หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


Sea Star บ.สะเทิ้นน้ำสะเทินบก

โดยคุณ : juldas เมื่อวันที่ : 09/10/2012 20:42:13

โครงอากาศยานของ ซีสตาร์ เป็นลักษณะ ทุ่นลอย เมื่ออยู่บนพื้นน้ำ โดยที่ข้างลำตัวบริเวณส่วนกลางแผ่ออกเป็นปีกพยุงตัว ช่วยในเรื่องเสถียรภาพ

ฐานล้อพับเก็บได้ในลำตัว โดยซีสตาร์ มีพิสัยบินสูงสุด 1,850 ก.ม. และบินได้นาน 8 ชั่วโมง

 





ความคิดเห็นที่ 1


Sea Star

 



โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/09/2012 22:56:22


ความคิดเห็นที่ 2


จาก หนังสือ สมรภูมิ ฉบับที่ 392 เดือน พฤษภาคม 2531

 

ลำเลียงสิ่งของ


ปราบเรือดำน้ำ


ลาดตระเวณทางทะเล


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/09/2012 22:58:23


ความคิดเห็นที่ 3


ภาพไม่ขึ้น เอาใหม่ครับ

ลำเลียงของ

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/09/2012 23:00:12


ความคิดเห็นที่ 4


เอาใหม่ครับ

 

ลำเลียงสิ่งของ


ปราบเรือดำน้ำ


ลาดตระเวณทางทะเล


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/09/2012 23:03:07


ความคิดเห็นที่ 5


ลองอีกทีครับ...

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 24/09/2012 23:08:31


ความคิดเห็นที่ 6


ลองอีกครั้ง

ใช้ลำเลียงสิ่งของ


ใช้ต่อต้านเรือดำน้ำ


ใช้ลาดตระเวณทางทะเล


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 25/09/2012 07:58:49


ความคิดเห็นที่ 7


เห็นแล้ว ก็นึกถึง เครื่องบินทะเล....ถ้าได้มีการต่อยอด ขยายขนาด พัฒนา หรือ ปรับใช้...

เครื่องบินทะเลลาดตระเวนชายฝั่ง

เครื่องบินทะเลลาดตระเวนชายฝั่ง : รายงานโดย ไชยฤทธิ์ เสนาะวาที : เรื่อง วัชรชัย คล้ายพงษ์ : ภาพ

 

            เป็นเวลา 4 ปี แล้วที่กองทัพเรือซุ่มวิจัยการผลิตเครื่องบินทะเล เครื่องบินขนาดเล็กสารพัดประโยชน์ขึ้นลงได้ทั้งบนบกและบนผิวน้ำ ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาจัดสร้างต้นแบบเครื่องบินทะเล ทร. ล่าสุดได้เปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ “คม ชัด ลึก” ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะของเครื่องบินดังกล่าว 2 รุ่นด้วยกัน คือ "NAX 01" และ "NAX 03"  (N-naval A-aircraft X- experimental) บริเวณอ่างเก็บน้ำคลองไผ่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งการทดสอบดังกล่าวเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
 
              พลเรือโท สมหมาย ปราการสมุทร ผอ.โครงการวิจัยยานพาหนะทางทะเล เพื่อใช้ประโยชน์กับกองทัพเรือ กล่าวว่า โครงการวิจัยเครื่องบินทะเล นี้เกิดมาครั้งแรกเมื่อสมัยที่ยังเป็น ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ ได้ร่วมทำโครงการวิจัยยานเหินน้ำร่วมกับนานาชาติ โดยประเทศไทยได้รับสิทธิ์วิจัย ยานเหินน้ำประเภท 2 ที่นั่ง ส่วนสิงคโปร์ได้วิจัยยานเหินน้ำประเภท 8 ที่นั่ง โดยสิทธิ์ดังกล่าวจะต้องใช้เวลาวิจัยทันทีหลังจากได้รับสิทธิ์ไม่เกิน 2 ปี
 
               หลังจากได้รับสิทธิ์ปี 2550 กองทัพเรือให้เงินทุนมา 5 แสนบาท จึงเริ่มศึกษาวิจัยความเป็นไปได้ของการผลิตเครื่องบินประเภทนี้ โดยใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบทั้งหมด โดยขั้นตอนดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากนักวิชาการหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการบิน ด้านการออกแบบโครงสร้าง หลังจากออกแบบเสร็จได้ไปซื้อซากเครื่องบินเก่ามาดัดแปลง ทั้งเครื่องยนต์และสรีระของเครื่องบินที่แต่เดิมสามารถร่อนลงแค่เพียงบนพื้นรันเวย์ปกติเป็นสามารถร่อนลงทั้งบนบกและบนผิวน้ำตามที่ออกแบบไว้ในครั้งแรก
 
              แต่ก็ต้องพบอุปสรรคในช่วงแรกจนทำให้การวิจัยต้องชะงักลงเมื่อ 4 ปีก่อน คือ ไม่มีนักบินคนไหนกล้าบินทดสอบให้แก่เครื่องบินทะเลที่วิจัยขึ้น พลเรือโทสมหมาย วัย 57 ปี จึงตัดสินใจใช้เงินทุนของตัวเองราว 5 แสนบาท เพื่อเข้าเรียนการบินหวังที่จะทดสอบเครื่องบินที่ผลิตขึ้น และหลังจากที่มีการทดลองบินก็มีนักบินทดสอบอาสาสมัครเข้ามาในโครงการมากขึ้นถึง 4 คน และได้รับเงินทุนต่อยอดจากกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)เป็นเงิน 12 ล้านบาท กระทรวงกลาโหม อีก 15 ล้านบาท   
 
              ด้าน นาวาเอก กฤชพล เรียงเล็กจำนง นักบินทดลองในโครงการวิจัยเครื่องบินทะเล ซึ่งมีประสบการณ์การบินผาดแผลงมานานกว่า 10 ปี เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่ทราบข่าวว่ามีโครงการสร้างเครื่องบินทะเล ก็มีความสนใจอย่างมาก เพราะชื่นชอบในเครื่องบินและรักการบินเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว และสิ่งสำคัญที่สุดที่อาสาเข้ามาเป็นนักบินในโครงการนี้คือเครื่องบินดังกล่าวสร้างโดยคนไทยทั้งหมด โดยมีแรงบันดาลใจจากแนวพระราชดำริในการพึ่งพาตนเอง ที่กองทัพเรือได้น้อมนำมาปฏิบัติ
 
              "ครั้งแรกที่เข้ามาเป็นนักบินทดสอบที่โครงการนี้เจอปัญหาทุกอย่าง ทีมงานต้องแก้ไปปัญหาไปทีละจุด ทีละขั้นตอน เรียนรู้กับมันพัฒนาไปทีละขั้น จนวันนี้เราสามารถควบคุมมันได้ทุกอย่างอย่างที่เราต้องการ ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างมากที่สามารถออกแบบและผลิตเครื่องบินทะเลได้เอง" นาวาเอกกฤชพล กล่าว
 
              นาวาเอกกฤชพล บอกอีกว่า เครื่องบินที่สร้างขึ้นมานี้ได้มาตรฐานสากลอย่างแน่นอน เพราะนักบินต่างชาติมาทดสอบเขายังตกใจว่าเราทำได้อย่างไร อย่างเช่นลำตัวเครื่องที่เครื่องบินทั่วไปจะมีความแข็งแรงแค่ 3 จี แต่ของเราแข็งแรงถึง 6 จี หรือพูดง่ายๆ คือถ้าเครื่องบินปกติจะรองรับแรงกระแทกได้ 300 กก. แต่ของโครงการจะมากกว่าเท่าตัว
 
              “ผมบินเครื่องบินเล็กที่สร้างขึ้นจากต่างประเทศ ที่เป็นสากลมาหลายชนิด บอกได้เลยว่าสมรรถภาพที่เราสร้างเองนั้นไม่ได้ด้อยกว่า เราทำได้เหมือนเขาหมด แต่ที่เหนือกว่าคือความแข็งแรงในการลงจอดได้ทั้งบนบกและในน้ำที่สำคัญราคาถูก และถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ไม่สลับซับซ้อน ตั้งแต่ดูแล บำรุงรักษา หรือแม้แต่ตอนบิน” นาวาเอกกฤชพลกล่าว
 
              สำหรับ "เครื่องบินทะเล" ที่โครงการวิจัยอยู่นั้นมี 4 ลำด้วย คือ "NAX01" - "NAX04" ปัจจุบันเสร็จแล้ว 2 ลำคือ "NAX01" และ "NAX03" ส่วน "NAX02" อยู่ระหว่างการประกอบคาดว่าจะเสร็จภายในอีก 2 สัปดาห์ ส่วน "NAX04" จะเสร็จก่อนสิ้นปี โดยน้ำหนักตัวเปล่าอยู่ที่ 360 กก. 2 ที่นั่ง บรรทุกสูงสุดไม่เกิน 600 กก. เติมน้ำมันเชื้อเพลิง 91 และ 95 ได้ 81 ลิตร ระยะบินได้ 576 กม. ความเร็ว 90 น็อต บินได้สูงสุด 1 หมื่นฟุต จอดได้ทั้งบนบกและในน้ำ ระยะเทคออฟและร่อนลง(ทั้งบนบกและผิวน้ำ) 500 เมตร ตัวเครื่องสร้างจากคาร์บอนไฟเบอร์ ใช้เครื่องโลว์เทค 1,100 ซีซี จากออสเตรเลีย ราคาราว 5 ล้านบาท คาดว่าจะถูกลงหากผลิตจำนวนมากในอนาคต
 
              ส่วนภารกิจที่เหมาะกับการใช้ประโยชน์ สามารถใช้ลาดตระเวนตามแนวชายฝั่ง ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ในเขื่อน บินสำรวจ ตรวจการณ์ ถ่ายภาพทางอากาศ โดยภารกิจแรกของเครื่องบินทะเลนั้นจะบินสำรวจพื้นที่จุดขนถ่ายทางทะเลให้แก่กระทรวงคมนาคม วันที่ 19 พฤษภาคมนี้
  
              อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางคณะผู้จัดสร้างและวิจัยเครื่องบินทะเล ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาจัดสร้างต้นแบบเครื่องบินทะเล ทร. เตรียมที่จะทำเรื่องน้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องบินทั้ง 4 ลำ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะปิดการสัญจรทางน้ำชั่วคราวระหว่างสะพานพุทธถึงสะพานพระปิ่นเกล้า แล้วนำเครื่องบินทะเล บินไปจากสนามบินอู่ตะเภาสถานที่ที่วิจัยและจัดสร้าง ไปลงจอดที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 




โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 25/09/2012 08:04:59


ความคิดเห็นที่ 8


คุณjuldas ผมกำลังคิดว่า เครื่องบินทะเล ของทร. นี้ หากสามารถพัฒนาเป็น เครื่องบินลาดตระเวนประจำเรือ   เช่นเรือหลวงจักรีนฤเบศได้คงจะดีไม่น้อยครับ  เรือจักรีฯ มีเครนยกอยู่แล้วด้วย หรือใช้เป็นเครื่องบินลาดตระเวน ประจำเรือชุด อ่างทอง เปิด Ramp ท้าย แล้วแล่นออกจากท้ายเรือหลวงอ่างทองเลย  น่าจะดีครับ 

โดยคุณ Chelsea เมื่อวันที่ 25/09/2012 09:37:58


ความคิดเห็นที่ 9


น่าสนใจนะครับ คิดว่าทร.มีศักยภาพจะสร้างเครื่องบินทะเลที่มีขนาดเท่าซีสตาร์มั้ยครับ บ.อีกแบบหนึ่งที่น่าจะสร้างเองก็ พวก IAI Arava ใช้งานร่วม 3 เหล่าทัพ

โดยคุณ intelligent เมื่อวันที่ 25/09/2012 10:46:47


ความคิดเห็นที่ 10


Postby monsoon » 29 Aug 2012 04:52

พอเทียบเครื่องบินทะเล NAX03 ของไทย กับ Bavar2 ของอิหร่าน
Image
เลยลองไปค้นข้อมูลว่าอิหร่านพัฒนากันอย่างไร ปรากฏว่าอึ้ง เพราะรัสเซียอ้างว่าอิหร่านลอกแบบเลย ไม่ได้พัฒนาอะไร
รัสเซียเขาอ้างถึงนิตยสารในปี 1983
Image

โดยบอกในนิตยสารนั้นมีแบบพิมพ์เขียวให้เสร็จ ดังนี้
Image

แต่อย่างไรก็ดีแบบของรัสเซีย กลับไปคล้ายคลึงกับเครื่องบินที่นั่งเดียว Lippisch X-113 ที่บินครั้งแรกเมื่อเดือนต.ค.1970 เหนือทะเลสาป Constance ในเขตประเทศเยอรมัน

Image
ในโลกไม่มี ฉลาด หรือ โง่ มีแต่ รู้ก่อน กับ รู้ทีหลัง เพราะฉะนั้นจงอย่าได้อวดฉลาด

 
Posts: 1891
Joined: 20 Jan 2009 05:48

เครดิต http://www.thaiarmedforce.com/distribution/viewtopic.php?f=11&t=3112

โดยคุณ monsoon

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 25/09/2012 14:20:55


ความคิดเห็นที่ 11


พ.ศ.๒๕๓๖ สำนักงานวิจัยและพัฒนาอากาศยาน  ออกแบบสร้างเครื่องบินเรี่ยพื้น หรือ ยานเผินน้ำ และมีการทดสอบที่บริเวณอ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  นับว่าเป็นแนวความคิดในการพัฒนายานที่ใช้ในการลาดตระเวนชายฝั่ง  แต่เนื่องจากการออกแบบสร้างเครื่องบินประเภทนี้ มีไม่กี่ชาติในโลกที่พัฒนาขึ้น อาทิ ประเทศรัสเซีย  การศึกษาจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก

การทดสอบ ณ อ่าวมะนาว พบว่า เมื่อเร่งเครื่องยนต์ เพื่อจะบินขึ้นจากผิวน้ำทะเล แรงกดที่หัวเครื่องจะทำให้เหมือนเรือดำน้ำ สาเหตุมาจาก อาการก่อนยกตัวจะกดหัวลง คล้ายกับอาการของเครื่องบินปกติที่ก่อนจะวิ่งขึ้นจากทางวิ่ง เครื่องบินก็จะกดหัวลงเบื้องล่างก่อนเล็กน้อย จึงจะทะยานขึ้นเกาะอากาศ เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น ดังนั้น เมื่อเครื่องบินเรี่ยพื้นจะยกตัว น้ำจึงไหลเข้าทางด้านหน้าเข้าห้องนักบิน  การพัฒนาแก้ไขแบบกระทำอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งโครงการยุติลง  


โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 26/09/2012 12:20:44


ความคิดเห็นที่ 12


ติดปืน.50ที่จมูกเครื่องด้วยก็ดี เผื่อไว้ก่อน

โดยคุณ F-8_crusader เมื่อวันที่ 26/09/2012 17:54:13


ความคิดเห็นที่ 13


ติดปืนด้วยก็ดี

โดยคุณ F-8_crusader เมื่อวันที่ 26/09/2012 17:54:52


ความคิดเห็นที่ 14


ไม่อยากให้กระทู้นี้เงียบครับ หลังจากซุ่มอ่านมานาน เลยเอางานที่ทหารเรือโชว์มาฝากคับ











โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 27/09/2012 19:12:41


ความคิดเห็นที่ 15


ต่อครับ





โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 27/09/2012 19:14:20


ความคิดเห็นที่ 16


โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 27/09/2012 20:04:12


ความคิดเห็นที่ 17


โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 27/09/2012 23:25:25


ความคิดเห็นที่ 18


เรื่องแรกไม่ควรนำเครื่องบินทะเลไปเปรียบเทียบกับยาน WIG(เช่นของอิหร่าน หรือรัสเซีย หรือที่ ทอ.เคยวิจัย  ทร.ก็สนใจทำวิจัยกับ บริษัทในสิงคโปร์ไปแล้วเหมือนกัน) เพราะเป็นคนละเรื่องกัน

ถ้าพูดถึงบทบาททางทหาร WIG น่าจะใช้งานเหมือนเรือมากกว่า เพียงแต่เร็วกว่า ผมว่าใช้ประโยชน์ในการตรวจการณ์ไม่ได้ เพราะบินแค่เรียพื้นน้ำ ใช้อาวุธในการต่อตีเรือผิวน้ำได้ดีเท่านั้น กับลำเลียงบุคคลหรือของที่ไม่มีน้ำหนักมากจากจุดถึงจุดได้รวดเร็ว ปลอดภัยจากสนามทุ่นระเบิด 

ผมเห็นว่าในอนาคตทีมวิจัยที่ทำ บ.ทะเลของ ทร.(ใครไม่รู้ตั้งชื่อเล่นว่า เป็ดน้อย)น่าจะทำ บ.ขนาดใหญ่ขึ้นได้ อาจจะยังไม่ใหญ่ถึง Sea Star แต่ก็ใหญ่กว่าเดิม เพราะทางทีมวิจัยมีเป้าหมายจะสร้างให้บรรทุกได้ 4 คนอยู่แล้ว  น่าจะอยู่ที่คนออกแบบน่าจะเลียน(ล ลิง)จากSea Starได้ (ลำตัวกว้าง มีsupport ยื่นออกไปค้ำปีกขนาดใหญ่ที่ยกสูง

ผมเห็นการวิจัยของ ทร.มาตั้งแต่เริ่มแรก มีความเป็นห่วงอยู่เรื่องหนึ่งคือ การที่มีปีก2 ชั้น เพราะปีกล่างอยู่ใกล้น้ำมาก การลงหรือขึ้นในน้ำนั้น ถ้าอยู่ในทะเลสาบน้ำนิ่งไม่น่าเป็นปัญหาครับ แต่ในทะเลไม่ง่าย ยิ่งถ้ามีคลื่นสูงหน่อยลำบากมากครับ เพราะถ้าเครื่องโคลงไปด้านใหน ปีกอาจถูกน้ำกระแทกจนเสียการทรงตัวได้  ผมเคยเห็นเครื่อง CL-215 มีปัญหาในการขึ้นลงในทะเลมาแล้ว แล้วเครื่องลำจิ๋วนี่จะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามผมเข้าใจว่าเนื่องจากต้องการแรงยกสูงที่ความเร็วต่ำจึงต้องคงปีก 2 ชั้นไว้ และก็รู้สึกยินดีที่สังเกตุเห็นว่า บ.ลำหลังๆ (สร้างแล้ว 4 ลำ )เข้าใจว่า NEX-3 ปีกล่างหดสั้นลงมาบ้างแล้ว (ไม่ได้ยาวเท่ากับบ.เครื่องแรก)นับเป็นพัฒนาการครับ อีกหน่อย เราคงได้เห็นปีกชั้นเดียวสูงที่มีขนาดกว้าง แทนที่จะมีสองชั้น

ผมขอชื่นชมทีมงานอย่างจริงใจที่มีความมุมานะทำต้นแบบจนสำเร็จ และสามารถที่จะหาทุนวิจัยต่อ จนสามารถทำลำที่2-3-4 ได้ ไม่เหมือนโครงการวิจัยอีกหลายสิบโครงการที่ทำต้นแบบชิ้นเดียวแล้วก็เก็บเข้าพิพิธภัณฑ์ และถ้ามีผู้สนับสนุนต่อ มีบ.เอกชนที่สนใจ ทำขายได้แน่นอนในประเทศ แต่ต้องนั่งได้อย่างต่ำ 4 คน มิฉะนั้นจะมีคุณค่าน้อยลงเพราะลำเลียงคนเจ็บจากเกาะสักคนเดียวก็ยังไม่ได้)

 

โดยคุณ sboot เมื่อวันที่ 29/09/2012 18:44:59


ความคิดเห็นที่ 19


">เอา รถบินได้ มาฝาก

โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 01/10/2012 14:47:42


ความคิดเห็นที่ 20


สกว.หนุนกองทัพเรือพัฒนา “เครื่องบินทะเล”

สกว.-สกว.หนุนกองทัพเรือพัฒนา "เครื่องบินทะเล" พร้อมเล็งของบเพิ่ม 24 ล้านเพื่อขยายผลเชิงพาณิชย์
       
       พลเรือโทสมหมาย ปราการสมุทร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ ในฐานะหัวหน้าโครงการสร้างต้นแบบเครื่องบินทะเลขนาด 2 ที่นั่งด้วยวัสดุคอมโพสิต (วัสดุผสม) กล่าวถึงความสำเร็จในการพัฒนาเป็นอากาศยานสะเทินน้ำสะเทินบกที่มีขีดความสามารถพิเศษในการปฏิบัติการบนพื้นน้ำ เพื่อลดปัญหาด้านความต้องการยุทโธปกณ์ต่อการปฏิบัติงานตามภารกิจกองทัพที่ยังขาดแคลนงบประมาณ
       
       ทั้งนี้ "เครื่องบินทะเล" ถูกนำมาใช้งานราชการทหารและด้านความมั่นคงในหลายด้าน อาทิ การบินตรวจการณ์ชายฝั่ง การบินลาดตระเวนหาข่าว และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล เป็นต้น รวมถึงนำไปใช้กับองค์กรหรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้อีกมากมาย อีกทั้งอุตสาหกรรมการบินขนาดเล็กกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นตามลำดับ สกว.จึงให้การสนับสนุนการพัฒนาเครื่องบินดังกล่าว โดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้และคุ้มค่า เพื่อกำหนดทิศทางวิจัยเครื่องบินและเป็นจุดเริ่มต้นของการพึ่งพาตนเองในประเทศ
       
       หลังจากสร้างต้นแบบเครื่องบินทะเลตามหลักวิศวรรมอากาศยาน ด้วยลักษณะของโครงสร้างอากาศยานเป็นวัสดุคอมโพสิต และสามารถนำไปปฏิบัติการบินได้ด้วยความปลอดภัยพร้อมกับมีคู่มือประกอบการใช้งาน คณะวิจัยได้ทำการทดสอบคุณสมบัติในรายละเอียดของชิ้นส่วนต่างๆ และโครงสร้างอากาศยาน รวมถึงทดสอบประสิทธิภาพการบินให้เป็นไปตามมาตรฐานเพื่อการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการจัดทำเอกสารรับรองด้านความปลอดภัยการใช้งานของเครื่องบิน และพร้อมที่จะถ่ายทอดในขั้นของการขยายผลสู่การบริโภคและการสร้างอุตสาหกรรมการบิน
       
       สกว.ระบุว่า โครงการนี้ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 5 เท่าในการปฏิบัติการเดียวกัน เมื่อเทียบกับอากาศยานที่ใช้ในกองทัพเรือ โดยมีต้นทุนการบินต่อชั่วโมงของเครื่องบินทะเลประมาณ 3,000 บาทต่อชั่วโมง ขณะที่ต้นทุนการบินของอากาศยานอื่นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท สามารถทำการขึ้นลงได้ทั้งบนบกและในน้ำ ปฏิบัติการบินได้ในพื้นที่ที่ไม่มีสนามบินรองรับและอยู่ในอากาศนานกว่า 2.5 ชั่วโมง มีรัศมีปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า 100 ไมล์ทะเล สามารถจอดในพื้นที่ที่มีน้ำไม่ต่ำกว่า 38 เซนติเมตร คลื่นสูง 2-3 ฟุต
       
       สำหรับต้นทุนเครื่องบินในการวิจัยครั้งนี้อยู่ที่ 5.9 ล้านบาท แต่ทีมวิจัยระบุว่า หากผลิตในเชิงพาณิชย์จะลดต้นทุนการผลิตลงได้อีก จึงขอรับการสนับสนุนการวิจัยต่อเพื่อขยายผลโครงการในเชิงพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะใช้ทุนวิจัยรวมทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านบาท ในการผลิตเครื่องบินทะเลจำนวน 2 ลำที่มีสมรรถนะสูง สามารถบินได้ในทุกสภาวะอากาศแม้มีฝนฟ้าคะนองรุนแรง เวลากลางคืน และการเดินทางไกล
       
       งานวิจัยดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือและชุดโครงการอุตสาหกรรมเพื่อความมั่นคงของประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) บริษัท มาทคอม ไฟเบอร์ จำกัด

 

ที่มา : http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9550000119922

โดยคุณ Ricebeanoil เมื่อวันที่ 01/10/2012 22:31:17


ความคิดเห็นที่ 21


ขอให้ประสบความสำเร็จด้วยดีครับ...

เพราะผมเห็นว่า เป็นผลดีต่อตลาดการบิน ที่มีโอกาสเป็นได้ง่ายมาก...ดูแล้ว เอกชน ก็จะซื้อใช้เป็นส่วนตัว เช่น กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีบ้านตาม หมู่เกาะต่าง ๆ...รวมถึงในกลุ่มประเทศ อาเซียน...โดย เฉพาะ ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ที่ลักษณะประเทศเป็นหมู่เกาะ...น่าจะเป็น ตลาดกลุ่มเป้าหมายได้...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 01/10/2012 22:36:47


ความคิดเห็นที่ 22


NAX-2 ออกรายการ คนท้ายซอย 4 ตค. 55 เป็นเครื่องบินทะเล ฝีมือทหารเรือไทยลำที่ 3 ซึ่งก่อนหน้านี้เราเห็นไปแล้ว 2 ลำคือ NAX-1,NAX-3

ดูรายการย้อนหลังตามลิ้งค์ คับ


http://77.nationchannel.com/video/301829/

โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 06/10/2012 11:24:32


ความคิดเห็นที่ 23


ดูรายการ คนท้ายซอยย้อนหลัง อีก 1 ช่องทางครับ

ช่วงที่ 1

http://www.rawangpai.com/home/program/end-of-alley/20121004/6405/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A2-4-%E0%B8%95%E0%B8%84-55-%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%871/

ช่วงที่ 2

http://www.rawangpai.com/home/program/end-of-alley/20121004/6406/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A2-4-%E0%B8%95%E0%B8%84-55-%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%872/

โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 06/10/2012 11:31:24


ความคิดเห็นที่ 24


ขอบคุณ:https://www.facebook.com/naxproject

โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 09/10/2012 20:42:13