หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อนาคตถ้าเริ่มจะมีการปลดประจำการเรือเร็วโจมตีชุด ร.ล.ปราบปรปักษ์

โดยคุณ : pop04 เมื่อวันที่ : 02/10/2012 14:40:43

จะต้องมีการจัดหามาทดแทนประมาณกี่ลำครับและอีกกี่ปีเรือชุดนี้จะปลดครับ

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับน่าจะซื้อเรือชั้น Visby มาแทนโดยต่อในประเทศครึ่งหนึ่งและต่อจากต่างประเทศครึ่งหนึ่ง






ความคิดเห็นที่ 1


ยังไม่ปลดในเร็ววันนี้ครับ แค่ปรับบทบาทจาก รจอ.มาเป็น รจป.แทน

โดยคุณ terdkiet เมื่อวันที่ 25/09/2012 17:16:12


ความคิดเห็นที่ 2


 

ว๊าววว  ..  ถ้าต่อในไทย หมดทุกลำ โคตรจะภูมิใจเลย

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 26/09/2012 01:42:24


ความคิดเห็นที่ 3


เรือชั้น วิสบี้ เป็นเรือ คอร์เวท ครับ ขีดความสามารถมันแตกต่างจากเรือเร็วโจมตีอาวุธนำวิถีมาก เรือชั้นนี้มีนระดับเดียวกับ ร.ล.สุโขทัย ครับ

ส่วนตัวมองว่า เรือเร็วโจมตีอาจจะถูกลดบทบาทลงไปเป็นเรือเร็วโจมตีปืน หรือถ้าต่อใหม่ก็อาจจะต่อเป็นไปในลักษณะคล้ายๆหรือเป็นเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง แต่ติดอาวุธนำวิถีแทนก็น่าจะได้ครับ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 26/09/2012 12:53:07


ความคิดเห็นที่ 4


   ตามที่ท่านเด็กทะเลกล่าวไว้ทุกประการครับ  เพราะเรือเร็วโจมตีอาวุธนำวิถีไม่ได้รับความนิยมแล้ว   เพราะสามารถได้ง่ายด้วย ฮ.ประจำเรือฟรีเกต   ดังนั้นต่อ OPV(เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง) หรือ ต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งดีกว่าครับ   ประหยัดในการใช้งานกว่า     ส่วนเรือที่เป็นอำนาจการยิงหลักให้เรือฟรีเกตรับหน้าที่ไป

   ส่วนกรณีในสถานะใกล้จะมีสงครามระหว่างประเทศ   ถึงค่อยเริ่มทำการเรียกเรือ OPV และเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งทุกชนิดมาทำการติดตั้งระบบอาวุธทำลายเพิ่มเติมครับ  คุ้มกว่า

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 27/09/2012 02:00:55


ความคิดเห็นที่ 5


ความเห็นของผมคือ แม้ว่าปัจจุบันเรือเร็วโจมตีด้วยอาวุธนำวิถีจะมีบทบาทน้อยลงเพราะมีการใช้ ฮ. ติดอาวุธโจมตีแทนได้  แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีเรือโจมตีเร็วติดอาวุธนำวิถีไว้ แต่ต้องใส่เทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไป เช่น data link เพื่อชี้เป้าหมายให้ และให้มีระบบต่อสุ้อากาศยายแบบประทับบ่ายิงติดไปด้วย เพราะ

- สามารถจอดหลบหลังเกาะแก่งเพื่อรอโจมตีได้เป็นเวลานาน สามารถแล่นเรือเข้าเขตน้ำตื่นได้ ทำให้ฝ่ายบุกต้องระวังตัวจากการถูกซุ่มโจมตีตลอดเวลา

-เป็นเป้าหมายขนาดเล็ก แต่มีอำนาจการทำลายสูงเท่าเรือขนาดใหญ่

- ราคาต่อลำถูกกว่า ทำให้จัดหาได้จำนวนมากในราคาที่จ่ายเท่ากัน เมื่อเข้าสู่ยุทธบริเวณแล้วกระจายกำลังเข้าโจมตีหลายทิศทางจะมีอำนาจการยิงและโอกาสรอดที่มากกว่าเรือขนาดใหญ่เพียงลำเดียว

- เหมาะกับพื้นที่ฝ่ายตั้งรับแบบฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะชายฝั่งภาคตะวันออกที่มีเกาะมาก และน้ำตื่น

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 02/10/2012 14:40:43