หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ใกล้บรรลุข้อตกลงกับเขมรในเรื่องการขุดเจาะน้ำมันในเขตทับซ้อนแล้ว

โดยคุณ : neosiamese2 เมื่อวันที่ : 21/10/2012 20:35:34

     วันนี้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 9 ตุลาคม 2555 (ฉบับวันพรุ่งนี้)    ในคอลัมน์ของนักเขียนนามปากกา   "ลมเปลี่ยนทิศ"      ท่านนักเขียนผู้นี้แจ้งข่าวว่าไทยกับเขมรใกล้ได้ข้อตกลงในเรื่องการขุดเจาะบ่อน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนแล้ว    โดยมีข้อตกลงแบบเดียวกับที่ตกลงกับมาเลย์ในพื้นที่ทับซ้อน    และที่สำคัญ 

     " เขมรเหมือนจะตกลงยอมรับในเรื่องให้ไทยมีอำนาจเหนือเกาะกูด"

ตอนแรกก็ร้องเฮ้ย......เขมรมันยอมง่ายๆขนาดนี้เลย     ในคอลัมน์นี้บอกว่าพื้นที่ทับซ้อนน่าจะมีน้ำมันสำรองประมาณ 2,000 ล้านบาร์เรล    ในขณะที่ผมทราบจากข่าวในตลาดหลักทรัพย์เมื่อหลายปีก่อนว่าประมาณ 2,500 ล้านบาร์เรล    (มาเลย์มีสำรองประมาณ 2300 ล้านบาร์เรล   ผลิตน้ำมันได้กว่า 850,000 บาร์เรลต่อวัน   ใช้ในประเทศราวๆ 600,000  บาร์เรลต่อวัน)   

    ประเทศเราใช้น้ำมันตกวันละเกือบ 1ล้านบาร์เรล์    ดังนั้นถ้าสามารถขุดได้น้ำมันจากบ่อนี้ 1 ล้านบาร์เรล/วัน    เราจะไม่ต้องนำเข้าน้ำมัน  5.4  ปี ถึง  6.8 ปี   ดูแล้วไม่เท่าไร

    แต่ก๊าซธรรมชาติ   คาดว่ามีสำรอง  12 -14 ล้านล้านลูกบาตรฟุต  แต่ประเทศเราจะเพิ่มปริมาณการใช้ภายใน 3-4 ปีข้างหน้าไม่น้อยกว่า 5 ล้านลูกบาศก์ฟุต  

    เออ....ตอนแรกยังงงๆอยู่ว่ามันใช้ได้กี่ปี   ลองคำนวณหยาบๆในใจ   เฮ้ยยย...7-8 พันปีเลย!   คำนวณผิดป่าวเนี่ยะ     กลับมาบ้านเอาดินสอปากกาและเครื่องคิดเลขมานั่งคำนวรซ้ำหลายๆรอบได้ว่า

    ที่  12 ล้านล้านลูกบาตรฟุต    เราใช้วันละ 5 ล้านลูกบาตรฟุต    ประเทศเราจะใช้ได้นานประมาณ    "  6,800 ปี"

   ที่ 14 ล้านล้านลูกบาตรฟุต   เราจะใช้ได้นานประมาณ  " 7,870 ปี"

 

   ผมสงสัยอยู่ว่า   ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติให้กลายเป็นน้ำมันเครื่องบิน  น้ำมันเบนซีน   น้ำมันดีเซล  ได้หรือไม่     และถ้ามีเทคโนโลยีนี้   จะต้องใช้ก๊าซธรรมชาติกี่ลูกบาตรฟุตเพื่อให้ได้น้ำมันที่กลั่นแล้ว 1 บาร์เรล  

 

    แต่ที่แน่ๆอยู่อย่าง    ประเทศเรากำลังจะกลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปแล้ว   โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ    น่าจะเป็นยักษ์ติดอันดับต้นๆของโลกเลย    55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

5555555555555555555555555555   ดีใจสุดขีดอ่ะ  

    มิน่า   เขมรมันยอมยกเกาะกูดให้เรามาเลย  .............   ถ้ารู้ราคาก๊าซต่อลูกบาศก์ฟุต   ก็สามารถคำนวณเงินที่ทั้งเราและเขมรได้ในแต่ละปี     และเมื่อทำการปรรูปก๊าซและน้ำมันดิบแล้ว   จะเพิ่มมูลค่าอีกเฉี่ยเกือบ 9 เท่าตัว





ความคิดเห็นที่ 1


    ขอแก้ไขคำผิด  จาก ลูกบาตรฟุต  เปลี่ยนเป็น  ลูกบาศก์ฟุต

ผมอยากรู้จริงๆว่ามีเทคโนโลยีหรือไม่ที่จะสามารถเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติให้กลายเป็น  น้ำมันเครื่องบิน  เบนซีน   ดีเซล     และถ้าทำได้จะต้องใช้ก๊าซกี่ลูกบาศก์ฟุตถึงจะได้น้ำมัน 1 บาร์เรล

   อยากรู้ว่าไอ้ 12-14 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตนี่  ถ้าเปลี่ยนเป็นน้ำมันแล้วได้กี่พันกี่หมื่นล้านบาร์เรลของน้ำมันดิบ    จะได้คำนวณถูกว่าเราไม่ต้องนำเข้าน้ำมันไปอีกกี่ปีครับ

   จุดเปลี่ยนในเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนใต้และเรื่องการจะสามารถตัดคลองกระได้หรือไม่ในอนาคตครับ   หุหุหุหุห....55555555.......

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 08/10/2012 21:55:10


ความคิดเห็นที่ 2


จริงหรอเนีย เราจะรวยแล้ว 55+ ไม่อยากจะเชื่อเลย แบบนี้ ต่างชาติ ไม่เข้ามาดูดของเราไปหมดหรือไงครับ

โดยคุณ cananac11 เมื่อวันที่ 08/10/2012 22:08:58


ความคิดเห็นที่ 3


ตามสนธิสัญยาสยาม-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ.1907 ระบุชัดเจนว่า ฝรั่งเศส คืนจังหวัดตราดให้ไทย รวมถึงเกาะกูด ด้วย น่าแปลว่าที่ผ่านมาเขมรอ้างสิทธิเหนือเกาะกูดของไทยอย่างหน้าตาเฉยนะครับ ขนาดสถานีตำรวจน้ำของเขมรที่เกาะกงยังมีแผนที่ ปิดที่ออฟฟิคโชว์หราเลยว่า เขตตรวจตราของเขารวมถึงเกาะกูดด้วย เพียงแต่เขาไม่กล้าแล่นเรือตรวจการณ์เข้ามาเท่านั้น เรื่องนี้พูดไปก็เท่านั้น มันเป็นมาตั่งแต่สมัยรัฐบาลนายพลลอนนอลเมื่อปี พ.ศ.2517 แล้ว พูดกันไม่รู้เรื่อง เขมรมันจะเอาของมันท่าเดียว ถือว่ามีลูกพี่มะกันหนุนหลัง ที่จริงเรื่องนี้ทางทร.เขาก็ทราบดี ตอนนี้มาทำเป็นฟอร์มว่ายอมรับอำนาจของไทยเหนือเกาะกูดเมื่อได้ผลประโยชน์ น่าเศร้าใจแทนประเทศชาติเราจริงๆ ของเราทั้งหมดแท้ๆ และไม่เหมือนกับกรณีไทย-มาเลย์ด้วยซ้ำ
โดยคุณ seaman เมื่อวันที่ 08/10/2012 22:58:56


ความคิดเห็นที่ 4


ลองดูนะครับ เป็นความรู้ที่คนไทยหลายๆคนไม่เคยรู้

โดยคุณ spooky เมื่อวันที่ 08/10/2012 23:02:06


ความคิดเห็นที่ 5


 

 

โฆษกกต. ยัน เกาะกูด ของไทย MOU ชัด (ไอเอ็นเอ็น) 5 ต.ค. 54

อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เผย กระแสข่าวไทยเสียอธิปไตย เกาะกูด ให้กัมพูชา ไม่เป็นความจริง ย้ำเอ็มโอยู 44 ชัดเจนว่าอยู่ภายใต้อธิปไตยไทย

นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ระบุถึงกรณีกระแสข่าวเรื่องการเสียเกาะกูดให้กับกัมพูชา โดยยืนยันว่า เกาะกูดอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทยตามสนธิสัญญาสยาม - ฝรั่งเศส ปี 1907 ซึ่งมีเนื้อหาว่า ฝรั่งเศส ยอมยก จ.ตราด และบรรดาเกาะตั้งแต่แหลมสิงห์ จนถึงเกาะกูดให้กับไทย แลกกับเสียมเรียบ พระตะบอง และ ศรีโสภณ ซึ่งในบันทึกข้อตกลง MOU 44 ได้แสดงไว้ชัดเจนแล้วว่า เกาะกูดอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย โดยกัมพูชา ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ

http://hilight.kapook.com/view/62465

นายประเสริฐ ศิริ อดีตกำนัน ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด กล่าวว่า การขีดเส้นแดนของกัมพูชาที่ปรากฏในแผนที่ของส่วนราชการกัมพูชา หรือใน จ.เกาะกง เป็นการขีดขึ้นเองแต่ฝ่ายเดียว เพราะหลักเขตที่ 73 ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านหาดเล็ก เป็นจุดเล็งของพื้นที่อาณาเขตของ 2 ประเทศ แต่การเล็งจะต้องมีหลักเขตที่ 72 เป็นหลักอ้างอิงด้วย แต่ปัจจุบันยังไม่รู้ว่าหลักเขตที่ 72 อยู่บริเวณไหน ตนเองยืนยันว่าเกาะกูดเป็นของไทย 100% ทุกวันนี้ อ.เกาะกูดมีชาวตราดอาศัยอยู่ ทำประโยชน์ในที่ดินอยู่มานาน และไม่เคยมีใครเห็นหลักเขตที่ 74 ในเกาะกูดด้วย

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศนำโดยรองปลัดกระทรวงต่างประเทศ และรองอธิบดีกรมสารสนเทศได้เดินทางเข้ามาพบกับสื่อมวลชนท้องถิ่นของ จ.ตราด และได้ตอบคำถามถึงเรื่องเขตแดนของกัมพูชาใน อ.เกาะกูด ว่าเป็นของประเทศใด ซึ่งรองปลัดกระทรวงต่างประเทศ ได้ให้เจ้าหน้าที่กองเขตแดนกรรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงต่างประเทศได้ส่งเอกสารให้กับ ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น

ในเอกสารระบุว่า “เกาะกูด และทรัพยากรในอ่าวไทย คือสมบัติของชาติไทยที่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนใน ข้อ 2 ของสนธิสัญญา ระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสิเดนต์แห่งริปับลิกฝรั่งเสศ 23 มีนาคม ร.ศ. 125 พ.ศ. 2449/50 (ค.ศ.1907) กล่าวคือ

รัฐบาลฝรั่งเสศยอมยกดินแดนเมืองด่านซ้ายแลเมืองตราษกับทั้งเกาะทั้งหลาย ซึ่งอยู่ภายใต้แหลมสิงลงไปจนถึงเกาะกูดนั้นให้แก่กรุงสยาม ตามกำหนดเขตร์แดนดังว่าไว้ในข้อ 2 ของสัญญาว่าด้วยปักปันเขตรแดนดังกล่าวมาแล้ว”

กัมพูชาจึงไม่มีสิทธิในพื้นที่เกาะกูด นอกจากนี้เมื่อฝรั่งเศสได้ทำสัญญาระบุว่า ดินแดนดังกล่าวเป็นของประเทศไทยแล้ว ข้อมูลดังกล่าวก็ได้ถูกนำมาประกาศในราชกิจจานุเบกษาของไทย เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ร.ศ. 125 (ค.ศ. 1907) โดยระบุข้อความว่า “รัฐบาลฝรั่งเศสยอมยกดินแดนเมืองด่านซ้ายและเมืองตราดกับทั้งเกาะทั้งหลาย ซึ่งอยู่ภายใต้แหลมสิงลงไปจนถึงเกาะกูดนั้นให้แก่กรุงสยาม” เช่นเดียวกับในสนธิสัญญาฯ ดังนั้น จึงมีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่า "เกาะกูด" เป็นสมบัติของไทยอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ กรมอุทกศาสตร์ได้สร้างกระโจมไฟบนเกาะกูด เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินเรือทางทะเลของคนไทย และกระโจมไฟดังกล่าวก็อยู่ในเขตพื้นที่ที่ทหารเรือไทยดูแล จึงเป็นสิ่งที่แสดงได้อย่างชัดเจนว่า ไทยได้ถือครองกรรมสิทธิ์ในแผ่นดินเกาะกูดตลอดมา และกัมพูชาก็ไม่เคยอ้างสิทธิใดๆ

 



http://www.manager.co.th/local/viewnews.aspx?NewsID=9540000111844&TabID=3&



อันนี้จากพันทิป คห. 14

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/09/E11026882/E11026882.html

เขมรใช้วิธีอ้างอิงจากจดชายแดนที่จังหวัดตราด แล้วลากเส้นออกไปในทะเล ซึ่งมันไปเฉือนเกาะกูดออกไป 1 ใน 3 เพราะเกาะกูดมีส่วนที่อยู่ใต้กว่าจุดชายแดนที่บ้านหาดเล็ก อันนี้ว่าตามข้ออ้างของเขมรนะครับ

โดยคุณ seaman เมื่อวันที่ 08/10/2012 23:27:06


ความคิดเห็นที่ 6


ขออภัย ระบุวันที่ข่าวผิด เป็น 5 ก.ย. 54 ครับ

โดยคุณ seaman เมื่อวันที่ 08/10/2012 23:31:32


ความคิดเห็นที่ 7


ทั้งที่น่าจะเป็นของเราทั้งหมดแท้ๆ เซ็งๆๆๆ ยอมชาวบ้านเค้าได้ตลอดเลย

โดยคุณ potmon เมื่อวันที่ 09/10/2012 01:06:30


ความคิดเห็นที่ 8


อธิปไตยเหนือเกาะกูดและทะเลชายเกาะต้องเป็นของไทย  ส่วนทะเลตรงกลางที่ซ้อนทับอยู่ระหว่างเส้นเขตแดน 2 ประเทศ คงต้องมาคุยกัน  สำหรับผมมีความเห็นว่า น่าจะหาร 2  คือทำเส้นใหม่ตรงกลางแน่นอนเราเสียดินแดน (ในความคิดของเรา)  เขมรก็เสียดินแดน(ในความคิดของเขา)  แต่เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ตลอดไปก็ต้องหาร 2 แบบ Win-Win  

ส่วนทรัพยากรก็คำนวนจากขนาดบ่อก๊าซว่าอยู่ในเขตของใครมากกว่ากัน เช่น ถ้าบ่อก๊าซอยู่ฝั่งไทยมากกว่า ไทยก็ต้องได้ประโยชน์มากกว่า

สุดท้ายทรัพยากรก๊าซและน้ำมันเป็นมรดกที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ลูกหลานเผ่าพันธุ์เดียวกันทั้ง 2 ประเทศได้ใช้ประโยชน์ ก็ควรรีบนำมาใช้ประโยชน์ให้เร็วที่สุดเพื่อการพัฒนาประเทศทั้ง 2  ขาดเหลือไปบ้างก็ยอมกันได้ก็ยอม เพราะถ้าต่างฝ่ายยังคิดว่าประเทศตัวเองต้องได้มากที่สุด  สุดท้ายก็จะเหมือนตาอินทะเลอะกับตานาแต่สุดท้ายอาจมีตาอยู่คว้าปลาเอาไปกิน จบกันเลยหิวทั้ง 2 คน

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 09/10/2012 06:10:18


ความคิดเห็นที่ 9


   ท่าน rayong  กล่าวได้ถูกต้องแล้วครับ   ตกลงออมชอมกันอย่างสบายใจแล้วแบ่งเค๊กผลประโยชน์กันเองดีกว่าได้ผลประโยชน์ win win ด้วยกันทั้งคู่   ทะเลาะกันครั้งก่อนมหาอำนาจเดินสายฝ่ายเขมรเป็นว่าเล่น   ประธานาธิบดีฝรั่งเศสทัวเขมรเลย   ถ้ารบกันรุนแรงกว่านี้   ผมว่ามหาอำนาจ  ไม่ว่า จีน อเมริกา  ฝรั่งเศสเอาไปกินหมดแน่ๆ    อย่างนี้ดีแล้วครับ   ผมก็กะว่ายังไงซะเขมรก็ต้องยอมตกลงเรื่องนี้กับเราดีกว่าเพราะตนเองก็ได้ผลประโยชน์มหาศาลไปตลอดชั่วลูกชั่วหลานเช่นเดียวกัน   แบ่งๆกันรวย

    ส่วนที่ว่าทำไมคนไทยยังใช้น้ำมันแพง   ก็เราขุดเจาะเองได้ไม่พอ   ปัจจุบันเราขุดเจาะในส่วนน้ำมันได้แค่ 120,000 -160,000 บาร์เรลต่อวัน   แต่ใช้ล่อเข้าไปวันละกว่า 900,000 บาร์เรลต่อวัน    ต้องนำเข้าเกือบ 800,000 บาร์เรลต่อวัน   หรือปีละราวๆ  1 ล้านล้านบาททีเดียว   

    ดังนั้นเมื่อต้องนำเข้าน้ำมันเข้ามามากขนาดนี้   ยังไงก็ต้องใช้น้ำมันแพงอยู่แล้วแหง๋ๆครับ   ราคาปัจจุบันก็แถว 80-100 เหรียญต่อ บาร์เรล

    ถึงเขมรจะลูกเล่นเรื่องเกาะกูดมาใช้ในการต่อรองเรืื่องบ่อน้ำมัน   ช่างเถอะ  ยังไงก็ขอให้ตกลงกันได้ก็พอแล้ว    เพราะปริมาณขนาดนี้ถ้ามีการขุดขึ้นมาใช้   เราก็ไม่ต้องพึ่งตะวันออกกลางแล้วครับ   ถ้าตีซะว่าแบ่งกัน 50-50  พอขุดขึ้นมาใช้    เราเอามากลั่นที่โรงกลั่นของเราทั้งหมด   ส่วนเขมรรอรับเงินครึ่งหนึ่งของน้ำมันที่ขุดขึ้นมา    ถือว่าเราได้ใช้น้ำมันและก๊าซในราคาแค่ครึ่งเดียวของราคาตลาดโลกเท่านั้น     แล้วไปเพิ่มมูลค่าเอาจากการกลั่นและแปรรูป  ซึ่งเขมรยังไม่มีโรงงานเลย   ยังไงก็เพิ่มมูลค่าได้อีกเกือบ 9 เท่าทีเดียว

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 09/10/2012 10:30:18


ความคิดเห็นที่ 10


    เสียดายที่มันเป็นก๊าซปริมาณมหาศาลแบบที่นึกไม่ถึงครับ (รู้แต่ปริมาณน้ำมันสำรองว่าเท่าใด   แต่ไม่รู้ว่าก๊าซเท่าใดครับ  เพิ่งมารู้ตอนนี้เองว่ามันเว่อร์ซะขนาดนี้) 

   ถ้าก๊าซมันมากขนาดนี้   เมื่อมีการขุดเจาะ  ผมว่ารัฐคงแนะให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ NGV และ LPG ในยานพาหนะทั้งหมดเลยดีกว่า   แม้ว่าจะเพิ่มการใช้ก๊าซอีก 10 เท่าตัวเพื่อทดแทนการใช้น้ำมัน    จาก 5 ล้านลูกบาศก์ฟุตไปเป็น 50 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันก็เถอะ   สามารถมีใช้ได้อีก 600-700 ปีทีเดียว   กว่า 10 ชั่วอายุคน .......  โหอะไรมันจะเว่อรขนาดนั้น    ถ้าขุดได้มาเหลือเกินก็ส่งออกไปขายให้มหาอำนาจทั้ง  จีน  อินเดีย  และอเมริกาในราคามิตรภาพซะเพื่อการต่อรอง

 ส่วนน้ำมัน  น่าจะได้จากบ่อนี้กว่า 800,000 บาร์เรลต่อวัน (ถ้าเทียบจากของมาเลยฺ์)  เมื่อรวมกับของเก่า   เราก็ผลิตได้เพียงพอกับความต้องการใช้งาน   และมีพอใช้อีกราวๆ 10 ปี โดยไม่ต้องนำเข้ามมาแม้แต่หยดเดียว      แต่ถ้าสนับสนุนการใช้ก๊าซในยานยนต์ทุกประเภท   โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันก็เปลี่ยนมาใช้ก๊าซทั้งหมด   แบบนี้ก็น่าจะลดการใช้น้ำมันลงไปเกือบทั้งหมด   คงสามารถจะใช้น้ำมันจากบ่อนี้ไปได้หลายสิบปีทีเดียวครับ   

 

   

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 09/10/2012 10:43:01


ความคิดเห็นที่ 11


    ส่วนเกมส์ต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของเราในเรื่อง 3 จังหวัดชายแดน    ถ้าเราได้มาขนาดนี้จริงและไม่ต้องพึ่งน้ำมันแม้แต่หยดเดียว   เราก็สามารถดำเนินการเรื่องต่างๆได้โดยไม่ต้องสนใจ OIC อีกต่อไป (มาเลย์เป็นประธาน OIC)   ไม่สามารถกดดันอะไรเราได้อีกเลย  

   สองส่งก๊าซธรรมชาติปริมาณมหาศาลนี้ให้  อินเดีย   จีน   อเมริกา   ในราคามหามิตร   โดยต่อรองเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนว่าช่วยกันกดดันมาเลย์ในเรื่องต่างๆที่เราของร้อง   เพราะมาเลย์มีคนจีนอยู่ 23%  คนอินเดีย 11-12%   ส่วนอเมริกาคุม UN  UNSCR  ดังนั้นถ้าเราทำอะไรที่ดูรุนแรงไปบ้างก็ให้ทำเฉยๆไปซะ    แต่ถ้ามาเลย์ป่วนเราในเกมส์การเมืองระหว่างประเทศ    ก็ร้องขอให้ทั้งสามชาติรุมด่ากดดันมาเลย์แทน  

    เงินสร้างกองทัพก็คงเหลือเฟือทีเดียว   ฝันถึง MEKO-D  4 ลำ สำหรับต่อต้านเรือดำน้ำ   MEKO-D600  ใช้เรด้าร์ Thales SF500 ที่เทียบเท่า AEGIS เลยก็ยังได้    กองเรือดำน้ำซื้อมันด้วยเงินสด   โอ้วววว.....มัน     ใช้ก๊าซต่อรองเรื่องระบบอาวุธที่แต่ละชาติไม่อยากขายหรือถ่ายทอดเทคโนโลยีได้     

   และเมื่อต้องการตัดคลองกระ    เมื่อกองเรือรบ  กองทัพอากาศพร้อม   ก็ตัดได้สบายๆ   มหาอำนาจน่าจะเกรงใจบ้าง   ให้ผลประโยชน์แก่มหาอำนาจร่วมกันในคลองกระด้วย   ทั้ง จีน  อเมริกา  ญี่ปุ่น  อินเดีย  สิงคโปร์   ในนิคมอุตสาหกรรมที่จะสร้างใหม่ที่ปากคลองกระ    แบบนี้คลองกระน่าจะได้เกิด    

  

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 09/10/2012 11:01:00


ความคิดเห็นที่ 12


   ส่วนภาคการลงทุน    เมื่อใช้ก๊าซในการผลิตกระแสไฟฟ้าและใช้ในภาคการขนส่งเต็มที่แล้ว  ดัมพ์ราคาก๊าซที่ใช้ในประเทศลง 40-50 %   ลดราคาไฟฟ้าลง 40-50%  โดยยังคงกฎหมายการลงทุนที่เอื้ออำนวยการลงทุนต่อไป    ปล่อยให้ค่าเงินแข็งขึ้นโดยไม่ต้องแทรกแซงมากนัก   เพราะปัจจุบันตั้งแต่พยายามแทรกแซงค่าเงินในอ่อนเข้าไว้  ธปท.  ขาดทุน 4 แสนกว่าล้านบาทแล้ว   ไม่ไหวถ้าการขาดทุนนี้ต้องสะสมต่อไป   เมื่อไม่ต้องพยุงค่าเงิน   แม้ว่าค่าเงินจะแข็ง    แต่เราสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้จากค่าไฟฟ้าและพลังงานครับ    ซึ่งปัจจุยการผลิตสำคัญที่สุดในภาคอุตสาหกรรมมี 2 ตัว  คือพลังงานและค่าแรง    ส่วนค่าแรงก็ให้เป็นไปตามกลไกตลาดแรงงานไป 

    ค่าเงินบาทแข็ง   แต่ราคาสินค้าน่าจะถูกลงจากการราคาพลังงานลง 40-50%  น่าจะช่วยการส่งออกได้มากทีเดียว    และสามารถดึงดูดเงินลงทุนมหาศาลได้  

   ส่วนผมรอดีลนี้อยูาครับ   รอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา   ถ้าหุ้นทรุดตัวเมื่อไหร่   กันเงินไว้เยอะอยู่   ดักตวงซื้อกลุ่ม ปตท.  เก็บเข้าพอร์ต   PTT   PTTGC  PTTEP   TOP  555555.....

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 09/10/2012 11:10:19


ความคิดเห็นที่ 13


เรื่องเกาะกูดนั้นเป็นของไทยมานานแล้วครับผมก็ไปเที่ยวมาไม่เห็นจะมีอะไร สมัย ลอน นอล นั้นแกก็ขีดเส้นไปมั่วๆนั้นละครับ ส่วนสัญญา MOU ที่หมายถึงเราจะไม่ทำอะไรระหว่างเขตแดนที่ขัดแย้งก็เป็นข้อตกลงทั้งสองฝ่ายจนกว่าจะข้อยุติได้ไม่ว่าโดยการเจรจาหรือว่าด้วยชั้นศาลระหว่างประเทศ แต่ดูเหมือนพื้นที่เขตแดนประสาทเขาพระวิหารทางฝั่งกัมพูชาละเมิดข้อตกลง MOU ไปหลายข้อ ก็เลยไม่สามารถที่จะพัฒนาแหล่งขุดเจาะบริเวณทางทะเลได้มากนัก

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 09/10/2012 12:31:20


ความคิดเห็นที่ 14


แต่ผมเกรงว่า ขุดขึ้นมาแล้วก็ยังอ้างอิงตลาดโลกเหมือนเดิม ถ้าเป็นแบบนี้ก็ปล่อยไว้อย่างนั้นจะดีกว่าไหม

โดยคุณ สายลับ007 เมื่อวันที่ 09/10/2012 12:46:47


ความคิดเห็นที่ 15


อังกฤษ กะ ฝรั่งเศษ ยังคงแค้นและเจ็บใจไทย หรืเเปล่า ที่ไม่สามารถทำลายกองทัพไทย ด้วยคิดว่า จะทำให้ไทย ไม่มีกองทัพเหมือนญี่ปุ่นให้ได้ สมัยที่ไทยเราเข้าข้างญี่ปุ่น แล้วญี่ปุ่นแพ้สงคราม ไทยเราเลยต้องตกเป็นฝ่ายพ้ายแพ้ และ ต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงคราม

แต่อเมริกา มาช่วยไทยไว้ เพราะอเมริกา ต้องการใช้ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหารในความเป็นเจ้าโลกสมัยนั้น จึงไม่ให้ทำลายกองทัพไทย อังกฤษกะฝรั่งเศษ จึงทำอะไรไทยไม่ได้ ในช่วงสมัยนั้น

ฝรั่งเศษ ต้องการที่จะผงาดขึ้นมามีหน้ามีตาในเวทีระดับโลก เพราะยังโหยหาความเป็นเจ้าอำนาจในอดีต ดูได้จาก สงครามลิเบีย-ที่ฝรั่งเศษออกหน้านำ สิ่งที่จะทำให้ฝรั่งเศษ เชิดหน้าชูตาได้ในเวทีระดับโลก ฝรั่งเศษ คงเอาหมด

แล้วมาดูความขัดแย้งไทยกะกัมบูชา กัมบูชา-ใช้เอกสารทุกอย่างที่ฝรั่งเศษเขียนขึ้นในสมัยนั้น กรณีข้อพิพาทเขาพระวิหาร เราแพ้ตั้งแต่ประตูแรกเห็นๆ ศาลโลก ก็ดันอยู่ในฝรั่งเศษและกัมบูชา ก็ดันเป็นลูกน้องเก่าของฝรั่งเศษเสียอีก

ดูจากแผนที่นี้ แนวเส้นเขตแดนไทย ควรเป็นแบบนี้ แต่ที่เห็นแนวเส้นเขตแดนกัมบูชา ฟาดขาบเกี่ยวข้ามมาเกาะกูต ของไทย เพราะกัมบูชาอาศัยการขีดเส้นเอา ของฝรั่งเศษสมัยนั้น

ไทยเรา มีเอกสารเกี่ยวกะเกราะกูด ครบถ้วนทุกอย่างเลยนะครับ ที่กัมบูชายอม เพราะได้ผลประโยชน์ในฝั่งไทยหรอเปล่า แล้วคิดหรอว่า กัมบูชา จะยอมง่ายๆ นะ


โดยคุณ seetha456 เมื่อวันที่ 09/10/2012 13:05:01


ความคิดเห็นที่ 16


เป็นข่าวดีของคนทั้งประเทศอย่างแท้จริง...เฝ้ารอกันมานานสำหรับแหล่งก๊าซธรรมชาดิบ่อเจ้าปัญหาบ่อนี้ ตงกันแบบ win-win อย่างนี้ดีที่สุดแล่้วครับ...แต่อดรู้สึกแปลกใจเล็กๆอยู่ว่าเรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมไม่มีข่าวให้เห็นในสื่ออื่นๆเลยทั้งๆที่เรื่องนี้สำคัญกว่าพายุอะไรที่กำลังพัดเข้าประเทศเสียอีก... ตอบท่าน neosiamese2 @ผมสงสัยอยู่ว่า ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติให้กลายเป็นน้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเบนซีน น้ำมันดีเซล ได้หรือไม่ และถ้ามีเทคโนโลยีนี้ จะต้องใช้ก๊าซธรรมชาติกี่ลูกบาตรฟุตเพื่อให้ได้น้ำมันที่กลั่นแล้ว 1 บาร์เรล@ เท่าที่ผมค้นๆดู ในแหล่งก๊าซธรรมชาติเมื่อนำมาผ่านกระบวนการแยกก๊าซแล้วจะได้ผลิตภัณฑ์หลายตัว แต่มีอยุ่ 2 ตัวที่สามารถนำไปกลั่นให้เป็นน้ำมันได้อีกคือ ไฮโดรคาร์บอนเหลว (Heavier Hydrocarbon) กับ ก๊าซโซลีนธรรมชาติ....ซึ่งเมื่อนำผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้ไปกลั่นจะได้น้้ำมันเบนซินครับ...แต่สัดส่วนของก๊าซเมื่อน้ำไปกลั่นเป็นเบนซินมีอัตราส่วนเท่าไหร่นั้นผมยังหาไม่เจอ ....ใครพอจะทราบก็แบ่งปั่นกันบ้างนะครับ ด้วยทรัพยากรขนาดนี้ มูลค่ามหาศาล...ควรอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการคุ้มครองจากกองเรือของ ทร. หวังว่าดีลนี้น่าจะทำให้วงเงินงบประมาณในส่วนของกลาโหมจะได้เพิ่มขี้นโดยเฉพาะ ทร. ....

โดยคุณ Vector เมื่อวันที่ 09/10/2012 13:12:11


ความคิดเห็นที่ 17


นั่นหมายความว่าผู้ใช้น้ำมันเบนซินมีโอกาสที่จะได้ใช้น้ำมันราคาถูกในอนาคตอันไม่ไกลนี้...เนื่องจากเราสามารถน้ำผลิตภัณฑ์ที่ได้จากแหล่งก๊าซธรรมชาติไปกลั่นเป็นน้ำมันเบนซินนั่นเอง

โดยคุณ Vector เมื่อวันที่ 09/10/2012 13:18:07


ความคิดเห็นที่ 18


มีก๊าซเยอะขนาดนั้นผมว่าไม่นานคงได้เห็น GRIPEN NGV แน่ๆ

โดยคุณ Batnight เมื่อวันที่ 09/10/2012 15:53:59


ความคิดเห็นที่ 19


มีทรัพยากรมากจริงๆแบบนี้ ไม่ทราบว่าให้สัมปทานใครไปบ้างหรือยัง เราต้องมีการวางแผนในการนำมาใช้เพื่อประโยชน์ที่ยั่งยืนในอนาคต หากเรามีความสามารถพอที่จะขุดเจาะก๊าซและแยกได้ ก็อยากจะให้ดำเนินการเอง ไม่อยากให้สัมปทานมากไป ขุดใช้เองยังไงก็ได้เยอะกว่า ให้เขาขุดให้แล้วแบ่งให้เรา

โดยคุณ thanakon เมื่อวันที่ 09/10/2012 18:35:02


ความคิดเห็นที่ 20


   ขอบคุณครับท่าน vector  เป็นข้อมูลที่น่าปลื้มใจสุดๆครับ 

  ส่วนคำถามที่ว่าเรามีขีดความสามารถขนาดไหนในเรื่องปิโตเลี่ยม    ตอบได้อย่างเต็มภาคภูมิครับว่า   ประเทศไทยทำได้ทุกเรื่องครับ  

   มีโรงกลั่นรวมกันประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน  ใกล้เคียงสิงคโปร์ และ มาเลย์ มาก  ก็คือโรงกลั่นในเครือไทยออย หรือ TOP นั่นเอง

   มีขีดความสามารถสำรวจขุดเจาะระดับชาติมหาอำนาจแล้วครับ   นั่นคือ  บริษัท ปตท.สผ.  หรือ  PTTEP ครับ

   มีขีดความสามารถในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทุกประเภทของปิโตเลี่ยม  เช่น  เมล็ดพลาสติกแบบต่างๆ   น้ำมันเครื่อง  น้ำมันเตา  น้ำมันเครื่องบิน  เส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูงแทบทุกประเภท  เส้นใยสำหรับทำเสื้อผ้าต่างๆ   และเส้นใยทุกประเภทที่ผลิตจากปิโตเลี่ยม   บริษัทชั้นนำระดับโลกของไทยเราคือ  PTTGC  หรือ ปตท.โกลบอลธ์เคมิคัล  ครับ  

   ดังนั้นคาดว่าเมื่อมีการตกลงกันได้   ทางประเทศไทยน่าจะเป็นฝ่ายสำรวจขุดเจาะเป็นหลัก   ซึ่งจะมี ปตท.สผ.  เป็นหัวหอกในการสำรวจขุดเจาะ   เห็นว่าทางเชฟรอนของอเมริกาวิ่งเต้นในเรื่องนี้กับฝ่ายเราและเขมรแบบสุดๆเพื่อขอส่วนแบ่งนี้    ไม่รู้ว่าทางเราจะยอมเปิดทางให้หรือไม่   เพราะมันมหาศาลแบบที่เรียกว่า   กินได้ชั่วลูกชั่วหลาน  นานเท่ากับการตั้งประเทศไทยกันเลยทีเดียวครับ 

  

   แบบนี้คู่ควรแก่กองเรือบรรทุกบ.นิวเคลียร์ ละเรือดำน้ำ  AIP สักโหลหนึ่งมาคอยดูแลจริงๆ   

 มีข่าวแบบนี้  สงสัย 3 จังหวัดคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆแน่   เพราะฝ่ายโน้นรอไม่ได้อีกแล้ว 

  

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 09/10/2012 22:21:58


ความคิดเห็นที่ 21


   ขอยืมรูปของน้อง TOP และของป๋าจูล หน่อยนะครับ เอาเก็บไปฝันสักวันคนไทยเราต้องมีแบบพวกนั้นบ้าง   ไอ้ PA-2 นี่ถ้ามันจะเล็กไปหน่อยซะแล้ว  55555555.........ฝันมานานแล้วที่จะเห็นฝรั่งเศสมันตามตูดไทยเราดิ๊กๆ  




โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 09/10/2012 22:58:54


ความคิดเห็นที่ 22


๑ ท่าน seetha456  ศาลโลกอยู่กรุงเฮกค์ ประเทศเนเธอร์แลนครับที่อยู่ฝรั่งเศษ(เศษฝรั่ง)คือ องค์กรยูเนสโก ครับ ^^

เรื่องเขาพระวิหารเกิดจากกัมพูชาเสนอให้เขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงผู้เดียวโดยไม่ขอความเห็นจากเรา แต่ทั้งหมดนั้นก็คือเกมส์การต่อรองของกัมพูชาที่จะกดดันเราใรเรื่องเขตแดนทางทะเลที่ทับซ้อนกัน เพราะมีบริษัทของฝรั่งเศษเข้าไปสำรวจหาน้ำมันในพื้นที่นั้นแล้วเจอของดีเข้าให้ แล้วเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องเก่ากันก็เลยช่วยเหลือกันแล้วก็ลากมาสู่การเมืองภายในประเทศเราในช่วงนั้นด้วย

ในใจผมก็คิดเหมือนท่าน RAYONG เพราะว่าเราประเทศเพื่อนบ้านกันทำไมเราไม่คุยกันเองดีแล้วก็แบ่งกัน2คนโดยยอมให้พวกมหาอำนาจบ้างเล็กน้อยเส้นแบ่งแดนตรงไหนมันยังไม่เสร็จก็แบ่งมัน 50-50 ไหนๆก็จะเป็น AEC แล้วจะมัวมาทะเลาะกันทำไม

มีอีกอย่างที่ผมไม่ค่อยจะเชื่อคือมีก๊าซธรรมชาติใช้ได้ 6-7ร้อยปี เหมือนตัวเลขมันเพี้ยนๆยังไงไม่รู้ถ้าสัก 160-170 ปีน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า เพราะว่าอัตราการใช้พลังงานมันเพิ่มขึ้นทุกวัน

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 10/10/2012 09:43:53


ความคิดเห็นที่ 23


ผมเกรงว่า เราจะใช้ก๊าซหรือน้ำมันราคาเท่าเดิมอยู่ดี เพราะไงๆก้ทราบกันอยู่ ปตท กำไรปีนึงเท่าไรๆ แต่คนไทยใช้พลังงานแพงกว่าชาวบ้าน ก้พี่ ปตท เขาขุดเอง แล้วเอาไปขายให้สิงคโปร์แล้วก้อิงราคาจากที่นั้น กำไร ปตท ถึงได้เยอะแยะมากมาย ปีๆนึงกี่แสนล้าน 

 

ถ้า ให้ปตท ขุดเจาะ บอกได้คำเดียว ราคาไม่ถูกลงหรอก เพราะเขาไปอิงสิงคโปร์อยู่ดี แล้วก้ฟันกำไรจากคนไทย ดูมาเลเซียสิ ไม่อิงใครเขาใช้น้ำมันราคาถูกกว่าเราอีก  ปตท ควรจะเป็นของรัฐ มันจะเป็นรายไ้ด้อันมหาศาลของรัฐบาล ถึงขนาดที่รัฐสามารถ ใช้หนี้สาธารณะได้หมดภายใน20ปี ก็ก๊าซขนาดนั้น กำไรปีละ กว่าสองแสนล้าน มีแต่กำไรเพิ่มขึ้นๆ 20ปีก็ 4ล้านๆบาท เท่ากับ งบประมาณทั้งปีของไทยสองถึงสามปีเลยทีเดียว ยังไม่นับบ่อก๊าซที่จะขุดมาขายอีก แม้่โจ้ รวยเละเลยคราวนี้ แต่น่าเสียดายที่รัฐมองไม่เห็น กำไรอยู่ตรงหน้าแท้ๆ 

โดยคุณ mongkon789 เมื่อวันที่ 10/10/2012 11:58:20


ความคิดเห็นที่ 24


" เขมรเหมือนจะตกลงยอมรับในเรื่องให้ไทยมีอำนาจเหนือเกาะกูด" บ้ารึเปล่าถ้าประโคมข่าวแบบนี้ เกาะกูดคนไทยเที่ยวได้ทั้งเกาะเลย เคยไปบ้างหรือเปล่าเขมรมันกล้าโพล่ทหารมายึดไหมละอย่าไปเอาเรื่องที่เข้าทึกทักฝ่ายเดี๋ยวมาเป็นประเด็นเลยครับ ประเทศไทยไม่เคยคิดแม้แต่นิดว่าเกาะกูดไม่ใช่ของเรา ถ้ายกประเด็นนี้มีอ้างรัฐบาลนี้ที่เขาเรียกปูโง่ถ้าจะจริง ที่เอาพื้นที่เกาะกูดทุกตารางนิ้วที่มีเอกสารสิทธิ์ของคนไทยทั้งเกาะมาพูดเสมือนว่าเขมรมีบุญคุณที่ยอม ทั้งที่เป็นเทศไทย "รับบาลตีโง่ให้เขมรน๊อคหรือ"  

โดยคุณ blackhawk เมื่อวันที่ 10/10/2012 19:29:35


ความคิดเห็นที่ 25


  ไม่รู้นะสำหรับผมแล้ว   ถ้าเงินและผลประโยชน์ที่ยัดเข้าปากเขมรแล้วสามารถทำให้เขมรเลิกโวยวายงอแง........ในเรื่องเกาะกูดอีกตลอดกาล     ผมเอา  

     ผมสนใจแค่ผลว่า   เกาะกูดต้องเป็นของเรา   และผลประโยชน์จากน้ำมันมหาศาลที่ทำให้เรามั่งคั่งระดับเดียวกับมหาอำนาจเราต้องได้มา          รวมทั้งทำให้มาเลย์หมดสภาพที่จะขี่หัวเราต่อไปได้อีกในเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนใต้และรักษาอธิปไตยได้อย่างมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้     ผมเอาหมด   ไม่สนวิธีการ 

   เพราะบางที 3 จังหวัดชายแดนใต้   อาจจะมีทรัพยากรหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ลูกหลานไทยในวันข้างหน้าได้เปรียบหรือมีผลประโยชน์มหาศาลจากมัน    แบบที่เราสามารถรักษาพื้นที่ฝั่งตะวันออกได้  แม้จะไม่ทั้งหมด   แต่ก็สามารถยังประโยชน์ให้แก่ลูกหลานในวันนี้ได้  

   ผมไม่สนใจวิธีการที่มันดูมาดเท่   ดูแมน  ดูมีคุณธรรมสมเหตุผล  มีศักดิ์ศรี   แต่ไร้ผลสำเร็จแล้วคนทั้งแผ่นดินต้องเดือดร้อนมานั่งน้ำตาตกหรอก   ผมว่ามัน..........มากๆ


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 10/10/2012 22:03:53


ความคิดเห็นที่ 26


คือผมสงสัยว่าก๊าชธรรมชาติมันมีเยอะมากมายขนาดนั้นเลยหรอครับ

โดยคุณ apisit_aos เมื่อวันที่ 12/10/2012 09:31:28


ความคิดเห็นที่ 27


หลายคนสงสัยว่า 3 จังหวัดภาคใต้มีอะไรใต้ดินหรือเปล่า  ผมเองก็ไม่ทราบ  แต่อยากจะบอกว่าด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้สามารถสำรวจใต้พื้นดิน พื้นน้ำได้ว่ามีโครงสร้างทางธรณีวิทยาอย่างไร  อย่างเช่น การจะมีบ่อก๊าซ บ่อน้ำมัน ต้องมีโพรงหินใต้พื้นพิภพเพื่อให้เกิดการกักเก็บสะสม ย่อยสลายสารประกอบไฮโดรคาร์บอน  โดยน้ำมันหนักจะเกิดก่อนต่อมาจะค่อยๆกลายเป็นน้ำมันเบาและในที่สุดเป็นก๊าซ  แน่นอนในบ่อเดียวกัน ก๊าซจะลอยอยู่ด้านบน น้ำมันเบาอยู่ตรงกลาง น้ำมันหนักอยู่ด้านล่าง

คราวนี้มาดูที่แถวตะวันออกกลางที่ว่ามีน้ำมันมากอยู่ไม่ลึกแต่น้ำมันเป็นน้ำมันหนัก heavy crude oil

มาเลเซีย มีแต่น้ำมันเบาและก๊าซ บ่อลึกพอสมควร Light oil

พม่าพบบ่อก๊าซขนาดใหญ่ อย่างน้อย 2 แห่ง ยานาดาล และ ??

ชายแดนไทย เขมร คาดว่ามีก๊าซจำนวนมากและน้ำมันรองลงมา

ไทยที่ระดับบ่อไม่ลึกพบก๊าซจำนวนมากในอ่าวไทย  แล้วน้ำมันล่ะหายไปไหน ใครเคยคิดบ้าง  ทำไมบริษัทน้ำมันข้ามชาติชอบหนักหนาในการประกอบธุรกิจในไทย

มาดู 3 จังหวัดภาคใต้บ้าง มีการสำรวจทางธรณีวิทยาหมดแล้วแต่เนื่องจากมีปัญหาความไม่สงบจึงไม่มีการขุดเจาะจริงๆจังๆ  ล่าสุดก็ที่จะนะ จังหวัดสงขลา นี่ก็ติดปัตตานี มีโครงการ JDA ร่วมกับมาเลย์เซีย

ลองทุกท่านคิด พิจารณาดูครับ เพราะความจริงคงไม่มีใครรู้ตอบได้ครับ

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 13/10/2012 18:50:20


ความคิดเห็นที่ 28


   ชายแดนรอยต่อทับซ้อนเรากับมาเลย์นั้นมีบ่อก๊าซร่วมกันนี่ครับ   ดังนั้นไม่แปลกที่พื้นที่บริเวณนั้นมีความเป็นไปได้ของทรัพยากรธรรมชาติอยู่  

   ในฝั่งอันดามันเองก็มีการพบบ่อก๊าซในเขตพม่า (ตะนาวศรี)  ดังนั้นพื้นที่ต่อเนื่องลงมาทั้งหมดจึงมีความน่าจะเป็นสูงที่จะมีบ่อก๊าซและน้ำมันเช่นกัน  ปตท.สผ.ถึงได้ตั้งบริษัทลูกคือ  ปตท.สผ.อันดามันเพื่อทำการสำรวจพื้นที่ที่ต่อเนื่องมาจากฝั่งพม่า

   ส่วนฝั่งพม่าเองในอ่าวเบงกิลก็พบบ่อน้ำมันที่อยู่ในเขตทับซ้อนกับบังคลาเทศ   และมีจำนวนไม่น้อยทีเดียว   และยังคงเป็นตัวชนวนความขัดแย้งที่เพื่มเข้ามาระหว่างพม่ากับบังคลาเทศด้วย  

   ผมมองว่า 3 จังหวัดชายแดนนั้น   เป็นเขต buffer ที่จำเป็นสำหรับโครงการคลองกระ   เพราะการที่เรามีพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้นี้แหล่ะครับ   ที่ทำให้เราสามารถตัดคลองกระในจุดที่ห่างจากชายแดน  ไทย-พม่า    ไทย-มาเลย์  ได้โดยไม่มีปัญหา   เพราะดินแดนที่ต่ำกว่าคลองกระลงไป   คงต้องประจำการด้วยกำลังทหารและที่ตั้งทางทหารสำคัญ   เหมือนกับเราทำการยกพลวางสิ่งอำนวยความสะดวกในฝั่งทะเลอีกด้านไปเรียบร้อยแล้วครับ

  ส่วนที่ว่าก๊าซมันมากจริงๆขนาดนี้หรือเปล่า   ไม่รู้   รู้แต่ว่าผมนำข้อมูลที่พบในนสพ.มาบอกต่อ  และยืนยันคอลัมม์และฉบับให้ทราบเพื่อให้ไปหาอ่านว่าที่ผมนำข้อมูลมานี้ไม่ได้มั่ว    ส่วนจะมากขนาดนั้นจริงหรือไม่   รอวันที่ไทย-เขมรบรรลุข้อตกลงนี้ดีกว่า   นั่นล่ะครับความจริงทั้งหมดจะต้องถูกนำเสนอต่อประชาชนทั้งประเทศ

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 13/10/2012 23:55:55


ความคิดเห็นที่ 29


ส่วนตัวคิดว่าแนวความคิดประเภทที่ว่า

"ปัญหาความมั่นคงทุกอย่างมีที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน"

นำไปสู่แนวคิดการสะสมอาวุธสำหรับการทำสงครามตามแบบ โดยมีพื้นฐานความคิดว่า

"สงครามตามแบบ(กับประเทศเพื่อนบ้าน)แก้ปัญหาความมั่นคงได้ทุกอย่าง"

ควรจะเลิกได้แล้วครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 21/10/2012 18:22:29


ความคิดเห็นที่ 30


บ้านเค๊า ให้พลังงาน เป็นต้นทุนของพลเมือง เพื่อสร้างโอกาสการแข่งขัน

บ้านเรา ใช้สัมประทาน โดยเฉพาะพลังงาน เป็นรายได้ของรัฐบาล (ไม่ว่าฝ่ายไหนมาเป็นรัฐบาล)เพื่อทำประชานิยม (กระทรวงการคลัง มีหุ้นมากสุด ใน ปตท.)

ล่าสุด คลังโวย กสทช.เงินประมูลเข้ารัฐ น้อย แล้วทีนี้เราจะได้ใช้ 3จี ถูกมั้ยล่ะ ถ้าเขาประมูลไปแพง..

โดยคุณ tng เมื่อวันที่ 21/10/2012 20:35:34