันกับกรณีความรุนแรงในพื้นที่เขตเหล่านี้   ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะต้องตกลงยินยอมตามข้อเรียกร้องของขจก.แต่ประการใด  

   อย่าได้ถอดใจ   เราไม่ได้เป็นรองอะไร  เดินตามแผนงานไปทีละขั้น  เดี๋ยวความได้เปรียบก็จะเกิดขึ้น  และการจะทำให้มันยุติถาวรก็ไม่น่าจะยาก    อยู่กันอย่างสงบมาเป็นเวลาหลายสิบปี     มันมีตัวชนวนจุดและมีตัวเร่งมันถึงได้เป็นแบบนี้    จัดการมันที่ต้นตอทุกอย่างน่าจะจบครับ

     กรณีของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยยังสามารถยุติได้อย่างเด็ดขาดมาแล้ว   สถานะการณ์รุนแรงกว่ามากด้วยยังทำได้   ทฤษฎีโดมิโน่ที่ตะวันตกหวาดกลัว   เรายังหยุดยั้งมันได้แบบที่ฝรั่งยังไม่เชื่อ     คนไทยเก่งครับผมเชื่อแต่อย่าถอดใจยอมแพ้เด็ดขาด

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 11/10/2012 22:23:40


ความคิดเห็นที่ 4


เห็นด้วยกับท่าน borderlands ครับ....อีกอย่าง ท่าน neo พอจะบอกได้มั้ย ว่า กลุ่มใด ขอเขตปกครองพิเศษครับ ....เห็นภาพข่าวและพรรคพวกแถวนั้นเล่าให้ฟัง มักจะมีคำว่า PATANI MERDAKA พ่นตามที่เหตุเหตุบ่อยๆทั้งนั้น  ซึ่งดูแล้วไม่ใกล้เคียงกับเขตปครองพิเศษเลยครับ

โดยคุณ Johnny_Thunders เมื่อวันที่ 11/10/2012 23:25:58


ความคิดเห็นที่ 5


เรื่องภาคใต้บางทีผมก็คิดนะ ว่าบางทีเรากลัวว่าเดี๋ยวสถานะการณ์บานปลายใหญ่โตแล้วเราจะเสียดินแดน แต่หากมองจากอีกฝ่ายง ผมว่ายิ่งไร้ความหวังหนักเข้าไปใหญ่ จะได้ก่อตั้งประเทศกันเมื่อไร จินตนาการยังไม่ออกเลย

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 12/10/2012 10:34:11


ความคิดเห็นที่ 6


ผมเห็นว่าการเจรจาจัดตั้งเขตปกครองพิเศษสำหรับ 3 จังหวัดภาคใต้เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้อย่างยิ่ง เพราะ ฝ่ายก่อการได้กระทำโดยไร้ซึ่งอุดมการณ์  จิตวิญญาณทีบริสุทธิ์  หวังเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องเท่านั้น  ดังนั้นในทางปฏิบัติต้องดำเนินไปใน 2 ทาง คือ เปิดให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกให้กับผู้หลงผิดแล้วกลับใจ  ขณะที่ปฏิบัติการด้านมวลชนและด้านความมั่นคงยังต้องดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้ม  ผมเชื่อว่าไม่ช้าด้วยสถานการณ์ของโลก และความจริงใจต่อพี่น้องชาวใต้ของไทย เราจะสามารถหาวิธีการแก้ไขได้แน่นอนและเขาเหล่านั้นจะกลับตัวกลับใจมาร่วมพัฒนาชาติไทย ครับ

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 13/10/2012 18:18:29


ความคิดเห็นที่ 7


รู้สึกมาเลเซียจะออกหน้าออกตาเหลือเกินกับการก้าวก่ายเรื่องภายในประเทศอื่น นี่ก็เจรจากันที่มาเลเซียแถมมีการบอกเราพร้อมจะตั้งโต๊ะเจรจาให้ที่มาเลเซียกรณีสามจังหวัดชายแดนใต้ของไทยเหมือนที่ ฟิลิปปินส์ อยากให้ผีโจรจีนมาลายาตื่นขึ้นในมาเลเซียอีกครั้งจัง เคยฟังปู่ผมเหล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนในแถบสามจังหวัดชายแดนใต้ของเรามีกลุ่มโจรจีนมาลายาคลื่นไหวอยู่โดยมีฐานใหญ่ที่ยะลาโดยเข้าไปคลื่นไหวในประเทศมาเลเซียโจรกลุ่มนี้ไม่ถูกกับกลุ่มโจรใต้ในสามจังหวัดมักจะปะทะกันบ่อยโดยแย่งเขตกันบนเทือกเขาบูโด แต่อยู่ๆมา มาเลเซียร้องขอให้ประเทศไทยช่วยปราบปราม ประเทศเราก็ช่วยปราบปรามแลกกับมาเลเซียก็จะช่วยปราบปราม ขจก แต่สุดท้ายเป็นไงเราช่วยปราบให้เขาจนหมดแต่เขากลับเลี้ยง ขจกไว้มันน่าเจ็บใจ

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 13/10/2012 19:43:44


ความคิดเห็นที่ 8


   มาเลย์เขาเป็นคนตัวเล็กแต่อยากใหญ่ครับ   พยายามพองตัวเหมือนอึ่งอ่างแข่งกับวัว(พวกมหาอำนาจ)        ตั้งแต่ได้เป็นประธาน  OIC  ก็ดูเข้ามาทำตัวจุ้นจ้านกับเพื่อนบ้านในอาเซี่ยน  แม้แต่กับพม่าในเรื่อง โรฮิงญา  ก็ออกตัว   แต่ประเทศมาเลย์นี่ใกล้เข้าสู่ภาวะจุดสูงสุดของการพัฒนาแล้ว   อีกสิบกว่าปีก็สามารถเป็นประเทศพัฒนาแล้ว    แต่พลังทางอุตสาหกรรมยังต่างชั้นกับเราอีกเยอะ   เราเหนือกว่าทั้งสเกลการผลิตและการสร้างตลาด  และประเทศไทยเรายังมีช่องทางที่จะเติบโตได้อีกมาก   ที่ทั้งมาจากเส้นทางลอจิสติก  ทั้งทางบก ทางทะเล  ทางอากาศ   จุดกระจายสินค้า(ฐานการผลิต)   จำนวนประชากรที่มีอำนาจซื้อ    ต้นทุนการผลิต   และล่าสุดก็เรื่องบ่อน้ำมัน+ก๊าซ ไทยเขมร

   เฉพาะแค่คลองกระ  แค่ภาคใต้ภาคเดียวก็น่าจะเหนือกว่าทั้งสิงคโปร์และมาเลย์สบายๆครับ   ที่หลายคนเห็นมาเลย์ทำไมรวยจัง   ไม่ใช่รวยเพราะพลังทางอุตสาหกรรมเป็นหลัก   แต่มาจากน้ำมันที่เขาพบในเขต ซาราวัก (เกาะเบอร์เนียวเหนือ)  และมีน้ำมันดิบเหลือใช้วันละ 200,000 บาร์เรล    ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีกเกือบ 10 เท่าจากโรงกลั่นปิโตรนาสแล้วทำการส่งออก

  ลองไปคำนวณดูว่าปีหนึ่งเหลือใช้กี่สิบล้านบาร์เรล   และคูณ 9 เท่าซึ่งเป็นผลจากการแปรรูปอีกต่างหากครับ    ถ้าตัดเรื่องน้ำมันออกแล้ว    กระจอกกว่าเราแน่ (เราก็ต้องตัดเรื่องอุตสาหกรรมน้ำมันออกเพื่อทำการเปรียบเทียบด้วย)

  

    ท่าน johny ครับ   ผมไม่ทราบจริงๆว่ากลุ่มใด   รู้แค่จากการบอกกล่าวมาจากญาติว่า  เขาต้องการรัฐกันชนครับ 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 14/10/2012 00:19:12