โครงการปรับปรุงเรือฟริเกต ชั้น นเรศวร
ลองจัดทำ ตามข้อมูล ที่สืบหามา (ยังไง ไม่ขอบอก 5 5 5 5)
นำเอามาบวก กับ ข้อมูลเดิม ที่ ทร.เคยวางแผนปรับปรุงไว้ในยุค ใช้แบบของ Thale
บวก กับ ข้อมูลล่าสุด ที่ Thale มีการบรรยายเรื่อง ระบบ Sonar ให้กับ ทร. ฟัง
เลยลองมาจัด ผสม กัน...ได้ ค๊อทเทล มาแบบนี้ครับ...
โครงการปรับปรุงเรือชั้น นเรศวร ในความเห็นผมน่ะครับ...
ระบบที่เปลี่ยนแปลง
ระบบที่เปลี่ยนแปลง
ระบบที่เปลี่ยนแปลง
ระบบที่เพิ่มเติม
ระบบที่เพิ่มประสิทธิภาพ
การเปรียบเทียบ
ระบบ Data Link
แก้ไข เพิ่มเติม
ขอบตุณครับตุณJudas สำหรับข้อมูลและภาพบรรยาย ทำให้เข้าใจง่ายขึ้นมากเลยตรับ
ข้อ สมมติ นะครับ...ยังไม่ ยืนยัน ว่าใช่ ตามนี้ นะครับ...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกัน น๊า.....
ท่าน Juldas ครับ จะมีการ Overhaul + upgrade Common control System ( CCS ) ให้ปืน 5 นิ้ว ครับ อัพฯจาก mod2 ไปเทียบกับ mod 4 แต่คาดว่าจะไม่มีเปลี่ยนครอบปืนภายนอกครับ
ขอบคุณครับ ท่าน FatBoy...
การอัพเกรดจาก Mod 2 เป็น Mod 4 ก็เทียบเป็น ปืนเรือ หลัก มาตรฐานของ กองทัพเรือสหรัฐ
ทำแผนภาพสรุปการปรับปรุงได้เยี่ยมครับป๋าจูล เรือชั้นนี้น่าประทับใจขึ้นเป็นอย่างมากเลย ใกล้เคียงเรือชั้น Anzac ทีเดียว เสียดายต่อออกมาแค่ 2 ลำ ถ้าได้ 4 ลำหรือครึ่งหนึ่งของความต้องการเดิมก็น่าจะแจ๋วกว่านี้ทีเดียว
ถ้าทร.จะออกแบบเรือฟรีเกตด้วยตนเองจริงๆอีกครั้ง ผมว่าทร.น่าจะทำได้ดีกว่าเรือชั้นนี้มากครับ เพราะมีประสพการณ์ที่ดีและแย่กับเรือชั้นนี้มาครบแล้ว งานหน้าผมว่าคงเจ๋งแบบคราวที่ทร.เกาหลีใต้เอา KDX-1 ออกโชว์ครับ ให้กำลังใจทร.เต็มที่ครับ
test
สอบถามผู้รู้ครับ
1) จากรูปเรือชั้นนเรศวรรูปบนสุด.DS30M.กับปล่องเครื่องยนต์มี่ใว้ทำอะไรเหรอครับ..ปรับปรุงแล้วติดตั้ง ASROC และปรับปรุงติดตั้งโซนาลากท้ายได้หรือไม่ครับ
2) SAGEM DECOY ทำหน้าที่อะไรเหรอครับ..หรือว่าเป็นระบบป้องกันระยะประชิดเหมือนกันกับ RIM116RAM ครับ
3) ถ้าปรับปรุงตามข้อ1ได้.จะเรียกว่าเรือฟรีเกตปราบเรือดำน้ำหรือว่าเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศครับ หรือว่าไม่เรียกทั้งสองแบบ.แล้าเรือฟรีเกตปราบเรือดำน้ำและป้องกันภับทางอากาศต้องมีคุณสมบัติอย่างไรครับ
4) ถ้าปรับปรุงตามข้อที่1ได้..เรือที่จะต่อใหม่2ลำเราใช้แบบตามเรือชั้นนเรศวรแต่ขยายแบบให้ไหญ่ขึ้นเพื่อติดตั้งจรวจยิงแนวตั้งอาจจะ16หรือ32ท่อยิง..ระบบตรวจจับ..ระบบป้องกันระยะประชิด.อาจจะเป็น Golkeeper 2 แท่น ซ้าย,ขาว กับ RIM 116 RAM ตรงกลางบนโรงจอด ฮ แบบนี้พอจะเป็นไปได้มากน้อยอย่างไรครับ.ถุูกผิดอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
แก้ไขข้อที่1ครับ
ช่องว่างระหว่าง DS30M กับปล่องเครื่องยนต์หลังโรงเก็บฮ.ครับ
1) จากรูปเรือชั้นนเรศวรรูปบนสุด.DS30M.กับปล่องเครื่องยนต์มี่ใว้ทำอะไรเหรอครับ..ปรับปรุงแล้วติดตั้ง ASROC และปรับปรุงติดตั้งโซนาลากท้ายได้หรือไม่ครับ
ตอบ หลังปล่องไม่มีอะไรติดตั้งเพราะเป็นส่วนเครื่องยนต์กลไกต่างๆ(อันนี้ไม่แน่ใจต้องถามทหารเรือ) ติดASROC ไม่ได้แน่ๆ ส่วนโซน่าร์ลากท้าย มีโครงการณ์อยู่แล้ว
2) SAGEM DECOY ทำหน้าที่อะไรเหรอครับ..หรือว่าเป็นระบบป้องกันระยะประชิดเหมือนกันกับ RIM116RAM ครับ
ตอบ เป็นเป้าลวง หลอกอาวุธนำวิถีต่างๆ บ้างก็เป็นแฟลร์+ชาฟฟ์ เหมือนเครื่องบิน บางอันก็เป็นเป้าลวงที่ทำให้เหมือนมีเรืออีกลำ(ทางอิเล็กทรอนิคส) ไม่ใช่ระบบป้องกันระยะประชิด (Close in weapon system ) เพราะมันไม่ใช่อาวุธ แต่เป็นเป้าลวง
3) ถ้าปรับปรุงตามข้อ1ได้.จะเรียกว่าเรือฟรีเกตปราบเรือดำน้ำหรือว่าเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศครับ หรือว่าไม่เรียกทั้งสองแบบ.แล้าเรือฟรีเกตปราบเรือดำน้ำและป้องกันภับทางอากาศต้องมีคุณสมบัติอย่างไรครับ
ตอบ เรียกว่าเรือฟรีเกตอเนกประสงค์มากกว่า เพราะจับฉ่ายเหลือเกิน (แต่เป็นจับฉ่ายที่อร่อยที่สุดที่ทร.เคยมี ณ ตอนนี้) เพราะ หากเป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศ
จะต้องสามารถตรวจจับอากาศยานข้อศึกได้ไกล ต่อตีเป้าหมายได้หลายๆเป้าพร้อมกัน (อย่างรล.นเรศวร ทำได้อย่างเก่งก็2-4เป้า ขึ้นกับมุมของภัยคุกคาม) และสามารถให้การคุ้มกันกองเรือได้ (Area Defense)
หากเป็นเรือปราบเรือดำน้ำ ต้องมีโซนาร์หัวเรือชั้นเยี่ยม โซนาร์ลากท้าย/โซนาร์หลากความลึก (VDS-Variable Depth Sonar) พร้อมตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำระยะไกล /จรวดปราบเรือดำน้ำ (Mk.46 mod5 ของทร.นั้นมีระยะไกลสุดที่11กม. ถือว่าใกล้ ตอร์ปิโดระยะไกลเช่นMU-90 25กม. หรือASROC 22กม.ไม่นับระยะของตอร์ปิโด ) เป้าลวงตอร์ปิโด ตัวเรือที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อลดเสียง
แต่เรือสองพวกนี้ที่แท้ๆหายากแล้ว เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเรืออเนกประสงค์ (ยกเว้นเรือต่อต้านภัยทางอากาศ ที่ยังมีแบบแท้ๆอยู่)
4) ถ้าปรับปรุงตามข้อที่1ได้..เรือที่จะต่อใหม่2ลำเราใช้แบบตามเรือชั้นนเรศวรแต่ขยายแบบให้ไหญ่ขึ้นเพื่อติดตั้งจรวจยิงแนวตั้งอาจจะ16หรือ32ท่อยิง..ระบบตรวจจับ..ระบบป้องกันระยะประชิด.อาจจะเป็น Golkeeper 2 แท่น ซ้าย,ขาว กับ RIM 116 RAM ตรงกลางบนโรงจอด ฮ แบบนี้พอจะเป็นไปได้มากน้อยอย่างไรครับ.ถุูกผิดอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ
เรือใหม่ไม่มีใครรู้ .........แต่เท่าที่อ่านดู ระบบCIWS มากเกินไปจะทำให้เรือเสียเนื้อที่ไปกับมันมาก (ระบบGoalkeeper ถ้าจำไม่ผิด จะต้องเจาะตัวเรือเพื่อติดตั้งระบบโหลดกระสุน และระบบควบคุมอื่นๆ) โดยส่วนใหญ่เรือระดับเรือฟรีเกต-เรือพิฆาตจะติดระบบCIWSไม่เกิน2ระบบ และเรือนเรศวรนั้นเป็นแบบที่เก่าเกินไปแล้ว
ท่านจูลดาส โดยส่วนตัวยังคิดว่า 40/70 ทวิน DARDO ยังเป็นแคนดิเดทอยู่นะ ...........
หากเป็นDS-30 จริง ก็ขอให้ติดแท่นแบบSIGMA พร้อมมิสทรัล อันนี้พอไหว แต่หากDS-30Mล้วนๆ ไม่สนับสนุน เพราะทร.จะต้องแลกปราการด่านสุดท้าย (ของท่านชาย) ในรูปของCIWS ซึ่งเป้าลวงทดแทนไม่ได้ทั้งหมด ที่ทร.สิงคโปร์ตัดสินใจไม่ใช่CIWS คงเป็นเหตุที่ว่า ติดตั้งSAM ระยะไกลอย่าแอสเตอร์30มาด้วย หากเกิดเหตุการณ์แบบSaturation Attack ก็ยังมีเจ้า15 คอยกันอีกชั้น ในขณะที่รล.นเรศวร มีแค่ESSM หากหลุดESSMมา ก็ไม่มีอะไรป้องกันนอกจากเป้าลวง ปืน5นิ้ว และปืน30มม.ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อหน้าที่นี้
โดยส่วนตัว หากเป็น40 DARDO พร้อมป้อมปืน.50 รีโมท(แบบเดียวกับต.994 ) ก็น่าจะป้องกันภัยคุกคามได้ครบถ้วนกว่า DS-30M เปล่าๆ ที่แลกความสามารถCIWS เพื่อป้องกันเรือเล็ก (ยกเว้นเป็นแท่นแบบSIGMA)
อีกทั้ง ระบบGiraffe นั้น สามารถตรวจจับเป้าหมายเรือขนาดเล็กได้ไกลอยู่แล้ว คงไม่เกินความสามารถของDARDO ที่จะป้องกันได้แน่ๆ
ผมว่า โอกาสของ เรือ Formidable กับ เรือชั้น นเรศวร ใกล้เคียงกันครับ...
เพราะ Formidable ก็บรรทุก ASTER ไปได สูงสุด 32 ลูก เท่ากับ เรือชั้น นเรศวร ครับ...
และถ้า เรามองถึง โอกาส การใช้งาน ตลอดช่วงอายุใช้งานแล้ว...
CIWS ในตลอดอายุ 30 ปี ของการประจำการ อาจจะแทบไม่ได้ใช้งาน ยกเว้น การฝึกซ้อมยิง เท่านั้น...เช่น เรือชั้นพุทธฯ ในตลอดอายุใช้งาน จะไม่มีโอกาสได้ใช้...และเรือชั้นพุทธฯ ก็ไม่มีโอกาสได้ใช้งาน ปืนเรือเลย ในการรักษากฎหมายทางทะเล...เพราะมีแต่ปืนขนาด 127 ม.ม. เท่านั้น ที่เป็นปืนประจำเรือ...
ส่วน DS-30M จะเป็น ปืนรอง ที่จะมีโอกาสใช้งาน ทุกครั้ง ที่ปฏิบัติภาระกิจ รักษากฎหมายทางทะเล...หรือ ปราบโจรสลัด...
ผมก็มองว่า ถ้าเทียบกับโอกาส การใช้งาน CIWS มีประโยชน์ เพียง 1 ครั้ง เท่านั้น...คือ มี อาวุธนำวิถีโจมตีเรือ...
ซึ่งจะไม่แตกต่าง กับ Decoy ที่มีประสิทธิภาพดี ๆ...โอกาส การใช้งานจะมีเท่ากันกับ CIWS...
เรือหลายลำ ที่ติดตั้ง CIWS จึงจะนิยม ปรับปรุงให้ สามารถใช้งานทำลายภัยคุกคามผิวน้ำ ได้...
ซึ่ง LCS ของ สหรัฐ ที่ ติดตั้ง SEARAM ด้วยเหตุที่ว่า เรือชั้นนี้ ไม่มีการติดตั้ง VLS สำหรับ ESSM...จึงต้องทดแทนด้วย SEARAM...
ยกตัวอย่าง DDG-104 ของ สหรัฐ ครับ...
ภายหลังการติดตั้ง Nulka Decoy ก็มีการถอด CIWS ออก...โดยน่าจะมีการติดตั้ง VLS เพิ่มเติม...
และให้ MK-38 Mod 2 เป็น ปืนรอง ประจำเรือ ซึ่ง จะมีบทบาท มากขึ้น...
เรือชั้น FREMM ก็ดูเหมือน จะใช้ Decoy เป็นการป้องกันภัยจาก อาวุธนำวิถี และ ตอร์ปิโด...ไม่มีการติดตั้ง ระบบ CIWS
ขอตั้งคำถามว่า 40MM DARDO ทำหน้าที่ยิงผิวน้ำไม่ได้หรือ ?
DARDO มีขนาด40มม. ซึ่งใช้ในเรือตวจการณ์ใกล้ฝั่งหลายๆลำ มุมกด -13องศา ความเร็วหัน 70องศา/วินาที กระสุนHEระยะยิง12.5กม. ที่เป้าพื้นน้ำ อัตราการยิง 450นัด/นาที 2กระบอก 900นัด/นาที การป้อนกระสุนDUAL-Feed เลือกได้ระหว่าง PFHE / APFSDS http://www.navweaps.com/Weapons/WNIT_4cm-70_Breda.htm
ส่วนDS-30 อยู่ที่ -20องศา ความเร้วหัน 55องศา ระยะยิงไกลสุด 2000ม. อัตราการยิง250นัดต่อนาที Dual feed AP-I/HEI-T/SAPHEI-T/APFSDS-T
ข้อมูลปืนบุชมาสเตอร์ http://navweaps.com/Weapons/WNUS_30mm_BushmasterII.htm
แท่นปืน DS-30Mk2 http://navweaps.com/Weapons/WNBR_30-75_GCM.htm
ยังไม่เห็นข้อเสียเปรียบของDARDO กับ DS-30 เลย
อีกทั้งหากติดDARDO ยังไงก็ยังติดเป้าลวงได้อยู่ดี
และหากเป็นระบบกระสุน3P ปืนDARDO ยิงเหมาะกับเป้าหมายทางพื้นน้ำย่ิ่งขึ้น คลิปประกอบ ......ระบบกระสุนแบบนี้ใช้บนปืน57มม. MK110ของกองเรือยามฝั่งสหรัฐ และเรือ LCS ที่ใช้สำหรับต่อสู้ในเขตน่าน้ำชายฝั่งซึ่งเต็มไปด้วยเรือผู้ก่อการร้าย ........ และใช้คู่กับ 30มม.Bushmaster สำหรับระยะประชิด
และโดยส่วนตัวคิดว่า ใช้DARDO คู่กับ.50 ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ขอบคุณ คุณ icy_CMU มากครับสำหรับคำตอบครับ
น่าจะเป็นเรื่อ Fire Control ด้วยครับ...
DARDO ใช้ Fire Control อะไรจับเป้า...
และ FCS ของ DARDO สามารถจับเป้าผิวน้ำ เรือขนาดเล็ก ที่วิ่งเข้าในระยะใกล้ ตัวเรือได้หรือเปล่า...
ในระยะยิง ของ เรือเร็ว จะอยู่ห่างจากตัวเรือ ในระยะ 2-5 ก.ม.
ซึ่ง ในระยะไกล ปืน 127 ม.ม. และ FCS จะมีความสามารถทำลายเป้าพื้นน้ำ ได้อยู่แล้วครับ...
ซึ่งในแง่ การปราบปรามโจรสลัด ที่มีการภัยคุกคาม ของ อาร์ พี จี...ถ้ายิง เพื่อยับยั้ง หรือ ทำลาย...การใช้งานของ DS-30M จะได้ใช้งาน...แต่ DARDO จะไม่ได้ใช้งาน...ต้องใช้ 12.5 ม.ม. แทน...ซึ่งเป็นภัยคุกคามในระยะใกล้...ซึ่ง Phalanx ก็เจอปัญหาในส่วนนี้ เหมือนกันครับ คือ ไม่สามารถจับเป้าผิวน้ำในระยะยิงได้ (ก็คงไม่เกิน 2.5 ก.ม.)...ถึงต้อง ติดตั้งกล้องเพิ่มเติม ให้จับเป้าในผิวน้ำได้...
ส่วนรูป USS Sterett DDG-104 ที่ท่านโพสนั้น
ที่ยังไม่ได้ติดCIWS นั้นเป็นรูปของปี2008 ก่อนวันขึ้นประจำการ
ส่วนรูปปี2010 มีการติดPhalanx 1แท่น ที่ท้ายเรือ
เครดิตและรูปอืนๆ http://www.navsource.org/archives/05/01104.htm
ก็เปรียบ เหมือนกับว่า...การติดตั้ง DS-30M บนเรือ ฟริเกต คือ สามารถ ทำหน้าที่ ปืนเรือ ได้ในระยะปฏิบัติภาระกิจไกลฝั่ง...ได้เหมือนกับ DS-30M ที่ติดตั้งบน ต.991 น่ะครับ...
ปืนเรือ DS-30 ที่ติดตั้งบน ต.991 ทำหน้าที่ อย่างไร...
ปืนเรือ DS-30 ที่ติดตั้ง บน เรือชั้น นเรศวร ก็ทำหน้าที่ แบบนั้น ครับ...แต่ เรือชั้น นเรศวร สามารถไปใช้ได้ ในระยะไกลฝั่ง หรือ เช่น ในภาระกิจปราบปรามโจรสลัด...
FCS ของDARDO นั้น จากลำล่าสุดที่เห็นคือ BNS Bangabandhu ใช้Mirador http://www.globalsecurity.org/military/world/bangladesh/bns-bangabandhu.htm
เพราะฉะนั้น EOS-500 ไม่มีปัญหาแน่สำหรับเป้าผิวน้ำขนาดเล็ก
อ่อ...ใช่ครับ...ตามที่ icy_CMU ว่าไว้ครับ...ดูรูปสลับปี กันซะงั้น...ขอโทษครับ...ข้อมูล ผิดพลาด...
เรือติดตั้งจรวดเต็มพิกัดไปไล่ล่าเรือโจรสลัด มันเกินไปหน่อยไหม ?
ปล่อยหน้าที่นี้ให้กับOPV ดีกว่า สำหรับในน่านน้ำบ้านเรา OPV และเรือตรวจการณ์ต่างๆน่าจำหน้าที่นี้ได้ดีกว่า เรือชั้น1 แบบเรือนเรศวรนั้น ไม่ควรจะทำหน้าที่ไล่ล่าปราบปรามสิ่งผิดกฏหมายแล้ว
แต่หากในกรณีของเรือผู้ก่อการร้าย การยิงเตือนด้วย40มม. ก็สามารถทำได้ ยังไม่เห็นเหตุผลใดที่มีอะไรที่ปืน30ได้แล้วปืน40ทำไม่ได้ ? ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ด้วยว่า กฏการปะทะของทร.กำหนดเขตห้ามเรือเข้าใกล้ในระยะเท่าไหร่กันแน่ในน่านน้ำอันตราย/ไม่เป็นมิตร
โดยส่วนตัวยังเชื่อว่าทร.จะเลือDARDO มากกว่าDS-30M สำหรับเรือชั้นนี้
Dardo ใช้ Lirod นะครับ... Mirador น่าจะใช้กับปืนเรือ หน้า...
เป็นลักษณะเรือ หลากภาระกิจ ครับ...เหมือนกับ อินเดีย หรือ รัสเซีย ที่ส่งเรือรบผิวน้ำ ไปทำหน้าที่ครับ...
ก็คงต้องอยู่ที่ ทร. จะเลือก Decoy แบบชั้นหนึ่ง หรือเปล่า...หรือ เป็น Decoy แบบ พื้นฐาน...ครับ...ถ้า ทร. เลือก Decoy แบบพื้นฐาน...การมี CIWS ก็ยังจำเป็น...DARDO ก็น่าจะเป็นตัวเลือก...เพราะสเปค ของเรือ อยู่แล้ว...
แต่ถ้า ทร. เลือก Decoy Sagem ที่มีประสิทธิภาพ แบบเดียวกับ Formidable เป็นขั้นต่ำ...การเลือก DS-30 ก็เหมือนการเลือก ติดปืนรอง มากกว่า การติด CIWS เหมือนกับ ทร.สหรัฐ ครับ..
อ้า ข้อมูลพลาด ...
หากเป็นLIRODในการคุม40มม.
ก็เท่ากับว่า เหนือกว่า EOS-500 ที่มีแต่EO
เพราะLIRODเองก็ได้เรดาร์มาเสริม
แต่จากข่าวที่ได้ค้นเจอมาจากที่ต่างๆ ทร.ได้ซื้อแค่CEROS กับ 9LV ส่วนEOS นั้น ข้อมูลไม่ตรงกันว่าสั่งมาหรือเปล่า
เพราะฉะนั้น ยังมีความเป็นไปได้ ที่จะเอาCEROS มาคุมปืนรอง หรือ อาจจะจัดหาพร้อมปืนรอง
โดยส่วนตัวคิดว่า ทร.น่าจัดหาระบบEO หรือ optronics มาเพิ่มสำหรับปืนรองแน่ๆ
ไม่ว่าจะเป็นDS-30 หรือ DARDO
แต่ทั้งหลายทั้งปวง ยังแอบเชียร์เจ้าSIGMA อยู่ ส่วนDARDOนั้นถ้าได้มาก็ไม่น่าเกลียด (เพราะSAAB กับBOFORS สนิทสนมกันอยู่แล้ว จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก) อีกทั้งยังไม่น่าจะต้องปรับศูนย์ถ่วงเท่าSIGMA (มั๊ง)
แต่หากDS-30 มาเดี่ยวไม่เห็นด้วย แม้จะมีเป้าลวงดีๆก็ตาม
อย่าลืมว่าเป้าลวงก็ทำพลาดได้ และCIWS ก็ทำพลาดได้
หากมี2อย่างย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
หากจะให้เดาว่าที่เป้าลวง ของเดาว่าไม่NULKA ก็ Terma C-Guard ส่วนRheilmental MASS และ SAGEM นั่น น่าจะยังไม่เกิด (ยกเว้นว่าทร.เคยติดใจDagaie ) แต่ตอนนี้TERMA ก็มาแรง
ตามภาพนี้ น่ะครับ...ที่ ผมลองไป สืบค้นมา...
EOS 500 จะอยู่ใน ระยะ 2/1
ส่วน ปืนรอง และ โซนาร์ จะอยู่ใน ระยะ 2/2
ในระยะที่ 1 นั้น CEROS 200 จะมาเพียง 1 ระบบ (ตำแหน่งเดิมของ STIR)
ส่วนที่ 1 ระบบ (ด้านท้ายเรือ) จะมาในระยะที่ 2/1 พร้อมกับ EOS 500
ส่วนระยะที่ 2/2 นั้น จะแค่ระบุว่า Secondary Gun ไม่ได้ระบุรุ่นปืนว่าเป็น รุ่นอะไร...
ผมจึง ให้ความเห็นว่า น่าจะเป็น DS-30M เพราะเป็น ปืนเรือ ที่มีข่าวกับ เรือชั้น นเรศวร ในช่วงปี 2552 ที่ ในขณะนั้น ทร. กำลังจะปรับปรุงเป็นระบบของ Thale
ซึงกระทู้เก่า เคยจัดทำไว้ แยกเป็น
ระยะ 1
ระยะ 2/1
ระยะ 2/2
แต่ภาพที่จัดทำ ข้างต้น...ไม่ยืนยัน ในต่ำแหน่งต่าง ๆ นะครับ...เป็นเพียงการ คาดการณ์ ในตำแหน่ง เท่านั้น ครับ...
ส่วนระบบต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไปจาก ข้อมูล ข้างต้น อย่างไร...ก็น่าจะเป็นเรื่อง งบประมาณ ที่ได้รับอนุมัติ ที่จะเป็นส่วนผันแปร ออกไป...
โดยเมื่อรวมงบประมาณ ทั้ง 2 ระยะ...มูลค่า โครงการรวม จะเป็นประมาณ 6,900 ล้านบาท (รวมงบประมาณ ESSM จำนวน 9 ลูก )